ความคิดเห็นที่ 1 เคยรู้มาบ้าง แต่ไม่ทราบรายละเอียด ขอบคุณค่ะ จากคุณ : เขียนบน iPhone (ผีหลายบทบาท) เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 15:50:25

ความคิดเห็นที่ 2 จะรออ่านนะครับ จากคุณ : RichSurfer เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 16:05:17

ความคิดเห็นที่ 3 ฟังเพลง Bed of Roses ของ Bon Jovi รอไปพลางๆ ก่อนละกันครับ จากคุณ : PEDestrain เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 16:17:11

ความคิดเห็นที่ 4 http://en.wikipedia.org/wiki/Wars_of_the_Roses จากคุณ : nancya9 เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 16:21:54

ความคิดเห็นที่ 5 มันเหมือนดอกกุหลาบตรงไหนหว่า จากคุณ : คุณละมุด เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 18:18:06

ความคิดเห็นที่ 6 part 2 พระเจ้าเฮนรี่ที่ 7 ได้ทำให้บ้านเมืองเป็นปึกแผ่นด้วยการอภิเษกสรสกับพระนางอลิซาเบธแห่งยอร์ก เพื่อไม่ให้เกิดสงครามขึ้นมาอีก ถึงอย่างไรก็ตาม ฝั่งยอร์กเชียร์เองก็ยังคงมีความแค้นกับแลงคาเชียร์อยู่ พอเข้าสู่ยุคของการปฎิิวัติอุตสาหกรรม แลงคาเชียร์สามารถประสบความสำเร็จในการทำอุตสาหกรรมผ้าฝ้าย ส่วนยอร์กเชียร์กับล้มเหลวกับการทำอุตสาหกรรมผ้าทอขนสัตว์ *(บางที่มาก็บอกว่าชื่อของสองราชวงศ์ไม่ได้เกี่ยวกับเมืองยอร์กเชียร์และเมืองแลงคาเชียร์ แต่ว่าการแข่งขันกีฬาชนิดต่างๆ ใน 2 เมืองนี้มักจะถูกเรียกว่า "สงครามดอกกุหลาบ" เพราะบริเวณที่อยู่ของราชวงศ์แลงเคสเตอร์อยู่แถว กลอสเตอร์เชอร์ นอร์ธเวลส์ และเชสเชอร์ ส่วนฝั่งของราชวงศ์ยอร์กนั้นอยู่แถว ภูมิภาคชายแดนเวลส์ระหว่างเวลส์และอังกฤษ) แต่สีเสื้อเหย้าของทั้งสองทีม ก็ทำให้ไปสอดคล้องกับประวัติศาสตร์ของประเทศอังกฤษโดยลีดส์เองก็ใส่เสื้อสีขาวเหมือยนกับกุหลาบขาวแห่งยอร์คเชียร์ ส่วนเเมนยูฯ ก็ใส่เสื้อสีแดงเหมือนกุหลาบแดงแห่งแลงคาเชียร์ แก้ไขเมื่อ 09 ต.ค. 55 19:12:04 จากคุณ : RabbitOhiO เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 19:10:54

ความคิดเห็นที่ 7 part 3 สโมสรเเมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ก่อตั้งเมื่อ ค.ศ. 1878 ซึ่งก่อตั้งก่อนลีดส์ ลีดส์ก่อตั้งเมื่อค.ศ.1904 (ในขณะนั้นลีดส์ใช้ชื่อ ลีดส์ ซิตี้) ครั้งแรกที่ทั้งสองสโมสรเจอกัน คือวันที่ 15 มกราคม ปี 1906 แข่งที่สนาม แบงค์ สตรีทของแมนยูฯ โดยมีแฟนไปดู 6,000 คน ซึ่งในนัดนั้นลีดส์ก็เอาชนะไปได้ 3-0 และลีดส์ก็มาแพ้แมนยูที่บ้านตัวเอง 2-1 โดยแข่งในเดือนเมษาในปีเดียวกัน แข่งที่สนามเอลลาน โรดส์ (Ellan Road) สนามเหย้าของลีดส์ การได้เลื่อนชั้นไปเล่นดิวิชั่นแีรก ก็เป็นทางแมนยูฯที่ได้ขึ้นไปก่อน ในฤดูกาล 1905-1906 ส่วนลีดส์ ซิตี้ ก็ล้มละลายไปด้วยปัญหาทางการเงิน พวกเขาจึงก่อตั้งสโมสรใหม่ขึ้นมา ชื่อ "ลีดส์ ยูไนเต็ด" โดยเริ่มเล่นที่มิดแลนด์ ลีก (Midland Leage) โดยใช้ผู้เล่นจาก ลีดส์ ซิตี้ และได้กลับมาใช้สนาม Ellan Rode อีกครั้ง ลีดส์ ยูไนเต็ดได้กลับมาเล่นดิวิชั่น 2 อีกครั้ง ในปี 1920 และเจอกับแมนยูฯ เป็นครั้งแรกที่สนาม โอล แทรฟฟอร์ด ในวันที่ 20 มกราคม 1923 อย่างไรก็ตาม แฟนๆ ที่ไปชมนัดนี้ที่ขอบสนามถึง 25,000 คนต้องผิดหวัง เพราะผลออกมาเสมอ 0-0 แต่อาทิตย์ต่อมา แมนยูก็ออกมาป่้าวประกาศว่ายังไงตนก็จะชนะ ในนัดถัดไป ซึ่งแข่งที่ Ellan Rode และผลออกมาคือ ลีดส์พ่ายไป 0-1 กว่าลีดส์จะคว้าชัยกับแมนยูฯได้ ก็เมื่อฤดูกาล 1925-1926 โดยชนะไป 2-0 ในสนามเหย้าของตัวเอง สนาม Ellan Rode สนามเหย้าของลีดส์ ยูไนเต็ด แก้ไขเมื่อ 09 ต.ค. 55 19:40:37 จากคุณ : RabbitOhiO เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 19:39:56

ความคิดเห็นที่ 8 part 4 และลีดส์ ยูไนเต็ดก็ชนะแมนยู คาบ้านได้ในฤดูกาล 1928-1929 ด้วยสกอร์ 2-1 ที่สนามโอล แทรฟฟอร์ด ในดิวิชั่นแรก ยุคสมัยของ แมต บัสบี้ และ ดอน เรวี่ แมต บัสบี้ ถือเป็นโค้ชระดับปรมาจารย์อีกคนของเเมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เมื่อแมนยูฯมีบัสบี้ ลีดส์ก็มี ดอน เรวี่ ซึ่งตอนเป็นผู้จัดการทีมในปีแรก เขาเป็นทั้งผู้เล่นและผู้จัดการทีมไปด้วย ทางฝั่งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในสมัยนั้น มีผู้เล่นตัวหลักๆ อย่าง บ๊อบบี้ ชาร์ลตัน , เดนิส ลอว์ และจอร์จ เบส ส่วนลีดส์ในขณะที่อยู่ภายใต้การคุมทีมของเรวี่ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จเช่นกัน มีนักเตะหลักๆ คือ พี่ชายของบ๊อบบี้ แจ็ค ชาร์ลตัน , บิลลี่ เบรมเนอร์ และ นอร์แมน ฮันเตอร์ และอีกนักเตะคนสำคัญของลีดส์ ภายใต้การคุมทีมของเรวี่อีกคนคือ นักเตะชาวไอริส จอห์นนี่ กิลส์ ก่อนหน้านี้เขาเล่นให้กับสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และถูกลีดส์ซื้อตัวไปด้วยราคา 33,000 ปอนด์ ในปี 1963 ในฤดูกาล 1964-1965 ทั้งสองทีมต้องเจอกันในรอบเซมิไฟนอลของถ้วย FA Cup ในเกมส์เกิดการทะเลาะวิวาทและชกต่อย ระหว่าง เดนิส ลอว์ และ เเจ็ค ชาร์ลตัน และเมื่อมาเจอกันอีกครั้ง ลีดส์ก็สามารถเอาชัยไปได้ โดยการยิงประตูจาก เบรมเนอร์ ในนาทีที่ 89 รูปเดนนิส ลอว์ ระหว่างเกมส์ จากคุณ : RabbitOhiO เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 20:07:17

ความคิดเห็นที่ 9 part 5 ลีดส์ได้แชมป์ดิวิชั่น 1 ในปี 1992 ภายใต้จอมทัพอย่าง เอริค คันโตน่า แต่แล้วในปีเดียวกัน ก็กลับเสียเขาไปให้ทีมไม้บื่อไม้เมาอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สำคัญกว่านั้น ยังเสียนักเตะคนนี้ไปด้วยราคาแค่ 1.2 ล้านปอนด์ มีอยู่ปีหนึ่ง ประธานปีเตอร์ ริดเดลส์ ได้เข้ามาบริหารลีดส์ ยูไนเต็ด และใช้จ่ายอย่างบ้าคลั่ง ซื้อนักเตะมา โดยไม่สนกำลังเงินของทีม ใช่! นั่นทำให้ ลีดส์เกือบโค่นตำแหน่งจ่าฝูงของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้ แต่แล้วสุดท้ายก็ต้องขายทิ้งคนแล้วคนเล่า ทีมเองก็เริ่มตกต่ำลงเรื่อยๆ ถึงขั้นต้องไปลงเล่นให้กับลีกวัน (ลีกดิวิชั่น 3 ของอังกฤษ) ทุกวันนี้สนามที่เหล่ายอร์คเชียร์แสนจะภาคภูมิใจอย่าง เอลเลน โร้ด ก็ยังต้องเช่าเขาใช้ จากเมื่อก่อน สองทีมที่ห่างกันเพียง 40 ไมล์ ที่น่าสนุก น่าตื่นเต้น แต่ทุกวันนี้มันก็ไม่เหมือนเมื่อก่อน แต่ทุกครั้งที่สงครามกุหลาบแมตช์นี้เกิดขึ้น เหล่าสาวกยอร์คเชียร์ และแลงคาเชียร์ก็ยังคงศรัทธาที่จะดูพวกเขา แม้มันจะไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วก็ตาม... จากคุณ : RabbitOhiO เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 20:20:04

ความคิดเห็นที่ 10 เอาใจช่วยลีดส์ให้ ขึ้นชั้นมาสักทีครับ (เชียร์มาจะ 25ปีละ) จากคุณ : shivaxshiva เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 20:42:54

ความคิดเห็นที่ 11 ทางลีดโทรมาหาป๋าเพื่อจะขอซื้อ เดนิส เออร์วิน แต่ป๋าไม่ขายครับ เลยถามกลับไปว่างั้นขอซื้อคันโทน่าได้หรือเปล่า....สรุปว่าลีดขายมาให้ซะงั้น จากคุณ : กระแตตาโต เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 55 09:03:09

ความคิดเห็นที่ 12 อะให้กิ๊ฟ ชอบกระทู้มีสาระ พักหลังกระทู้เกรียนจะเยอะไปละ 5555 อยากทราบอีกนิดว่าหลังราชวงศ์ Yorkshire ล้มเหลวจากธุรกิจขนสัตว์ มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างสองราชวงศ์อีกรึเปล่าคะ? เห็นเล่าเรื่องราชวงศ์อยู่ก็โดดมาเรื่องทีมบอลเลย ปล่อยกันทิ้งเอาไว้ซะงั้นนน :P เอาใจช่วยให้เลื่อนชั้นไวๆ ค่ะ :) จากคุณ : ตัวตลกสีเทา เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 55 23:00:28

ความคิดเห็นที่ 13 สงสัยอย่างนึงครับ ทำไมแมนซิตี้ถึงไม่ได้มีส่วนในความขัดแย้งนี้ด้วยครับ จากคุณ : Mafiya เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 03:47:15

ความคิดเห็นที่ 14 http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%9A ใครอยากอ่านเกี่ยวกับข้อมูลทางประวัติศาสตร์ลองอ่านเพิ่มเติมได้ครับ จากคุณ : poopup เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 09:50:40