S2493980 บางคนตีไม่แรง แต่เร็ว บางคนสวิงเบาๆแต่ลูกแรง อธิบายด้วยกฎทางฟิสิกค์ยังไงค่ะ [เทนนิส/แบดมินตัน]

ความคิดเห็นที่ 8

การตีลูกบอลนั้นมีหลายจังหวะ
การตีลูกบอลขณะมันเด้งขึ้น หรือ rising ball
จะช่วยส่งแรงให้เราด้วยเป็นแรงบวก จะตีได้เร็วเพราะไม่ต้องรอให้ลูกตก และลูกที่ตีก็จะวิ่งเร็วแรง เพราะไม่ได้ใช้แรงเราอย่างเดียว แต่ใช้แรงที่คู่ต่อสู้ตีมาบวกด้วย
แต่ข้อเสียคือ ต้องเข้ามาตีเร็ว เพราะลูกกำลังขึ้นจะอยู่แป๊บเดียวแล้วก็ร่วงลง ดังนั้นต้องเร็วพอ
ลูกที่ตีจะมีสปินมากแรงมาก เพราะยังมีแรงของคู่ต่อสู้อยู่ดังนั้นจึง คอนโทรลลูกลำบาก มักไม่ค่อยแน่นอน
การตีลูกขณะลูกตกแล้ว
เป็นการตีเมื่อลูกกำลังร่วงลงสู่พื้นดิน ดังนั้น ต้องใช้แรงมากขึ้นเพื่อดึงลูกต้านแรงโน้มถ่วง และเพื่อผลักดันไปข้างหน้า
ดังนั้นถึงใช้แรงมากแต่ก็จะไม่แรงเท่าแบบแรก นอกจากเพิ่มแรงให้มากจริงๆจึงได้
แต่ลูกจะมีสปินหรือหมุนน้อยลง แรงจากคู่ต่อสู้น้อยลง ดังนั้น จึงคอนโทรลได้ง่ายกว่า ลูกจึงแน่นอนกว่า
แต่ลูกก็จะไปช้าลงคู่ต่อสู้ตั้งหลักทัน เพราะต้องรอให้ลูกตกก่อน
ภราดรเป็นแบบหลังนี้ ดังนั้นเพื่อแก้จุดอ่อนจุดนี้ พ่อภราดรจึงได้ให้เขาเล่นเวท เพื่อสร้างกล้ามเนื้อ เพื่อตีให้แรงขึ้น เป็นการปิดจุดอ่อนนี้
แต่อย่างไรก็ตาม ภราดรเป็นคน ดังนั้น ถ้าใช้แรงไปเรื่อยๆ จะค่อยๆล้าลง ต้นเกมส์อาจดีเพราะมีแรง แต่ปลายเกมส์จะแกว่งเพราะแรงหมด
ต้นทัวร์นาเม้นอาจจะดี แต่พอเข้ารอบลึกๆ แรงจะหมดไปทำให้ตีได้ไม่แน่นอน
ยิ่งมีจิตใจเป็นนักสู้ชอบเอาชนะ พยายามฝืนมากขึ้น โอกาสบาดเจ็บก็จะมีมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นๆหายๆในที่สุดก็ต้องเลิกราไปก่อนวัยอันควร
ไม่ว่าจะฝึกอย่างไร ร่างกายคนเป็นเลือดเนื้อย่อมทำได้ในระดับหนึ่งเท่านั้นเอง ถึงอย่างไรก็ไม่กลายเป็นซุบเปอร์ไซย่าไปได้หรอก
ยิ่งกว่านั้น ยิ่งสร้างกล้ามเนื้อมาก จะยิ่งหนักมากขึ้น จะช้าลง ทำให้เสียเปรียบพวกตีrising ball มาก จะสู้ไม่ค่อยได้
ดังนั้นผมจึงเห็นว่า สิ่งที่ภราดรจะต้องปรับปรุงคือ การตีแรงสลับเบา การเน้นให้แน่นอน มากขึ้น ชั้นเชิงมากขึ้น
ควรไปเล่นคอร์ดดินให้มากขึ้น เพื่อฝึกชั้นเชิงเหล่านี้ เพราะคอร์ดดิน ความแรงแทบไม่มีประโยชน์ ดังนั้น ภราดรจึงแพ้คอร์ดดินบ่อยๆ แต่ในคอร์ดซีเมนต์ ตอนนี้ ความแรงมีผลมากกว่า จึงสร้างผลงานได้ดีกว่า
อย่างไรก็ตามถ้าเจอมือตีลูก rising ball หรือขึ้นหน้าเนตเมื่อไร ก็จะลำบากเมื่อนั้น จนกว่าจะฝึกฝีมือการวางลูกได้แม่นพอมากกว่านี้(ตอนนี้ก็ดีแต่ยังไม่พอเป็นมือหนึ่งของโลกได้)
ลูกเสริฟ ต้องมีทั้งแรงทั้งเบา สลับกัน มีทิศทางที่แม่นยำมากกว่านี้
อย่าตีแรงตลอด เพราะแรงจะตก และตีติดเนตในช่วงท้ายๆ แล้วต้องมาหงุดหงิดตัวเอง ทั้งๆที่มันไม่ใช่เป็นความผิดใคร แต่มันเป็นธรรมชาติของคน ของกล้ามเนื้อที่จะต้องมีล้าลงไปถ้าต้องตีแรงตลอด
ถ้าไม่ทราบจะทำอย่างไร อาจมีสูตรของตัวเองเอาไว้แต่อย่าให้ใครรู้เช่น แรงสามที สลับเบาหนึ่งที แรงสอง เบาหนึ่งแรงหนึ่งเบาสาม ลองไปเรื่อยๆ สูตรที่ดีจะต้องให้เขาเดาทางไม่ได้ และจะต้องทำให้เราเสริฟได้ตลอดโดยไม่เหนื่อยล้า หรือคลายความแม่นยำลง
พวกนี้มันเป็นจิตวิทยาอยู่ ลองทำไปเรื่อยแล้วจะรู้ว่าเป็นตัวเลขเท่าไรที่เขาจะจับทางไม่ได้
การตีแรงอีกอย่างหนึ่งคือการ ตีdrive ดันลูกไปข้างหน้าตรงๆ อันนี้แรงมาก แต่ลูกจะวิ่งตรงดังนั้น โอกาสออกหรือติดเนตจะสูง ควรใช้ในลูกสูงกว่าเนต
อีกอันหนึ่งคือตีทอปสปินให้ลูกหมุนข้ามไปลูกจะสูงตอนอยู่เหนือเนต และม้วนลงต่ำทันที ทำให้ไม่ติดเนต และไม่ออก แต่ความแรงจะน้อยลง
แต่พวกตีทอปสปินนี้มักสู้พวกตีrising ball เก่งๆไม่ได้ เพราะลูกจะวิ่งมาช้า เขารับได้หมด และเขาก็จะหลอกให้เราตีแรงขึ้นๆ ในที่สุดเราก็จะขาดความแม่นยำและหมดแรง แพ้ไปเองเสมอ

จากคุณ : kfai (kfai) - [ 12 ต.ค. 46 23:17:57 ]