ความคิดเห็นที่ 1 ข้อ1.จริงใจ ข้อ2.จิงโจ้ จากคุณ : เจ้ากก เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 55 15:01:33

ความคิดเห็นที่ 2 คำถามนี้ตอบง่าย แต่ความเป็นจริง กระทำยาก  จากคุณ : One2FLU เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 55 15:04:15

ความคิดเห็นที่ 3 ต้องดูด้วยว่านายกสมาคมเป็นใคร ถ้าเป็นวีวี่ล่ะก็ ....เอิ้กกก จากคุณ : TingTing เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 55 15:06:21

ความคิดเห็นที่ 4 ข้อ 1 คือการพัฒนาที่ถูกต้อง แต่เมืองไทยผู้ใหญ่ส่วนมากจะชอบ ข้อ 2 เพราะมันได้หน้าได้เป็นข่าว จากคุณ : เกียรตินำ เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 55 15:14:41

ความคิดเห็นที่ 5 ข้อ 1. คือการให้ที่น่ากราบที่สุด .... แต่ส่วนมากทุกผลิตภัณฑ์ ทุกค่ายทุกสำนัก ทุกคน ทุก... จะเลือก ข้อ 2. จากคุณ : liverjim เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 55 15:15:13

ความคิดเห็นที่ 6 แบบแรกย่อมดีกว่าอยู่แล้ว เพียงแต่แบบที่สอง มันลงทุนน้อยกว่า และได้หน้าเร็วกว่า จากคุณ : Thirdwave เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 55 15:16:12

ความคิดเห็นที่ 7 ข้อหนึ่งอยู่แล้วค่ะ แต่ว่าสมาคมไม่อยากลงทุน อยากได้หน้าอย่างเดียว จากคุณ : Seasons of LovE เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 55 15:21:06

ความคิดเห็นที่ 8 ผลโหวต ณ เวลานี้ยังเป็นร้อยเปอร์เซ็นต์(ฝั่งไหนไม่ต้องบอก) เด๋วอีกสักพักนึงจะมาเช็กใหม่........... จากคุณ : 190อีสีขาว เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 55 15:21:35

ความคิดเห็นที่ 9 1. ระยะยาว 2. เฉพาะหน้า 1+2 ดีสุด ปั้นให้เก่งแล้วตอนแข่งก็มีรางวัลล่อใจเป็นแรงกระตุ้นเพิ่มนิดหน่อย จากคุณ : เส้นใหญ่พิเศษ เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 55 15:22:01

ความคิดเห็นที่ 10 กีฬาบ้านเราทำเป็นอาชีพไม่ได้ แรงจูงใจที่ทำให้คนที่เล่นกีฬาเก่ง มุ่งมั่นและตั้งใจ แม้ว่ามันจะทำเป็นอาชีพไม่ได้คือข้อ 2 เงินรางวัลมันเปลี่ยนชีวิตคนได้ ตัวอย่างมีให้เห็น เหรียญมีสองด้าน อย่ามองแต่ด้านไม่ดี จากคุณ : Cojiro เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 55 15:24:54

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่มีแบบ ถูกทุกข้อหรือค่ะ ถ้าทำได้จริง ก็อยากให้..เพิ่มทุนในการหาสายเลือดใหม่เพิ่มมากยิ่งขึ้นด้วยค่ะ จากคุณ : chouxiangjiao เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 55 15:29:07

ความคิดเห็นที่ 12 ข้อสองเป็นรางวัลสำหรับการทุ่มเทและแรงบันดาลใจให้นักก๊ฬา ส่วนข้อแรกมันจะยั่งยืน หัวข้อนี้เค้าคุยกันมานับสิบๆปีแล้วครับ เข้าใจว่าหลายสมาคมเค้าก็ทำกันอยู่ แต่บ้านเราคงมีตัวแปรอื่นๆเยอะ จากคุณ : man12345 เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 55 15:30:52 A:180.183.12.123 X: TicketID:369437

ความคิดเห็นที่ 13 มันต้องให้ทั้งสองอย่างนั่นแหละ จากคุณ : benzbento เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 55 15:33:29

ความคิดเห็นที่ 14 เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งที่ควรมีการเตรียมความพร้อม อย่าลืมว่าทุกอย่างคือการลงทุน หากมีต้นทุนที่ดี ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะดีตามไปด้วย อยากให้รัฐบาลสนับสนุนในรูปแบบนี้น่าจะดีกว่า สำหรับผลงานนักกีฬา คนไทยทั้งประเทศมีรางวัลให้อย่างแน่นอน จากคุณ : travelmemo (travelmemo) เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 55 15:34:10

ความคิดเห็นที่ 15 ใจจริงอยากจะเลือกข้อหนึ่ง แต่ลองๆมาคิดดู เงินที่ได้จากข้อหนึ่งจะตกเป็นผลประโยชน์ของสมาคมกีฬานั้นๆซักเท่าไรกันเชียว โดนบวกบิ๊กหัวแถวงาบไปหมด เพราะงั้นถ้าระบบการกีฬาบ้านเรามันเป็นงี้อยู่ ผมขอเลือกข้อสองให้เป็นแรงอัดฉีดของนักกีฬาดีกว่าครับ จากคุณ : NaTKuLaR เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 55 15:36:44

ความคิดเห็นที่ 16 ส่วนใหญ่คิดว่าคนเค้ารู้นะว่าข้อ 1 อะควรจะทำ แต่ก็ไม่ทำ ทำข้อ  2 เพราะมันได้หน้าดี จากคุณ : june_ju เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 55 15:39:14

ความคิดเห็นที่ 17 คห 10 ก็จริงครับว่าการให้เงินรางวัลจะช่วยทำให้ความเป็นอยู่ของนักกีฬาดีขึ้น แต่ก็ต้องอย่าลืมว่า ถ้าไม่มีข้อ 1 โอกาสที่จะเกิดข้อ 2 คงเป็นไปได้ยากมาก หรือเรียกว่าเป็นไปเกือบไม่ได้เลยทีเดียวครับ ถ้าเป็นกีฬาบุคคลยังพอมีโอกาสว่าข้อ 1 ไม่มี แต่จะได้ข้อ 2 อยู่บ้าง กรณีที่นักกีฬาคนนั้นจะมาจากครอบครัวที่ฐานะดี มีเงินในการสนับสนุนลูกของตัวเองไปแข่งกีฬาต่าง ๆ ด้วยตัวเอง แต่ถ้าเป็นกีฬาประเภททีมนี้มองไม่เห็นทางเลย จากคุณ : เกียรตินำ เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 55 15:42:51

ความคิดเห็นที่ 18 ผมไม่ได้ว่าข้อ 1 ไม่ดีครับ แต่ชี้แจงคิดต่าง ให้คนที่คิดว่าข้อ 2 ไม่ดี จากคุณ : Cojiro เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 55 15:46:53

ความคิดเห็นที่ 19 ^ ผมก็ไม่ได้บอกว่าข้อ 2 ไม่ดี แต่อยากชี้ให้เห็นแค่นั้นว่า ข้อ 1 สำคัญกว่าข้อ 2 แต่ส่วนมากผู้ใหญ่โดยเฉพาะที่ไม่ได้อยู่ในสมาคมกีฬา จะสนใจแต่ข้อ 2 โดยละเลยข้อ 1 จากคุณ : เกียรตินำ เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 55 15:52:08

ความคิดเห็นที่ 20 แบบ1ครับ เอาจริงแบบได้ผลต้องทำแบบเมกาครับ จัดลีคแข่งขันมีทุนให้จากภาครัฐหรือจัดองค์กรขึ้นมาเลยเพื่อจัดระบบ  แต่งคงยากทุนต้องหนา จากคุณ : A7X Rulzzz เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 55 16:10:18

ความคิดเห็นที่ 21 ข้อ 1 ถ้าสนับสนุนไปแล้วสมาคมใช้จ่ายอย่างโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ ก็เป็นเรื่องดีน่าให้การสนับสนุน แต่นักกีฬาของบางสมาคมมีเด็กโค้ช เด็กฝากเข้ามาด้วย สาเหตุเพราะเงินเดือน เบี้ยเลี้ยง ค่อนข้างสูง และเมื่อประสบความสำเร็จในการแข่งขันถึงจะเป็นแค่ตัวสำรองก็มีส่วนแบ่งเงินรางวัลและเงินอัดฉีดด้วย ข้อ 2 ถึงจะมีคนมองว่าเป็นการทำเพื่อเอาหน้าหรือเพื่อหวังผลทางการตลาด แต่อย่างน้อยก็เป็นกำลังใจให้นักกีฬามีความมุ่งมั่นในการแข่งขันเพื่อชัยชนะและเงิน รางวัลก้อนโต รวมทั้งการที่หน่วยงานภาครัฐหรือเอกชนที่รับนักกีฬาที่ได้รับเหรียญเข้ารับราชการหรือเป็นพนักงานโดยพิจารณาตามความเหมาะสมก็ถือเป็นการอัดฉีด เหมือนกัน แต่ไม่ได้ประกาศให้ทราบล่วงหน้าและพิจารณาเป็นราย ๆ ไป สปอนเซอร์ส่วนมากจะเลือกทำในข้อ 2  ส่วนข้อ 1 เป็นเรื่องของภาครัฐที่ต้องให้การสนับสนุนสมาคมกีฬาต่าง ๆ อยู่แล้ว  ยิ่งกีฬาที่ได้รับความนิยมสูงจะมีรายได้ จากสปอนเซอร์ที่ให้การสนับสนุนหลายราย รวมทั้งค่าลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดทางทีวีด้วย  สมาคมเล็ก ๆ นายกสมาคม ผู้จัดการทีม ก็ต้องดิ้นรนหางบประมาณมา ใช้จ่ายในการฝึกซ้อมให้เพียงพอ ถ้าไม่พอก็ต้องควักกระเป๋าตัวเอง ก็เลยไม่ค่อยมีคนแย่งกันเป็นนายกสมาคม อยากให้รัฐบาลได้พิจารณาจัดสรรงบประมาณให้กับสมาคมกีฬาที่เป็นความหวังของไทยมากกว่านี้ เช่น สมาคมยกน้ำหนัก มวย เทควันโด วอลเลย์บอล ไม่ใช่รอ ให้นักกีฬาได้เหรียญก่อนแล้วจัดเลี้ยง มอบของที่ระลึก เสนอหน้าถ่ายรูปคู่กับนักกีฬา แต่ตอนนักกีฬาฝึกซ้อมแทบตายไม่เคยโผล่หน้าไปดูให้กำลังใจกันเลย จากคุณ : คนข้างถนน เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 55 16:17:24

ความคิดเห็นที่ 22 All of the above จำเป็นหมดแหละค่ะ :) จากคุณ : kaikung เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 55 16:25:31

ความคิดเห็นที่ 23 เรียงตามลำดับเลยครับ 1แล้วตามด้วย2 สำคัญทั้งคู่ แต่ต้องทำ1ก่อน ถ้าไม่มีงบ 2รอเอกชนก็ได้นะ เยอะแยะกว่า รัฐอีก รัฐเอางบไป1ให้หมดเถอะ ขอแบบตรวจสอบงบได้ด้วย จะได้ไหมเนี่ย ประเทศไทย ไม่อยากได้ กิน3ส่วนใช้1ส่วน จากคุณ : Ares เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 55 16:27:35 A:118.172.141.213 X: TicketID:368916

ความคิดเห็นที่ 24 ข้อ 1 ไทยเราเคยมี 1 รัฐวิสาหกิจ 1 สมาคมกีฬา ตอนนี้ยังมีอยู่หรือเปล่า ถ้ามีก็ดี ช่วยสมาคมกีฬาและนักกีฬาไได้เยอะ ควรเชิญชวนเอกชนมาร่วมสนับสนุนด้วยนะครับ ข้อ 2 ตีความได้หลายอย่าง เช่น ทำเอาหน้า เพื่อการตลาด เพื่อการโปรโมทตัวเอง แต่ก็ดีขอให้จ่ายจริง และเงินถึงนักกีฬาจริง ๆ บางองค์กรเขาก็ต้องการสนับสนุนจริง ๆ แล้วแต่ใครจะมอง จากคุณ : michaeltawan (michaeltawan) เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 55 17:54:44

ความคิดเห็นที่ 25 ฝึกสิครับ จากคุณ : Sifer2002 เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 55 18:57:45

ความคิดเห็นที่ 26 ไม่มีข้อ 1 ไปแข่งก็สู้กับประเทศอื่นยาก ไม่มีข้อ 2 หาคนมาเล่นกีฬายาก ขาดแรงกระตุ้นก็สู้เขาไม่ได้อีกนั่นแหละ จำเป็นต้องมีทั้งสองอย่างครับ จากคุณ : brmutd เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 55 19:20:22

ความคิดเห็นที่ 27 ถ้าเปรียบกับมนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ ก็ข้อ 1 เหมือนเงินเดือน ข้อ 2 เหมือนโบนัส  ซึ่งแต่ละอย่างก็มีข้อดีข้อด้อยภายในตัวเอง ควรจะทำควบคู่กันไป จากคุณ : 123 ปลาฉลามขึ้นบก เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 55 19:50:46