ความคิดเห็นที่ 16
"มวยไทย" เป็นศิลปะการต่อสู้ที่ต้องพึ่ง"วัย"และ"สังขาร" เป็นหลัก ทำนองว่ากล้ามใหญ่กว่าก็ได้เปรียบกว่ากล้ามเล็ก คนที่เร็วกว่าย่อมมีเปรียบกว่าคนที่ช้ากว่า
พอแก่ตัวลง ถึงจะแก่วิชาขนาดไหน ก็สู้คนหนุ่มที่ไม่เป็นมวยไม่ได้ ถึงแม้จะสู้ได้ ก็เป็นข้อยกเว้นเฉพาะบุคคลเท่านั้น ไม่ใช่บทสรุปที่ลงตัวของศิลปะการต่อสู้แขนงนี้เลย
และส่วนใหญ่มวยเหล่านี้จะให้ความสำคัญกับการฝึกฝนร่างกายเป็นหลัก แต่ไม่ค่อยใส่ใจกับการฝึกฝนจิตใจ,ทำสมาธิ ถึงจะมีบ้างแต่ก็ไม่ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญที่จะขาดเสียไม่ได้ในวิชามวย ยิ่งเรียนไปถ้าไม่รู้จักควบคุมตัวเองให้ดี ก็จะเป็นคนกักขฬะก้าวร้าว,ไม่ใส่ใจคนอื่น,ยึดถือแต่ตนเองเป็นที่ตั้ง และลงท้ายก็ต้องได้รับความเจ็บปวดจากความก้าวร้าวของตัวเอง
ต่างกับศิลปะการต่อสู้บางแขนงที่ไม่เน้นการพัฒนาแต่เพียงร่างกายอย่างเดียว แต่ก็เน้นไปที่การพัฒนาจิตใจของตัวเองควบคู่ไปกับการพัฒนาร่างกายด้วย และถือเป็นส่วนหนึ่งของ"หลักวิชา" ที่จะขาดไปเสียไม่ได้เลยในการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ ตัวอย่างของศิลปะการต่อสู้เหล่านี้ก็เช่น มวยไทเก็ก(ไท่จี๋เฉวียน)-ฝ่ามือแปดทิศ(โป้ยข่วยคุ้ง)ของจีน,ไอคิโด-ยูโดของญี่ปุ่น,เทควันโด-แฮปคิโด ของเกาหลี เป็นต้น
มวยเหล่านี้ไม่เน้นการฝึกฝนร่างกายเป็นหลัก,ไม่เน้นการใช้พละกำลังอย่างหักโหมรุนแรงจากภายในออกสู่ภายนอก,ไม่เน้นการฝึกฝนกล้ามเนื้อ-ความเร็ว
แต่เน้นไปที่ความสงบ,ผ่อนคลาย,การโอนอ่อนตามคู่ต่อสู้,การยืมแรง และการสลายแรงปรปักษ์ โดยไม่ต้องอาศัยพละกำลังของตัวเองเพียงลำพังเลย
ดังนั้นศิลปะการต่อสู้เหล่านี้ สภาพร่างกายจึงไม่ใช่ข้อจำกัดของการฝึกปรือ เพราะไม่ได้ใช้กล้ามเนื้อ,ความเร็ว แต่เลือกที่จะใช้จังหวะและยุทธวิธีที่เหมาะสมในการคลี่คลายการบุกของศัตรู โดยทำอย่างไรที่จะสิ้นเปลืองพละกำลังของเราน้อยที่สุด และปลอดภัยที่สุด(มีต่อ)
จากคุณ :
WHO AM I
- [
26 ก.ย. 46 00:42:06
A:63.171.232.170 X:
]
|
|
|