ความคิดเห็นที่ 1 ถามได้ดีครับ ถ้าไม่ติดว่านั่งทำเรื่องรุดอยู่จะมาช่วยคิดด้วย ใครเก่งๆเรื่องธุรกิจช่วยคิดหน่อยนะ ผมขอร้อง จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 55 16:16:38

ความคิดเห็นที่ 2 เอาเงินเข้ากระเป๋าน่ะสิครับง่ายๆ อิอิ ข่าวที่อังกฤษกลุ่มแฟนแมงยูเองยังออกมาแฉซ้ำว่าเซ่อจมูกแดงก็จะได้รับหุ้น ipo เอาไปเทขายฟรีๆอีกหลายล้านเรียกว่าวินๆกันหมดทั้งเจ้าของทั้งผู้จัดการ ส่วนแฟนบอลก็ดูเค้ารวยช่วยเค้าวิ่งหาเงินมาซื้อของสโมสรให้เค้าโกยต่อไป 5556666 จากคุณ : beddingshield เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 55 16:29:47

ความคิดเห็นที่ 3 น่าจะเป็นการทยอยขายเพื่อทำกำไรโดยโยนออกมาก่อน10% ในกรณีที่คาดการณ์ว่าหุ้นของแมนยูอาจจะมีการปรับตัวลง ซึ่งมีความเป็นไปได้จากเหตุ1. ผลงานต่ำลง. 2.การไม่ลงทุนเสริมตัวผู้เล่น ถ้าให้เดาผมว่า อีกไม่นานเกลเซอร์ขายทีมแน่ ถ้าได้ราคาและกำไรที่เหมาะสม เทขายออกมาก่อนเพื่อเพลย์เซฟ ยังไงๆขายตอนนี้มีกำไรแน่ แต่ขายในอนาคตยังไม่แน่ว่าจะได้กำไร เลยต้องเอากำไร ณราคาปัจจุบันมาเฉลี่ยเพื่อลดความเสี่ยงหากปีหน้าไม่ได้แชมป์ ฐานแฟนบอลขยายตัวในอัตราที่ลดลงหุ้นตกแน่ๆ จากคุณ : cotarozz เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 55 16:34:01

ความคิดเห็นที่ 4 เพื่อเพิ่ม ฟรีโฟลต (จำนวนหุ้นหมุนเวียนในตลาดหลักทรัพย์)  มักเป็นเหตุผลหลักที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ มักกล่าวอ้าง   การขายหุ้น เพื่อต้องการเงินไปใช้ธุรกิจส่วนตัว  ไม้่ใช่เรื่องแปลกผิดอะไร ส่วนข้อแรก  เอาเงินลดหนี้สโมสร  เป็นไปไม่ได้หรอก  เงินของเขา เรื่องอะไรมาให้สโมสร ( ถ้าคุณถือหุ้น ปตท  ขายออกมา จะเก็บเงินไว้เอง หรือ ยกให้ ปตท ฟรี ๆ ไปใช้หนี้ล่ะ) จากคุณ : ต้นไม้และทะเล เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 55 16:36:55

ความคิดเห็นที่ 5 ต้องดูว่าหุ้นที่เอามาขายเป็นหุ้นอะไร หุ้นที่ตระกูลเกลเซอร์ถืออยู่ก่่อน หรือเป็นหุ้นใหม่เพิ่มทุนของสโมสร หรือทั้งสองอันปนกัน ถ้าเป็นหุ้นของตระกูลเกลเซอร์ เงินก็เข้ากระเป๋าเกลเซอร์ ถ้าเป็นหุ้นใหม่ เงินก็เข้าสโมสร แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 55 16:43:34 จากคุณ : delight เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 55 16:42:29

ความคิดเห็นที่ 6 รู้แค่ว่าไม่ก้าวกายการทำทีม มีเงินให้ซื้อนักเตะ แค่นี้สำหรับผมพอแล้วครับเชิงลึกนี่ไม่ทราบจริงๆ จากคุณ : mooler เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 55 16:57:22

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าเรื่องเงินเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเฟอร์กี้ ต่อสัญญาแต่ละที คงเรียกค่าเหนื่อยสูง ๆ ไปแล้ว ที่มีการตั้งข้อสงสัยว่าเฟอร์กี้มีเอี่ยวอะไรกับพวกเกลเซอร์รึเปล่า เพราะแกค่อนข้างอวยตระกูลเกลเซอร์ ซึ่งตรงข้ามกับความรู้สึกของแฟนบอล ลองมองในมุมของเฟอร์กี้ พวกเกลเซอร์ก็ถือว่าดีต่อเฟอร์กี้ ขออะไรก็ให้ ไม่เคยยุ่มย่ามเรื่องการทำทีม เจรจาสปอนเซอร์ก็เก่ง ไม่รู้มันทำกันยังไงขายได้กระทั่งสปอนเซอร์เสื้อซ้อม ได้ราคาดีอีกตะหาก จากคุณ : :: AdvanceTactics :: เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 55 17:09:43

ความคิดเห็นที่ 8 เพราะมันเป็น ipo แล้วก็ปล่อยแบบ 10% แต่ก็มีมูลค่าสูงมาก ... - ในแง่เจ้าของก็เอาไปใช้หนี้ส่วนตัว ถือว่าการขายหุ้นเที่ยวนี้ เป็นการเก็บเกี่ยวกำไรลักษณะหนึ่งหลังจากเข้ามาเทคฯ แมนฯ ยูฯ เต็มตัวมาหลายปี - มองในแง่ระยะยาว เป็นการกระจายความเสี่ยง แต่ไม่ใช่เพราะเห็นแนวโน้มหดตัว ส่วนตัวมองว่าเป็นกลยุทธ์อ่อยเหยื่อสร้าง Value ในตลาดหลักทรัพย์ใหม่ในแง่ความน่าลงทุนมากกว่า - การที่เกลเซอร์สนับสนุนท่านเซอร์เต็มที่เพราะท่านเซอร์คือคีย์แมนตัวจริงของความสำเร้จในอนาคต แค่ภายใน 5 ปี ข้างหน้าทำ แมนฯ ยูฯ ได้แชมป์เมเจอร์ซัก 2-3 รายการ เผลอที่หว่านเข้าตลาดหุ้นเที่ยวนี้จะกลายเป็นเบ็ดตำเงินถุงเงินถังนักลงทุนด้วยซ้ำ - เมื่อมองจากความสามารถทางการสร้าง Marketing relationship ทั้งในแง่ sponsor หรือ Brand marketing ข้าเจ้าอดรู้สึกงงงวยกับคาถาเรียกผู้สนับสนุนของเกลเซอร์ไม่ได้ "อย่าลืม! เค้าพึ่งเซ็น Chevy คาดหน้าอกล่วงหน้าไปหมาดๆ" ...แล้วมันจะเป็นขาลงได้อย่างไร และก็อย่างที่ข้างบนว่ามา มันเก่งถึงขั้นขายสิทธิ์เอาตรามาแปะเสื้อซ้อมได้ ..."แค่เสื้อซ้อมที่ออกอย่างมากก็ high light การซ้อมกับรูปถ่ายช่างกล้องนะ" .... ก็อย่างที่บอก คีย์แมนคือท่านเซอร์ ภาวนาให้ก่อนเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรในตำแหน่งนี้ แมนฯ ยูฯ มีสถานะที่มั่นคงกว่านี้กับได้ตัวแทนที่สมน้ำสมเนื้อก็แล้วกัน จากคุณ : _K_F_C_ เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 55 19:59:45

ความคิดเห็นที่ 9 ตามที่ทราบกันดีในต่างประเทศ แต่คงไม่เป็นที่รู้กันนักในเมืองไทยเพราะสื่อไทยจะไม่เน้นข่าวเจาะลึกจริงๆทำให้แฟนบอลทีมผีรู้เรื่องการเงินของสโมสรน้อยมากๆ ผลประกอบการจริงๆของฤดูกาลก่อนหน้าฤดูกาลที่แล้วขาดทุน แต่เพื่อสร้างภาพพจน์ที่ดีต่อสโมสรเพราะมีแผนการขายหุ้นที่คิดกันว่าจะทำมานาน จึงนำเงินสดที่เป็นเงินคงคลังของสโมสรประมาณ 100 ล้านปอนด์ออกมาซื้อคืนพันธบัตรที่ครบกำหนดต้องซื้อคืนและทำให้ผลประกอบการเป็นบวก แต่ก็ทำให้เงินติดสโมสรน้อย การขายหุ้นก็เป็นการช่วยสภาพคล่องตอนนี้ นอกจากนี้ก็คงจะมีพันธบัตรที่ต้องซื้อคืนในปีนี้อีก ก็ต้องหาเงินมาซื้อ ประกอบกับการที่รายได้ฤดูกาลที่เพิ่งจบไปน้อยกว่าทุกฤดูกาลเพราะตกรอบแชมเปี้ยนลีคและไม่ได้แชมป์พรีเมียร์ การนำเงินเข้ามาจึงช่วยสร้างสภาพคล่องสำหรับเงินที่ต้องจ่ายค่าเหนื่อยนักเตะ พันธบัตรทั้งหมดจะถึงกำหนดต้องซื้อคืนทั้งหมดในปี 2017 ถ้าจำไม่ผิด มูลค่ารวมกันกว่า 400 ล้านปอนด์ ต้องนั้นก็ต้องระดมทุนขนาดใหญ่อีกครั้ง และปี 2017 ถ้าจำไม่ผิด หนี้ส่วนตัวก็จะครบกำหนดต้องจ่ายคืนทั้งหมดเช่นกัน ถ้าจ่ายคืนไม่ได้ ตอนนั้นเจ้าของก็จะเปลี่ยนมือไปยังกลุ่มฮัดจ์ฟัน บางคนก็ยังคิดกันว่าสโมสรร่ำรวย มีกำไรทุกปี เดี๋ยวหนี้ก็หมด ความจริงสโมสรใหญ่ๆขาดทุนเป็นหนี้กันทั้งนั้นแม้แต่บาร์ซ่า มาดริด ที่ประสบความสำเร็จมาต่อเนื่องยาวนานกว่า ที่บอกว่ารายได้เยอะจนเจ้าของเอาไปใช้หนี้ส่วนตัวได้ความจริงก็ไม่ใช่ ตัวสโมสรขาดทุนทุกปีเพราะค่าเหนื่อยก็ร่วมร้อยกว่าล้านปอนด์ ค่าใช้จ่ายทั่วไปอีกประมาณ 60  ล้านปอนด์ทุกปี จ่ายดอกเบี้ยอย่างเดียวก็ร่วม 30 - 40 ล้านปอนด์ ยังไม่รวมเงินที่ต้องหาซื้อนักเตะเข้ามาใหม่ทุกปี ถ้าได้อ่านข่าวอังกฤษบ่อยๆจะรู้ว่า ไม่มีทางเป็นไปได้ที่สโมสรจะมีกำไรพอปลดหนี้และซื้อพันธบัตรคืนได้เลยเมื่อถึงกำหนดระยะเวลา การขายหุ้นครั้งนี้ช่วยได้แค่สภาพคล่องเพื่อให้มีเงินสดหมุนเวียนในมือเท่านั้น ส่วนสภาพรวมทั้งหมดก็เหมือนสโมสรอื่นๆคือขาดทุน และเมื่อครบกำหนดเจ้าของอาจเปลี่ยนมือ จะขายต่อก่อนครบกำหนดพันธบัตรก็ยากอีกเพราะ ขาดทุนทุกปี จะมีใครมาซื้อต่อจากเกลเซอส์จริงๆไม่ง่าย เอาเงินลงไปร่วมพันล้านปอนด์ กำไรไม่คุ้มเสีย นอกจากซื้อเพื่อสร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง ความจริงถ้าจะเอาให้ถูกต้องแน่นอน ตัวเลขเป๊กๆถูกต้องว่าสถานการณ์เป็นอย่าง ก็ต้องให้แฟนบอลผีหาข้อมูลที่มีอยู่ทั่วไปมาแปลให้อ่านทำความเข้าใจกันเองจะดีที่สุดครับ เพราะผมเคยนำเสนอไปบ้าง แต่รู้สึกแฟนผีบางส่วนจะยังข้องใจว่าแฟนทีมอื่นคงแปลมาแซว จึงอยากให้แฟนทีมผีแปลแล้ว เอาไปลงไว้ที่กระทู้ประจำทีมจะดีที่สุดครับ และอีกอย่างแฟนทีมอื่นก็ไม่ได้อยากจะเสียเวลาหาข้อมูลนักเพราะเป็นเรื่องที่ไม่ได้สนใจแล้วยังมีโอกาสโดยด่าอีกต่างหาก แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 55 22:17:42 จากคุณ : ซุปเปอร์ซัพ สุดยอดสำรอง เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 55 21:49:12

ความคิดเห็นที่ 10 คห 4 มันเป็นหนี้ของเค้าเอง ไม่ใช่หนี้ของสโมสรไม่ใช่หรอครับ จากคุณ : yokenolf เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 55 22:46:20

ความคิดเห็นที่ 11 งงว่าตระกูลเกลเซอร์ จะบริหารธุรกิจมูลค่าเป็นพันล้านปอนด์ได้ยังไง ถ้ามันโง่กว่าพวกๆที่มาพิมพ์อยู่ในพันทิพย์นี่ 55555+ จากคุณ : pakkalam เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 55 22:59:07

ความคิดเห็นที่ 12 เชียร์แมนยูมาเป็นยี่สิบปี แต่ถ้ามันจะเจ๊ง ก็ไม่เห็นว่าจะต้องมาเดือดเนื้อร้อนใจแต่อย่างใด การดูบอลสำหรับผมเป็นแค่ความบันเทิง+สันทนาการ เห็นเหมือนกับอีกหายๆคนว่า เกลเซอร์เขาให้เงินสนับสนุนอย่างดี ไม่ก้าวก่ายการทำงาน ก็โอเคแล้ว ไม่เหมือนกับกรณีลิเวอร์พูลหรอก ผมว่าที่ลิเวอร์พูลเกือบล้มละลาย เพราะราฟามันเอาเงินไปถลุงโง่ๆมากกว่า จากคุณ : ไฮโซหนองใหญ่ เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 55 23:07:10

ความคิดเห็นที่ 13 งั้น ถ้าเเมนยู ชนะ หุ้น ขึ้น ถ้าเเพ้ หุ้นร่วง เเบบนี้ใช่ปะ จากคุณ : นายดิน83 เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 55 20:34:03

ความคิดเห็นที่ 14 คห.10 เท่าที่เราเข้าในนะคะ คล้ายๆกับว่าผลักหนี้ที่ใช้ซื้อ ให้มาเป็นหนี้สินของสโมสร คือ ประมาณว่าพวกเกลเซอร์กู้เงินมาซื้อทีมแมนยู พอซื้อได้แล้วก็เอาชื่อทีมนี่แหละเป็นหลักค้ำประกันเงินกู้ ซึ่งหากเกลเซอร์ใช้หนี้ได้ไม่ตรงตามสัญญา เจ้าหนี้ก็จะยึดคืน ไปขายทอดตลาด(เหมือนซื้อบ้านมั้ง) แฟนผีเลยไม่ค่อยชอบขี้หน้า เพราะพวกเกลเซอร์มีแต่ได้กับได้ อันนี้เราคิดเองนะ ไม่รู้เข้าใจถูกหรือเปล่า จากคุณ : kolokol เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 55 21:38:17