ความคิดเห็นที่ 1 อันนี้เป็น documentary แบบย่อซึ่งไม่มีรายละเอียดเชิงลึก จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:12:40

ความคิดเห็นที่ 2 มาราโดน่าเริ่มต้นที่ Argentinos Junior ตั้งแต่อายุ 16 ปี ซึ่งสมัยนั้น Arg Jr เป็นทีมระดับกลางตาราง แต่มาราโดน่ากลับโชว์ฟอร์มยิงระเบิดด้วยสถิติ (จาก wiki) 115 ประตู จาก 165 นัด ในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุก แต่เป็นที่น่าเสียดายว่ามาราโดน่าที่ Arg. Jr. ไม่ค่อยมีเทปให้ดู เนื่องจากเป็นทีมระดับกลาง จะมีเทปเมื่อเจอกับทีมใหญ่ และที่ดังที่สุดคือแมทช์ที่เจอกับ Boca Jr ซึ่งก่อนแข่งผู้รักษาประตูได้สบประมาทมาราโดน่าเอาไว้ว่า ไม่ได้เรื่องหรอก มาราโดน่าเลยตอกกลับไปว่านัดนี้จะยิง 4 ลูก ดูผลตามวิดีโอครับ จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:13:13

ความคิดเห็นที่ 3 จากนั้นโบค่าก็เลยสอยมาอยู่ด้วย ซึ่งก็เป็นทีมโปรดของมาราโดน่าอยู่แล้ว เช่นเดียวกับที่ Arg jr หาเทปดูยากมากๆ นี่เป็นตัวอย่างแมทช์หนึ่ง จากที่ดูแบบเต็มของบางแมทช์ สนามสมัยนั้นเละสุดๆ ผู้เล่น skills ไม่ถึงจริงๆ เล่นไม่ออกเลย แต่ผู้เล่นเทคนิคสูงมากและโหดมาก จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:13:43

ความคิดเห็นที่ 4 ฟุตบอลอาร์เจนฯ แต่ก่อน ไม่มีแมทช์ไหนสุดยอดเท่า boca vs river plate และนี่คือ มาราโดน่า versus มาริโอ เคมเปส ซึ่งเป็นการชิงมือหนึ่งของอาเจนต์สมัยนั้นนั่นเอง แมทช์นี้ไปเยือน river plt จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:14:10

ความคิดเห็นที่ 5 ส่วนนี่แมทช์เหย้า ซึ่งสรุปแล้ว มาราโดน่าได้รับการยอมรับว่าขึ้นมาแทนที่ เคมเปส และได้แชมป์กับโบค่าในฤดูกาลแรก แฟนรุ่นใหม่อย่าพึ่งคิดว่าลีกอาเจนต์จะเป็นแบบปัจจุบันนะครับ ในช่วงต้นของ 80’s ยังไม่มีการย้ายเข้าไปเล่นที่ยุโรปอย่างจริงจัง ส่วนใหญ่จะย้ายไปเกษียรซะมากกว่า จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:14:37

ความคิดเห็นที่ 6 ทีเด็ดของแมทช์ข้างบนคือ ประตูของมาราโดน่าที่หลอกผู้รักษาประตูแล้วรอหลอกกองหลังอีกคนก่อนทำประตู มาราโดน่ายิงประตูแบบนี้สามครั้งที่ โบค่า บาร์ซ่า และนาโปลี เดี๋ยวจะมีให้ดูใน คคห ต่อๆไป จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:15:06

ความคิดเห็นที่ 7 จากนั้นบาร์ซ่าก็ซื้อตัวมาราโดน่าไปที่สเปนด้วยค่าตัวที่เป็นสถิติโลก ในส่วนของทีมชาติ สิ่งที่มาราโดน่า ผิดหวังมากที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตคือ เมื่ออายุ 16 ปี เขาไม่ติดทีมชาติในบอลโลก 78 ซึ่งเล่นในบ้านตัวเอง ตอนนั้นเหลือผู้เล่นสองคนที่เมน็อตติต้องเลือกเพียงหนึ่งคน หนึ่งในนั้นคือมาราโดน่า แต่เมน็อตติเลือกอีกคนหนึ่งและบอกมาราโดน่าว่า ยูยังจะได้เล่นกับทีมชาติและบอลโลกอีกหลายครั้งอยู่ แต่เบื้องหลังจริงๆ จากที่ฟังจากคนอาร์เจนเล่า นักเตะอีกคนหนึ่งนั้นเข้าหาทหารซึ่งกำลังปกครองประเทศอยู่ช่วงนั้น ให้ช่วยบีบให้เขาติดทีมชาติ มาราโดน่าเลยซวยไป แต่ปีต่อมา 1979 เมน็อตติให้มาราโดน่าสวมปลอกแขนกัปตันลงลุยบอลโลก U20 ซึ่งจัดเป็นครั้งแรกที่ญี่ปุ่น และก็เป็นแชมป์แรกของมาราโดน่า นี่คือแมทช์เจอกับ ยูโก จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:15:35

ความคิดเห็นที่ 8 อันนี้นัดชิงเจอกับ รัสเซีย มาราโดน่ายิงฟรีคิก ไปลูกหนึ่งด้วย มาราโดน่าถูกโหวตเป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์ จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:16:06

ความคิดเห็นที่ 9 จากการปรากฏตัวต่อสายตาชาวโลกในบอลโลก U-20 ทำให้มาราโดน่าได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในสามผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลกในขณะนั้นร่วมกับซิโก้ และรุมมินิเก้ ด้วยอายุเพียง 19 ปี ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหากดูตามฟอร์มที่เขาเล่นในทีมชาติ เช่น ไปเยือนอิตาลี ตอนนั้นขาใหญ่ในทีมเยอะมาก มาราโดน่ายังไม่การันตีการติดทีมชาติแบบ 100 เปอร์เซนต์ จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:16:33

ความคิดเห็นที่ 10 เจออังกฤษที่เวมบลีย์ แมทช์นี้อาร์เจนแพ้แต่เป็นที่ฮือฮามาก เพราะมาราโดน่าลากจากนอกเขตโทษเข้าไปยิงประตู แต่ลูกเฉียดเสาออกไป เมื่อกลับบ้าน น้องชายเขาถามว่าทำไมไม่หลอกโกลก่อนยิงวะ มาราโดน่าเลยปิ๊งไอเดีย และก็เป็นองค์ความรู้ให้กับนักฟุตบอลรุ่นหลังว่าเวลาเผชิญกับโกลในลักษณะนี้ คุณมีทางเลือกสองทาง ถ้าหลบโกลได้น่าจะดีที่สุด จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:17:03

ความคิดเห็นที่ 11 มาราโดน่า เคยเจอกับเบคเค่นบาวในทีมขาติเยอรมันด้วย ซึ่งหลังจบการแข่งขัน เบคเค่นบาวให้สัมภาษณ์ว่า เป็นสุดยอดผู้เล่นที่เก่งกว่าครัฟฟ์แต่ยังเป็นรองเปเล่อยู่ (ตอนนั้นอายุ 21 ปี) จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:17:33

ความคิดเห็นที่ 12 ในยุคนั้นทีมชาติที่ว่ากันว่าเก่งที่สุดคือ บราซิลซึ่งเต็มไปด้วยผู้เล่นเกมรุกระดับตำนานนำโดยซิโก้ ฟัลเกา และโซคราติส นัดนี้เจอกันก่อนบอลโลก 82 ที่สเปน มาราโดน่าลากจากนอกเขตโทษเข้าไปยิงตีเสมอให้กับอาร์เจน จากฟอร์มของมาราโดน่าในทีมชาติและในโบค่า คนก็เริ่มฝากความหวังไว้กับเขา และคิดว่าอาร์เจนจะสามารถป้องกันแชมป์เอาไว้ได้ จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:18:02

ความคิดเห็นที่ 13 แต่พอเริ่มบอลโลก 82 ทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่คิด มาราโดน่ามีการบาดเจ็บในระหว่างฝึกซ้อม ในนัดเปิดสนาม แชมป์เก่าก็แพ้อย่างพลิกล็อคให้กับเบลเยี่ยม  หมายเหตุ ในบอลโลกครั้งนี้พาสซาเรลล่าเป็นกัปตันทีม ครึ่งหลังอยู่นี่ http://www.youtube.com/watch?v=wVlur1I12wc จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:18:44

ความคิดเห็นที่ 14 แต่ก็มาแก้ตัวได้ในนัดเจอ ฮังการี่ จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:19:11

ความคิดเห็นที่ 15 และก็นัดเจอ เอล ซาวาดอร์ จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:19:37

ความคิดเห็นที่ 16 ในรอบสองซึ่งเป็นรอบแบ่งกลุ่มเหมือนกัน อาร์เจน (ซวย) ไปเจอกับอิตาลี่ซึ่งมีกองหลังสุดโหดอย่างเจนติเล่ และเต็งหนึ่งอย่างบราซิล นัดเจออิตาลี่ก็แพ้ไป 2-1 นัดนี้เป็นนัดประวัติศาสตร์ตรงที่เจนติเล่ทำฟาล์วมาราโดน่าอย่างน่าเกลียดหลายต่อหลายครั้ง ถ้าเป็นกติกาปัจจุบันคงได้ใบแดงตั้งแต่ครึ่งแรก แต่กรรมการไม่ทันเกมส์ มาราโดน่าเลยซวยทั้งเจ็บทั้งเหม็น แต่ก็ทำให้เกิดการปฏิรูปมาตรฐานการตัดสินฟุตบอลโลก จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:20:11

ความคิดเห็นที่ 17 นัดนี้ เป็นนัดสุดท้ายของอาร์เจน เจอเต็งหนึ่งตลอดกาล (ในยุคนั้น) บราซิล รูปเกมส์สูสี แต่บราซิลคมกว่า เลยชนะไป 3-1 พร้อมกับมาราโดน่าโดนใบแดง สกอร์อาจดูเหนือ แต่จริงๆเล่นสูสีกันมาก สรุปสำหรับทีมชาติอาร์เจนในทัวร์นาเมนต์นี้คือ fail เนื่องจากยังใช้ผู้เล่นชุดเดิมที่ได้แชมป์ปี 78 โดยไม่ดูว่าบางคนเหลือแต่ชื่อ แต่ฟอร์มหาย เช่น มาริโอ เคมเปส จุดผิดพลาดอีกจุดหนึ่งซึ่งสำคัญมากๆคือ เมน็อตติ ต้องเลือก playmaker ระหว่างมาราโดน่ากับเคมเปส ซึ่งเขาเลือกเคมเปส มาราโดน่าเลยได้ตำแหน่งกองหน้าแทน นั่นทำให้ประสิทธิภาพของมาราโดน่าถูกนำมาใช้ไม่เต็มที่ จะเห็นได้จาก ถ้าใครได้ดู full match ของนัดนี้ เมื่อเมน็อตติเปลี่ยนเอา Diaz ลงมาแทน เคมเปส แล้วดึงมาราโดน่ามาเป็น playmaker และให้ ดิแอซ เป็นกองหน้า เกมส์ของอาร์เจนดีขึ้นทันที และเกือบยิงได้ตั้งหลายครั้ง แต่ก็สายเกินไป จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:20:39

ความคิดเห็นที่ 18 กลับมาทางฝั่งสโมสรบ้าง เมื่อย้ายมาบาร์ซ่าซึ่งยุคนั้นเป็นทีมอัน 4-5 ของลา ลิก้า มาราโดน่าทำท่าจะประสบความสำเร็จในฤดูกาลแรกเลย เมื่อเหลือห้านัดสุดท้าย ทีมอยู่อันดับสองเป็นรองอันดับ 1 อยู่เพียง 1 แต้ม (ถ้าจำไม่ผิด) แต่แล้วมาราโดน่าก็บาดเจ็บ ลงเล่นในอีก 5 นัดไม่ได้ สุดท้ายทีมได้อันดับ 3 นอกจากนี้มาราโดน่าก็มีปัญหากับ ผจก ทีม และเริ่มเสพโคเคนเมื่อตอนอยู่บาร์ซ่านี่เอง vdo เป็นคลิปที่หาดูยากของมาราโดน่าที่บาร์ซ่า จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:21:13

ความคิดเห็นที่ 19 อย่างนี้ต้อง Gift + โหวต จากคุณ : ไปมันทุกห้อง เพราะเราเป็น... (คนทุกห้อง) เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:21:29

ความคิดเห็นที่ 20 แมทช์สำคัญคือ บาร์ซ่า-มาดริด ทั้งในบอลลีกและบอลถ้วย มาราโดน่า ไม่ทำให้ทีมผิดหวัง จัดการมาดริดได้ทุกครั้ง และมีครั้งหนึ่งได้รับ standing ovation จากแฟนบอลมาดริด แบบที่ดิญโญ่ และเมสซี่เคยได้ แต่จำไม่ได้ว่า แมทช์ไหน บาร์ซ่า-มาดริด บอลถ้วย จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:21:46

ความคิดเห็นที่ 21 เจอกับมาดริดในลีก จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:22:16

ความคิดเห็นที่ 22 นี่ก็ฤดูกาลแรก จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:22:46

ความคิดเห็นที่ 23 เจอแล้วนัดที่ได้ standing ovation เป็นฤดูกาลที่สองรู้สึกจะไม่มีเทป แต่โกลนี้คล้ายกับโกลที่ยิงริเวอร์ เพลท แต่เจตนาชัดเจนกว่า คือหลอกผู้รักษาประตูแล้วไม่หนำใจยืนรอหลอกกองหลังอีกคนให้บดไข่เล่นกับเสาโกล ช่วงท้ายของ vdo จะเห็นแฟนมาดริด ลุกขึ้นยืน ชาบู ชาบู ว่าไอ้หมอนี่มันเล่นบอลเพื่อความมันส์มากกว่ามุ่งเอาชัยชนะอย่างเดียว จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:23:18

ความคิดเห็นที่ 24 ฤดูกาลที่สองเล่นไปได้ครึ่งทางก็เจอกอยโกเซีย เสียบขาหักเข้าโรงหมอผ่าตัด จบกัน จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:23:47

ความคิดเห็นที่ 25 หายเจ็บกลับมา ฤดูกาลที่สาม มาเจอแอตแลนติโก้ มาดริดอีก คราวนี้ไม่โดนเสียบขาหักแต่ตะลุมบอนกันทั้งผู้เล่นทั้งแฟนบอล หลังจากนั้นก็โดนแบน ไม่แน่ใจว่านี่คือนัดสุดท้ายของมาราโดน่ากับบาร์ซ่าหรือเปล่า สรุปแล้วคือที่บาร์ซ่า เป็นสามฤดูกาลที่เจ๊กอั๊กสุดๆของมาราโดน่า หนักกว่านั้น ไปทะเลาะกับประธานสโมสรอีก เลยต้องได้เผ่นไปอิตาลี่ จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:24:15

ความคิดเห็นที่ 26 เนื่องจากปีแรกได้บอลถ้วย มาราโดน่าเลยได้เล่นบอลยุโรป (cup winners’ cup) ในเสื้อของบาร์ซ่าหลายแมทช์ อย่างแมทช์นี้เจอบอร์กโด (นัดนี้ เล่นไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ใครขี้เกียจดูข้ามไปได้) จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:24:47

ความคิดเห็นที่ 27 เจอดอทมุนด์ จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:25:21

ความคิดเห็นที่ 28 เจอ เรด สตาร์ เบลเกรด จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:25:51

ความคิดเห็นที่ 29 ปารีส แซงแยแมง จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:26:19

ความคิดเห็นที่ 30 เจอ united บาร์ซ่าเจอบอลโยนสู้ไม่ได้เลย นัดนี้มาราโดน่าเล่นไม่ออกเลย แมนยูเข้ารอบ แต่ท้ายสุดแชมป์น่าเป็นของอเบอร์ดีนของ SAF จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:26:50

ความคิดเห็นที่ 31 จากนั้นมาราโดน่าก็ย้ายไปนาโปลี ขอย้อนกลับไปที่ทีมชาติ ก่อน หลังบอลโลก 82 มาราโดน่า ไม่ใช่ตัวหลักของทีมชาติ แต่เมื่อเปลี่ยนโค้ช เป็นคาลอส บิลลาร์โด้ มาราโดน่ากลับมาได้รับโอกาสในทีมชาติอีกครั้งโดยบิลลาโด้สัญญาว่าเขาจะเป็นตัวหลัก และการสร้างทีมจะมีมาราโดน่าเป็นแกนหลัก คนอื่นที่จะร่วมทีมมีหน้าที่ support มาราโดน่า ด้วยเหตุผลนี้ ทำให้ขาใหญ่อย่างพาสซาเรล่าต้องหลุดจากทีมชาติชุดบอลโลกปี 96 ใน youtube มี vdo ของมาราโดน่าช่วงก่อนบอลดลกอยู่พอสมควร ดังเช่น อุ่นเครื่องกับ กลาส ฮอปเปอร์ ซูริค จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:27:24

ความคิดเห็นที่ 32 เจอ โคลัมเบีย จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:27:50

ความคิดเห็นที่ 33 แต่ที่เป็นที่กล่าวขวัญกันมากที่สุดคือตอนเจอกับเปรู ในการคัดเลือกบอลโลก มาราโดน่าเรียกแมทช์นี้ว่า แมทช์ของเรน่า สาเหตุเพราะอะไรเชิญชม จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:28:20

ความคิดเห็นที่ 34 มาแล้วบอลโลก 86 ว่ากันว่านี่คือช่วงที่มาราโดน่าท้อปฟอร์มที่สุด และนี่คือ individual performance ที่ดีที่สุดตลอดกาลของฟุตบอลโลก เริ่มด้วยรอบแบ่งกลุ่ม เจอกับเกาหลี โดนทำฟาล์วไปสิบกว่าครั้ง มาราโดน่าทำ 3 assists หมายเหตุ มาราโดน่าคือนักฟุตบอลที่มีสถิติถูกทำฟาวล์ในบอลโลกสูงสุด ด้วยสถิติ เจ็ดครั้งกว่าๆ ต่อนัด เกร็ด เล็กน้อย ก่อนแข่งฝรั่งเศสเป็นเต็งหนึ่งจากฟอร์มแชมป์ยูโร 84 และ พลาตินี่กำลังท้อปฟอร์ม และพี่เล่ขาประจำก็บอกว่าพลาตินี่จะเป็นดาวเด่นในทัวร์นาเมนต์นี้ ก็เด่นจริงของเขาอยู่นะแต่มาราโดน่าเด่นกว่ามากเลย ส่วนซิโก้เจ็บเลยจ๋อย ปล 2. มาราโดน่าเริ่มเป็นศัตรูกับฟีฟ่าตั้งแต่บอลโลกครั้งนี้ เพราะไปด่าฟีฟ่าว่างี่เง่าจัดบอลโลกที่อุณหภูมิ 40 องศาเซลเซียส ที่เม็กซิโก จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:28:54

ความคิดเห็นที่ 35 เจออิตาลี่ มาราโดน่ายิงประตูตีเสมอ และเป็นประตูแรกในบอลโลก จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:29:26

ความคิดเห็นที่ 36 เจอบัลกาเรีย จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:29:55

ความคิดเห็นที่ 37 สรุปได้ที่ 1 ของสาย  เจออุรุกวัยในรอบ สอง (ถ้าได้ที่สองคงหนักเพราะจะไปเจอเต็งหนึ่ง ฝรั่งเศส ในรอบสอง) นัดนี้ มาราโดน่ายิงฟรีคิกชนคาน 1 ครั้ง ยังเข้าหนึ่งครั้งแต่กรรมการไม่ให้ (เพราะอะไรไม่ทราบ) และ assist เหน่งๆ 1 ครั้ง แต่เพื่อนทำหมูหก จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:30:27

ความคิดเห็นที่ 38 ในรอบ 8 ทีมเจออังกฤษ คู่สงคราม เกาะฟอร์คแลนด์ ปี 82 อาร์เจนเศร้าสุดๆ เพราะแพ้สงคราม บอลโลกเสียแชมป์ และนักมวยก็เสียแชมป์ แมทช์นี้จึงไม่ใช่ธรรมดา และจากผลการแข่งขันไม่แปลกใจเลยว่าทำไมชาวอาร์เจนร่วมสมัยกับมาราโดน่าถึงได้บูชาเขาเป็นพระเจ้า เพราะการแข่งขันนัดนี้ เป็นการแก้แค้นคู่สงครามได้อย่างเจ็บแสบที่สุดเท่าที่คนๆหนึ่งจะสามารถทำต่อประเทศหนึ่งได้ ด้วยการใช้มือปัดลูกเข้าประตู และตามด้วย goal of the century แสบสันจริงๆ คนอาร์เจนอาจลืมเรื่องเกาะฟอร์คแลนด์ไปแล้ว แต่คนอังกฤษทุกรุ่นไม่มีวันลืมแมทช์นี้ได้ แม้โอเว่นจะเอาคืนได้ในปี 98 มันก็ทำให้รู้สึกดีขึ้นบ้างเท่านั้น แต่ก็ยังเจ็บในรูตูดจี๊ดๆ ปล. นัดนี้มาราโดนาโชว์ 360 turn หรือ maradona turn หรือที่แฟนบอลรุ่นหลังเรียกว่า Zidane roulette เป็นครั้งแรกในบอลโลก จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:31:13

ความคิดเห็นที่ 39 รอบ 4 ทีม เจอเบลเยี่ยม  ผมว่าแมทช์นี้คือแมทช์ที่ดีที่สุดของมาราโดน่าในทัวร์นาเมนต์นี้ แต่เบลเยียมไม่หมูนะ ดูแบบ full match สูสีกันมาก http://www.youtube.com/watch?v=eNRGF9i5pH4 จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:31:45

ความคิดเห็นที่ 40 รอบชิง มาราโดน่าเจอ man-marked โดยมัสเธอุสคู่ปรับตลอดกาล ซึ่งครั้งนี้ ทำได้แคเกือบเอาอยู่ คือป้องกันไม่ให้มาราโดน่าปู้ยี่ปู้ยำเยอรมันในแบบที่ทำกับทีมอื่นได้ แต่ก็แพ้อยู่ดี มาถึงจุดนี้ สื่อทั่วโลกเริ่มถามแล้วว่ามาราโดน่า กับเปเล่ ใครเจ๋งกว่า (และยังเถียงกันเท่าทุกวันนี้ ) จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:32:17

ความคิดเห็นที่ 41 กลับไปที่นาโปลี มาราโดน่ารับข้อเสนอของนาโปลีที่บิดชนะจูเว่อย่างหวุดหวิด (ลองจินตนาการ 3 สุดยอดตัวรุก มาราโดน่า พลาตินี่ และไมเคิล เลาดรุป บวกกับ เหล่าทีมชาติอิตาลี่ในจูเว่ ไม่อยากคิดว่ามันจะสุดยอดขนาดไหน) โดยไม่ได้รู้มาก่อนเลยว่าฤดูกาลที่ผ่านมานาโปลีอยู่ที่ 11 เกือบตกชั้นแบบหวุดหวิด http://en.wikipedia.org/wiki/1983%E2%80%9384_Serie_A นี่คือลูกแรกที่มาราโดน่ายิงเข้าประตูในซาน เปาโล หมายเหตุ เข้าใจว่าการเปิดสนามต้อนรับซุปตาร์ที่ซื้อมาใหม่ของสโมสรต่างๆ ทุกวันนี้ เดาว่าน่าจะได้แบบมาจากที่นาโปลีต้อนรับมาราโดน่าในสมัยนั้น จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:32:50

ความคิดเห็นที่ 42 นัดแรกในซีรี่เอ เจอฟิออเรนติน่าที่มีเจนติเล่คู่แค้นเก่าอยู่ในทีม นาโปลีชนะ 1-0 ด้วยลูก assist อันเหนือชั้นของมาราโดน่า จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:33:24

ความคิดเห็นที่ 43 จากนั้นผ่านไป 15 นัด นาโปลีอยู่ในโซนตกชั้น ชาวเมืองชักลังเลว่าจะขาดทุนย่อยยับหรือเปล่า จนกระทั่งเจอฟอร์มในนัดนี้ทำให้ชาวเมืองเนเปิ้ลเชื่ออย่างสุดหัวใจว่า กำลังจะมีสิ่งดีๆเกิดขึ้นกับสโมสรของพวกเขา แฮตทริกสุดยอด กับลาซิโอกับการยิงประตู 3 รูปแบบที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง 84/85 จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:33:59

ความคิดเห็นที่ 44 นัดนี้เจออูดิเนเซ่ของซิโก้ เสมอกัน 2-2 อย่างมัน เสียดายที่ซิโก้ออกมายุโรปช้าไป สรุป ฤดูกาลแรกอยู่อันดับที่ 8 ของตาราง http://en.wikipedia.org/wiki/1984%E2%80%9385_Serie_A มาราโดน่าเป็นนักฟุตบอลที่ rating เฉลี่ย สูงที่สุด ครึ่งหลังของฤดูกาล นาโปลีทำแต้มได้สูงสุดเป็นรองแค่ เวโรน่า ที่เป็นแชมป์แบบพลิกล็อควินาศสันตะโรที่สุดในประวัติศาสตร์ series A นาโปลีไม่สามารถเอาชนะจูเวนตัสของพลาตินี่ได้ จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:34:43

ความคิดเห็นที่ 45 ฤดูการที่สอง มาราโดนาที่โชว์ศักยภาพให้เห็นแล้ว จึงสามารถต่อรองยื่นเงื่อนไขต่างๆกับสโมสรได้เช่นการขอซื้อตัวผู้เล่น เก่งๆ ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายในสโมสร มีการดึงตัวผู้เล่นเก่งๆเข้ามาในทีม ผลก็คือ นาโปลีเป็นทีมแถวหน้าทันที ดูได้จากผลการแข่งกับแชมป์เก่าเวโรน่า มีลูกยิงจากครึ่งสนามด้วย จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:35:16

ความคิดเห็นที่ 46 ในยุคเริ่มต้นของมาราโดน่าที่นาโปลี จูเว่คือยอดทีม ฤดูกาลแรกนาโปลีเสมอกับแพ้จูเว่ เรียกได้ว่ายังห่างชั้นกัน แต่ในฤดูกาล 84/85 ไม่ใช่อย่างงั้น จูเว่ทำสถิติไร้พ่ายใน 8 นัดแรก จนกระทั่งมาเจอนาโปลีที่ซาน เปาโล และแพ้ไป 1-0 ด้วยการลากจากกลางสนามของมาราโดน่า หลบผู้เล่นจูเว่ประมาณ 4-5 คน ก่อนมาถูกรวบขาทำฟาวล์ที่หน้าเขตโทษ จากนั้นมาราโดน่าก็ปั่นฟรีคิกในเขตโทษเข้าไปจบสถิติไร้พ่ายของจูเวนตัสในฤดูกาลนั้น และเป็นการประกาศศักดาว่า นาโปลีไม่ใช่ของตายสำหรับทีมใหญ่อีกต่อไป จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:35:54

ความคิดเห็นที่ 47 และในนัดเยือนก็เสมอกัน 1-1 (นัดนี้เลาดรุปน่าจะเป็น MOM) ถ้าดู full match จะมีมาราโดน่าเทร์น ในนัดนี้ด้วย  ยุคนั้นเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะชนะจูเว่ในบ้าน และจูเวนตัสรักษาสถิตินี้ไว้ได้หลายปีมาก (แต่จำไม่ได้ว่ากี่ปี ต้องถามแฟน juve) จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:36:40

ความคิดเห็นที่ 48 มิลานก็โดน แต่นาโปลีจบฤดูกาลด้วยอันดับ 3 ได้ไปเล่น UEFA cup ส่วนแชมป์คือจูเวนตัส มาถึงตรงนี้ ชาวเมืองเนเปิ้ล กล้าฝันไปไกลกว่านี้แล้ว จากแต่ก่อน เคยฝันแค่จะเอาชนะ จูเว่ มิลาน อินเตอร์ โรม่า ในบ้านให้ได้เท่านั้น จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:37:21

ความคิดเห็นที่ 49 ก่อนฤดูกาลที่สาม มาราโดน่าโชว์ฟอร์มสุดยอดในบอลโลก ความฝันสูงสุดของเขาเป็นจริงไปแล้ว และก้าวต่อไปคือพานาโปลีเป็นแชมป์ series A มาถึงตรงนี้ ผู้เล่นเริ่มเล่นเข้าขากันมากขึ้น คำว่ากลัวทีมใหญ่ไม่มีให้เห็นอีกแล้ว ตราบใดที่มาราโดน่า ยังอยู่ในสนาม เริ่มด้วย การไปหยุดสถิติไม่แพ้ในบ้านของ juve นัดนี้เลาดรุปยิงนำก่อน ผู้เล่นนาโปลีทำจะถอดใจ จนกระทั่งมาราโดน่า พาบุกใส่แบบช็อคผู้เล่นฝั่ง juve ไปเลย มาราโดน่าไม่ได้ยิงหรือ assist ในนัดนี้ แต่เป็นคนพลิกสถานการณ์ให้กับทีม full match มีใน youtube จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:37:59

ความคิดเห็นที่ 50 และตอกย้ำความแค้นในบ้านตัวเอง จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:38:36

ความคิดเห็นที่ 51 กับทีมมิลาน ก็ไม่ใช่ปัญหาเหมือนกัน ฤดูกาลนี้นาโปลีเป็นทีมนำในตารางโดยนำมิลานอยู่ 2 แต้ม (สมัยนั้น ชนะได้ 2 แต้ม) นัดนี้คือนัดตัดสินแชมป์ก็ว่าได้ ลูกยิงที่สุดสวยของมาราโดน่าที่แตะบอลจากลุกโยนและแตะหลบผู้รักษาประตูในขณะที่ลูกยังไม่ตกพื้นก่อนยิงเข้ามุมแคบ สุดยอด ball control ของแท้ มาราโดน่าเคยให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนยิงลูกนี้ เหมือนเขาจะรู้สถานการณ์ล่วงหน้าทุกอย่างเลยว่ามันจะเป็นอย่างไร จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:39:07

ความคิดเห็นที่ 52 เครื่องเริ่มอืดแล้วพี่น้อง อันนี้เฉพาะลูกยิง จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:39:56

ความคิดเห็นที่ 53 จบฤดูกาล นาโปลีไม่ได้เฉพาะแชมป์ลีก แต่ได้แชมป์บอลถ้วยด้วยเรียกว่าได้ดับเบิ้ลแชมป์ในครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรเลย ของเขาดีจริงๆ http://en.wikipedia.org/wiki/1986%E2%80%9387_Serie_A ปล. ถ้วย UEFA cup ตกรอบแรกแพ้การดวลจุดโทษกับทีมตู้ดลูดจากฝรั่งเศส หลังจากสกอร์รวมเสมอกัน 1-1 ปล. 2 พลาตินี่แขวนเกิบในฤดูกาลนี้ ด้วยวัย 32 ปี ซึ่งถือว่าเลิกเร็วเกินไป จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:40:35

ความคิดเห็นที่ 54 ฤดูกาลที่ 4 เริ่มต้นด้วยความตื่นเต้น เมื่อนาโปลีซื้อกาเรก้ายอดศูนย์หน้าบราซิลเข้ามาร่วมทีม พวกเขามีความฝันว่าจะป้องกันแชมป์ลีกเอาไว้ได้ แน่นอน ทีมอื่นไม่ได้อยู่นิ่ง มิลานเสริมทัพด้วยอาวุธหนักจากฮอลแลนด์ นำโดยกุลลิทหรือฮุลลิท ซึ่งทำสถิติค่าตัวสูงสุดรองจากมาราโดน่าในตอนนั้น นาโปลีเริ่มต้นลีกด้วยความมั่นใจและเป็นผู้นำที่ทำท่าจะนำแบบม้วนเดียวจบ  เช่นเจอกับ juve จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:41:12

ความคิดเห็นที่ 55 แต่ในบอลยูโรเปี้ยนกลับเป็นอะไรที่เจ๊กอั๊ก เพราะจับฉลากรอบแรกไปเจอ มาดริดเลย แน่นอน นี่ไม่ใช่มาดริดที่มาราโดน่าเคยเจอสมัยอยู่สเปน แต่มาดริดทีมนี้คือยอดทีมร่วมสมัยและเป็นทีมเต็งหนึ่งในปีนั้น แต่ก็เป็นได้แค่ราชันไร้มงกุฎ เพราะไปแพ้จุดโทษ psv ในรอบรองชนะเลิส แล้ว psv ก็เป็นแชมป์ไป (ประมาณ บาร์ซ่ายุคปัจจุบัน) เพื่อนชาวอาร์เจนบอกว่า นัดเหย้ามาราโดน่าลงเล่นด้วยอาการบาดเจ็บ (อันนี้จะเป็นการแก้ตัวหรือไม่ก็ไม่อาจทราบได้ แต่มาราโดน่าบาดเจ็บไม่ใช่เรื่องผิดปกติ ตลอดชีวิตการเล่นของเขา) ก็มีคำถามว่า แล้วทำไมแชมป์ลีกของอิตาลี่กับสเปนต้องมาเจอกันในรอบแรก เพราะสมัยนั้นไม่มีการวาง seeds ในการจับฉลากครับ ถ้าจะว่าไปแล้ว นี่เป็นโอกาสครั้งเดียวของมาราโดน่าในถ้วยนี้ (ปี 90 เล่นแบบหมดสภาพ) แต่เป็นโอกาสที่โชคร้ายสุดๆ จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:41:48

ความคิดเห็นที่ 56 ในบอลลีก ก็ไปได้สวยกับการมีกาเรก้ามาร่วมทีม แต่ก็มีก้างชิ้นโตคือมิลาน ที่มีสามทหารเสือฮอลแลนด์ บวกกับแนวคิดการใช้ zonal defense และ pressing football ของอาริโก้ ซาคคี่ ซึ่งแทคติคนี้เป็นอะไรที่ค่อนข้างใหม่มากในฤดูกาลนั้น นัดแรกที่ซาน ซิโร่ โดนยำเละ จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:42:21

ความคิดเห็นที่ 57 ถึงจะแพ้มิลานในนัดแรก แต่นาโปลีก็เป็นทีมนำในตาราง จนเหลือ 5 นัดสุดท้าย นาโปลีต้องการอีกไม่กี่แต้มก็จะการันตีแชมป์ครั้งที่สอง แต่แล้ว สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น นาโปลีแต้มไม่เดิน ในขณะที่มิลานไล่จี้เข้ามาจนเหลือแค่ 1 แต้ม  ก่อนนัดเจอกันที่บ้านนาโปลี และเหลือการแข่งขันอีก 4 วีค ผลของนัดเหย้าคือนาโปลีเสียแชมป์คาบ้าน กุลลิทถูกโหวตเป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมของยุโรป และว่ากันว่านี่คือฤดูกาลที่ดีที่สุดของกุลลิท ตอนนั้น หลายคนคิดว่าน่าจะหมดยุคของมาราโดน่าแล้ว สรุปแล้วฤดูกาลนี้ นาโปลีทั้งเจ็บ ทั้งเหม็น ปล. มาราโดน่าให้สัมภาษณ์ว่า ช่วงท้ายฤดูกาล ผู้เล่นหลักนาโปลีเจ็บเกินครึ่งทีมและไม่มีตัวสำรองที่แทนกันได้ เลยเสียแชมป์ไป ที่สู้มิลานไม่ได้เลยเพราะอีกฝั่งมาใน great shape และเขาออกมาปฏิเสธข่าวลือที่ว่า การเสียแชมป์ครั้งนี้ เป็นการล็อคผลโดยมาเฟีย ให้นาโปลีล้มบอล และช่วงเวลานี้เอง มาราโดน่าเริ่มมีชื่อเข้าไปพัวพันกับมาเฟียในอิตาลี่ จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:42:55

ความคิดเห็นที่ 58 Assists ของมาราโดน่าในฤดูกาล 87/88 จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:43:38

ความคิดเห็นที่ 59 เปิดฤดูกาล 88/89 เห็นทีมร่วมเมืองได้แชมป์ อินเตอร์เสริมอาวุธหนักบ้างด้วยการซื้อ มัสเธอุส เบรเมห์ และรามอน ดิอัส อดีตคู่หูของมาราโดน่าในชุดแชมป์โลก U-20 ส่วนนาโปลีได้ อเลเมายอดกองหลังจากบราซิลมาร่วมทีม แมทช์ที่กล่าวขวัญมากแมทช์หนึ่งคือการล้างแค้นมิลาน ที่ซาน เปาโล จุดพลิกของเกมอยู่ที่ ประตูแรกที่มาราโดน่าทำได้ เป็นการ lob ผู้รักษาประตูด้วยการโหม่ง ประตูที่สอง บาเรซี่ เหวอ ครับพี่น้อง โดนมาราโดน่าสอยต่อด้วยกาเรก้า นานๆจะเห็นบาเรซีออกอาการผวาแบบนี้ นี่คือคำสัมภาษณ์ของบาเรซี่ ความเห็นที่มีกับมาราโดน่า http://fourfourtwo.com/interviews/one-on-one/337/article.aspx You must have had some titanic battles with Diego Maradona when he was in his pomp with Napoli; any particular memories stand out? Did he ever make you look stupid? What was your tactic with him - just kick him as early as possible? Louis Harrison, New Orleans Baresi: Well, the odd knock might happen, from time to time! [Chuckles] He was dangerous, he used to score against us often. We had to be very well organised; put pressure on him, doubling up, tripling up even to limit his talents. Because if it was one-on-one, you'd lose. จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:44:19

ความคิดเห็นที่ 60 คู่ต่อสู้ตัวจริงของนาโปลีคราวนี้กลับไม่ใช่มิลาน แต่เป็นอินเตอร์ มิลาน อีกทีมหนึ่งจากเมืองมิลาน อินเตอร์ไม่ได้มีแค่ดาราที่ซื้อมาใหม่ แต่มีตัวหลักจากอิตาลี่ดรีกรีทีมชาติหลายคน โดยเฉพาะ เซงก้า สุดยอดประตูซึ่งปีนั้น เป็นปีที่เขาท้อปฟอร์มที่สุด นาโปลีแพ้แบบเซงก้าเซฟลูกมหัศจรรย์หลายลูก จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:45:04

ความคิดเห็นที่ 61 สุดท้ายแชมป์เป็นของอินเตอร์แบบนำขาดตั้งแต่ยังไม่ถึงวีคสุดท้าย อันนี้เป็น assists ของมาราโดน่า ฤดูกาลนี้ จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:45:45

ความคิดเห็นที่ 62 เจอกับเปสคารา จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:46:27

ความคิดเห็นที่ 63 เจอกับซามโดเรียในบอลถ้วย จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:47:10

ความคิดเห็นที่ 64 ปะทะกับคานิกเจีย จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:47:48

ความคิดเห็นที่ 65 ถึงแม้จะได้แค่รองแชมป์ลีก นาโปลีก็ไม่ได้ผิดหวังมากนักเพราะไปได้ถ้วยยุโรป uefa cup ใบแรกในประวัติศาสตร์ ขอร้องว่าอย่าเอา uefa cup สมัยนั้นมาเทียบกับยูโรป้านะครับ เพราะทีมที่เข้าแข่ง eufa cup คืออันดับ 2-5 ของตารางลีก ก็น้องๆ UCL แหละครับ และทีมเข้าร่วมเยอะกว่าถ้วยยูโรเปี้ยนมาก แมทช์สำคัญน่าจะอยู่ที่การเจอกับทีมใหญ่ของเยอรมันสองทีม เจอกับบาเยิร์น ในรอง จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:48:26

ความคิดเห็นที่ 66 แต่ highlight จริงๆของการแข่งขันคู่นี้กลับเป็น vdo การวอร์มอัพของมาราโดน่าก่อนแข่งที่มิวนิค  ซึ่งโชว์การเดาะบอลอย่างเหนือชั้นเอนเอตร์เทนคนดู เฟอร์เรร่า ให้สัมภาษณ์ว่า การเดาะบอลก่อนแข่งของมาราโดน่ามีผลกระทบอย่างมากสองทาง 1 เป็นการข่มคู่แข่ง โดยเฉพาะทีมที่เป็นรองนาโปลี เป็นการเพิ่ม tension ให้คู่ต่อสู้ 2 เป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับเพื่อนร่วมทีม วันไหนที่มาราโดน่าเอนจอยการเล่นเหมือนใน vdo นี้ เพื่อนๆวิ่งกันไม่มีหมด และเป็นการลด tension ก่อนแข่งของเพื่อนร่วมทีม จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:49:05

ความคิดเห็นที่ 67 นัดชิงเจอสตุ๊ดกาด ที่มีคลินสมัน เป็นตัวหลัก โดนโห่ตลอดจนกระทั่งลูก assist ที่สองให้กับกาเรก้า และได้แชมป์ไป จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:49:50

ความคิดเห็นที่ 68 ฤดูกาลต่อมา 89/90 เริ่มมีการตั้งคำถามว่าแชมป์ลีกที่ได้ฟลุ้คหรือเปล่า ถ้าแน่จริงลองล่าแชมป์ครั้งที่สองดูซิ แต่ก็ไม่ง่ายแล้วเพราะแชมป์เก่าอย่างอินเตอร์ได้คลินสมันเข้ามาเสริมทัพ อันนี้จัดให้แชมป์เก่าสองดอก มาถึงตรงนี้ pressing football ไม่ใช่ของใหม่อีกต่อไปแล้ว ระบบการเล่นรูปแบบต่างๆ แม้กระทั่งการ hybrid มีให้เห็นอย่างหลากหลาย แต่สิ่งที่ไม่เหมือนกับปัจจุบันคือ เชิญเสียบซุป ตาร์ทั้งหลายได้ตามสบาย และส่งคือให้ผู้รักษาประตูได้ จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:50:21

ความคิดเห็นที่ 69 เนตช้ามาก... โดนสามทหารเสือเยอรมันเอาคืนตอนไปเยือนบ้าง เละเหมือนกัน ไม่หมูหรอก ทีมใหญ่ในอิตาลี่สมัยนั้นซุป ตาร์เต็มทีม จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:51:04

ความคิดเห็นที่ 70 ฤดูกาลนี้มี vdo เยอะ อันนี้เจอโรม่า จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:52:57

ความคิดเห็นที่ 71 เจอฟิออเรนติน่า นัดนี้ถ้าผมจำไม่ผิด เข้าใจว่ามาราโดน่าเป็นตัวสำรอง (คงนึกว่าเจอหมู) แต่โดนเด็กใหม่อย่างบักจิโอ้ลากจากกลางสนามเข้าไปยิง มาราโดน่าเลยต้องลงมาเล่นตอนหลัง จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:53:38

ความคิดเห็นที่ 72 อันนี้เจอจูเว่ คู่ปรับในอดีต นัดนี้โกลออกมาท้ามาราโดน่าเหมือนตอนที่แกตติโกลของโบค่าทำที่อาร์เจน ผลปรากฏว่าโดนไป 2 ลูกภายใน 15 นาที จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:54:36

ความคิดเห็นที่ 73 เจอลาซิโอ จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:55:25

ความคิดเห็นที่ 74 อันนี้เจอมิลานคู่แข่งในฤดูกาลนี้สอยตอนออกไปเยือน จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:56:07

ความคิดเห็นที่ 75 นาโปลีเอาคืนบ้าง 3-0 เท่ากัน บ้านใครบ้านมัน จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:56:55

ความคิดเห็นที่ 76 แต่สุดท้ายนาโปลีได้แชมป์ไป http://en.wikipedia.org/wiki/1989%E2%80%9390_Serie_A โดยแลกด้วยใครก็ไม่รู้ปามาโดนหัวอเลเมาหัวแตก จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:57:33

ความคิดเห็นที่ 77 Assits ของมาราโดน่า 89/90 จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:58:28

ความคิดเห็นที่ 78 ฤดูกาล 90/91 หลังจากบอลโลก 90 มาราโดน่า ไม่ใช่คนเดิมอีกแล้ว เล่นไปมั่วโคเคนไปจนถูกตรวจเจอและก็โดนแบนยาว 15 เดือน แต่ก็มีแมทช์ให้ดูบ้างเช่นไปเยือนอินเตอร์และแพ้ไป 3-1 จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:59:13

ความคิดเห็นที่ 79 ลง vdo ผิด จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 12:01:07

ความคิดเห็นที่ 80 อันนี้เจอทีมจากฮังการี่ ในถ้วย ยูโรเปี้ยน จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 12:01:51

ความคิดเห็นที่ 81 อันนี้ก็ยูโรเปี้ยน นัดนี้เล่นดี แต่เพื่อนๆทำหมูหกหมด เลยตกรอบ สกอร์รวม 0-0 แพ้ลูกโทษ (อีกแล้ว) จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 12:02:29

ความคิดเห็นที่ 82 สรุปประตูที่มาราโดน่ายิงให้นาโปลี ปัจจุบันก็ยังเป็นผู้ทำประตูสูงสุดของสโมสรอยู่ จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 12:03:29

ความคิดเห็นที่ 83 Part 2 จริงๆแล้ว ตอนแรก channel ของ vegan มี assists ที่นาโปลีครบ แต่โดนลบทิ้งสงสัยเป็นปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 12:05:30

ความคิดเห็นที่ 84 หมดแล้วมาราโดน่าที่นาโปลี กลับมาที่ทีมชาติบ้างหลังจากได้แชมป์โลก ทำให้ได้เข้าร่วมแข่งโดยอัตโนมัติ ก็มีการอุ่นเครื่องกับทีมต่างๆดังนี้ กับ เยอรมันล้างตา จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 12:06:21

ความคิดเห็นที่ 85 สเปน จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 12:07:07

ความคิดเห็นที่ 86 อิตาลี่ จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 12:08:00

ความคิดเห็นที่ 87 ทีมชาติอาร์เจนช่วงนั้นถือว่าอ่อนปวกเปียกที่สุดยุคหนึ่ง อย่างนัดนี้แพ้อุรุกวัย (ซึ่งตอนนั้นมีสตาร์เต็มทีม) ในบอลโคป้า อเมริกา 89 ในทัวร์นาเมนต์นั้น ทุกประตูที่อาร์เจนทำได้ มาจาก การยิงหรือ assist จากมาราดดน่าเท่านั้น วันไหนมาราดดน่าเล่นไม่ออกก็จบกัน จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 12:08:48

ความคิดเห็นที่ 88 อาร์เจนต์เข้าสู่บอลโลก 90 ในฐานะแชมป์เก่าที่ไม่ใช่ทีมเต็ง มีการวิจารณ์กันว่าหากอาร์เจนทีมนี้ไม่มีมาราโดน่า และต้องไปเล่นรอบคัดเลือก อาจไม่ได้มาเล่นบอลโลกด้วยซ้ำ ตัวเต็งหนึ่งคือเจ้าภาพอิตาลี่ และเต็งสองคือฮอลแลนด์ แชมป์ยูโร 88 และมวยซุ่มเยอรมันนี รองแชมป์เก่า พี่เล่ขาประจำขอทำนายว่า วิอัลลี่ จะสร้างตำนานบอลโลกในครั้งนี้ (น่าสงสารวิอัลลี่มาก ) ในรอบแบ่งกลุ่ม อาร์เจน อยู่กับ แคมเมอรูน รัสเซีย (รองแชมป์ยูโร 88) และ โนมาเนีย นัดแรกเจอแคมเมอรูน ผลพลิกล็อค แคเมอรูนใช้ความได้เปรียบทางร่างกาย ใช้ความแข็งแกร่งพลิกชนะไป 1-0 แต่ถ้าเป็นกติกาทุกวันนี้แคมเมอรูนอาจจะแพ้เพราะจะเหลือผู้เล่นไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด ปล. ในทัวร์นาเมนต์นี้มาราโดน่าอายุ 30 ปี ความเร็วไม่มีแล้ว เลยลงมาเล่นต่ำกว่าตอนปี 86 จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 12:09:48

ความคิดเห็นที่ 89 นัดที่สองเจอรัสเซียต้องชนะเท่านั้น นัดนี้มาราโดน่าใช้มือ (อีกแล้ว) ชนะ 2-0 จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 12:11:00

ความคิดเห็นที่ 90 นัดที่สามเจอโรมาเนีย มาราโดน่าจริง ปะทะ มาราโดน่าผีดิบ ผมคือมาราโดน่าผีดิบโดน 1 เหลือง (ดูเอาเองใน vdo) ผลเสมอกัน เข้ารอบทั้งคู่ ปล่อยให้รัสเซียร้องให้ขี้มูกโป่ง อุดส่าห์ให้แคมเมอรูนช่วยแล้วก็ยังตกรอบ ปล. แมทช์นี้ มาราโดน่าโชว์การกระโดดลอยตัวดูดบอลกลางอากาศ จนต้องมีการรีเพล์ในระหว่างถ่ายทอดสด อาจเป็นครั้งแรกมั้ง (ไม่แน่ใจว่ามีใน vdo หรือเปล่า) หลังจากนั้นนักเตะรุ่นหลังก็ใช้ท่านี้กันหลายคน แต่คนที่ทำได้สวยที่สุดคือซีดาน สวยกว่าของมาราโดน่าต้นฉบับอีก จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 12:12:06

ความคิดเห็นที่ 91 สรุปคือเข้ารอบในฐานะที่สามที่ดีที่สุด และต้องแลกมากับสิ่งที่คนอาร์เจนทั้งประเทสไม่อยากให้เกิด มาราดดน่าโดนทำฟาวล์หนักๆบ่อยมากในเกมเจอโนมาเนีย ผลคือเท้าซ้ายบาดเจ็บหนัก หมอวินิจฉัยว่าลงเล่นไม่ได้ (หนักประมาณเปเล่ปี 66 เลย) แต่มาราโดน่าขอลงเล่น จากนี้ไปมาราโดน่าต้องฉีดยาชา และใส่ถุงเท้าสองชั้น และรองเท้าที่ใหญ่กว่าเดิมเพื่อ support เท้าซ้ายที่บาดเจ็บ จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 12:12:42

ความคิดเห็นที่ 92 เคราะห์ซ้ำกรรมซัด เมื่อเป็นที่สามในกลุ่มก็ต้องไปเจอไอ้ที่เจ๋งๆในรอบแบ่งกลุ่มสิ บราซิล คู่ปรับร่วมทวีปไง นัดนี้อาร์เจน โดนยำแบบ one way traffic อยู่ตั้งนาน แต่บราซิลแค่เล่นเสียว ดีแต่ป้อ จนกระทั่งครึ่งหลังอาร์เจนชักมีกำลังใจสู้ ถ้าใครดูแบบ full match จะเห้นว่าชวงกลางครึ่งหลังผู้เล่นอาร์เจนเริ่มฮึดสู้และกลับมาเป็นฝ่ายโจมตีบราซิลบ้าง และมาราดดน่าประสานงานกับคานิกเจีย ก็ทำเอาสาวบนาซิลน้ำตาร่วงกราวๆๆๆ ปล. มาราโดน่าสัมภาษณ์ก่อนแข่งว่า โอกาสที่บราซิลจะชนะมีสูงกว่ามาก และอาร์เจนจะใช้วิธีโต้กลับและเขาขอโอกาสเพียงครั้งเดียวก็พอ และก็ได้สมใจ ปล 2. ลูงเล่วิจารณ์มาราโดน่ามามาก หน้าแหก (ตามเคย) เลยออกมาแก้เก้อว่า ถ้ามาราโดน่าเป็นคนบราซิล พวกเราต้องได้แชมป์ครั้งนี้แน่ๆ จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 12:14:04

ความคิดเห็นที่ 93 จากนั้น ก็ไปเจอยูโก นัดนี้เซียนบอลบ้านเราตรูดแหกไปตามๆกัน สาเหตุเป็นเพราะข่าวสารเรื่องมาราโดน่าเจ็บเท้าซ้ายมาไม่ถึงเมืองไทย  เลยเข้าใจว่า ฟอร์มของมาราโดน่าที่เห็นนัดเจอกลับบราซิล จะส่งต่อมายังนัดต่อๆไป ปล. นัดนี้ถึงจุดโทษ มาราโดน่ายิงไม่เข้า แต่โกกอยเชีย (เขียนอย่างนี้หรือเปล่า) saved the day จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 12:14:56

ความคิดเห็นที่ 94 รอบรองเจออิตาลี่เจ้าภาพ ก่อนบอลโลก มาราโดน่าบอกฟีฟ่าล็อคผลการจับฉลากให้อิตาลี่เจอหมูไปเรื่อยๆ จนถึงรอบชิง และยังเรียกร้องให้ชาวเมืองเนเปิ้ลออกมาเชียร์อาร์เจน (มีคนทำจริงๆด้วย ) เท่านั้นเอง คนอิตาลี่เกลียดมาราโดน่ามาก ขนาดทำโพลถามว่าใครเกรียนที่สุดในโลก ผลโพลออกมา มาราโดน่า อันดับหนึ่ง ชนะ ซัดดัม ฮุสเซน อันดับสองขาดลอย จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 12:16:08

ความคิดเห็นที่ 95 ทั้งเจ็บทั้งเหม็น อิตาลี่แพ้ลุกโทษ และโดนเปิดsingจากลูกยิงของคานิกเจีย สถิติของเซงก้าหยุดลงที่ตรงนี้ แต่มีสิ่งที่น่าเขกกะโหลกที่สุดคือ คานิกเจียผู้เรียบร้อย อยู่ๆเกิดเกรียนขึ้นมา เอามือไปปัดลุกบอลเล่นโดยไม่มีสาเหตุ เลยโดนใบเหลืองและหมดสิทธิ์ลงนัดชิง เทปนี้เป็นว็อตเด็ดที่มาราโดน่าเกือบ assist ได้แบบที่เจอกับบราซิล อิตาลี่ทีมนี้คือทีมที่มีเกมรับดีที่สุดในโลกในตอนนั้นนะ เสียแค่สองประตู ในทัวร์นาเมนต์นั้น น่าจะเป็นสถิติโลกหรือเปล่า จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 12:17:27

ความคิดเห็นที่ 96 นัดชิง มันจะเหลืออะไร กว่าจะมาถึงรอบชิง ตัวจริงหายไปหลายคน ทั้งเจ็บทั้งโดนแบน  ครั้งนี้จะบอกว่ามาราโดน่าแบกทีมเหมือนปี 86 คงไม่ถูกเพราะทุกคนมี contribution กันหมดโดยเฉพาะคานิกเจียกับกอยโกเชีย มาราโดน่าแทบจะวิ่งไม่ได้แล้ว เดินเล่นเยาะๆ  อาร์เจนไม่มีทางเลือก ต้องอุดรอยิงลูกโทษอย่างเดียวเท่านั้น แต่ก็ไปไม่ถึงตรงนั้นเพราะ โฮเวิร์ด เวบบ์ เอ้ยไม่ใช่ กรรมการเม็กซิโก จัดให้บราซิล 1 ลูกโทษ หนึ่งบอลโลก เรียบ ร้องให้ระงม แฟนบอลอิตาลี่สะใจ เรื่องมันไม่จบแคนี้ ปี 1996 ประธาน FA เม้กซิโกปากไม่ได้รูดให้สัมภาษณ์ว่า กรรมการถูกผู้ใหญ่ทางฟีฟ่าสั้งมาว่า ถ้าอยากตัดสินนัดชิงต้องทำยังไงก็ได้เพื่อให้แชมป์อยู่ในยุโรป เรื่องนี้เคยถูกเอามาเผยแพร่ใน wiki แต่โดนลบโดยฟีฟ่ามั้ง แต่ก็นะ ต่อให้ไม่เป่าเข้าข้าง เยอรมันก็สมควรกับตำแหน่งแชมป์แล้วแหละ จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 12:18:18

ความคิดเห็นที่ 97 หลังจากนั้นก็โดนแบบจากโคเคนอย่างที่กล่าวถึงก่อนหน้า ในระหว่างโดนแบน มาราโดน่าก็สร้างความฮือฮาอีก เมื่อไปเล่นบอลการกุศลที่อาร์เจน พี่แกซัดลูกหนึ่งจากกลางสนามเข้าไป ย. โย่งเคยเอามาลงข่าวช่อง 7 ถ้าทางช่องเก็บไว้อาจมีไฟล์ที่ชัดกว่านี้ จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 12:19:12

ความคิดเห็นที่ 98 ซักขี้เกียจพิมพ์แล้ว เมื่อพ้นโทษแบน มาราโดน่ากลับมาเล่นให้ซิวิล หรือเซวินญาอยู่พักหนึ่ง ก่อนย้ายไปเล่นที่อาร์เจน อันนี้เป้นนัดแรก อุ่นเครื่องกับ บาเยิร์น ที่นำทีมโดยคู่ปรับตลอดกาล มัสเธอุส มีถ่ายทอดสดมาไทยด้วย จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 12:20:07

ความคิดเห็นที่ 99 เจอปอร์โต้ จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 12:21:16

ความคิดเห็นที่ 100 ลองดูจาก clip complilation ของ memo ก็แล้วกัน จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 12:22:45

ความคิดเห็นที่ 101 Assist ที่ ซิวิล จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 12:23:39

ความคิดเห็นที่ 102 กลับมาที่ทีมชาติ ช่วงที่มาราโดน่าไม่อยู่มีดาวดวงใหม่เกิดขึ้นมาอีกมากมายในอาร์เจน เช่า เรดอนโด้ ซิโมเน่ บาติสตูต้า บัลโบ ฯลฯ ทำให้ได้แชมป์โคป้าปี 91 และ 93 แต่ ตอนคัดบอลโลก 94 กลับมีอาการร่อแร่แพ้โคลัมเบียคาบ้าน  จนต้องหัวซุกหัวซุนมาเตะเพลออฟกับออสเตรเลีย มาราโดน่าที่ขาดกับทีมชาติไปแล้ว ถูกเรียกตัวกลับมาช่วยกู้วิกฤต ตั้งแต่นัดกับออสเตรเลีย แน่นอน ตอนนี้มาราโดน่าเหลือแค่ความเก๋าเท่านั้น ไอ้ที่จะให้ลากหลบ 1-2-3 อะไรประมาณนั้นไม่ง่ายเหมือนแต่ก่อน นี่นัดแรก จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 12:24:33

ความคิดเห็นที่ 103 นัดที่สอง จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 12:25:10

ความคิดเห็นที่ 104 สรุปคือได้ไปบอลโลก94 แบบหวุดหวิด รอบแบ่งกลุ่มเจอกับ กรีซ ไนจีเรีย และบัลกาเรีย นัดแรกเจอกรีซ บาติสตุต้าแฮตทริก จากที่เป็นม้านอกสายตา ทุกคนเริ่มมองอาร์เจนกัน จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 12:25:58

ความคิดเห็นที่ 105 นัดที่สองเจอไนจีเรียนำก่อน ก่อนที่มาราโดน่าจะประสานกับเรดอนโด้ สอนเชิงไนจีเรียไปเบาะๆ 2-1 ทันทีที่จบแมทช์นี้ คนเริ่มคิดว่าอารืเจนคือเต็งหนึ่งร่วมกับบราซิล และถ้าดูจากสาย อาจได้เห็นคู่ชิงในฝัน อาร์เจน-บราซิล ที่นำทีมโดยโรมาริโอ้ แต่ก้ได้แต่ฝัน มาราโดน่าตรวจฉี่เจอ เอฟรีดีน โดนแบนต่ออีก 15 เดือน จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 12:26:55

ความคิดเห็นที่ 106 Assists ของมาราโดน่าในทีมชาติ จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 12:27:52

ความคิดเห็นที่ 107 จากนั้นก็กลับมาซ่าอยุ่กับโบค่าอยู่พักหนึ่งก็เลิกเล่นบอลไปอย่างเงียบๆ แต่หันมาเล่นโคเคนอย่างจัดๆ เห็นอ้วนๆช้าๆ ก็ยังมีลายไว้หลอกรุ่นน้องอยู่ จากคุณ : AnotherPractitioner เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 12:29:01