Roman Forum : เปิดใจ เด รอสซี่ (แบบละเอียดยิบ) "ผมไม่เคยคิดย้ายไปจาก โรม่า"

นานๆมาเจอกันสักทีครับ สำหรับ Roman Forum บ้านของชาวหมาป่า โรม่า ในบอร์ดแห่งนี้ ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีกระแสข่าวของ เด รอสซี่ เรื่องตัดสินใจอนาคตของตัวเอง ซึ่งเขาก็ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเปิดใจไปแล้ว เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งผมได้แปลและเรียบเรียงไว้ลงในเว็บโรม่าไทย แต่เห็นว่าเนื้อหามันเยอะมาก ได้รับรู้เรื่องราว ความรู้สึกของเขาเยอะ เลยอยากแชร์ให้แฟนๆหมาป่าในนี้ รวมถึงแฟนๆกัลโช่ และลีกอื่นๆได้อ่านกันครับ มีรายละเอียดดังนี้



ความจริงจาก เด รอสซี่ - ทำไมไม่ออกมาพูดแต่เนิ่นๆ

วันนี้ ผมสามารถบอกความจริงให้พวกคุณฟัง บนโต๊ะแถลงข่าวแบบนี้ซึ่งก็มีอยู่แล้วทุกๆปี ผมพูดตั้งแต่ที่ อีร์ดนิ่ง ไม่ได้ เพราะผมพยายามจัดการกับบรรดาข่าวลือว่ามันไปถึงไหนกันบ้างแล้ว ผมอยากรู้เรื่องราวทั้งหมดเช่นกัน

กับตอนที่ผมอยู่ช่วงเตะให้ทีมชาติก็ด้วย ผมต้องเคารพ และดูช่วงเวลาที่เหมาะสม ผมตัดสินใจที่จะพูดในวันนี้ ผมไม่ต้องการจุดประเด็นสงครามโลกครั้งที่ 3 หรอก


เมื่อสื่อปั้นเรื่องจนบานปลาย เป็นจุดเริ่มต้นที่จำเป็นต้องออกมาพูด

ถ้าเราพูดกันถึงความสนใจจากทีมต่างๆ ผมคิดว่าปกติทีมก็ได้รับข้อเสนอเกี่ยวกับนักเตะคนสำคัญแทบจะตลอดอยู่แล้ว และนี่คือสิ่งที่ผมรู้สึกว่า ผมต้องออกมาพูดแบบเปิดใจ ผมจะบอกว่าผมอยู่ที่นี่ ผมมีความสุขที่โรม และผมไม่เคยร้องขอในการย้ายทีมเลย

มีการพูดกันว่าผมได้ติดต่อกับ มันชินี่ ทั้งส่งข้อความ ทั้งคุยโทรศัพท์ หรือการให้สัมภาษณ์ของเขา ทั้งหมดนั่นถูกปั้นเรื่องขึ้นมาเอง บางเรื่องมันก็ทำให้ผมขำ เพราะมันมาจากคนเขียนหน้าเดิม ที่ผมเคยมีเรื่องในศาลมาแล้ว ที่น่าโมโหมากกว่าคือบรรดาพวกที่เหลือ เพราะการเขียนแบบส่งเดช จะทำให้คนทั่วไปมองผมในแง่ลบได้


ถ้ามีอะไรคือพูดตรงๆ และเชื่อเถอะว่าไม่เคยคิดย้ายทีม

สิ่งหนึ่งที่ผมให้สัญญาได้เลยคือ วันหนึ่ง ถ้าผมคิดจะย้ายจาก โรม่า นะ ซึ่งผมก็คิดว่ามันยากอยู่ดี เพราะผมก็อายุ 29 แล้ว วันนั้นนะ ผมจะมาที่นี่ และรับผิดชอบกับการตัดสินใจของตัวเอง ผมจะพูดตรงๆเลยว่าผมต้องการย้ายทีม แต่ความเป็นจริงคือ ผมไม่เคยพูด ไม่ว่าจะกับผู้อำนวยการของ โรม่า หรือผู้อำนวยการของทีมอื่น

นี่คือความจริง และผมขอให้คุณเชื่อเถอะครับ ผมหวังว่าสิ่งที่ผมได้กระทำมาทั้งหมดตลอดอาชีพการค้าแข้งของผมจะยืนยันสิ่งที่พูดนี้ได้ ผมไม่เคยร้องขอที่จะย้ายไปจาก โรม่า เลย


นักเตะทุกคนมีสิทธิ์โดนขาย จึงไม่แปลกที่จะน่าสงสัย

มันยากที่จะอธิบายสิ่งที่พวกคุณอาจจะเรียกมันว่า "ข้อเสนอที่ไม่เหมาะสมต่อต้นสังกัด" เพราะบางคนคิดว่าผมมีค่าตัวร้อยล้าน บางคนก็ว่าศูนย์ กับสิ่งที่ ซาบาตินี่ เคยพูดว่าไม่มีนักเตะคนไหนที่ไม่อาจถูกพิจารณาขายได้นั้น เอาตรงๆ ผมก็คิดว่าเป็นเรื่องจริง และเราก็ได้เห็นกันมาหลายครั้งในวงการฟุตบอล ในอดีตก็มี ซีดาน หรือนักเตะในระดับเดียวกับเขาถูกขายมาแล้ว ดังนั้นในกรณีของผมจึงตกอยู่ในข่ายต้องสงสัยทันที ถ้าหากมีข้อเสนอระดับมหาศาลเข้ามา

ผมรู้ว่ามีแฟนๆคลั่งไคล้ในตัวผมเยอะ เราได้เห็นกันในสนามแล้วในเกมอุ่นเครื่องที่ผ่านมา และผมคิดว่าผมอยากที่จะเป็นคนสำคัญคนนั้น สำหรับแฟนๆอยู่เสมอ ไม่ใช่ว่าสำคัญเพราะผมเป็นชาวโรมัน แต่สำคัญตรงผมเป็นนักเตะที่ดี


แมนฯซิตี้ ต้องการตัว แต่ไม่ได้เปิดการเจรจาจริงจังกับ มันชินี่

สโมสรที่พวกคุณก็รู้ชื่อดีอยู่แล้ว ต้องกา่รตัวผม และจริงๆก็ยังมีอีก 2-3 ทีมที่แสดงความสนใจ แต่รองๆลงไป มีบางอย่างเริ่มต้นขึ้นระหว่างช่วง ยูโร แต่การรุกคืบครั้งใหญ่เกิดขึ้นจากทีมนั้นที่พวกคุณรู้จักดีนั่นแหล่ะ

ถ้าจะถามเรื่องความสัมพันธ์ของผมกับ มันชินี่ ผมขอเริ่มจากเอเย่นต์ก่อน เพราะเป็นคนที่ติดต่อกับผมตลอด ผมคุยกับเอเย่นต์ และเขาก็ทำงานในสิ่งที่ผมสนใจ ผมได้คุยกับ มันชินี่ แค่ครั้งเดียว ผมบอกเขาในสิ่งที่ผมคิด มันเป็นการเคารพซึ่งกันและกัน และผมก็หวังว่าเขาจะไปได้สวย แต่ผมไม่ได้สนิทกับเขา ไม่ใช่เพื่อนที่จะคุย หรือติดต่อกันเป็นประจำหรอกครับ


มันชินี่ ไม่เคยลบหลู่ความจงรักภักดีของ ต๊อตติ

ผมรู้สึกกดดันอะไรหรือเปล่า? มันเป็นเรื่องของสื่อที่ต้องจัดการกันเอง ไม่เกี่ยวกับผม และมันก็จบลงเรียบร้อยแล้ว มีบางคนถึงกับลงคำพูดว่า มันชินี่ พูดอะไรบางอย่างกับผมทำนองว่า "ถ้ายังอยู่กับ โรม่า คุณก็จะจบเส้นทางอาชีพแบบ ต๊อตติ" ประมาณว่าร้างถ้วย ซึ่ง มันชินี่ ไม่เคยพูดแบบนั้นกับผมเลย เท่าที่ผมรู้ โค้ชทีมซิตี้ ยกย่อง ต๊อตติ อยู่บ่อยครั้ง

อย่างน้อยๆกัปตันของเราก็จะเลิกเล่นโดยที่เคยคว้า สคูเด็ตโต้ ไปแล้ว และผมก็อยากจะเป็นแบบเขาตั้งแต่ตอนนี้เลย เราต้องยอมรับเลยว่ามีนักเตะไม่กี่คนที่เหมือนเขา ผมคิดว่าเขาสมควรได้รางวัลตอบแทนมากกว่านี้ ผมเป็นนักเตะที่ดีก็จริง แต่ผมไม่มีพรสวรรค์เท่าเขา สำหรับผมแล้ว ในอีก 5 ปีนี้ การคว้าสคูเด็ตโต้สักครั้ง มันก็ถือเป็นสิ่งเติมเต็มอาชีพค้าแข้งของผมได้ดีที่สุดแล้วล่ะ แม้ว่าผมจะอยากได้มันทั้ง 5 สมัยเลยก็ตาม!


ชัดเจน! เด รอสซี่ จะย้ายหรือไม่ อยู่ที่สโมสร ไม่ใช่นักเตะ

แล้วทางสโมสรเคยคิดที่จะขายผมหรือเปล่า? มันเป็นคำถามที่ชัดเจนมากครับ ผมคิดว่าสโมสรเป็นฝ่ายต้องตอบแล้วล่ะ แต่ถึงผมจะพูดแบบนั้น ผมทราบดีว่าทางสโมสรมองว่าผมเป็นนักเตะที่สำคัญมากๆ และเราก็ได้เห็นแล้วจากการเซ็นสัญญาใหม่ก่อนหน้านี้ ผมได้ข้อเสนอชั้นยอดจากทีม รวมถึงรายละเอียดในด้านอื่นๆ ที่ผมคิดว่าเราคงยากที่จะได้เห็นมันอีกใน อิตาลี

ก็อย่างที่ผมบอกครับ ผมเลือกเส้นทางเดินของผมแล้วเมื่อ 5 เดือนก่อน หรือจะบอกว่าผมได้เลือกมันตั้งแต่ 30 ปีที่แล้ว ตั้งแต่ผมเกิดก็ได้ และผมยืนยันเส้นทางชีวิตของผมอีกครั้ง ผมเลือก โรม่า ครับ คุณรู้ไหม เมื่อ 5 เดือนก่อน ตอนที่ผมเซ็นสัญญาใหม่ ตอนนั้นเป็นช่วงที่หิมะตก มาถึงวันนี้ ช่วงซัมเมอร์ที่ร้อนตับแตก อุณหภูมิ 40 องศา ผมก็ยังไม่เปลี่ยนใจ ผมไม่ใช่คนโลเลเพียงเพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย


ต่อให้ทีมคิดจะขาย นักเตะก็ไม่คิดจะย้าย

อย่างที่ผมบอก ผมไม่เคยคิดที่จะย้ายทีม แล้วถ้าเกิดทีมคิดจะขายผมขึ้นมาจริงๆ ผมจะทำยังไงน่ะเหรอ? ผมได้คุยกับเอเย่นต์ตัวเอง บอกกับทุกๆสโมสรที่สนใจผม และบอกกับ โรม่า เองอยู่ตลอด ด้วยประโยคเดียวกันว่า "ผมต้องการที่จะอยู่ที่นี่"

ถ้าจะมีเหตุผลอื่นๆ เช่นว่า ผมไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีม หรือเป็นส่วนหนึ่งในโครงสร้างสโมสรอีกแล้ว มันก็ต้องดูเหตุผลที่ผมรับได้ ยกตัวอย่างเช่นกรณี เนสต้า ที่ผมยังจำได้ ตอนนั้น ลาซิโอ มีปัญหาด้านการเงินอย่างหนัก และไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากขายเขาเพื่อรักษาทีมไว้ และทาง เนสต้า เอง ก็ยอมรับเหตุผลนั้น แต่ผมคิดว่า โรม่า ในตอนนี้ ไม่ได้มีปัญหาเรื่องนี้นี่ครับ ดังนั้นก็ตัดประเด็นทิ้งไปอีก


พอใจกับการลงทุนในตลาดนักเตะ

หลังจากเกมสุดท้ายในฤดูกาลก่อน กับ เชเซน่า ผมถูกซักถามมาเหมือนกันว่า โรม่า ต้องการอะไร ที่จะทำให้ทีมมีลุ้นแชมป์มากขึ้นในอนาคต ผมก็เลยบอกว่าเราต้องมีการลงทุนซื้อนักเตะมาเสริม และก็มีการลงทุนเกิดขึ้นจริงๆในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา มีนักเตะที่หลายทีมอยากได้ แต่เป็นเราที่คว้าเขามาได้ ไม่ใช่แค่กองหน้าชั้นยอด (เดสโตร) และฟูลแบ็กชั้นนำ (บัลซาเร็ตติ) แต่ยังรวมถึงคนอื่นๆที่ผมยังไม่เคยรู้จักมาก่อน ซึ่งผมกำลังทำความรู้จักอยู่ เห็นแบบนี้ คำถามมันก็เหมือนได้รับคำตอบแล้ว

แต่ชีวิตก็แบบนี้ เมื่อมีนักเตะใหม่เข้ามา ก็ย่อมต้องมีนักเตะเดิมจากไป อย่างเช่น ไอน์เซ่, คาสเซ็ตติ, ปิซาร์โร่, โอกาก้า และอาจจะมีตามมาอีก พวกเขาเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของทีม ทุ่มเทให้ทีมมาตลอดทั้งในสนาม และห้องแต่งตัว ตอนนี้เราก็ต้องเดินหน้ากันต่อด้วยนักเตะฝีเท้าเยี่ยมชุดใหม่ และด้วยนักเตะเหล่านี้ เราสามารถเริ่มต้นฤดูกาลได้ดีแน่ๆ ผมคิดว่านักเตะเดิมที่เหลือช่วยเหลือพวกเขาได้ และจำเป็นต้องช่วยด้วย ทั้งหมดก็เพื่อกลับมาสร้างทีมให้แข็งแกร่งเหมือนในอดีตที่เคยเป็น


ความประทับใจต่อเพื่อนใหม่ที่มาร่วมทีม

มันไม่ใช่แค่ใครคนใดคนหนึ่งที่ผมประทับใจเป็นพิเศษหรอก พวกเขาก็ต่างเป็นนักเตะชั้นดีักันหมด ผมรู้จัก เดสโตร กับ บัลซาเร็ตติ มาก่อน แต่กับ ปิริส กับ ทัชต์ซิดิส นี่ต้องบอกว่าเซอร์ไพรซ์ที่สุดเลย เพราะพวกเขาเป็นนักเตะที่ผมไม่เคยรู้จักมาก่อน แต่พูดตรงๆ ผมไม่ได้อยากตกชื่อใครไปเลยนะ สำหรับ แบรดลี่ย์ เขาดูดีกว่าที่ผมคิดไว้เลยล่ะ

และอย่าลืมว่ายังมีนักเตะเดิมอย่าง ลาเมล่า, โบยาน และ ออสวัลโด้ อีก พวกเขามีศักยภาพในการเล่นเกมรุก และสามารถทำสิ่งที่เหลือเชื่อไำด้แน่ๆ กับสไตล์ฟุตบอลของ ซีแมน ส่วน โรมันโญลี่? เขาไม่ได้แค่ถูกค้นพบ เพียงเพราะว่าพ่อของผม ฝึกเขามาในทีมเยาวชนหรอก ผมรู้ว่าสไตล์เขาเป็นแบบไหนอยู่แล้ว ผมหวังว่าเขาและ มาร์ควินญอส พร้อมที่จะโชว์ฝีเท้าให้เห็นแล้ว


แม้ไม่ถึงแชมป์ อย่างน้อยก็ต้องไปแชมเปี้ยนส์ ลีก ให้ได้

เราจะคว้าสคูเด็ตโต้ได้หรือเปล่า? เอาตรงๆเลย ผมไม่อยากเอาคอตัวเองไปพาดเขียงตอนนี้ เพราะการคุยโวตั้งแต่ยังไม่เริ่มฤดูกาล คุณอาจเละเป็นคนหน้าแหกในตอนท้ายได้ เอาเป็นว่าอย่างน้อยที่สุด ผมหวังให้ทีมคว้าพื้นที่ แชมเปี้ยนส์ ลีก ให้ได้ ซึ่งมันก็ไม่ง่ายเช่นกัน ความฝันของผมน่ะเหรอ? หลังจากมีผลงานที่ดีมากๆ กับทีมชาติอิตาลีในช่วงยูโร ผมก็อยากกลับไปเล่นในเวทีระดับยุโรปกับ โรม่า ในรายการใหญ่ๆอีกครั้ง

ส่วนใน เซเรีย อา นั้น ผมคงต้องบอกว่าเรามีการเสริมขุมกำลังมากกว่าทีมอื่นๆ และผมคิดว่าเรื่องคุณภาพของแต่ละทีม มันก็ใกล้เคียงกันมากขึ้น การลุ้นมันก็เปิดกว้างขึ้น ยูเวนตุส อาจจะยังมีทีมที่แข็งแกร่งที่สุดอยู่ แต่ทีมที่แกร่งที่สุดก็ไม่ใช่ว่าจะชนะเสมอไป ซึ่งเราก็ได้เห็นไปแล้วในฤดูกาลก่อนตอนที่ใครๆมองว่า มิลาน เป็นเต็งหามนอนมา ผมยังคิดแบบเ้ดิม ความรู้สึกคือ เราสามารถมีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมได้ครับ


การปรับตัวภายใต้การคุมของ ซีแมน ให้ยืนสูงขึ้น ก็ยิงมากขึ้น

ภายใต้การคุมทีมของ ซีแมน ผมคาดหวังว่าจะพัฒนาฝีเท้าตัวเองได้มากขึ้นหรือเปล่า? ผมคงยังตอบไม่ได้ในตอนนี้ ตอนอยู่ในสนาม ผมเห็นว่าเวลาที่ผมได้บอลในแดนกลาง บรรดาแนวรุกมีการเคลื่อนที่ไปแทบจะทุกๆทางอยู่ด้านหน้า ดังนั้นผมว่ามันน่าจะง่ายขึ้นต่อตัวผมเอง ในการจ่ายบอลช่วยทำประตูที่มากขึ้น บางทีถ้าผมต้องขยับขึ้นมาเล่นสูงขึ้น ซึ่งก็ใช่ว่ามันจะไม่มีโอกาสเกิดขึ้นซะทีเดียว ผมก็คงจะทำประตูได้มากขึ้นด้วย แล้วเรามาคอยดูกัน


ข่าวลือว่ามีปัญหากับ ซีแมน คือเรื่องโกหกทั้งเพ

สื่อมีการเขียนกันไปเองว่าผมมีปัญหากับ ซีแมน ซึ่งนั่นเป็นเรื่องโกหกทั้งสิ้นครับ มันเป็นความจริงที่ว่า ส่วนตัวแล้วผมเข้ากันได้ดีกับ หลุยส์ เอ็นริเก้ โค้ชคนก่อน และผมหวังว่าเราจะไปได้สวยกับเขา ก็คือผลงานในสนาม แต่มันกลับไม่ออกมาเป็นเช่นนั้น แม้ผมเองจะยังเชื่อว่าเขาสามารถพลิกกลับมาพาทีมประสบความสำเร็จได้ก็ตาม

กระทั่งเมื่อมีการตัดสินใจที่จะเปลี่ยนโค้ชใหม่ และมีกระแสพูดคุยกันว่ามีตัวเลือกอยู่ 2 คน คือ มอนเตลล่า กับ ซีแมน ถ้าผมต้องพูดด้วยความสัตย์จริง ผมหวังให้เป็น มอนเตลล่า นั่นเพราะผมรู้จักเขาเป็นอย่างดี และผมคิดว่า ตัวเองก็คงต้องมีปัญหากับ ซีแมน บ้างล่ะ อาจจะเรื่องเล็กๆน้อยๆสักอย่้าง ผมก็คิดมันไปเรื่อย
แต่พอผมได้รู้จักตัวตนของ ซีแมน ตลอดช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาแตกต่างไปจากคนที่ผมเคยคิดไว้แบบคนละเรื่องเลย เขาเป็นคนที่น่ารักมาก มากถึงขนาดที่คุณไม่คิดว่าเขาจะเป็นได้ และผมเข้ากับเขาได้ดีเอามากๆ สำหรับการเล่นในสนาม ใช่มันหนัก และเราต้องวิ่งกันแทบหอบ แต่ผมคิดว่าสุดท้ายแล้วนั่นจะเป็นแรงกระตุ้นที่ดีให้กับเรา


ศึก ซีแมน - ยูเวนตุส กลับมาระอุ! โค้ชมีสิทธิ์พูดในสิ่งที่คิด

คำสัมภาษณ์โจมตี ยูเวนตุส ของ ซีแมน จะส่งผลถึงชัยชนะของทีมเราหรือเปล่า? ผมคิดว่าไม่ครับ ไม่มีทางแน่นอน อย่างหนึ่งที่ผมมั่นใจคือ จริงๆบรรยากาศของความเดือดมันมีขึ้นตั้งแต่ก่อนเริ่มฤดูกาลแล้ว ไม่ใช่แค่การโต้ตอบระหว่างโค้ชของเรา กับ ยูเว่ แต่เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในเกม ซูเปอร์โคปปา ด้วย ในฐานะของแฟนบอล โรม่า คนหนึ่ง ผมก็มอง ยูเว่ เป็นคู่อริ แต่ไม่ใช่กับนักเตะของพวกเขานะ เพราะนั่นก็เพื่อนของผมทั้งนั้น

อย่างไรก็ตามแต่ ผมคิดว่าโค้ชน่าจะมีอิสระในการพูดสิ่งที่เขาคิด แต่ละเรื่องที่เขาเคยพูด ได้กลายมามีอิทธิพลในวงการฟุตบอลไปแล้ว สิ่งที่ผมอยากให้เป็นคือ กระแสทั้งหมดที่เกิดขึ้นตั้งแต่เขาก้าวเข้ามาที่นี่ จะส่งผลให้ทีมทำผลงานที่ดีในสนาม


อยู่กับแฟนบอลที่รักเรา ไม่ฟุ้งซ่านกับเรื่องภายนอก

แฟนบอลของเราสร้างปฏิกิริยาที่ทำให้ผมรู้สึกปลาบปลื้มสุดๆ ระหว่างเกมกับ อริส อย่างที่พวกเขาเคยทำมาตลอด ผมเชื่อเลยว่าผู้คนคงจะรีบเข้ามาพูดถึงผมในแง่ลบ ยามที่ผมทำผิดพลาด และบางคนก็จะเอาเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง นั่นเป็นอะไรที่คุณต้องเจอเสมอในวงการฟุตบอล

ข้อเสนอจากต่างประเทศทำให้ผมหวั่นไหวหรือเปล่า? ผมก็ได้ตอบโจทย์ไปแล้ว ตอนที่ต่อสัญญาในเดือนมกราคม วันนี้ผมแค่มาพูดอย่างเป็นส่วนตัวครับ ถ้าผมจะย้ายออกไป ผมก็จะมา และบอกคุณเองที่โต๊ะแถลงข่าว ผมจะไม่หนี หลบๆซ่อนๆ แล้วโยนความรับผิดชอบให้คนอื่น (เหมือน คาสซาโน่, เอเมอร์สัน, คิวู - ผู้แปลคิดเอง)


ความแตกต่างระหว่างโค้ชเก่า กับโค้ชใหม่

สิ่งที่แตกต่างระหว่าง เอ็นริเก้ กับ ซีแมน ผมคงไม่อาจเปรียบเทียบพวกเขาได้ ผมเข้ากันได้ดีมากกับ เอ็นริเก้ ทั้งเรื่องงานและส่วนตัว แต่ผมยังไม่ได้ใช้เวลาแบบนั้นมากพอกับ ซีแมน

ผมต้องเตรียมรับกับปัญหาในการปรับตัวให้เข้ากับสไตล์ฟุตบอลของเขาหรือไม่? ผมไม่คิดว่าคุณต้องตีลังกาไปทั่วสนามเพื่อให้เข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการหรอกครับ มันยังมีอีกหลายหนทางมากๆในการสื่อสารเกม แต่สุดท้ายแล้ว มันก็ยังเป็นฟุตบอลอยู่นี่ครับ เหอๆ


แปลและเรียบเรียงจาก
http://www.asroma.it/en/news/daniele_de_rossi_press_conference/

แก้ไขเมื่อ 23 ส.ค. 55 11:28:27

แก้ไขเมื่อ 23 ส.ค. 55 11:15:58

จากคุณ	: il giallorossi
เขียนเมื่อ	: 23 ส.ค. 55 11:02:50