ในโลกลูกหนังปัจจุบัน บางครั้งนักฟุตบอลจำต้องเปลี่ยนไปยืนอีกตำแหน่งหนึ่งที่ไม่ใช่งานถนัดของตน และคงไม่ง่ายนักในการปรับตัวและวิธีการเล่น จนกระทั่งประสบความสำเร็จ ทว่าอย่างน้อยก็มี จานลูก้า ซามบร็อตต้า คนหนึ่งผู้พลิกผันจากบทบาทกองกลาง กลายเป็น แบ็กซ้าย อย่างถาวรและสร้างผลงานโดดเด่น จนสวมเสื้อตัวหลักทั้งในยูเวนตุสและอัซซูรี่ โดยสมบูรณ์แล้ว...
ในรั้วม้าลาย การเปลี่ยนตำแหน่งขุนพลสำคัญกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว อย่างเช่น "อิกอร์ ทูดอร์" ปราการหลังทีมชาติโครเอเชีย ผู้ผันจากแนวรับมาสู่แผงกลางเหมือนสมัยช่วงเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับไฮจ์ดุ๊ค สปลิท ใหม่ ๆ ขณะที่ "อเลสซานโดร บิรินเดลลี่" นักเตะชาวทอสคาน่าผู้มีหน้าที่วิ่งขึ้นลงทางด้านกราบขวามาตลอดและพร้อมย้ายไปเล่นริมเส้นฝั่งซ้ายได้เสมอ หรืออย่างกรณีของ "พาเวล เนดเวด" ที่เปลี่ยนจากกองกลางกราบซ้ายหรือตัวเก็บบอลในแดนกลาง ขึ้นมาสู่ตำแหน่งตัวทำเกมรุกหลังคู่หัวหอก อันเป็นจุดกำเนิดของความโดดเด่นจนกระทั่งคว้าลูกบอลทองคำปีล่าสุดไปครอง...
กระนั้นก็ตาม คงไม่มีใครเปลี่ยนชนิดพลิกโฉมเหมือน "จานลูก้า ซามบร็อตต้า" จอมโขยกในแผงกลางผู้เคยยืนตำแหน่งมิดฟิลด์ด้านขวา แต่ภายหลังย้ายไปทำหน้าที่กราบซ้าย โดยตำแหน่งล่าสุดของซามโบร ได้แก่ แบ็กซ้าย นอกเหนือจากเป็นกำลังสำคัญในเบียงโคเนรี่แล้ว ทีมชาติอิตาลีขาดนักเตะบารี่ผู้นี้ไม่ได้อีกต่อไปเช่นกันในบทบาทดังกล่าว...
เช่นเคย ผมมีบทสัมภาษณ์รวมทั้งประวัติส่วนตัวเล็กน้อยของซามบร็อตต้ามาให้อ่านกันครับ ((ในส่วนของบทสัมภาษณ์ขอตัดเฉพาะที่น่าสนใจมาให้อ่านนะครับ))...
คุณมีรายชื่ออยู่ในผู้มีสิทธิ์ได้รางวัลฟุตบอลทองคำด้วย...
- คงต้องบอกว่าแท้จริงแล้วผมไม่ได้คาดคิดเลยด้วยซ้ำ ตอนที่พวกเขาใส่ชื่อผมลงไปด้วยผมยังนั่งทานอาหารค่ำกับดิ วาโญ่อยู่เลย แล้วก็ทราบข่าวจากโทรทัศน์ขณะนั้น ความรู้สึกแรกคือ ผมตั้งคำถามแก่ตัวเองว่า ผมคือซามบร็อตต้าผู้ถูกเสนอชื่อ
ในจำนวน 50 นักเตะเหล่านั้นจริงรึ ! ในแง่ส่วนตัวแล้ว ถือว่ามันคือความภูมิใจอย่างมาก แม้ว่าท้ายสุดไม่มีใครลงคะแนนให้ผมจริง ๆ ก็ตาม
ทั้งหมดเป็นเพราะการเปลี่ยนไปยืนตำแหน่งแบ็กซ้ายอย่างไม่ต้องสงสัยเลย ว่าแต่ว่า คุณยังจำเกมกับเบรสชาซึ่งเป็นนัดแรกที่เล่นบทบาทดังกล่าวได้ไหม ?
- จำได้สิครับ แม้ว่าเราโชคร้ายที่แพ้ แต่มันเป็นประสบการณ์ที่ดีพอสมควรสำหรับผม ทุกอย่างเริ่มจากจุดนั้น และต้องขอบคุณเทรนเนอร์ลิปปี้ของเราด้วย ผมต้องฝึกซ้อมอย่างหนักในตำแหน่งแบ็กซ้ายซึ่งไม่ใช่งานถนัดของผม อย่างไรก็ตาม สิ่งต่าง ๆ เริ่มเข้าที่เข้าทางและดีขึ้นเรื่อย ๆ ตามวันเวลาของมัน
ย้อนไปเมื่อเกือบหนึ่งปีก่อน คุณเคยคิดว่าสามารถปรับระดับตัวเองขึ้นมาอยู่แถวหน้าด้วยตำแหน่งแบ็กซ้ายเช่นนี้หรือเปล่า บางคนบอกว่า คุณอาจทำได้เหมือนโรแบร์โต้ คาร์ลอสอีกต่างหาก...
- ผมรู้สึกแปลกหน่อย ๆ เหมือนกันเมื่อได้ยินว่า มีคนนำไปเปรียบเทียบกับเขาด้วย ความจริงแล้วลักษณะการเล่นของโรแบร์โต้ คาร์ลอสกับผมค่อนข้างแตกต่างกัน และไม่อยากให้นำผมไปเปรียบกับเขาเลย แน่นอนผมยินดีสำหรับคำชมนั้น มันทำให้ผมภูมิใจ แต่ผมปรารถนาขอเป็นตัวเองเท่านั้น โดยมิต้องคิดเทียบเคียงกับใคร
ปี 2004 มีมหกรรมใหญ่รออยู่ด้วย นั่นคือ ศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปที่โปรตุเกส มันเป้าหมายสำคัญที่คุณต้องการลบภาพความเจ็บปวดทั้งหลายให้ได้ใช่ไหม ?
- ครับ ผมไม่เคยมีโชคกับทีมชาติอิตาลีเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ อย่างเช่น โอลิมปิกเกมส์ที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลียปี 2000 ผมเจอกับปัญหาบาดเจ็บเข่า ส่วนยูโรปีเดียวกันที่ฮอลแลนด์ - เบลเยี่ยม ต้องพลาดนัดชิงชนะเลิศด้วยเหตุติดโทษพักการแข่งขัน ขณะที่ฟุตบอลโลกหนล่าสุด ผมบาดเจ็บกล้ามเนื้ออย่างหนักจากแมตช์กับเกาหลี เราก็ได้แต่หวังว่า ทุกอย่างในปีนี้คงเอื้ออำนวยแก่ผมและอัซซูรี่ด้วย เพราะหากเราไปโปรตุเกสด้วยสภาพสมบูรณ์ เรามีโอกาสก้าวไปไกลถึงสุดทางได้ และสามารถคว้าถ้วยแชมป์ที่ห่างหายไปนานเหลือเกิน
พูดถึงตัวซามบร็อตต้าในขณะนี้ คุณรับรู้ถึงความเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงหรือเปล่า ?
- ด้วยนิสัยและบุคลิกของผมเองแล้ว ไม่เคยต้องการให้ตนเองเป็นคนมีชื่อเสียงเลยครับ บางทีอาจเป็นที่สนใจต่อผู้คนบ้างเล็กน้อย ก็เพราะผลงานและการเล่นกับสโมสรยิ่งใหญ่ ผมอยู่กับยูเว่มานานพอสมควรแล้ว ย่อมต้องมีคนรู้จักผมมากขึ้นเป็นเรื่องธรรมดา
กระนั้นก็เถอะ ตั้งแต่เริ่มเล่นฟุตบอลจนถึงปัจจุบัน เคยคิดบ้างหรือเปล่าว่าสักวันจะมีโอกาสเป็นนายแบบโฆษณา ?
- ผมยอมรับว่าความประทับใจยังคงหลงเหลืออยู่เช่นกันจนถึงขณะนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาผมเห็นภาพตัวเองบนโปสเตอร์โฆษณาตามถนนหนทางหรือยามขับรถยนต์ไปจอดข้างรถประจำทางแล้วเห็นภาพโฆษณาของตน พูดตามตรงว่า มันแปลกอย่างบอกไม่ถูกเลยครับ
นอกเหนือจากการเป็นขวัญใจนอกสนามของแฟนบอล เหล่าสาวกเบียงโคเนรี่ชื่นชมคุณกับผลงานในสนามอย่างยิ่ง จนกลายเป็นหนึ่งในนักเตะขวัญใจของพวกเขาไปแล้ว...
- ผมเชื่อว่าคงเป็นเพราะผลงานของตนในฤดูกาลที่ผ่านมาทำให้แฟนบอลประทับใจในตัวผมเพิ่มขึ้น อีกอย่างผมอยู่กับยูเว่มาเป็นปีที่ห้าแล้ว จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่กลายเป็นขวัญใจของพวกเขา
ท้ายสุด ภายหลังผ่านพ้นปี 2003 ด้วยดี คุณต้องการสิ่งใดในปี 2004 นี้ ?
- แน่นอนว่า ผมอยากคว้าแชมป์สักรายการ ไม่ว่ากับยูเวนตุสหรือทีมชาติอิตาลีก็ตาม ในแง่ของความสำเร็จส่วนตัวต้องขึ้นอยู่กับทีมด้วย หากยูเว่ชนะย่อมหมายถึงผมชนะไปพร้อมกัน จริงไหมครับ
ข้างบนคือบทสัมภาษณ์ที่ผมตัดมาแล้วนะครับ โดยคัดลอกจากหนังสือ กัลโช่ รายเดือน เล่ม 62 ครับ...
แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 47 16:12:28