ความคิดเห็นที่ 1 ทีมแชมป์ 1960 จากคุณ : เลขาลิขิต เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 12:25:00

ความคิดเห็นที่ 2 สโมสรกีฬาแห่งเมืองฮัมบวร์ก (Hamburger Sport-Verein) อาจไม่ใช่สโมสรกีฬาเก่าแก่ที่สุดในเยอรมัน แต่ถือกำเนิดในชื่อ สปอร์ตคลับ เกอร์มาเนีย ฟอน 1887 จากการรวมกันของ แดร์ โฮเฮนเฟลเดอร์ สปอร์ตคลับ และ วัลด์สเบ็ค-มารีนธาเลอร์ สปอร์ตคลับ ตั้งทีมฟุตบอลครั้งแรกเมื่อปี 1891 โดยมีชาวอังกฤษอยู่ด้วยครึ่งโหล เปลี่ยนเป็น ฮัมบวร์ก เอสเฟา เมื่อ 2 มิถุนายน 1919 ตอน ฮัมบวร์ก เอฟเซ (ก่อตั้งปี 1888) กับ เอฟเซ ฟัลเค่ เอพเพนดอร์ฟ (ก่อตั้งปี 1906) มารวมเป็นทีมเดียว ความสำเร็จแรกเกิดขึ้นในปี 1923 เมื่อซิวแชมป์เยอรมันในกรุงเบอร์ลิน จากการชนะ เอสเซ อูนิโอน 06 โอเบอร์เชินเนไวเด้ (ปัจจุบันคือ 1. เอฟเซ อูนิโอน เบอร์ลิน) 3-0 ปี 1928 ฮัมบวร์ก กลับมาคว้าแชมป์สมัย 2 ด้วยการชนะ แฮร์ธ่า เบเอสเซ เบอร์ลิน 5-2 ที่ฮัมบวร์ก-อัลโทน่า และสมัย 3 ได้ในปี 1960 หลังเชือด 1. เอฟเซ โคโลญจน์ 3-2 ที่แฟร้งค์เฟิร์ต "อุนส์ อูเว่" อูเว่ เซเลอร์ อยู่รับใช้สโมสรช่วงปี 1953–72 จากคุณ : เลขาลิขิต เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 12:25:38

ความคิดเห็นที่ 3 อูเว่ ซีเลอร์ ผู้ยิ่งใหญ่ จากคุณ : เลขาลิขิต เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 12:26:20

ความคิดเห็นที่ 4 พวกเขาคือแหล่งปั้นตำนานของวงการลูกหนัง ตั้งแต่ตอนได้แชมป์ เดเอฟเบ โพคาล 1963 ก็มี อูเว่ เซเลอร์ เจ้าของฉายา "อุนส์ อูเว่" หรือ "อูเว่ของเรา" สำหรับแฟนบอล กองหน้าผู้ไปเตะฟุตบอลโลก 4 สมัยกับทีมชาติเยอรมันตะวันตก (1958-70) เกิดในฮัมบวร์ก ลงเตะให้สโมสรแห่งนี้ตลอดอาชีพค้าแข้ง (1953-72) ยิงในบุนเดสลีกา 404 ประตู จาก 476 แมตช์ ทุกวันนี้ยังมีประติมากรรมรูปเท้าขวาของเขาอยู่หน้าสนามด้วยซ้ำ ยุคแรกยังมี แกร์ต "ชาร์ลี" เดอร์เฟิ่ล กองหน้าอีกคน ที่เป็นดาราดัง ภายหลังได้แชมป์ เดเอฟเบ โพคาล อีก 2 หนในปี 1976 (ยุคของ รูดี้ คาร์กุส กับ วิลลี่ ไรมันน์) และ 1987 (ยุคของ โธมัส ฟอน เฮเซ่น กับ ดีทมาร์ ไบเออร์สดอร์เฟอร์) เมื่อบุนเดสลีกาถือกำเนิดในปี 1963 ฮัมบวร์ก ได้เป็นสมาชิกยุคก่อตั้ง และครองแชมป์อีก 3 สมัย (1979, 1982, 1983) รวมแล้ว ฮัมบวร์ก เป็นแชมป์เยอรมัน 6 สมัย เดเอฟเบ โพคาล อีก 3 ครั้ง คูโน่ คล็อตเซอร์ กับถ้วยแชมป์ คัพวินเนอร์ส คัพ ที่ได้มาครองในปี 1977 จากคุณ : เลขาลิขิต เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 12:27:31

ความคิดเห็นที่ 5 ตามมาด้วยยุคคว้าแชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ ด้วยการเชือด ยูเวนตุส 1-0 ที่โอลิมปิก สเตเดี้ยม กรุงเอเธนส์ เพราะผู้เล่นยุคนั้นก็มีทั้ง ฮอร์สท์ ฮรูเบช, เฟลิกซ์ มากัธ, อูลี่ สไตน์, มานเฟรด คัลท์ซ, โวล์ฟกัง โรล์ฟ, ดีทมาร์ ยาค็อบส์, เยอร์เก้น มิเลฟสกี้, โฮลเกอร์ ฮีโรนีมุส และ เยอร์เก้น โกรห์ ซึ่งเป็นตัวทีมชาติเยอรมันตะวันตกทั้งหมด ขณะกุนซือ แอร์นส์ท ฮัปเปิ้ล ชาวออสเตรีย ก็เป็นตำนานผู้พา เฟเยนูร์ด ร็อตเตอร์ดัม ครองแชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ 1970 และนำทีมชาติฮอลแลนด์ เข้าชิงฯฟุตบอลโลก 1978 แอร์นส์ท ฮัปเปิ้ล กุนซือผู้พา ฮัมบูร์ก คว้าดับเบิ้ลแชมป์ในฤดูกาล 1982-83 จากคุณ : เลขาลิขิต เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 12:29:27

ความคิดเห็นที่ 6 ฮัปเปิ้ล ได้ 4 แชมป์กับ ฮัมบวร์ก (รวมถึงบุนเดสลีกา 2 สมัยซ้อนช่วงปี 1982-83) รองแชมป์อีก 3 รายการ (เป็นเวทียุโรปทั้งหมด) แข้งต่างชาติยุคดังกล่าวก็มีทั้ง เควิน คีแกน (1977-80), ลาร์ส บาสทรู๊ป (1981-83) กับ มิโรสลาฟ โอคอนสกี้ (1986-88) เควิน คีแกนย้ายมาจากลิเวอร์พูล  มาได้บัลลงดอร์ 2 สมัย จากคุณ : เลขาลิขิต เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 12:30:52

ความคิดเห็นที่ 7 บรังโก้ เซเบ็ช (ซ้าย) โค้ชชุดแชมป์บุนเดสลีกา 1979 กับลูกทีม เควิน คีแกน (กลาง) และ มานเฟรด คัลท์ซ จากคุณ : เลขาลิขิต เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 12:32:52

ความคิดเห็นที่ 8 แชมป์ยูโรเปี้ยนคัพ จากคุณ : เลขาลิขิต เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 12:33:28

ความคิดเห็นที่ 9 Ernst Happel เอิร์น ฮับเบิ้ล 1981 - ดับเบิ้ลแชมป์ บุนเดสลีกา & ยูโรเปี้ยนคัพ) จากคุณ : เลขาลิขิต เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 12:34:32

ความคิดเห็นที่ 10 Horst Hrubesch (1987 ฮอร์ส ฮรูเบช) แก้ไขเมื่อ 14 ต.ค. 55 13:09:53 จากคุณ : เลขาลิขิต เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 12:35:38

ความคิดเห็นที่ 11 ถาดบุนเดสลีกา กับ เอิร์น ฮับเปิ้ล กับ ฮอร์ส ฮรุเบซ จากคุณ : เลขาลิขิต เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 12:36:16

ความคิดเห็นที่ 12 1987 อูลี่ สไตน์ นายทวารผูภาหิน จากคุณ : เลขาลิขิต เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 12:37:41

ความคิดเห็นที่ 13 เฟลิกซ์ มากัซ กับ ถ้วยหูกาง จากคุณ : เลขาลิขิต เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 12:38:20

ความคิดเห็นที่ 14 แต่น่าเสียดายที่หลังเข้าสู่ทศวรรษที่ 90 ความเสื่อมก็เริ่มมาเยือน ฮัมบวร์ก เริ่มจบอันดับตัวเลข 2 หลักอย่างต่อเนื่อง นับจากนั้นพวกเขามีผลงานดีสุดในบุนเดสลีกาแค่ได้อันดับ 3 อีก 2 ครั้ง คือปี 2000 (นำโดย อันโธนี่ เยบัวห์, โรดอลโฟ่ คาร์โดโซ่, รอย เพรเกอร์, นิโก้ โควัช, ฮันส์ ยอร์ก บุตต์) และ 2006 (นำโดย เซอร์เก บาร์บาเรซ, ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท, ดาเนี่ยล ฟาน บุยเต็น, พิโอเตอร์ โทรชอฟสกี้, คาลิด บูลาห์รูซ) ยุคหลังไม่เคยขาดนักเตะชั้นดี แต่เหมือน ฮัมบูร์ก ไม่สามารถใช้งานพวกเขาได้ไม่เต็มร้อย มาร์คุส บับเบิ้ล, ฮาซาน ซาลิฮามิดซิช แจ้งเกิดที่นี่ ก่อนไปเป็นแชมป์กับ เอฟเซ บาเยิร์น มิวนิค, แว็งซ็องต์ ก็องปานี และ ไนเจล เด ยองก์ ต่อมาได้ดีกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขณะดาวดังอย่าง ยอร์ดาน เลตช์คอฟ, โธมัส กราเวเซ่น, นาโอฮิโร่ ทาคาฮาระ, มาเร็ค ไฮน์ซ, มลาเดน เพทริช เหมือนเอาชื่อเสียงมาทิ้งกับ ฮัมบวร์ก มากกว่า หลังหมดยุค ฮอร์สท์ ฮรูเบช (ซ้าย) กับ อูลี่ สไตน์ ฮัมบูร์ก ก็ไม่ประสบความสำเร็จอีกเลย จากคุณ : เลขาลิขิต เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 12:39:15

ความคิดเห็นที่ 15 แต่คงไม่มียุคไหนเลวร้ายเท่าฤดูกาลก่อน เพราะจบด้วยอันดับ 15 เกือบตกชั้นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ฤดูกาลนี้เลยต้องจัดหนักเพื่อให้สมกับที่ได้เตะบุนเดสลีกาครบ 50 ปีเป็นรายแรก พวกเขาทุ่มซื้อนักเตะใหม่รวม 27 ล้านยูโร แม้ออกสตาร์ทไม่สวย แต่ตอนนี้ขึ้นมาอยู่อันดับ 10 หวังว่าสุดท้ายคงไม่ต้องดิ้นรนหนีตายเหมือนเดิมอีก เพราะถึงอย่างไร ฮัมบวร์ก ก็เป็นสโมสรชื่อดังจากเมืองยักษ์ใหญ่ ซึ่งควรอยู่สร้างสีสันในลีกสูงสุดต่อไป ไม่ใช่ร่วงสู่ลีกาสองในฤดูกาลที่พวกเขาจัดงานฉลองครบรอบ 125 ปีแบบอลังการ โจซิป สค็อบลาร์ (ซ้าย) หนึ่งในโค้ชผู้ล้มเหลว เฟลิกซ์ มากัธ (ขวา) ต่อมาก็ได้คุมทีม แต่ผลงานแย่เช่นกัน จากคุณ : เลขาลิขิต เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 12:40:12

ความคิดเห็นที่ 16 ราฟาเอล ฟานเดอฟาร์ท และเพื่อนร่วมทีม Rudnevs Artjoms ฉลองชนะ จากคุณ : เลขาลิขิต เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 12:41:24

ความคิดเห็นที่ 17 ราฟาเอล ฟานเดอฟาร์ท กลับมาฮัมบูรก์อีกครั้งในฤดูกาลนี้  เขาพาความหวังที่ฮัมบูรก์จะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งติดตัวมาด้วย จากคุณ : เลขาลิขิต เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 12:42:49

ความคิดเห็นที่ 18 credit : www.kicker.de & www.siamsport.co.th จากคุณ : เลขาลิขิต เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 12:43:03

ความคิดเห็นที่ 19 การฉลอง 125 ปีของฮัมบูรก์ กับ ผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุคต่างๆ จากคุณ : เลขาลิขิต เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 12:45:09

ความคิดเห็นที่ 20 ราฟาเอล ฟานเดอฟาร์ท กับ แฟนสาว credit : www.pantip.com/cafe/supachalasia  โดย ชายเหวง จากคุณ : เลขาลิขิต เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 12:45:46

ความคิดเห็นที่ 21 ต้องมีวากาบายาชิด้วยนะ จากคุณ : อั้ม ติ่งเหลือม เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 13:11:19

ความคิดเห็นที่ 22 เสียดายแฟรงค์เฟิร์ตผม ช่วงขบถลุกหนัง เกาดิโน เยบัวห์ โอโคชา ทีมแตก ทีมเลยเป๋ ตั้งแต่นั้นมาสาละวันเตี้ยลง จากทีมใหญ่ กลายเป็นตกชั้น ปัจจุบันขึ้นๆ ลงๆ ถ้าต่อเนื่อง คงไม่ตกชั้น และได้เคียงข้างยักษ์ใหญ่อย่างฮัมบรูก จากคุณ : เวลาในขวดเหล้า เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 21:36:23

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณสำหรับข้อมูลทีม "ไดโนเสาร์แห่งบุนเดสลีกา" ครับ ตาฟาร์ทตอนมาใหม่ๆหน้ายังใสปิ๊ง แต่ตอนนี้ออกแนวพี่เบ๊คส์ไปซะละ แต่ภรรเมียแกนี่ยังซู้ดหย้อดเหมียนเดิมนะเนี่ย จากคุณ : FireLion เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 23:11:40

ความคิดเห็นที่ 24 เป็นทีมที่มีผู้เล่นเกรด a เข้ามาไม่ขาดสาย แต่แปลกนะ ที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเลยตั้งแต่ยุค 90 จากคุณ : ชายหลอน เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 23:22:49