ความคิดเห็นที่ 1 แล้วถือเป็นนักเตะคนแรกที่ไม่ได้เล่นในลีกสูงสุด และถูกเรียกมาสู่ทัพสิงโตคำราม นับตั้งแต่ เจย์ โบธรอยด์ เคยได้รับการพิจารณาเมื่อปี 2010 หลังจาก เดวิด นิวเจนท์ สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักเตะแชมเปี้ยนชิพ คนแรกที่ติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ เมื่อปี 2007        ขณะเดียวกัน ในรายของ ลีออน ออสแมน มิดฟิลด์จากเอฟเวอร์ตัน ก็เป็นอีกรายที่ได้รับหมายเรียกจาก ''ปู่รอย'' เป็นครั้งแรก แม้วัยจะแตะหลัก 31 ปี แล้วก็ตาม        สำหรับอาการบาดเจ็บก็เป็นเรื่องที่ ฮ็อดจ์สัน ต้องประสบพร้อมข่าวร้ายว่า แข้งที่เคยใช้งานอย่าง เวย์น รูนี่ย์, ธีโอ วัลค็อตต์, จอนโจ เชลวี่ย์, ไคล์ วอล์คเกอร์ และ อารอน เลนน่อน ต่างพากันถอนตัวจากทีมไปเรียบร้อย โดยต้องผ่าทางตันแก้ไขด้วยการดึงเอา คาร์ล เจนกินสัน แบ็กขวาจากอาร์เซน่อล และ ทอม ฮัดเดิลสตัน กองกลางท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ มาเสริมแทน จากคุณ : เลขาลิขิต เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 09:15:06

ความคิดเห็นที่ 2 แต่ถึงอย่างไร สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีมวัย 32 ที่เจ็บหัวเข่าจากการลงช่วยต้นสังกัดลิเวอร์พูล ทำศึกบิ๊กแมตช์ ซูเปอร์ซันเดย์ กับ เชลซี นั้นสามารถนำทัพได้ และกำลังจะกลายเป็นนักเตะลำดับ 6 ที่รับใช้ทีมชาติอังกฤษ ครบ 100 เกม ต่อจาก 5 ตำนานลูกหนังชื่อก้องของประเทศ        ไล่เรียงจาก ปีเตอร์ ชิลตัน อดีตนายทวารมือกาวที่ลงเฝ้าเสาให้อังกฤษ 125 นัด        เดวิด เบ็คแฮม สตาร์คนดังที่รับใช้สิงโตคำราม 115 เกม        เซอร์ บ็อบบี้ มัวร์ อดีตกัปตันทีมชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 1966 ที่ลงเล่นให้อังกฤษ 108 เกม        เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน เจ้าของสถิติยิงประตูให้อังกฤษมากสุด 49 ลูก จากการลงสนาม 106 แมตช์        บิลลี่ ไรท์ ตำนานยิ่งใหญ่ยุคเก่าสวมเครื่องแบบทรี ไลออนส์ ลงเล่น 105 นัด          นับตั้งแต่ประเดิมติดธงชุดใหญ่เป็นหนแรกสุดในเกมปะทะยูเครน สมัยที่ยังละอ่อนเพิ่งฉลองอายุครบ 20 เมื่อเดือนพฤษภาคม 2000 สตีวี่ จี ก็เป็นกำลังสำคัญของอังกฤษมาตลอด        โดยเขาได้ทำงานร่วมกับผู้จัดการทีมสิงโตคำรามหลายราย        เริ่มจาก เควิน คีแกน ผู้ให้โอกาสเขาขึ้นมาติดธงชุดใหญ่เป็นครั้งแรก        ต่อด้วย สเวน โกรัน อีริคส์สัน กุนซือสวีดิช        สตีฟ แม็คคลาเรน อดีตผู้ช่วยของ สเวนนิส ที่อัพเกรดเป็นนายใหญ่ แต่ก็ไปไม่รอด หลังพาทีมตกรอบคัดเลือกยูโร 2008        ต่อมาก็เป็น ฟาบิโอ คาเปลโล่ โค้ชอิตาเลียนที่ยกปลอกแขนกัปตันทีมให้กับเขา นำทัพอังกฤษตะลุยฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้        จนกระทั่งล่าสุด ฮ็อดจ์สัน ก็ยังยกให้ ''เจิด'' เป็นผู้นำทีมเหมือนเดิม และเป็นบุคคลสำคัญที่จะร่วมเป็นสักขีพยานการลงรับใช้ชาตินัดที่ 100 ของ สตีวี่ จี        99 นัดที่ผ่านมา สถิติของ เจอร์ราร์ด กับ อังกฤษ อยู่ที่ชนะ 64 เสมอ 23 แพ้ 12 โดยทำได้ 19 ประตู แล้วมี 19 ใบเหลืองและ 1 ใบแดงพ่วงท้ายในใบประกาศเกียรติคุณ        ตลอดเส้นทางบนถนนทีมชาติอังกฤษมีหลายเหตุการณ์ที่อยู่ในความทรงจำของ สตีวี่ จี และแน่นอนว่า มันย่อมติดตรึงเป็นภาพประทับใจของใครๆ ต่อใครมากมาย        แล้วเพื่อให้สมศักดิ์ศรีแมตช์แห่งเกียรติยศนัดที่ 100 ของกัปตันสิงโตคำรามคนปัจจุบัน ลองนั่งไทม์ แมชีน หวนกลับไปรำลึกถึงช่วงเวลาดีๆ เหล่านั้นของ เจอร์ราร์ด อีกครั้งกันดีกว่า จากคุณ : เลขาลิขิต เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 09:15:38

ความคิดเห็นที่ 3 31 พ.ค. 2000 : ติดธงชุดใหญ่หนแรก        คีแกน กุนซือทรี ไลออนส์ ในขณะนั้น จับตามองและเลือก เจอร์ราร์ด เข้ามาติดทีมชุดโม่แข้งยูโร 2000 ที่ฮอลแลนด์และเบลเยียม โดยให้โอกาสประเดิมติดธงเต็มตัวหนแรกในเกมกระชับมิตรกับยูเครน ซึ่งเขายืนปักหลักเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางคู่กับ พอล สโคลส์ และเล่นได้น่าประทับใจในเกมพิชิต ยูเครน 2-0 จากประตูของ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ และ โทนี่ อดัมส์ 1 ก.ย. 2001 : บุกบอมบ์เบียร์        การรับใช้อังกฤษนัดที่ 9 ของ เจอร์ราร์ด นับว่าเป็นศึกหนักไม่น้อย เมื่อต้องยกพลไปเยือนเยอรมัน แต่ค่ำคืนนั้นที่มิวนิค เป็นสิ่งที่เขายากจะลบเลือนจริงๆ        ภายใต้การคุมทีมของกุนซือใหม่ สเวน โกรัน อีริคส์สัน บรรดาพลพรรคสิงโตคำรามต่างฮึกเหิมและสร้างผลงานสุดอลังการ        แม้โดน คาร์สเท่น ยังเคอร์ เปิดเกมด้วยการทะลวงตาข่ายไปก่อน แต่ เจิด ก็เป็นคนพังประตูพาอังกฤษพลิกแซง 2-1 ตอนทดเจ็บครึ่งแรก ก่อนบุกถล่ม เยอรมัน ยับเยิน 5-1 และเป็นสกอร์แรกในสีเสื้อสิงโตคำรามชุดใหญ่ของเขาอีกด้วย 31 มี.ค. 2004 : กัปตันหน้าใหม่        ก่อนเดินทางบุกสวีเดน คืนวันพุธ เจอร์ราร์ด เคยผ่านอดีตที่มีสองอารมณ์ทั้งสุขและเศร้าในประเทศนี้        เพราะย้อนไปตอนอายุแค่ 22 ปี สเวน เคยมอบโอกาสให้เขาสวมบทกัปตันทีมผู้ดีหนแรกในแมตช์อุ่นเกือกกับไวกิ้ง        นั่นคือเกียรติประวัติและความภาคภูมิใจที่ สตีวี่ จี ยังจดจำได้ดี        แต่เรื่องของผลการแข่งขัน ย่อมเป็นส่งที่เขาคงไม่อยากให้มันซ้ำรอยอีหรอบเดิม เพราะวันนั้น อังกฤษ เดินออกจากสนามพร้อมความพ่ายแพ้ 0-1 จากประตูโทนของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช        9 ก.ย. 2009 : รัวหมากรุก        นัดที่ 76 ของการติดธงทรี ไลออนส์ และนับเป็นอีกหนึ่งเกมที่ดีเยี่ยมของ เจอร์ราร์ด ในการรับใช้ชาติ        โดยเขารับผิดชอบ 2 ตุงด้วยการเหมาโขกลูกเปิดครอสจาก อารอน เลนน่อน และ เวย์น รูนี่ย์ ในชัยชนะ 5-1 ซึ่งนับเป็นการชำระบัญชีแค้น โครเอเชีย ทีมแสบที่ทำให้ อังกฤษ อกหัก ไม่ได้ไปโชว์ฝีเท้าในรอบสุดท้ายยูโร 2008        12 มิ.ย. 2010 : ประตูในเวิลด์ คัพ        แมตช์แรกในฟุตบอลโลก ที่แอฟริกาใต้ ของ อังกฤษ เริ่มต้นอย่างสวยหรูด้วยประตูขึ้นนำจาก เจอร์ราร์ดเมื่อผ่านไปแค่ 4 นาทีของเกมดวลแข้งสหรัฐอเมริกา        แต่ความผิดพลาดของ โรเบิร์ต กรีน นายทวารที่เฟอะฟะรับลูกยิงของ คลินท์ เดมพ์ซี่ย์ ไม่อยู่ และทำให้สิงโตคำรามได้แค่แต้มเดียวเท่านั้น        อย่างไรก็ตาม สตีวี่ จี ยังได้รับการยกย่องว่า เป็นแข้งอิงลิชเพียงหนึ่งเดียวที่ต่อสู้ด้วยหัวใจกร้าวแกร่งยันหยดสุดท้ายของเกมนั้น จากคุณ : เลขาลิขิต เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 09:18:25

ความคิดเห็นที่ 4 11 ส.ค. 2010 : เบิ้ลแซงแม็กยาร์        หลังผิดหวังจากเวิลด์ คัพ ทเวนตี้-เทน อังกฤษ ในคอนโทรลของ คาเปลโล่ ลงเล่นเกมแรกด้วยการนัดฮังการี มาลับฝีเท้า        โดยสาวกทรี ไลออนส์ ต่างเงียบกริบเมื่อโดนอาคันตุกะจากบูดาเปสต์ พลิกขึ้นนำอย่างน่าประหลาดใจ ทั้งๆ ที่เป็นฝ่ายปูพรมบุกขย่มใส่อยู่ตลอด        แต่ เจอร์ราร์ด ก็สวมบทซูเปอร์แมน สอยคนเดียว 2 ตุงช่วยให้ อังกฤษ พลิกกลับมาคว้าชัยได้สำเร็จ        ในวาระครบนัดที่ 100 ของ เจอร์ราร์ด ได้มีจัดเหตุการณ์เป็นเกียรติกับ เจอร์ราร์ด ด้วยการถ่ายรูปร่วมกับน้องๆ หนูๆ นักเรียนประถมของฮุยตัน วิธ โรบี้ เชิร์ช ในเมืองลิเวอร์พูล 99 คน โดยเขาสวมเสื้อทีมชาติอังกฤษนั่งเด่นอยู่ตรงกลาง ซึ่งคล้ายๆ กับช่วงเวลาที่ เซอร์ บ็อบบี้ มัวร์ กำลังจะลงเล่นนัดที่ 100 ให้ สิงโตคำราม เมื่อปี 1973        ไม่ต้องสาธยายหรือบ่งบอกสรรพคุณมากมายก็สามารถรับรู้ได้ถึงความพิเศษในเกมที่สตอกโฮล์มครั้งนี้        ตามสายตาคนอื่นๆ อาจมองว่าเป็นแค่เกมกระชับมิตร ไม่ได้จริงจังหรือสลักสำคัญอะไร และแม้จะแพ้ด้วยสกอร์ 2-4 ก็ตาม        แต่สำหรับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด แมตช์นี้มันเต็มไปด้วยคุณค่าสุดพิเศษและท่วมท้นด้วยความหมาย        ในฐานะว่าที่ ''ตำนาน'' คนต่อไปของวงการลูกหนังอังกฤษ credit : www.siamsport.co.th   โดย โกลด์เด้นโจ จากคุณ : เลขาลิขิต เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 09:20:29

ความคิดเห็นที่ 5 เบ็คส์ยกเจิดสุดยอดจริงๆสมควรติดธง100นัด โชว์หัวใจลูกพี่ใหญ่ เดวิด เบ็คแฮม อดีตกัปตัน ''สิงโตคำราม'' อวยชัยให้พรกัปตันรุ่นน้อง สตีเว่น เจอร์ราร์ด มิดฟิลด์ ''หงส์แดง'' แบบไม่อั้น ยกเป็นสุดยอดแข้งสมควรอย่างยิ่งที่จะได้รับคำยกย่องสรรเสริญ หลังติดธงลงสนามรับใช้ชาติครบ 100 นัดไปหมาดๆ เดวิด เบ็คแฮม กองกลางซูเปอร์สตาร์ดังสังกัด ลอสแองเจลิส แกแล็กซี่ ทีมดัง เมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ (เอ็มแอลเอส) สหรัฐอเมริกา ออกโรงยกย่องอดีตเพื่อนร่วมทีมชาติอังกฤษ สตีเว่น เจอร์ราร์ด มิดฟิลด์กัปตันทีม ลิเวอร์พูล ที่เพิ่งจะกลายเป็นนักเตะรายที่ 6 ที่ลงสนามรับใช้ทีม "สิงโตคำราม" ครบ 100 นัด เรียบร้อยแล้ว หลังลงเล่นเป็นตัวจริงในนัด กระชับมิตรที่บุกไปพ่าย สวีเดน 2-4 ที่สนาม เฟรนด์ส อารีน่า กรุงสต็อคโฮล์ม เมื่อวันพุธที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา เบ็คแฮม กล่าวผ่านหน้าเว็บไซต์แฟนเพจในเฟซบุ๊คของตัวเอง  เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา ว่า "มันเป็นอะไรที่สุดยอดไปเลยที่ได้เห็น สตีวี่ จี ติดทีมชาตินัดที่ 100 ในเกมกับสวีเดน เมื่อคืนที่ผ่านมา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว" "เขาเป็นนักเตะที่ทำผลงานได้อย่างเหลือเชื่อเสมอทั้งในตอนที่ลงเล่นให้กับสโมสรของเขาและทีมชาติ รวมทั้งยังสมควรอย่างที่สุดแล้วที่เขาจะได้รับการยกย่องสรรเสริญทุกประการ ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ผมเคยได้ลงสนามเคียงข้างเขา" อดีตกัปตันทีม "ทรี ไลอ้อนส์" วัย 37 ปี ทิ้งท้าย ทั้งนี้ เจอร์ราร์ด วัย 32 ปี ซึ่งประเดิมการรับใช้ชาติบ้านเกิดในเกมกับ ยูเครน เมื่อปี 2000 อยู่ในกลุ่มแข้งที่ลงเล่นให้ทีมชาติอังกฤษครบ 100 นัดเรียบร้อยแล้ว เคียงข้างกับนักเตะระดับตำนานอย่าง ปีเตอร์ ชิลตัน (125 นัด), เดวิด เบ็คแฮม (115 นัด), บ็อบบี้ มัวร์ (108 นัด), บ็อบบี้ ชาร์ลตัน (106 นัด) และ บิลลี่ ไรท์ (105 นัด) credit : www.siamsport.co.th ถึงผมจะเป็นแฟนผี แต่ก็ไม่ได้รังเกียจหงส์แต่ประการใด เห็นคอลัมน์นี้ใน siamsport จึงอดคัดลอกมาให้แฟนหงส์อ่านกันไม่ได้ แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 55 11:13:16 จากคุณ : เลขาลิขิต เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 09:23:40

ความคิดเห็นที่ 6 เจิดนี่ถ้าไม่เจ็บหนัก ผมว่ามีโอกาสทำสถิติแซงเบคไปได้อีกนะ  อีก 15 นัดกับอายุ   การใช้งานราวๆสองปี  ตำแหน่งตรงกลางในทีมชาติตอนนี้ ก็ยังไม่เห็นแววรุ่นใหม่คน ไหนจะมาแทนได้ ส่วนคนที่จะมาแซงเจิดอีกที ก็น่าจะเป็นรูน จากคุณ : pach.คุง เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 11:28:31

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณสำหรับบทความดีๆครับ จากคุณ : แกงไก่หมูทอด เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 21:09:01