PANTIP.COM : S12312879 กรณี พ่อ-แม่ บุญธรรมของบาโลเตลลี่ ไม่มีอะไรตะขิดตะขวงใจมั่งรึครับ [ฟุตบอลต่างประเทศ]

ความคิดเห็นที่ 16

พ่อแม่พี่น้อง เหมือนเป็นครอบครัวนักสังคมสงเคราะ หรือทำอะไรเพื่อสังคมอยู่แล้ว

ครอบครับนี้ เลยเต็มใจเต็มที่ และยังช่วยในเรื่องการรณรงค์เรื่องเหยียดผิวอีกต่างหาก

อันนี้อ่านมาจากมติชน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1341029727&grpid=03&catid=07&subcatid=0701

ถึงจะเกรียน จะแนว จะน่าหมั่นไส้อย่างไร อย่างหนึ่งซึ่งไม่อาจปฏิเสธได้ก็คือ มาริโอ บาโลเตลลี่ แข้งสุดแสบของทีมชาติอิตาลีมีของดีในตัวจริงๆ

อาจจะมีมุมที่คาดเดาได้ยาก หรือทำอะไรกวนๆ จนคนรอบข้างส่ายหน้าบ้าง แต่ถ้าตั้งใจจริงขึ้นมา "ซุปเปอร์มาริโอ" ก็มักสร้างความแตกต่างในเกมสำคัญๆ ได้บ่อยครั้ง ซึ่ง 2 ประตูสุดสวยที่เขาส่ง "เต็งสอง" อย่าง เยอรมนี กลับบ้านในค่ำคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาย่อมเป็นหลักฐานยืนยันได้เป็นอย่างดี

แต่ค่ำคืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตนักฟุตบอลของกองหน้าวัย 21 ปี ใช่จะมีแต่ช็อตเฮฮาปาร์ตี้หรืออาการฉลองชัยชนะอย่างสุดเหวี่ยงเพียงอย่างเดียว เพราะยังมีโมเมนต์อบอุ่นๆ ที่เผยให้เห็นอีกมุมของแข้งสุดห้าวคนนี้ได้อย่างน่าสนใจ
หลังกรรมการเป่านกหวีดหมดเวลา

บาโลเตลลี่ซึ่งฉลองกับเพื่อนร่วมทีมข้างสนามเสร็จ ได้เดินแยกออกไปตรงอัฒจันทร์ของสนามกีฬาแห่งชาติกรุงวอร์ซอ เพื่อสวมกอดกับเพื่อนและครอบครัวที่มาเชียร์ โดยใช้เวลาอยู่ในอ้อมกอดของ ซิลเวีย คุณแม่บุญธรรมนานเกือบ 10 วินาที

ขณะซิลเวียหอมลูกชายด้วยน้ำตาคลอเบ้า บาโลเตลลี่ก็กระซิบบอกแม่ของเขาว่า "(2 ประตูนี้) ให้แม่นะครับ" ก่อนจะมาเรียกน้ำตาจากแฟนๆ ในบทสัมภาษณ์ท้ายเกมว่า เขารอคอยช่วงเวลานี้มานานแล้ว เวลาที่จะทำให้แม่ของเขามีความสุขในค่ำคืนที่สวยงามที่สุดในชีวิต

เรียกว่าเป็นฉากอบอุ่นที่ทำเอาหลายคนน้ำตารื้น และอีกจำนวนไม่น้อยรู้สึก "ผิดคาด" ไม่คิดว่าจะได้เห็นช็อตนี้จากคนห่ามๆ อย่างบาโลเตลลี่

...ทั้งที่ในความเป็นจริง ความรักและผูกพันระหว่างบาโลเตลลี่กับครอบครัวที่สองของเขาไม่ถือเป็นเรื่องแปลกใหม่แต่อย่างใด

เจ้าหนูมาริโอเป็นลูกของสามีภรรยาผู้อพยพชาวกานาในเมืองปาแลร์โม่ ตอนเล็กๆ ป่วยหนักเป็นโรคเกี่ยวกับลำไส้จนหวิดจะไม่รอด หลังผ่าตัดจนรอดชีวิตมาได้ พ่อแม่ก็ตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากสวัสดิการรัฐ (ซึ่งหลายแหล่งข่าวระบุว่าเป็น การยกบาโลให้อยู่ในความดูแลของบ้านเด็กกำพร้า) เนื่องจากยังมีลูกๆ ต้องเลี้ยงอีก 3 คน

ก่อนวันเกิดอายุ 3 ขวบไม่เท่าไร ฟรานเชสโก้ และ ซิลเวีย บาโลเตลลี่ สามีภรรยาชนชั้นกลางของอิตาลีซึ่งมีลูกชาย 2 คน และลูกสาว 1 คน อยู่ก่อนแล้ว ตัดสินใจรับมาริโอมาอยู่ในความอุปถัมภ์

ถึงจะยังไม่ได้รับอุปการะอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่มาริโอก็ได้ใช้ชีวิตในบ้านบาโลเตลลี่ และเรียกคนในบ้านทุกคนเป็น "ครอบครัว" ใหม่ของเขาอย่างเต็มปากเต็มคำ และหลังจากดำเนินการทางกฎหมายเรียบร้อยแล้ว ช่วงที่มาริโอเริ่มเติบโตเป็นหนุ่ม ครอบครัวบุญธรรมยังช่วยดูแล

อีน็อค น้องชายของเขาเป็นเหมือนลูกชายคนเล็กอีกราย แม้จะไม่ได้รับเป็นบุตรบุญธรรมอย่างเป็นทางการก็ตาม
คนที่ซุปเปอร์มาริโอสนิทที่สุดและเป็นผู้ปกป้องดูแลเขาซึ่งถูกแอนตี้ในฐานะ "อิตาเลียนผิวดำ" เรื่อยมา คือ คริสติน่า นักข่าวสงครามซึ่งเคยผ่านสมรภูมิในอัฟกานิสถาน พี่สาวบุญธรรมที่อายุห่างกันค่อนข้างมากของเขา โดยคริสติน่ามักทำหน้าที่กระบอกเสียงแทนบาโลบ่อยครั้งเวลาที่โดนสื่อโจมตี

พี่สาวคนเก่งมักอธิบายคาแร็กเตอร์ของน้องชายคนนี้ว่า ค่อนข้างซับซ้อน มุมหนึ่งก็เป็นคนขี้อาย แต่ก็ยังมีอีกมุมที่อยากเป็นจุดสนใจ เป็นคนที่มีบุคลิกค่อนข้างแรง อยากได้อะไรก็ต้องทำให้ได้ และไม่กลัวอะไรทั้งนั้น เพราะมีคุณสมบัติพิเศษตรงที่ไม่เคยรู้สึกสะทกสะท้านจากแรงกดดันใดๆ ทั้งสิ้นนั่นเอง

ตั้งแต่เล็กจนโต นิสัยกวนๆ ไม่เคารพกฎกติกามักทำให้บาโลเตลลี่เจอเรื่องเดือดร้อนบ่อยครั้ง ส่วนเรื่องสีผิวกลายเป็นปัญหาใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนเจ้าตัวเคยถามครูที่โรงเรียนอย่างทดท้อว่า "หัวใจผมไม่ได้สีแดงเหมือนคนอื่นเหรอครับ?"
ตอนที่เขาเริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพ บาโลเตลลี่โดนพวกเหยียดผิวต่อต้านหนัก ทั้งโห่ ทั้งตะโกนด่า ทั้งปากล้วยใส่ แต่เขาก็ผ่านพ้นมาได้ ส่วนหนึ่งเพราะครอบครัวคอยให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลังเสมอ

พอย้ายไปเล่นในอังกฤษกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เคยมีข่าวว่า พ่อแม่เขาแทบจะบินไปดูแลเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ให้ ขณะที่บาโลมักจะโทรศัพท์เล่าอะไรๆ ให้พี่สาวฟังอยู่เสมอ โดยในวันว่าง ทั้งบาโลเตลลี่และอีน็อคมักจะหาโอกาสพาคุณพ่อคุณแม่บุญธรรมไปทานข้าว หรือเดินซื้อของด้วยกัน

ส่วนความสัมพันธ์กับพ่อแม่บังเกิดเกล้านั้นไม่ค่อยจะสู้ดีนัก เพราะแข้งดังถึงขั้นเคยให้สัมภาษณ์อย่างเผ็ดร้อนว่า พ่อแม่แท้ๆ เพิ่งจะมาอยากได้เขากลับสู่อ้อมอกหลังจากเขาดังแล้วเท่านั้น และเขาคิดว่าตัวเองมีครอบครัวเพียงหนึ่งเดียวคือนามสกุล "บาโลเตลลี่" จนทำให้ชาวกานาจำนวนไม่น้อยรู้สึกเดือดแค้น (แต่ตอนหลังความสัมพันธ์ดีขึ้นมาบ้าง โดยเจ้าตัวถึงขั้นใส่เสื้อที่มีนามสกุลเก่าตอนช่วงซ้อมก่อนยูโรมาแล้ว)

เรียกว่าตอนนี้ มาริโอ บาโลเตลลี่ รู้สึกว่าตัวเองเป็นอิตาเลียนเต็มตัว และหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะพิสูจน์ตัวเองพร้อมนำตำแหน่งแชมป์รายการใหญ่รายการนี้มาเป็นของขวัญให้กับพ่อ แม่ พี่ชาย และพี่สาวบุญธรรมทุกคนที่ช่วยกันฟูมฟักเลี้ยงดูเขาจนมีวันนี้

แต่ถึงจะมีช็อตเท่ๆ หรือมุมอบอุ่น น่ารักๆ อย่างนี้ให้ได้เห็น ก็ใช่ว่าบาโลเตลลี่จะเข้านอนเร็วขึ้น หรือเปลี่ยนตัวเองเป็นเด็กชายนิสัยเรียบร้อยแต่อย่างใด

หมอนี่ก็ยังเป็นจอมห้าวคนเก่าคนเดิม ที่เผย "มิติ" แบบไม่กวนไม่เกรียนให้เราๆ ท่านๆ ได้เห็นเท่านั้น

จากคุณ : โออิชิกันไปเลย^^

เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 13:22:36