ความคิดเห็นที่ 1 - ความสำเร็จครั้งแรก ในปี พ.ศ. 2499 เฉิน จิงไค่ นักกีฬายกน้ำหนักจีน ได้สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้การกีฬาจีน เมื่อทำลายสถิติโลกยกน้ำหนัก เป็นนักกีฬาคนแรกของจีนที่ทำลายสถิติโลกได้ ซึ่งถ้านับเวลา ก็เพียง 7 ปี หลังจากที่จีนก่อตั้งเป็นสาธารณรัฐฯ และยังคงเต็มไปด้วยร่องรอยแห่งความบอบช้ำเกือบสิ้นชาติ มีปัจจัยพัฒนากีฬาเพียงน้อยนิดแร้นแค้น ความสำเร็จครั้งแรกนั้น จึงถือเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากทางจิตใจ ปี พ.ศ. 2502 สามปีถัดจากความสำเร็จของ เฉิน จิงไค่ การกีฬาจีนก็ได้บันทึกอีกว่า หรง กั่วถวน นักกีฬาปิงปองจีน คว้าแชมป์โลกชายเดี่ยว ในรายการ เทเบิลเทนนิสโลก ครั้งที่ 25 กลายเป็นแชมป์เปี้ยนโลกรายการแรกในประวัติศาสตร์ของจีน และเพิ่มจำนวนชัยชนะในรายการต่างๆ มากขึ้นๆ ก่อนที่จะถึงคราวทีมนักกีฬาหญิงของตนพบความสำเร็จครั้งแรก ในการแข่งขันวอลเล่ย์บอลชิงแชมป์โลก ปี พ.ศ. 2524 จากคุณ : tongthekop เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 55 15:14:30

ความคิดเห็นที่ 2 และเมื่อจีนเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ที่ลอสแอนเจลิส สหรัฐฯ พ.ศ. 2527 อันเป็นการเข้าร่วมครั้งที่สอง ซึ่งเว้นว่างห่างจากครั้งแรกนานถึง 30 ปี (จีนเข้าร่วมครั้งแรกใน ปี พ.ศ. 2496 ที่กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์) หลี่ หนิง นักกีฬายิมนาสติกจีน เป็นนักกีฬาจีนคนแรกที่ได้เหรียญโอลิมปิก และเป็นการได้ชนิดกวาดเหรียญ เมื่อคว้ามามากถึง 6 เหรียญ (3 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง) หรง กั่วถวน นักกีฬาปิงปองจีน แชมป์โลกชายคนแรกในรายการเทเบิลเทนนิส (ภาพเอเยนซี) จากคุณ : tongthekop เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 55 15:16:27

ความคิดเห็นที่ 3 ในโอลิมปีกเกมส์ 2004 (พ.ศ. 2547) ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ จีนได้เหรียญรวมทั้งสิ้น 63 เหรียญ เป็นที่สองรองจากสหรัฐฯ ซึ่งทำได้รวม 101 เหรียญ โดยหนึ่งใน 32 เหรียญทอง ที่จีนได้ในการแข่งขันครั้งนั้น คือเหรียญของ หลิว เสียง นักกรีฑาจีน ซึ่งชนะเลิศในประเภท วิ่งข้ามรั้ว 110 เมตรชาย ด้วยเวลาอันเป็นสถิติโอลิมปิก 12.91 วินาที และเท่ากับสถิติโลกที่ โคลิน แจ็กสัน นักกีฬาจากสหราชอาณาจักร เคยสร้างไว้ในปี พ.ศ. 2536 ขึ้นทำเนียบเป็นหนึ่งในมนุษย์หกคนที่สามารถวิ่งในกีฬาประเภทนี้ ด้วยเวลาต่ำกว่า 13 วินาที ซึ่งในอีกสองปีถัดมา (2549) หลิว เสียง ก็ได้สร้างสถิติโลกใหม่ 12.88 วินาที นับเป็นการทำลายทั้งสถิติและมายาคติ ที่มีบรรดาผู้เชี่ยวชาญทางวิทยาศาสตร์กีฬากล่าวอ้างมาตลอดว่า ด้วยข้อจำกัดทางด้านสรีระ นักกีฬาเอเชียจะไม่มีทางประสบความสำเร็จระดับโลกในกีฬาประเภทลู่และลาน       ความสำเร็จของการกีฬาจีน กลายเป็นเรื่องง่าย และง่ายขึ้นเรื่อยๆ นับจากปี พ.ศ. 2527 ที่จีนสามารถหยิบเหรียญแรกในกีฬาโอลิมปิก มาจนถึง โอลิมปิกครั้งล่าสุด (พ.ศ. 2551) จีนสามารถคว้าเหรียญได้รวม 100 เหรียญ โดย 51เหรียญ หรือกว่าครึ่งหนึ่ง เป็นเหรียญทอง มากกว่าชาติใดๆ ในโลก เพราะขณะที่ สหรัฐฯ คว้าเหรียญรวมทั้งหมดได้เป็นอันดับหนึ่ง 110 เหรียญ ยังเป็นเหรียญทองเพียง 36 เหรียญ หลี่หนิง "เจ้าชายยิมนาสติก" นักกีฬาจีนคนแรกที่ได้เหรียญโอลิมปิก หลี่ หนิง อำลาวงการยิมนาสติกในปี พ.ศ. 2531 หลังใช้ชีวิตอยู่บนห่วง บาร์คู่ บาร์เดี่ยว และม้าหมุน ฯลฯ นาน 19 ปี คว้าเหรียญรางวัลจากการแข่งขันต่างๆ มามากถึง 106 เหรียญ (ภาพเอเยนซี) จากคุณ : tongthekop เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 55 15:17:54

ความคิดเห็นที่ 4 ล่าสุดนี้ ข้อมูลสถิติการกีฬาจีน ปี 2552 ระบุว่า นักกีฬาจีนได้ก้าวขึ้นเป็นแชมป์โลกมาแล้ว 2,310 รายการ และในจำนวนนั้นเป็นการสร้างและทำลายสถิติโลกมากถึง 1,195 รายการ กีฬา คือหนึ่งในสิ่งดีที่สุด ที่จีนได้สนับสนุนให้แก่มวลชนในประเทศของตน (ภาพเอเยนซี) แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 55 15:19:00 จากคุณ : tongthekop เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 55 15:18:41

ความคิดเห็นที่ 5 - กีฬากับเศรษฐกิจ นับตั้งแต่ที่จีนปฏิรูปเศรษฐกิจ เมื่อ 30 ปีก่อน อุตสาหกรรมกีฬาภายในประเทศจีน ได้เติบโตอย่างแข็งแกร่งมากขึ้น มีทัวร์นาเมนต์รายการแข่งขันกีฬาระดับประเทศจนถึงระดับโลกมากมายเหลือคณา ส่งผลให้ตลาดธุรกิจกีฬาขยายตัวอย่างมาก มีขนาดอุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์กีฬาใหญ่ที่สุดในโลก สร้างอาชีพให้นักกีฬาและประชาชนจำนวนมาก หนึ่งในนั้นคือ หลี่ หนิง "เจ้าชายยิมนาสติก" ผู้ผันตนเองมาทำธุรกิจเสื้อผ้าและผลิตภัณฑ์กีฬารายใหญ่แบรนด์เดียวกับชื่อตนเอง       นอกจากธุรกิจของเอกชนแล้ว รัฐบาลยังส่งเสริมให้มีการออกสลากกินแบ่งเพื่อการกีฬา มูลค่ากว่า 2.38 แสนล้านหยวน ที่นำกลับไปพัฒนากิจกรรมสาธารณะต่างๆ ด้วย       -   โอลิมปิกเกมส์ 2008 และ เอเชียนเกมส์ 2010 การได้เป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิก ปี พ.ศ. 2551 (ค.ศ. 2008) และคว้าเหรียญทองมากที่สุด ไม่ได้เป็นเรื่องที่อยู่เกินเลยความคิดฝันของบรรดาผู้นำยุคสร้างชาติจีน เมื่อ 60 ปีก่อน เพราะวิสัยทัศน์ด้านการกีฬาของจีน เป็นสิ่งที่ชัดเจนเสมอมา และเมื่อจีนได้เป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกจริง รัฐบาลก็ได้ประกาศทันที ให้วันเปิดมหกรรมกีฬานี้ (วันที่ 8 สิงหาคม) เป็นวันสำคัญระดับชาติ โดยกำหนดให้เป็น "วันสุขภาพอนามัยแห่งชาติ" (National Fitness Day) ด้วย       ในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 16 หรือกวางโจวเกมส์ 2010 (พ.ศ. 2553) “ฌาคส์ ร็อก” ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ได้กล่าวกับสื่อมวลชนว่า มีสิ่งสำคัญ 3 ประการซึ่งจะได้ประจักษ์ในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ หนึ่งนั้นคือ อัจฉริยภาพทางกายภาพที่จีนแสดงให้เห็นในการแสดงของพิธีเปิด สองคือ การหลอมรวมใจและแสดงให้ชาวโลกได้เห็นความยิ่งใหญ่ของชาติในเอเชีย และสำคัญที่สุดคือการที่จีนได้เป็นผู้นำในการแสดงให้เห็นความสำคัญของการพัฒนาการกีฬาว่ามีคุณูปการอันยิ่งใหญ่แก่ประชาชนอย่างไร       60 ปีที่ผ่านมา อาจเป็นเวลาเพียงสั้นๆ ชั่วชีวิตคนๆ เดียว แต่สำหรับบรรดาผู้เฒ่าจีนที่เมื่อครั้งวัยเด็ก ได้ผ่านพบความแร้นแค้น เห็นความอ่อนแอ ขี้โรคขี้ยา กระทั่งล่วงสู่วัยชรา ทันดูความสำเร็จของลูกหลานตนวันนี้ คงได้แต่หันไปรำลึกภาพอดีตอีกครั้ง แน่นอนว่าหนทางที่ผ่านมาไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่กลับเต็มไปด้วยน้ำตาและหยาดเเหงื่อ ซึ่งเขาเหล่านั้นสามารถชื่นชมและยืนยันกับตนเองในวันนี้ว่า กีฬา คือหนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุด ซึ่งรัฐสามารถสร้างให้แก่มวลชน ที่มา http://www.manager.co.th/china/ViewNews.aspx?NewsID=9530000167168 แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 55 15:20:35 จากคุณ : tongthekop เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 55 15:19:57

ความคิดเห็นที่ 6 หลี่หนิง "เจ้าชายยิมนาสติก" นักกีฬาจีนคนแรกที่ได้เหรียญโอลิมปิก หลี่ หนิง อำลาวงการยิมนาสติกในปี พ.ศ. 2531 หลังใช้ชีวิตอยู่บนห่วง บาร์คู่ บาร์เดี่ยว และม้าหมุน !!! จากคุณ : เล่าสู่กันฟัง เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 55 15:26:42 A:58.9.188.123 X: TicketID:326785

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณ จขกม มากครับที่ไห้ความรู้ ประวัติเเละความเป็นมา จากคุณ : คนตัวลาย เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 55 15:33:45 A:110.168.245.241 X: TicketID:364886

ความคิดเห็นที่ 8 วันนี้ 8 สิงหาคม เมื่อ 4 ปีที่แล้ว (8 สิงหาคม 2008) ตรงกับวันพิธีเปิดปักกิ่ง เกมส์พอดีเลยครับ จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 55 15:35:14

ความคิดเห็นที่ 9 ข้อมูลดีมากๆครับ ใครช่วยส่งต่อให้ รมต.กีฬา ทีครับ จากคุณ : greatdent (greatdent) เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 55 15:52:04

ความคิดเห็นที่ 10 จีนนี่เคยโดนอังกฤษเอาฝิ่น (opium) มามอมเมาด้วยนะครับ แต่ตอนนี้จีนแซงอังกฤษไปโลดละ จากคุณ : PEDestrain เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 55 16:04:57

ความคิดเห็นที่ 11 หลี่หนิงในยุคปัจจุบัน เจ้าของบริษัทผลิตภัณฑ์กีฬาอันดับหนึ่งของจีน จากคุณ : ATP52 เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 55 16:26:24

ความคิดเห็นที่ 12 #4 โรงงานผลิตนักปิงปองจริงๆ ด้วย จากคุณ : iMAD เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 55 16:27:29

ความคิดเห็นที่ 13 หลี่หนิง นี่สุดยอดจริงๆ จากสุดยอดนักกีฬากลายเป็นสุดยอดนักธุรกิจ จากคุณ : เส้นใหญ่พิเศษ เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 55 16:32:43

ความคิดเห็นที่ 14 11 ตอนนี้รวยเลย จากคุณ : ชื่อนี้มีคนใช้แล้ว เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 55 16:33:56

ความคิดเห็นที่ 15 หลี่ หนิง ประสบความสำเร็จในอุปกรณ์ม้าหมุน ม้าหมุนในยิมนาสติกนี่มันอุปกรณ์อะไรเหรอครับ??? จากคุณ : Mario A เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 55 16:38:53

ความคิดเห็นที่ 16 คนเค้าเยอะด้วยแหละ ตั้งสองสามพันล้าน มันก็ต้องมี อภิมหาสุดยอดซักคนแหละ แล้ว รบ. เค้าสนับสนุนอีก ก็ไม่แปลกที่เค้าจะครองเหรียญทอง จากคุณ : คุณหนูผลไม้รูปไข่ เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 55 17:15:38

ความคิดเห็นที่ 17 คห16 1,300 ล้านครับ ไม่ใช่ 2-3 พันล้าน จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 55 17:23:27

ความคิดเห็นที่ 18 ผมว่าก็มีส่วน  แต่คนจีน  ก็เก่งมานาน แล้วมากกว่า  ขี้โรค คงไม่เท่าไหร่  เพียงแต่เมื่อก่อนไม่เอาจริงเอาจัง     แล้วที่สำคัญ  ถ้าลองดู  ข้อมูลเก่าๆ ดู  ลองดูจำนวนเหรียญ ที่จีนได้   มาจากกีฬา ที่บรรจุเข้าไปใหม่ๆ  ซะเยอะ  เรียกว่า  กีฬาใหม่ๆ  นี่ จีนเก็บหมด   ไม่ว่าจะโอลิมปิก รึ เอเชี่ยนเกมส์ และที่สำคัญก็อีกอย่าง  เพราะคนจีนไม่รู้จะทำอะไร  งานการอาชีพอะไรก็ไม่ค่อยมีมาก ก็เหลือกีฬานี่แหละ ที่เอาเป็นอาชีพได้   ถ้าเป็นประเทศ อื่นๆ  ไม่เป็นนักกีฬา บางคนไปเป็นอาชีพอื่นเยอะแยะ  แต่จีนนี่กีฬาถือเป็นที่สุดของอาชีพที่ดีมาก อย่างเมกา  คนไม่ค่อยมีความอึด ชอบใช้สมองมากกว่า  ในขณะที่คนจีน  พูดถึงเรื่องความ อึดความทนทานแล้ว  ไม่ธรรมดามานานแล้ว   แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 55 17:34:40 จากคุณ : อิจิตากะ เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 55 17:28:20

ความคิดเห็นที่ 19 จีน โดนฝรั่งหรือแม้แต่เอเชียด้วยกันอย่างญี่ปุ่น ดูถูกไว้เยอะมากในช่วงปลายราชวงศ์ชิงต่อยุคสาธารณรัฐ ก็เลยมีแรงฮึดมากเป็นพิเศษที่จะพิสูจน์ตัวเองว่าสามารถเอาชนะฝรั่งได้ ของบ้านเราดูเหมือนจะตรงกันข้าม ถูกฝรั่งอวยไปอวยมา เลยกลายเป็นไม่มีแรงฮึด ต้องตามหลังฝรั่งกันอยู่ร่ำไป จากคุณ : เกียรตินำ เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 55 17:36:15

ความคิดเห็นที่ 20 #19 ก็นะ แต่คนไทยชอบให้อวยอยู่แล้ว  ถ้าพูดตรงๆว่า มีตัวไม่ดี นี่ไม่ชอบเลย จะโกรธมาก   และก็หลงตัวเองมากด้วย  ประเภทว่า  ถ้าแพ้ใครก็มักจะหาว่าอีกฝ่ายโกงซะเป็นส่วนใหญ่ จากคุณ : อิจิตากะ เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 55 17:47:25

ความคิดเห็นที่ 21 สารขัณฑ์สร้างแต่ห้าง แล้วมันจะพัฒนากีฬาได้ยังไง จากคุณ : naibig เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 55 01:24:17