ความคิดเห็นที่ 1 โดยส่วนตัวผมว่า ปีนี้ ไม่ใช่ดรีมทีม เผลอๆ มีตัวแปรที่อาจจะทำให้ไม่ได้เหรียญทองเอาด้วย ในกรณีที่ Tyson Chandler เกิดเจ็บไป ทีมชาติสหรัฐ จะมีปัญหาทันที จากคุณ : หมากระปุกลูกหมากระเป๋า เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 07:43:09

ความคิดเห็นที่ 2 ทีมอื่นเก่งขึ้นครับ หลายๆทีม มีผู้เล่น ไปเล่นใน NBA เมื่อก่อน ผู้เล่นต่างชาติ ไม่เยอะเท่านี้ ในปี 92 มีครบทุกตำแน่ง ค่อนข้างสมดุลย์ ปีนี้ เหมือนทีม ไม่สมดุลย์ มี เซ็นเตอร์ กับ พาวเวอร์ฟอร์เวีร์ด น้อย เหมือน ไม่มีเลยดีกว่า แล้ว แชนด์เลอร์ เน้นรับ กับรีบาวน์ ไม่เน้นทำแต้ม ถ้าเจอทีมที่มีเซ็นเตอร์ดีๆ สูงใหญ่แล้วเล่นเกมส์ ช้า เน้น เซ็ทเพลย์ ดึงเกมส์ ไปเรื่อยๆ อย่าเสีย T/O ให้ USA เล่น fast break ได้แต้มง่ายๆ เผลอๆมีพลิก จากคุณ : เครียดจัง ตังมีน้อย (Niks Newbie) เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 08:15:12

ความคิดเห็นที่ 3 Dreamteam 1 แค่พลิกดูรายชื่อก็หนาวแล้วอ่ะ โหดเกิ๊น สิ่งที่เหนือกว่ายุคนี้อีกอย่างคือ บาสสมัยนั้นยังเล่นเน้นกันเป็นทีม การโชว์หวือหวายังน้อย ไม่ได้เน้นแหวกหรือดังก์สวย แต่เน้นการเข้าทำ การให้บอล การหาพื้นที่กันแบบสวยๆซะมากกว่า ซึ่งแต่ละเซ้นระดับอรหันต์กันทั้งนั้น ยิ่งมีตัวจ่ายแบบ Magic หรือ Stockton แล้ว ที่เหลือก็แทบไม่ต้องทำอะไรเลย เล่น 60% ก็ถล่มกระจายไม่เหลือ จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 09:43:49

ความคิดเห็นที่ 4 ผมทันดู Dreamteam ทีatlanta  รู้สึกว่าชนะแบบง่ายๆทุกนัดเลยครับ จากคุณ : ตกลงตามนี้นะ เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 10:53:00

ความคิดเห็นที่ 5 ชาติอื่นมียุทธวิธีในการจัดการ dreamteam ไงครับ บางทีก็ตีโซนลงมาต่ำ คราวนี้เลยแก้ปัญหาด้วยการเรียกพวกมือปืนมาติดเพียบ การประสานงานอาจจะไม่สวยเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็น่าจะเก็บได้ไม่ยากครับ จากคุณ : King of Extreme เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 10:53:54

ความคิดเห็นที่ 6 ดรีมทีมตอนที่อเมริกาได้ที่สาม มันคือการแสดงจุดอ่อนของนักบาสเอ็นบีเออย่างชัดเจน  ที่แต่ละคนโจมตีโซนไม่เป็น เจอเค้าตั้งโซนมา จะบุกเข้าไปเหมือนชนกำแพง แถมโดนบล๊อคอีก จะเล่นเกมส์เร็วที่ได้เปรียบ เจอเค้าป้องกันเร็ว เลยไปไม่ได้    แถมวงนอกไม่แม่นอีก เลยโดนจัดไป  เค้ารู้กันหมดเลยว่าเจออเมริกา อย่าป้องกันแมนทูแมน ถ้าเจอโซนต้องวงนอกแม่นๆ แต่ที่แพ้ไปเพราะไม่ได้เอาพวกมือปืนไป ไอเวอสันลุยเข้าวงใน เจอบล๊อคอีกต่างหาก   ผู้เล่นเอ็นบีเอ ถนัดเล่นแมนทูแมน จะมาวิ่งสกีนแล้วให้เพื่อนหลุดมันยาก เพราะเค้าไม่ตามไปยืนรอใต้แป้นกัน ผู้เล่นแบบโคบี้ไ่ม่ใช่ผู้เล่นที่วิ่งหาช่องเล่นในทีมชาติเค้าเลยดูเงียบๆ เพราะเค้ารอบอลไม่ได้ขยับตัวหาพื้นที่เท่าไหร่  คราวที่แล้ว ที่เด่นๆ เห็นมี คาเมโล่ แอนโทนี่ เล่นดีมาก เข้าใจโจมตีโซนมากวิ่งหาช่องเยี่ยม ผมเห็นบางทีมเล่นแมนทูแมนกับทีมอเมริกาฆ่าตัวตายชัดๆ ไปเล่นของที่เค้าถนัดมันก็จบโดนจัดหนักไป -------------- แก้ไขเมื่อ 20 ก.ค. 55 11:12:32 จากคุณ : กะเพราหมูไข่ดาว_ชาดำเย็นแก้ว เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 11:09:50

ความคิดเห็นที่ 7 อีกประการที่นึกออกนะครับ นักบาส USA ยุคหลังๆนี่ ปรับกลยุทธ์กันไม่ค่อยเป็นเลย เล่นในลีคเจอการตั้งรับ Man2Man พอมาเจอโซนต่ำนี่ถึงกับงงกันไปตั้งนาน ไปไม่ถูกกันเลยทีเดียว ทีนี้ก็เลยแก้ด้วยการส่งมือปืนลงมาเพียบ แต่ไม่รู้ว่า 3 แต้มในบาสโอลิมปิคมันใกล้เกินรึยังไง ยิงกันไม่ค่อยจะลง แต้มเบียดกันตลอด จะมีมาทิ้งในช่วงท้ายที่ USA จะใช้ความที่อึดและถึกกว่า ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามล้าหมด ไล่ทำแต้มชนะไปไม่เยอะทุกที คือแบบว่ายุคก่อนเห็น usa เล่นแล้วเออฝีมือมันเหนือกว่าจริงๆนะ ทั้งความแม่น การทำเกม ทุกอย่าง แต่สมัยนี้กว่าจะชนะเหมือนต้องชนะด้วยพลังกล้ามยังไงไม่รู้ จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 11:15:31

ความคิดเห็นที่ 8 สงสัยครับ ว่าชุด 1992 ทำไม Christian Laettner ถึงติดทีม เป็นคนเดียวในทีมที่ยังอยู่มหาลัยด้วย (รู้สึกจะอยู่ Duke) PF เทพๆช่วงนั้นมีอีกตั้งเยอะนะ รู้แต่ว่าที่ Isaih Thomas ไม่ติดเพราะ MJ ประกาศไม่ร่วมทีมถ้า Thomas มาด้วย (แรงได้ใจ ) จากคุณ : Sir Arthur เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 11:36:15

ความคิดเห็นที่ 9 ดูแรนท์ นี่ 6ฟุต 9 จริงเหรอ จากรูป นี่ 6 ฟุต 11 แล้ว จากคุณ : Bugtoi เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 11:37:41

ความคิดเห็นที่ 10 KD เห็นว่าสูงขึ้นเป็น 6 10" นะครับ จากคุณ : luangrit เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 11:50:40

ความคิดเห็นที่ 11 ผมดูตอนนัดเจอกับบราซิล โดนเขานำขึ้นไปเยอะเหมือนกัน กว่าจะกลับมานำเอาชนะได้ก็ไม่กี่แต้ม   ผมนั่งย้อนดู สมัย ปี 92 เซ็นเตอร์ ระดับเทพ ทั้งรุกและรับ อย่าง เดวิด โรบินสัน แพทริค ยูอิ่ง  วงนอกก็แม่นกันทั้งนั้น ยิ่งปี 96 เจ้า ยักษ์ แช็ค ขวัญใจผม ยิ่ง สบายเข้าไปใหญ่   แต่มาปัจจุบัน เซ็นเตอร์ หายาก มีแค่ ดไวน์ โฮเวิร์ด ดันมาเจ้บอีก มาเลือก เซ็นเตอร์ไม่ครบเครื่อง   ผมคิดว่า ถ้า เอา 92 ยุคนั้น มาชนคู่แข่งยุคนี้ ผลคงไม่ต่าง จากเมื่อก่อนเท่าใหร่ คงลดแต้มห่างจาก 40 แต้ม มาเหลือ 20 แต้มปลายๆ จากคุณ : พินาศ 1,0 (พินาศ) เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 12:03:29

ความคิดเห็นที่ 12 เห็นรูปดรีมทีม 1 แล้วคิดถึงจัง แค่เห็นชื่อชั้นแต่ล่ะก็สุดยอดแล้ว จำได้ว่าตอนมีอยู่ทีมหนึ่งใกล้แพ้ แล้วก้ใกล้หมดเวลา นักบาสทีมอื่นมาถ่ายรูปเหล่าดาราของดรีมทีมเลย จากคุณ : สุริยาแก้มป่อง เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 12:37:59

ความคิดเห็นที่ 13 DT 1 มันคือการรวมตัว ของความสมดุลย์ และ ความสามารถ อย่างลงตัว ของผู้เล่นระดับสุดยอดที่สุด ในทุกตำแหน่ง เท่าที่ NBA เคยมีมา สมัยนั้น NBA ไม่ได้เล่นกันบ้าโชว์บ้าพลัง เหมือนสมัยนี้ สิ่งที่ DT1 จะเหนือกว่าทุกทีมบนโลกนับจากนี้คือ ผู้เล่นทุกคน "เล่นเพื่อทีม" จริงๆ Sense บาส ที่ทันกัน... แต่ละคนมีมิตรภาพที่ดีต่อกัน... มีเป้าหมายเดียวกัน และที่สำคัญ ทุกคนเต็มใจ ตื่นเต้น ที่จะได้เล่นร่วมกัน แม้จะเป็นการรวมกันเฉพาะกิจ แต่ด้วยปัจจัยต่างๆที่ว่ามา ช่วยทำให้รูปเกมไหลลื่นมากๆ บาสฯในยุคนั้น นับเป็นบาสในยุคบุกเบิก ผู้เล่นแทบทุกคนบนโลก เรียกได้เลยว่า เอาเหล่าผู้เล่นใน DT1 เป็น Idol เป็น Hero เป็น God แทบทั้งนั้น ไม่มี PG คนไหนบนโลก ไม่นับถือ Magic Johnson ไม่มี Center คนไหนบนโลก ไม่ชื่นชอบ D Robinson - Ewing และ ไม่น่ามีผู้เล่นคนไหนบนโลก ไม่ยอมรับ Michael Jordan ซึ่งนั่นหมายถึง คู่แข่งของ DT ต้องเผชิญหน้ากับ เหล่้าบุคคลที่นักบาสยุคนั้นนับถือ ผมไม่มีโอกาสได้ดูสดๆ แต่ก็ตามหาเทป VSH ไล่ดูทีหลัง ถ้าได้ดูเกม จะพบว่า รูปเกมเป็นไปอย่างเรียบง่าย ไม่โชว์อะไรเยอะแยะ แต่ ทิ้งห่าง ไอ้สไตล์การเล่นแบบนี้แหละครับ ที่ต้องบอกว่า น่ากลัวที่สุดจริงๆ เล่นเหมือนไม่มีอะไร แต่เน้นทุกเม็ด... ไม่เสียจังหวะของตัวเอง จริงอยู่ ว่าในยุคนั้น บาสยังไม่ใช่กีฬาเด่นระดับโลก ความสามารถคู่แข่งในระดับชาติ ยังค่อนข้างห่าง... แต่กระนั้น DT1 ก็ทำให้เห็นชัดๆว่า "การเล่นระดับตำนาน" มันเป็นยังไง สำหรับผม ยังมองว่า ต่อให้ DT1 มาเล่นในยุคนี้ อาจจะไม่ได้ทิ้งห่างแบบขาดลอยอะไรมากเหมือนสมัยนั้น แต่น่าจะยังคงนำลิ่ว แบบไม่มีอาการสะดุดให้เห็นอยู่ดี... แก้ไขเมื่อ 20 ก.ค. 55 16:46:58 จากคุณ : Alex' เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 13:08:53

ความคิดเห็นที่ 14 ผมกลับคิดว่าที่ดรีมทีม1 ถล่มทีมอี่นๆได้สบาย น่าจะเป็นเพราะวิทยาศาสตร์การกีฬาของชาติอื่นพัฒนาไม่เท่าของสหรัฐนะครับ เรื่องกล้ามเนื้อ ความแข็งแกร่ง ความเร็ว แรงปะทะ แต่ในยุคปัจจุบันวิทยาการด้านนี้ของชาติอื่นๆได้พัฒนาไปแล้ว ผู้เล่นยุโรปส่วนใหญ่ก็มีกล้ามเนื้อที่พอฟัดพอเหวี่ยงกับผู้เล่นอเมริกาได้ แม้ด้านแรงกระโดดจะสู้ไม่ได้ แต่ก็ได้ความแม่นยำมาทดแทน ผมว่ามันเลยทำให้ดรีมทีมชุดหลังๆ ชนะได้ไม่ง่ายเหมือนดรีมทีม1 แล้วอ่ะครับ จากคุณ : ManjiE เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 13:28:36

ความคิดเห็นที่ 15 เวลาแค่ 4 ปีผ่านไป จาก DT1 DT1996 ถือว่าอยู่ในช่วงรอยต่อ บาสยุคใหม่ ของผู้เล่นรุ่นหนุ่ม ที่มีความสามารถ ยังคงเป็นการรวมตัว ของผู้เล่นที่ "ดีที่สุด" ในเวลานั้น ถึงแม้ หลายๆคน หลายๆำตำแหน่ง จะไม่สามารถดีดตัวเองขึ้นไปในระดับตำนาน แต่ก็ต้องยอมรับว่า ในจุดรอยต่อปี 1996 ก่อนที่จะเข้าสู่บาสยุคใหม่นั้น นี่คือ 1 ในกลุ่มผู้เล่นหนุ่ม ที่มีความหวังมากที่สุดจริงๆ... DT1996 ยังคงใช้ตัวหลักจาก DT1992 โดยสลับเอาผู้เล่นวัยหนุ่ม ที่มาแรง เข้ามาแทนที่ G. Hill, Penny, G.Payton, M Richmond, ShaQ รวมถึงว่าที่ตำนานที่ตกค้างอย่าง R Miller (G.Robinson ถอนตัว) DT1996 สำหรับผม ความทรงจำค่อนข้างชัด เพราะมีโอกาสดูแทบทุกนัด แต่ก็ยอมรับครับ ว่าความตื่นเต้น มันลดลงไป และรูปเกมที่ค่อนข้างเหนือกว่ามาก ทำให้ผมมีแอบหลับเหมือนกัน... ในขณะที่ปี 92 มัน Dream Come True กว่าเยอะครับ... แค่เห็น Magic ลงสนามกับ Bird ก็ตื่นเต้นแล้ว เกมขาดแค่ไหน ก็ยังอยากดู สิ่งหนึ่ง ที่เห็นจากเกมในปี 96 เทียบกับปี 92 คือ คู่แข่งมีความชัดเจนขึ้นมาก บอกไม่ถูกว่าเพราะ DT96 ไม่กลมกลืนกันสนิทแบบปี 92 หรือ คู่แข่งพัฒนาตัวเองดีขึ้น สิ่งที่เห็นคือ รูปเกมที่มีสะดุดให้แฟนๆได้ลุ้น ได้หงุดหงิดเล่นแบบพองาม มีความพยายามโชว์มากขึ้น มีพลาดเล็กๆน้อยๆให้เห็นบ้าง *ช๊อตเด็ด ที่ผมจำได้จนวันนี้คือ Penny พยายาม จะแหวกเข้าไปโชว์ดังค์อะไรสักอย่าง แต่พลาด... คู่แข่งเก็บบอลได้ สวนกลับเร็ว... จำได้แม่น ว่า Grant Hill ตามกวดกลับไปบล๊อคได้ แล้วโยนกลับไปให้ Penny แสลมดังค์ อีกรอบ... หนนี้ไม่พลาด ตามมายิ้มหัวเราะ ให้ Hill ลูบหัวเล่น แบบขำๆ... เป็น Shot ที่ผมดูแล้วรู้สึกได้ทันทีว่า ทีมนี้ จะทำแต้ม จะหยุดคู่แข่งตรงหน้า เมื่อไรยังไงก็ได้จริงๆ!! และสุดท้าย... DT96 ก็ Mission Complete!! จากคุณ : Alex' เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 13:57:35

ความคิดเห็นที่ 16 แล้วถ้าเอา DT1 ('92) มาแข่งกันเองกับ DT ชุดปัจจุบัน .. ใครจะเหนือกว่าครับ ??? จากคุณ : .. (กระเพราไก่ ไข่ดาวไม่สุก) เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 15:10:00

ความคิดเห็นที่ 17 USA Today เคยเขียนเปรียบเทียบไว้ครับ http://content.usatoday.com/communities/gameon/post/2012/07/dream-team-1992-2012-olympics-kobe-magic-jordan-barkley/1 จากคุณ : BlueWhiteRed เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 15:32:15

ความคิดเห็นที่ 18 ดูจากรายชื่อผู้เล่นใน DT1 (1992) Michael Jordan, Magic Johnson, Larry Bird, Charles Barkley, Chris Mullin, Patrick Ewing, Karl Malone, John Stockton, David Robinson, Scottie Pippen, Clyde Drexler, Christian Laettner ในนี้มี Christian Laettner คนเดียวที่ไม่เป็น Hall of famers DT1 มันคือการรวมตัวของตำนานบาส ทุกตำแหน่งจริงๆ ครับ สุดยอดของสุดยอดใน NBA ความเห็นผม DT1 เป็น DT ที่ลงตัวที่สุดเท่าที่เคยมีมา ผู้เล่นตำแหน่งการ์ดจ่าย ก็เป็นผู้เล่นระดับที่จ่ายต่อเกมส์เยอะที่สุดในประวัติศาสตร์ NBA อย่าง John Stockton และ point/forword ที่จ่ายและทำแต้มได้สุดยอด อย่าง Magic Johnson ผู้เล่นในตำแหน่ง Shooting Guard ที่ทำแต้มต่อเกมส์สูงสุดใน NBA อย่าง MJ ผู้เล่นตำแหน่ง SF ที่ติดทีมป้องกันยอดเยี่ยมถึง 8 ครั้ง อย่าง Scottie Pippen และยังมี SF ที่ทำแต้มวงนอก และจ่ายได้ยอดเยี่ยมอย่าง Larry Bird และมีมือปืน 3 แต้ม อย่าง Chris Mullin ตำแหน่ง PF ก็เป็น Karl Malone และ Charles Barkley ที่เค้าว่าเกิดผิดยุค ถ้าอยู่คนละยุดกับ MJ 2 คนนี้ต้องมีแหวนประดับนิ้ว พ่วงตำแหน่ง MVP หลายๆ สมัยด้วยแน่ๆ ตำแหน่ง Center ก็เป็น Patrick Ewing กับ David Robinson เซนเตอร์ระดับตำนาน ทีมนี้มันสุดยอดจริงๆ ผิดกับ DT 2012 ที่เน้นความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่นเป็นหลัก มี Point Guard ที่คุมเกมส์และจ่ายบอลดีๆ แค่ CP3 คนเดียว โค้ชKจึงต้องปรับแผนให้เข้ากับกับสภาพทีม จะเห็นได้ว่า DT2012 จะเล่น ISO เป็นส่วนใหญ่ และเวลาป้องกัน จะเน้น Half-court press หรือ Full-court press เป็นหลัก ซึ่งพยายามบีบให้ฝั่งตรงข้ามไม่มีโอกาส set play และเสีย Turnover ให้มากที่สุด และ USA จะใช้จุดเด่นในเรื่องของความเร็วในการ Fast break เพื่อจบสกอร์ จุดเด่นของ DT2012 คือ Versatility (เล่นได้หลากหลาย) Speed (ความเร็ว) Scoring (และการทำแต้ม) แต่ผมว่า จุดเด่นของ DT1992 (DT1) คือจุดเด่นของ DT2012 + Team Work + Defense + Strength + Good relationship ด้วยครับ แก้ไขเมื่อ 20 ก.ค. 55 16:55:16 แก้ไขเมื่อ 20 ก.ค. 55 16:51:46 จากคุณ : iamtaey เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 16:50:16

ความคิดเห็นที่ 19 DT1992>DT2012 : ความสูง,วงใน,การป้องกันทั้งนอกและใน,ประสบการ์ณ,(ความโหด) DT1992<DT2012 : ความไว,ความแข็งแกร่ง ปล.ตามสารคดี dreamteam ที่ NBA เพิ่งทำ (ได้ทันดูรอบเดียวในยูทูปก่อนจะโดนลบ) ตอนรวมตัวผมว่าถ้าเทียบกันแล้วความเป็นศัตรูกันเองและอีโก้ของ DT1 นี่มากกว่าเยอะเลยนะครับ แต่ละคนมาเหมือนการพิสูจน์ตัวเองกันแท้ๆ magic, jordan นี่พยายามจะข่มกันอยู่ตลอดเวลาว่าตนเองคือ เบอร์หนึ่งของลีก ส่วนวงใน barkley, malone นี่ก็อัดกันไม่ยั้งตั้งแต่ซ้อมแข่งกันเอง แต่อาจโชคดีกว่าที่มีเวลาปรับตัวและทัศนคติกันอีกเยอะ เลยกลายเป็นทีมจริงๆในที่สุด (แนะนำให้หาสารคดีมาดูครับ สนุกจริงๆ) หลังจากดูสารคดีนี้ผมเชื่อเลยที่ barkley เคยว่าไม่ชอบที่นักบาสสมัยนี่มีมิตรภาพของผู้เล่นต่างทีมมากขนาดนี้ เกมส์เลยไม่ดุเท่ายุคก่อน ที่อัดกันแรงๆ พูดเสียดสีกันได้จริงๆมากกว่านี้ แต่ก็คงเป็นข้อดีเมื่อเวลามีการรวมทีมเพื่อชาติ จากคุณ : visionue เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 17:22:17

ความคิดเห็นที่ 20 DT1 เป็นสิ่งที่สุดยอดมาก เป็นเหมือนความฝันที่จะได้เห็นนักบาสเหล่านี้มาเล่นด้วยกันในทีมเดียวกัน ด้วยเหตุนี้ถึงได้ถูกสื่อตั้งชื่อว่าดรีมทีม แค่เห็นชื่อนักบาสก็เป็นข่าวใหญ่ทั่วโลกแล้ว ดีกรีชื่อเสียงของนักบาสชุดอื่นๆที่ตามมาไม่น่าจะเรียกว่าดรีมทีมอีกต่อไปแล้วครับ ไม่ใช่ว่าไม่เก่งเพียงแต่ไม่ได้เป็นความฝันของผู้ชมที่อยากดูเท่านั้นเอง ในชุดนั้นมีลาร์รี่ เบิร์ดและเมจิก จอห์นสันที่เคยเล่นโอลิมปิคในชุดเดียวกันมาก่อน อเมริกายุคนั้นจะใช้ผู้เล่นมหาลัยมาติดทีมเพราะยังห้ามนักกีฬาอาชีพมาเล่น เด็กมหาลัยของอเมริกาก็เคยได้แชมป์และเป็นทีมตัวเต็งมาทุกยุค ได้แชมป์บ้างบางปี บางปีที่ไม่ได้แชมป์ก็ไม่ต่ำกว่ารอบตัดเชือก จุดเด่นคือความสามารถถึงจะเป็นแค่เด็กมหาลัยแต่มาตรฐานในยุคนั้น มาตรฐานบาสอเมริกาต่างกับชาติอื่นมาก แต่จุดด้อยคือประสบการณ์และความแข็งแกร่งเลยโดนนักบาสเก๋าๆของรัสเซียและยุโรปบดเอาบ้างอย่างสูสี ชุดก่อนดรีมทีมก็แพ้แบบสูสีในนัดชิงให้กับทีมรัสเซียที่ใช้นักบาสอายุร่วมๆ 30 มาเล่น พอมาถึงดรีมทีม ก็ไม่มีใครมาลุ้นเรื่องเหรียญทองกันอีกต่อไป แต่รอดูปรากฏการณ์ของวงการบาสต่างหาก ยุคนั้นต่างกับยุคนี้ ทางยุโรปพัฒนาขึ้นมามากจนไม่ห่างชั้นกับมาตรฐานนักบาสอเมริกาเหมือนก่อน นักบาสยุโรปเล่นแมนทูแมนกันดีแล้วถ้าเอาดรีมทีมหนึ่งย้อนยุคมาจับคงไปกันได้ดีกว่ากว่ายุคก่อน แต่คงแพ้อยู่ดี ถ้าจะเอาทีมอเมริกายุคปัจจุบันมาเทียบกับดรีมทีมก็ยังห่างกันอยู่ดี เพราะนั่นคือปรากฏการณ์ที่คงไม่เกิดขึ้นอีกที่นักบาสที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์จะมาอยู่ในยุคเดียวกันและเล่นอยู่ทีมเดียวกัน เป็นความฝันนะครับ ที่เกิดขึ้นจริงแค่ชุดเดียวในชุดประวัติศาสตร์ปี 92 จากคุณ : ซุปเปอร์ซัพ สุดยอดสำรอง เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 18:55:30

ความคิดเห็นที่ 21 สำหรับผม ดรีมทีม มีแค่ทีมเดียว คือ ปี 92 หลังจากนั้นเรียกว่า all-stars จะดีกว่า จากคุณ : iDiniWind เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 19:32:41

ความคิดเห็นที่ 22 dream team 92 ลงตัวที่สุด ซุปเปอร์สตาร์ที่คนคลั่งไคร้กันทั่วโลก มารวมกัน เด็กๆก็รู้จัก สมัยนี้ เป็นได้แค่ star มารวมกัน ยังไม่มีใครคนไหน ทำให้ NBA บูมได้เท่ายุคก่อน  ไปถามเด็กๆถึงนักบาส NBA ใบ้กันเกือบหมดไม่รู้จักใครเลย ถามถึงผลแพ้ชนะถ้ามาแข่งกันทีม 92 น่าจะเฉือนชนะไปได้ จากทีมเวิร์ค จากคุณ : หัวใจเดินทาง เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 21:14:33

ความคิดเห็นที่ 23 Dream team มีแค่ทีมเดียวครับคือ USA ชุดโอลิมปิค 1992 นำโดย Jordan ในวัย 29 ปี พีคสุดๆ ส่วนทีมอื่นๆ ไม่ควรจะเรียกว่าดรีมทีมเลยแม้แต่ทีมเดียว และทีมที่น่าจะสูสีกับทีมนี้ที่สุดคือชุด 2008 ที่เค้าเรียกกันว่า redeem team ซึ่งมีตัวครบ บวกกับ Kobe ในวัย 29 ปี แต่สุดท้ายยังไงก็ไม่มีทีมไหนไปสู้กับ MJ ในช่วงพีคได้หรอกครับ Dreamteam rule จบ จากคุณ : buttosai เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 22:33:53