PANTIP.COM : S3083143 กรุณาช่วยผมด้วยครับ ( เกี่ยวกับเช็คหลุด ) [กอล์ฟ]

ความคิดเห็นที่ 11

นี่ตาพิชชิ่งเวจด์ ว่าจะบอกแต่ไม่บอกดีกว่า อยากมาว่าเค้าก่อนหาอ่านเอาเองละกัน...

โอ๋ โอ๋ ปลอบ

อย่าเพิ่งน้อยใจนะ เอาเรื่องเกี่ยวกับเหล็ก 2 แบบ ที่คุณครูสะอาดท่านเคยแปะไว้เป็นวิทยาทานมาให้ลองอ่านกันเล่นๆละกันนะครับ....

-------------------------------------------------------------
post #12 @ 29-7-2002 16:21 ip:
ผมเริ่มเล่นกอล์ฟจาก Taylormade Oversize ก้านกราไฟท์ ใช้อยู่ 1 ปี แล้วจึงมาเล่น Titleist 962 ก้าน DG R300 ซึ่งเป็น cavity back มี offset หน่อย เล่นอยุ่ 3 ปี ล่าสุดเล่น Mizuno MP 14 ซึ่งเป็น forged blade

ตอนที่เล่นชุดเหล็ก oversize ก้านกราไฟท์อยู่นั้น ตีง่าย ตีไกล เปรียบเทียบแล้วก็คงเหมือนการขี่รถสามล้อนะครับ ขี่ง่าย ปลอดภัย ล้มยาก

พอเริ่มตีได้ดีขึ้น ก็อยากเปลี่ยนเป็นอะไรที่มันสนุก ท้าทายขึ้นมาอีกหน่อย จึงเปลี่ยนไปเป็น เหล็ก cavity back ที่มี offset น้อยหน่อย ก้านเหล็ก
ช่วงที่ได้มาใหม่ๆ เกือบท้อเลยหละ เพราะ ทั้งหนัก ทั้งแข็ง ระยะก็หาย ตีก็ยากกว่า
แต่พอซ้อมไปสักพัก เริ่มตีได้ ความมันเริ่มเกิดขึ้นแล้ว ตีดีไม่ดีนี่เรารู้สึกได้เลย สามารถเล่นช้อตพลิกแพลงได้ ระยะก็ดีขึ้น แม้ว่าจะไม่เท่าชุดเดิมที่เป็นกราไฟท์ แต่ก็ไม่เดือดร้อนอะไร ถ้าเปรียบเทียบแล้ว ก็เหมือนกับ เปลี่ยนจากขี่สามล้อ มาขี่จักรยาน คือ สนุกมากขึ้น คล่องตัวมากขึ้น แต่ช่วงที่หัดใหม่ๆ ก็ล้มบ่อย เจ็บตัวบ่อย แต่พอคล่องแล้ว ก็ไม่อยากกลับไปขี่สามล้ออีกแล้ว ใช้ชุดนี้อยู่ 3 ปี ในที่สุดจึงตัดสินใจเปลี่ยนมาเป็นเหล็ก blade MP-14 เพราะอยากพิสูจน์ว่า
1. เราจะตีได้มั้ย
2. blade มันดียังไง ทำไมเค้าถึงร่ำลือกันนักหนา

ได้มาแรกๆ ระยะจะหายไปประมาณ 10 หลาเพราะเหล็กมันหนักกว่า Titleist 962 ตียากกว่า forgive ก็น้อยกว่า คิดแล้วคิดอีกว่าจะขายทิ้งดีมั้ย แต่ด้วยความที่ไม่ชอบยอมแพ้อะไรง่ายๆ จึงทนทู้ซี้ มุซ้อมเอาให้อยู่ให้ได้ ตอนนี้ตีได้ค่อนข้างดีแล้วหละ ระยะก็ได้กลับมาเท่าเดิมแล้ว

จากที่เคยตีมาไล่ตั้งแต่ game improvement club แล้วก็มาเล่น player's club หรือ club for serious golfer จนกระทั่งมาถึง forged blade ผมพอจะให้เหตุผลได้ว่าทำไมถึงได้เลือกเล่น blade
1. ความสวยงาม: อันนี้ใช่เลยครับ เหล็กแต่ละรุ่น แต่ละแบบมีความสวยงามในแบบของมันแตกต่างกันออกไป และขึ้นอยู่กับรสนิยมส่วนบุคคลด้วย ในส่วนตัวของผมให้คะแนน blade ในส่วนนี้ด้วยครับ
2. เท่ห์ดี: อันนี้มีบ้าง แต่มีส่วนน้อยมาก เพราะถ้าเท่ห์แต่ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้ มันจะกลายเป็นตรงกันข้ามทันที
3. ควบคุมทิศทางได้ดี: อันนี้ก็ใช่ แต่เหล็ก cavity back ที่ offset น้อยๆ ออกแบบมาดีๆ ก็ทำได้ไม่แพ้กัน
4. ตีมัน: อันนี้แหละครับที่เป็นประเด็นหลักสำหรับผม เมื่อได้เล่น blade รุ่นนี้และตีได้แล้ว กลับไปตีเหล็กชุดเดิมที่เราเคยตีมันๆ กลับเป็นไร้รสชาดไปเลย ความมันที่ว่านี้ คือ feedback ที่เราได้รับเวลาที่เหล็กเข้ากระทบลูก ความนุ่ม ความหนึบที่ได้รับมันสะดี และผมจะชอบก้าน DG มากกว่า Rifle หรือแม้แต่ sensicore ก็ไม่ชอบ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก่อนที่ผมจะสนุกกับความมันนี้ได้ ก็ต้องมั่นใจว่า ผมมีความสามารถพอที่จะใช้งานพื้นฐานของเหล็กให้ได้เสียก่อน คือตีให้ไปตามทิศทางที่ต้องการให้ได้เสียก่อน ไม่เช่นนั้นแล้ว ตียังไงก็คงไม่มันหละครับ

อีกอย่างก็คือ เหล็ก blade ในแต่ละแบบแต่ละยี่ห้อก็ไม่เหมือนกันนะครับ ใม่ใช่สักๆแต่ว่าเป็น blade ความมันในการตี ความยากง่ายในการตี ก็ไม่เหมือนกัน ดังนั้นเวลาจะเปรียบเทียบกัน ก็ต้องลงรายละเอียดไปด้วยว่ายี่ห้ออะไร รุ่นอะไร

เขียนมาซะยืดยาว ตกลงผมตอบตรงคำถามรึเปล่าเนี่ย ???

-------------------------------------------------------------

จากคุณ : เพิ่งจะหัด (ผมชื่อต้น) - [ วันออกพรรษา 09:11:40 ]