ความคิดเห็นที่ 13
คห.6 และ คห. 9 หากนำความคิดทั้งสองมารวมกันเป็นหนึ่งเดียว จะเยี่ยมครับ ในแง่ของการบริหารนั้น ผมเห็นอีกด้านหนึ่งของ คห.6 ครับผมคิดว่าระบบการบริหารสมาคมฟุตบอลไทยยังแย่ และล้าหลังมาก ๆ กับการบริหารสมัยใหม่ที่ต้องต่อสู้กันในระดับโลก...การที่เป็นบอร์ดของฟีฟ่า กับการพัฒนาฟุตบอลในประเทศมันคนละเรื่องเลยครับ การเป็นบอร์ดมันใช้แค่การหาเสียง...ส่วนการพัฒนาฟุตบอลอาชีพต้องอาศัย วิศัยทัศน์ ความตั้งใจจริง และความโปร่งใสครับ...ส่วนที่บอกว่าระบบบริหารที่แย่เป็นอย่างไร ผมจะเขียนในบทต่อไปครับ
...มาว่ากันต่อเรื่องพรสวรรค์ คห.6 เขียนได้ตรงประเด็นครับ การที่เราได้คนที่มีพรสวรรค์ในด้านนั้น ๆ มันทำให้พัฒนาได้ง่ายและเร็ว จนบางคนสามารถเล่นบอลได้เหมือนการแสดงละคร อย่างเช่นซีดาน และ ปิยะพงษ์ เป็นด้น ซึ่งการหานักเตะพรสวรรค์เป็นสิ่งจำเป็นเช่นกันครับ ...แต่แทนที่เราจะไปหาเด็กที่มีพรสวรรค์ ในทางตรงกันข้ามหากเราสร้างแรงจูงใจให้เด็กที่มีพรสวรรค์ วิ่งเข้ามาหาน่าจะดีกว่าเยอะ และ ง่ายกว่า ...ลองจินตนาการดูว่า หากฟุตบอลอาชีพของไทยประสบความสำเร็จ มีคนดู 20,000-30,000 คนต่อนัด ทั่วประเทศ และ เหยีบ ๆ แสนคนในนัดชิงชนะเลิศ นักฟุตบอลมีรายได้เฉลี่ยเดือนละ 150,000 บาท ไม่รวมค่าโฆษณา...เมื่อนั้นแต่ละจังหวัดใหญ่ที่มีทีมเข้าร่วมการแข่งขันก็จะมีทีมสำรอง และเด็ก ๆ ในจังหวัดเรานั้นก็จะมีความฝันได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพ และ ต่อไปก็จะเกิดโรงเรียนฟุตบอลอาชีพฝึกเด็กตั้งแต่ 7-8 ขวบ ต่อเนื่อง ไปเรื่อย ๆ สุดท้ายทีมชาติเราก็จะมีแต่เด็กที่มีพรสวรรค์ พร้อมสมรรถภาพทางร่างกายที่แข็งแกร่งและฝึกมาอย่างถูกวิธีด้วยวิทยาศาสตร์การอาหาร มีความเป็นมืออาชีพ เข้าใจแทคติกต่าง ๆ เป็นอย่างดี ถึงตอนนั้นไม่ใช่เรื่องใกลเกินฝันเลยครับที่จะไปบอลโลก และก็ไม่ใกลเกินฝันเช่นกันครับที่จะทำบอลอาชีพให้เกิดขึ้นได้ แต่มันอยู่ที่ "คุณจะทำให้มันเกิดหรือไม่" แค่นั้นเองครับ
จากคุณ :
ฟูมฟัก
- [
11 ธ.ค. 46 13:54:10
A:203.144.187.62 X:
]
|
|
|