 |
"ฆวน คาร์ลอส เฟร์เรโร่ กับตำแหน่งมือ 1 ของโลกคนใหม่"
ถ้าจะถามว่าใครคือนักหวดลูกสักหลาดฝ่ายชายที่กำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรงอยู่ในขณะนี้ เชื่อแน่ว่า นอกเหนือจาก แอนดี้ ร็อดดิค นักหวดหนุ่มหล่อชาวอเมริกันแล้ว จะต้องมีชื่อของ ฆวน คาร์ลอส เฟร์เรโร่ นักเทนนิสจากแดนกระทิงดุ เป็นคำตอบสุดท้ายของแฟนๆ ลูกสักหลาดด้วยอย่างแน่นอน
แม้จะพลาดคว้าแชมป์ ยูเอส โอเพ่น แกรนด์สแลมลำดับสุดท้ายของปี ที่ฟลัชชิ่ง เมโดว์ส ประเทศสหรัฐอเมริกา มาครองอย่างน่าเสียดาย หลังพ่ายให้กับ "เอ-ร็อด" ไป 3 เซตรวดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่นักหวดเจ้าของฉายา "เจ้ายุง" คนนี้ก็ได้รับข่าวที่เรียกได้ว่าเป็นรางวัลปลอบใจได้เป็นอย่างดี นั่นก็คือตำแหน่งมือ 1 ของโลกคนใหม่จากการจัดอันดับระบบเอ็นทรี ซิสเต็ม ของสมาคมเทนนิสชายอาชีพ หรือ เอทีพี เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาโดยเขี่ย อังเดร อากัสซี่ นักเทนนิสจอมเก๋าชาวอเมริกัน เจ้าของเดิมตกลงไปอยู่อันดับ 4 แทน
และแม้จะไม่ได้โชว์ฟอร์มการหวดแร็กเกตชนิดเปรี้ยงปร้างดังเป็นพลุแตกในช่วงปีที่ผ่านมา แต่ถ้าเราสังเกตดีๆ ก็จะพบว่า ยอดนักหวดจากแดนกระทิงดุนั้นก็สามารถรักษาฟอร์มการเล่นได้อย่างคงเส้นคงวามาตลอดเช่นกันจึงทำให้สะสมคะแนนได้มากที่สุดจนก้าวขึ้นไปเป็นนักเทนนิสหมายเลข 1 ของโลกได้ด้วยวัยเพียง 23 ปีเท่านั้น
เพราะฉะนั้น ในวันนี้เราจะมาดูความสำเร็จของ เฟร์เรโร่ ในรอบปีที่ผ่านมากันว่า มีผลงานที่ยอดเยี่ยมอย่างไรบ้างถึงก้าวขึ้นไปถึงจุดที่บรรดานักเทนนิสอาชีพทั้งหลายต่างฝันอยากที่จะไปยืนอยู่กันทั้งนั้น
เริ่มตั้งแต่ช่วงเดือน มกราคม "เจ้ายุง" ก็เกือบที่จะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อเกือบที่จะคว้าแชมป์เทนนิสเอทีพี ทัวร์ รายการ อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรี่ส์ ที่เมือง ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งที่เป็นรายการอุ่นเครื่องก่อนศึก ออสเตรเลียน โอเพ่น จะเปิดฉากขึ้น มาครองได้ แต่ก็ต้องไปพ่ายให้กับ ลี ฮุง-เต็ก นักเทนนิสจากเกาหลีใต้ ไปอย่างพลิกล็อก 1-2 เซต 6-4, 6-7(6-8) และ 6-7(4-7) ได้เพียงแค่รองแชมป์เท่านั้น
พอมาถึงแกรนด์สแลมรายการแรกของปีอย่าง ออสเตรเลียน โอเพ่น ยอดนักหวดจากแดนกระทิงดุก็สามารถผ่านเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศได้ก่อนจะหวดแร็กเกตพ่ายให้กับ เวย์น เฟอร์ไรร่า นักเทนนิสจากแอฟริกาใต้ไป 3 เซตรวด 6-7(4-7), 6-7(5-7),1-6 ซึ่งก็ถือได้ว่าเป็นผลงานที่ดีที่สุดของเขาแล้วนับตั้งแต่ลงแข่งทัวร์นาเมนต์นี้มา เพราะก่อนหน้านี้เคยเข้าถึงเพียงรอบ 3 เท่านั้นเมื่อปี 2000
หลังจากนั้น ก็มาประสบความสำเร็จคว้าแชมป์รายการแรกของปีมาครองได้ ในรายการ มอนติ คาร์โล ที่ โมนาโก เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นรายการบนคอร์ตดินที่เจ้าตัวถนัดที่สุดด้วยโดยเอาชนะ กิเยร์โม่ โคเรีย นักหวดจากอาร์เจนตินา ซึ่งถือว่าเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญการเล่นบนคอร์ตดินคนหนึ่งไปได้ 2 เซตรวด 6-2, 6-2
ต่อมาที่รายการ อินเตอร์เนชั่นแนล มาสเตอร์ ซีรี่ส์ ที่เมืองบาเลนเซีย ในบ้านเกิดเมื่อปลายเดือน เมษายน ก็ยังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมต่อเนื่อง คว้าแชมป์มาครองได้อีก โดยควงแร็กเกตเอาชนะ คริสตอฟ โรชุส นักเทนนิสจากเบลเยียมไปอย่างสบาย 2 เซตรวด 6-2, 6-4
ส่วนทัวร์นาเมนต์ต่อมา รายการมาสเตอร์ ซีรี่ส์ ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี ซึ่งถือเป็นรายการที่มีความยิ่งใหญ่เป็นรองเพียงแค่แกรนด์สแลมเท่านั้น เฟร์เรโร่ ก็สามารถเข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้ก่อนจะไปพ่ายให้กับ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ นักหวดจากสวิตเซอร์แลนด์ ไป 2 เซตรวด 4-6, 2-4
แต่ที่ยิ่งใหญ่สุดๆ เห็นจะหนีไม่พ้นการประกาศศักดาคว้าแชมป์ เฟร้นช์ โอเพ่น แกรนด์สแลมลำดับที่ 2 ของปี ที่โรล็องด์ การ์โรส ประเทศฝรั่งเศส มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่และถือเป็นแชมป์เมเจอร์แรกในชีวิตของ "เจ้ายุง" ด้วย โดยเอาชนะ มาร์ติน เวอร์เคิร์ก นักหวดม้ามืดจากเนเธอร์แลนด์ มืออันดับ 35 ของโลกในตอนนั้นไปได้ 3 เซตรวด 6-1, 6-3, 6-2 นอกจากนี้ ยังถือเป็นการลบความผิดหวังจากปี 2002 ที่คว้าเพียงแค่รองแชมป์มาครองด้วย
มาถึงรายการแกรนด์สแลมที่ 3 ของปีอย่าง วิมเบิลดัน เมื่อเดือน มิถุนายน ที่ผ่านมา เฟร์เรโร่ ก็เข้าถึงรอบ 4 หรือ รอบ 16 คนสุดท้ายได้เป็นครั้งแรกแต่ก็ต้องไปพ่ายให้กับ เซบาสเตียง โกรส์ฌอง นักเทนนิสจากฝรั่งเศสไป 1-3 เซต 2-6, 6-4, 6-7(2-7), 6-7(3-7) ตกรอบอย่างน่าเสียดาย แต่ก็ได้ก้าวขึ้นมาเป็นมือ 1 ของโลกจากการจัดอันดับแบบ แชมเปี้ยนส์ เรซ เป็นรางวัลปลอบใจแทน
และที่ผ่านไปสดๆ ร้อนๆ กับการแข่งขัน ยูเอส โอเพ่น รายการเมเจอร์สุดท้ายของปี แม้ เฟร์เรโร่ จะได้รับการจัดอันดับให้เป็นมืออันดับ 3 ของรายการ แต่เชื่อแน่ว่าคงไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้เนื่องจากอย่างที่เราทราบกันดีว่า นักหวดจากแดนกระทิงดุ นั้น เชี่ยวชาญในการเล่นบนคอร์ตดิน มากกว่าบนพื้นฮาร์ดคอร์ต เป็นไหนๆ
ในรอบแรกที่ผ่านมา "เจ้ายุง" ก็ผ่านไปได้อย่างต้องออกแรงเหนื่อยนิดหน่อยหลังต้องเล่นถึง 4 เซตกว่าจะเอาชนะ แยน วาเช็ก นักหวดจากสาธารณรัฐเช็ก ไปได้ 3-1 เซต 6-2, 4-6, 6-3, 6-2 พอมาถึงรอบที่ 2 ก็ต้องหวดแร็กเกตถึง 4 เซตเช่นเดียวกันกว่าจะผ่าน เจอร์เก้น เมลเซอร์ มือไร้อันดับจากออสเตรีย ไป 3-1 เซต 1-6, 7-6 (7-2), 6-2, 6-4
พอรอบที่ 3 ก็เอาชนะ ฮวน อิ๊กนาซิโอ เชล่า นักเทนนิสมือ 33 ของรายการชาวอาร์เจนตินา ไปอย่างสบาย 3-0 เซต 7-5, 7-5, 6-1 แต่ที่สร้างความลำบากที่สุดเห็นจะหนีไม่พ้นรอบ 4 หรือ รอบ 32 คนสุดท้ายที่ต้องเล่นถึง 5 เซตกว่าจะเอาชนะ ท็อดด์ มาร์ติน นักหวดจากสหรัฐฯ ไปได้อย่างเฉียดฉิว 3-2 เซต 6-2, 6-4, 3-6, 5-7, 6-3 พร้อมกับผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เข้าร่วมการแข่งขันที่ ฟลัชชิ่ง เมโดว์ส มาตั้งแต่ปี 1999
และ เฟร์เรโร่ ก็ยังโชว์ฝีมือการหวดแร็กเกตได้อย่างร้อนแรงต่อไปหลังเอาชนะ เลย์ตัน ฮิววิตต์ นักเทนนิสมือ 6 ของรายการชาวออสเตรเลียที่เอาชนะ "ซูเปอร์บอล" ภราดร ศรีชาพันธุ์ ขวัญใจชาวไทยไปได้ในรอบก่อนหน้านี้ 3-1 เซต 4-6, 6-3, 7-6 (7-5), 6-1
แต่ที่สุดยอดจริงๆ เห็นจะหนีไม่พ้นรอบรองชนะเลิศที่ลงดวลแร็กเกตกับ อังเดร อากัสซี่ นักหวดจอมเก๋ามือ 1 ของรายการและของโลกและก็สามารถเอาชนะ "โป๊งเหน่ง" ไปได้อย่างพลิกล็อก 3-1 เซต 6-4, 6-3, 3-6, 6-4
แม้จะต้องพ่ายให้กับ ร็อดดิค นักหวดขวัญใจเจ้าถิ่นในรอบชิงชนะเลิศไปอย่างขาดลอย 3-0 เซต 3-6, 6-7 (2-7), 3-6 คว้าเพียงแค่รองแชมป์มาครองเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่ เฟร์เรโร่ ก็สามารถทำคะแนนแซงหน้า อากัสซี่ ก้าวขึ้นไปเล่นนักหวดหมายเลข 1 ของโลกได้สำเร็จซึ่ง "เจ้ายุง" ก็ได้ออกมากล่าวความรู้สึกหลังจบเกมเกี่ยวกับความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ว่า
"คุณรู้ไหม ผมคิดว่าตัวเองทำงานหนักมาตลอดเพื่อสิ่งนี้ กับการได้ลงเล่นรอบชิงชนะเลิศ เพื่อเอาชนะนักเทนนิสที่ยิ่งใหญ่อย่าง ท็อดด์ มาร์ติน, เลย์ตัน ฮิววิตต์, อังเดร อากัสซี่ รวมทั้ง ร็อดดิค เพียงแต่ว่าวันนี้มันไม่ใช่วันของผมแค่นั้นเอง"
"ตอนนี้ ผมรู้สึกเศร้านิดหน่อย แต่ผมก็ควรจะคิดว่าตัวเองทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมมาตลอด 2 อาทิตย์ที่ผ่านมาแล้ว"
นอกจากนี้ แชมป์เฟร้นช์ โอเพ่นคนล่าสุด กล่าวว่า เขาทราบดีว่าการที่จะต้องลงดวลแร็กเกตกับ ร็อดดิค จะต้องสร้างความลำบากให้กับเขาเป็นอย่างมาก เนื่องจากนักหวดขวัญใจเจ้าถิ่นกำลังอยู่ในฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมมากในขณะนี้
"มันไม่ได้ทำให้ผมประหลาดใจเลย ถ้าเขาเสิร์ฟลูกได้อย่างยอดเยี่ยม มันไม่ง่ายเลยที่จะเอาชนะเขา คุณต้องเสิร์ฟให้ได้ดีเท่าเขาเพื่อที่จะได้ไปตัดสินเกมการแข่งขันกันในช่วงไทเบรก พอผมเริ่มลงแข่ง มันก็เป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆ"
ก่อนหน้านี้ เฟร์เรโร่ เจ้าของแชมป์ เฟร้นช์ โอเพ่น ไม่เคยก้าวไปไกลกว่ารอบ 4 เลย ในการแข่งขันรายการ ยูเอส โอเพ่น 4 ปีที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวก็เชื่อว่าชัยชนะในแมตช์เมื่อวันเสาร์ เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมากที่เคยเกิดขึ้นมาบนฮาร์ดคอร์ต "ผมไม่ได้เล่นดีนักสำหรับ 2 ปีใน ยูเอส โอเพ่น แต่ตอนนี้ผมกำลังเล่นได้ดีมากบนฮาร์ดคอร์ต"
ขณะเดียวกัน เฟร์เรโร่ ที่คว้าแชมป์ในปีนี้มาแล้ว 3 รายการและเป็นการแข่งขันบนคอร์ตดินทั้งหมด ก็ออกมากล่าวว่า รู้สึกเซ็งกับฟอร์มการเล่นของตัวเองในวันนี้มากเพราะเล่นไม่ได้อย่างที่คิดไว้เลย "ฟอร์มของผมแย่มากในวันนี้ มันแย่มากจริงๆ ผมไม่ได้เล่นด้วยฟอร์มที่แท้จริงของผม ผมไม่มีโอกาสตีบอลได้แรงเลย บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าเขาเสิร์ฟอย่างหนักตลอดทั้งเกม ผมไม่สามารถหาจังหวะการเล่นของตัวเองได้เลย"
"ผมรู้ว่ามันอาจจะมีโอกาสเป็นไปได้ แต่มันยากมากในการที่จะเบรกเกมเสิร์ฟของเขา ดังนั้น ผมต้องเล่นเกมของผมให้ดีกว่าเดิม โดยเฉพาะกับการเสิร์ฟของตัวเองซึ่งผมก็ทำไม่สำเร็จ"
อย่างไรก็ดี ยอดนักหวดจากแดนกระทิงดุ ได้ทิ้งท้ายว่าเขาได้อะไรกลับไปมากมายจากผลการแข่งขัน ยูเอส โอเพ่น ในปีนี้ "ผมได้เรียนรู้ว่าสามารถเล่นบนฮาร์ดคอร์ต ได้ดีเช่นกัน และผมก็สามารถเล่นกับนักเทนนิสคนไหนก็ได้"
ส่วนความรู้สึกที่ได้ก้าวขึ้นไปเป็นมือ 1 ของโลกคนใหม่นั้น เฟร์เรโร่ ก็กล่าวว่า "ผมทำงานมาอย่างหนักสำหรับการเป็นหมายเลข 1 ผมมีความสุขอย่างแท้จริงที่ก้าวขึ้นไปอยู่เป็นอันดับ 1 ได้ มันเป็นครั้งแรกสำหรับผม และผมจะทำงานอย่างหนักเพื่อรักษามันเอาไว้"
เราคงต้องคอยมาลุ้นกันต่อไปว่า นักหวดจากสเปน ผู้นี้จะรักษาตำแหน่งสุดยอดนักเทนนิสของโลกมาครองไว้ได้นานแค่ไหน แต่ด้วยฟอร์มการเล่นแบบนี้แล้วเชื่อแน่ว่าคงไม่หลุดลอยไปง่ายๆ แน่นอน และถ้าใครไม่อยากจะพลาดดูฟอร์มการเล่นของเขาสดๆ แล้วล่ะก็ อย่างลืมตามไปให้กำลังใจเขากันในศึก ไทยแลนด์ โอเพ่น ที่เมืองไทยของเรารับหน้าที่เป็นเจ้าภาพครั้งแรกระหว่างวันที่ 20-28 กันยายนี้ จะได้ไปเห็นกับตาว่าระดับมือ 1 ของโลกแล้วเขามีเทคนิคการเล่นอย่างไรกันบ้าง
"FRENCH MEMBER"
ที่มา http://www.siamsport.co.th/ColumnHotNews30.html
จากคุณ :
vamos_juanqui 
- [
17 ก.ย. 46 15:40:22
]
|
|
|
|
|
|
