 |
ไม่รู้มีใครเอามาแปะหรือยัง ผมว่าเป็นบทความของแกรี่เนวิลที่สุดยอดมากๆ
(เครดิตเวป ซอคเกอร์ซัค) กล้าหาญ โหดเหี้ยม หยุดไม่อยู่...คำจำกัดความของโรนัลโด้
แกรี่ เนวิลล์แบ็คขวาระดับตำนานของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเขียนคอลัมน์พูดถึงความสามารถของคริสติอาโน่ โรนัลโด้ อดีตรุ่นน้องเพื่อนร่วมทีมที่ปัจจุบันค้าแข้งอยู่กับเรอัล มาดริด โดยแบ็คชาวอังกฤษรายนี้เผยว่า "CR7" ทำให้เขาต้องเปลี่ยนแนวคิดในสมัยก่อนไปหลายๆเรื่อง
"ผมไม่มีวันลืมช่วงเวลาหลังจากเกมการแข่งขันกับชาร์ลตันไม่นานที่คริสติอาโน่ โรนัลโด้เซ็นสัญญากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งผมบอกกับตัวเองว่า รู้อะไรไหม? อั๊วพอแล้วกับไอ้บ้านี่"
"เขาเคลื่อนไหวแบบไร้ทิศทางไปทั่วทั้งสนาม เขาไม่ได้อยู่ในตำแหน่งของเขาเอง และเขาเป็นคนที่เราพึ่งอะไรไม่ได้"
"กับนักเตะที่เคยลงเล่นร่วมกับเดวิด เบ็คแฮมและไรอัน กิ๊กส์ สองนักเตะระดับโลกที่ทั้งเล่นเกมรุกและลงมาช่วยเล่นเกมรับ การลงเล่นร่วมกับโรนัลโด้เป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดเป็นอย่างมาก"
"เขาจะขยับไปทางฝั่งซ้าย แล้วก็มาทางด้านขวา และบางทีก็ไปโผล่ตรงกลางสนาม เขาไม่มีความแน่นอนเอาซะเลย ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้ทำให้ทีมของพวกเราเสียหาย ผมจำได้ตอนที่เขาทำบอลเสียในเกมกับเชลซีในยุคของมูรินโญ่ และมันนำมาซึ่งการเสียประตูของพวกเรา"
"เขาอาจจะเป็นนักเตะที่ทำให้พวกเราได้รับชัยชนะ แต่ในเกมถัดมาเขากลับหายไปซะงั้น ผมจำได้ดีในตอนที่ผมต้องด่าเขาจังหวะการลุ้นประตูที่ทำให้ผมแทบเป็นบ้า โดยเขาพยายามจะยิงลูกยากด้วยการตอกส้น แทนที่จะแปรง่ายๆให้มันเป็นประตูไป"
"พวกเรานำห่าง 3-0 แต่มันไม่ใช่สิ่งสำคัญ ผมตะโกนด่าเขาว่า เมิงทำนรกอะไรวะ? นั่นมันไม่ใช่สิ่งที่ทีมนี้เค้าทำกันเว้ยเห้ย"
"ความอดทนของผมมีน้อยลงเรื่อยๆ เช่นเดียวกับนักเตะคนอื่นๆในทีม มันไม่ใช่เรื่องที่ว่าพวกเราต้องการให้เขาย้ายออกจากสโมสรหรือว่าไม่ได้ลงเล่นในเกมการแข่งขันนะ มันเป็นเรื่องที่ว่าเราสงสัยว่าเมื่อไหร่เขาจะเรียนรู้สักที เมื่อไหร่กันที่เขาจะตามทันฟุตบอลอังกฤษ?"
"แต่ประสบการณ์ของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันทำให้เขาไม่เคยหมดความอดทน เขามอบโอกาสให้กับโรนัลโด้เสมอ"
"และหลังจากนั้นผมจำได้หลังจากเหตุการณ์ปัญหาของเขากับรูนี่ย์หลังฟุตบอลโลก 2006 เขาเดินเข้ามาในห้องแต่งตัว และก็ต้องทำให้ผมสงสัยเลยว่ามันไปทำบ้าอะไรมาตลอดช่วงซัมเมอร์กัน?"
"ในตอนที่เขาย้ายเข้ามาร่วมทีมใหม่ๆเขาดูเป็นเด็กผอมกะหรอง หลังจากช่วงซัมเมอร์เขาเริ่มดูหนาขึ้น ในซัมเมอร์นั้นเขาเล่นกล้ามทุกๆวัน และมันก็เหมือนกับว่าเราได้เห็นการเติบโตของเขาในช่วงไม่กี่สัปดาห์"
"ผลที่ตามมาอย่างใกล้ชิดในช่วง 2 ปีหลังจากนั้นต้องทำให้ทุกๆคนประหลาดใจ ผมไม่เชื่อเลยว่าจะมีใครสักคนที่ได้เห็นสิ่งมหัศจรรย์แบบนั้นมาก่อนในฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก"
"ผมรู้ว่าเคยมีนักเตะอย่างเธียรี่ อองรี, เอริค คันโตน่าและจิอันฟรังโก้ โซล่า ซึ่งบางทีอองรีในช่วงที่พีคที่สุดอาจจะนำมาเปรียบเทียบกับโรนัลโด้ได้ใกล้เคียง แต่ในสองปีหลังเหตุการณ์ปัญหาที่ฟุตบอลโลก มันดูเหมือนกับว่าเขากลายเป็นนักเตะจากนอกโลก เขาเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก"
"เขาจะล่าหาเหยื่อที่อ่อนแอ เมื่อไหร่ก็ตามที่เขามองหานักเตะที่เป็นจุดอ่อนเจอ เขาก็จะจัดการกับคนๆนั้น อย่างที่ไมค่อนเจอมาแล้วในเกมระหว่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้กับเรอัล มาดริด ณ สนามเบอร์นาบิวฤดูกาลนี้"
"เขาจะดมหากลิ่นเลือด เขาจะหาจุดอ่อนพบในแผงกองหลังทั้ง 4 คน หากเขาไม่สามารถเอาชนะแบ็คซ้ายได้ในช่วง 15 นาทีแรกเขาก็จะเปลี่ยนไปเล่นงานแบ็คขวา หากเขาไม่สามารถเล่นงานแบ็คขวาได้ เขาก็จะเปลี่ยนไปจัดการกับเซ็นเตอร์แบ็คทางฝั่งซ้าย"
"เขาจะหาใครสักคนในแผงหลังของคุณที่อ่อนแอ และไม่ชอบการดวล 1:1 กับความเร็วและพลังของเขา ความสามารถ, ความแข็งแกร่งและสปีดของเขาเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อ"
"ผมเคยลงเล่นกับนักเตะที่ยอดเยี่ยมหลายคนทั้งรอย คีน, ไรอัน กิ๊กส์, พอล สโคลส์, เดวิด แบ็คแฮม, เอริค คันโตน่าและมาร์ค ฮิวจส์ ซึ่งอาจเป็นเพราะการอยู่ค้าแข้งกับสโมสรที่ยาวนานกว่าโรนัลโด้ของพวกเขา อาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขาได้รับการจัดตำแหน่งเหนือกว่าโรนัลโด้ แต่ไม่มีใครที่ดีเท่ากับโรนัลโด้ในช่วง 2 ปีสุดมหัศจรรย์ของเขา"
"ผมได้รับบาดเจ็บในฤดูกาล 2007-08 ตอนที่ยูไนเต็ดคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีก ฉะนั้นแล้วผมจึงได้รับชมเกมจากบนอัฒจรรย์หลายต่อหลายเกม ผมจำได้ดีว่าผมคิดกับตัวเองว่ามันจะยอดเยี่ยมเพียงใดหากได้ดูจอร์จ เบสต์ลงเล่นบ้าง?"
"ผมไม่เคยเห็นลุงเบสต์เล่นด้วยตา แต่มันทำให้ผมคิดว่าหากมันเป็นสิ่งเดียวที่คล้ายคลึงกับโรนัลโด้ในเวลานี้ มันก็ทำให้ผมเข้าใจว่าทำไมแฟนบอลรุ่นเดอะยังคงพูดถึงเขา"
"และไม่มีใครสักคนหนึ่งที่เคยพูดกับผมว่าโรนัลโด้นั้นไม่ใช่นักเตะที่กล้าหาญ ไม่เคยมีใครบอกกับผมว่าเขาเป็นคนที่นุ่มนวล เขาไม่เคยไปหลบซ่อนเมื่อมีเกมการแข่งขัน แม้เขาจะรู้ดีว่าสิ่งที่ทีมอื่นจะทำคือการส่งนักเตะอย่างน้อยหนึ่งคนมาคอยประกบเขา"
"ใช่ บางทีเขาอาจจะเป็นนักเตะที่ล้มง่ายเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้าแข้งในปีแรกๆของพวกเขา แต่เขามีเซ็นเตอร์แบ็คร่างยักษ์จ้องจะถอนรากถอนโคนเขาอยู่ตลอดเวลา เขาถูกเจ้านายและพวกเราเตือนเสมอว่าอยู่ให้ห่างจากการเข้าปะทะเหล่านั้นเอาไว้ พวกเราไม่ต้องการให้เขาได้รับอาการบาดเจ็บ"
"ลองนึกย้อนถึงลูกโหม่งที่เขาทำได้ในเกมกับโรม่าเมื่อปี 2008 ดูสิ เขาถูกกองหลังขึ้นสอยกลางอากาศในจังหวะที่เข้าโหม่งบอล คุณไม่สามารถทำประตูจากลูกโหม่งแบบนั้นได้หากคุณไม่ใช่นักเตะที่กล้าหาญ นั่นเป็นแบบที่ถูกหล่อหลอมมาจากนักเตะอย่างแฟรงค์ สเตเปิลตั้น, โจ จอร์แดน, แอนดี้ เกรย์หรือมิค ฮาร์ฟอร์ดเลยล่ะ"
"เขาไม่ใช่นักเตะที่มีลักษณะนิสัยอ่อนโยนอะไรเทือกนั้น เขาเป็นคนที่แข็งแกร่ง มันทำให้ผมเข้าใจในฐานะแบ็คขวาเมื่อฤดูกาล 2006-07 โดยผมจะไม่บ่นสักคำหากเขาหายหัวไป 30 นาทีและปล่อยให้ผมต้องดวลกับนักเตะสองคน"
"เขาทำให้ผมเปลี่ยนความคิดต่อเกมการแข่งขันไปอย่างสิ้นเชิง ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์เคยพูดเอาไว้ว่าพวกเราทุกคนจะต้องทำงานหนักรอบๆตัวเขา เพราะเขาจะทำอันตรายได้มากกว่านักเตะฝ่ายตรงข้ามคนที่เขาควรจะประกบกับการยืนอยู่ข้างหน้า"
"ด้วยวัย 27 ปีของผมในตอนนั้น ซึ่งผมคิดว่าผมมีประสบการณ์มากอยู่นะ ผมคาดหวังว่าจะได้บอกกับนักเตะวัย 21 ปีรายนี้ว่าเกมการเล่นมันจะต้องเป็นอย่างไร"
"แต่เขากลับบอกผมในสิ่งที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง ผมลงเล่นโดยมีผ้าปิดตาผมอยู่หลายต่อหลายปี แต่เขาเป็นคนที่ทำให้ผมตาสว่างกับแนวทางการเล่นที่แตกต่างออกไป"
"ผมไม่มีวันลืมในการซ้อมวันหนึ่งที่พวกเราจะต้องวิ่งแบบโหดๆ 8 ครั้ง แต่ 2 ครั้งสุดท้ายของเขามันดูเหมือนว่าเขาจะผ่อนลงและไม่ใส่อะไรมากนัก เขาพูดออกมาแบบเรียบง่าย โดยบอกว่าการรดน้ำมากเกินไป จะทำให้ต้นไม้ตายลง"
"ผมยังจำคำพูดเหล่านั้นของเขาได้แม้กระทั่งวันนี้ ผมเติบโตขึ้นมาโดยถูกสอนว่าในทุกๆนาทีของแต่ละวันเป็นการต่อสู้ และคุณจะต้องต่อสู้แบบไม่หยุดหย่อนแม้กระทั่งในการฝึกซ้อม"
"แต่แม้ว่าเขาจะฝึกซ้อมอย่างหนัก และฝึกซ้อมอย่างมีประสิทธิภาพ หากมันมีการวิ่งเต็มสปีด 8 เซสชั่นของการฝึกซ้อม เขาจะวิ่งเต็มที่แค่ 6 ครั้งและนั่นทำให้เขารู้สึกว่าเพียงพอแล้ว อีกสองครั้งเขาจะวิ่งด้วยความเร็วที่เขากำหนดเอง เขารู้ดีว่าร่างกายของเขาเหมาะกับอะไรนี่"
"ถึงตอนนี้คุณคิดว่าใครฉลาดกว่ากันล่ะ?"
"ทฤษฎีและแท็คติกส์ต่างๆที่ถูกไตร่ตรองและผมได้เรียนรู้มาก่อนหน้านี้ในเรื่องของการที่จะต้องควบคุมร่างกาย และการวิ่ง ทุกๆสิ่งที่ผมเรียนรู้เข้ามาถูกโยนออกจากหัวของผมตลอดช่วง 2 ปีที่ยอดเยี่ยมของเขา เพราะพวกเรามีนักเตะคนหนึ่งที่สามารถสร้างกฎเกณฑ์ของตัวเองขึ้นมา พร้อมกับคำสรรเสริญของเพื่อนร่วมทีม"
"เขาได้สร้างคำจำกัดความของเกมฟุตบอลขึ้นมาใหม่ กับความยืดหยุ่นในแดนหน้า"
"ในปี 2008 ทีมของเรามีนักเตะอย่างพอล สโคลส์, เวย์น รูนี่ย์, ไรอัน กิ๊กส์, คาร์ลอส เตเบซ, นานี่และโรนัลโด้ นักเตะเกมรุกที่สามารถลงเล่นได้ทุกๆตำแหน่งในแดนหน้า"
"คุณไม่สามารถพูดก่อนเกมการแข่งขันได้ว่าในวันนี้ฉันจะต้องเผชิญหน้ากับเขา มันเป็นแนวทางการเล่นและการเข้าใจวงการฟุตบอลสมัยใหม่ที่แตกต่างออกไป"
"เขามักจะถูกดึงดูดกับการก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกอยู่ตลอดเวลา เขาไม่มีความกังวลหรือเคอะเขินใดๆ ที่จะบอกเพื่อนร่วมทีมในห้องแต่งตัวหรือกับสื่อมวลชนว่านั่นคือเป้าหมายของเขา"
"ในประเทศอังกฤษ ความใฝ่ฝันเหล่านั้นอาจจะเป็นสิ่งที่เล่นงานคุณได้ ระเบียบวินัยของทีมนั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก บางครั้งพวกเราจะเหยียบย่ำคนที่สนใจเรื่องของตัวเองแบบนั้น"
"แต่เขาเป็นคนที่เชื่อมั่นในระเบียบวินัยของทีม นอกจากนี้เขายังเชื่อว่าทีมของเราจะดีขึ้นหากเขาเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในโลก"
"คุณอาจจะพูดกันเสมอว่าความสำเร็จส่วนตัวไม่ใช่สิ่งที่สำคัญ แต่สำหรับโรนัลโด้นั้นมันแตกต่างออกไป"
"สำหรับเขาแล้วเรื่องนั้นเป็นเรื่องสำคัญ เขาต้องการเหรียญรางวัลบนหน้าอกของเขา และเขาจะโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงในยามที่เขาหรือทีมทำผลงานไม่ได้ในระดับที่ควรจะเป็น"
"เป็นอีกครั้งที่เขาเปลี่ยนแนวความคิดของผม เขาแสดงให้เห็นว่ามันมีความเป็นไปได้สำหรับการที่คุณจะมัดรวมความใฝ่ฝันส่วนตัวของคุณ กับความสำคัญของทีมเอาไว้ร่วมกันได้"
"การที่เขาสามารถย้ายออกจากยูไนเต็ดในช่วงเวลาที่เขามีฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุด และยังคงมีแฟนบอลร้องเพลงเรียกชื่อเขาเป็นสิ่งที่บ่งบอกอะไรบางอย่าง"
"ในค่ำคืนวันพุธนี้ เขาจะลงแข่งขันกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ นี่เป็นการกลับมายังเมืองแมนเชสเตอร์ครั้งแรกของเขานับตั้งแต่ย้ายออกจากยูไนเต็ด"
"ในขณะที่เขาจะต้องโดนเสียงโห่จากแฟนบอลเจ้าบ้านในฐานะอดีตนักเตะของยูไนเต็ด ทุกๆคนในสนามแห่งนั้นรวมทั้งตัวผมจะต้องคิดในใจว่า ฉันจะได้ดูคริสติอาโน้ โรนัลโด้ลงเล่นในค่ำคืนนี้"
"หากคุณเป็นเด็ก มันจะเป็นจุดกล่าวอ้างถึงตัวคุณ เป็นอะไรบางอย่างที่คุณสามารถใช้คุยได้เมื่อคุณโตขึ้น"
"แต่ด้วยความสัตย์จริง สำหรับทุกๆคนที่ชื่นชอบในกีฬาฟุตบอล มันจะเป็นอีกหนึ่งสิทธิพิเศษที่ได้รับชมหนึ่งในนักเตะที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลลงสนาม..."
http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=716555&sid=26a857d031b11f93c2fc56779d57a47d
จากคุณ |
:
LazBue
|
เขียนเมื่อ |
:
20 พ.ย. 55 21:46:31
|
|
|
|
 |