ความคิดเห็นที่ 1 แก้ไขเมื่อ 31 ก.ค. 55 16:22:06 จากคุณ : เจ้าพ่อเจริญกรุง เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 55 16:20:40

ความคิดเห็นที่ 2 ผมตอบอิงตามกีฬาว่ายน้ำละกัน การแข่ขันว่ายน้ำ เค้าจะมีหลาย ๆ heat ใช่ไหมครับ แต่จะว่ายซักกี่ heat ก็จะเอาไปแค่ 16 คน เท่านั้น เพื่อเข้าไปแข่งรอบ semi แล้วก็จะตัดเหลือ 8 คนเพื่อชิง ที่่นี่ 8 คนที่ไม่ผ่านเค้าจะให้แข่งในฐานะ Final B แข่งเพื่อสร้างสถิติให้กับตัวเอง ส่วนกลุ่มที่เข้าไปชิง เค้าจะเรียก Final A ผมก็เลยคิดว่า ยกน้ำหนักก็คงเหมือนกัน คัดคนจากสถิติ แล้วก็แบ่ง เป็นกลุ่ม A กับ B กลุ่ม B ให้แข่งสร้างสถิติ อย่างเดียว ส่วนกลุ่ม A คือกลุ่มที่แข่งเพื่อชิงเหรียญ ส่วนทำไมต้องเรียงท่าว่ายน้ำ (รอนักกีฬาตัวเป็น ๆ มาตอบดีกว่าครับ) อันนี้ผมเดาเอานะ รอผู้รู้ตัวจริงดีกว่านะครับ จากคุณ : avadakdafra เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 55 16:29:53

ความคิดเห็นที่ 3 1. น่าจะเป็นเพื่อความสะดวกของนักกีฬาเองครับ เพราะยกน้ำหนักจะออกมาแข่งตามน้ำหนักที่จะยก ถ้าแข่งพร้อมกันหมด พวกตัวเต็ง ๆ ที่เรียกน้ำหนักเริ่มต้นสูง ๆ ต้องมานั่งรอพวกที่เรียกน้ำหนักน้อย ๆ นานมากกว่าจะถึงคิวตัวเอง จะไปไหนก็ไม่ได้ด้วย สู้แบ่งเป็นกลุ่ม ๆ ไปเลยดีกว่า พวกตัวเต็ง ๆ จะได้ไม่ต้องมานั่งรอนาน ก่อนแข่งก็สามารถนั่งรอที่บ้านพักจนใกล้เวลาของกลุ่มตัวเองค่อยมา รวมถึงเวลาที่รอระหว่างการยกท่าสแนชกับคลีนแอนด์เจิร์กก็จะส้นลงด้วย 2. น่าจะเพื่อความสะดวกของนักกีฬาและกรรมการตัดสินเองครับ ไม่งั้นอาจมีนักกีฬาโดนจับแพ้ฟาวล์เพราะลืมว่ายท่าใดท่าหนึ่ง (ที่ตัวเองไม่ถนัด) เพราะนึกว่าว่ายไปแล้วก็ได้ แก้ไขเมื่อ 31 ก.ค. 55 17:43:20 แก้ไขเมื่อ 31 ก.ค. 55 16:57:11 จากคุณ : เกียรตินำ เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 55 16:31:11

ความคิดเห็นที่ 4 คิดว่าแบ่งตามน้ำหนักที่จะเรียกในท่าสแนชครับ เพราะกติกากำหนดไว้ว่า ถ้ายกสแนชไม่ผ่าน ไม่มีสิทธ์ยกต่อในท่าคลีนแอนเจิร์ค การเรียกน้ำหนักแต่ะครั้ง เพิ่มได้ ลดไม่ได้ แบ่งเพื่อไม่ให้ต้องรอกันนานด้วยครับ จากคุณ : ZaTaN_KruZZ เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 55 16:39:09

ความคิดเห็นที่ 5 ตอบเรื่องยกน้ำหนักก่อนครับ เรื่องที่แบ่งกลุ่ม A กะ B ตามที่ท่านอธิบายกันก็ถูกต้องทั้งหมดส่วนนึง แต่ที่ไม่ถูกก็ถือ กรุ้บ B ก็สามารถชิงเหรียญได้ครับ ซึ่งก็เกิดขึ้นแล้วในกรณี ของรุ่นชายน้ำหนักไม่เกิน 56 กิโล หรือไงเนี่ย ที่เกาหลีเหนือส่งน้ำหนักที่ยกได้ไปแล้ว ต้องอยู่กลุ่ม B แล้วแข่งในกลุ่ม B นั้นจบไปก่อนแล้วแต่ทำน้ำหนักได้มากกว่าที่หนึ่งของกลุ่ม A คือจีน ซึ่งแข่งทีหลัง ทำให้เกาหลีเหนือได้เหรียญทองไป และจีนได้เงิน ซึ่งผมก็เคยแสดงความเห็นว่าน่าจะมีวิธีที่ดีกว่านี้ เพราะดูแล้วมันไม่สนุกเท่าไรที่ กลุ่ม B แข่งจบไปแล้วโดยไม่มีการถ่ายทอดสด แต่ดันทำน้ำหนักได้มากกว่าและได้เหรียญทอง แต่คนดูทางบ้านไม่ได้ดูเลย และการติดตามดู(ทางบ้าน) เฉพาะกลุ่ม A ทำให้ไม่สามารถลุ้นกับคนที่ได้เหรียญทองเลย จากคุณ : burapong29 เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 55 16:56:04

ความคิดเห็นที่ 6 แล้วยกน้ำหนักจะแบ่งกลุ่มไปทำไม ยังไงก็ได้ยกท่าละ3ครั้งเท่ากันหมดแล้วก็ได้ลุ้นเหรียญทุกกลุ่ม จากคุณ : ทีมงานวิจัยฝุ่น เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 55 17:00:54

ความคิดเห็นที่ 7 6#ถ้ารวมทั้งหมดแล้วแข่งพร้อมกันมันก็จะใช้เวลามาก ยากในการคุมเวลาเพื่อที่จะถ่ายทอดสด เหตุผลทางการตลาดล้วนๆ จากคุณ : อยากให้กลับไปเป็นเหมือนวันวาน เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 55 17:37:46

ความคิดเห็นที่ 8 เข้าใจว่ามีการเก็บคะแนนโลกรึเปล่า เหมือนรายการเทนนิส ITF กับ ATP อะไรอย่างนี้น่ะ แต่เข้าใจว่า โดยพื้นฐานก็คือ เขาน่าจะต้องการให้นักกีฬามีส่วนร่วมในโอลิมปิกนะ เพราะถ้าแข่งแต่ตัวเต็ง อย่างนั้นมันจะเป็นกีฬามวลมนุษยชาติทำไม ก็เป็นกีฬาเฉพาะพวกนักกีฬาชั้นเลิศมากกว่า อีกอย่าง การได้แข่งในโอลิมปิก พอรู้ว่าทำสถิติผ่าน ก็มีเวลาเพื่อจะพัฒนาตัวเองให้ยกน้ำหนักได้มากขึ้น เหมือนมีโอลิมปิกเป็นตัวกระตุ้น พอมาแข่งจริง อาจจะทำได้มากกว่ากลุ่ม A ตัวเต็งก็ได้ เมื่อวานรุ่นของน้องแต้วก็มีกลุ่ม B หลุดท่าสแนทช์ขึ้นมาคนนึงด้วย ส่วนว่ายน้ำ เรียงจากกรรเชียงก่อนครับ แล้วไปจบที่ฟรีสไตล์ ที่ต้องขึ้นกรรเชียงก่อน เหตุผลก็ง่ายๆ เพราะเป็นท่าที่ต้องลงไปเริ่มในสระว่ายน้ำ ขืนเอาไปอยู่ท่า 2 ท่า 3 ก็ไม่รู้จะเริ่มยังไง ให้พลิกตัวจากคว่ำมาหงายมันก็แปลกๆนะ ส่วนอีกสามท่าที่เหลือไม่รู้ว่าทำไมเรียงอย่างนั้นเหมือนกัน รู้แต่เหตุผลท่ากรรเชียง จากคุณ : CatCakeMaru เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 55 17:45:05

ความคิดเห็นที่ 9 ^ คห 8 ที่เริ่มจากท่ากรรเชียง เป็นว่ายผลัดครับ เหตุผลก็ตามนั้น แต่ว่ายเดี่ยวผสม จะเริ่มจากผีเสื้อก่อน แล้วถึงตามด้วยกรรเชียง กบ ฟรีสไตล์ ส่วนเหตุผลไม่แน่ใจ รู้แต่ว่าที่ปิดท้ายด้วยฟรีสไตล์ น่าจะเป็นเพราะเป็นท่าที่นักว่ายน้ำส่วนใหญ่ถนัดที่สุด ว่ายได้เร็วที่สุด ได้ลุ้นกันสนุกมากที่สุด จากคุณ : เกียรตินำ เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 55 17:55:48

ความคิดเห็นที่ 10 ยกน้ำหนัก แข่งรุ่นละ 20 คน ยกคนละ 6 ครั้ง รวมเป็น 120 ครั้ง ถ้าไม่แบ่งกลุ่ม คนที่เรียกน้ำหนักเยอะ ๆ ได้นั่งรอจนเครื่องดับน่ะสิครับ ตอนแบ่งกลุ่ม ก็แบ่งตามสถิติ ไม่มีใครรู้ล่วงหน้าหรอกว่ากลุ่ม B คนไหนจะมีลุ้นเหรียญ เพราะยกน้ำหนักเป็นกีฬาที่พลิกล็อคน้อยมาก ดูจากสถิติที่ส่งมาก็แทบจะกำหนดตัวผู้ชนะได้แล้ว จากคุณ : :: AdvanceTactics :: เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 55 18:16:04

ความคิดเห็นที่ 11 ว่ายน้ำเดี่ยวผสม ผีเสื้อ กรรเชียง กบ ฟรีสไตล์ เริ่มด้วยผีเสื้อ เพราะเป็นท่าที่เร็วรองจากฟรีสไตล์ สามารถต่อด้วยท่ากรรเชียงหลังจากแตะขอบสระด้วย2มือได้อย่างง่าย และสะดวกที่สุด ตอนแตะขอบก็สามารถตีลังกากลับตัวได้ (แต่เราไม่ถนัดอ่ะ แต่2มือแล้วดีดตัวหงายเข้าท่ากรรเชียงเลย) พอว่ายกรรเชียงเสร็จ กรรเชียงจะแตะขอบสระด้วย1มือแล้วค่อยกลับตัว จะกลับแบบตีลังกาหงายหรือคว่ำหรือไม่ตีลังกาก็ได้ แต่มือต้องแตะขอบ ไม่งั้นฟาล์ว พอกรรเชียงถึงขอบสระ ต้องแตะขอบก่อนตีลังกาหรือดีดตัวคว่ำเข้าท่ากบได้ กบเป็นท่าที่ว่ายเร็วน้อยที่สุดของ4ท่า จากกบไปท่าฟรีก็ต้องแตะของทั้ง2มือก่อน(อันนี้ไม่แน่ใจว่ากฏโอลิมปิกให้แตะ1มือได้หรือไม่) แล้วก็ตีลังกากลับตัวหรือดีดตัวกลับก็ได้ จบด้วยท่าฟรีสไตล์ซึ่งเป็นท่าที่เร็วที่สุด อ้อ สมัยที่เรายังว่ายน้ำอยู่ ท่าเดี่ยวผสมจะเป็นท่าแรกๆที่ใช้เริ่มการแข่งในเกือบทุกรายการที่เราไปแข่งเลย จากคุณ : Lalawolf เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 10:05:40