ความคิดเห็นที่ 1 มีไปกันประตูคู่แข่งด้วยเหรอ 55 จากคุณ : kaikung เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 03:50:18

ความคิดเห็นที่ 2 ฟุตบอลระหว่างประเทศสารขัณฑ์กับประเทศอิเหนาไงครับ จากคุณ : เกียรตินำ เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 03:55:24

ความคิดเห็นที่ 3 แย่งกัยแพ้นี่มีคู่เดียวเท่าที่ผมรับรู้ล่ะครับ ไอ้ตัวที่ยิงประตูของอินโด (ประตูตัวเอง) โดนแบนตลอดชีพครับ (ยิงได้แล้ว พี่แกเล่นส่งจูบขึ้นฟ้า ออกอาการสะใจสุดๆขนาดนั้น...โทษประหารครับ) กรรมตามทัน: สะใจที่สุด คือไทยโดนเหงียนทุบไป 3-0 และอินโด หนีไปโดนสิงคโปร์ (ที่โดนมองว่าเป็นสมัน) ตบตกรอบไปอีกทีม และคู่ชิง.... สิงคโปร์อุดแหลก และได้ซาซี่ กุมาร กองหลังขึ้นมาโขกลูกเซตเพลย์ ชนะเจ้าภาพผู้ยิ่งใหญ่ไปได้ 1-0 !!! (สรุป ไทย-อินโด แข่งกันไม่ชนะ เพื่อมาเตะกับว่าที่แชมป์ซะงั้น) อ่อ อินโดน่ะแข่งให้แพ้ ส่วนไทยดีหน่อย คือแค่แข่งไม่เอาชนะ แต่ผมยังเสียวๆเลย พออินโดยิงได้ เกิดพี่ไทยบ้าจี้ เอาบอลไปตั้งแล้วส่งคืนหลังเป็นยิงประตูตัวเองให้เสมอ 1-1 คราวนี้ดูไม่จืดเลย ============ ส่วนเคสเอาผลเสมอเพื่อเข้ารอบ ถ้าใกล้หน่อย ก็ "ซูเอี๋ยแบบไวกิ้ง" สวีเดน กับเดนมาร์ก ที่พอได้สกอร์ปลอดภัย 2-2 ทีนี้ก็เคาะบอลกันไปมา ดีดอิตาลีตกรอบไปซะ ในยูโร 2004 และสองไวกิ้งหรรษาได้ทำลายความเชื่อของผมที่เชื่อมาตลอดว่าคนสแกนฯพัฒนาทางจริยธรรมที่สุดในโลก ลงในทันที กรรมตามทัน: สวีเดนเข้าไปโดนกังหันสีส้ม เนเธอร์แลนด์ิ อัดตกรอบด้วยจุดโทษ ส่วนเดนส์ โดนเช็คถล่มไปซะ 3-0 เก่าไปหน่อย คือบอลโลก 1982 ขอเรียกว่า "ซูเอี๋ยภาษาด้อยชท์" ปีนั้น อัลจีเรียมาแรงมากๆ ตบทีมเต็งเยอรมัน ต.ต. ในนัดแรก แต่มาแพ้ออสเตรียในแมตช์ที่ 2 (ลแะทั้ง 3 ทีม ชนะชีลีได้หมด) แต่ความฮาไม่ออก คือนัดสุดท้าย คู่อัลจีเรียเตะก่อน และชิลีไปได้ 3-2 ... ทีนี้ 1 วันให้หลัง เยอรมัน ลงสนามเจอออสเตรีย แล้วเยอรมันรีบยิงนำ 1-0 ... หลังจากนั้นสองทีมก็เคาะบอลไปๆมาๆในแดนตัวเองอีก 80 นาที จนจบเกมส์ ... ทั้งสามทีมมีแต้มเท่ากันแบบงูกินหาง แต่เยอรมัน ต.ต. กับออสเตรีย ทีมเพื่อนบ้านประตูได้เสียดีกว่า และร่วมกันเขี่ยบรรพบุรุษของซีดาน ทีมต่างทวีปตกรอบไปซะ อย่ามาซ่ากับมหาอำนาจยุโรป กรรมตามทัน: เยอรมัน ยังไม่เท่าไหร่ เข้าชิงแต่แพ้อิตาลี ... ส่วนออสเตรีย ตกรอบสองด้วยการโดนฝรั่งเศส ถอนแค้นให้ลูกสมุนอัลจีเรีย เชือดไป ============================= ถ้าไม่นับเยอรมัน ตะวันตก ปี 1982 .... ไม่มีทีม "ออมแรง" ทีมไหน ที่จะไปได้ดีสักรายครับ จากคุณ : Ahura เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 03:57:05

ความคิดเห็นที่ 4 คห ที่ 1 .... ศูนย์หน้าร่างโย่งของเรา ลงทุนสไลด์ขาคู้เพื่อขวางทางยิง แต่โดนปราการหลังอินโด ล๊อคหลบอย่างนิ่มนวล และแปะบอลเข้าอย่างง่ายๆ (ผู้รักษาประตูอินโด แกไปยืนเช็คล้ำหน้าอยู่กลางสนามตั้งแต่ประมาณ 20 นาทีจะหมดเวลาแล้วครับ) จากคุณ : Ahura เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 03:58:53

ความคิดเห็นที่ 5 --* จากคุณ : ภูผาน้ำแข็ง เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 04:05:10

ความคิดเห็นที่ 6 แย่งกันแพ้ ผมเคยเห็นอยู่เกมเดียว แต่ซูเอี๋ย หรือออมแรง นี่เห็นมีอยู่นับไม่ถ้วนเลยครับ จากคุณ : ซาโนสุเกะ เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 04:27:38

ความคิดเห็นที่ 7 เอาอีกแล้ว   มาอีกแล้วครับ เกมไทยกับอินโดฯ   ผมก็บอกเหมือนทุกครั้ง   ตอนนั้นผมอัดวิดีโอไว้ดูด้วยครับ     ดูจนมันมันใยฝุ่นสีขาวๆในตลับดูไม่ได้ก็เลยทิ้งไป         เกมนั้นไทยไม่ได้แย่งแพ้ครับ   ไทยแค่ต้องการเสมอ      ช่วงแรกมันก็เล่นกันไปเรื่อยๆปกติ        ซึ่งผมมองว่าที่ไทยไปป้องกันประตูเกิดจาก งง มากกว่าครับ    คือนักเตะตั้งแต่เกิดมาคงไม่เคยเจอใครพาบอลไปยิง       คือถ้ามันกะจะยิ่งตั้งแต่แรกก็ยังพอตั้งหลักได้      แต่นี่ช่วงแรกเล่นปกติเฉยๆ      พอตอนหลังมันหันไปยิงประตูตัวเอง        นักเตะอาจจะงง  เฮ้ยเมิงเอางี้เลยหรอ    ด้วยสัญชาติญาน พอเห็นเขาจะยิงประตู(ถึงแม้จะเป็นฝั่งมันเองก็เถอะ)  ตูก็ขอป้องกันประตูซักหน่อยละวะ   ประมาณนั้นครับ สรุป ไทยไม่ได้ต้องการแพ้มาตั้งแต่ต้นครับ  แต่น่าจะแค่ต้องการเสมอครับ จากคุณ : darkming เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 04:37:00

ความคิดเห็นที่ 8 คิดแล้วตลกดีครับ จากวันนั้นถึงวันนี้ นายกบอลยังเป็นคนเดิมอยู่เลย จากคุณ : picassoinhell เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 04:53:44

ความคิดเห็นที่ 9 #5 มีปรบมือด้วยอะ อนาถแท้ จากคุณ : kaikung เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 04:54:30

ความคิดเห็นที่ 10 ตาม #7 ครับ จริง ๆ อาจจะแค่แบบเห็นส่งบอลกันหน้าโกล์ เลยวิ่งเข้าไปแย่งก็ได้ แต่แม็ตซ์นั้น โกล์อินโดนี่ กดสามเหลี่ยมค้างทั้งเกมส์ครับ จากคุณ : โหม่งเห็ด เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 05:37:24

ความคิดเห็นที่ 11 อินโดต้องการแพ้ทีมเดียว ไทยส่วนไทยนัดนั้นไม่ต้องการชนะ ขอผลเสมอ จากคุณ : หมู ภูดินแดง เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 06:04:09

ความคิดเห็นที่ 12 แต่ไทยมีศักดิ์ศรี มากเกินจะต้องการผลเสมอเพื่อหนีเวียดนามมั้งครับ ผมเลยรู้สึกไม่ดีทำไมเราต้องหนี ตอนนั้นบอลเรายังไม่ตามตูดเขาแบบนี้นะครับ จากคุณ : สดศรี เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 07:32:09

ความคิดเห็นที่ 13 ใครว่าไทยจะไม่ยิงประตูตัวเอง ไม่แน่นะครับ วรวุตน่ะถึงกับมึนแล้วตอนอินโดยิงประตูตัวเอง พี่แกเดินไปหยิบลูกบอลจะเอามาเข่ียเริ่มเล่นต่อ ทั้งที่คนที่ต้องเข่ียลูกต้องเป็นอินโด เพราะอินโดเป็นฝ่ายเสียประตู จากคุณ : ละเหี่ยศักดิ์ เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 08:05:31

ความคิดเห็นที่ 14 เคสนี้ฟุตบอลมีเพียบค่ะ แต่ไม่ถึงขนาดยิงประตูตัวเอง แค่วิ่งช้าๆ ดึงเวลา เอาตัวสำรองลง ฯลฯ จากคุณ : xemmy เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 08:46:59

ความคิดเห็นที่ 15 หลักๆเป็นเรื่องการพนัน ที่ต่างฝ่ายต้องการล๊อคผมการแข่งขันตาม ที่ตัวเองแทงเดิมพันไว้ เรื่องที่จะหนีเวียดนามเป็นเหตุผลรอง จากคุณ : the hunter เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 09:14:26

ความคิดเห็นที่ 16 ยังมีคู่อื่นๆอีกไหมครับ   ?? จากคุณ : จขกท. (mung_emo_reborn) เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 09:20:16

ความคิดเห็นที่ 17 คู่ไทยอินโดมันโครตอัปยศแล้ว ใครที่บอกไทยไม่ได้กะมาแพ้ โอเคคุณถูก แต่ก็ไม่ได้กะจะมาชนะเหมือนกันนะ คู่แข่งอ่อยขนาดเปิดห้องแก้ผ้ารอแล้ว ยังเป็นสุภาพบุรุษไม่ยิงซะที ดังนั้นอัปยศทั้งคู่ จากคุณ : เขียนบน iPhone (ความจำสั้นสันหลังยาว) เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 11:14:17

ความคิดเห็นที่ 18 สำหรับเด็กที่โตไม่ทัน นี่คือจุดเริ่มต้นของความตกต่ำของบอลไทย จากคุณ : Cojiro เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 11:48:56

ความคิดเห็นที่ 19 ยังจำสีหน้าโค้ชได้ครับ ตอนไทยนำอินโด สีหน้าสิ้นหวังมาก.. จากคุณ : zenzen เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 12:27:59

ความคิดเห็นที่ 20 ตามคลิป คห5  เลยครับ ไทยแพ้ 2-3   ตอนแรกจำผิดนึกว่าแพ้ 0-1 ครับ จากคุณ : mung_emo_reborn เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 12:41:06

ความคิดเห็นที่ 21 แต่ถ้าเป็นบอลที่จงใจแพ้ฝ่ายเดียวโดยที่อีกฝ่ายไม่รู้เรื่องด้วยก็มีคู่นึงของทวีปแอฟริกา ผมจําชื่อทีมไม่ได้ ประมาณว่าเจ้าของทีมไม่จ่ายค่าจ้าง พี่แกเลยมาเขี่ยแล้วยิงประตูตัวเอง เขี่ยใหม่แล้วยิงประตูตัวเองใหม่ ทีมคู่แข่งก็ยืนทําตาปริบๆในแดนตัวเอง แพ้ไป 0-99 มั้งถ้าจําไม่ผิด จากคุณ : ละเหี่ยศักดิ์ เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 13:05:45

ความคิดเห็นที่ 22 #21  มีคลิปไหมครับ  ? จากคุณ : mung_emo_reborn เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 14:37:38

ความคิดเห็นที่ 23 ผมขออนุญาตแก้ไขข้อมูลของคุณละเหี่ยศักดิ์ ความคิดเห็นที่ ๒๑ นะครับ นัดที่ว่าเนี่ย เป็นการแข่งขันระหว่างทีม AS Adema กับ SO l'Emyrne (SOE) ในเกาะมาดากัสการ์ ทวีปแอฟริกา เมื่อปี ๒๕๔๕ แต่ไม่ใช่การประท้วงเจ้าของทีมครับ เป็นการประท้วงกรรมการ และไม่ใช่ยิงประตูตัวเอง ๙๙ ลูกด้วย แต่ยิงถึง ๑๔๙ ลูก สาเหตุก็เพราะทีม Adema กับ SOE แข่งเพลย์ออฟรอบ ๔ ทีมสุดท้าย แย่งแชมป์ลีกกันอยู่ สองทีมนี้ไปเจอกันในนัดสุดท้าย ซึ่งควรจะเป็นนัดตัดสินแชมป์ แต่นัดก่อนหน้า ทีม SOE ดันไปเสมอคู่แข่ง ๒-๒ หลังจากกรรมการเป่าให้ SOE เสียจุดโทษในช่วงท้ายเกม ผลก็คือ SOE ชวดแชมป์แน่นอนแม้จะเหลือการแข่งอีก ๑ นัด โค้ช SOE ก็โมโห ไปทะเลาะกับกรรมการอีกต่างหาก นัดสุดท้ายที่สองทีมนี้เจอกันไม่มีความหมายอะไรแล้ว เพราะ Adema ได้แชมป์เรียบร้อย ลูกทีม SOE เลยประท้วงมันซะเลย เขี่ยบอลปุ๊บ ยิงประตูตัวเองปั๊บ เขี่ยบอลใหม่ ยิงประตูตัวเองอีก ทำซ้ำไปเรื่อยๆ ส่วนฝั่ง Adema ก็ยืนดูอย่างเดียว ขำกลิ้งไปด้วย ไม่ได้แตะบอลด้วยซ้ำ แชมป์ก็ได้แล้ว ชนะแบบไม่ต้องออกแรงอีกต่างหาก ผลก็คือทั้งโค้ชทั้งผู้เล่น SOE โดนแบนเรียบ... ตามไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Wikipedia ครับ: http://en.wikipedia.org/wiki/AS_Adema_149%E2%80%930_SO_l%27Emyrne น่าเสียดายที่คู่นี้ไม่มีวิดีโอให้ดูแต่อย่างใด อย่างว่าครับ แข่งที่มาดากัสการ์ ตั้งแต่ ๑๐ ปีก่อนโน่น คงจะหาเทปยากหน่อย... จากคุณ : DTRY เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 17:26:23

ความคิดเห็นที่ 24 ส่วนการแข่งที่ "แย่งกันแพ้" แบบไทยกับอินโดนีเซียในไทเกอร์คัพปี ๒๕๔๑ ก็มีอยู่อีกคู่นึงนะครับ คือบาร์เบโดสกับเกรเนดา ในการแข่งขันฟุตบอลเชลล์ แคริบเบียนคัพ ปี ๒๕๓๗ รอบคัดเลือก นัดสุดท้ายบาร์เบโดสต้องชนะเกรเนดา ๒ ลูกขึ้นไปเพื่อให้ผ่านเข้ารอบสุดท้าย ที่นี้การแข่งขันนี้ใครตั้งกฎไว้ก็ไม่รู้ครับว่า: ๑. ไม่ให้มีผลเสมอ ถ้าเสมอกันให้ต่อเวลาพิเศษ ๒. ถ้าทีมไหนยิงได้ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ให้ชนะเลยตามกฏประตูทอง ๓. ถ้าต่อเวลาพิเศษแล้วยิงกันไม่ได้ ให้ยิงจุดโทษตัดสิน ๔. ทีมที่ชนะในช่วงต่อเวลาพิเศษ ให้บวกประตูได้เพิ่มเข้าไปอีก ๑ ประตู คือ ถ้าชนะโดยประตูทอง ให้ถือว่าชนะคู่แข่ง ๒ ประตู ถ้าชนะโดยยิงจุดโทษ ให้ถือว่าชนะคู่แข่ง ๑ ประตู (งงกันรึยังครับ ) บาร์เบโดสยิงนำเกรเนดาไป ๒ ลูก แต่เกรเนดามายิงคืนได้ ๑ ลูกในนาที ๘๓ บาร์เบโดสยิงยังไงก็ไม่เข้าซะที มีสิทธิ์ตกรอบสูง ผลคือ นาที ๘๗ กองหลังกับผู้รักษาประตูบาร์เบโดสไปเคาะบอลกันเองหน้าประตูสักพัก ก็ยิงเข้าไปเลยเป็น ๒-๒ เกรเนดาเห็นแบบนั้นก็งง ไม่รู้จะยิงฝั่งไหนดี เพราะถ้าชนะก็เข้ารอบ แพ้ลูกเดียวก็ยังเข้ารอบ เลยพยายามยิงมันทั้งสองฝั่งซะเลย พวกบาร์เบโดสก็แบ่งกำลังออกไปป้องกันประตูทั้งสองฝั่งจนหมดเวลา พอเข้าช่วงต่อเวลาพิเศษไป ๔ นาที บาร์เบโดสก็ยิงประตูทอง จบเกมทันที ชนะไป ๔-๒ ได้เข้ารอบสุดท้าย แต่ก็ไปไม่รอดครับ เพราะบาร์เบโดสถึงเข้ารอบสุดท้ายไปได้ ก็ไปตกรอบแบ่งกลุ่มอยู่ดี แน่นอนครับว่าเหตุการณ์ "สำคัญ" แบบนี้ ต้องมีใน Wikipedia ด้วย: http://en.wikipedia.org/wiki/Barbados_v_Grenada_(1994) จากคุณ : DTRY เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 18:49:00

ความคิดเห็นที่ 25 กรณีบาร์เบโดสกับเกรเนดานี่ เป็นตัวอย่างชั้นยอดในทางกีฬาและทฤษฎีเกม (Game Theory) เลยครับ ว่า "หากตั้งกฎของเกมไม่ดี อาจส่งผลต่อผลลัพธ์ของเกมแบบไม่คาดคิด" http://www2.owen.vanderbilt.edu/mike.shor/courses/game-theory/docs/lecture01/Soccer.html และที่มักจะนำมาเปรียบเทียบกันอยู่เสมอๆ ก็คือการแข่งขันระหว่างไทยกับอินโดนีเซียนี่แหละ และนัดนี้ก็มีบันทึกไว้ใน Wikipedia เหมือนกันนะครับ http://en.wikipedia.org/wiki/1998_Tiger_Cup บางคนจำผิดว่าไทย "ชนะ" ๑-๐ (ผมเองก็ด้วย) แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ครับ ไทย "ชนะ" ๓-๒ ครึ่งแรกไม่ยิงประตูกันเลย ตอนพักครึ่งกรรมการเลยเข้าไปเตือนทั้งสองฝั่ง ทำให้สุดท้ายต่างฝ่ายต่างผลัดกันยิงแบบเสียไม่ได้ เสมอกัน ๒-๒ จนสุดท้ายอินโดนีเซียยิงประตูตัวเองไปอย่างที่ทราบ สองกรณีนี้จะต่างกันก็แค่ กรณีบาร์เบโดสกับเกรเนดานั้น ความห่วยแตกอยู่ที่ฝ่ายจัดการแข่งขัน ที่ตั้งกฎบ้าๆ บอๆ แบบนั้น ส่วนของไทยกับอินโดนีเซีย เป็นความห่วยแตกของทั้งสองชาติเอง ที่กลัวเวียดนามจนหัวหด จนต้องเล่นปาหี่แกล้งแพ้ ทั้งสองเกมนี้จะเป็นกรณีศึกษาไปอีกนานแน่นอนครับ ช่างเป็นประวัติศาสตร์อันน่าภาคภูมิใจเสียนี่กระไร... จากคุณ : DTRY เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 18:51:12

ความคิดเห็นที่ 26 ^^ ขอบคุณหลายๆครับ จากคุณ : จขกท. (mung_emo_reborn) เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 21:46:14