ความคิดเห็นที่ 1 แผนแม่บทเพื่อการพัฒนาฟุตบอลไทยอย่างยั่งยืน นำเสนอ ฯพณฯ สนธยา คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย “กลุ่มคนไทยเพื่อการพัฒนาฟุตบอลไทย” หลักการและเหตุผล กีฬาฟุตบอลเป็นกีฬามีความนิยมสูงสุดของประเทศไทย ดังจะเห็นได้จากเยาวชนและประชาชน ทั่วไปนิยมที่จะ จับกลุ่มเล่นฟุตบอลในท้องถิ่นต่างๆ อีกทั้งการถ่ายทอดฟุตบอลจากต่างประเทศ ก็อยู่ในความสนใจของผู้คน ทุกเพศทุกวัย แต่ฟุตบอลของไทยเองกลับไม่เป็นที่สนใจของคนไทย ทั้งๆ ที่ ประชาชนในประเทศรู้จักและชื่นชอบ กีฬาชนิดนี้มาเป็นเวลานาน และมีประวัติศาสตร์การแข่งขันที่โดดเด่น ไม่แพ้ประเทศอื่นใดในภูมิภาค ปัจจุบัน ความตื่นตัวและสนใจในฟุตบอลไทย เสื่อมถอยลงถึงจุดต่ำสุด คนไทยไม่อยากดูฟุตบอลไทย เพราะเห็นว่าบรรยากาศน่าเบื่อ ทั้งในระดับสโมสรและระดับนานาชาติ ทั้งนี้เนื่องสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ขาดการนำระบบการจัดการที่ดี ระบบการแข่งขันที่เป็นอาชีพ มาใช้ “กลุ่มคนไทยเพื่อการพัฒนาฟุตบอลไทย” เล็งเห็นว่า ถึงเวลาแล้วที่ วงการฟุตบอลของไทยจะมี “แผนแม่บท เพื่อการพัฒนาฟุตบอลไทย” อันจะเป็นแนวทางให้ผู้บริหารที่เกี่ยวข้องปฏิบัติเพื่อการพัฒนากีฬาฟุตบอลของชาติ ให้เจริญรุดหน้าต่อไป พันธะกิจหลัก “วงการฟุตบอลของไทยต้องมีรากฐานที่ดี มีความเป็นมืออาชีพในทุกด้าน และทีมชาติไทยต้องก้าวขึ้นเป็น อันดับสูงสุดของเอเชีย” วัตถุประสงค์ 1. เพื่อเป็นแผนหลักของการพัฒนากีฬาฟุตบอลให้มีมาตรฐาน ทั้งในด้าน การบริหารจัดการ ผู้เล่น ผู้ฝึกสอน กองเชียร์ 2. เพื่อวางรากฐานความเป็นฟุตบอลอาชีพให้เกิดขึ้นในเมืองไทย 3. เพื่อเป็นแนวทางพัฒนาให้ทีมฟุตบอลชาติไทยก้าวขึ้นเป็นผู้นำสูงสุดของเอเชีย 4. เพื่อให้นักกีฬาฟุตบอล และบุคลากรต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง มีรายได้เลี้ยงตัวเองแบบถาวร จากการทำงาน ด้านฟุตบอล 5. เพื่อให้ประชาชนผู้ชื่นชอบฟุตบอลหันมาชมและสนับสนุนฟุตบอลไทย ทั้งในระดับนานาชาติ และระดับสโมสรภายใน จากคุณ : พลาตินิจ - [ 19 ต.ค. 46 19:14:39 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แผนแม่บทฉบับนี้ประกอบด้วยข้อเสนอแนะ เพื่อเป็นแนวทางให้นายกสมาคมฟุตบอลแห่ง ประเทศไทย และผู้ที่เกี่ยวข้อ นำไปเป็นแนวทางเพื่อการปฏิบัติงาน แผนดังกล่าวประกอบไปด้วยข้อเสนอแนะทั้งสิ้น 4 ส่วน ประกอบไปด้วย 1. การบริหารงานของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย 2. ระบบการแข่งขันฟุตบอลภายใน 3. ฟุตบอลกับการตลาด 4. การพัฒนาด้านเทคนิค จากคุณ : พลาตินิจ - [ 19 ต.ค. 46 19:15:36 ]

ความคิดเห็นที่ 3 1. การบริหารงานของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย บทบาทและหน้าที่ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ต้องทำหน้าที่ในการพัฒนาฟุตบอลของชาติ แบบบูรณาการ กล่าวคือ จะต้องรับผิดชอบในผลงานการแข่งขันของทีมตัวแทนประเทศในระดับ นานาชาติ และรับผิดชอบต่อมาตฐานของวงการฟุตบอลภายในโดยรวม การบริหารงาน สมคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ต้องมีความโปร่งใส มีระบบงานที่ประชาชนทั่วไป สามารถตรวจสอบได้ มีเป้าหมายและแผนการดำเนินงานระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวอย่างชัดเจน ตลอดจนต้องนำเทคโนโลยีการบริหารจัดการยุคใหม่มาใช้ ในด้านต่างๆ เช่น ระบบสถิติและจัดการข้อมูล และระบบการจัดการด้านสมาชิกสัมพันธ์ เป็นต้น โครงสร้างและผู้บริหาร  นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ต้องมีคุณสมบัติของความเป็นมืออาชีพ  เป็นผู้มีวิสัยทัศน์ และจริงใจต่อวงการฟุตบอลไทย ทั้งนี้ควรบริหารงานภายใต้การดูแลของ คณะกรรมการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย อันประกอบด้วยบุคคลากรที่มีความรู้ด้านต่างๆ ของกีฬาฟุตบอลอย่างแท้จริง โดยต้องมีสมาชิกประเภทต่างๆ ที่มาจากทุกส่วน (Element) อย่างครบถ้วน ได้แก่ นักฟุตบอลและผู้ฝึกสอน กรรมการผู้ตัดสิน สโมสร และ กองเชียร์ ทั้งนี้ การรับสมาชิกต้องทำอย่าง โปร่งใสบริสุทธิยุติธรรม (ผังโครงสร้าง) แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 46 19:24:05 จากคุณ : พลาตินิจ - [ 19 ต.ค. 46 19:16:35 ]

ความคิดเห็นที่ 4 2. ระบบการแข่งขันภายใน สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยต้องจัดให้มี หรือสนับสนุนให้มีระบบการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพขึ้นในประเทศไทย ขึ้นเป็นหนึ่งเดียว โดยให้สโมสรต่างๆ มีการกระจายไปยังต่างจังหวัด ในระบบเหย้าและเยือน สโมสรต่างๆ ต้องมีรายได้จากด้านทางๆ ที่สามารถเลี้ยงตนเองได้ นักฟุตบอล ผู้ฝึกสอน และบุคลากรอื่นๆ มีรายได้และโอกาสพัฒนาฝีเท้าจากการเล่นในระดับสโมสรมากกว่าที่เป็นอยู่ 2.1 ระบบการแข่งขัน ระบบการแข่งขันฟุตบอลลีกภายในจะต้องกระจายไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ รวมกับทีมสโมสรในกรุงเทพ ในแต่ฤดูการแข่งขันให้จัดแข่งแบบเหย้า-เยือน ทั้งนี้ต้องแข่งทั้งระดับอาชีพ และเยาวชนระดับอายุต่างๆ 2.2 สโมสร ต้องเปิดโอกาสและส่งเสริมให้สโมสรมีการจัดการแบบอาชีพอย่างเต็มรูปแบบ 2.2.1 โครงสร้างและทุนของสโมสร สโมสรที่จะเข้าร่วมแข่งขัน ต้องจดเป็นนิติบุคคลขึ้นเป็นรูปบริษัท หรือนิติบุคคลอื่นๆ มีอิสระในการบริหารงาน การระดมหุ้นจากกลุ่มคนผู้ก่อตั้ง บริษัทห้างร้าน หรือประชาชนในท้องถิ่น 2.2.2 สนามแข่งขัน กำหนดให้ทีมสโมสรหรือทีมของจังหวัดที่จะเข้าร่วมแข่งขัน ต้องมีสนามเหย้าที่ได้มาตรฐาน กำหนดความจุของสนามขั้นต่ำ 2,000 คน ในกรณีที่สโมสรไม่มีสนามที่เหมาะสมเป็นของตนเอง  สามารถเช่าสนามจากเจ้าของสนามเอกชนอื่นๆ เพื่อใช้เป็นสนามเหย้าได้ 2.2.3 รายได้ ทีมสโมสรต่างๆ ต้องมีส่วนแบ่งรายได้จากค่าเข้าชมในสนามเหย้าของตนเอง นอกเหนือจากเงินรางวัลจากผลการแข่งขัน เพื่อกระตุ้นให้ทีมต่างๆ ประชาสัมพันธ์ในแฟนบอลในท้องถิ่นของตนเข้ามาชมให้มากที่สุด สโมสรต่างๆ มีหน้าที่ในการหาสปอนเซอร์เป็นของตนเอง  นอกจากนี้ ทีมสโมสรต่างๆ สามารถผลิตของที่ระลึกของทีมตนออกขายเพื่อนำรายได้เข้าสโมสร และเพื่อกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัวจากผู้ชม สรุปแหล่งรายได้ของสโมสรมีดังนี้ คือ - ทุน - ส่วนแบ่งจากค่าบัตรผ่านประตู - ของที่ระลึกและสินค้าอื่นๆ - การซื้อขายนักฟุตบอล - สปอนเซอร์ของตนเอง 2.2.4 นักฟุตบอลและผู้ฝึกสอน สโมสรต่างๆ ต้องสามารถสร้างนักฟุตบอลหน้าใหม่จากในท้องถิ่นตนเอง และสามารถซื้อดารานักฟุตบอลจากท้องถิ่นอื่นมาร่วมทีม เพื่อเรียกคนดู โดยใช้การบริหารเงินจากรายได้ที่เข้ามาจากแหล่งต่างๆ ข้างต้น 2.2.5 แฟนคลับ สโมสรต่างๆ ต้องมีระบบจัดการสมาชิก โดยให้มีทีมงานจัดตั้งเป็นแฟนคลับของตนเอง โดยอาจเสนอสิทธิพิเศษ เช่น บัตรเข้าชมราคาพิเศษ ส่วนลดในการซื้อสินค้าจากร้านค้า และ โอกาสในการได้ใกล้ชิดสังสรรค์กิจกรรมพิเศษกับนักฟุตบอล สโมสรต่างๆ ต้องปฏิบัติเสมือนหนึ่งว่า “แฟนฟุตบอลเป็นลูกค้าของตนเอง ที่ต้องเพิ่มจำนวนขึ้น และรักษาไว้ให้ได้ตลอดไป” 2.3 บทบาทของสมาคมในการจัดแข่งขัน สมาคมฟุตบอลฯ ต้องทำหน้าที่ในการส่งเสริมให้สโมสรต่างๆ เลี้ยงตนเองได้ โดยทำหน้าที่สนับสนุนแต่เพียงด้านการออกข้อบังคับ กรรมการสักขีพยาน กรรมการผู้ตัดสิน และการเดินทางของทีมต่างๆ  โดยรายได้ของสมาคมจะมาจากแหล่งต่างๆ คือ - ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด - สปอนเซอร์กลาง - ส่วนแบ่งจากค่าบัตรผ่านประตู - เงินสนับสนุนจากรัฐบาล (ในช่วงเริ่มต้น) แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 46 19:25:58 จากคุณ : พลาตินิจ - [ 19 ต.ค. 46 19:18:18 ]

ความคิดเห็นที่ 5 3. ฟุตบอลกับการตลาด การจะทำให้เกิดฟุตบอลอาชีพขึ้นในเมืองไทย จำเป็นจะต้องนำการตลาดที่ครบวงจรมาใช้ โดยตั้งสมมติฐานว่า ทีมฟุตบอลหรือนักฟุตบอล คือ “สินค้า” แฟนฟุตบอลและสปอนเซอร์ คือ “ลูกค้า” สโมสร คือ “บริษัท” เมื่อเป็นดังนี้ จะสามารถกำหนดองค์ประกอบทางการตลาด (4 P) และหาทางออกได้ดังนี้ 3.1 Product: พัฒนาทีมฟุตบอลให้เป็นที่ดึงดูด ทั้งผลงานการแข่งขัน (Quality) ภาพลักษณ์ (Brand Image) และ ความเป็นเอกลักษณ์ของสินค้า (Brand Identity) นอกเหนือจากการพัฒนาด้านฝีเท้าของนักฟุตบอลแล้ว ต้องสร้างภาพที่โดดเด่นให้เกิดขึ้นในใจของแฟนฟุตบอล เช่น โลโก้ทีมและชุดแข่งขันที่สวยงามทันสมัยเป็นเอกลักษณ์ และ นักฟุตบอลที่มีความโดดเด่น มีบุคลิกเป็นของตนเอง มีความทันสมัย 3.2 Price: กำหนดราคาบัตรเข้าชมการแข่งขันให้เหมาะสม เพื่อให้ประชาชนเข้าไปดูในสนามให้มากที่สุด เพราะจะเป็นปัจจัยที่ทำให้การแข่งขันสนุกตื่นเต้น สปอนเซอร์เห็นประโยชน์ในการเข้ามาสนับสนุน และทีมสามารถยืนหยัดอยู่ได้ในระยะยาว 3.3 Place: เปรียบเสมือนเป็นช่องทางการจำหน่าย (Distribution Channel) ได้แก่ ทำเลที่ตั้ง ความสะดวกสบายของสถานที่ และช่วงเวลาในการแข่งขัน ทั้งนี้ การแข่งขันฟุตบอลในประเทศไทยจะต้องสะดวกต่อผู้ที่เข้ามาชมในสนาม เป็นเวลาหลังเลิกงาน และอากาศไม่ร้อนจนเกินไป ซึ่งก็คือเวลาประมาณ 18.00 น เป็นต้นไป หากสถานีโทรทัศน์ใดก็ตามที่ต้องการได้สิทธิในการถ่ายทอดสด จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวให้ได้   3.4 Promotion: ต้องมีการนำการส่งเสริมการตลาดทุกรูปแบบมาช่วยให้เกิดการตื่นตัวและค่านิยมในการชมฟุตบอลไทย โดยการทำการส่งเสริมการตลาดนี้ สามารถแบ่งกลุ่มเป้าหมายได้เป็น 2 กลุ่ม คือ 3.4.1 Promotion to Public ได้แก่การส่งเสริมการตลาดแก่สาธารณะชน หรือแฟนฟุตบอลทั่วไป เช่น การทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ทีมชาติหรือทีมสโมสรเผยแพร่ตามสื่อต่างๆ ทั้งนี้สามารถทำการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างดังนี้ - ข่าวสารผ่านสื่อมวลชนทั่วไป - ป้าย Billboard ตามสถานที่ต่างๆ - การใช้รถแห่เพื่อประชาสัมพันธ์การแข่งขัน - การจัดทำวารสารข่าว และ เว็บไซต์ของเพื่อสื่อสารกับแฟนฟุตบอล - การจัดกิจกรรมสังสรรค์กับแฟนฟุตบอล 3.4.2 Promotion to Sponsors ได้แก่ การส่งเสริมการตลาดแก่สปอนเซอร์ สิ่งที่บริษัทเอกชนคำนึงถึงมากที่สุดในกาเข้ามาสนับสนุนทีม หรือการแข่งขันต่างๆ ก็คือ ผลในแง่ของการเข้าถึงผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม รัฐบาลต้องเข้ามาช่วยส่งเสริม โดยการให้สิทธิประโยชน์แก่บริษัทเอชนที่เข้ามาสนับสนุนทีมฟุตบอลสโมสรหรือทีมชาติ ในรูปของการลดหย่อนภาษี แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 46 19:27:29 จากคุณ : พลาตินิจ - [ 19 ต.ค. 46 19:19:04 ]

ความคิดเห็นที่ 6 4. การพัฒนาด้านเทคนิค การพัฒนาด้านเทคนิคและระดับมาตรฐานการเล่นฟุตบอลของทีมชาติ ต้องอาศัยการพื้นฐานประสบการณ์จากการเล่นในระดับสโมสรภายในเป็นหลัก โดยหากมาตรฐานการเล่นระดับสโมสรมีความต่อเนื่องแล้ว จะทำให้นักฟุตบอลมีประสบการณ์ สมาธิ และพละกำลังที่คงเส้นคงวามากกว่าการเก็บตัวเพียงช่วงระยะเวลาหนึ่ง ทั้งนี้ สมาคมฟุตบอลฯ มีหน้าที่ด้านการพัฒนาด้านเทคนิคทั้งทีมระดับชาติ และทีมระดับสโมสร กล่าวคือ 4.1 ระดับชาติ   4.1.1 การส่งทีมแข่งขันรายการแข่งขันต่างๆ สมาคมฟุตบอลฯ ต้องให้ความสำคัญกับการแข่งขันในระดับเอเชีย ได้แก่  เอเชี่ยนคัพ เอเชี่ยนเกมส์ ปรีโอลิมปิก และฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก เป็นสำคัญอันดับแรก ส่วนการแข่งขันในระดับอาเซียนควรให้เป็นเวทีการหาประสบการณ์ของนักฟุตบอลเยาวชนที่อายุน้อยกว่าคู่แข่งขัน (เช่น อายุไม่เกิน 21 ปี สำหรับซีเกมส์ และ อายุไม่เกิน 23 ปี สำหรับ ไทเกอร์คัพ)   4.1.2 การจ้างโค้ชทีมชาติ ต้องคำนึงถึงความเหมาะสมหลายประการ ทั้งด้าน ระบบการเล่นที่สอดคล้องกับรูปร่างของคนไทย ความเอาจริงเอาจัง และ เกียรติประวัติในอดีตที่สามารถสร้างแรงสนับสนุนจากแฟนบอลได้  ทั้งนี้ จะต้องให้อิสระในการทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีการก้าวก่ายจากผู้จัดการทีม ซึ่งควรทำหน้าที่ในการให้ความสะดวกและการบริหารทีมโดยรวมเพียงอย่างเดียว ในขณะเดียวกัน จะต้องมีการกำหนดเป้าหมายของโค้ชอย่างชัดเจน หากไม่สามารถทำตามเป้าได้ในระยะเวลาที่กำหนด จะต้องดำเนินการเปลี่ยนโค้ชทันที 4.1.3  การจัดแข่งนัดอุ่นเครื่องและฟุตบอลคิงส์คัพ  ต้องให้ความสำคัญกับการอุ่นเครื่องกับทีมชาติที่มีระดับฝีเท้าสูงกว่า เช่น ทีมชั้นแนวหน้าของเอเชีย ทีมจากแอฟริกา ทีมจากอเมริกาใต้ และทีมจากยุโรป เป็นต้น  ทั้งนี้ ไม่ควรเน้นการแข่งขันมิตรภาพกับทีมสโมสรดังๆจากยุโรปที่มีจุดประสงค์เพียงเพื่อมาทำการตลาดในเอเชีย หรือหากจำเป็นต้องจัด ควรให้แข่งกับทีมสโมสรของไทย หรือทีมอื่นที่ไม่ใช้ชื่อและชุดการแข่งขันของทีมชาติไทย เพื่อศักดิ์ศรีภาพลักษณ์ที่ดีของทีมชาติไทย 4.2 ระดับสโมสร สมาคมฟุตบอลมีหน้าที่ยกระดับมาตรฐานการเล่น ของทีมในระดับสโมสรทั่วประเทศ โดยให้มีการจัดหาผู้เชี่ยวชาญเพื่อไปฝึกอบรมแก่บุคลากรของทีมต่างๆ (Train the Trainer) อย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ จะต้องมอบหมายให้ทีมระดับสโมสรเปิดคลีนิกฝึกอบรมแก่เยาวชนในท้องถิ่นทุกสัปดาห์ เพื่อพัฒนาและสรรหานักฟุตบอลที่มีความสามารถจากทั่วประเทศอย่างแท้จริง (ผังความสัมพันธ์ระหว่างการพัฒนาเทคนิคทีมระดับชาติ และระดับสโมสร) แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 46 19:28:48 จากคุณ : พลาตินิจ - [ 19 ต.ค. 46 19:21:23 ]

ความคิดเห็นที่ 7 บทสรุปของแผนฯ 1. สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยต้องเป็นองค์กรที่มีความโปร่งใส มีวิสัยทัศน์ มีระบบการบริหารที่ทันสมัย และส่งเสริมการมีส่วนร่วมจากแฟนฟุตบอล 2. สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยต้องจัดระบบการแข่งขันฟุตบอลลีกภายในประเทศให้มีมาตรฐานสากล และเป็นอาชีพ 3. สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยต้องใช้การตลาดแบบครบวงจร เข้ามาช่วยให้เกิดการตื่นตัวในวงการฟุตบอลไทย 4. สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยต้องเน้นการพัฒนาเทคนิคการเล่นของนักฟุตบอลในทุกระดับ โดยเน้นการเข่งขันกับทีมชาติที่มีมาตรฐานสูงกว่าอยู่เสมอๆ จากคุณ : พลาตินิจ - [ 19 ต.ค. 46 19:21:57 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เป็นแผนแม่บทจึงไม่ลงรายละเอียดในเชิงแผนปฏิบัติการว่า "จะทำอย่างไร" แต่เป็นแนวทางสำหรับการพัฒนาใช่วง 5 ปี นับจากนี้ครับ ... และนี่คือคำตอบว่า หลังจากวิจิตรออกแล้ว แน่ใจได้อย่างไรว่า "วงจรอุบาทว์" จะไม่กลับมากอีก ... แต่ตอนนี้คงต้องให้วิจิตรออกไปก่อนละครับ เพราะยังไงเสีย แกก็คงไม่มีความสามารถพอที่จะทำให้แผนนี้เป็นจริงหรอกครับ แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 46 19:35:21 จากคุณ : พลาตินิจ - [ 19 ต.ค. 46 19:34:15 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ดีมากเลยครับแผนที่คิดมา ถึงอาจจะใช้การลงทุนที่สูงเเต่ก็ไม่เท่าที่คนโกงของบ้านเมืองกินไปหรอกครับ งั้นเราลองมาคิดต่อครับ ว่าถ้าเกิดมีการจัดลีกอาชีพขึ้นมาจริงๆ เราจะจัดสูตรคัดเลือกทีมที่จะเเข่งในลีกดิวิชั่นต่างๆเป็นปีเเรกอย่างไร อยากให้ลองคิดดูอีกนะครับ ส่วนตัวผมสูตรการคัดเลือกทีมอาจจะดูแปร่งๆไม่ค่อยได้เรื่องหน่อยนะครับ คือถ้าสมมติว่ามีทีมสโมสรมาลงสมัครทีมทั้งหมดทีมละ 1 จังหวัด รวมเเล้วได้ 76 จังหวัด การคัดเลือกนั้นอยากให้จัดเป็นกลุ่มๆครับ 19 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม เอาเเบบง่ายๆเลยคือ ทีมที่ได้อันดับ 1 ได้เล่นในไทยลีก อันดับ 2 ได้ดิวิชั่น 1 อันดับ 3 ได้ดิวิชั่น2 อันดับ 4 ได้เล่นนอกลีก โดยการเล่นในเเต่ละลีกมีอยู่ 19 ทีม เเต่ละปีจะเอาทีมขึ้นชั้นเเละตกชั้นปีละ 4 ทีม เเล้วนอกลีกก็จัดสรร 19 ทีมให้ครบ 4 กลุ่ม เพื่อนำอันดับ 1 ของเเต่ละกลุ่มในนอกลีกเข้าสู่ดิวิชั่น 2 วิธีอาจจะฟังดูงงๆเเละงี่เง่าหน่อยนะครับ เเต่ก็อยากจะเเสดงความคิดเห็นออกมาหน่อย แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 46 22:32:10 จากคุณ : Heathen Chemistry - [ 19 ต.ค. 46 22:22:51 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ดีมาก ๆ เลยครับ แต่กลัวว่าจะมีตัว... ในสมาคมมาเอาไปเป็นผลงานของ VJ and the Gang เพื่อซื้อเวลาน่ะสิ จากคุณ : Leetaming - [ 19 ต.ค. 46 23:17:18 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ยังไง ระวัง พวกตัว......... จะเอาไปจริง ๆ นะ ระวังให้มากล่ะ จากคุณ : Ziewchai - [ 19 ต.ค. 46 23:56:22 ]

ความคิดเห็นที่ 12 PERFECT ,BUT.... จากคุณ : I love rikara - [ 20 ต.ค. 46 15:17:39 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ผมก็เขียนได้นะไอ้สวยแบบเนี้ย..... จากคุณ : ManU_In_Blood - [ 20 ต.ค. 46 15:37:03 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เอ่ออ เอ่อออ และ เอ่ออ... ต้องขออกตัวครับว่า ไม่ได้มีเจตนาจะมาอวดภูมิความรู้อะไรครับ เดี๋ยวคนเข้าใจผิดแย่เลย เพราะแผนที่เขียนมานั้น ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่พวกเรารู้อยู่แล้ว และเป็นระบบธรรมดาๆ ในฟุตบอลอาชีพทั่วโลก ... ใครๆ ก็เขียนได้ (ผมเห็นด้วยกับคุณ ManU_In_Blood 1000%) เพียงแต่ผมเอามารวบรวมให้มันเป็นหมวดหมู่ เท่านั้นเองครับ ... แล้วก็อยากถามว่า นับ 10 ปี ที่ผ่านมา ลุงจิตร เคยคิดเรื่องอะไรแบบนี้มั้ย เคยมีการร่างแผนแบบนี้มั้ย แค่นั้นเองคร้าบบบบบ ... จากคุณ : พลาตินิจ - [ 20 ต.ค. 46 16:32:42 ]