วิเคราะห์อินทรีเหล็กเยอรมันหลังผ่านรอบแรก : สำหรับเยอรมันชุดนี้มีเพียงสองคำ"แชมป์ยุโรป"หรือ"ล้มเหลว"
|
 |
ลืมลีลาลูกหนังอันสวยงามหลังจากเจอร์เก้นส์ คลิ้นส์มันน์เข้ามาปฏิวัติทีมชาติเยอรมันไปได้เลย เกมรุกที่สวยงามสไตล์เดิมที่คุ้นเคยในช่วง 7-8 ปีหลัง
คือสิ่งที่แฟนบอลอินทรีเหล็กอาจจะไม่ได้เห็นในทัวร์นาเม้นท์นี้
สิ่งเดียวที่โยอาคิม เลิฟตั้งใจจะทำให้เยอรมันชุดนี้แตกต่างจากชุดก่อน ๆ ที่ผ่านมามีเพียงอย่างเดียวคือการคว้าตำแหน่งแชมป์
พ่ายอิตาลีในบอลโลก 2006 แพ้สเปนในยูโร 2008 และบอลโลก 2010 คือสิ่งที่แฟนบอลจดจำ นอกเหนือจากนั้นเกมรุกอันตื่นตาตื่นใจและสไตล์การเล่นที่น่าประทับใจในทัวร์นาเม้นท์ก่อนหน้านี้คือสิ่งที่อีกไม่นานแฟนบอลอาจจะไม่จดจำและเลือนหายไปตามกาลเวลา
โยอาคิม เลิฟไม่ได้ต้องการสิ่งยกย่องพวกนั้นอีกต่อไปแล้ว เลิฟมีเพียงเป้าหมายเดียวตอนนี้ ตำแหน่งแชมป์ยุโรป แชมป์ฟุตบอลรายการใหญ่ที่อินทรีเหล็กเยอรมันเฝ้ารอคอยมาแล้วเกือบ 16 ปีเต็ม
การเล่นที่รัดกุมโดยไม่เปิดเกมบุกแบบตะลุยไปข้างหน้าเต็มสูบเมื่อเจอกับทีมใหญ่อย่างโปรตุเกสและฮอลแลนด์ในสองนัดแรก อาจจะเป็นสิ่งที่พอเข้าใจได้ แต่เมื่อพอมาถึงนัดที่สามที่พบกับเดนมาร์ก การดึงเกมช้าแบบที่แทบไม่เคยเห็นจากอินทรีเล็กชุดก่อน ๆ ในช่วงหลัง คือสิ่งที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า โยอาคิม เลิฟ ต้องการตำแหน่งแชมป์ยุโรปครั้งนี้มากแค่ไหน
มากเกินกว่าที่เลิฟจะกล้านำความเสี่ยงใด ๆ แม้เพียงแค่น้อยนิดเข้ามาเป็นผลกระทบกับความสำเร็จที่เค้าคาดหวังและรอคอยอยู่เบื้องหน้า
การเปลี่ยนตัวผู่เล่นแบบโหลดเซฟในสองนัดแรก การที่ไม่ปล่อยผู้เล่นพรสวรรค์สูงอย่างเกิทเซ่ และ รอยซ์ลงสนาม รวมถึงการปล่อยลูคัส โพโดลสกี้ให้อยู่ในสนามนานเกินกว่าที่ควรจะเป็นในสายตาแฟนบอลส่วนใหญ่ ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่เลิฟทำได้ไม่ถูกใจแฟน ๆ ที่เฝ้ารอคอยอยากจะเห็นเยอรมันในแบบบอลโลก 2006 หรือ บอลโลก 2010
แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือเยอรมันคว้าตำแหน่งแชมป์ของกลุ่มบี กลุ่มแห่งความตายที่ก่อนทัวร์นาเม้นท์เริ่มคงแทบไม่มีใครคิดว่าจะมีทีมไหนทำผลงานคว้าแชมป์กลุ่มแบบชนะสามเกมรวดได้
เลิฟ ทำได้ดีกว่าทัวร์นาเม้นท์ก่อนหน้านี้ที่เค้าคุมทีมในยูโร 2008 และ บอลโลก 2010 ที่เยอรมันเข้ารอบด้วยคะแนน 6 คะแนนทั้ง 2 รายการ
ด่านต่อไปของเยอรมันคือกรีซทีมที่มีแนวทางการเล่นแบบรับแล้วโต้ ตีหัวเข้าบ้าน ซึ่งน่าจะเป็นอีกนัดที่แฟนบอลคาดหวังว่าจะได้เห็นเยอรมันเล่นเกมรุกแบบสวยงามและเต็มรูปแบบมากกว่าสามนัดที่ผ่านมาในรอบแรก
แต่ในความเป็นจริง สิ่งที่เิลิฟเลือกจะทำคงไม่ต่างจากในรอบแรกคือใช้ผู้เล่นชุดเดิม และเปลี่ยนตัวแบบโหลดเซฟเหมือนเดิม โคลเซ่แทนโกมเซ โครสแทนโอซิล และเบนเดอร์แทนมุลเลอร์ หากว่าเยอรมันได้ประตูขึ้นนำกรีซไปก่อน
นอกเสียจากว่าเยอรมันไม่สามารถเจาะประตูกรีซได้เมื่อผ่านเวลาไปยาวนานเกินกว่าที่ควรจะเป็น หรือเยอรมันพลาดเสียประตูให้กรีซไปก่อน แฟนบอลอาจจะได้เห็นทั้งเกิทเซ่และรอยซ์มีโอกาสลงสนามในยูโรคราวนี้บ้าง
และหากเป็นไปตามที่หลา่ยคนคาดการณ์ถ้าเยอรมันผ่านกรีซไปได้ สิ่งที่เราจะได้เห็นจากเยอรมันชุดนี้จะไม่มีอะไรแตกต่างออกไปจากเกมในรอบแรกสามนัด เยอรมันยังจะเล่นในรูปแบบเดิมหากว่าพวกเค้ามีโอกาสได้เล่นในรอบรองหรือรอบชิงชนะเลิศ
นี่คือสิ่งที่เลิฟเลือกที่จะให้เยอรมันในยูโร 2012 ถูกจดจำในลักษณะนี้
มีเพียงตำแหน่งแชมป์ยุโรปที่โยอาคิม เลิฟและทีมอินทรีเหล็กเยอรมันชุดนี้ต้องการ นอกนั้นทั้งหมดคือความล้มเหลว เพราะนอกเหนือจากนั้นไม่ว่าพวกเค้าจะเล่นในสไตล์ที่ดุดัน สวยงามถูกใจแฟนบอล หรือเล่นในสไตล์ที่แข็งแกร่ง รัดกุม แน่นอน ไม่ถูกใจแฟนบอล แต่สิ่งที่พวกเค้าจะถูกจดจำเมื่อจบทัวร์นามเ้ม้นท์ก็คงไม่มีอะไรต่างไปจาก บอลโลก2006 ยูโร2008 และบอลโลก2010 คือผู้แพ้ที่ไม่สามารถเื้อื้อมมือไปสัมผัสกับตำแหน่งแชมป์ได้ต่อไปอีกหนึ่งรายการ
| จากคุณ |
:
Angel Voice  
|
| เขียนเมื่อ |
:
18 มิ.ย. 55 22:50:22
|
|
|
| 
