 |
รักใหม่"เลย์ตัน เฮวิตต์" พรหมลิขิตหรือประชดรัก + แฟนเก่า
จากมติชน...
http://www.matichon.co.th/matichon/matichon.php?s_tag=01spo25100248&show=1§ionid=0114&day=2005/02/10
วันนี้มติชนลงสกู๊ป hewitt 2เรื่อง...1หน้าเต็มๆ
เรื่องแรกนี่ก็คาดว่าแปลๆ มาจากบทสัมภาษณ์ที่คุณ bonita เอามาลงในกระทู้ข้างล่างอ่ะ 2เรื่องในกระทู้เดียวไปเลยละกัน เรื่องของคนๆ เดียวกันนี่เนาะ
--------------------------------------------
รักใหม่"เลย์ตัน เฮวิตต์" พรหมลิขิตหรือประชดรัก
ยิ่งเข้าใกล้เทศกาลแห่งความรัก "วาเลนไทน์" ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ บรรยากาศหวานชื่นของ เลย์ตัน เฮวิตต์ กับเบ๊ก คาร์ตไรต์ ก็ดูจะอบอวลชวนน่าอิจฉายิ่งขึ้นเรื่อยๆ จนหลายคนเกือบลืมไปว่า คนดังจากสองวงการเพิ่งจะรักคุดกันไปทั้งคู่เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว
เลย์ตัน เฮวิตต์ นักหวดชื่อก้องชาวออสซี่ ถูกคิม ไคลจ์สเตอร์ส อดีตนักหวดมือ 1 ของโลกชาวเบลเยียม บอกเลิกทางโทรศัพท์ระหว่างที่เขากำลังพักผ่อนช่วงวันหยุดกับเพื่อนซี้นักเตะ แอนดรูว์ แม็กล็อด ที่นอร์ธเทิร์น เทอร์ริทอรี่ เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2004 ซึ่งถือว่าเป็นข่าวช็อคส่งท้ายปีเก่าที่ฝ่ายชายแทบไม่ทันได้ตั้งตัว เพราะอีกไม่ถึง 4 เดือน ทั้งคู่ก็กำลังจะเข้าพิธีวิวาห์กันอยู่แล้ว
ข้างฝ่ายของเบ๊ก คาร์ตไรต์ ดารานักร้องสาวสวยก็เพิ่งเลิกกับแฟนหนุ่มนักแสดง โบ เบรดี้ ก่อนจะถึงเทศกาลคริสต์มาสของปีที่แล้วเพียงไม่กี่วัน จนทำให้ทั้งคู่ตกเป็นข่าวรักร้างในออสเตรเลียที่ฮือฮาส่งท้ายปีไม่แพ้นักหวดหนุ่มวัย 23 ปี
**************
ดูๆ ไปแล้ว เส้นทางของเฮวิตต์ กับคาร์ตไรต์ไม่น่าจะมาบรรจบกันได้เลยด้วยซ้ำ เพราะด้วยอาชีพของทั้งคู่ก็แทบจะหาเวลาส่วนตัวไม่ได้อยู่แล้ว แต่จะเป็นเพราะ "พรหมลิขิต" หรือ "ชะตากรรม" ที่เหมือนกันไม่ทราบได้ ทำให้ทั้งสองได้มีโอกาสพบกันอีกครั้งหลังผิดหวังจากความรักหนล่าสุด โดยครั้งแรกที่ทั้งคู่พบกันเกิดขึ้นในการแข่งขันเทนนิสการกุศล "สตาร์ไลต์ ฟาวน์เดชั่น แชริตี้ เทนนิส เดย์" ที่ซิดนีย์ เมื่อปี 1999 หรือประมาณ 5 ปีก่อน ขณะที่เฮวิตต์มีอายุ 18 ปี และคาร์ตไลต์มีอายุแค่ 16 ปี โดยทั้งสองคนได้จับคู่เล่นด้วยกันในครั้งนั้น แต่ไม่ได้มีการสานสัมพันธ์ใดๆ ที่มากไปกว่าคำว่า "เพื่อน"
คำตอบของทั้งคู่จึงออกมาไม่ต่างกัน เมื่อถูกนาโอมิ ร็อบสัน พิธีกรแห่งรายการ "ทูเดย์ ทูไนต์" ของออสเตรเลียสัมภาษณ์เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ว่า "เวลาที่พบกันครั้งแรก คุณรู้สึกว่าต่างคนต่างมีอะไรดึงดูดใจกันบ้างรึเปล่า"
"เราไม่ได้คิดอะไรทำนองนั้นเลยค่ะ ฉันแค่คิดว่าเขาเป็นผู้ชายที่เข้ากันง่ายและไปด้วยกันได้เท่านั้นจริงๆ" - คาร์ตไรต์
"ไม่ ไม่เลยจริงๆ ครับ" - เฮวิตต์
แต่ถึงอย่างนั้น ทั้งสองคนก็ยอมรับว่ายังมีการติดต่อกันอยู่บ้างด้วยการส่งข้อความผ่านทางโทรศัพท์มือถือ โดยยืนยันว่าไม่มีอะไรที่มากไปกว่าการส่งข้อความให้กำลังใจซึ่งกันและกันแบบที่เพื่อนทำให้กันเท่านั้น เพราะหลังจากนั้นเฮวิตต์ และคาร์ตไรต์ต่างก็คบหากับคนในวงการเดียวกับตัวเอง
**************
แน่นอนว่า สาวที่เฮวิตต์คบหาอย่างเปิดเผยไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากนักหวดสาวนิสัยดี "คิม ไคลจ์สเตอร์ส" ที่ใครๆ ก็ยกให้เป็น "เลิฟ แมตช์" ที่อยากให้เกิดขึ้นจริงๆ เพราะหลังจากคบหาดูใจกันมาตั้งแต่ปี 2000 เฮวิตต์ก็ตัดสินใจขอแต่งงานกับไคลจ์สเตอร์สที่ซิดนีย์ ฮาร์เบอร์ ในอีก 3 ปีถัดมา ก่อนที่แหวนเพชรเม็ดงามจะสวมอยู่ที่นิ้วนางข้างซ้ายของนักหวดสาวไม่ห่างกาย เพื่อเป็นการประกาศให้ทุกคนรู้ว่าทั้งคู่เป็นคู่หมั้นคู่หมายกันแล้ว แต่สุดท้ายโครงการแต่งงานในเดือนแห่งความรักก็ปิดฉากลงอย่างไม่มีใครคาดคิด
ขณะที่คาร์ตไรต์พบรักกับนักแสดงหนุ่ม "โบ เบรดี้" ที่แสดงละครสุดฮิตเรื่อง "โฮม แอนด์ อะเวย์" ด้วยกัน และปลูกต้นรักมานานถึง 4 ปี ก่อนที่ดาราสาววัย 21 จะเป็นคนตัดสัมพันธ์รักกับแฟนหนุ่มแบบบัวไม่เหลือใย ทั้งที่หมั้นหมายกันไว้แล้ว และมีโครงการจะแต่งงานกันในอนาคต โดยมีข่าวลือมาก่อนหน้านี้ว่า ไมเคิล มิซิเนอร์ คู่หูที่จับคู่แข่งเต้นรำด้วยกันในรายการวาไรตี้ โชว์ "แดนซิ่ง วิธ เดอะ สตาร์ส" อาจเป็นชนวนรักร้าวในครั้งนี้
**************
ความเหมือนที่แตกต่างระหว่างความรักหนก่อนของเฮวิตต์กับคาร์ตไรต์ ทำให้ทั้งคู่จูนเข้าหากันได้ง่ายขึ้น เมื่อมาพบกันอีกครั้งในวัยที่ต่างฝ่ายต่างเป็นผู้ใหญ่ขึ้น แต่ยังคงมีการส่งข้อความผ่านทางโทรศัพท์มือถือกันเหมือนเดิม
เฮวิตต์เล่าว่า "ผมอยู่ในการแข่งขันมาสเตอร์ส คัพที่ฮุสตัน(สหรัฐอเมริกา) และเพื่อนของผมบอกว่า "เบ๊กกำลังแข่งขันเต้นรำในรอบชิงชนะเลิศอยู่" แต่ผมไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับการรายการนั้น(แดนซิ่ง วิธ เดอะ สตาร์ส) เลย ผมเต้นรำไม่เป็นด้วยซ้ำ"
"ผมเลยส่งข้อความไปหาเธอว่า "ทำให้ดีนะ" และ "โชคดีในการเต้นรำรอบชิงชนะเลิศ" แล้วเธอก็เขียนตอบกลับมาทำนองว่า ถ้าเราอยากอัพเดตข่าวคราวกัน คงได้เจอกันตอนที่ผมซ้อมอยู่ที่ซิดนีย์ คุณรู้มั้ยมันเป็นอะไรที่น่ารักมากๆ"
หลังจากนั้น ทั้งคู่ก็ได้ออกเดตกันครั้งแรกที่บ้านของ วัลลี มาซูร์ นักหวดออสซี่วัย 42 แต่เป็นการทานดินเนอร์ด้วยกันเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
คาร์ตไรต์บอกว่า "มันไม่ได้หวานแหววอย่างที่คิดหรอกค่ะ เขาทำให้ทุกอย่างมันดูง่ายๆ ไปหมด รวมถึงสถานที่นัดพบของเราด้วย แน่นอนว่าเราทั้งคู่ไม่ได้มีอาการเคอะเขินอะไรเลย"
หลังจากเดตครั้งนั้น ทั้งสองคนพยายามหาทางพบหน้ากันทุกวันในช่วงที่ทั้งคู่อยู่ออสเตรเลีย เพราะต่างมีภาระที่ต้องรับผิดชอบด้วยกันทั้งคู่
"เราพยายามเจอกันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และโชคดีที่เรามีเวลาที่จะทำอย่างนั้นได้ เพราะผมมีมาซูร์คอยช่วยดูเรื่องการฝึกซ้อมให้ตลอดช่วงที่อยู่ในซิดนีย์ ผมเลยใช้ช่วงเวลาก่อนจะถึงวันปีใหม่ที่นี่กับเบ๊กได้อย่างไม่มีปัญหา และผมคิดว่าจากวันนั้นเรามีความรู้สึกที่ดีต่อกันอย่างมากในทุกๆ เรื่อง"
**************
ความรักครั้งใหม่ของเฮวิตต์และคาร์ตไรต์ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่หลายคนคาดคิด เพราะด้วยระยะเวลาเพียงแค่ 6 สัปดาห์ ที่อยู่ในออสเตรเลียก็ทำให้เจ้าของฉายา "นายคัมม่อน" ตัดสินใจได้แล้วว่า ดาราสาวเจ้าบทบาทเหมาะที่จะเป็นคู่ชีวิตกับเขามากกว่าใครๆ ก่อนจะทำเซอร์ไพรส์ด้วยการขอแฟนสาวแต่งงานทันที หลังจากคว้าตำแหน่งรองแชมป์แกรนด์สแลม ออสเตรเลียน โอเพ่น ในบ้านเกิด
"ผมรู้อยู่แล้วว่ามันจะต้องเกิดขึ้นในคืนนี้ เราเคยพูดเรื่องนี้มาแล้วเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ผมแค่รู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันถูกที่ถูกเวลาแล้ว ผมบอกกับเธอว่า ผมอยากจะได้แชมป์ออสเตรเลียน โอเพ่น เพื่อทำให้มันดูพิเศษขึ้นกว่าเดิม แต่สุดท้ายผมก็ได้รางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ถึงจะแพ้การแข่งขัน แต่ผมก็ชนะใจเธอ"
สิ่งหนึ่งที่พิสูจน์ว่าเฮวิตต์ให้ความสำคัญกับรักครั้งใหม่ไม่แพ้ครั้งก่อน คือ การไปเดินเลือกแหวนหมั้นด้วยตนเอง ทั้งที่อยู่ในระหว่างการแข่งขันเทนนิสแกรนด์สแลมแรกของปี แต่เจ้าตัวก็ยอมรับว่า เขาต้องเลือกแบบแหวนเพชรจาก 20 แบบ ซึ่งไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะเขาไม่สามารถบอกถึงความแตกต่างระหว่างแหวนเหล่านั้นได้ แต่สุดท้าย นายคัมม่อนก็เลือกแหวน 4 กะรัต จากร้านทิฟฟานี่ แอนด์ โค มูลค่า 200,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 7,600,000 บาท ซึ่งข่าวบอกว่ามูลค่าแหวนที่ซื้อให้กับคาร์ตไรต์ เท่ากับที่เฮวิตต์เคยซื้อให้สาวคิมมาแล้ว โดยตัวเรือนทำขึ้นที่นิวยอร์กในสหรัฐอเมริกา ขณะที่เพชรสั่งมาจากแคนาดา
**************
แม้ว่าความรักของคนดังต่างวงการที่ได้รับการขนานนามให้เป็น "พอช-เบ๊กส์ แห่งออสเตรเลีย" จะดูฉาบฉวยเกินไปสำหรับใครบางคน แต่เชื่อว่าจากประสบการณ์ที่ผ่านมาของทั้งคู่ เรื่องของระยะเวลาในการคบหากันคงจะไม่ได้รับรองหรือการันตีความหมายของคำว่า "รัก" สักเท่าไหร่นัก เพราะขนาดคบกันมานานถึง 4 ปี และวางโครงการแต่งงานกันไว้แล้วก็ยังล้มเลิกได้ง่ายๆ
อย่างน้อยๆ ความรักครั้งใหม่ของเฮวิตต์ และคาร์ตไรต์ ก็ทำให้เขาและเธอได้ทำประโยชน์สาธารณะให้กับผู้อื่นอยู่บ้าง เมื่อตัดสินใจที่จะขายเรื่องราวเกี่ยวกับพิธีหมั้นของพวกเขาให้กับสถานีโทรทัศน์ และนิตยสารดัง "นิว ไอเดีย" เพื่อนำเงินที่ได้ไปสร้างที่พักให้กับเด็กๆ กำพร้า 62 คน ในกัมพูชา ซึ่งความคิดดีๆ ครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่คาร์ตไรต์ ได้เดินทางไปเยี่ยมเด็กๆ ที่ติดเชื้อเอชไอวีที่เวียดนามในนามของ "มูลนิธิ เอดส์ ทรัสต์" ของออสเตรเลีย
"ฉันรู้สึกเจ็บปวดมากที่เห็นความแตกต่างเหลื่อมล้ำ เด็กๆ ที่เป็นเอดส์จะไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้สระว่ายน้ำสาธารณะ พอได้เห็นอย่างนี้แล้ว ฉันคิดว่าตัวเองน่าจะสร้างความแตกต่างขึ้นได้ในประเทศอื่น และฉันก็ตัดสินใจเลือกที่กัมพูชา"
ไม่รู้เหมือนกันว่า ความรักแบบสายฟ้าแลบของคนทั้งคู่ จะเกิดขึ้นเพราะ "พรหมลิขิต" หรือ "ประชดรัก" แต่ขอให้ทั้งเขาและเธอไม่ต้องเป็น "หม้ายขันหมาก" รอบสองก็แล้วกัน!
----------------------------------------------
เรื่องต่อไป เชิญที่ #1
จากคุณ :
sleepless.cs 
- [
10 ก.พ. 48 12:36:23
]
|
|
|
|
|
|
