 |
กรุ๊ป ออฟ เดธ หมายถึง กลุ่มแห่งความตาย ซึ่งมันคงไม่มีกลุ่มไหนอีกแล้วใน ยูโร 2012 ที่สมควรถูกจัดว่า นรก มากไปกว่ากลุ่ม B เพราะมันบรรจุไว้ด้วยทีมระดับสุดยอดของโลกถึง 3 ทีม นั่นคือ เยอรมนี, ฮอลแลนด์ และ โปรตุเกส ขณะที่ เดนมาร์ก ก็เคยสร้างปาฏิหาริย์ ถึงกับคว้าแชมป์มาแล้ว ดังนั้นเกมแรกของกลุ่ม B ในวันเสาร์นี้ จึงมีความสำคัญยิ่งยวดสำหรับทุกทีม และอาจหมายความได้ถึงผลงานในยูโรครั้งนี้เลยทีเดียว....
***********************
ยูโรประเดิมกรุ๊ปออฟเดธ 'ดัตช์'น่าเบียดชนะ'โคนม' 'อินทรี'กิน'ฝอยทอง'ชัวร์
วันเสาร์นี้ (9 มิ.ย.) เป็นเกมนัดที่ 3-4 ของศึกฟุตบอลยูโร 2012 รอบแรก แต่รับรองว่าจะเป็นเกมที่ดูสนุกทั้ง 2 คู่เพราะเป็นเกมของกรุ๊ป ออฟ เดธ หรือกลุ่มแห่งความตาย เพราะชื่อชั้นแต่ละทีมจัดว่าสุโค่ยทั้งสิ้น พริตตี ฮันเตอร์ ปรีวิวมาให้อ่านแบบถึงพริกถึงขิง ทีมไหนน่าจะมีเฮ เชิญติดตามกันเลย!
ยูโร 2012 กลุ่ม B
ฮอลแลนด์ - เดนมาร์ก สนาม : เมตาลิสต์, คาร์เคียฟ เวลา : 23.00 น. ผู้ตัดสิน : ดาเมียร์ สโคมินา (สโลวีเนีย)
ศึกฟุตบอลยูโร 2012 วันที่สองของการแข่งขัน ประจำวันที่ 9 มิ.ย. รอบแรก อัศวินสีส้ม ฮอลแลนด์ หนึ่งในตัวเต็งแชมป์ลงเตะกับ โคนม เดนมาร์ก อดีตแชมป์ปี ค.ศ. 1992 โดย เบิร์ต ฟาน มาร์ไวก์ กุนซือทีมดัตช์ สภาพทีมสมบูรณ์ดูดีทีเดียว แม้ โยริส มาไธจ์เซน กองหลังตัวเก๋าวัย 32 ปีจะมีอาการบาดเจ็บตั้งแต่นัดอุ่นเครื่องที่แพ้ บัลแกเรีย 1-2 ทำให้ไม่แน่ว่าจะกลับมาลงสนามได้หรือไม่ แม้เริ่มลงซ้อมได้แล้วก็ตาม แต่รายของ วิลเฟรด เบามา ซึ่งเจ็บที่ศีรษะพร้อมกลับมาเป็นตัวเลือก นอกนั้นแล้วแต่ว่าใครจะเป็น 11 คนแรก
แผนการเล่นน่าจะมาในระบบ 4-4-1-1 มาร์เตน สเตเคเลนเบิร์ก ลงเฝ้าเสา แนวรับใช้ จอห์นนี ไฮติงกา ยืนเซ็นเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ คาลิด บูห์ลารูซ แบ๊กซ้ายขวาเป็น เบามา กับ เกรกอรี ฟาน เดอร์ วีล ส่วนตรงกลางมี มาร์ก ฟาน บอมเมล ตัดเกมกับ ไนเจล เดอ ยอง โดยมี ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ต กับ อาร์เยน ร็อบเบน ทำเกมริมเส้น และใช้ เวสลีย์ สไนจ์เดอร์ เป็นหน้าต่ำอยู่หลัง โรบิน ฟาน เพอร์ซี ขณะที่ คลาส แยน ฮุนเตลาร์ คงต้องเริ่มที่ม้านั่งสำรองไปก่อน
มาที่ เดนมาร์ก ซึ่งมี มอร์เทน โอลเซน ทำหน้าที่กุนซือ ไม่มีผู้รักษาประตูมือ 1 ขาประจำอย่าง โธมัส โซเรนเซน ที่เจ็บหลังจนมาเตะด้วยไม่ได้ จึงเป็นการแย่งตำแหน่งกันระหว่าง สเตฟาน อันเดอร์เซน จากเอวิยง และ อันเดอร์ส ลินเดการ์ด จากแมนฯ ยูไนเต็ด ส่วนนักเตะรายอื่นที่เลือกมาพร้อมใช้งานทั้งสิ้น
ระบบการเล่นเชื่อว่าจะเป็นแผนถนัด 4-2-3-1 ลินเดการ์ด น่าจะได้ลงเล่น แนวรับจากซ้ายไปขวา ได้แก่ ซิมอน โพลเซน, ดาเนียล แอ็กเกอร์, ซิมอน เคียร์ และ ลาร์ส ยาค็อปเซน ส่วนตรงกลางจะเป็น วิลเลียม ควิสต์ กับตัวเก๋า คริสเตียน โพลเซน ช่วยดูแลเกมรับมากเป็นพิเศษ แล้วใช้ ไมเคิล โครห์น เดห์ลี กับ เดนนิส รอมเมดาห์ล โจมตีทางริมเส้น คริสเตียน เอริคเซน ตัวรุกวัยรุ่นจากค่ายไอแอกซ์ เป็นหน้าต่ำอยู่หลัง นิคลาส เบนด์เนอร์
สถิติการเจอกันทั้งหมด 8 ครั้ง ฮอลแลนด์ เหนือกว่าเมื่อเป็นฝ่ายเอาชนะ 3 เสมอ 4 แพ้ 1 หนล่าสุดคือฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้ ลงเอยที่ ฮอลแลนด์ ชนะ 2-0
สรุปรายชื่อ 11 คนแรกที่คาด
ฮอลแลนด์ : มาร์เตน สเตเคเลนเบิร์ก, จอห์นนี ไฮติงกา, คาลิด บูห์ลารูซ, วิลเฟรด เบามา, เกรกอรี ฟาน เดอร์ วีล, มาร์ก ฟาน บอมเมล, ไนเจล เดอ ยอง, ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ต, อาร์เยน ร็อบเบน, เวสลีย์ สไนจ์เดอร์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี
เดนมาร์ก : อันเดอร์ส ลินเดการ์ด, ซิมอน โพลเซน, ดาเนียล แอ็กเกอร์, ซิมอน เคียร์, ลาร์ส จาค็อบเซน, วิลเลียม ควิสต์, คริสเตียน โพลเซน, ไมเคิล โครห์น เดห์ลี, เดนนิส รอมเมดาห์ล, คริสเตียน อีริคเซน, นิคลาส เบนด์เนอร์
สถิติที่น่าสนใจ
ฮอลแลนด์
* ฮอลแลนด์ ชนะแค่ 3 จาก 7 เกมหลังสุดที่ลงแข่งอย่างเป็นทางการ
* เยโทร วิลเลมส์, ทิม ครูล, ลูเซียโน นาซิงห์ ไม่เคยลงเล่นให้ทีมชาติชุดใหญ่ในเกมเป็นทางการมาก่อน แต่ทั้งหมดก็ลงเล่นในเกมอุ่นเครื่องมาแล้ว
* วิลเลมส์ จะกลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดในยูโร หากได้ลงสนาม ทำลายสถิติ 18 ปี 115 วันของ เอ็นโซ ชีโฟ ที่เล่นให้ เบลเยียม เมื่อปี ค.ศ. 1984
* ฟาน เดอร์ ฟาร์ต ลงเล่นให้ทีมชาติไปแล้ว 95 นัด และทัวร์นาเมนต์นี้ก็มีสิทธิเป็นแข้งดัตช์คนที่ 5 ที่รับใช้ชาติเกิน 100 นัด ตามหลัง เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, แฟรงค์ เดอ บัวร์, จิโอวานนี ฟาน บรองฮอร์สต์ และ ฟิลิปป์ โคคู
เดนมาร์ก
* หลังจากสิ้นสุดปี ค.ศ. 2011 ด้วยชัยชนะ 5 นัดติดต่อกัน เดนมาร์ก แพ้ 2 เกมรวดในปีนี้ก่อนเอาชนะ ออสเตรเลีย 2-0 ในเกมล่าสุด
* หาก เดนมาร์ก ไปได้ถึงตำแหน่งแชมป์ แคสเปอร์ ชไมเคิล จะเดินตามรอยพ่อ ปีเตอร์ ชไมเคิล ที่คว้าแชมป์ปี ค.ศ. 1992 ซึ่งจะเป็นพ่อลูกคนแรกที่คว้าแชมป์รายการนี้ด้วย
ความน่าจะเป็นของเกม : นัดแรกของกลุ่มแห่งความตายน่าจะสนุกมากเป็นพิเศษ ฮอลแลนด์ นั้นหายห่วงเรื่องเกมบุก ที่มีทีเด็ดทีขาดมากเหลือเกิน ลุ้นก็แต่เกมรับโดยเฉพาะแผงหลัง 4 ตัวที่ค่อนข้างรั่วมิใช่น้อย อย่างไรก็ตามเจอกันเมื่อไร ฮอลแลนด์ มักทำได้ดีกว่าเสมอ เหตุนี้ขุนพลดัตช์น่าจะเป็นฝ่ายประเดิมเก็บ 3 แต้มไปได้สำเร็จ
ผลที่คาด : ฮอลแลนด์ ชนะ 2-0
****************
เยอรมนี - โปรตุเกส สนาม : อารีนา เลอวีฟ, เลอวีฟ เวลา : 01.45 น. ผู้ตัดสิน : สเตฟาน ลานนอย (ฝรั่งเศส)
คู่ที่ 2 ของกลุ่ม B อินทรีเหล็ก เยอรมนี เจอกับ ฝอยทอง โปรตุเกส รองแชมป์ปี ค.ศ. 2004 โยอัคคิม เลิฟ บุนเดสเทรนเนอร์ทีมเมืองเบียร์ จะขาดแค่ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ มิดฟิลด์จากบาเยิร์น มิวนิก ที่เจ็บน่องจนไม่ได้เล่นในเกมอุ่นเครื่องแม้แต่นัดเดียว แต่ขุมกำลังอีก 22 คนที่เหลือก็ต้องบอกว่าพร้อมทุกจุด
แผนการเล่นเป็นได้ทั้ง 4-5-1 และ 4-3-3 แต่คาดว่าน่าจะเป็นอย่างหลังมากกว่า มานูเอล นอยเออร์ เฝ้าเสา แผงหลังมี ฟิลิปป์ ลาห์ม กัปตันทีมยืนแบ๊กขวา ส่วนคู่เซ็นเตอร์น่าจะเป็น มัตส์ ฮุมเมิลล์ กับ โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์ ขณะที่ แพร์ เมอร์เตซัคเกอร์ คงเป็นแค่สำรองไปก่อน แล้วให้ เฌอโรม บัวเต็ง ยืนกราบซ้าย ขึ้นมาแผงกลางมี ซามี เคดิรา คอยตัดเกม แล้วใช้ เมซุต โอซิล กับ โทนี โครส เป็นตัวทำเกมบุก เกมรุกมี โธมัส มุลเลอร์ และ ลูคัส โพดอลสกี ประจำริมเส้น คอยสนับสนุน มาริโอ โกเมซ กองหน้าตัวเป้า
ฝั่ง โปรตุเกส ที่มี เปาโล เบนโต เป็นกุนซือไม่มีปัญหาเรื่องบาดเจ็บของนักเตะกวนใจ แต่ที่กังวลคงเป็นเรื่องของฟอร์มการเล่นที่ไม่สู้ดีเท่าไร หลังได้แค่เสมอ มาซิโดเนีย 0-0 และแพ้ ตุรกี 1-3
รูปแบบการเล่นเชื่อว่า เบนโต จะมาเหนียวแน่นไว้ก่อนที่แผน 4-2-3-1 เอดูอาร์โด เป็นผู้รักษาประตู แนวรับมี ฟาบิโอ โคเอนเตรา กับ เจา ปาร์ไรรา เป็นแบ๊กซ้ายขวาขนาบข้าง เปเป กับ บรูโน อัลเวส เป็นคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ส่วนกลางตัวรับเป็นหน้าที่ ราอูล ไมเรเลส กับ มิเกล เวโลโซ ส่วนตัวรุก 3 ตัวมี นานี, ริคาร์โด กวาเรสมา, เจา มูตินโญ และให้ คริสเตียโน โรนัลโด พระเอกประจำทีมเป็นศูนย์หน้าตัวเป้า
สถิติการเจอกัน 6 ครั้งหลังสุด เยอรมนี เหนือกว่าทีเดียวเมื่อชนะ 3 เสมอ 2 แพ้ 1
สรุปรายชื่อ 11 คนแรกที่คาด
เยอรมนี : มานูเอล นอยเออร์, ฟิลิปป์ ลาห์ม, มัตส์ ฮุมเมิลส์, โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์, เฌอโรม บัวเต็ง, ซามี เคดิรา, เมซุต โอซิล, โทนี โครส, โธมัส มุลเลอร์, ลูคัส โพดอลสกี, มาริโอ โกเมซ
โปรตุเกส : เอดูอาร์โด, ฟาบิโอ โคเอนเตรา, เจา ปาร์ไรรา, เปเป, บรูโน อัลเวส, ราอูล ไมยเรเลส, มิเกล เวโลโซ, นานี, ริคาร์โด กวาเรสมา, เจา มูตินโญ, คริสเตียโน โรนัลโด
สถิติที่น่าสนใจ
เยอรมนี
* เยอรมนี ชนะ 2 จาก 5 นัดในเกมอุ่นเครื่องนับแต่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย และแพ้ 2 จาก 3 ในปี ค.ศ. 2012
* เกมกับโปรตุเกส จะเป็นนัดที่ 80 ของเลิฟในฐานะบุนเดสเทรนเนอร์ เป็นรองแค่ แบร์ตี โฟกส์ (102), เฮลมุต โชน (139) และ เซปป์ เฮอร์แบร์เกอร์ (167) ในทำเนียบกุนซือทีมเยอรมนีนานที่สุด มีสถิติชนะ 53 แพ้ 12
* โพดอลสกี เตรียมลงสนามเป็นนัดที่ 98 จะเท่ากับ มิชาเอล บัลลัค ในลำดับที่ 7 ของคนที่ลงเล่นให้ทีมชาติมานานมากที่สุดตลอดกาล
โปรตุเกส
* โปรตุเกส ไม่ชนะ 3 นัดในปี ค.ศ. 2012 เสมอ 0-0 มาสองนัดและแพ้เกมล่าสุด
* ใน 3 จาก 5 นัดหลังสุดลงเอยที่สกอร์ 0-0
* มิเกล โลเปส และ คัสตูดิโอ ยังไม่เคยลงเล่นให้โปรตุเกสในเกมอย่างเป็นทางการมาก่อน แต่ก็ประเดิมทีมชาติไปแล้วในแมตช์อุ่นเครื่องนัดล่าสุดกับตุรกี
ความน่าจะเป็นของเกม : เทียบเรื่องชื่อเสียงเรียงนาม เยอรมนี น่าจะเป็นต่อเยอะทีเดียว โปรตุเกส มีตัวชูโรงแค่ คริสเตียโน โรนัลโด ขณะที่เยอรมนีมีตัวหลักยกขบวนมาจาก บาเยิร์น มิวนิก เกมรับถือว่าเหนียวแน่น ส่วนเกมรุกก็ยิ่งน่ากลัว ทีมเวิร์กก็ดูดีกว่า ดังนั้นดูเหลี่ยมไหนมุมไหนก็ไม่น่าพลาดเก็บ 3 คะแนน เพียงแต่จะชนะเยอะหรือน้อยเท่านั้น
ผลที่คาด : เยอรมนี ชนะ 2-0.
พริตตี ฮันเตอร์
www.dailynews.co.t
จากคุณ |
:
ทุ่งเกวียน
|
เขียนเมื่อ |
:
13 มิ.ย. 55 17:53:22
|
|
|
|
 |