 |
ไม่ใช่กระทู้บ้าผู้ชาย แต่เอามุมมองของคนหน้าตาดีมาให้อ่าน กับฟรานเชสโก ต๊อตติ
คนเราเวลาโดนใครเอาชื่อไปล้อเลียนเป็นเรื่องโจ๊ก เป็นธรรมดาที่ต้องโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง
ยิ่งเกิดเป็นคนดัง ยิ่งหลีกเลี่ยงการตกเป็น "ขี้ปาก" ชาวบ้านได้ยากเข้าไปใหญ่
ดูอย่างสองสามีภรรยา เดวิด กะ วิกตอเรีย เบ๊กแฮม นั่นปะไร จะขยับตัวทำอะไรทีเป็นต้องโดนเมาธ์กันสนั่นเกาะอังกฤษ
และถ้าจะเปรียบเปรยใครสักคนที่มีสถานภาพของ "โกลเด้นบอย" แบบเดียวกับหนุ่มเบ๊กส์บนแผ่นดินอิตาลี คนคนนั้นก็คงไม่พ้นกัปตันทีมคนดังของโรม่า ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ เป็นแน่แท้
ในสนามแข่ง ต๊อตติ คือซูเปอร์สตาร์และเพลย์เมกเกอร์ระดับเวิร์ลด์คลาส ของทั้งทีมหมาป่าแห่งกรุงโรมและทีมชาติอิตาลี นอกสนามเขาก็เป็นหนุ่มมาดเท่ที่มีใบหน้าคมขำสไตล์อิตาเลียนเป็นเสน่ห์ดึงดูดสาวๆ
แต่ว่ากันว่าหนุ่มหล่อคนนี้ถ้าเอาไว้โชว์แบบ "ภาพนิ่ง" เฉยๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่อย่าเผลอให้กลายเป็น "ภาพเคลื่อนไหว" ขึ้นมาเชียว
เพราะพ่อคุณมักจะ "หลุด" หรือ "ปล่อยไก่" ออกมาเล้าเบ้อเร่อเสมอ!
หลายคนอาจจะไม่เชื่อ แต่นิสัยแท้ๆ ของหนุ่มอิตาเลียนวัย 26 ปีคนนี้ออกจะขี้ตื่นเอามากๆ จึงมักจะมีท่าทางตลกๆ ต่อหน้ากล้องหน้าไมค์อย่างสม่ำเสมอ
และความที่เผลอหลุดท่าทางเฟอะฟะออกมาบ่อยๆ ทำให้เขากลายเป็นหัวข้อเรื่องโจ๊กๆ ที่ชาวมะกะโรนีมักจะมักจะเอามาล้อเลียนหรือเล่าสู่กันฟังอย่างสนุกปากอยู่เสมอ
ตัวอย่างอาการหลุดๆ ของหนุ่มต๊อตติที่ดังที่สุดครั้งหนึ่งเห็นจะเป็นตอนที่เขาโดนนักข่าวคนหนึ่งยิงคำถามใส่เขาว่า เขาเชื่อในคติพจน์ภาษาละตินที่ว่า "carpe diem" ซึ่งแปลว่า "จงฉวยโอกาสตรงหน้าไว้" หรือไม่
คำนี้ต่อให้คนไทยเราที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่มาเห็นยังอาจจะพอเดาได้ว่ามันไม่ใช่ภาษาอังกฤษแหงๆ แต่พ่อหนุ่มต๊อตติกลับตอบนักข่าวอย่างไม่ลังเลเลยว่า "ขอโทษครับ ผมไม่รู้ภาษาอังกฤษ!"
ความเฟอะฟะแบบนี้ทำให้แฟนบอลถูกอกถูกใจและมักนำชื่อของเขาไปผูกเรื่องให้เป็นเรื่องราวของหนุ่มเซ่อๆ โง่ๆ คนหนึ่งอยู่เสมอ
แต่ถึงจะโดนหัวเราะเยาะขนาดไหน ต๊อตติก็ไม่เคยแสดงท่าทีโกรธขึ้งใครแต่อย่างใด ในทางตรงข้าม เขากลับเห็นมุมมองดีๆ ของเรื่องนี้ด้วยซ้ำไป
ไม่นานมานี้ต๊อตติตัดสินใจรวบรวมเรื่องตลกที่เกี่ยวข้องกับเขาทั้งหมด คัดกันเรื่องต่อเรื่องด้วยตัวเอง แล้วจัดพิมพ์เป็นหนังสือออกวางตลาดเมื่อวันที่ 16 มิถุนายนในชื่อว่า "ออล เดอะ โจ๊กส์ อะเบาต์ ต๊อตติ : มาย คอลเล็กชั่น" (All the jokes about Totti : my collection) ราคาเล่มละ 9 ยูโร หรือประมาณ 400 กว่าบาท
ปรากฏว่าเพียงแค่ 2 สัปดาห์แรก หนังสือตลกๆ เล่มนี้ก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ยอดขายทะลุเป้าถึง 150,000 เล่ม และจนถึงปัจจุบันขายไปแล้วกว่า 430,000 เล่ม เป็นฉบับพิมพ์ครั้งที่ 9 และอยู่บนยอดสูงสุดของหนังสือ "เบสต์เซลเลอร์" ในอิตาลีไปแล้วเรียบร้อย!!
หลายคนอาจจะคิดว่า ต๊อตติช่างฉลาดเหลือร้ายที่รู้จักเอาเรื่องแย่ๆ ของตัวเองมาทำกำไร
แต่ขอให้ทุกท่านเบรกความคิดพวกนี้ไว้ก่อน แล้วลองไปฟังเรื่องราวต่อไปกันอีกสักหน่อย...
เรื่องโจ๊กทั้งหมดที่ตีพิมพ์ในหนังสือเล่มนี้ ต๊อตติคัดสรรแล้วว่า จะเป็นมุขตลกที่ว่าตัวเขาเองอย่างสาดเสียเทเสียอย่างไรก็ได้ แต่ต้องไม่ลามปามไปถึงครอบครัวของเขาอย่างเด็ดขาด
ยิ่งไปกว่านั้น รายได้เกือบทั้งหมดของการขายหนังสือ ต๊อตติจะนำไปสมทบทุนขององค์การ ยูนิเซฟ เพื่อช่วยเหลือคนชราผู้ยากไร้ในกรุงโรม รวมทั้งเด็กๆ ผู้ด้อยโอกาสในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก
ปีที่แล้วต๊อตติตอบรับที่จะเป็นทูตพิเศษขององค์การยูนิเซฟเพื่อรณรงค์ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสตามสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก และได้รับคำชมเชยจากคนในองค์กรเป็นอย่างมาก
"ผมดีใจที่ได้มีส่วนช่วยคนที่ไม่โชคดีเท่ากับตัวเอง ผมไม่สนใจหรอกครับเวลาที่โดนคนล้อเลียน ตราบใดที่มุขตลกเหล่านั้นไม่ใช่เรื่องเลวร้ายที่จะทำร้ายใคร ผมเองก็เป็นคนมีอารมณ์ขันออกจะตายนี่นา"
ขณะที่ ฟาบีโอ คาเพลโล่ กุนซือโรม่าที่สนิทสนมคุ้นเคยกับต๊อตติมานาน ถึงกับเอ่ยปากกลั้วหัวเราะว่า "คงต้องคารวะฟรานเชสโก้สักจอกแล้วนะนี่! ผมอ่านหนังสือเล่มนี้ดูแล้วล่ะ ขำกลิ้งเลยคุณ ผมไม่แปลกใจเลยสักนิดที่หนังสือของเขาขายดิบขายดีขนาดนี้"
ขณะที่แฟนบอลคนหนึ่งซึ่งรีบไปจับจองหนังสือมาเป็นเจ้าของแสดงทรรศนะไว้อย่างน่าฟังว่า
"จะมีสักกี่คนในโลกที่กล้าหัวเราะเยาะตัวเองอย่างนี้?"
ก่อนหน้าที่หนังสือเล่มนี้จะวางตลาด ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ คือคนที่ชาวโรมรักมากที่สุด แต่ว่ากันว่า หลังจากหนังสือประสบความสำเร็จอย่างเหลือเชื่อ ทำให้ต๊อตติซื้อใจแฟนๆ ในอิตาลีรวมทั้งทั่วโลกได้อีกอักโข
จากคุณ :
@PooH@ 
- [
21 ส.ค. 46 22:06:55
]
|
|
|
|
|
|
