Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
True Visions ยอมลงทุนซื้อระบบส่งสัญญาณใหม่ด้วยเงิน 200 ล้านบาท แต่ .... [ย้ายจาก : ฟุตบอลต่างประเทศ] ติดต่อทีมงาน

สิ่งที่ทรูไม่ยอมเสียเงินซื้อแม้แต่บาทเดียวก็คือ ..... ใจของลูกค้า !!!




ซึ่งทั้งที่จริงแล้ว ทรูไม่จำเป็นต้องไปเสียเงินซื้อระบบใหม่เป็นร้อยล้านพันล้านหรอกครับ แค่คุณยกเลิกขายแพกเกจแบบพ่วงไปทั้งชุดแบบนี้ เพราะคุณรู้อยู่แก่ใจว่า ฐานลูกค้าหลักๆ กลุ่มนึงของทรูก็คือกลุ่มคนที่ดูฟุตบอล โดยเฉพาะพรีเมียร์ลีค ก็เลยเอา content ตัวนี้ ไปวางไว้ในแพคเกจสูงสุดนั่นคือ Gold และ Platinum ซึ่งนั่นก็เท่ากับว่า ปิดทางให้คนเบี้ยน้อยหอยน้อยได้ดูในสิ่งที่เขารักไปโดยปริยาย

กลุ่มนี้นะครับ เกือบทั้งหมด ไม่ได้สนใจจะดูช่องหลินปิง ช่อง AF มะจัง ฯลฯ อะไรเหล่านี้เท่าไหร่หรอก หนำซ้ำ ช่องที่คุณบอกว่าค่าลิขสิทธิ์มันก็แพงเช่นกันอย่าง HBO หรือ NGC กลุ่มนี้บางทีก็ไม่ได้สนใจจะดูด้วยซ้ำไปครับ

สมาชิกหลายท่านได้เรียกร้องมานานแล้วว่า เลิกเอาเปรียบพวกเขาซะที ทำไมเขาต้องยอมจ่ายแพงๆ เพื่อ content บางตัวที่เขาไม่อยากดูด้วย ไม่ใช่แค่คอกีฬานะครับ คนอื่นๆ ที่เขาอาจจะเป็นคอหนังหรืออยากดูสารคดี ก็จำเป็นจะต้องจ่าย 1,500 - 2,000 บาทต่อเดือน เพื่อจะดูช่องเหล่านั้น ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้ว เขาอาจจะจ่ายถูกกว่านั้นมากมาย แต่ต้องจ่ายเพราะ Gold กับ Platinum คุณพ่วงช่องกีฬาเข้าไปด้วย !!!

ที่ลูกค้าคุณต้องการ คือ แยกเป็นราย content ได้ไหมครับ ใครอยากดูหนัง กีฬา สารคดี reality บันเทิง การ์ตูน ฯลฯ อะไรพวกนี้ ก็แยกเป็น category ไป ไม่ใช่มาจัดระดับผู้ชมแบบ knowledge, silver, gold, platinum แบบนี้ เพราะการจัดแบบที่คุณจัดอยู่ ถ้าผมอยากจะดูช่องนึง ซึ่งบังเอิญมันถูกจัดอยู่ในแพคเกจ platinum ผมก็ต้องสมัครแบบ platinum เท่านั้น ไม่มีทางเลือกอื่นเลย ถึงแม้ว่าคุณจะจัดมาให้อีก 200 ช่อง แต่มันจะมีประโยชน์อะไรครับ ในเมื่อจริงๆ แล้ว ลูกค้าไม่ได้สนใจช่องเหล่านั้นแม้แต่น้อย

ผมเชื่อว่า ถ้าคุณจัดแพคเกจแยกเป็นราย category แบบนี้ อาทิเช่น

- แพคเกจกีฬา (ซึ่งผมก็เข้าใจว่า ค่าลิขสิทธิ์มันก็แำพงพอดู) เดือนละ 500 บาท
- แพคเกจบันเทิง เช่น ภาพยนตร์ ดนตรี ซีรีส์ต่างๆ เดือนละ 400 บาท
- แพคเกจความรู้ เช่น สารคดี ข่าว เดืิอนละ 200 บาท
- แพคเกจเด็ก ได้แก่ การ์ตูนทั้งหลาย เดือนละ 200 บาท

ถึงคุณจะเก็บได้ไม่แพงเท่าเดิม คือ สูงสุดเดือนละ 2,000 บาท แต่เชื่อเถอะครับว่า ยังมีอีกหลายคนที่ต้องการสมัครเพื่อดูในสิ่งที่เขาชอบ ในสิ่งที่เขาคิดว่า เขาจะมีความสุขกับสิ่งนั้นๆ แทนที่คุณจะจำกัดว่า คนที่อยากดูบอลอังกฤษ ต้องมีเงินจ่ายเดือนละอย่างต่ำ 1,500 บาทเท่านั้น ถ้าเปลี่ยนมาเป็นเท่านี้ซะ คุณจะได้ฐานลูกค้าอีกมาก





นี่แค่เรื่องการจัดแพคเกจนะครับ นี่ยังไม่นับอีกหลายเรื่องนะครับ ที่ทรูทำำกับสมาชิกแบบไม่เห็นหัวกัน ไม่ว่าจะเป็น

- สมาชิกที่เคยเป็น Gold ซึ่งเป็นแพคเกจสูงสุด อยู่ดีๆ ก็มีช่องใหม่ขึ้นมาและบอกว่า ต่อไปนี้แพคเกจนี้ไม่ได้สูงสุดแล้วนะ จ่ายเพิ่มอีก 600 บาทซะดีๆ ถ้าอยากมีสถานะสูงสุดดูได้ทุกช่องแบบเดิม
- เพิ่มโฆษณาเข้ามา เพื่อหารายได้เพิ่มอีกทางหนึ่ง แต่ไม่ยักกะลดค่าสมาชิกให้แฮะ
- ลดค่าลิขสิทธิ์รายการต่างๆ ออก เช่น NFL, La Liga, Channel V ซึ่งถือเป็นการลดเนื้อหาจากที่เคย "สัญญา" เอาไว้ และแน่นอนครับ ไม่ลดค่าสมาชิกเฟ้ย




ยังไง 200 ล้านก็ไม่ใช่เงินของผม แต่ผมกำลังแปลกใจกับวิธีคิดในแบบของคุณ ที่พยายามทุกวิถีทางที่จะบล็อกกลุ่มคนกำลังซื้อน้อย ไม่ให้เข้าถึง content ของคุณได้ ซึ่งมองในแง่ธุรกิจ คุณก็ไม่ได้ืทำอะไรผิดหรอกครับ แต่แทนที่ึคุณจะเสียเงินเสียเวลาไปทำเรื่องแบบนั้น สู้คุณเปลี่ยนวิธีคิดง่ายๆ ให้ลูกค้่า "เลือก" สิ่งที่เขาอยากดูซะ แค่นี้ ผมรับรองว่า คุณไม่ต้องเสียเงิน 200 ล้านหรอกครับ และอย่าคิดว่า 200 ล้านนี้จะเป็นก้อนสุดท้ายนะครับ อนาคตผมเชื่อว่าคุณก็ต้องลงทุนกับระับบใหม่นี้ไปเรื่อยๆ นั่นแหละ


ปล. ผมเป็นสมาชิกทรู Interner, True Move และ True Visions คนนึง (ซึ่งจะไปยกเลิกสองอันหลัง เหลือแต่ internet อย่างเดียวพอแล้วครับ)

จากคุณ : Alessandro
เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 10:19:11




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com