ความคิดเห็นที่ 1 เคยได้ยินเหมือนกันครับ เห็นว่าเป็นกองดาบทะลวงของอยุธยาที่เก่งมาก จากคุณ : KOSPOCK - [ 14 ก.ค. 47 09:39:59 A:202.133.170.120 X: ]

ความคิดเห็นที่ 2 อาทมาตนั้นเข้าใจว่าเป็นกลุ่มคนหรือเป็นหน่วยในกองทัพนะครับ ทำหน้าที่เป็นหน่วยทะลวงฟัน หมายความตามชื่อที่ได้รับจริงๆ คือทะลวงเข้าไปในแนวกระบวนทัพของศัตรู เพื่อทำให้เกิดความสับสนไม่เป็นระเบียบและพะวักพะวง ผู้ที่จะอยู่ในกองอาทมาตได้จึงต้องมีคุณสมบัติสูง ทั้งในด้านฝีมือและความกล้าหาญสูงมาก(ต้องตีทะลวงเข้าไปในหมู่ศัตรูนะครับ และคงต้องตีตลบไปมาในนั้น) นอกจากนี้ยังต้องมีความรู้ด้านวิทยาคมเพื่อคุ้มกันตนด้วย ใช้ดาบสองมือ(เป็นดาบศึกที่หนาหนักด้วย) โดยจะพันเชือกมัดดาบแน่นกับมือ(ดูเหมือนผมจะเคยอ่านจากที่ไหนจำไม่ได้แล้วว่า เพราะเหตุนี้ท่านพระยาพิชัยจึงต้องทำการรบต่อทั้งทีดาบเล่มหนึ่งหัก) ทั้งหมดที่เล่าเกิดจากการอ่านและได้ยินได้ฟังมานะครับ ผมยังไม่ได้สืบค้นอย่างจริงจังนัก หากท่านไดมีข้อมูลขัดแย้ง หรือมีหลักฐานที่หนักแน่น หรือทราบแหล่งที่จะสืบค้นได้ขอความอนุเคราะห์ด้วยครับ จากคุณ : ศรี - [ 15 ก.ค. 47 21:09:29 A:203.118.123.147 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 หนังสือสารคดีเคยลงไม่นานมานี้ จากคุณ : บัญชา - [ 16 ก.ค. 47 13:03:38 A:132.235.23.92 X:132.235.23.92, 202.12.117.36 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เรียนคุณบัญชาที่นับถือThaibladeจะกลับมาใหมครับ? จากคุณ : ฮาตารี - [ 16 ก.ค. 47 13:29:26 A:202.183.168.84 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5 เท่าที่ทราบกอแงหน้าทะลวงฟันนั้นไม่ใช่กองอาตมาตครัย ที่ผมเข้าใจคือ กองหน้าทะลวงฟันจะเป็นหน่วยที่ทำลายกระบวนทัพของข้าศึก เพราะการจัดทัพนั้นมีการจัดเป็นแถวเป็นแบบสลับฟันปลาเป็นแถวซ้อนกัน โดยมีกองหน้าทะลวงฟันเป็นแนวหน้าในการบุกทะลวงกระบวนทัพ เพลงดาบของกองหน้าทะลวงฟันจึงมีลักษณะคลุมได้รอบตัวเพราะต้องฝ่าเข้าไปในทัพของข้าศึก ต่างจากกองหทารที่จัดแบบสลับฟันปลาที่ตามมาซึ่งมีการฟันที่มีรูปแบบตามกระบวนพิชัยสงคราม สำหรับกองอาตมาตตามหลักฐานที่มีการกล่าวถึงจะหมายถึงกองสอดแนม ตระเวณข่าว หรือถ้าใครดูบางระจันจะเรียกว่า เสือหมอบแมวเซา ซึ่งกองนี้นอกจะจะต้องมีฝีมือดาบที่ต้องลักษาตัวแบบเอาตัวรอดได้อย่างดีแล้วยังต้องมีวิชาอาคมในด้านการกำบังกาย คาถาบังไพร คล้ายๆพวกนินจาของญี่ปุ่น พูดตามที่เข้าใจของผมนะครับ ผิดพลาดอย่างไรก็ขออภัย จากคุณ : สบัดชัย - [ 17 ก.ค. 47 11:57:34 A:203.158.250.116 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 ...กองอาทมาต เป็นกองทหารทำหน้าที่หลายอย่าง เช่นกองหาข่าว สอดแนม หน่วยเคลื่อนที่เร็ว จู่โจม กองหน้า บ้างก็ว่าเชี่ยวชาญด้านคาถาอาคม ประกอบพิธีในกองทัพ เท่าที่ค้นดูมีหลายหน้าที่มาก มีประจำอยู่ทุกหัวเมืองหน้าด่าน "อาทมาต" ในประวัติศาสตร์การเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่2 มีการรบของกองอาทมาต ๒ครั้ง คือ พ.ศ.๒๓๐๒ ขุนรองปลัดชู นำกองอาทมาต ๔00คน เข้าสลัดพม่าจำนวนมาก ที่อ่าวหว้าขาว ประจวบฯ ด้วยเหตุที่กำลังหนุนไม่ส่งมาช่วย และคนน้อย ทำให้ถูกพม่าใช้ช้างต้อนลงทะเลตายหมด พ.ศ.๒๓๐๙ กองอาทมาตเข้ารุกตี ค่ายพม่าที่ ปากน้ำพระประสบ ถูกกลแกล้งหนีของพม่า ตีโอบล้อม กองอาทมาตแตกพ่ายกลับมา แต่ในวันนั้น กองทัพพระยาตากสิน เข้าช่วยรบเป็นกองหลังให้ ทัพไทยจึงมิได้แตกยับเยิน (ข้อมูลจาก พิชัยยุทธ์ อาวุธไทย มูลนิธิมวยไทยไชยา) ...ลองหาอ่านใน หนังสือสารคดี เล่มที่๒๑๙ ตอน "ดาบอาทมาฏ" อนุภาพของดาบไทย ดูนะครับ ทีมงานทำงานด้านที่มาที่ไปได้ลึกพอควรครับ ทั้งหลักฐานการสืบค้นของพระยาดำรงราชนุภาพ มีหลายด้านให้พิเคราะห์ จากคุณ : หนามทุเรียน - [ 17 ก.ค. 47 14:11:29 A:203.107.210.40 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 แล้วตกลง วิชาดาบอาฏมาตนี่เป็นอย่างไรครับ ....อ้อ เคยได้ยินชื่อกระบี่อาฏมาตด้วยครับ เห็นว่าเป็นกระบี่วงแคบ ใช้สำหรับจตุรงคบาต เพราะไม่ต้องการให้วาดกระบี่ไปโดนเท้าช้าง เห็นว่าชื่อเต็มชื่อ กระบี่อาฏมาตนเรศวรอะครับ จากคุณ : อยากรู้ - [ 17 ก.ค. 47 19:26:26 A:203.107.207.36 X: ]

ความคิดเห็นที่ 8 คำว่าอาตมาตยังสับสนอยู่ครับ แต่กระบี่เท้าช้างนี่คิดว่าคงไม่ถูกต้อง เพราะลักษณะของกระบี่เป็นอาวุธบางเรียว ไม่สามารถปะทะตรงได้ มีจุดดีคือเร็วและพลิกแพลงแต่ต้องประกอบกับการพริ้วตัวเคลื่อนที่ตลอดเวลาเพราะไม่สามารถปะทะตรงๆได้ต้องอาศัยการเบี่ยงแรง สลายแรง แต่ดาบเท้าช้างนั้นต้องรักษาตำแหน่งที่ตนประจำอยู่ไม่สามารถเคลื่อนที่ไปมาได้อิสระ และต้องสามารถปะทะตรงได้ ถ้าศัตรูฟันไปที่เท้าช้าง จาตุรงคบาตร ก็ต้องรับดาบปะทะดาบนั้นไว้ ไม่สามารถเบี่ยงแรงหรือสลายแรงเพราะเสี่ยงที่ดาบนั้นอาจเลยไปโดนเท้าช้างได้ ซึ่งกระบี่ไม่สามารถทำได้ ดาบเท้าช้างมีมาตั้งแต่สมัยที่เราใช้ช้างในการรบ ไล่ขึ้นไปถึงสมัยสุโขทัยครับ คงไม่ใช่เริ่มคิดเป็นวิชาในสมัยพระนเรศวรหรอกครับ บอกเท่าที่เข้าใจขออภัยหากผิดพลาดครับ จากคุณ : สบัดชัย - [ 18 ก.ค. 47 09:55:52 A:203.158.250.124 X: ]

ความคิดเห็นที่ 9 เรียนคุณฮาตารีครับ กลับมาในนาม www.thaiblades.com ครับ (มี s ) จะมีการนัดคุยกันวันเสาร์ที่ 24 นี้ด้วยครับ เรื่องจตุรงค์บาทตามช้างได้อย่างไร อาวุธที่ใช้ จะเคยลงภาพปูนปั้นสมัยสุโขไทย ใน Web ข้างต้นนะครับ เป็นภาพคนถือดาบและเขน(โล่) (เครื่องป้องปันอาวุธลักษณะกลมแต่ก่อนเรียกเขนแต่เดี๋ยวนี้คนทั่วไปเรียกว่าโล่ครับ) มีบางท่านให้ความเห็นว่าการป้องกันอาวุธใช้ดาบ+เขน(โล่) น่าจะดีกว่าดาบสองมือ ก็น่ารับฟังนะครับ ถ้ามีเวลาไปหาว่ากระทู้ไหนจะทำ Link ให้ครับ เรื่องชื่อในหนังสือสารคดีมีรายละเอียดอยู่พอสมควรครับ ร่วมด้วยช่วยกัน(คิดและค้น) จากคุณ : บัญชา - [ 18 ก.ค. 47 15:54:12 A:169.210.14.13 X: ]

ความคิดเห็นที่ 10 ภาพที่ว่าครับ http://thaiblades.com/forums/showthread.php?t=1712&page=3&pp=15 จากคุณ : บัญชา - [ 19 ก.ค. 47 12:17:03 A:132.235.23.92 X:132.235.23.92, 202.12.117.36 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ...อาทมาต กับ อาทมาฏ นั้นแตกต่างกันครับ อาทมาต เป็นกองทหารหน่วยหนึ่ง มีทั่วไปในสยาม คล้ายกับว่า คนในพื่นที่ดูแลพื่นที่ ถูกแต่งตั้งขึ้นมาทำงาน อาทมาฏ เป็นวิชาดาบไทย รูปแบบหนึ่ง ยังไม่ทราบความเป็นมาที่แน่ชัดนัก หากฟังจากในหนังสือสารคดี ครูผู้ถ่ายทอดก็เป็น ชายพิการพเนจร แต่หากดูที่ตัววิชา ก็เหมือนจะมีความคล้าย ดาบเจิง ของทางเหนือ มีท่าการใช้ดาบควงวน ตัดข้อตัดเอ็น แต่ท่าสามขุมไม่ใช่ คงต้องใช้เวลาพิเคราะห์อีกสักระยะ เรื่อง กระบี่อาทมาตนเรศวร ไม่เคยได้ยิน เคยได้ยินแต่ ดาบอาทมาตปัตตานี เท้าช้าง ซึ่งยังมีประวัติและมี ครูผู้เฒ่า ยืนยันได้ และเมื่อสัก18ปีก่อน ท่านก็เคยชี้แนะ ถ่ายเคล็ดบางส่วน ให้กับ"ครูแปรง"คงต้องสอบถามจากท่านก่อนว่าเป็นอย่างไร. จากคุณ : หนามทุเรียน - [ 24 ก.ค. 47 00:39:45 A:203.107.210.137 X: ]

ความคิดเห็นที่ 12 อาทมาต อาทมาฏ อาทมารถ อาตมาท อาจสามารถ ก็อันเดียวกัน จะเขียนจะเรียก หรือ จะอ่านแบบใด ยังไม่แน่ชัด เอกสารโบราณเขียนไว้หลากหลาย หน้าที่ความรับผิดชอบก็ไม่แน่ชัด แต่คาดว่า เป็นหน่วยทหารที่ทำการรบแบบพิเศษ มีความสามารถสูง คงถูกฝึกและขัดเกลาอย่างเข้มข้นกว่าทหารเลวทั่วไป ไปไหนตามแต่นายจะสั่ง ไปตามสมรภูมิต่างๆ ที่มีศึกสงคราม ตามแต่ละสมัย ถ้าจากสายปัตตานี คงเป็นทหารที่ร่วมรบช่วงรอยต่อรัชกาลที่ 1 สมัยที่นำทัพลงปราบจนได้ปืนพญาตานีกลับมากรุงเทพ ส่วนทางอาทมาฎนเรศวร คาดว่าคงเป็นต้นทางจากสมัยพระนเรศวร แต่อาจมีมาก่อนหน้านั้นแล้ว ครั้งสุดท้ายที่ได้ยินคือ สมัยรัชกาลที่ 5 แต่ก็เสื่อมสลายสูญหายไป เพราะลักษณะการปฏิรุปกองทัพตามแบบอย่างฝรั่ง กระบี่อาทมาตนเรศวร คงเป็นชื่อเรียกลักษณะการใช้อาวุธตามแนวทางอาทมาตซึ่งสืบเชื้อสายมาจากช่วงสมัยสมเด็จพระเนรศวร จริงๆแล้วก็คาดว่าน่าจะเป็นอย่างเดียวกัน คือเป็นสายวิชาที่ฝึกสอนให้แก่กองอาทมาตนั้นเอง แต่อาจมีหลากหลายวิชา ทั้ง มีด ไม้ ดาบ พลอง ดั้ง เขน จะมีกระบี่อีกอย่างคงไม่แปลก แต่คาดคะเนว่า กระบี่เป็นอาวุธชั้นสูง จะใช้แต่ระดับเจ้านายชั้นสูงเท่านั้น ไม่แพร่หลายถึงเหล่าสามัญ สืบไปสืบมาก็ร่วมต้นทางเดียวกันแต่อยุธยาหรือก่อนนั้นนั่นเอง รวมๆ อาทมาต ก็คือ อาทมาฏ เพียงแต่สมัยนี้ มีสำนักอาทมาฏนเรศวร ชื่อนี้จึงกลับมาอีกครั้ง กระบี่อาทมาฏยเรศวรก็คงเป็นทางกระบี่ที่เล่นกันภายในสำนักนี้ จะถูกต้องเพียงใดก็ไม่ทราบ เพราะเกิดไม่ทัน แต่ประมาณเอาจากเอกสารที่สืบค้นมาได้ จากคุณ : 1 - [ 26 ก.ค. 47 21:08:41 A:210.86.221.237 X: ]

ความคิดเห็นที่ 13 ...น่าสนใจครับ นับว่ามีข้อมูลและความรู้ประกอบ คือที่กล่าวว่าไว้ ไม่ได้ว่า" ไม่มี " แต่ " ไม่เคยได้ยินครับ " ในฐานะคนเรียนวิชาดาบมานานปี ไม่เคยได้ยินจริงๆ นับว่าเป็นการเปิดโลกทัศน์ใหม่เลยที่เดียว การได้ข้อมูลหลักฐาน ทางวิชาการดาบ นั้นว่าเป็นเรื่องน่ายินดียิ่ง ผมคงไม่ได้ติดต่อกับท่านอาจารย์ดาบอาทมาฏ นานไปนิดจนมีอะไรใหม่ๆ แล้วตามยุคไม่ค่อยทัน... ...และด้วยพวกเราก็ได้มีโอกาสเดินทางไปเหนือ เพื่อเยี่ยมคารวะอาจารย์ดาบท่านหนึ่งที่มีความรู้เรื่องนี้อยู่บ้างจึงให้แปลกใจ กับเรื่องนี้หวังว่าคงไม่เกินงามนะครับ ...หากได้ความกระจ่างกว่านี้แล้ว ผมจะมาช่วยคุณเผยแพร่ในที่นี่อีกแรงด้วย... ... ใจรักในศิลปะดาบไทยอยู่แล้ว... จากคุณ : หนามทุเรียน - [ 27 ก.ค. 47 01:43:16 A:203.158.250.107 X: ]

ความคิดเห็นที่ 14 1. คุณหนามทุเรียน / คุณหวายดิบ / คณสบัดชัย ครับ อยากรู้จักมากกว่าในกระทู้ครับ ถ้ามีเวลาว่ารบกวน E-mail มาบ้างครับ bancha_ktb@yahoo.com 2. หนังสือสารคดี ทำเรื่องนี้ได้ดีครับ ตอนนั้นยังไม่ได้กล่าวถึงกระบี่ มีโอกาสคงต้องขอศึกษาพิ่มเติม จากคุณ : บัญชา - [ 27 ก.ค. 47 14:26:29 A:132.235.23.92 X:132.235.23.92, 202.12.117.36 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ออกความเห็นในฐานะที่ดูจากข้อมูลที่เห็นนะครับ ที่ว่าอาทมาตปัตตานีมาจากอาทมาตนเรศวรนั้น อาจจะไม่เป็นอย่างนั้น เพราะคำว่าอาทมาตมีมาก่อนสมัยสมเด็จพระนเรศวร(ถ้าผมจำไม่ผิด)ในทางกลับกัน อาทมาตนเรศวรอาจจะเป็นหนื่งในกองอาทมาตที่มีอยู่หลายกองในหลายพื้นที่ ที่สำคัญ คำว่าอาตมาตนเรศวร ไม่มีการบันทึกในประวัติศาสตร์ มีแต่กลับมีคำอธิบายว่า อาตทมาตเป็นกองลาดตระเวณหาข่าว กองหทารอาสามอญ และที่ว่ากระบี่อาทมาตเป็นวิชาที่สอนเฉพาะระดับเจ้านายชั้นสูงนั้นผมก็ไม่มีข้อมูลเรื่องนี่นะครับ แต่ที่ทราบเจ้ามายชั้นสูงมักมีดาบประจำตระกูล ไม่ค่อยได้ยินครับว่ามีกระบี่ประจำตระกูล(โดยเฉพาะในสมัยอยุธยา)ซึ่งหมายถึงการมีวิชาดาบ และในหมู่เจ้านายชั้นสูงจริง น่าจะเรียนวิชาง้าวนะครับ เพราะเจ้านายชั้นสูงมักจะรบบนหลังช้าง จนในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินแหละครับ ที่พระองค์รบบนหลังม้า แสดงว่าต้องชำนาญวิชาดาบโดยเฉพาะดาบหลังม้า และสมัยกู้ชาติสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินก็ไม่ได้มีการกล่าวถึงกองหทารอาทมาตนเรศวรแต่อย่างไร เป็นข้อคิดเห็นของผมจากข้อมูลที่รู้มานะครับ มีอีกหลายอย่างที่ผมไม่ทราบใครมีข้อมูลอะไรก็ขดเชิญมาเล่าสู่กันฟังนะครับ ในฐานะคนที่รักวิชาดาบด้วยกัน จากคุณ : สบัดชัย - [ 27 ก.ค. 47 20:46:07 A:203.158.250.153 X: ]

ความคิดเห็นที่ 16 ครูนาค เทพหัสดิน ณ อยุธยา สายกรมพละฯ ครูบัว นิลอาชา บัววัดอิ่ม สายร.ร.นายร้อย ครูสี ครูชิต ครูจรูญ ไตยรัตน์ ปฐมครู ต้นสายศรีไตยรัตน์ ครูจุ๋ง สายสำนักดาบหลวงรักษ์ ครูอารีย์ ต้นสายดาบอาริยเตต์ ครูสมัย เมษะมาน สายพุทไธสวรรค์ ครูสุรสวัสดิ์ สมุน สายดาบผดุงศิษย์ ที่นำมากล่าวล้วนเป็นครูดาบที่เลืองชื่อ ท่านเหล่านี้อยู่ในยุคสมัยต่างๆ ไล่ลำดับลงมาก็เป็น100ปีละ เรื่องควารรู้ ฝีมือ ชื่อเสียง คุณธรรม ไม่ต้องกล่าว ไม่มีท่านใดกล่าวถึงดาบอาทมาตเลย วิชาดีอย่างนี้ น่าจะมีตำนานเรื่องเล่า คำล้ำลือ ท่าวิชาที่โดดเด่น หรืออะไรที่ส่อเค้าว่ามีอยู่จริงนะครับ ไม่ใช่อยู่ๆก็มีขึ้นมาเฉยๆ อันนี้ผมขอตั้งข้อสังเกต กองอาทมาตซ้าย อยู่แถบนนท์ ปทุมธานี กองอาทมาตขวา อยู่แถบปทุมธานี นี่จากหลักฐานที่ค้นพบ มามีชื่อในสมัยตั้งกรุงเทพฯแล้วนะ อย่าเอาหลักฐานจากนิยาย ขุนศึก มาละผมขอดูหลักฐานที่ชัดๆดีกว่า ครูที่สอนเป็นใครรู้วิชามาจากไหน เก็บมาอย่างไรครูท่านอื่นก่อนหน้านี้ถึงไม่รู้ ตอบผมให้ได้ก่อนแล้วผมจะเชื่อเรื่องกระบี่ฯ จากคุณ : ทหารเสือ - [ 27 ก.ค. 47 22:50:09 A:203.149.42.120 X: ]

ความคิดเห็นที่ 17 พี่ทหารเสือเล่นถามตรงๆแบบนั้น คงไม่กล้ามาตอบหรอกครับ ไม่เชื่อคอยดู จากคุณ : วิเศษชัยชาญ - [ 28 ก.ค. 47 21:54:13 A:202.176.188.69 X: ]

ความคิดเห็นที่ 18 กราบองค์พระนเรศวรมหาราชเจ้า ผู้กู้อิสรภาพ สู่ไทยทั่งแผ่นดิน หากความจริงมีอยู่ ขอบารมีพระองค์เจ้า โปรดดลบันดาลให้ ปรากฏในเร็ววันด้วยเถิด สาธุ. เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเอามาเล่นนะครับ การเล่นกับ ความเชื่อ ความศรัทธา ถ้าได้เกิดขึ้นแล้ว อาจเปลี่ยนแปลง ศรัทธาความเชื่อเดิมๆ และเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ ของชาติไทย ได้เลยนะครับ หากเกิดความผิดพลาดขึ้น ใครจะกล้ารับผิดชอบ ทำให้ถูกต้องโปร่งใส ให้ประชาชนเขายอมรับ ก็จะได้คุณประโยชน์ใหญ่หลวง ถ้าปล่อยให้คลุมเคลืออยู่อย่างนี้ ก็ไม่เป็นผลดีแก่ตัว และส่งผลเสียกับประวัติชาติ รวมถึงประเทศชาติด้วย! ระวังให้ดีดี! จากคุณ : นราดุลย์ - [ 29 ก.ค. 47 13:34:05 A:203.158.250.130 X: ]

ความคิดเห็นที่ 19 คงมีความคลาดเคลื่อนในการสื่อสาร ผมไม่เคยพูดว่าอาทมาตปัตตานีสืบมาจากอาทมาตนเรศวร ผมต้องการสื่อว่าอาทมาตคืออาทมาต และน่าจะมีมาแต่ก่อนสมัยสมเด็จพระนเรศวร เป็นหน่วยทหารซึ่งตั้งขึ้นเพื่อจุดประสงค์เฉพาะอย่าง ซึ่งอาจมีพื้นที่ในการปฏิบัติการหลากหลายตามแต่สมรภูมิการรบนั้นๆ จะมีหลายหน่วย หรือหน่วยเดียว เป็นชื่อหน่วย หรือเป็นชื่อหน้าที่ นั้นไม่กระจ่าง แต่ล้วนเป็นอาทมาตเช่นเดียวกัน สันนิษฐานว่า คนในปัจจุบันใส่สร้อยต่อท้ายเพื่อระบุถึงพิกัด ตำบล หรือช่วงเวลาที่สืบสายมา จึงกลายเป็นอาทมาตปัตตานี หรืออาทมาตนเรศวร ดังที่ท่านต่างๆได้เอ่ยมา ก็คงเหมือนอย่างเช่น มอญพระประแดง มอญปากเกร็ด หรือมอญสังขละ เพียงแต่ต่างที่ตั้ง หรือต่างที่สมัยที่ถูกกวาดต้อนมา แต่ก็ล้วนเป็นมอญเหมือนกัน หรือจะยกตัวอย่างเทียบเคียงในปัจจุบัน เช่น ทหารราบ เป็นหน่วยที่ตั้งเพื่อจุดประสงค์ด้านการรบตามแบบของทหารราบ แต่อาจมีหลายหน่วย หลายที่ตั้ง เช่น ราบ1 ราบ 11 ฯลฯ แต่ก็ยังคงเป็นทหารราบอยู่ ซึ่งอาจจะยังหน้าที่พิเศษอื่นใดเพิ่มขึ้นก็ได้ เช่น ราบ1 เป็นหน่วยทหารราบ แต่ก็เป็นหน่วยทหารรักษาพระองค์ด้วยในคราวเดียวกัน เพียงแต่ว่าเราจะมองจากมุมไหน กรณีของวิชาดาบของอาทมาตปัตตานี ก็สันนิษฐานอีกเช่นเคยว่า ที่เรียกดังนั้นก็เพราะระบุตำบลปัตตานีเป็นที่ตั้ง แต่จะมาจากไหน ก็ต้องมาจากทหารอาทมาตในสมัยโบราณนั่นเอง และก็มีความเป็นไปได้ว่ามีรากมาจากกรุง อย่าลืมการรบเพื่อตีเมืองปัตตานี หรือสมรภูมิอื่นใดก็ตาม มิได้ใช้ทหารจากเมืองใด หรือแขวงใดแต่เพียงเดี่ยวๆ โดยปกติก็จะกะเกณฑ์จากข้าขัณฑสีมาตามเมืองต่างๆมารวมกัน แต่งเป็นทัพ เพื่อเข้าตี ซึ่งก็คงมีบ้างบางคนบางจำนวนที่หลงเหลือ ถูกสั่งให้เฝ้าเมือง หรือสั่งสอนผู้คนละแวกบ้านเมืองนั้นไว้ สืบทอดกันมา ต่อมาเรื่องอาทมาตนเรศวร ชื่อนี้ก็คงมาจาก ชื่อสำนักอาทมาตนเรศวร ที่ได้อ่านจากสารคดีนั่นเอง พูดไปพูดมาก็กลายเป็นอาทมาตนเรศวร คาดว่าน่าจะเป็นสายวิชาที่สืบทอดมาจากบรรพชนในยุคสมัยของสมเด็จพระนเรศวร หรือก็คือทางดาบตามแบบอย่างอาทมาตในสมัยพระนเรศวร จะอย่างไรก็แล้วแต่ อาทมาตก็คืออาทมาตอีกนั่นเอง ส่วนเรื่องกระบี่อาทมาตนเรศวรนั้น ก็สันนิษฐานอีกว่า น่าจะเป็นวิชากระบี่ ที่เล่นหรือฝึกสอนกันในสำนักอาทมาตนเรศวรนั้น จะพูดง่ายๆก็คือทางดาบตามแบบอย่างสำนักนี้นั้นเอง โดยปกติเราก็พูดลักษณะแบบนี้กันติดปากทั่วไป เช่นดาบศรีไตรรัตน์ ทางดาบพุทไธสวรรค์ มวยครูกิมเส็ง ฯลฯ จะบอกว่ากระบี่อาทมาตนเรศวร อีกสักอย่างก็คงไม่แปลกนัก ส่วนเรื่องอาวุธกระบี่นั้น ก็สันนิษฐานอีกว่า น่าจะมีใช้ในชั้นเจ้านายหรือชนชั้นปกครองขั้นสูง ทั้งเชื้อพระวงศ์หรือสามัญชนขั้นสูงที่มีตำแหน่ง เพราะกระบี่มิใช่อาวุธสามัญที่คนทั่วไปหรือทหารอย่างธรรมดาจะใช้ คาดว่าการใช้กระบี่ได้รับอิทธิพลมาจากชาติตะวันตกในสมัยชาติตะวันตกมารับราชการในอยุธยา แต่ด้วยภูมิปัญญาคนไทย ครูโบราณจึงได้บัญญัติท่าวิชาไว้ เพื่อใช้งาน แต่ก็น่าจะมีอยู่ในวงจำกัดเพียงชนชั้นสูงเท่านั้น ไม่ว่าจะใช้รบจริงหรือเป็นเครื่องยศ ส่วนที่ว่าชนชั้นเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินควรจะเรียนง้าวนั้น ผมเชื่อว่าไม่เพียงแต่ง้าวเท่านั้น ท่านเหล่านั้นน่าจะได้เรียนสรรพวิชาอันครูโบราณท่านสั่งสอน คงเป็นไปตามขั้นตอน จากมือเปล่า จนจบอาวุธหลากหลายไม่ใช่แค่หนึ่งหรือสองอย่าง ทั้งมวยและอาวุธ ผมมองว่า เป็นการสู้เพียงหนึ่งต่อหนึ่งหรือหนึ่งต่อหมู่เท่านั้น ขั้นสูงก็เป็นพิชัยสงคราม ซึ่งเป็นการสู้ของทัพต่อทัพ แต่ใครจะเน้นหรือถนัดอย่างไร คงเป็นไปตามความสามารถ ความนิยมหรือความจำเป็นแก่การใช้งานตามแต่ยุคสมัยนั้นๆเป็นสำคัญ ฉะนั้นคงไม่จำกัดแค่วิชาใดวิชาหนึ่ง เพราะคนโบราณ ไม่เรียนฟิสิกส์ เคมี ชีวะ เวลาเรียนท่านเรียน ศาสตร์ไทยๆนี่แหละจนเจนจบ ต่อมาเรื่องวิชาดีทำไมไม่โด่งดัง อันนี้ผมมองในมุมกลับ และอยากถามกลับว่า ก่อนจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ท่านได้ลองสัมผัสหรือยัง ตัวผมนั้นไม่รู้เพราะไม่ได้สัมผัส จึงไม่กล้าตัดสินว่ามีหรือไม่มี แต่อยากบอกว่าคนเก่งคนดีในเมืองไทยมีเยอะ ไม่เพียงแต่ด้านสายการต่อสู้เท่านั้น ด้านอื่นก็อีกมาก ที่เรารู้และที่เราไม่รู้ก็มาก การจะบอกว่าของดีต้องโด่งดังนั้นผมเห็นขัดแย้ง เนื่องด้วยครูโบราณจริงๆแล้ว มักเน้นย้ำเสมอว่า ให้คมในฝัก มีอะไรก็อย่าให้คนอื่นเค้ารู้ ใช้เมื่อจำเป็น คนรู้มากไปจะเป็นภัยแก่ตน การที่เรายังไม่รู้แล้วบอกว่าไม่มีนั้นเห็นจะไม่ควร ก็คงเหมือนเรื่องนรกสวรรค์ บาปบุญคุณโทษ มองไม่เห็นจับต้องไม่ได้ มีหรือไม่มี ใครบอกได้ ฉะนั้นดีหรือไม่ดี คงต้องวานท่านผู้รู้เรียนสอนชี้แจง เมื่อเห็นแล้วเราย่อมตัดสินได้เองว่าดีหรือไม่ประการใด อะไรที่เป็นราคาคุยวันนึงก็หมดไป อะไรเป็นของจริงก็คงอยู่ทนทาน แต่ก็อีกว่า ครูอาจารย์บางท่านมีวิชา แต่ไม่เคยแสดงตัว อย่างนี้จะบอกว่าท่านไม่เก่งเพราะเราไม่เคยได้ยินชื่อได้ไหม ลองคิดดู เรื่องครูอาจารย์ที่กล่าวมานั้น ย่อมได้ยินได้เห็นได้รับรู้กันมาถึงคุณความดีของท่าน แต่ถามต่อว่า วิชาของท่านเหล่านั้นมาจากไหน สืบไปสักสองสามร้อยปี ไม่แน่ก็คือวิชาเดียวกัน จากบรมครูท่านเดียวกัน แต่ใครเล่าจะรู้ เพราะหลายร้อยปีมาแล้ว สืบต่อมารุ่นต่อรุ่น เปลี่ยงแปลงเบี่ยงเบนบ้าง จนสุดท้ายเป็นเราเป็นท่านอย่างในปัจจุบัน ใครจะว่าอย่างไรก็ตามที เรื่องของประวัติศาสตร์ ไม่มีใครผิดใครถูก มีแต่ข้อสันนิษฐานของใครน่าจะเป็นไปได้มากกว่ากัน จะผิดถูกประการใดบอกได้ว่าไม่รู้ เพราะเกิดไม่ทัน เพียงแต่คาดเดาจากความสอดคล้อง หรือความเป็นไปได้เท่านั้น ใครเกิดทัน รู้ลึกๆก็ช่วยสอนด้วยเถิด จะเป็นพระคุณ จากคุณ : 1 - [ 29 ก.ค. 47 23:28:08 A:202.133.154.14 X: ]

ความคิดเห็นที่ 20 คงต้องขออภัยนะครับที่ผมจับความหมายคลาดเคลื่อน เรื่องของอาทมาตนเรศวรและปัตตานี แต่เราก็สรุปลงที่จุดเดียวกันนะครับว่า อาทมาตนเรศวรและปัตตานีล้วนเป็นส่วนหนื่งของคำว่า อาทมาต แต่ผมขอตั้งข้อสังเกตุว่า กองอาทมาต เกิดจากการนำทหารมาฝึกเพื่อเป็นกองอาทมาต หรือเป็นการนำทหารที่มีฝีมือมารวมเป็นกองอาทมาตเพื่อทำการหนึ่งการใด ตามภาระกิจ ถ้าเป็นกรณีแรก แสดงว่าวิชาอาทมาตเป็นวิชาดาบที่ร้ายกาจสายหนึ่ง และที่คุณ 1 กล่าวไว้ในความเห็นแรก ซึ่งเข้ากับข้อมูลที่คุณทหารเสือกล่าวไว้ หมายถึงกองอาทมาตมีอยู่ในเขตพระนคร แล้วจึงเสื่อมลงภายหลัง แต่แปลกที่วิชาดาบสายนี้กลับไม่มีการสืบทอดต่อกันมา ดังเช่นดาบของสำนัก พุทไธสวรรค์ ศรีไตรรัตน์ ผดุงศิษย์ ซึ่งอยู่ในบริเวณพระนครเช่นกัน วิชาดาบเหล่านี้ก็ไม่ใช่วิชาที่ใช้ฝึกทหารเลวทั่วไป แต่เป็นวิชาดาบระดับแม่ทัพ นายกอง และรุ่นครูที่สืบทอดวิชาดาบต่อๆกันมาก็ไม่มีผู้ใดกล่าวถึงลักษณะวิชาดาบของอาทมาต แต่ถ้าเป็นในกรณีที่สอง ก็แสดงว่า อาทมาตไม่ใช่วิชาดาบสายใดสายหนึ่ง แต่เกิดจากการรวมตัวของนักดาบที่มีฝีมือจากหลายๆที่ เพื่อทำงานใดงานหนึ่ง ส่วนเรื่องเจ้านายระดับสูงต้องเรียนมากกว่า 1 อย่าง เป็นความจริงครับ ซึ่งผมก็ยกตัวอย่างการมีดาบประจำตระกูล ซึ่งก็หมายถึงการมีวิชาดาบ แต่ที่ผมว่าน่าจะเรียนง้าว เพราะในสมัยอยุธยา เจ้านายระดับสูงเท่านั้นที่รบด้วยช้าง ดังนั้นวิชาที่ต้องฝึกฝนจนชำนาญก็น่าจะเป็นง้าว เพราะต้องใช้รบเมื่อออกศึก มากกว่า และน่าจะกล่าวได้อย่างเต็มปากว่าเป็นวิชาที่สอนเฉพาะในระดับเจ้านายชั้นสูง ที่ออกความเห็นมาไม่ได้มีอคติกับวิชาอาทมาตนะครับ เพียงแต่มีข้อสงสัยที่ยังไม่กระจ่างเท่านั้นเองครับ เพราะผมก็เกิดไม่ทัน จึงพิจารณาจากข้อมูลที่รู้และความน่าจะเป็นเท่านั้น จากคุณ : สบัดชัย - [ 30 ก.ค. 47 07:51:05 A:203.158.250.152 X: ]

ความคิดเห็นที่ 21 ส่วนใหญ่กองอาทมาท ส่วนใหญ่ที่มีบันทึกไว้ยศเป็น"สมิง" ซึ่งเป็นยศทหารมอญทั้งนั้นนะครับ จึงเป็นเรื่องแปลกที่อ้างว่าเป็นวิชาพระนเรศวร แต่ถึงจะใช่การอ้างเบื้องสูงเช่นนั้นไม่ทราบว่าสมควรหรือเปล่านะครับ จากคุณ : คนรักดาบไทย - [ 30 ก.ค. 47 14:38:11 A:203.209.118.216 X: ]

ความคิดเห็นที่ 22 ตามตำแหน่งในสมัยรัตนโกสินทร์ อาทมาตเป็นสมิงเชื้อมอญแน่ คำว่าอาทมาตเท่าที่ทราบเป็นคำทีเริ่มใช้ในสมัยพระเจ้าตากสิน จนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ แต่มีข้อสังเกตว่า ก่อนหน้านี้มี กองอาจสามารถ มาตั้งแต่ กรุงศรีอยุธยา ต่างที่นามระบุ แต่จุดประสงค์หรือคำนิยามไม่ต่างกันเลย จึงกล่าวได้ว่า อาจสามารถ หรืออาทมาต น่าจะเป็นสิ่งเดียวกันมีมาแต่ครั้งอยุธยา กลับมาเรื่องสายวิชาดาบนั้น ขอเรียนว่า ในเมืองไทยเรามีสายดาบหลากหลายมากมาย การที่วิชาหนึ่งวิชาใดจะเติบโตในราชสำนักนั้น ขึ้นกับว่า ณ เวลานั้นๆ เจ้ากรมทนายเลือกซ้ายขวา เป็นคนจากสายวิชาใด ไม่ว่าจะทางมวย หรือทางดาบ หาก ณ ช่วงเวลานั้นๆ เจ้ากรมเป็นมวยสายโคราช มวยโคราชย่อมเติบโต มีลูกศิษย์ฝึกซ้อม แต่หากเจ้ากรมเป็นท่าเสา มวยท่าเสา ย่อมเติบใหญ่ ทางดาบก็เช่นกัน ดาบไทยเรารวมเอาสายดาบไว้หลากหลาย ทางดาบต่างชาติก็มีอยู่ บรมครูที่กล่าวมาข้างต้น หลายท่านก็เป็นทางดาบไทย แต่อีกหลายท่านก็เป็นทางดาบที่สืบมาจากดาบแขก หรือดาบต่างชาติสายอื่นๆ ผมอยากจะสื่อว่า การที่สายดาบหรือวิชาใดจะเติบโตนั้น ก็ขึ้นอยู่ที่ว่าครูผู้สอนเชี่ยวชาญในทางดาบสายไหน แน่นอนว่าเจ้ากรมทนายเลือกฝั่งซ้ายและขวา อันหมายถึง มวย และอาวุธนั้น ย่อมคัดเลือกจากผู้ที่เก่งกาจในเวลานั้นๆ ซึ่งสายวิชาอื่น ณ เวลานั้นๆ อาจไม่เข็มแข้ง หรือทรุดโทรม ไม่แน่ว่าวิชาดาบอาทมาตอาจจะเสื่อมสูญไปในสมัยอยุธยา คงเหลือเพียงบรรดาศัดิ์ หรือศักดินาคงไว้ ก็เป็นได้ อันนี้ก็ขอพูดว่าเป็นการสันนิษฐานอีกเช่นกัน แต่ออกจะมาในแนวทางที่คิดว่า สิ่งใดก็ตามไม่มีเชื้อย่อมไม่มีเหตุให้เอ่ยอ้าง ซึ่งในกรณีนี้ เมื่อมีผลอยู่ในปัจจุบัน ย่อมมีรากอยูที่ไหนสักแห่งในอดีตเพียงแต่เรายังไม่รู้ ไม่สามารถสืบค้นได้ อยากให้ทุกท่านก่อนที่จะเชื่อหรือไม่เชื่ออันใด น่าจะได้ลองสัมผัสสิ่งเหล่านั้นดูก่อน อ้างถึงข้อความคุณสบัดชัย เรื่อง 2 แนวทางของอาทมาต ผมมองว่า กองอาทมาตน่าจะเป้นกองที่มีหน้าที่พิเศษ ซึ่งคนที่จะเข้ามาย่อมต้องมีฝีมืออยู่ก่อนแล้ว แต่ในกองนี้ คงมีทางดาบ หรือสายวิชาบางอย่างที่จะนำมาฝึกสอนเพื่อเพิ่มศักยภาพลงไปให้แก่สมาชิก ในความเห็นของผม เมื่อกองนี้เป็นเหมือนทหารพิเศษแล้ว วิชาที่ใช้น่าจะมีพิษสงเป็นพิเศษและในอีกมุมหนึ่ง ย่อมน่าจะเป็นความลับ หรือถ่ายทอดเพียงภายในหมู่เหล่าเท่านั้น ซึ่งก็น่าจะเป็นเหตุให้เสื่อมสูญได้โดยง่าย เพราะไม่แพร่หลาย ก็ได้แต่คิดหาเหตุผลประกอบดูแนวทางความเป็นไปได้ แต่ถูกหรือผิดไม่กล้ายืนยันครับ ขอนอกเรื่องนิดนะครับ อยากจะเล่าอะไรให้ฟังเป็นเกร็ดความรู้ เกี่ยวกับผู้แต่งหนังสือขุนศึกที่กล่าวถึงกันนั้น คุณไม้เมืองเดิม หรือสุมทุม บุญเกื้อ นั้น ถือเป็นผู้ที่รู้ประวัติศาสตร์ไทยในระดับหาคนเทียบได้ยาก แม้แต่ อ.สุจิตต์ วงษ์เทศ ยังเคยเอ่ยปากถึงความเชี่ยวชาญของท่านเอาไว้ ถ้าไม่พูดถึงเนื้อหาทางด้านอารมณ์แล้ว ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ในหนังสือเล่มนี้ ถือว่าสมบูรณ์ครับ นี่คือความสมบูรณ์ในสมัยนั้นๆ ความสมบูรณ์หรือเที่ยงตรงของประวัติศาสตร์ ขึ้นอยู่กับเอกสารที่สืบค้นได้ ซึ่งน่าเสียใจว่า เมืองไทย เราหาเอกสารเหล่านี้ได้ยากเต็มที ส่วนความเห็นเรื่องชื่อนั้น ขอไม่ออกความเห็นครับ คงต้องดูว่าจุดมุ่งหมายคืออะไรเป็นสำคัญ นึกขึ้นได้เรื่องกระบี่ไทย ถ้าใครนึกภาพไม่ออก ลองนึกถึงกระบี่ที่ตำรวจราชสำนัก ถือเวลาถวายงานราชองครักษ์แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในงานพระราชพิธีครับ จะนึกภาพออกได้โดยง่าย ส่วนกระบี่ประลอง กระบี่อ่อน หรือกระบี่หวาย เป็นของที่เกิดภายหลังเพื่อการฝึกซ้อมครับ เป็นอุปเทห์ของครูโบราณ จากคุณ : 1 - [ วันอาสาฬหบูชา 01:47:43 A:unknown X:203.146.98.20 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ผมได้ติดตามคณะไปค้นหาข้อมูลกับคณะได้พบครูป๋อง..ที่สำนักดาบอริยะเมตต์..เนื่องจากศิษย์ของท่านกลายมาเป็นครูของครูที่สอนดาบอาทมาฎที่ก.ท.ม..ดาบที่ว่าไม่ใช่วิชาแต่เป็นเกร็ดไม้..ยังมีสิ่งที่ให้ค้นคว้าอีกมากก็ยังคงต้องหาข้อมูลกันต่อๆไป..อย่างอาจารย์นาค..ท่านก็เคยให้ข้อมูลผิดๆจากความรู้ในโลกไร้การสื่อสารทางข่าวสารไว้เหมือนกัน..อาจารย์นาคเขียนไว้ว่าไม่เคยเห็นชาติใดในโลกเล่นกระบี่กระบองนอกจากชาติไทย..ยุค1980..ฟิลปินส์มีกระบอง.มีดาบ..มีมีด..อินโดนีเซียก็มี..มาเลย์ก็มี..ช่วยกันค้นคว้ากันต่อไปไปนะครับ..ความแน่นอนอาจจะอยู่ในสิ่งที่ไม่แน่นอน จากคุณ : คนรักมวยไทย - [ 2 ส.ค. 47 10:12:18 A:202.183.145.231 X: ]

ความคิดเห็นที่ 24 "pantip.com ก็เป็นแค่สื่อให้คนมาพบปะพูดคุยกัน คำตอบที่ได้จากกระทู้ก็มีความหมายแค่ว่า "มีคนบอกว่า..." ที่สำคัญ "คน" ที่ว่า เป็นใครก็ไม่รู้ รู้จริงหรือไม่ก็ไม่รู้ และ "คน" หลายๆคนก็มีความคิดเห็นขัดแย้งกันได้ หรือบางคนพยายามยัดเยียด"ข้อเท็จจริง"ที่ไม่รู้ว่ามี"ความจริง"อยู่สักกี่มากน้อย แล้วควรจะเชื่อหรือไม่? ผมเห็นด้วยกับอาจารย์ว่าใช้อ้างอิงไม่ได้แต่อย่างใด เพราะไม่ได้มีความหมายอะไรมากไปกว่าการบอกอาจารย์ว่า "พี่ข้างบ้านเขาบอก" การตั้งกระทู้ถามลักษณะนี้ หากได้คำตอบมาแล้วต้องการนำไปใช้ ถามต่อได้ว่าจะหาอ่านงานเขียนเชิงวิชาการได้ที่ไหน อย่างคำตอบของคุณ"ขุนนางอยุธยา"นี่ใช้ได้เลยครับ แต่ไม่ใช่ว่าใช้เอาชื่อหนังสือไปบอกอาจารย์ได้นะ ต้องลองไปหาหนังสือแล้วค้นคว้าดูว่าตรงไหนในหนังสือที่กล่าวไว้ เขาอ้างอิงจากเอกสารใด ไม่ใช่เพียงว่านักวิชาการเขียนแล้วจะเชื่อได้ 100% แค่สามารถอ้างอิงต่อได้เพราะเขารับผิดชอบกับงานเขียนของตัวเอง หากวันใดพบข้อผิดพลาดก็อยู่ที่เขาครับ ข้อเขียนของเขาก็หมดความน่าเชื่อถือ งานของเราที่อ้างอิงเขาก็หมดความน่าเชื่อถือตาม จากคุณ : CrazyHOrse - [ วันอาสาฬหบูชา 23:11:29 ] " ขออนุญาต ยกข้อความ ของ คุณ crazyhorse จากห้องสมใด มาให้อ่านกัน น่าจะตอบทุกคำถามที่ถกกันอยู่ ณ ที่นี้ จากคุณ : 1 - [ 2 ส.ค. 47 20:44:44 A:210.86.221.211 X: ]

ความคิดเห็นที่ 25 กระบี่ไทยแท้นั้น เมื่อก่อนผมเชื่อว่า เราได้แบบอย่างมาจาก ยุโรป จนกระทั่ง ผมมานึกถึง ลิเก ซึ่งมีการนำกระบี่มาประกอบการแสดง ทั้งๆที่ไม่มีลิเกเรื่องใดเกี่ยวกับฝรั่งสักเรื่อง และเมื่อ ลิเก มีมาแต่โบราณ ดั้งนั้น กระบี่ก็เช่นกัน และอาจหมายความได้ว่า ถ้าหากกระบี่ต่างชาติที่จะมีอิทธิพลต่อดาบไทยก็คงจะเป็นสาย อินเดียหรืออาหรับมากกว่า ยุโรป ครับ ส่วนลักษณะกระบี่ไทยแท้ นั้นก็คือ ใบดาบไทยใส่โกร่งนั่นเอง และยังหาชมได้ในปัจจุบันครับ ก็คือ กระบี่พระราชพิธี อย่างที่คุณ 1 กล่าวไว้นั่นเอง ส่วนเรื่องกระบี่กระบองต่างชาติ และมีจุดประสงค์เพื่อการอนุรักษ์กึ่งการแสดงนั้น ผมไม่แน่ใจว่า ในสายฟิลิปินส์จะมีกระบี่กระบองในแนวนี้หรือไม่ เท่าที่ผมทราบ ก็คือ 1. กระบี่กระบอง ไทยภาคกลาง 2. ฟ้อนดาบ ไทยสายเหนือ 3. กริชลีลัต มาลายู มาเลย์-อินโดนีเซีย 4. Old Fencing ในยุโรป มีเกือบทุกประเทศ มีข้อมูลชี้แนะ หรือ ขัดแย้ง ก็ขอเชิญร่วมเสวนานะครับ เพื่อความเจริญทางปัญญาร่วมกันครับ จากคุณ : หวายดิบ - [ 3 ส.ค. 47 09:24:11 A:203.113.33.7 X: ]

ความคิดเห็นที่ 26 ความเห็น 23 "อย่างอาจารย์นาค..ท่านก็เคยให้ข้อมูลผิดๆจากความรู้ในโลกไร้การสื่อสารทางข่าวสารไว้เหมือนกัน..อาจารย์นาคเขียนไว้ว่าไม่เคยเห็นชาติใดในโลกเล่นกระบี่กระบองนอกจากชาติไทย." คุณคนรักมวยไทยคงเข้าใจและรู้จักความหมายของคำกระบี่กระบองผิดไปจากท่านอ.นาค ซึ่งเป็นปรมาจารย์ท่านหนึ่งนะครับ ท่านคงรวมถึงการร่ายรำและรูปแบบอื่นๆด้วยครับ จากคุณ : คนรักดาบไทย - [ 3 ส.ค. 47 12:06:14 A:203.209.116.249 X: ]

ความคิดเห็นที่ 27 ...กลับมาที่คำถามแรกสุด ก่อนที่จะแตกประเด็นไปไกล " ดาบอาทมาตนี่เป็นอย่างไรครับ" หากจะให้ดูวิชาใดๆ ว่าเป็นอย่างไร ...เริ่มแรกก็ต้องดูที่ "ท่าแม่" หรือ "ท่าครู" ครับ เราจะทราบที่มาที่ไป ความเป็นมากลุ่มคนที่ใช้วิชา คล้ายๆในแนวทางใด เก่าใหม่ เป็นหลัก นะครับคุณอยากรู้ ...อันดับต่อมาก็ "ท่ารำ" และ "ท่าไหว้ครู" บอกที่มาประวัติศาสตร์ของวิชา ที่ผ่านมาย่อมมีร่องรอยบางอย่างให้สืบค้น มีเค้ารางบางอย่างให้ค้นหาได้ ครับ ศึกษาดูนะครับ. ...มี "ราก" ก่อเกิด "รูป" แล "รูป" ย่อมเห็น "เงา" หาก "ไร้เงา" ก็ "ไร้รูปร่าง"...ไร้ราก...ก็ไร้รูปไร้เงาไร้ร่าง อัจฉริยะวิชา ย่อมไม่ก่อเกิด. จากคุณ : หนามทุเรียน - [ 4 ส.ค. 47 23:19:28 A:203.158.250.108 X: ]

ความคิดเห็นที่ 28 รู้แต่ว่าพระยาจุฬาราชมนตรี(เถื่อน)มุฮัมมัด กอซิมเคยเป็นแม่ทัพกรม(หรือกองอาทมาต)สังกัดพระองค์เจ้าพระองค์หนึ่งจำชื่อไม่ได้ ในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ ส่วนลิเกหรือดิเกเป็นการละเล่นของชาวเปอร์เซียหรือชาวอารยัน เป็นการขับร้องทำนอง ดาบที่มีชื่อเสียงระดับโลกตั้งแต่สมัยโบราณจนปัจจุบันนี้มีอยู่ 3 อย่างคือ 1.) ดาบซามูไร 2.) ดาบดามัสคัส ชื่อเมืองหลวงของประเทศซีเรีย 3.) ดาบโตเลโด เป็นของพวกมัวร์ สมัยที่อรับยังปกครองคาบสมุทรไอบีเรียอยู่ เป็นพวกลูกผสมอรับ เบอร์เบอร์ และสเปน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคนอรับกลับยกย่องเหล็กที่มาจากอินเดียว่าเป็นเหล็กที่มีคุณภาพดี จากคุณ : andalus - [ 5 ส.ค. 47 14:42:53 ]

ความคิดเห็นที่ 29 สังเกตุว่าภาพพระมหากษัตริย์ที่ใช้กระบี่ เริ่มในสมัย ร.5 ( ร.4 ท่านไม่ห้อยกระบี่) ประกอบกับสถาณะการณ์ช่วง ร.3 -5 การคุกคามของฝรั่งในภูมิภาคนี้มีเพิ่มมากขึ้น จึงมีความเห็นว่าการที่ ร.5 ท่านทรงใช้ดาบตระกูลนี้เพราะเราติดต่อและต่อสู้กันทางรัฐศาสตร์กับฝรั่ง เราจึงมีการทำตัวอย่างฝรั่งหลายประการอย่างที่ทุกท่านทราบดีอยู่แล้วเป็นประเด็นหลัก การรักษาวัฒนธรรมการใช้อาวุธดั้งเดิมอาจจะไม่ใช่จุดที่ใช้ต่อสู้ทางภูมิปัญญาในขณะนั้น ทั้งหมดข้างต้นเป็นความเห็นส่วนตัว แค่ 1 ในความเห็นของทุกท่านครับ จากคุณ : บัญชา (bancha_ktb) - [ 5 ส.ค. 47 14:58:34 ]

ความคิดเห็นที่ 30 หนังสือสารคดีลงแล้ว ได้ข้อมูลที่บันทึกไว้ดีมากต้องขอบคุณ แต่ยังอยากได้ความเห็นเชิงวิเคราะห์จากนักประวัติศาสตร์ หรือมุมมองเชิงวิเคราะห์จากจากหนังสือศิลปวัฒนธรรมบ้าง จากคุณ : อาหารสมอง - [ 8 ส.ค. 47 22:20:53 A:202.176.188.189 X: ]

ความคิดเห็นที่ 31 ***ดาบสองมือ / ดาบคู่ **** สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ เล่มบนเหล็กเหนียว รู้จักในนามเหล็กลาน กั่นเล่มนี้ยาวถึงปลายด้าม เล่มล่างเหล็กกล้า กั่นยาวแต่สั้นกว่าอันบน *ตำราเดิมดาบสองมือไม่ใช่ตีสองเล่มเท่ากัน แต่มีเอกมีโท * ใบไม่หนาน้ำหนักค่อนข้างเบาสำหรับดาบขนาดประมาณนี้น่าจะเหมาะกับการต่อสู้แบบใช้ฝีมือมากว่างานลุย **ขอบคุณ อ.ปริญญา สัญญะเดช กรุณาให้ยืมมาถ่ายภาพ**(วันหลังต้องรบกวนข้อมูลดาบคู่นี้เพิ่ม) ที่จริงลงหลายกระทู้แต่บางคนอาจจะยังไม่เห็นจึงขออนุญาตนำมาลงเพื่อให้ทราบถึงของเดิมของดาบสองมือครับ จากคุณ : บัญชา (bancha_ktb) - [ 9 ส.ค. 47 12:29:25 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ไปเอามาจากไหนกันครับ เรื่องกองอาทมาต กองอาทมาตเป็นหน่วยรบแบบหนึ่งขึ้นกับกรมอาสาใน เป็นกองรบที่เชี่ยวชาญอำนาจไสยศาสตร์ทำนองว่ามีความเชื่อเรื่องคงกระพันชาตรี ส่วนเพลงดาบของพวกอาทมาตนี้ มิเคยเห็นหรือแม้กระทั่งได้ยิน เคยเห็นแต่เพลงดาบของพวกหมู่ทะลวงฟัน เป็นเพลงดาบสองมือ กับเหลงดาบจับสองมือ ใบยาว ใช้ฟันดา นะครับ ส่วนเพลงดาบจตุรงคบาท เป็นเพลงดาบที่ใช้ฟันดะ กับปัดป้องเน้นรุกทะลวงตามช้างพระที่นั่งให้ทัน พวกนี้มีบรรดาศักดิ์ค่อนข้างสูง ส่วนใหญ่เป็นขุน ผมก็เรียนเพลงดาบสายนี้ ใช้ดาบทั้งมือเดียวสองมือตามถนัด แต่ที่ถูกต้องใช้สองมือครับ ถ้าฟันสองมือก็จะคล้ายๆกับเกลงดาบชั้นดีทั่วไป แต่ทางใช้มือเดียวจะใช้วิธีฟันตามแขนมือ มากกว่าฟันตรงๆ แล้วใช้มือข้างที่ว่างเปิดท่ารับของคู่ต่อสู้แล้วรุก เหนื่อย !!! อยากรู้ก็เดี๋ยวคุยกันข้างนอกดีกว่าครับ ถามมา จากคุณ : ณัฐยุทธ จิตรพงศ์ ณ อยุธยา - [ 16 ส.ค. 47 09:00:33 A:203.121.146.152 X: ]

ความคิดเห็นที่ 33 กองอาทมาต ตามความหมายของณัฐยุทธ ตามที่ผมเข้าใจจะอยู่ที่วิเศษชัยชาญ ใช่หรือเปล่าครับ จากคุณ : บัญชา (bancha_ktb) - [ 16 ส.ค. 47 09:48:25 ]

ความคิดเห็นที่ 34 อยากคุยกับคุณณัฐยุทธเรื่องเพลงดาบนะครับ ถ้าว่างเชิญเอ็มเอสเอ็น knifeman@hunsa.com ผมชอบวิชาดาบมาก จากคุณ : คนรักดาบไทย - [ 16 ส.ค. 47 11:09:39 A:203.209.118.65 X: ]

ความคิดเห็นที่ 35 ...สนใจครับ เล่าสู่กันฟังได้ที่นี่ หรือที่ข้างนอก ที่ไหนดีครับ จากคุณ : หนามทุเรียน - [ 16 ส.ค. 47 23:05:23 A:203.158.250.106 X: ]

ความคิดเห็นที่ 36 น่าสนใจมากครับ อาจพบปะด้วยคนครับ คุณณัฐยุทธ ถ้ามีเวลารบกวนเล่าเรื่องเพลงดาบของคุณให้อ่านบ้างนะครับ จากคุณ : หวายดิบ - [ 17 ส.ค. 47 09:41:21 A:203.113.33.7 X:203.150.217.111 ]

ความคิดเห็นที่ 37 จัดเสวนากันก็ดีครับ จากคุณ : บัญชา (bancha_ktb) - [ 17 ส.ค. 47 16:08:58 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ...ยินดีร่วมด้วย ครับ อ้อ คุณบัญชา เมลผมคุณก็มีแล้วนี่ครับ เขียนมาคุยได้เลย แล้วที่ติดคุณอยู่นะ จะจัดการให้ ครับ. จากคุณ : หนามทุเรียน - [ 19 ส.ค. 47 00:04:09 A:203.107.211.40 X: ]

ความคิดเห็นที่ 39 อ้าว มีแล้วเหรอ อันไหนละทีนี้ จากคุณ : บัญชา (bancha_ktb) - [ 20 ส.ค. 47 10:07:02 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ชาวแสกเคยมีประวัติว่าเป็นนักรบที่ห้าวหาญ ในสมัยรัชกาลที่ 3 เจ้าพระยาบดินทรเดชา(สิงห์ สิงหเสนี) แม่ทัพไทยซึ่งยกทัพไปปราบปรามเจ้าอนุวงษ์เวียงจันทน์ และไปตั้งทัพอยู่ที่เมืองนคร ได้แต่งตั้งให้ ฆานบุดดี หัวหน้าชาวแสกเป็น หัวหน้ากองอาทมาต เป็นกองลาดตะเวนรักษาชายแดนพระราชอาณาเขตซึ่งติดกับเขตแดนญวน ต่อมาได้อพยพชาวแสกให้มาตั้งบ้านเรือนอยู่ในเขตเมืองนครพนม เมืองสกลนคร และเมืองมุกดาหารทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ตั้งให้ฆานบุดดีเป็น หลวงตาเอกอาษา เจ้าเมืองอาทมาตขึ้นเมืองนครพนม เมื่อ พ.ศ.2387 ในสมัยรัชกาลที่ 3 (จากเอกสาร ร.3 จ.ศ.1206 เลขที่ 58 หอสมุดแห่งชาติ) อีกหนึ่งหลักฐานของ กองอาทมาตครับ ลองค้นดูก็เจอครับจากลิงค์นี้ครับ แปดเผ่าเมืองมุกดาหาร http://www.mukweb.com/mukwep.com/history/padphow1.htm จากคุณ : Tyrant - [ 23 ส.ค. 47 00:45:52 A:61.90.16.192 X: ]

ความคิดเห็นที่ 41 ตอนนี้ผมกับเพื่อน 2-3 คนได้พยายามทำดาบสองมือแบบโบราณ โดยมีดาบใน คห.31 เป็นแนวทาง ตอนนี้ ดาบต้นแบบเกือบเสร็จแล้วอีกสักสัปดาห์คงจะนำภาพมาลงได้ จากคุณ : บัญชา (bancha_ktb) - [ 31 ส.ค. 47 11:13:26 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ประวัติศาสตร์ คืนสิ่งที่ผ่านมาแล้ว คนที่พูดถึงประวัติศาสตร์ อาจพูดถูกหรือไม่ถูกก็ได้ ผมว่ามันไม่สำคัญ แต่ที่แน่ๆ การต่อสู้นะเขาฝึกกันอย่างไร ทำอย่างไร อันนี้สำคัญกว่า อยากรู้มากกว่าประวัติศาสตร์ครับ จากคุณ : คนไทย - [ 15 ก.ย. 47 12:57:02 A:61.90.85.161 X: ]

ความคิดเห็นที่ 43 ผมเห็นด้วยกลับ คนไทย นะอยากเห็นตำราดาบไทย ที่รวบรวมทุกค่ายทุกสำนักเท่าที่มีอยู่ แล้วมาจัดเป็นหมวดหมู่ เขียนถึงข้อดีข้อเสีย ของแต่ละเพลงดาบ และวิธีฝึกฝน ให้ชัดเจน และอยากเห็น คนไทย รวมตัวกัน เอาของดีที่มีอยู่มา ทำประโยชน์ ให้มากๆนะ ครับ เผื่อจะได้ลดปัญหาของสังคมทางอ้อมนะครับ จากคุณ : อำนาจ(เด็กราม) - [ 15 ก.ย. 47 17:07:10 A:61.90.85.161 X: ]

ความคิดเห็นที่ 44 เรื่องดาบ, เรื่องมวย ไม่มีใครรู้มากเท่าครูแปรงหรอกครับ เขารู้ดีหมดแหละ ใครรู้แตกต่างจากเขา เขาก็ว่าผิด ครูแปรงใช้ชื่อคนรักมวยไทย เข้ามาใช้เวทีแห่งนี้แสวงหาความน่าเชื่อถือให้กับตัวเองทุกรูปแบบ ประเภทยกเมฆเรื่องเล่า เล่าอ้าง เล่าอวด เล่าอิง เอามันทุกอย่างที่จะทำให้ตัวเองน่าเชื่อถือ ใเรื่องมวยก็แขวะศิษย์อาจารย์เดียวกัน(เคยแขวะครูเล็ก ทั้งๆที่เคยอาศัยทำมาหากินที่บ้านเขามาก่อน และการแขวะ คุณ ป. (ปัญญา ไกรทัศน์)ก็ยิ่งแสดงให้เห็นนิสัย.....) ย้อนไปดู คห.ที่ 11 ครูแปรง มีเอี่ยวอีกแล้ว..จากข้อความที่ว่า..18 ปีก่อน ครูแปรงได้รับการชี้แนะจากครูผู้เฒ่าคนหนึ่ง...เรื่องอ้างลอยๆอย่างนี้ครูแปรงและพวกชอบนักล่ะ....สังเกตุใหดี ใน คห. ที่ 23 ก็แขวะ อ. นาค ....อยากเตือนครูแปรงด้วยความหวังดีว่าให้เลิกซะพฤติกรรมพวกเล่าอ้าง เล่าอิง อวดอ้าง และการโฆษณาอวดเก่งที่ว่าต่อยอดวิชาจากครูเขต และครูทอง ....เปลียนชื่อบ้างก็ได้ เพราะด้วยนิสัยแย่ที่แสดงผ่านๆมา ตอนนี้เขาจับจุดได้แล้วว่า ครูแปรง คือ คนที่ใช้ชื่อว่า คนรักมวยไทย(ขอให้รักให้ถูกทางนะ ถ้ารักเต็มไปด้วยอัตตา มันจะบรรลัยนะ) จากคุณ : คนรำคาญ - [ 15 ก.ย. 47 23:00:35 A:61.91.64.155 X: ]

ความคิดเห็นที่ 45 ใครมีความรู้ ช่วยแสดงความคิดเห็นเพื่อความกระจ่างใน คห.ที่ 32 ของคุณทหารเสือด้วยครับ จากคุณ : รอฟัง - [ 15 ก.ย. 47 23:05:33 A:61.91.64.155 X: ]

ความคิดเห็นที่ 46 จาก ค.ห. ที่ 40 ขอรายละเอียดเรื่อง "ชาวแสก" ครับ น่าสนใจมาก จากคุณ : ตามรอยไทย - [ 15 ก.ย. 47 23:07:13 A:61.91.64.155 X: ]

ความคิดเห็นที่ 47 คุณคนรำคาญ ครับ การออกมากล่าวหา ใครในที่นี่โดยไม่มีมูลความจริงนั้น ไม่น่ารักเลยนะครับ............... คนรักมวยไทย นะผมรู้จักดี ท่านเป็นนักธุระกิจที่ดิน ซึ่งสนใจเรื่องการต่อสู้ไทย ทุกแขนง และคุยอยู่ในเว็บมามากกว่า4ปีแล้ว อาจจะพูดจาโผงผาง ทะลึ่งตึงตังบ้าง นั้นก็เป็นเอกลักษณ์ส่วนตัวของเขา สุดจะบรรยาย ส่วนครูแปรง ที่คุณกล่าวหา นั้นเมื่อ2ปีก่อน เคยเข้ามาให้ความรู้ในนี้ แต่ปัจจุบัน ท่านไม่มีเวลาครับ และคอมฯเก่าๆที่บ้านท่านก็ไม่ได้ต่ออินเตอร์เนตด้วย (ผมจัดการดูแล ปรับซ่อม เครื่องคอมฯให้ท่านเอง ผมยืนยัน) ไม่รู้คุณจะจับแพะชนแกะทำไม ครูแปรง ไม่รู้เรื่อง ท่านเผยแพร่งานของท่านอยู่ดีดี พวกมีวิชาสาขาต่างๆ ไม่ว่าไทยหรือนอก ก็ไปหาท่าน พูดคุยวิชาการ ทดลองทดสอบกันบ้าง มีดีก็โชว์วิชาให้ดูบ้าง ก็เป็นแบบนี้มานานแล้ว จนในวงการยอมรับ เอง คนที่ออกมาพูดคุยก็มีมาก จะมาเหมารวมว่าเป็นครูแปรงคนเดียวได้อย่างไร คนเรียนวิชามวย ดาบ มีเยอะแยะ ศิษย์ตั้งแต่รุ่นก่อนๆ นับขึ้นไป 20ปี มีอีกมาก ไม่ยุติธรรมกันเลย คหที่11 ก็ พี่ที่สอนดาบ ผมเองซึ่งก็เป็นความเห็นส่วนตัวไม่ได้ กล่าวร้ายใคร แล้วครูผู้เฒ่าท่านที่พูดถึงเขาก็จะไปหากันอยู่ 2-3 นี่ละ นัดกันแล้ว คหที่23 ก็ เป็นการวิพากย์ของ คนรักมวยไทย ไปฉะกันเอาเอง แล้ว คุณป.นะคุณรู้ประวัติเขาแค่ไหน ในนี่เขาคุยกันมา3ปีแล้ว เรื่อง บ้านครูเล็ก ไปหาอ่านเอาเอง ขี้เกียจจะกล่าวถึง เรื่องมันยาว ผมขอวิงวอน ได้โปรดให้ความเป็นธรรมกับครู ที่ไม่ได้ทำสิ่งใดๆในที่นี่เลย ท่านทำงานของท่านแล้วก็ทำมานานแล้วกว่า25ปี และจะคงทำต่อไป ให้ความเป็นธรรมด้วย จากคุณ : มานพ - [ 16 ก.ย. 47 00:17:08 A:203.107.211.145 X: ]

ความคิดเห็นที่ 48 หึหึ จะอ้างข้อมูลอะไรระวังคนที่มีหลักฐานด้วยนะครับ เห็นว่ากระทู้เก่ามันหายไปแล้วก็เลยทำเป็นว่ามาพูดสินะครับ ขอโทษทีนะครับผมเองยังมีเซพกระทู้เก่าๆตั้งแต่ผมเพิ่งเข้ามาสมัยนั้นมวยไชยายังไม่เป็นที่รู้จักในนี้เลยครับ ก็เห็นคุณคนรักมวยไทยเองเข้ามาเขียนมาอ่านนานแล้ว แล้วก้เซพอ่านมาเรื่อยๆเนื่องจากไม่มีเวลาว่างมาอ่านครั้งเดียว ของเก่าๆผมมีเยอะครับ อยากจะอ่านเดียวเอามาลงให้ก็ยังได้ครับ อย่าถือว่าเแอบอ้างโดยไม่มีหลักฐานแล้วเค้าจะเชื่อนะครับ คนเราไม่หูเบาอย่างนั้น ครูแปรงเองก็เพิ่งได้เจอคุณคนรักมวยไทย หลังจากการคุยในเน็ตแล้วคุณคนรักมวยไทยท่านไปหา ถึงได้รู้จักกัน อย่าทำเป็นดึงครูมาเกี่ยวข้องหน่อยเลยครับ ครูท่านเองทำงานมานามกว่า 20 ปี คนที่เพิ่งคิดจะทำก็คงคิดวิธีทำให้ตัวเองสูงกว่าไม่ออกกระมัง ถึงต้องมาคอยทำเป็นปล่อยข่าวใส่ร้ายกัน หวังกดให้ตกต่ำลง อุ๊บโดนใครหรือเปล่าเนี่ย วันนี้รู้สึกตัวเองพูดแรงจัง ขอโทษทีนะครับ ไม่ค่อยชอบคนสร้างเรื่องเท่าไหร่ จากคุณ : PGP - [ 16 ก.ย. 47 01:33:37 A:203.113.34.13 X:203.150.217.118 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ผมว่ายากนะครับ พี่นาจ สงสัยรวมกันแล้วเรียนกันหอบตั้งแต่เช้ายันดึกแน่เลย ขนาดแค่พื้นฐาน ยังแทบจะคลานเอา ขืนรวมหมด ขาลากกันพอดี ว่าแต่พี่ไม่เข้ามาเที่ยวหาน้องๆมั่งหรอคับ เด็กใหม่เยอะนะพี่ จากคุณ : งาสาน - [ 18 ก.ย. 47 17:30:55 A:203.149.29.138 X: ]

ความคิดเห็นที่ 50 ค.ห.44 นี่มันมั่วได้น่ารำคาญสมชื่อ ไร้สาระเหลือเกิน จากคุณ : แจม - [ 18 ก.ย. 47 20:02:45 A:203.149.54.36 X: ]

ความคิดเห็นที่ 51 ครับน้อง งาสาน ทุกอย่างคงไม่ง่าย คนที่อยากบิน หรือคนที่อยากไปดวงจันทร์ ก็เป็นตัวอย่างให้เราเห็นแล้ว ถ้าคนเรามีความตั้งใจจริง ยอมทำได้แต่อยู่ที่เวลาครับ และครั้งหนึ่งผมเคยหวังว่าจะจบหลักสูตรการต่อสู้จากอาวุธไทยรามฯ แค่ความหวัง ทำให้ผมต้องอยู่และฝึกไม่น้อยกว่า 5 ปี จึงจะได้ฝึกมีดสั้น แต่ความหวังที่จะได้เห็นวิชาการต่อสู้ของไทยที่รวบรวมเป็นแบบแผน และหมวดหมู่นั้นคง เป็นไปไม่ได้ถ้าคนไทย เราไม่รวมตัวกัน แต่ผมว่าต้องมีสักวันหนึ่งครับ.....ผมเชื่อคำโบราณที่ว่า กรุงศรีอยุธยา ไม่เคยสิ้นคนดี...... จากคุณ : อำนาจ(เด็กราม) - [ 20 ก.ย. 47 18:29:25 A:61.90.29.179 X: ]

ความคิดเห็นที่ 52 คห. ที่ 50 รับความจริงไม่ได้ล่ะสิ จากคุณ : คนรำคาญ - [ 21 ก.ย. 47 08:49:29 A:61.90.30.19 X: ]

ความคิดเห็นที่ 53 เออ...ไอ้ที่อวดรู้มากน่ะ ทำไม่ไม่ตอบ คห ที่ 32 ของคุณพี่ทหารเสือเขาล่ะ หรือว่ากลัวข้อมูลที่แม่นยำของเขา จากคุณ : รอฟังอยู่ - [ 21 ก.ย. 47 20:32:32 A:61.91.64.71 X: ]

ความคิดเห็นที่ 54 นับถือข้อมูลและวิสัยทัศน์ ของ คุณทหารเสือ(คห.ที่16) และนับถือข้อมูลและวิสัยทัศน์ของคุณ ณัฐยุทธ จิตรพงศ์ ณ อยุธยา(คห. ที่ 32) รวมทั้งนับถือจิตใจที่เปิดเผยกระจ่าง จนกล้าเปิดเผยชื่อจริงด้วย แล้วพวดอวรู้ อวดอ้าง ยกเมฆลอยๆทั้งหลาย ไปหดหัวอยู่ไหน ทำไมไม่ออกมาถกข้อมูลกับ 2 ท่านนี้ หรือว่ากลัวคนที่ข้อมูลแน่นๆอย่างนี้ ก็เลยไปจับจับเอาแต่ประเด็นไร้สาระที่พอมีช่องให้ข่มหรือโปรโมทตัวเองได้เท่านั้น แน่จริงถกความจริงกับ 2 คห. นี้สิครับ จากคุณ : รอฟัง - [ 21 ก.ย. 47 20:45:37 A:61.91.64.71 X: ]

ความคิดเห็นที่ 55 เดี๋ยวนี้พวกก่อกวนเยอะมาก ทำให้คนที่สนใจจะหาความรู้บ้าง เลยพาลไม่อยากเข้ามาอ่าน กันแล้ว ดีครับ ที่ยังมี่ คุณรอฟัง ที่ยังสนใจอยู่ ใครเป็นคนดีศรีอยุธยา มาช่วยกู้เว็บเร็วๆ กู้วิชาการ ความรู้คืนมา ทะเลาะกันเพราะ กระทู้ถาม ตอบ ยังดีกว่าอีก ได้ประโยชน์ นะครับ จากคุณ : ศาลาเปิด - [ 22 ก.ย. 47 21:26:44 A:210.246.68.36 X: ]

ความคิดเห็นที่ 56 อ่า ผมว่ากระบี่คือ sabre ซึ่งเป็นคบที่ดัดแปลงมาจาก scimitter นะครับ ไม่เชื่อลองให้พวกฟรั่งเศษออกเสียงดูนะครับ เขาจะบอก "ซาบรี่" ครับ คล้ายๆกระบี่มะ เซเบอร์ เดิมเป็นดาบนายทหารม้าครับ จะเห็นว่าเป็นใบโค้งทุกๆใบครับ เพราะใช้ฟันมากกว่าแทง (สังเกตนะครับดาบยุโรปจะเป็นใบตรง หรือ สามเหลี่ยม ครับ) ยิ่งถ้าเป็นของทหารม้าจริงๆ จะโค้งมากๆเพราะ ตอนฟันบนหลังม้าดาบจะได้ไม่ติดศัตรูจนตัวเองตกม้าไงครับ ผมค่อนข้างจะแน่ใจครับว่า เซเบอร์ คือกระบี่ แต่เราเอาแนวดาบไทยมารวมด้วยครับ อย่าเปรียบเทียบกับดาบสากลตอนนี้นะครับคน ละเรื่อง สำหรับ สำนักเซอเบอร์ ที่มีหลักๆก็2แนวครับ คือ ฝรังเศษ กะ อิตาลี่ ผมเลยว่ากระบี่อาทมาต แถม บนหลังช้าง นี่น่าจะมั่วครับ ถ้าหลังม้าก็ว่าไปอย่าง แต่ถ้าจำไม่ผิด กระบี่เดิมแปลว่า ลิง ถามจริงๆมาเป็นอาวุธได้ไงหละครับ ลองดูบันทึกสมัยอยุธยาตอนต้นดิครับ มีคำๆนี้เหรอครับ เพราะเซเบอรืเป็นดาบสมัยใหม่นะคร๊าบๆๆ น่าจะมีมาก่อนสมัยบางระจันนิดนึงนะคร๊าบ จากคุณ : mechanicsfever - [ 25 ก.ย. 47 23:12:36 A:202.28.24.148 X: ]

ความคิดเห็นที่ 57 อ้อ ดาบไทยผมก็ชอบนะครับ ชอบดาบสองมือครับ เอกลักษณ์ ดี ไม่มีในแนวดาบแบบอื่นๆนะ จากคุณ : mechanicsfever - [ 25 ก.ย. 47 23:15:58 A:202.28.24.148 X: ]

ความคิดเห็นที่ 58 ได้ความรู้ดีมากครับ กระบี่ ที่นายร้อยให้ห้อยน่าจะเป็นเครื่องประดับยศ ไม่ทราบว่าไทยเราให้มาแต่เมื่อใด ถ้าสรุปที่มาของ กระบี่ (ที่ไม่ใช่ลิง) ได้ก็จะพอเดาได้ว่าวิชาที่ว่านี่น่าจะมีจริงอยู่แค่ไหน เพราะก็ไม่เคยได้ยินเรื่องการให้อาวุธสั้นประเภทดาบ กระบี่ บนหลังช้าง ขอถามครับ ฝรั่ง ตัวโตทำไมใช้ดาบเล็กนิดเดียว ดูขัดๆนะครับ ถ้าหนังย้อนยุคอย่าง โคแนน นี่ดาบจะใหญ่มาก ดาบแบบนั้นยุคไหนครับ จากคุณ : คนอ่าน - [ 26 ก.ย. 47 10:00:54 A:203.107.206.166 X: ]

ความคิดเห็นที่ 59 ***ค่าของคนอยู่ที่ผลงานครับ**** เอาใจช่วยคนดีที่ตั้งใจทำงานครับ ดาบฝรั่งประเภค rapier สวยๆครับ ฝรั่งเศษ เยอรมัน อิตาลี่ ใช้ทั้งนั้น เน้นเร็วมั้ง ดาบสองมือ เห็นมีในการแข่งเคนโด้ด้วย บางครั้งก็มีดาบสองมือแข่งกับดาบเดี่ยวก็มีบ้าง    อ้อ rapier เวลาต่อสู้บางครั้งจะเห็นว่ามือซ้ายถือมีดสั้น (Dagger) ด้วย แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 47 13:53:44 จากคุณ : บัญชา (bancha_ktb) - [ 27 ก.ย. 47 10:12:59 ]

ความคิดเห็นที่ 60 อื่ม ที่ฟรั่งเขาใช้ดาบสมัยใหม่เล็กมีเหตุคับ คือ เมื่อช่วง medival (แบบอัศวินใส่ชุดเกราะเว่อๆ ถือดาบโตๆ)จบลงเนี่ยะ เพราะมีปืนไงครับ เกราะแน่แค่ใหนยิงทะลุหมด เลยเลิกใส่เกราะ ดาบก็เลยเล็กๆ แน้นความเร็วหลังจากยิงปืนเข้าตะลุมบอนไงครับ เพราะปืนสมัยก่อนกว่าจะยิงทีโอ้ คิดดูละกัน อ้อ พวกทหารม้าบางคนมีเกราะอก เพราะเป็นพวกแบบถือเซเบอร์ วิ่งไปฟันพวกทหารปืนใหญ่ครับ แบบเก็บ ก่อนยิ่งใส่ทหารราบไงครับ เน้นคือเร็วครับ เกราะกะดาบเลยเหลือนิดเดียว ไม่ต้องตายก็ได้เพราะหมดสภาพการรบแล้ว ดาบพวกนี้มีวิวัฒนาการนะครับ แบ่งหลายประเภทด้วย เพราะ สมัยก่อนที่ยุโรปมีการดวลดาบด้วยนะครับ เหมือนดวลปืนแบตะวันตกแหละแต่อันนี้มีมาก่อน แบบตายไม่เอาเรื่องกันหนะครับ เลยมีดาบแบบที่เรียกว่า epee' ไงครับ วิชดาบทางยุโรปก้าวหน้าขนาดเขียนเป็น เอกสารวิชาการเลยนะครับ มีการวิเคาระการเคลื่อนไหว ตรีโกณมิติ ด้วยอ่านแล้วทึ่ง ครับ ดาบไทยเราน่าจะรวมอะไรแบบนี้ไว้บ้าง จะเยี่ยมมากๆเลยครับ จากคุณ : mechanicsfever - [ 27 ก.ย. 47 14:55:20 A:202.28.24.148 X: ]

ความคิดเห็นที่ 61 คาดว่า กระบีนายร้อยน่าจะเป็นตอน ร.5 ครับบ เพราะเคยเห็นเวปฝรั่งประกาศขาย ที่เก่าที่สุดคือของ ร5 ครับ อีกอย่างโรงเรียนนายร้อยตั้งตอนร5 นี่ครับ วิชากระบี่ไทยก็มีจริงครับ เพราะที่ชมรมก็เล่นกันอยู่ครับ จากคุณ : mechanicsfever - [ 27 ก.ย. 47 15:05:46 A:202.28.24.148 X: ]

ความคิดเห็นที่ 62 อาทมาตปัตตานีไม่มีหรอกครับ คิดเอาเองมากกว่า แต่ว่าที่ขอนแก่น มีหมู่บ้านชื่อ "อาจสามารถ" นะครับ ลองตรองดู จากคุณ : ว้า..เอาอีกและ - [ 28 ก.ย. 47 00:29:19 A:61.90.28.85 X: ]

ความคิดเห็นที่ 63 ตอบคุณ mechanicsfever ครับ ผู้ที่คิดทฤษฎีนี้เป็นคนแรกคือ ท่านอาจารย์ ทองหล่อ ไตรรัตน์ ซึ่งท่าเขียนไว้ใน หนังสือที่ระลึกงานไหว้ครูคณะศรีไตรรัตน์ และทฤษฎีนี้ก็ยังไม่เป็นที่ยอมรับเพราะ ท่านมิได้ทำการหาข้อมูลหรือหลักฐานมายืนยันนัก ซึ่งตัวผมเองแม้จะเป็นศิษย์ท่าน ก็ยังมิได้เชื่อในทฤษฎีนี้นัก เพราะมีหลักฐานบางกว่า ทฤษฎีอื่นอยู่มาก ซึ่งจะเป็นการดีอย่างยิ่ง ถ้าจะมีผู้ที่ทำวิจัยเรื่องนี้ แต่ส่วนตัวผมเองคงต้องขอละเรื่องนี้ไว้ให้เป็นหน้าที่ของผู้อื่น เพราะผมกำลังทุ่มอยู่กับแนวทางการธำรงค์วิชาดาบไทยแบบใหมอยู่ครับ "ถ้าจำไม่ผิด กระบี่เดิมแปลว่า ลิง ถามจริงๆมาเป็นอาวุธได้ไงหละครับ ลองดูบันทึกสมัยอยุธยาตอนต้นดิครับ มีคำๆนี้เหรอครับ เพราะเซเบอรืเป็นดาบสมัยใหม่นะคร๊าบๆๆ น่าจะมีมาก่อนสมัยบางระจันนิดนึงนะคร๊าบ" - เรื่องนี้จนปัญญาจะตอบ คงต้องรบกวนนักภาษาศาสตร์เสียเล้วครับ แต่ความเห็นผมเองกลับคิดว่า มันเป็นคำที่มี 2 ความหมายอยู่แล้ว เพียงแต่มันเป็นคำที่ใช้ในการวรรณศิลป์มากกว่าภาษาชาวบ้านหรือภาษาราชการ ภาษาส่วนใหญ่ในโลกก็คงจะมีทั้ง ภาษาพูดและภาษาเขียน แต่ในภาษาเขียนยังมีอีกหลายคำที่มิได้ใช้กันโดยทั่วไป เช่น คำว่า ไท้ หากมันอยู่โดดๆคงจะไม่ใครรู้จักคำนี้ แต่ถ้าเป็น เทิดไท้ ก็คงจะเคยได้ยินกันโคลงถวายพระพรกันบ่อยๆ ซึ่งเป็นตัวอย่างของคำที่เราไม่ได้ใช้กันบ่อยๆครับ "คาดว่า กระบีนายร้อยน่าจะเป็นตอน ร.5 ครับบ เพราะเคยเห็นเวปฝรั่งประกาศขาย ที่เก่าที่สุดคือของ ร5 ครับ อีกอย่างโรงเรียนนายร้อยตั้งตอนร5 นี่ครับ" - ถูกต้องครับกระบี่นายร้อย มีมาตั้งแต่ยุค ร.5 แต่กระบี่ฝรั่งเริ่มแพร่ในราชสำนักตั้งแต่ ร.4 ครับ "สำหรับ สำนักเซอเบอร์ ที่มีหลักๆก็2แนวครับ คือ ฝรังเศษ กะ อิตาลี่" - อิตาลี ใช่ครับเพราะมีสำนักดาบแบบโบราณเยอะมาก และวิชาหลักของอิตาลีก็เป็นในสาย Sabre ด้วย แต่ฝรั่งเศส คงไม่ใช่ เพราะวิชาหลักของดาบสายฝรั่งเศสคือ Epee ครับ แต่ถ้าเป็น Sabre เก่งๆ ในปัจจุบันก็จะเป็น สเปนและเยอรมันครับ ส่วนอังกฤษชอบเล่น Foil มากกว่าเพราะเป็นเกมส์มากที่สุด ตอบคุณบัญชา ครับ "ดาบฝรั่งประเภค rapier สวยๆครับ ฝรั่งเศษ เยอรมัน อิตาลี่ ใช้ทั้งนั้น เน้นเร็วมั้ง" - ถูกต้องครับเน้นเร็วและการแทงเป็นหลัก "ดาบสองมือ เห็นมีในการแข่งเคนโด้ด้วย บางครั้งก็มีดาบสองมือแข่งกับดาบเดี่ยวก็มีบ้าง" - ที่เห็นนั้นเป็นการแข่งแบบสาธิตครับ ไม่มีการแข่งจริงจังในสาระบบของเคนโดครับ ประมาณว่า แสดงถึงการคงอยู่ของวิชา "อ้อ rapier เวลาต่อสู้บางครั้งจะเห็นว่ามือซ้ายถือมีดสั้น (Dagger) ด้วย" - ใช่ครับ แต่การถือ ดาบเล่มมีดเล่ม ไม่ได้รับการยอมรับในสังคมนักดวล เพราะถือว่าเป็น สิ่งที่นอกเหนือจากความศักดิ์สิทธิ์แห่งการดวล(นอกเหนือวิชาดาบและเป็นการเอาเปรียบ) และวิชานี้น่ามีต้นกำเนิดที่สเปนครับ ตอบคุณคนอ่าน ครับ "ขอถามครับ ฝรั่ง ตัวโตทำไมใช้ดาบเล็กนิดเดียว ดูขัดๆนะครับ ถ้าหนังย้อนยุคอย่าง โคแนน นี่ดาบจะใหญ่มาก ดาบแบบนั้นยุคไหนครับ" - ตอบให้แล้วนะครับ ในกระทู้ของคุณ ขอบคุณครับที่ร่วมเสวนา จากคุณ : หวายดิบ - [ 28 ก.ย. 47 05:03:16 A:203.113.33.13 X:203.150.217.115 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ขอบคุณ คุณหวายดิบครับ ชอบที่พูดถึงดาบสองมือกับเคนโด้ " ที่เห็นนั้นเป็นการแข่งแบบสาธิตครับ ไม่มีการแข่งจริงจังในสาระบบของเคนโดครับ ประมาณว่า แสดงถึงการคงอยู่ของวิชา " น่าจะนำแนวคิดมาใช้กับวิชาดาบไทยก็ดีครับ เดี๋ยวนี้กีฬาแห่งชาติมีแข่งดาบไทยอยู่หรืเปล่าไม่ทราบครับ ฝากรูปดาบไทยอีกแบบไว้ให้ดูแก้เครียดครับ จากคุณ : บัญชา (bancha_ktb) - [ 28 ก.ย. 47 09:14:21 ]

ความคิดเห็นที่ 65 น่าขอบคุณคุณบัญชา คุณหวายดิบ และคุณmechanicsfever ครับที่ทำให้กระทู้มีสาระมากขึ้น เป็นการใช้อินเตอร์เน็ทอย่างมีคุณค่าและสร้างสรรค์ จากคุณ : คนรักดาบไทย - [ 28 ก.ย. 47 10:39:25 A:203.209.96.176 X: ]

ความคิดเห็นที่ 66 คนรักดาบต้องช่วยกันรังสรรค์ให้วงการเจริญก้าวหน้า พวกเราไม่ทำ หรือจะรอให้คนไหนมาทำให้ล่ะ จากคุณ : บัญชา (bancha_ktb) - [ 28 ก.ย. 47 14:31:10 ]

ความคิดเห็นที่ 67 อ่า ไมเคยได้ยิน เซเบอร์แบบ ฝรั่งเศษ จริงๆเหรครับ มีนะครับ เขาจะเล่นแบบเนิบๆ อะครับ แต่เน้นจังหวะโจมตีมากกว่า แต่ที่มีชื่อเสียงจริงๆต้องอิตาลีครับ ถ้าเป็นฝรั่งเศษต้องเอเป้มากกว่าครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้มาตอบอีก ปล. ดาบไทยปีที่แล้วกีฬามหาลัยก็มีจัดแข่งครับ จากคุณ : mechanicsfever - [ 29 ก.ย. 47 00:04:03 A:202.28.24.148 X: ]

ความคิดเห็นที่ 68 อาทมาตไม่ใช่กองทะลวงครับ กองทะลวงน่าจะเป็นดาบของสำนักพุทธฯ ดาบสำนักศรีอยุธทย์ มากกว่าเพราะเคลื่อนที่เป็นแนวตรง อาทมาตเป็นจตุรังคบาทครับ เพราะการเคลื่อนไหวจะสัมพันธ์กับการเคลื่อนที่ของช้าง เพราะกลับมาที่ตำแหน่งเดิมได้ง่ายไม่หลงทิศ เอาเข้าจริง เจอศัตรูก็ ใครไวกว่าก็ชนะแล้ว เพียงแต่วิชาช่วยเราด้านพื้นฐาน เรียนมาตั้งมากมาย เจอไม้ เจอขวด เจอมีดก็ฉวยไว้ก่อนเถอะครับ ดีกว่ามือเปล่ามากมายนัก ทางที่ดีหนีไว้ก่อน จวนตัวแล้วค่อยสู้มัน เกิดเจอ 3 ต่อ1 สู้ได้คนเดียวมันกลัวก็หนีไปแล้ว หนีให้มันไล่ตามมาเข้าทางเราดีกว่า กระเทือบมันตีนกว่าเยอะครับ อ้อ..ที่เห็นในหนังเอาดาบรับดาบ ผมว่าโกหกนะ ดาบบิ่นหมดจะฟันใครได้ เลยตายด้วยดาบตัวเองเลย จากคุณ : .45 แน่นอนกว่า - [ 29 ก.ย. 47 00:33:50 A:61.90.28.85 X: ]

ความคิดเห็นที่ 69 ตอบคุณ mechanicsfever ครับ มิใช่ฝรั่งเศสเขาไม่เล่นครับ เพียงแต่อย่างที่กล่าวไว้ว่า วิชาของฝรั่งเศสมีพื้นที่ Epee ดังนั้นนักดาบ Sabre ชาวฝรั่งเศสที่ดังๆจึงมีไม่กี่คน เมื่อเทียบกับ อิตาลี เยอรมัน และสเปน(รู้สึกว่า มือหนึ่งตอนนี้ยังเป็น โรมาเนีย อยู่รึเปล่า คนที่เอาชนะ วิลลี่ ที่ แอตแลนตา ในรอบ 4 คน) เท่าที่เคยเห็นนักดาบฝรั่งเศสเล่น ก็เป็นเช่นคุณว่าจริงๆ และเป็นไปในแนวทางที่ FIE อยากให้เป็นด้วย คือ เล่นจังหวะ ดุสวยงามและไม่รุนแรง แต่สไตล์ของหลายที่ยังดุดันอยู่มาก ก็แล้วแต่จะชอบแบบไหน (ส่วนตัวผมชอบแบบรัสเซีย ฮิ..ฮิ..) คุณ mechanicsfever ยังเล่นดาบอยู่รึเปล่าครับ ผมเลิกเล่นดาบสากลมาหลายปีแล้ว เพราะคิดว่าพอดีกว่าก่อนที่มันจะทำลายตัวผมมากไปกว่านี้ ตอบคุณบัญชาครับ กีฬาแห่งชาติครั้งล่าสุดที่ราชบุรี ไม่มีการแข่งครับ ครั้งสุดท้ายที่มีก็ที่ เชียงใหม่ ครับ และในปีนี้กีฬามหาวิทยาลัย(ม.สุรนารี เป็นเจ้าภาพ) ก็ไม่มีด้วย แต่ได้ข่าวมาว่าปีหน้า ม.เกษตรฯ จะเป็นเจ้าภาพอีกครั้ง ก็คงไม่พลาดครับ ตอบคุณ .45 แน่นอนกว่า ครับ "อ้อ..ที่เห็นในหนังเอาดาบรับดาบ ผมว่าโกหกนะ ดาบบิ่นหมดจะฟันใครได้ เลยตายด้วยดาบตัวเองเลย" ไม่โกหก หรอกครับ คนเราต่อให้เก่งแค่ไหนการที่จะหลบได้ทุกครั้งไม่ใช้เรื่องง่าย ยิ่งเป็นการรบจริงแล้วละก็ยิ่งยากเขาไปอื่นเป็น 10 เท่าตัว แต่ผมว่านะครับ บางครั้งการไม่รู้วิชาแล้วดูหนัง มันสนุกว่า รู้แล้วมานั่งดูมากๆเลย เพราะพอเราเห็นว่ามันผิด ดูแล้วมันขัดหัวใจจริงๆ คุณว่าจริงไหม? จากคุณ : หวายดิบ - [ 29 ก.ย. 47 01:35:36 A:203.113.33.11 X:203.150.217.112 ]

ความคิดเห็นที่ 70 แต่มันก็ทำให้ดูกีฬาต่อสู้อย่างอื่นเป็นและสนุกขึ้นใช่ไหมละคุณหวาบดิบ เรื่องที่มีบางสายดาบเชื่อว่าดาบขั้นสูงจะไม่ใช้ดาบรับดาบนั้นผมได้ยินมาบ่อย แต่ก็ยังไม่มีใครแสดงให้เห็นมากไปกว่าที่รู้กันทั่วไปได้ และก็ทำได้ยากถ้าเจอคนฝีมือใกล้เคียงกัน หากเก่งกว่าคู่ต่อสู้มากก็เป็นไปได้(ใช้มือเปล่าสู้ดาบก็ได้ครับ) พระยาพิชัยยังดาบหักเลยนะครับ จากคุณ : คนรักดาบไทย - [ 29 ก.ย. 47 10:43:31 A:203.209.107.124 X: ]

ความคิดเห็นที่ 71 ส่วนตัวผมชอบแนว ฮังการี่ครับ ว่าๆไปก็คล้ายแนวๆเดียวกะเยอรมันแหละครับ เน้นการโจมตีที่ชัดเจนครับ ผมว่ามัส์กว่าเล่นกะพวกแบบฝรังเศษ แล้วเสียอารมณ์ครับ ตอนนี้ก็เล่ยดาบครับ คือต้องระวังหัวเข่าหน่อยแหะๆ โชคดีน้ำหนักน้อยครับ แค่60กว่าสูง178 ครับสบายๆแต่ก็ระวังเรื่องหัวเข่าเหมือนกันครับ อ้อ ดาบไทยนะ จริงๆแล้วผมว่าถ้าไม่พ้นยังไงก็ต้งรับหละครับ คราวนี้รับ รับยังไงครับ สังเกต ตรงโคนใหมครับ ประมาณสี่ส่วนจากโคนจะไม่มีคมและหนามากๆ เป็นเหมือนกันทุกๆดาบเลยครับ ไม่ว่าดาบไทย ดาบเทศ เขาใช้ตรงนี้รับครับ คมก็ไม่เสียไปเฉาะกระบาลชาวบ้านได้ต่อไงครับ ที่น่าสังเกตุดาบในยุค medival จะมี2ด้านคม ก็เหตุนี้หละครับ ด้านหนึ่งทื่อ ก็หันอีกด้านเข้าฟัน โอ้จะโม้เรื่องดาบนี่โม้กันได้ยาวนะผมว่า ถ้าไม่มาเบ่งทับกัน ใจเย็นๆครับ พวกเราก็รักดาบเหมือนกันทั้งน้าน จากคุณ : mechanicsfever - [ 29 ก.ย. 47 13:02:40 A:202.28.24.148 X: ]

ความคิดเห็นที่ 72 แฮะๆ..เห็นด้วยกับคุณหวายดิบอย่างแรง ดูแบบไม่รู้สนุกกว่าเยอะจริงๆครับ ส่วนคุณคนรักดาบไทย พระยาพิชัยท่านดาบหักตรงโคนดาบแบบที่คุณmenchanicsfever ว่าไว้จริงๆครับ ใช้โคนดาบรับ แบบว่าโดนรุมครับ จากคุณ : .45 แน่นอนกว่า - [ 30 ก.ย. 47 00:45:25 A:61.90.28.110 X: ]

ความคิดเห็นที่ 73 คุณ mechanicsfever ครับ เราไปตั้งกระทู้ใหม่กันดีกว่า ครับ เดียวเจ้าของกระทู้จะเคืองเอา จากคุณ : หวายดิบ - [ 30 ก.ย. 47 00:47:16 A:203.113.32.10 X: ]

ความคิดเห็นที่ 74 ผมอยากเรียนดาบ อาทมาต กับครูแปรง ไม่ทราบว่าท่านจะรับสอนไหมครับ ทราบว่าวิชานี้อันตราย และรวดเร็วยิ่ง อยากมีวิชาติดตัวบ้าง และครูแปรงใช่ไหมครับที่ลงหนังสือ สารคดี? จากคุณ : กมล - [ 1 ต.ค. 47 11:34:35 A:203.107.201.14 X: ]

ความคิดเห็นที่ 75 ที่ลงในหนังสือสารคดีตอนวิชาดาบอาทมาฏไม่ใช่ครูแปรงนะครับ เป็นครูมาโนชย์ ที่เปิดสำนักสอนดาบอาทมาฎอยู่ครับ ครูแปรงท่านเคยลงหนังสือสารคดีเช่นกันครับ แต่เป็นตอนมวยไทย สุดยอดศิลปะการต่อสู้ครับ จากคุณ : PGP - [ 1 ต.ค. 47 12:08:13 A:61.90.16.12 X: ]

ความคิดเห็นที่ 76 กลับไปอ่านหนังสือสารคดีมาอีกรอบ กล่าวถึงว่าครูแปรงแสดงการใช้ดาบที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากครูมาโนช อ.ชาติชายจึงสนใจและขอให้ครุแปรงพาไปพบ ครูมาโนช  อันเป็นจุดเริ่มการศึกษาวิชาดาบนี้ และพัฒนาต่อมาถึงการก่อตั้งสำนักดาบ โดย อ.ชาติชาย แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 47 17:18:56 จากคุณ : บัญชา (bancha_ktb) - [ 1 ต.ค. 47 15:27:09 ]

ความคิดเห็นที่ 77 อ้าว..แล้วอย่างไรกันแน่ครับ คุณบัญชาเพราะ คห. 11 คุณหนามทุเรียนบอกว่า ครูแปรงทราบวิชานี้ แล้วคุณบัญชาบอกว่า อ.ชาติชาย ท่านเปิดสำนัก แล้วผมจะไปเรียนบ้างติดต่อใครดีเล่าครับ ผมเรียนเพื่อรู้ ไม่ได้ไปต่อตีกับใคร แก่แล้ว ยิงเลยดีกว่า แล้วอ. ชาติชายท่านคือใครครับ จากคุณ : กมล - [ 2 ต.ค. 47 17:41:49 A:61.90.122.16 X: ]

ความคิดเห็นที่ 78 1.จากหนังสือ นะครับ อ.ชาติชายเห็นครูแปรงใช้วิชาดาบนี้จึงสนใจ ... ครูแปรงพา อ.ชาติชายไปหาครูมาโนชเจ้าของวิชาครับ 2.ในหนังสือสารคดี นั้น เป็น ครูมาโนช+อ.ชาติชาย(เจ้าของสำนัก)ครับ 3.จากข้อ.1 ครูแปรงก็น่าจะทราบวิชานี้เป็นอย่างดี จากคุณ : บัญชา (bancha_ktb) - [ 3 ต.ค. 47 15:46:08 ]

ความคิดเห็นที่ 79 พูดง่ายๆคือคุณชาติชายท่านเป็นนายทุนให้ครูมาโนชย์เปิดสำนักดาบครับ ครูแปรงแนะนำให้คุณชาติชายรู้จักครูโนชย์เพราะคุณชาติชายสนใจศิลปป้องกันตัว และถามครูแปรงถึงวิชาดาบ คุณชาติชายฝึกอยู่พักหนึ่งก็เห็นว่าเป็นวิชาที่ดีก็เลยให้เปิดสอนที่บ้าน แล้วจึงเปิดเป็นสำนักดาบอาทมาตนเรศวรต่อมา ครูแปรงกับครูโนชย์กล่าวได้ว่าต่างคนต่างสอนซึ่งกันและกันครับ เพราะครูโนชย์แนะนำแนวดาบอาทมาตให้ครูแปรง และครูแปรงก็นำเอาวิชามวยไชยาเข้าไปเล่นผสมผสาน ครูโนชย์ที่ดูอยู่ก็ได้ฟื้นความรู้ไปด้วยว่าท่าที่ครูแปรงนำมาผสมผสานเล่นเองนั้น ครูของครูโนชย์เคยสอนมาก่อนแต่ตัวเองลืมไปแล้ว ทำให้ฟื้นความรู้ได้หลายส่วน จากคุณ : สบัดชัย - [ 8 ต.ค. 47 00:52:22 A:202.183.162.116 X: ]

ความคิดเห็นที่ 80 น่าสนใจครับ วิชามวยกับวิชาดาบไทยนี่น่าจะเกื้อหนุนกันและกันอยู่มากนะครับ จากคุณ : บัญชา (bancha_ktb) - [ 8 ต.ค. 47 09:13:28 ]

ความคิดเห็นที่ 81 โดยเนื้อแท้แล้ว ดาบ เป็นมวยที่ต่อมือให้ยาว ครูว่างั้น มีรากฐานคล้ายกัน ปรับประยุกต์มุมบ้าง แต่ก็มีบ้างอย่างที่ต้องเรียนรู้ใหม่หมดแยกส่วนออกไปอย่างการ ออกดาบ ฟันดาบ ครับ จากคุณ : มานพ - [ 9 ต.ค. 47 18:28:27 A:203.107.208.172 X: ]

ความคิดเห็นที่ 82 อย่าไปเชื่อแปรงมากมันขี้โม้มีไอ้คมแฝก ไอ้หนามทุเรียนช่วยกันหลอกชาวบ้านนะ555555 ฟ้าลุ่มอิสระวดีคืนนี้มีแต่ดาว แจ่มแสงแวววาว................................................................... จากคุณ : บุเรงนอง - [ 11 ต.ค. 47 21:54:55 A:202.176.175.15 X: ]

ความคิดเห็นที่ 83 โตๆกันจนสุนัขเลียก้นไม่ถึงแล้ว..ถ้าข้องใจและมีความเป็นคนไทยใส่กางเกง..ก็เอาหวายไปขอลองกับครูแปรงดูสิครับ...คืนนี้มีแต่สุนัขเห่าใบตองแห้ง..กับหม่องที่ใส่โสร่งเพศเมีย... จากคุณ : คนรักมวยไทย - [ 13 ต.ค. 47 16:23:12 A:203.148.171.10 X: ]

ความคิดเห็นที่ 84 คุณบุเรงนองคุณเชยเสียจน ใคร ๆ เขาก็รู้ว่าคุณเป็นใคร เปลี่ยนสำนวนบ้างเถอะครับ และว่าง ๆ ก็ฟิตพุงเสียบ้าง ฮา จากคุณ : ขีดะยัน - [ 14 ต.ค. 47 23:52:10 A:203.209.121.207 X: ]

ความคิดเห็นที่ 85 คุณบุเรงนองยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า ผมขอประมานคุณว่า "หน้าตัวเมีย" มากครับ ที่แอบอ้างชื่อผมกับคุณหนามทุเรียนไปก่อกวนกระทู้ศิลปป้องกันตัวอื่นๆโดยหวังให้มีการกระทบกระทั่งกับมวยไชยาของครูแปรง เป็นวิธีการหน้าตัวเมียมาก แต่คนอื่นเขามองออกครับ กลับบ้านไปขอผ้าถุงคุณแม่นุ่งซะนะครับ จะให้ดีก็ผ่าตัดแปรงเพศไปเลย เอ..แต่คงไม่ดี เพราะผมว่าผู้หณิงเขายังมีศักดิ์ศรีมากกว่าคุณอีก จากคุณ : คมแฝก - [ 15 ต.ค. 47 20:57:23 A:203.158.250.139 X: ]

ความคิดเห็นที่ 86 อย่าพูดคำว่าแปลงเพศนะครับเดี๋ยวผมเกิดอารมณ์..ตอนพี่ขลุ่ยมาเที่ยวเมืองไทยเราไปนั่งคอฟฟี่ช๊อปที่โรงแรมสยามสี่แยกอโศก..0ยังไปเจอสาวประเพศ2ที่ผ่าตัดกล่องเสียงมาแล้วสวยกว่านางงาม.ดูยังไงก็ดูไม่ออกว่าเป็นสาวพลาสติค.เธอมาชวนผมไปกิ๊ก..แตกผมบอกว่าผมเป็นมนุษย์ครอบครัวครับ..ผมพาพี่ชายมาเป็นแฟนคุณแล้วชี้ไปในร้านว่าเขานั่งที่โต๊ะนั้นละ จากคุณ : คนรักมวยไทย - [ 20 ต.ค. 47 19:39:28 A:203.121.153.54 X: ]

ความคิดเห็นที่ 87 นั่นปะไร ทิ้งเราให้นั่งอยู่ข้างในเป็นนาน แต่ก็เห็นแล้วลานตาไปหมดนะ มากมายหลายสิบเต้า... เอ๊ย.. คน เหลือเกิน จริงบ้าง พลาสติกบ้าง อย่างที่คุณว่า มนุษย์ครอบครัว แต่ไหงรู้แหล่งมากนักละครับ ผมกลับมาเล่าให้เพื่อนรุ่นพี่ฟัง แกนําลายสอเลย ไว้กลับเมืองไทยอีกทีต้องให้พาไป เดินเล่นยามดึกอีกรอบ........ขอโทษครับ กระทู้นี้เดิมเขาว่าไงเนี่ย จากคุณ : ขลุ่ย - [ 22 ต.ค. 47 23:19:35 A:198.81.26.48 X: ]