ความคิดเห็นที่ 1 ผมว่าคิ๊กบ๊อกซิ่งก็ลอกมาเกือบทุกวิชาแหละครับ http://www.kyokushinmail.com/koya/KickInstruction.htm จากคุณ : Mr.K-1 (มิสเตอร์เควัน) - [ 19 ก.พ. 48 15:09:50 ]

ความคิดเห็นที่ 2 คิ๊กบ๊อกซิ่งเริ่มโดยนักธุรกิจและโปรโมเตอร์ญี่ปุ่นนายโอซาม่า อุ๊ยผิด โอซามุ  โนกูจิช่วงทศวรรศ1950  หลังจากที่ได้มาเห็นมวยไทย เจตนาก็เพื่อทำเงีนและปราบนักมวยไทยในเวลาเดียวกัน อาวุธที่ใช้ได้แค่หมัดและเตะด้วยเท้าเหนือสะโพกเท่านั้น โดยปกติแข้งจะถูกห้าม  ศอกและเข่าห้ามเด็ดขาด ในช่วงแรกได้สั่งนักมวยไทยเช้าไปสอนแต่ส่วนมากต้องไปล้มมวยให้นักชกญี่ปุ่น    ด้วยความหัวใสด้านการตลาด นายโนกูจิได้มาเปิดยิมคิ๊กบ๊อกซิ่งต้นทศวรรศ1970ที่ศูนย์การค้าราชดำหริใกล้ห้างสรรพสินค้าไทยไดมารู  แน่นอนโรงยิมจะไม่ทำเงิน  แต่โนกูจิสามารถใช้โฆษนาว่าคิ๊กบ๊อกซิ่งปราบมวยไทยจนมาเปิดสาขาในประเทศไทย  บรรดาชาวไทยที่ทนไม่ได้จึงรวมตัวประท้วง  ที่โขมยศิลปการต่อสู้ไทยไปย่ำยี  แต่ความยะโสของนายโนกูจิทำให้ในที่สุดฝูงชนได้เข้าไปทำลายโรงยิมจนพินาศ  คุณครูยอดธง  เสนานันท์แห่งค่ายมวยศิษย์ยอดธงได้เคยเบิดกระโหลกนายโนกูจิเป็นการสั่งสอน ที่บังอาจย่ำยีศิลปไทยด้วย  เป็นที่ฮือฮาและสะใจชาวไทยในสมัยนั้นยิ่งนัก นักมวยที่โนกูจิโปรโมตในช่วงแรกคือซาวามูระ  ชื่อจริง ไฮเดกิ ชิราฮ่า  นักคาราเต้  คิ๊กบ๊อกซิ่งประสพผลสำเร็จที่สุดนอกญี่ปุ่นคือที่สหรัฐ แก้ไขเมื่อ 19 ก.พ. 48 16:23:24 จากคุณ : รักมวยไทย - [ 19 ก.พ. 48 16:20:22 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เพิ่งเคยทราบนะเนี่ย ขอบคุณมากๆความจริงอยากเห็นภาพและรายละเอียดมากกว่านี้นะ อยากให้เล่าต่อเรื่อยๆครับ จากคุณ : j - [ 20 ก.พ. 48 16:56:33 A:202.28.76.188 X: ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณครับ ได้ความรู้เยอะเลย จากคุณ : MKTB - [ 20 ก.พ. 48 19:51:41 A:203.113.67.37 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5 พวกค่ายมวยสมัยก่อนมีโลเกชั่นระดับสลัมกับน้องๆสลัม..โนกูจิเปิดยิมที่ราชดำริห์อาเขต..มีค๊อฟฟี่ช๊อปติดแอร์เย็นเจี๊ยบ..พอทัวร์ญี่ปุ่นอยากดูมวยไทย..บริษัททัวร์เลยช่วยขนนักท่องเที่ยวไปชมนักมวยญี่ปุ่นซ้อมมวยกันที่นั่น จากคุณ : คนรักมวยไทย - [ 21 ก.พ. 48 19:22:12 A:203.121.149.185 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 "คุณครูยอดธง เสนานันท์แห่งค่ายมวยศิษย์ยอดธงได้เคยเบิดกระโหลกนายโนกูจิเป็นการสั่งสอน" คุณ"รักมวยไทย"บรรยายได้เห็นภาพดีนะครับ(อ่านแล้วมันส์มาก) น่าเสียดายไม่มีโอกาสได้เห็นครูยอดธง "เบิด" กระโหลกนักธุรกิจชายญี่ปุ่นคนนั้น (ถ้าเห็นคงฮากลิ้ง) แต่เดี๋ยวนี้ทางญี่ปุ่นก็ดีขึ้นเยอะครับ เท่าที่เห็น ๆ มา กางเกงนักมวยก็ปักคำว่า "มวยไทย" กันแล้ว(ไม่ใช่ Kick Boxing เหมือนเมื่อก่อน) แล้วก็รู้จักมวยไทยของเราดีมากขึ้น บางคนก็รำไหว้ครูได้ด้วย(ถึงดูแล้วจะแม่ง ๆ หน่อยก็เถอะ อนุโลมกันไป) การ์ตูนญี่ปุ่นบางเรื่องก็เขียนถึงมวยไทยตรง ๆ โดยไม่ผ่านคำว่า Kick Boxing เหมือนเมื่อก่อน มีเรื่องหนึ่งที่พระเอกชื่อ ซาวามูระ มีเพื่อนชายไทยชื่อจำปา (อะไรเห่ยๆ นี่แหละ) คนเขียนก็พอมีความรู้เกี่ยวกับมวยไทยบ้างพอสมควรในระดับชาวต่างชาติ ผมว่าญี่ปุ่นเดี๋ยวนี้ยังดีกว่าฝรั่งอีก เพราะฝรั่งบางคนยังเรียกมวยไทยว่า Kick Boxing เลยด้วยซ้ำ จากคุณ : อืม - [ 21 ก.พ. 48 20:09:30 A:200.30.109.86 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 คิ๊กบ๊อกซิงในอเมริกาดังเป็นเรื่องเป็นราวก็ในช่วงทศวรรษที่70 โดยมีการนําเทปราบการชกที่ญี่ปุ่นมาออกอากาศที่อเมริกา ซึ่งก็มักจะเห็นนักมวยไทยตัวเล็กๆดําๆ ชกแพ้ "พระเอก" นักมวยชาวญี่ปุ่นตัวใหญ่ๆขาวๆ เป็นประจํา โดยมีโฆษกชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งซึ่งพูดอังกฎษไม่ค่อยคล่องกับ อดีตนักมวยสากลชาวอเมริกันชื่อ ลู โนว่า (ไม่ใช่ ลู ดูว่า เทรนเนอร์มวยสากล) ช่างพูด และเจ้า ลู โนว่า คนนี้ ก็ไม่รู้เรื่องมวยไทยเลย การไหว้ครู มันก็บอกเป็น war dance แบบคนป่าคนดอย หรือพวกอินเดียนแดง เต้นกันก่อนออกไปรบ มงคล ก็เรียกเป็น "มังเคียน" ต่อมาชาวคาราเต้ก็เอาบ้างเพราะนี่เป็น "ตลาดใหม่" เกิด full contact karate ขึ้น อย่างที่เราเห็น เบนนี่ อคีเดซ หรือ บิลล์ วอลเลซ ใช่กางเกงขายาว เตะๆต่อยๆ กันสมัยโน้นแหละ แต่ก้มีข้อจํากัดมากมาย เช่น ห้ามเข่า ห้ามศอก ต้องเตะสูงกว่าระดับเอว ต้องเตะอย่างน้อยยกละ แปดครั้ง (ฝรั่ง ฟูล คอนแท็ค คาราเต้ ไม่สันทัดการเตะ เดินสาวแต่หมัดเสียเป็นส่วนมาก เลยต้องตั้งกฎเรื่องการเตะ คนดูจะได้สนุกกับความแตกต่างของการต่อสู้ ) ครูเฒ่าเคยพา พุฒ ล้อเหล็ก กับ ผุดผุดน้อย วรวุฒิ ศิษย์ซ้ายขวา ไปท้า หรือขอเข้ารายการชกถึงอเมริกา แต่ไม่มีใครชกด้วย พอวีซ่าใกล้หมด ก็พากันเดินทางกลับเมืองไทย ครูมวยไทยต้องลําบากมากกับการเปลี่ยนให้คนทั่วไปหันมารู้ว่า "มวยไทย" เป็นแม่แบบของ คิกบ๊อกซิง จนตอนหลัง พอเห็นการยกขาบังอาวุธก็จะรู้กันว่านั่นคือมวยไทย ครุมวยไทยที่อเมริกาจะพยายามไม่ใช้คําว่า ไทยบ๊อกซิง แต่จะใช้คําว่า มวยไทย ตรงเลย เมื่อหลายปีก่อน ตอน สกัดพรทวีไปชกที่อเมริกา วีดีโอเกมๆหนึ่งออกมาพอดี มีตัวคนร้ายคนหนึ่ง เป็น คิกบ๊อกซิง ชื่อ สกัดด้วย เขาตั้งตามชื่อ สกัดของเรา นั่นแหละ เพราะสกัดเองก็ไปชกและสร้างชื่อถึงญี่ปุ่น จนได้ลง หนังสือหมัดมวยของเขาที่นั่น จากคุณ : ขลุ่ย - [ 23 ก.พ. 48 23:02:47 A:198.81.26.73 X: ]

ความคิดเห็นที่ 8 คุณขลุ่ยรบกวนช่วยเล่าต่ออีกหน่อยได้ไหมครับ อยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมอีกว่า ต่อมาเป็นอย่างไร มีนักมวยไทยขึ้นไปต่อสู้บนเวทีมวยต่างประเทศบ้างหรือไม่ ทำไมชาวอเมริกันถึงได้รู้จักมวยไทยมาจนถึงทุกวันนี้ ช่วยเล่าเป็นวิทยาทานหน่อยครับ จะเป็นพระคุณอย่างสูง ขอบคุณคุณรักมวยไทย,คนรักมายไทย กับคุณขลุ่ยมากครับสำหรับรายละเอียด จากคุณ : abc - [ 24 ก.พ. 48 22:34:51 A:61.154.122.106 X: ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่มาให้ความกระจ่างครับ จากคุณ : masked v - [ 25 ก.พ. 48 21:10:14 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ครับ อยากฟังต่อก็เร่เข้ามา ต่อมามีมวยฟอร์มใหญ่จากเมืองไทย โดยมีนรงค์น้อย เกียรติบัณฑิต กับ เนตร ศักดินรงค์ มาเจอยอดฝีมือ ฟูล คอนแท็ค คาราเต้ (ชื่อเรียกสมัยนั้น) ผมได้อ่านเจอในหนังสือหมัดมวยจากเมืองไทยว่า มีการเปิดแถลงข่าวครึกโครม โดยให้นรงค์น้อย ใส่สนับแข้ง(หนึ่งในเงื่อนไง) เตะเป้าให้ดู เพื่อแสดงว่าไม่เป็นอุปสรรคอะไรกับการชกครั้งนี้ กฎอื่นๆที่แปลกไปจากการชกมวยไทยคือ ชกเจ็ดยก แต่ยกละสองนาที ห้ามทุ่ม (เป็นการจํากัดอาวุธของฝ่ายโน้น) ห้ามใช้ศอก และเข่า(เป็นการจักัดอาวุธฝ่ายเรา) ทางเราวิจารณ์กันแซ่ดว่า แค่เตะอย่างเดียวเราก็กินขาดแล้ว จัดชกกันที่ Olympic Auditorium ดาวน์ทาวน์ นคร ลอส แอนเจลิส ซึ่งเป็นที่ๆ โผน กิ่วเพชร บินมาให้ ปาสคาล เปเรซ แก้มือ งานนี้คนดูล้นหลาม ฝรั่งมาเชียร์คนของเขา ส่วน ไทย ลาว เขมร ก็มาเชียร์นักมวยไทย เนตรชกก่อน โดยเจอกับ เออร์เนส ฮาร์ท มวยระดับแชมป์ของเขา ชกไปนานๆ เนตรอ่อนลงมาก เพราะการตรากตรําจากการเดินทาง และยังปรับสภาพร่างกายไม่ได้ เกือบถูกน๊อกหลายครั้ง จนยกสุดท้าย ก่อนหมดยก หมัดผีจับยัดจากเนตร ส่ง เออร์เนส ฮาร์ท ลงไปนับถึงสิบ คนไทยที่หายใจไม่ทั่วท้องมาหลายยกต่างเฮอกันลั่นสนาม มีการเป่าปาก กระเซ้ากันไปมาระหว่างแฟนมวยที่เชียร์คนละฝ่าย คู่ต่อมา เบนนี่ ชกนรงค์น้อย แรกๆต่างก็ต่างก็ระวังกันและกัน ต่อๆมาแลกอาวุธกันหนักขึ้น จนในที่สุด นรงค์น้อย ไม่ต้องดูเชิงอะไรแล้วแทบจะ ลากแข้งลําเลียงเข้าลําตัว แต่เพียงอย่างเดียว เบนนี่ ใช้วิธียกแขนทั้งสองข้างขึ้นมาบังแข้ง และมีการตุกติกมากขึ้นเรื่อยๆ คือเมื่อเข้ากอดกันก็จับนรงค์น้อยทุ่ม ทําให้คนเชียร์นรงค็น้อยโห่ด้วยความไม่พอใจ นรงค์น้อยแก้โดยการอัดเข่าเข้าให้บ้าง ทําให้แฟนเบนนี่ไม่พอใจเช่นกัน ยิ่งเมื่อกรรมการเอาแต่เตือนนรงค์น้อยเรื่องการฟาร์ว เราเลยเห็นชัดว่าถ้าไม่ทําให้น๊อก เรามีหวังแพ้ ตอนเกือบหมดยกสุดท้าย นรงค์น้อยเตะเข้ายอดหน้าขนะที่เบนนี่เซแต่ยังไม่ทันล้ม ทําให้เบนนี่หลับกลางอากาศ คนไทย ลาว เขมร เฮทั่วสนาม แต่กรรมการประกสศว่า ไม่มีการต้ดสิน เพราะนักมวยทั้งคู่ชกฟาร์วกันมาก เท่านั้นเอง จราจลก็เกิดขึ้นในสนาม คนไทยซัดกับฝรั่งนัวไปหมด จนลามออกมาที่ลานจอดรถ วันรุ่งขึ้น นักข่าวไทยไปสัมภาษณ์ เบนนี่ ที่บ้าน แล้วกลับมาเล่าว่า เบนนี่ต้องไปให้หมอเช็ค และแขนบวมอย่างกับแขน ป๊อบอาย ในการ์ตูน นี่คืออีกฉากหนึ่งของการก้าวกําเนิดมวยไทยในอเมริกา ครั้งต่อไป ถ้ายังมีคนสนใจอีก จะเล่าถึงตอนที่ พันมงงคล ฮ มหาชัย ดีเซลน้อย ไปชก และการจุดเกิด การห้ามมวยไทยใช้ศอก จากคุณ : ขลุ่ย - [ 26 ก.พ. 48 02:11:40 A:152.163.100.71 X: ]

ความคิดเห็นที่ 11 น่าสนใจมากกกกกกกกกกกก ครับคุณอา มาเล่าต่อนะครับ จากคุณ : เชษฐ์ - [ 26 ก.พ. 48 02:38:48 A:203.113.81.68 X: ]

ความคิดเห็นที่ 12 มาเล่าต่อทีนะครับ คุณขลุ่ย จากคุณ : PGP - [ 26 ก.พ. 48 04:42:34 A:61.90.16.13 X: ]

ความคิดเห็นที่ 13 อุ๊ยต๊าย ตาย เราก็มีแฟนงานเขียนกะเค้าด้วยนิ ในช่วงไล่ๆกันลงมานั้น โปรโมเตอร์ท้องถิ่น ก็จัดงานฟอร์มใหญ่ มาเรื่อย แต่ไม่ได้เอานักมวยมาจากเมืองไทย เพราะมีนักมวยฝีมือดีๆอยู่อเมริกาหลายคน ถ้าเป็น โกวเล้ง ก็คงจะพูดว่า เป็น "ถําเสือ วังมังกร" อยู่เหมือนกัน อย่างเดชฝั่งโขง วิษณุชัย นักมวยเดิมพันเงินล้านคนแรกของเมืองไทย ซึ่งชกกับนักมวยญี่ปุ่นหลายคน และชนะแตกเพราะได้ลูกศอกนี่แหละ แล้วก็มามี พันมงคล ฮ มหาชัย หนองคาย ส ประภัสสร ราชบุรี เพชรยินดี มาโดยมีเสี่ยเน้า เป็นผู้นําทีมมา และผมก็มารู้จัก และสนิทกับ "อาหว่าง" หรือ สว่าง สวางควัฒน์ นักเขียนรุ่นเก่า และปูชณียบุคคลของวงการมวย ตอนนี้เอง เอาเป็นว่านักมวยไทยชนะเรียบ แบบ ไม่ครบยกเสียด้วย และการชกของพันมงคลครั้งนี้แหละ ที่คู่ชกชาวผิวดํา ไม่กลัวศอก ผมนั่งอยู่ริงไซ้ด์จําได้ว่า มันโดนศอกทีแรก ไม่เป็นอะไร มันทําหน้ายิ้มๆ แล้วพยักหน้าให้พันมงคลเข้ามาอีก เพราะคงเห็นว่าศอกเป็นอาวุธที่สั้นกว่าหมัดของมัน พันมงคลนักมวยครบเครื่อง ก็ทําหน้าทะเล้นตอบ แล้ววิ่งเข้าฟันศอกแลกกับหมัดของฝ่ายตรงข้าม อีกสองทีก็ได้เรื่องครับ เลือดทะลักจากเปลือกตานักมวยฝรั่งผิวดํา และถูกจับแพ้ ทีเคโอ ไป และตั้งแต่นั้น ทบวงกีฬาของรัฐแคลิฟอร์เนียเลยมีกฎห้ามการใช้ศอก จําได้ว่า แม้การแสดงสาธิตมวยไทยขั้นรายการชก ก็ไม่ได้ เพราะครั้งหนึ่ง ผุดผาดน้อย วรวุฒิ และ น่านฟ้า สีหราชเดโช จะขี้นไปชกโชว์ แบบจะโชว์อาวุธมวยไทยครบเครื่อง ยังถูกห้ามเลย ขอแค่นี้ก่อนครับ เดี๋วยจะมาเล่าถึง มวยรายอื่นๆรวมทั้ง"พยัคสองแผ่นดิน" The Lion of Two Continents น่านฟ้า สีหราชเดโช จากคุณ : ขลุ่ย - [ 26 ก.พ. 48 23:55:20 A:198.81.26.73 X: ]

ความคิดเห็นที่ 14 กรุณาอย่าหยุด แล้วรีบมาเล่าต่อนะครับ อย่าหยุดเด็ดขาด!!!! จากคุณ : รออยู่ - [ 27 ก.พ. 48 01:04:18 A:193.227.17.30 X: ]

ความคิดเห็นที่ 15 ไล่ๆกันก็มีดีเซลน้อย ขาวผ่อง(ตอนที่ยังชกมวยไทย) ขาวสด ศิษย์พระพรหม อินทรีน้อย ลูกหนองไก่ขัน รายนี้ทําเอาคนดูฮืฮาเพราะแต่งหน้าทาปากเขียนตาเป็นลิเกก่อนขึ้นชก แต่พอลิปสติกยังไม่ทันจาง พี่แกก็เตะเอาๆ จนคู่ชกแทบจะถวายบังคมลา นักมวยอีกคนที่ต่อยสนุก คือ สมิงหนุ่ม เอกชัย ฝีมือเป็นเลิศและอาวุธเจ็บๆทั้งนั้น ผมไม่เคยโดนเขาเตะหรอก ใช้ดูสีหน้าคู่ชกของเขาเวลาโดนอาวุธน่ะ มีเรื่องตลกเป็นเกล็ดขําขันเรื่องตอนที่สมิงหนุ่มขึ้นชั่งนําหนัก คือ ที่แรกนําหนักเกินพิกัดไปราวสี่ปอนด์ เฮียสกล แซ่ล้อ ผู้คมทีมก็เลยให้ออกไปออกกําลังให้นําหนักลด จอมยุธพัด (ชื่อจริงของแกคือ พัด คงรํา)ก็แค่เดินไปเดินมาแก่วงแขนทําท่าฮึดฮัดใกล้ๆกับที่ผมยืนอยู่ ยังคิดเลยว่า มันจะทําได้ไงไม่เห็นได้ออกเหงื่อเลย สักพัก สมิงหนุ่มคอยๆย่องขึ้นตาชั่ง โดยมีทีมงานยืนดูอยู่รอบๆ พอยืนเรียบร้อย ปรา กฎว่านําหนักตํากว่าพิกัดถึงเจ็ดปอนด์ แสดงว่าในช่วงสิบนาทีที่ผ่านมานั้นสมิงหนุ่มทํานําหนักลดลงถึงสิบเอ็ดปอนด์เชียวเล่นเอา เจ้าหน้าที่จากทบวงกีฬาทําตาเหลือก "เฮย ยู ไอไม่รู้ว่ายูทําไงนะ แต่ไอรู้แน่ๆว่า ซําซิงรอง" มีอะไรไม่ชอบมาพากล ต้องพูดจาเกลี่ยกล่อมพักใหญ่ แล้วให้สมิงหนุ่มขึ้นตาชั่งอีก โดยคราวนี้ทีมงานที่ค่อยๆช่วยนั้น บรรจงวางนําหนักของสมิงหนุ่มให้สมนําสมเนื้อหน่อย จากคุณ : ขลุ่ย - [ 27 ก.พ. 48 08:36:52 A:205.188.116.71 X: ]

ความคิดเห็นที่ 16 แหมพี่ขลุ่ยนั่งริงค์ไซด์หรือผมก็เหมือนกัน..คู่พันธ์มงคงอ้ายมืดหมอทางสู้พันธ์มงคลๆเลยสอนมวยแบบส่ายเอวเลียนแบบลิงล้อเลียนแค่ทำลงเดินไปข้างหน้าอ้ายมืดยังกลัวขนาดใส่เกียร์ถอย..อีตาเอ็ด.พราค์เกอร์บิดาแห่งอเมริกันเคมโป้ยังนั่งก๊ากอยู่หน้าเวที..ไปต่อช่วงณรงค์น้อยชนะที่เกิดมวยนอกจอ..เมียนายชัค.นอริสแกเป็นอาจารย์สอนศิลปะป้องกันตัวแสดงท่าจรดมวยใส่คนไทย..เลยโดนเก้ากี้ฟาดทีเดียวหลับไป จากคุณ : คนรักมวยไทย - [ 27 ก.พ. 48 10:17:43 A:203.121.148.4 X: ]

ความคิดเห็นที่ 17 แปะ แปะ เข้ามายืนยันว่ายังตามอ่านอยู่ครับ  สนุกดี จากคุณ : masked v - [ 27 ก.พ. 48 15:56:46 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อ้าวเจอตัวแล้ว คุณคนรักมวยไทย งั้นเราก็ึคงเคยเจอกันมาแล้วเป็นสิบปีนะซิครับ วันศึกนรงค์น้อยนั้น เพื่อนคนหนึ่งตัวเท่าลูกหมาออกไปลุยกะเขาด้วย เจอกันวันรุ่งขึ้น เดินขา เดี้ยงมาหา ถามมันว่าไปโดนฝรั่งยํามาหรือไง "เปล่่าโว๊ย kuใจร้อนไปหน่อย เห็นแม่งวิ่งเข้าทาง teen ก็เลยเตะไม่ทันดูตาม้าตาเรือ ซัดเอาพนักเก้าอี้เต็มแรง teen บวมเลย ดูซิ" สังเกตว่าคนใจร้อนมักตัวไม่ใหญ่ พวกนี้จะออกนําทุกที บางครั้งเพื่อนที่วิ่งตามหลังต้องตามไปเก็บซากกลับมา ขอกลับมาพูดถึง หนองคายอีกที เจ้าไก่ เจอ David Johnston ระดับแชมป์ เจอกันครั้งแรกนั้น หนองคาย ร่างกายยังไม่้เข้าที่ เลยชกแบบถนอมตัว เล่นเชิงรุกและรับ ทิ้งโอกาสทองที่จะน๊อกหลายครั้งเพราะกลัวห่มมากแรงจะหมด และชนะคะแนนไป จําได้ว่า เจ้าไก่บอก เฮียเน้าว่าขออยู่ต่้อเพื่อชกอีกครั้งกับคนเดิมนี่แหละ เพราะครั้งนี้ร่างกายไม่อํานวยเลยชนะไม่สะใจตัวเอง เมื่อเช็ึคดูคิวชกที่เมืองไทยแล้ว เฮียเน้าอนุญาต ตัวฝรั่งเองก็อยากแก้มือ ตัวเองก็เป็นถึงแชมป์ ฟูลคอนแท็ค ครั้งก่อนแม้จะแพ้แต่ก็เจ็บไม่มาก และเผลอๆแก้มือตัวเองมีสิทธ์ชนะได้ คือพูดแบบคนไม่เคยเีจ็บสาหัสมาก่อนว่างั้นเถอะ อีกราวเดือนให้หลังเจอกันอีก คราวนี้ ดูเชิงกันไม่นาน หนองคาย จรดเอาขวาออกเพราะถนัดซ้าย เดินเข้าทํา David Johnston ขยับอะไรมา หนองคายเก็บได้หมดแล้วโต้เจ็บๆ เจ้า Davd เตะ spinning back kick หลายครั้ง ไม่เข้าเลย แถมยังโดนช๊าร์จเตะตัดล่างหัวคมําทุกที sid kick มาก็โดนปัดแล้วเตะตัดบ้าง โดนเตะสวนเข้ายอดอกบ้าง อะไรที่เคยทําหนองคายได้ ครั้งนี้ผิดหวังทั้งนั้น บางครั้ง หนองคายถึงกับใช้วิธีวิ่งตามเอาดื้อๆขนะที่ David วิ่งหนีพลางสู้พลาง หลายครั้งที่มายืนแลกหมัดกันใกล้ๆผมเนี่ย หนองคายก็หมัดดีกว่า ขอบอกครับว่า การฝึกฝนและการซ้อมของนักมวยไทยนั้น ช่วยให้ลีลา และการออกอาวุธดูกลมกลืนเป็นธรรมชาติ แม้เราจะเห็นและคิดว่าเป็นการบังเอิญ หรือโชคช่วย แต่ผมเชื่อว่าคนที่ยิ่งมีึความบากบั่นโชคยิ่งเข้าข้างครับ อย่างอาวุธที่ปลิวเข้าใส่หนองคายนั้น ไม่สั้นเกินไป ก็ยาวเกินไป ลูกทีเข้ากระทบก็เข้าส่วนหนา่ของร่างกาย หรือไม่ก็โดนถากๆ แม้น๊อกไม่ได้แต่ก็ชนะขาดสมใจเจ้าตัวและคนดู David ให้สัมภาษก์ว่่า ครั้งนี้ หนองคาย ชกอย่างไร้ศิลปขาดความสวยงามของศิลปการต่อสู้ ไม่เหมือนการชกครั้งแรก และครั้งนี้เขาเจ็บที่สุดตั้งแต่ชกมวยมา จากคุณ : ขลุ่ย - [ 28 ก.พ. 48 00:09:31 A:198.81.26.73 X: ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอแถมอีกนิดครับ เสร็จงานนี้แล้ว ผู้จ้ดก็ถูกเมียเลิก บ้านทีอยู่กัน(ซึ่งนักมวยไปพักเมื่อคราวไปชก) ก็นัยว่าถูกยืด หรือไม่ก็ต้องตกเป็นของเมียเมื่อแบ่งสมบัติกัน ตัวเองต้องพาลูกชายไปเช่าอพาร์ทเม็ืนท์อยู่ เห็นมวยดีกว่าเมียบางทีก็มีภัย จากคุณ : ขลุ่ย - [ 28 ก.พ. 48 00:16:37 A:198.81.26.73 X: ]

ความคิดเห็นที่ 20 แฮ่ๆ คุณขลุ่ยลืมอะไรหรือเปล่าครับ? คุณยังไม่ได้ไขปริศนาให้ชาว pantip หายข้องใจเลยว่าสมิงหนุ่มทำอย่างไร น้ำหนักถึงได้ลดลงบนตาชั่งตั้งเกือบ ๑๑ ปอนด์ภายในเวลาแค่ไม่กี่นาที รอคำตอบอยู่นะครับ จากคุณ : ติดตามอยู่ - [ 28 ก.พ. 48 02:12:08 A:195.50.5.52 X: ]

ความคิดเห็นที่ 21 ได้บอกเป็นนัยๆแล้วว่า "ทีมงาน"ยืนมุงดูไงครับ คือเมื่อสมิงหนุ่มถอดเหลือแต่กางเกงในตัวเดียว ค่อยๆย่องขึ้นตาชั่ง โดยงอแขนเป็นมุมฉากแนบลําตัว พวกไทยมุงรอบๆตัวเขาก็แอบใช้มือดันไปที่แขนของสมิงหนุ่มให้ตัวโหย่งขึ้น ครั้งแรกคงดันกันมากไปหน่อยจนทํให้ตัวเกือบลอย ทั้งเจ้าหน้าที่ควบคุมการชั่งนําหนัก และ เหล่าผู้สังเกตการณ์จากฝ่ายคู่ชกร้องกันขรม อาแผน หรือขุนแผน น้อยพันธ์ หนึ่งในทีมงานของเรา ซึ่งเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการ "ลดนําหนัก"ของสมิงหนุ่ม ก็โวยตามเขาไปด้วย " เอ๊ะ ตาชั่งเป็นอะไรเนี่ยพวกยูเห็นมั้ย สงสัยตาชั่งสปริงค้าง ให้นักมวยของไอลง แล้วขึ้นมาชั่งใหม่ดีกว่านะ" แล้วพอชั่งครั้งที่สอง ทีมงานฝีมือบรรจงหน่อยเลยไม่น่าเกลียด เมื่อเจ้าหน้าที่ควบคุม ขานว่านําหนักเท่าไหร่ และบอกว่า "ผ่าน" สมิงหนุ่มก็ลงจากตาชั่งแล้วเรียกหานําดื่มอักๆๆๆ เรามีของกินอะไอก็ยัดปากเขาหมด คือธรรมชาตินักมวยต้องอดข้าวอดน้าเพื่อทํานําหนักให้ได้ เมื่อชั่งนําหนักเสร็จ ก็ต้องรีบกิน เพราะหิว แต่จะไม่ควรกินเนื้อสัตว์หรือของที่ย่อยยากอื่นๆ เราสามารถเรียกโปรตีนจากอาหารประเภทอื่นที่ย่อยงายกว่าเนื้อสัตว์ได้ เมื่อสมิงหนุ่มกินอะไรต่ออะไรเข้าไปจนเต็มท้องแล้ว จะเรียกมาชั่งใหม่ไงก็ไม่เหมือนเดิมฉะนั้นผ่านเป็นผ่าน จากคุณ : ขลุ่ย - [ 28 ก.พ. 48 22:33:38 A:64.12.116.71 X: ]

ความคิดเห็นที่ 22 เมื่อกี้ได้เอ่ยชื่อ อาแผน หรือ ขุนแผน น้อยพันธ์ ที่เพื่อนพ้องในวงการมวยเรียกว่า "จอมมึน" แต่ผมไม่กล้าเรียกอย่างนั้นหรอกครับ ผมมันรุ่นลูกรุ่นหลาน อาแผนเคยเป็นนักมวยมาก่อน (รู้สึกจะใช้ชื่อ ขุนแผน ยนตรกิจ) และแกก็เคยรับราชการทหารประจําอยู่สถานทูตไทยหลายประเทศ เมื่ออกจากราชการมาอยู่วงการมวยเต็มตัว ก็มักจะถูกดึงร่วมทีมนักมวยไทยออกต่างประเทศเพราะแกช่วยเป็นล่ามให้ได้ ลูกชายคนโตแกเป็นเพื่อนเรียนที่ฟิลิปปินส์รุ่นเดียวกับผม ได้ข่าวจากเพื่อนนานหลายปีดีดักแล้วว่า พอเรียนจบมันกลับไปรับราชการที่กรมป่าไม้ อยู่ไม่นานก็เป็นข่าวหน้าหนึ่ง เพราะพกปืนเข้าพบหัวหน้าแล้วระบายความกลัดกลุ้มความเครียดที่ต้องต่อสู้กับอิธิพลมืดที่จ้องจะผลาญชาติจนทั้งตัวเองและครอบครัวตกอยู่ในความเครียดว่าอันตรายจะมาถึงเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ และมันทําตัว กินตามนําไม่ได้ เลยเป็นหมาหัวเน่าอยู่แบบไร้อนาคต พอระบายความเครียดเสร็จก็กราบลาหัวหน้าแล้วระเบิดสมองตัวเองด้วยปืนกระบอกนั้น เคยถามอาแผนเรื่องนี้ แกไม่ค่อยอยากพูดถึง ได้ข่าวว่า อาแผนก็ตายไปหลายปีแล้วเหมือนกัน แต่ตํานาน จอมมึน ยังคงอยู่ ผมเจอมากะตัวเองแล้วจะเล่าให้ฟัง จากคุณ : ขลุ่ย - [ 28 ก.พ. 48 22:49:35 A:64.12.116.71 X: ]

ความคิดเห็นที่ 23 มีคลิ๊ปวีดีโอคู่ชกที่ว่ามาบ้างหรือเปล่าครับ  อ่านแล้วอยากดูบ้าง จากคุณ : masked v - [ 28 ก.พ. 48 22:51:55 ]

ความคิดเห็นที่ 24 กร้าก... ฮากลิ้ง แล้วมาต่ออีกนะครับ อิๆ... จากคุณ : มันส์ - [ 1 มี.ค. 48 01:14:58 A:193.227.17.30 X: ]

ความคิดเห็นที่ 25 อ่านอยู่คับหนุกดี ไม่มีอะไรจะคุยด้วย แฮะๆๆเกิดไม่ทัน ขอยกให้เป็นกระทู้ดีเด่นในรอบ3เดือนคับ จากคุณ : ตาวิเศษ - [ 1 มี.ค. 48 10:45:27 A:61.91.112.157 X: ]

ความคิดเห็นที่ 26 คนข้างบนบอกเกิดไม่ทัน งั้นเราก็ โ ค ต ร แก่เลยน่ะซิ ..... เรื่องต่อไปนี้เป้นภาคพิสดาลของ อาแผนนะครับ ขอบอกกล่าวอาแผนซึ่งได้จากไปสู่สุขติภพแล้วนะครับว่า ผมมาเล่าให้ชาวมวยรุ่นลูกรุ่นหลานฟังที่เรื่องของอา ก็ด้วยความคิดถึงอาน่ะครับ (แต่ยังไม่ต้องมาชวนผมไปอยู่ด้วยหรอกครับ)..... เมื่อที่มมวยอันมี ราชบุรีเ พชรยินดี หนองคาย ส ประภัสสร และ พันมงคล ฮ มหาชัย ได้ผ่านศึกบนสังเวียนกันไปแล้ว ก็มีการพาออกเที่ยว ไม่รู้ใครออกไอเดียว่า อยากดูจําบะ หรือระบําโป๊นั่นเอง ผมก็เป็นไกด์ที่ดี ใครขออะไรก็จัดให้ เลยพากันไปโรงระบําบนถนน Cahuanga ตัดถนน Sunset แล้วซื้อตัวเดินชักแถวเข้าไปนั่ง เวทีด้านในกว้าง แล้วทําเป็น run way ยื่นออกมาเหมือนที่นางแบบจะเดินโชว์เสื้อผ้าอะไรประมาณนั้น เมื่อไฟหรี่ลงเล็กน้อยพอให้ได้บรรยากาศและเปิดม่าน เพลงดังขึ้น แต่ละนางก็ออกมาโชว์ตัวด้วยผ้าน้อยชิ้น ทีแรกก็ใส่บนชิ้น-ล่างชิ้น แล้วก็มาทอดทิ้งทีละชิ้น จนไม่เหลืออะไรเลยนอกจากที่แม่ให้มา เรียกเสียงเฮฮาจากคณะพรรคของเราและคนดูอื่นๆรอบเวที พวกเราเลือกที่นั่งชิดแบบคางเกยเวทีเลยล่ะ แล้วก็มีการโยนเงินเป็นค่าทิปขึ้นเวที แล้วพวกหล่อนก็จะมาเต้นมาส่ายแบบ แอ่นเอวถ่างง่ามขากันแค่ห่างไม่เกินฝ่ามือนึง คนขวัญอ่อนคงอยากอวกและไม่กล้ากินหอยไปนาน เขามีกฎเหล็กอยู่กฎหนึ่งคือ คนดูห้ามโดนตัวคนแสดง พอนั่งดูๆไปสักพักได้ยินแม่หญิงนางหนึ่งแหกปากร้องลั่น ทันใดนั้นไฟสว่างพรึบ ดนตรีเงียบ เราเห็นสาวหนึ่งกึ่งยืนกึ่งคุกเข่าบนเวทีหน้าอาแผน เธอชี้มาที่อาแผนแล้วบอกว่า ผู้ชายคนนี้โดนตัวเธอ โธ อาแผนของผมนั่งตัวฝ่อหน้าซีดเชียว รปภ ร่างยักษ์เดินเข้ามาหากลุ่มเรา ผมคิดว่า เดี๋ยวคงมีมวยคั่นเวลาระบําโป๊ซะละมั้ง " ก็เห็นเงินทิปมันตก กลัวเค้าจะไม่เห็น หวังดีเลยสะกิดบอกเค้าน่ะ" เสียงอาแผนเศร้าเหลือเกิน ผมก็รีบแปลบอกว่า คณะนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่งมา ไม่รู้กฎที่นี่ คุณลุงคนนี้เขาหวังดีกลัวคนเต้นคนนี้จะไม่เห็นเงินที่เธอทําตกเลยจะบอกแต่ก็พูดภาอังกฎษไม่เป็นเลยต้องใช้มือสะกิดเอา (ที่จริงอาแผนแกพูดภาษาอังกฏษเป็นครับ) เขาเชื่อผมแฮะ เลยบอก โอเค แต่บอกเค้านะ ทีหลังอย่าทํา จนแล้วจนรอดผมไม่มีโอกาศถามอาแผนว่าไปสะกิดส่วนไหนของร่างกาย เธอถึงได้แหกปากซะลั่นโรง จากคุณ : ขลุ่ย - [ 1 มี.ค. 48 12:37:20 A:198.81.26.73 X: ]

ความคิดเห็นที่ 27 สนุกดีครับ หวังว่าคงจะมีเรื่องเล่าต่อๆไปนะครับ พี่ขลุ่ย ผมขอเป็นแฟนกระทู้คนหนึ่งละ จากคุณ : พยัคฆ์สมุทร - [ 1 มี.ค. 48 17:18:30 A:61.90.42.231 X: ]

ความคิดเห็นที่ 28 เล่าต่อหน่อยนะครับ ได้ความรู้และเกร็ดสนุกๆ เยอะดี อ่านแล้วไม่น่าเบื่อเหมือนพวกหนังสือประวัติศาสตร์โบราณ (นี่คงไม่โบราณมั้ง หุๆ) เหมือนรู้สึกว่าตัวเองมีโอกาสอยู่ในสมัยหลายสิบปีก่อนอย่างนั้นแหละครับ ใครที่มีอมยิ้มช่วยเก็บเข้าคลังที จะเป็นพระคุณอย่างสูง จากคุณ : ดีครับ - [ 1 มี.ค. 48 18:42:50 A:221.128.110.160 X: ]

ความคิดเห็นที่ 29 เรื่องการห้ามตีเข่านั้นก็คงมาจากตอนที่ ดีเซลน้อยมาชกน่ะครับอย่างทีบอกคือหนก่อนเขาอนุญาตให้ใช้อาวุธทุกประเภท แต่เมื่อคนของเขาแก้อาวุธชนิดไหนไม่ได้ เขาก็ห้ามใช้อาวุธนั้นๆ เช่นห้ามเตะขา เพราะเขาบังลูกเตะตัดไม่เป็น มักจะชักแขนลงไปบังแบบ คาราเต้ ผลคือแขนบวมไปตามๆกัน ต่อมาเมื่อเจอพลังเข่าหนักๆ ก็เลยห้ามใช้เข่า ศอกนั้นก้อย่างที่ได้คุยไว้แล้วนั้น ดีเซลน้อยมาต่อยกับ ฟูลคอนแท็กคาราเต้ ใส่กางเกงขาขาว มีหมัด และเตะแบบที่เขาเรียนมา นัยว่าระดับแชมป์เมือนกัน ยกแรกคนดูชาวไทยแทบวายปราณเพราะดีเซลน้อยเจอหมัดจนนับไม่ทัน ยกสองดีเซลน้อยใช้อาวุธยาวนําไปก่อนแล้วยื่นมือไปเป็นหนวดปลาหมึก ต้นๆยกแม้จะยังทําอะไรไม่ถนัด แต่ก็โดนเตะโดนต่อยน้อยลง มาจับตีได้นําได้เนื้อเอาปลายยกสอง พอยกสามก็คว้าหมับแล้วลุยเข่าเป็นชุดๆ ชอบใจตรงที่เขาดีเซลน้อยตีขึ้นไปตรงๆเข้าช่องท้องและลิ้นปี่พอดี ลูกสุดท้ายคือตอนที่ดีเซลน้อยตวัดเข่าขึ้นกึ่งโหนกแก้มกึ่งขมับ คู่ชกลับตั้งแต่หัวยังไม่ถึงหมอน...เอ๊ย ยังไม่พื้น อาจจะเป็นตั้งแต่นั้นมา ทางทบวงกีฬาเลยห้ามตีเข่า ปัจจุบันนี้ เราได้รุกคืบไปได้ไม่น้อย เราสามารถจับตีเข่าได้แล้ว แต่ยังโดนห้ามตีเข่าเข้าหน้าอยู่อีก ผมนึกได้ตอนไหน ก็จะเล่าเรื่องนั้นนะครับ การลําดับเหตุการณ์และเวลาอาจไม่ต่อเนื่องกันนัก แต่ก็ใกล้เคียงความเป็นจริง ต่อไปเป็นเรื่องของ สิงห์สองแผ่นดิน น่านฟ้า สีหราชเดโช ชื่อวีรชาติ สะเทิ้งรัมย์ อาจมีคอมวยสมัครเล่นรุ่นเก่าๆเคยได้ยินและจําได้อยู่บ้าง เพราะเขาเคยเป็นแชมเปี้ยน มวยสมัครเล่นหลายๆศึก จากทั้งไทยและต่างประเทศ จนกระทั่งเคยไปชกในมหกรรมกีฬาโอลิมปิคที่แคนาดาสมัยเดียวกับพเยา พูนทรัตน์ แล้ว แต่พลาดไป โดยเจ้าตัวให้เหตุผลว่า โดนอเมริกาแกล้ง เพราะที่จริงเขาต้องเจออเมริกาซึ่งฝีมืออ่อนและเคยแพ้เขาจากการแข่งขันที่อื่นมาแล้ว อเมริการู้แกวเลยใช้กําลังภายในย้ายตัวเองไปอยู่สายหมูๆ เพื่อให้ได้เข้ารอบชิง ส่วนเขาซึ่งเป็นนักมวยแข็งก็ไปจอกับที่แข็งๆ ชกๆๆไป คนอื่นแข็งกว่า เขาเลยตกรอบไป "โถ พี่ไม่งั้น ผมอาจห้อยเหรียญคู่กะไอ้จ้อนก็ด๊ายยยยยย" คนเรามีสิทธ์ฝันกันได้นิ จากคุณ : ขลุ่ย - [ 2 มี.ค. 48 00:38:50 A:205.188.116.71 X: ]

ความคิดเห็นที่ 30 มาช่วยกันทำให้กระทู้นี้ ของคุณอาเป็นกระทู้แนะนำกันด้วยนะครับ พวกเรา หุหุ จากคุณ : เชษฐ์ - [ 2 มี.ค. 48 01:11:04 A:203.145.14.118 X: ]

ความคิดเห็นที่ 31 อุ๊ย อายครับ อย่าเลย ผมดูๆที่ตัวเองเขียนมา ก็เป็นเพียงเล่าเรื่องที่ได้ยิน หรือได้เห็นมากับตัวเอง มันไม่วิชาการอะไร และที่สําคัญ คือถ้าอ่านๆไปจะเห็นได้ว่าสะกดผิดหลายแห่ง เพราะบางตัวพิมพ์มันพิมพ์ไม่ติด หรือที่สะกดผิดก็มากทั้งที่พยายามระวังแล้ว เนื่องเพราะผมมีพื้นความรู้ภาษาไทยน้อยเต็มที ซึ่งเป็นที่น่าเสียใจมาก ผมต้องวิ่งไปถามลูกตั้งหลายครั้งเรื่องการสะกดคําบางคํา อยากให้ลูกหลานไทยใช้คําไทยให้เป็นนะครับ ผมเห็นคนอื่นเขียนด้วยภาษาเขียนที่สวยงามเพราะพริ้งก็รู้สึกชื่นชมเสมอ คนที่ใช้ภาษาเป็นเหมือนคนที่ใส่อาภรณ์งดงาม ไม่อยากเห็นใครแปล acustic guitar เป็น กีต้าร์โป่ง อีก............... น่าจะพูดได้ว่าผมเห็น น่านฟ้า ตั้งแต่เขาก้าวลงจากเครื่องบินที่อเมริกา และเป็นคนสุดท้ายที่ห็นเขากลับไปจนถึงหนองคาย สิบกว่าปีให้หลัง ย่อหน้าต่อไปนี้เขียนด้วยความคิดถึง เพื่อน และน้องชายที่รักคนนี้ครับ คือ วันนั้นเป็นวันที่พ่อผมจะเดินทางมาอยู่อเมริกากับผม ซึ่งตกราวต้นๆ ทศวรรษที่ ๘๐ พวกเราก็ไปรับพ่อที่สนามบิน ปรากฎว่าพ่อเดินคุยลงมากับเด็กหนุ่มคนหนึ่งอย่างถูกคอ พ่อแนะนั่นให้ทราบทีหลังว่านั่นคือ น่านฟ้า สีหราชเดโช แชมป์รุ่นแบนตั้มเวท ราชดําเนิน ถ้าเคยอ่านที่ผมเขียนถึงอดีต ผมมักบอกว่า "พ่อเล่าให้ฟัง" เพราะพ่อผมชอบมวยมากๆ พ่อเคยเป็นนักมวยนักเรียน เป็นศิษย์ อาจารย์นิยม ทองชิต ว่าที่จริงพ่อคือครูมวยคนแรกของผมน่ะครับ ผมกะน่านฟ้า หรือที่เพื่อนฝูงเรียกไอ้ระ ตอนแรกก็ห่างๆกัน เพราะเขาก็อยู่ในสังคมของเขาผมก็อยู่ในสังคมของผม แต่เมื่อสังคมไทยมีอะไรๆก็จะเรียกหามวยไทยไปโชว์ เราก็เลยได้เจอกันบ่อยขึ้น จนโปรโมเตอร์ฟอร์มใหญ่เอานักมวยไทยจากเมืองไทย ก็กลุ่มหนองคาย พันมงคลนั่นแหละครับ และเอา ไอ้ระเข้ารายการด้วย หลายคน รวมทั้งอาแผนของผมคนเดิมนี้แหละบอก "จะไหวเร้ออออ คางมันเปราะอย่างกับก้านแก้ว" แถมเจอนักมวยญี่ปุ่นสั่งตรงจากนอกเสียด้วย ผลการชกคือ ยกแรกไอ้ระเต้นหัวเข่างอเล็กน้อยเป็นสปริง ส้นเท้าเปิด โยกลําตัวหลอกล่ออยู่ไม่นานก็ลงมือก่อน ทั้งแข้งทั้งหมัดเป็นยาตําราหลวงหนึ่งชุด แล้วฉากออกมาเต้นดูเชิงอีก นักมวยญี่ปุ่นถอยด้วยความเสียขวัญ ที่ว่าเก่งๆจากญี่ปุ่นคืนนั้นความเก่งหายไปหมดเมื่อเจอกับของแท้ที่แน่นอนกว่าอย่างน่านฟ้า ไอ้ระไล่เตะไล่ต่อยและปลําเข่าในเสียงดังฟังชัดทุกดอก มีอยู่ตอนที่ไอ้ระคีบคอคู่ชกมากระซวกเข่าข้างหน้าผม ได้ยินเสียงเข่ากระแทกดังแน่นๆทึบๆและเสียงคู่ชกมันสะอึกแบบจะคะย่อนของเก่าจากกระเพาะเป็นภาพที่น่าสงสารมาก เวลาไอ้ระเตะโดนตัวมันก็เสียงเหมือนเเราเอาไม้ตีหนังตากแห้งอะไรประมาณนั้น ไม่ทันจบยกสามก็ถูกน๊อกเอ๊าท์ไป น่านฟ้าได้ถูกชุบชีวิตบนสังเสียนอเมริกาอีกครั้งก็ตอนนี้ครับ คนดูชอบใจโยนเงินดอลล่าขึ้นไปบนเวทีมากมาย เมื่อเอามานับทีหลังรู้สึกว่าหลายร้อยดอลล่าอยู่ หนก่อนคนดูจะทิปนักมวยอย่างนี้แหละครับ ไอ้ระบอกผมหลายปีให้หลังว่า เมื่อดูจังหวะแล้วถ้ามีโอกาสทําให้เข้าไปทําก่อนทําให้เร็วและทําให้แรง มันจะทําลายขวัญค่ต่อสู้ได้ นี่คือหนึ่งในหลายๆปรัชญาซึ่งแม้จะใช้บนสังเสียนแต่ก็สามารถประยุกต์เอามาใช้กับชีวิตทั่วไปของเราได้ ที่คนบ้านนอกอย่างไอ้ระได้ทิ้งไว้ให้ผม ไอ้ระถูกจัดชกหลายครั้งและไม่เคยทําให้คนดูผิดหวัง มีแฟนมากมายทั้งที่เคยดูเขาชก และที่เพียงแต่ได้ยินชื่อเขา เชื่อไหมครับ ไอ้ระไปตัดผมร้านคนไทยใน ฮอลลิวู๊ด ไม่ต้องเสียตังค์ เพราะช่างแต่งผมรู้จักมันหมด มีอยู่ครั้งหนึ่งผู้จัดหาคู่ชกให้มันไม่ได้ เพราะมันเก่งเกินไป เลยไปดึงเอานักชก ฟูลคอนแท็กคาราเต้จากรัฐไกลๆมาชกด้วย ฝรั่งคู่ชกมันพาลูกศิษย์หญิงมาชกกับลูกศิษย์หญิงของไอ้ระเหมือนกัน มันไม่รู้ว่าคู่ชกมันเป็นใคร หน้าตาเป็นไง "ไอไม่สนใจหรอก ไอขึ้นไปดูเชิงชกและแก้เกมบนเวทีโดยไม่ต้องเสียเวลาศึกษาคู่ชกล่วงหน้า" มันว่างั้น เราก็ว่าดีแล้ว วันนั้นทั้งวันมันไม่รู้เลยว่าคนที่ไปรับมันไปกินข้าว ต้อนรับขับสู้มันราวกับมันเป็นแขก วีไอพี คนนี้นะจะเป็นคนไล่เตะมันในคืนนี้ พอรู้ตัวอีกทีก็ตอนเข้าห้องแต่งตัวนั่นแหละ แล้วเวรกรรมจริงๆคนไทยที่ไปดูมวยดันไปขู่มันด้วยว่า คืนนี้มันเจอมวยไทยกระดูกแข็งมันจะต้องถูกเตะตายแน่ๆ ยกแรกจรดกันห่างๆ ไอ้ระไม่กล้าทําอะไรกลัวงานเล็กเร็ว ฝรั่งคู่ชกออกอาวุธดู ไอ้ระได้แต่บัง ไม่ออกอาวุธโต้ก็เลยได้ใจ ห่มไอ้ระใหญ่ ไอ้ระปิดได้หมดแล้วมันส้อนหน้าไม่เป็นเสียด้วยคือมันบังอาวุธไปอมยิ้มไป คนทําๆแทบตายไอ้นี่แค่ปิดๆด้วยความยิ้มแย้มมันชักหน้าเสีย มีเสียงตะโกนจาก "เฮียกิม" คนจัดมวยคืนนั้น "เตะโว๊ย ไอ้ระขอteenนึง" ไอ้ระหันมายิ้มตอบเหมือนกับจะบอกว่า "จัดให้" แล้วหวดแข้งขวาเข้าหน้าท้องค่อนไปทางช่วงอกหนึ่งที ไอ้นั่นมีอาการ เหมือนเขาค้อตอนถูกน๊อก คือมี ดีเลย์ แอ๊คชั่น ยืนอยู่พักหนึ่งแล้วจึงค่อยทรุดลงไป ไอ้ระแทบจะวิ่งไปพยุงให้มันลุกขึ้นสู้ต่อ นี่แค่ครึ่งยกแรกเองน๊อกซะแล้ว มันโมโหมากแต่ไม่รู้ว่าโมโหตัวเองที่เตะแรงไปหน่อย หรือ คู่ชกนิ่มเกินไป เพราะมวยน๊อกเร็วอย่างนี้คนดูยังไม่ได้รับความตื่นเต้นจึงไม่มีการโยนทิปขึ้นเวที คืนนั้นไอ้ระอดได้ค่าทิปจริงๆด้วยครับ จากคุณ : ขลุ่ย - [ 2 มี.ค. 48 13:56:26 A:198.81.26.73 X: ]

ความคิดเห็นที่ 32 เยี่ยมเลยครับกระทู้นี้ ความรู้ทั้งนั้น จากคุณ : TNR-NSR - [ 2 มี.ค. 48 20:23:26 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ต่ออีกหน่อยสิ... จากคุณ : กำลังติดลม - [ 2 มี.ค. 48 21:53:17 A:203.80.97.180 X: ]

ความคิดเห็นที่ 34 เราอาจจะเคยชินกับเพลงชาติเพราะฟังกันทุกเช้า แต่เชื่อไหมครับ คนไทยในต่างประเทศซึ่งนานๆได้ยินเพลงชาติทีเนี่ยมันซาบซึ่งใจจริงๆ อย่างรายการมวยก่อนเริ่มก็จะเปิดเพลงชาติอเมริกัน และเพลงชาติไทยคู่กันไป ตอนเพลงชาติอเมริกันดังทุกคนจะยืนเป็นระเบียบ บางคนจะยกมือขวามาวางแนบอกข้างซ้ายเป็นการทําความเคารพ แต่พอเพลงชาติไทยดัง แรกๆก็มีเสียงคนไทยร้องคลอไปเบาๆ พอไปกลางๆเพลงเสียงชักดังขึ้นเรื่อยๆ จนกระหึ่มก้องสนาม แถมมีการ"ชโย"อีกสามครั้งด้วย หลายๆคนนําตาซึมครับ กลับเมืองไทยได้มีโอกาสไปดูหนังและยืนเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมี รู้สึกเพลงนี้เพราะและกินใจจังเลยครับ เคยเห็นครั้งหนึ่งตอนเพลงสรรเสริญพระบารมีขึ้นคนทั้งโรงยืนหมดมีฝรั่งสาม-สี่คนที่นั่งข้างหน้าเยื้องๆกับและเพื่อนหญิงของพวกเขาซึ่งที่แรกก็ยังนั่งหยอกล้อกันแบบไม่สนใจใคร แต่ตอนหลังทนสายตาคนรอบข้างมองไม่ได้เลยพากันลุกขึ้นหมดยกเว้นผู้หญิงไทยอีกคนในกลุ่มที่ ยังนั่งทําทองไม่รู้ร้อนจนเพลงจบแล้วจึงลุกขึ้นเตรียมเดินออกจากโรงพร้อมคนอื่นๆ ผมได้ยินคนพูดว่าเธอแบบเสียงลอยมาแต่หาคนพูดไม่ได้ เธอทําไก๋พึมพําว่า "แหม เมื่อกี้ขาเป็นเหน็บ" ผมว่าขาแกไม่ได้เป็นเหน็บหรอกครับ ใจต่างหากที่เป็น จากคุณ : ขลุ่ย - [ 2 มี.ค. 48 22:44:19 A:198.81.26.73 X: ]

ความคิดเห็นที่ 35 ช่วงนั้น เบนนี่ อาคีเดซ มีค่าย คิ๊กบ๊อกซิ่ง ชื่อ เจ็ท เซ็นเตอร์ (Jet Center) ผลิตนักมวยเพื่อปะทะนักมวยไทยหลายคน คนจากค่ายนี้ ออกอาการจองหองทั้งนั้น เช่น ไม่ยอมให้ใครมาใช้ห้องแต่งตัวร่วมกับนักมวยของตนแม้ค่ายตนจะมีนักมวยขึ้นชกเพียงคนเดียวก็ตาม เคยจับกลโกงได้คาหนังคาเขาตอนที่ แสนสท้าน แสงฤทธ์ มาชกกับริคกี้ โอเคน แห่งค่าย เจ็ท เซ็นเตอร์ เสมอลงมาแบบน่าชนะ แสนสท้านรีบลงมารายงานว่า ตั้งแต่เขาชกมวยมา ไม่เคยโดนเตะด้วยแข้งที่แข็งอย่างนี้มาก่อน พร้อมกับยกแขนทั้งสองข้างให้ดูรอยแดง และบางแห่งเป็นแผลหนังถลอกด้วย พวกเราเลยบอกกรรมการให้เช็คดู "สนับแข้งที่เป็นนวม" ซึ่งพวกเขาบางคนจะขอใส่ซึ่งเราก็ไม่ห้าม คู่ถัดมา กรรมการไปเลิกขากางเกง(พวกนี้ใส่กางเกงขายาวชก) ตรวจดูแล้วเอามะเหงกเคาะสนับตรงสันแข้งดังโป๊กๆ เลยให้ถอดออกดูปรากฎว่ามันใส่สนับที่ทําด้วยของแข็งแบบที่นักฮอกกี้ใส่นะครับ สกัด เพชรยินดี เป็นนักมวยมีระดับคนต่อมาที่ถูกนัมาชกกับศิษย์เอกจาก เจ็ท เซ็นเตอร์ ชื่อ ปีเตอร์ คันนิ่งแฮม งานนี้ ถ้าชกกันที่ไหนในโลกยกเว้นใน อเมริกา ไงสกัดก็ต้องชนะ เพราะเขารุกไล่ทําตลอดเวลา ปีเตอร์วิ่งถอยหลังไปรอบๆเวทีนานๆจะใช้อาวุธยาวเตะซึ่งก็ไม่ได้นําได้เนื้ออะไร ยิ่งหยุดวิ่งแล้วแลกหมัดสกัดยิ่งชอบ แต่มันนานๆทําทีเพราะหมัดก็เป็นรองสกัดอีก ชกเสร็จผลออกมาเสมอกัน เสร็จงานชก เราก็ออกไปโชว์มวยที่ ซาน ฟรานซิสโก กันโดยมีม่านฟ้า สกัด ลูกศิษย์คนหนึ่งและผม เป็นที่ชื่นชอบของคนไทย-ลาว-เขมรและม้งกันมาก ขนาดมีนักธุรกิจชาวม้งคนหนึ่งมาขอให้เราไปพักที่บ้านเขา เราก็ไม่ขัดข้อง บ้านเขาใหญ่โตมากพรมหนา ตื่นมาเช้าวันนรุ่งขึ้นได้ยินเสียงเด็กฝร่งเล่นกันหลังบ้าน ผมเปิดหม้านออกไปดูเห็นเป็นเด็กม้งสองพี่น้องกําลังเล่นกันโดยพูดกันด้วยภาษาอังกฤษ เด็กคงเกิดอเมริกา แต่เหน้าตาก็ยังไม่ทิ้งแบบเดิมคือหน้ากลมแก้มแดงๆ......แด เหมือ สี แค เรอะ อย่างไงอย่างงั้นเลย ออกจากห้องนอนไปเจอเมียเขา ก็หน้าตาอย่างม้งที่เห็นในบ้านเรา คุยๆกันก็รู้ว่าเขามีธุรกิจอู่ซ่อมรถ มีบ้านสองหลังๆหนึ่งให้เช่า ฐานะผิดกับชาวไทยภูเขาในเมืองไทยที่เอาชลอมทูนหัวเดินขึ้นดอยอย่างลิบลับ กลับลงมา แอลเอก็เอาสกัดไปเปิดสอนพิเศษอีกหนึ่งวันเป้นการหารายได้เพิ่ม หลังจากที่เขากลับเมืองไทยแล้ว ผมกับน่านฟ้ายังได้ตามไปดูเขาชกอีกหนกับ เกียรติศักด์ หนึ่งเมืองมหา แม้ตอนนั้นสกัดจะร่วงโรยเต็มทีแต่ก็สอนมวยจน ไอ้ "เทอร์โบ" คงคิดอยากเลิกมวยไปเลย เสียดายทรัพยากรณ์บุคคลอย่าง สกัด นานๆได้ข่าวเขาทีก็จะเป็นข่าวที่ไม่เป็นมงคลเสียทั้งนั้น ถ้าใครรู้กและติดต่อเขาได้ ฝากบอกเขาด้วยว่า พี่อั๊นเตือนอย่าให้การ์ดตกอีกนะ (เราเคยโจ๊กกันเล่นถึงคน การ์ดตกแล้วจะเจออะไร) เคยถามเขาว่า สกัด พรทวี จะอยู่บนเวทีไม่ได้ตลอดไป เมื่อสกัดลงจากเวทีแล้ว นาย วิรุฬ จะทําอะไรต่อไป ตอนนั้นเขาตอบผมไม่ได้ เดี๋ยวนี้หวังว่าเขาคงหาคําตอบให้ตัวเองได้แล้ว เรื่องผมกะไอ้เจ้าระน่านฟ้ายังไม่จบครับ รู้ไหมครับ ผมกะเจ้าระเกือบได้เล่นหนัง แรมโบ้ ภาคสามแล้ว จะมาเล่าต่อครับถ้ายังไม่เบื่ออ่าน จากคุณ : ขลุ่ย - [ 2 มี.ค. 48 23:43:39 A:198.81.26.73 X: ]

ความคิดเห็นที่ 36 "น้ารุฬ"สกัด เพชรยินดี ตอนนี้ต้องโทษอยู่ น้าครับพ้มรออ่านอยู่ แล้วรู้จัก หม่อมนริศ "สังข์ สุดเสียง" -เสือเหลือง- หรือ"น้าตึ๋ง"โอรสพญาวัน รึเปล่าครับ นั่งริงด์ไซด์ต้องรู้จักแน่ๆ จากคุณ : รู้ดี - [ 4 มี.ค. 48 02:50:45 A:61.90.45.109 X: ]

ความคิดเห็นที่ 37 อ่านแล้วมันสะเด็ดจริงๆ  เอามาเล่าอีกเยอะๆเลยนะครับ จากคุณ : masked v - [ 4 มี.ค. 48 20:57:23 ]

ความคิดเห็นที่ 38 รออ่านอยู่แล้วครับผม ไม่ได้อ่านกระทู้ดีๆอย่างนี้ตั้งนานแล้ว อ่านแล้วคิดถึงสมัยก่อนที่คนเข้ามาคุยเรื่องนี้กันนะครับ ป่านนี้ไปไหนกันหมดแล้วเนี่ย จากคุณ : PGP - [ 4 มี.ค. 48 22:22:31 A:61.91.161.156 X: ]

ความคิดเห็นที่ 39 ครับ รู้จัก อาสังข์ สุดเสียง แต่ท่านอาวุโสกว่าผม เสือเหลืองคงรุ่นไล่ๆกับผม มักเจอแกที่สนามมวย หรือไม่ก็สํานักงานหนังสือ ที่อาหว่างเป็น บก อยู่ (สมัยนั้น) ส่วนน้าตึ๋งไม่รู้จัก ในช่วงต้นทศวรรษที่ 80 มีคุณหมอคนไทยชื่อนันทชัย แกไปเช่าสถานที่ของโรงเรียนเตรียมอนุบาลแล้วรวบรวมเด็กๆไทยมาสอนหนังสือไทยและศิลปวัฒนธรรมไทยอื่นๆ ในวันเสาว์-อาทิตย์ ด้านหลังโรงเรียนมีต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขาอยู่ต้นหนึ่ง เราก็แขวนกระสอบทรายแล้วเชิญครูสุรภักดิ์ แจ่มจันทร์ นักมวยเก่าซึ่งจบปริญญาตรีพละ และน่านฟ้า สีหราชเดโช มาสอนมวยไทย นี่แหละครับ จุดกําเนิดด่ายมวยไทยในอเมริกาอย่างเป็นรูปร่างต่อเนื่องล่ะครับ ที่นี่ มีฝรั่งที่เคยชก ฟูลคอนแท็ค คาราเต้คนหนึ่งที่หันมาสนใจมวยไทยชื่อ แฮโรลด์ ไดอามอนด์(Harold Diamond)หันมาเอาดีทางเล่นหนัง และได้เป็นตัวช่วยจัดคิวบู๊ และแสดงเองใน แรมโบ้3ซึ่งถ่ายเมืองไทย แฮโรลด์มาบอกผมกับ ไอ้ระว่าจะเอาเราสองคนไปเล่นแรมโบ้ และให้เราซ้อมท่าเอาไว้ เอาก็ซ้อมการต่อสู้ ไว้สอง-สามเซ็ท เพื่อให้ได้เวลาหนึ่งนาทีสําหรับการถ่ายทํา แบบซ้อมแล้วซ้อมอีกจนดูกลมกลืนเหมือนจริง ถ้าใครได้ดูหนังเรื่องนี้ จะเห็นตอนแรกที่ ตัวหัวหน้ามาตามหาแรมโบ้ที่เมืองไทย และตัดสลับไปที่โรงนาซึ่งแรมโบ้กําลังเตรียมตัวไปต่อสู้ด้วยไม้สองท่อน ในช่วงนี้ จะต้องมีนักมวยไทยคือ ผมและน่านฟ้ากําลังชกกันอยู่(ด้วยเซ็ทท่าที่ซ้อมกันไว้) จบลงเมื่อน้านฟ้ากระโดดตีศอกเข่าขมับผมขนะที่ผมกําลังค่อยๆล้มลง จนหน้าสบัดเลือดและนําลายกระเด็นแล้วก็ตาย แล้วเขาก็ลากขาผมออกไปจากบริเวณนั้น ให้แรมโบมาสู้กับฝรั่งอีกคน (คนนี้แหละ เจ้า แฮโรลด์) แต่ถ่ายๆไป ตัวพระเอกซึ่งเล่นบทบู๊ของตัวเองโดยไม่ต้องมีตัวช่วย ก็ต่อบทของตัวเองไปเรื่อยๆ บทของผมก็หายไปๆเรื่อยๆเหมือนกันเพราะมีเวลาสําหรับตรงนี้ไว้แน่นอนแล้ว จนในที่สุดก็ตัดบทของผมกับน่านฟ้าไปโดยชิ่นเชิง แต่ถึงงั้นเขาก็จ่ายค่าซ้อมชั่วโมงละสามสิบดอลล่า ซ้อมวันละสามชั่วโมง เป็นอาทิตย์ๆ ก็เป็นรายได้ไม่เลวครับ แต่คอเคล็ดเป็นบ้า เพราะต้องทําหน้าสบัดๆเพราะถูกอาวุธวันละร่วมร้อยหน นี่ถ้าผมได้ออกหน้ากล่อง ผมอาจเป้นคนเอามวยไทยไป โกอินเตอร์เป็นรายแรก ก่อน จา พนม ก็ได้ ใครจะไปรู้ จากคุณ : ขลุ่ย - [ 5 มี.ค. 48 00:06:38 A:64.12.116.71 X: ]

ความคิดเห็นที่ 40 หลายปีต่อมา จึงมี Muay thai Academy หรือสถาบันมวยไทยซึ่งคุณหมอนันทชัยคนเดิมนี่แหละที่ดึงเพื่อนฝูงมาร่วมกันก่อตั้ง และอยู่มาจนกระทั่งทุกวันนี้ ครูมวยและเจ้าของคนปัจจุบันก็สุรภักดิ์ แจ่มจันทร์ คนเดิม คุณหมอได้ย้ายรกรากกลับไปเมืองไทย ต่อมาได้เล่นการเมืองท้องถิ่น และเสียชีวิตไปด้วยโรคหัวใจเมื่อหลายปีแล้ว ครูมวยแทบทุกคนในอเมริกาจะต้องผ่านการสอนที่สถาบันนี้มาแล้ว และมีนักมวย คิ๊กบีอกซิงฝรั่งหลายคน ที่มาขอซ้อม มาจ้างครูมวยไทยล่อเป้าให้เมือเขาจะมีรายการชก จากคุณ : ขลุ่ย - [ 5 มี.ค. 48 00:15:02 A:64.12.116.71 X: ]

ความคิดเห็นที่ 41 ช่วงนั้น เรายังหนุ่มและสนุกกัน เราขนกระสอบทราย และอุปกรณ์มวยอื่นๆขึ้นรถแวนของผมขึ้นล่องโชว์มวยกันตั้งแต่ขึ้นซานตา บาบาร่า ซาน ฟรานซิสโก ลงใต้ไปจนออกไปประเทศแม็กซิโกก็เคย ไปครังละวัน-สองวัน แวะนอนวัดไทยบ้างบ้านรับรองบ้างบ้านเพื่อนฝูงบ้างและโรงแรม ตกกลางคืนใครไม่ดูทีวี ก็จะตั้งวงเล่นรัมมี่กัน เรารู้ว่า น่านฟ้า ไม่กินเหล้าไม่สูบบุหรี่ (ก็ขนาดมันกินท๊อฟฟี่ไปเม็ดหนึ่งก่อนนอน ยังตาค้างไปค่อนคืน) ไอ้สรรค์ หรือ เสกสรรค์ จันจิรา ตัวซนของกลุ่มเป้นคนสังเกต และชักชวนพวกเราให้มอมเบียร์ และบุหรี่ ไอ้ระ คืนนั้น เราทําเป็นเอาใจไอ้ระ "พี่ระเบียร์หน่อยซิ นานๆที่" ไอ้สรรค์เปิดเบียร์ให้ เอาบุหรี่ตัวหนึ่งไหม เพื่อนอีกคนทําไก๋จุดบุหรี่เผื่อให้ตัวหนึ่ง ไอ้ระก็ไม่ขัดเพื่อน กินเบียร์สูบุหรึ่ (แบบคางคก เพราะสูบไม่เป็น) ยิ่งดึก ไอ้ระยิ่งกินไพ่ มันยิ่งเมายิ่งจําไพ่แม่น ขนาดกลับถึง แอลเอ แล้วยังต้องตามใช้หนี้ไพ่ไอ้ระไปอีกหลายอาทิตย์ จนมันเบื่อทวงไปเอง " ผมก็จําไม่ได้เหมือนกันว่าผมชนะอย่างไง" ตั้งแต่นั้นเลยไม่มีใครออกความเห็นนี้อีก จากคุณ : ขลุ่ย - [ 5 มี.ค. 48 01:05:26 A:64.12.116.71 X: ]

ความคิดเห็นที่ 42 เมื่อวานไปกินข้าวกับ โคบาล ลูกเจ้าแม่ไทรทอง ซึ่งเดินทางมาจากนิวยอร์ค กับลูกศิษย์ ตัวโคบาลเองมีรายการสอนพิเศษที่ค่าย เอกโยธิน ตอนเช้า และลูกศิษย์ มีรายการชกในคืนเดียวกัน ที่เดียวกัน ปัจจุบันในอเมริกามีนักมวยเก่งๆที่เลิกชกที่เมืองไทยแล้วหลายคน เช่น จงสนั่น / บุญเกิด แฟร์เท็กซ์ เมธี เจดีย์พิทักษ์ ก้องนภา ลูกทัพฟ้า ศักดิ์เกษม แฟร์เท็กซ์ รวมทั้ง โคบาล ด้วย คนเหล่านี้ถ้าจะว่ากันไป ก็ไม่มีวิชาชีพอะไรติดตัวนอกจากวิชามวยซึ่งสังคมไทยมักมองว่าเป็นวิชาชึพของชนชั้นกรรมาชีพ แต่ที่อเมริกา นักมวยเก่าเหล่านี้ ได้รับการยกย่องมาก เสียแต่ว่า พวกเขาไม่รู้ภาษาอังกฤษพอ ไม่งั้นดังและรวยกว่า ที่เป็นอยู่นี้มาก พวกลูกศิษย์ มวยไทยเมื่อเจอกัน เขาจะยกมือไหว้กัน เมื่อขึ้นชก ก็จะพยายามไหว้ครู ให้ดูสวยงาม ไม่ใช่เดินรูดเชือกรอบเวที ก้มลงกราบสามทีก็เสร็จ แต่รัฐบาลไม่เห็นมีมาตราการช่วยเหลือ หรือส่งเสริมที่เป็นรูปธรรมจริงๆเลย ศิลปวัฒนธรรมแขนงอื่นของไทยนั้นล้วนดีเลิศ มันเป็นตัวชี้บอกชาวโลกว่า เราเป็นชาติที่มีวัฒนธรรมมาแต่เก่าก่อน ซึ่งล้วนอลังการเป็นที่น่าภูมิใจของคนไทย แต่ผมยังไม่เคยเห็นฝรั่งไปฝึกเต้นโขน หรือ ร้องลําตัด เลย จะมีก็แต่เข้ามาฝึกมวยไทยและดูดซับ ภาษาและวัฒนธรรมด้านอื่นๆของไทยไปปฎิบัติ ยิ่งตอนนี้ ฝรั่งชักรู้จักมวยไทยครบเครื่อง หรือมวยไทยเชิงอนุรักษ์ ยิ่งเป็นสิ่งน่าทึ่งสําหรับเขาซึ่งเขาอยากค้นคว้าต่อไป ไม่ว่าด้วยการพูดคุยกับคนที่รู้ อ่าน และเข้ามาขอเรียน เพราะเราบอกเขาเสมอว่า มวยไทยเคยใช้ในสงคราม แต่เมื่อตอนเรียน ตอนซ้อม ก็จะเป็นไปตามคัลลองของมวยเวทีซึ่งถูกตีกรอบด้วย กฎกติกาต่างๆ ฉะนั้นในส่วนลึกของความเข้าใจนั้น มันคงจะต้องมีอะไรที่มากไปกว่าที่เคยเรียนรู้ แล้วก็มีเจอมวยไทยครบสูตร ดังกล่าว มันจึงเป็นคําตอบที่เขาเคยตั้งคําถามอยู่ในใจ ผมจะเลี่ยงการใช้คําว่า มวยไทยโบราณ เพราะไม่ต้องการแบ่งมวยไทยตามกาลเวลา แต่จะแบ่งมวยไทยตามเงื่อนไขของการแข่งขัน เพราะผมเชื่อว่า มวยไทยอย่างไรก็คือมวยไทย เมื่อเป็นมวยไทยครบเครื่องเต็มสูตร ก็จะเป็นมวยไทยที่อันตรายที่สุดซึ่งบรรพบุรุษเคยใช้ในสงคราม แต่ในยามสงบ ก็มีการนํานักมวยจากแต่ละถิ่น แต่ละค่ายมาทําการแข่งขันกัน ฉะนั้นก็ต้องวางกฎไว้เพื่อให้มีความปลอดภัยและเพื่อเป็นมาตราฐานในการดู และตัดสินการแข่งขัน เหมือนมวยไทยที่ชกในเมืองไทยก็ยังใช้กฎต่างกับที่ชกใน รัฐ แคลิฟอร์เนีย เลยครับ และมวยไทยในแคลิฟอร์เนีย ก็ใช้กฎต่างจากรัฐอื่นไปอีก นั่นคือเงื่อนไขของการแข่งขัน ซึ่งไม่ควรเอามาเป็นมาตรวัดมาตราฐานของมวยไทยทั้งหมด เพียงแต่หวังว่า คลื่นลูกใหม่จะช่วยนํามวยไทยไปสู่มาตราฐานเดียวกัน และให้มวยไทยคงความขลังเหมือนในอดีตนะครับ จากคุณ : ขลุ่ย - [ 5 มี.ค. 48 23:29:30 A:64.12.116.71 X: ]

ความคิดเห็นที่ 43 -"แข้งมังกร"เมธี เจดีย์พิทักษ์ อดีตแชมป์มวยไทยของลุมพินี กลายเป็นแชมป์สหพันธ์คิกบ็อกซิงนานาชาติ (กติกา วูซู)ในรุ่นเวลเตอร์เวต -"มนุษย์ไม้"จงสนั่น แฟร์เท็กซ์ ปัญจุบันคือแชมป์สหพันธ์คิกบ็อกซิงอเมริกาเหนือ ในรุ่นเวลเตอร์เวต แถมเมื่อปีทีแล้ว ได้รับการจัดอันดับติดหนึ่งในสิบ ดาวรุ่งแห่งปี(นิตยสารอะไรผมจำไม่ได้ขออำไพ) -บุญเกิด แฟร์เท็กซ์ ปัญจุบัน เป็นแชมป์สมาคมกีฬาคิกบ็อกซิงนานาชาติ (กติกา มวยไทย) รุ่นแบนตั้มเวต -ในฐานะผู้คลุกคลี อะไรทำให้มวยไทยถูกยอมรับไม่ต่างจากกีฬาพื้นบ้าน ทั้งๆที่ถ้ามองในแง่การดูเพื่อเอนเตอร์เทนแล้ว มวยไทยดูสนุกกว่าคาราเต้-เทวันโดแน่ แต่ไหงไปได้แค่นี้ จากคุณ : รู้ดี - [ 6 มี.ค. 48 02:37:59 A:61.91.114.6 X: ]

ความคิดเห็นที่ 44 ใครที่เข้ากระทู้นี้ได้รับรู้ข้อมูลจาก "คุณขลุ่ย" และ "คุณรู้ดี" ที่น่าเชื่อถือเป็นอย่างมาก อย่างนี้ต้องขอชมกันหน่อยละครับ จากคุณ : ป่วน - [ 6 มี.ค. 48 20:16:30 A:203.156.27.127 X: ]

ความคิดเห็นที่ 45 เป็นข้อมูลที่มีคุณค่ามากครับ  น่าจะรวบรวมไว้เยอะๆนะ จากคุณ : masked v - [ 7 มี.ค. 48 22:42:22 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ไม่ทราบว่ายังมีใครตามอ่านอยู่อีกหรือเปล่า ผมไม่ค่อยสบายมาสอง-สามวันเลยไม่ได้เข้ามาที่นี่ จะเล่าเรื่องของ น่านฟ้าให้จบในตอนนี้เลยครับ ตอนหลังน่านฟ้าได้ศรีภรรยาเป็นฝรั่ง ชื่อ เดบเบอร่า จีน แต่ทุกคนจะเรียกเธอว่า ดีเจ (Deborah Jean - DJ) และมีลูกสาวน่ารักคนหนึ่งชื่อ มาลัย ดีเจจะโปรดข้าวเหนียวมาก อาจเป็นเพราะ เจ้าระเป็นคนหนองคายก็ได้ ไอ้เจ้าระ จะเป็นคนนอนแต่หัวคํา เพราะเคยชินตั้งแต่สมัยชกมวยอยู่ที่เมืองไทย ถ้าอยู่เลยสี่ทุ่ม มันจะนั่งหาว ตาแดงๆ และเป็นคนรักครอบครัวมาก อย่างพวกเราเมื่อโชว์มวยเสร็จ ก็มักจะมีการเลี้ยงกัน โดยมีทั้งสาวไทยสาวลาวและแหม่ม มานั่งร่วมวงด้วย พวกหนุ่มๆไฟ(ราคะ)แรงก็จะคุยแบบหมาหยอกไก่บ้าง ถ้าไก่สมยอม หมาก็อาจพาไก่ออกไปเที่ยวที่อื่นต่อ ไอ้ระก็จะผสมโรงเพื่อความเฮฮา มีอยู่ครั้งหนึ่ง นั่งเฮฮาไปราวครึ่งชั่วโมง ไอ้ระเรียกหาข้าวเหนียวที่สั่งเอาไว้ แล้วลุกพรวดขึ้นบอกลาสองภาษาในประโยคเดียวกัน "ไปก่อนพี่ ดีเจฝากซื้อข้าวเหนียว..... I have to go now, my wife is waiting " แม่ไก่สาวตัวอ่อนนั่งข้างๆที่กําลังทอดสะพานมาให้ ทําหน้างงๆแบบไก่ตาแตก ไม่รู้จะพูดอะไร ไอ้ระตายราวปลายทศวรรษที่ ๘๐ หรือ ต้น ทศวรรษที่๙๐ เนี่ย ด้วยโรคหัวใจ ซึ่งถ้าเป็นคนอื่นๆหมอก็ก็น่าจะสาเหตุและป้องกันได้ แต่ด้วยความที่เขาเป็นนักกีฬามาตลอดชีวิต ร่ายกายแข็งแรงทั้งๆที่รับการตรวจร่างกายเป็นประจําทุกปี (ภรรยาทํางานคลีนิคหมอ และตัวเองมีประกันสุขภาพ) แต่ก็ไม่พบ เมื่อมีการตรวจศพอย่างละเอียดภายหลังหมอจึงพบความผิดปกติของหัวใจ ไอ้ระแม้ดุดันบนเวที แต่เป็นคนจิตใจอ่อนไหว เมื่อ พ่อผมตาย ผมเรียกให้เขามาเป็นหนึ่งในสีคนที่แบบโลงศพพ่อ คือให้ลูกๆเป็นคนแบก และเราถือว่าเขาคือน้องชายคนเล็กของเรา แล้วผมเห็นเขาแอบนั่งเอามือปิดหน้าร้องไห้ที่มุมกระไดตอนที่จะเผาศพพ่อ สามวันหลังจากงานศพระ เราครูมวยสาม-สี่คน และภรรยาผม เอาอาหารจะไปทํากินกันที่บ้าน เขาเพื่อเป้นเพื่อนดีเจและมาลัย เมื่อรภเราจอดเรียบร้อย และลงจากรถมารวมกันเสร็จ เราได้กลิ่นธูปแรงมาก ทั้งๆที่แถวนั้นไม่มีบ้านคนเอเซียอยู่ และเป็นเวลากลางวัน ไม่น่ามีใครมาจุดธูป เพื่อนในกลุ่มต่างมองหน้ากัน จนคนหนึ่งพูดขึ้นว่า "ไอ้ระออกมาต้อนรับ" เราจึงรู้ว่า เราไม่ได้กลิ่นคนเดียว แต่แปลกมากครับคือ เมื่อปีที่แล้วนี่เองที่คุยกับเพื่อนครูมวยคนหนึ่งที่ไป แล้วเรื่องกลิ่นที่ได้ กลับเป็นว่า ผมและภรรยาได้กลิ่นธูป แต่เขาได้กลิ่นศพเน่า เพื่อเผาศพเขาแล้ว ผมเก็บกระดูกเขาไว้ที่บ้านผมราวสามปี ก่อนที่จะได้มีโอกาสนํากระดูกเขากลับหนองคายเพื่อให้แม่และญาติทําพิธี เขามีประโยคซื่อๆที่ยังติดใจผมอีกประโยค ซึ่งเขาพูดตอนที่เราลงนวมกันครั้งหนึ่ง ซึ่งผมขอหยุดกลางยก เพราะเหนื่อย มันพูดหน้าซื่อๆว่า "พี่เหนื่อยอย่าหยุด ตายถึงหยุด" คือให้เรามีความพยายาม อย่าถอดใจง่ายๆ จากคุณ : ขลุ่ย - [ 7 มี.ค. 48 23:06:27 A:205.188.116.71 X: ]

ความคิดเห็นที่ 47 มีสิ..รออ่านต่ออยู่เนี่ย จากคุณ : โอ้... - [ 8 มี.ค. 48 21:55:38 A:218.188.23.162 X: ]

ความคิดเห็นที่ 48 รออ่านอีกคน จากคุณ : masked v - [ 10 มี.ค. 48 00:18:53 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ที่จริงมวยไทยก็เป็นที่รู้จักกันมานาน สมัยก่อน Shaw Brothers ดังมาก หนังแนวบู๊ ออกมามากมาย ตี้หลุง เคยเล่นเป็นพระเอกที่ชกมวยไทยอาชีพด้วยครับ หรือ แม้ อภิเดชเมื่อเลิกมวยใหม่ ก็ไปเล่นหนังที่อ่องกงเหมือนกัน รู้สึกว่าเล่นเป็นอาจารย์ของพระเอก พอมวยไทยออกไปสู่เมืองฝรั่ง กลับกลายเป็นผู้ร้ายเสียหลายเรื่อง ต้องให้พระเอกใช้การต่อสู้แนวอื่นมาปราบ ผมว่าที่มวยไทยเป็นผู้ร้ายไปนี้ด้วยเหต่ผลสองประการคือ คนที่อยู่มาก่อนเขาเป็นศิลปการต่อสู้แบบอื่น ฉะนั้นจะให้มวยไทยมาชนะเขามันคงกะไรอยู่(ก็เขาเป็นคนกํากับบทบู๊นี่ครับ) และถ้ามองมวยไทยด้วยสายตาที่ไม่เคยชินจะเห็นว่า เป็นการต่อสู้ที่แม้รวดเร็วและเฉียบขาด แต่ก็รุ่นแรงมาก เลยดูโหด ปัจจุบันภาพพจน์มวยไทยดีขึ้นมาก ฝรั่งจํานวนมากจะเรียก "Muay Thai" ไปเลยครับ การแข่งขันการต่อสู้หลายๆรายการที่เรามักเห็นฝรั่งตัวโตๆใช้การออกอาวุธหรือการบังอาวุธอย่างมวยไทย ใน แอลเอ มีสถานออกกําลังกายมากมาย และที่ขาดไม่ได้มักจะเป็น kick boxing หรือ cardio kick boxing ซึ่งมีฝรั่งเป็นผู้สอน โดยเขาใช้คิ้กบ๊อกซิงเป็น "เครื่องมือ" ในการเต้นๆ กระโดดๆ เพื่อออกกําลัง เขาจะให้นักเรียนใส่นวมและมีการชกกระสอบด้วย แต่จะเน้นหนักไปทางบริหารรางกาย ส่วนครูคนไทยที่สอนมวยก็จะเน้นหนักไปแบบการต่อสู้ จากคุณ : ขลุ่ย - [ 10 มี.ค. 48 23:19:52 A:152.163.100.71 X: ]

ความคิดเห็นที่ 50 ^ ^ ^ ^ อืม...ไม่แน่ใจว่าจะเป็นต้นแบบต่อมาของ Body Combat ที่พวกฟิตเนสออกเป็นโปรแกรมสำหรับการบริหารร่างกาย หรือเปล่า เคยเห็นที่ฟิตเนสชื่อดังย่านสีลม ออกมาโปรโมตในงานเกี่ยวกับสัปดาห์สุขภาพที่จัดขึ้นทุกวันอาทิตย์เมื่อหลายปีก่อน(หรือที่เรียกว่างานถนนคนเดิน) สัปดาห์แรกเป็นเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพและศิลปะการต่อสู้ เห็นแหม่มสาวคนหนึ่งออกมาเต้นซ้อมออกกำลังกายที่หน้าเวทีฟิตเนสของบริษัทตัวเอง มีการกระโดดโลดเต้นไปมา ออกหมัด,เตะ,ถีบ,ศอก ประกอบดนตรี dance อีกด้วย ในแง่ออกกำลังกาย ผมก็ว่าดูดี... แต่ถ้าเอาไปใช้จริง ผมว่าคงโดนนักมวยซ้อมตายตั้งแต่หมัดแรกแล้วหรอกกระมัง มีเพื่อนไปใช้บริการที่ฟิตเนสแห่งนั้น ตอนแรกๆ ราคาแพงโคตร(เป็นหลักหมื่นเหมือนกัน และต้องเหมาจ่ายทั้งปี) เคยถามมันว่า "เฮ้ย..แล้วมันจะเอาไปใช้ได้จริงเหรอ?" มันบอกผมว่านั่นมันแค่การเต้นออกกำลังกายเท่านั้นแหละ(อ้อ....) เอาแค่ท่าสวยกับจังหวะประกอบเพลงเท่านั้นเอง... บังเอิญว่าวันนั้นตั้งใจจะไปดูการสาธิตไทเก๊กเท่านั้น แต่ก็ได้ดูอะไรหลายๆ อย่างอยู่ด้วยเหมือนกัน ที่เห็นอีกอย่างก็ปัญจักสีลัติ แต่ดูได้ไม่นานเพราะไม่มีคนเฝ้าร้าน(ขอออกมาดูชั่วคราว) ไม่อย่างนั้นคงได้ดูอะไรมากกว่านั้นอีก เปรียบเทียบ body combat กับศิลปะการต่อสู้แล้วคนละเรื่อง เรียนเอาสนุกได้ แต่อย่านึกว่าเอาไปใช้จริงได้เลยดีกว่า จะเจ็บตัวเปล่า... จากคุณ : เบ๊ - [ 10 มี.ค. 48 23:39:54 A:219.149.233.179 X: ]

ความคิดเห็นที่ 51 ครับ อย่างนั้นแหละ เดี๋ยวนี้ คนที่ออกแบบ taebo ก็เริ่มมาจากแบบนี้ แต่ละแห่งก็ตั้งชื่อของตัวเองซึ่งคิดว่าจะทําให้ติดตลาด ที่จริงการวอร์มอัฟแบบชกลม ของไทยก็คือการออกกําลังกายอย่างนี้นี่เอง และถ้าเรียนจากครูมวยที่เป็นจริงๆ ก็จะยิ่งดีเพราะการเต้น การออกหมัด เข่า เท้า ศอก จะเป็นไปอย่างถูกต้องด้วย เคยเห็นสอนกันโดยครูพละ (physical trainer) แต่ไม่เป็นมวย เมื่อมาออกลีลามวยเก้งก้าง เลยดูไม่น่าศรัทธา ปัจจุบัน ค่ายมวยในเมืองไทยมีคนต่างชาติมาเรียนมากมาย เวลาไปดูมวย มักจะเห็นคนใส่เสื้อยืด กระทิงแดงบ้าง เบียร์สิงห์บ้าง ซึ่งหาซื้อได้ตามแผงข้างถนนแถวสีลม หรือบางลําพู นั่นเป็นการแสดงว่าพวกนั้นได้เคยไปเรียนมวยที่เมืองไทยมาแล้วมันโก้ผิดเพื่อนผิดฝูงดี เด็กที่ค่ายคนหนึ่ง ไปทดสอบเพื่อเข้าชก k-1 ที่ ลาส เวกัส ไม่นานมานี้บอกว่า เขามีคณะกรรมการสัมภาษณ์ผู้เข้าสมัครด้วย หลายๆคน(รวมทั้งเจ้าคนที่เล่าให้ผมฟังด้วย) เคยซ้อมที่เมืองไทย บางคนเคยชกมาแล้วทีทเมืองไทย อาจเป็นการชกเวทีบ้านนอกก็ตาม แต่เขาจะพูดรวมๆว่า "I have fought in Thailand" มันเป็นเกียรติภูมิของเขา และพวกนี้จะเป็นกลุ่มที่คนอื่นๆจะแหยง เพราะเชื่อว่าเคยผ่านของจริงมาแล้ว พวกนี้จะได้รับความสนใจเป็นพิเศษ แล้วยังมีการให้ชกลม เตะเป้า ให้ดูด้วย นี่ล่ะ ผมถึงว่า เขาเอามวยไทยไปหากินใหม่อีกรอบหนึ่งโดยการจัด "หีบห่อ" เสียใหม่ เมื่อคืนดูทีวีช่องเล็กๆของท้องถิ่น มีการสอนศิลปการต่อสู้แบบผสม คือคงแตกหน่อมาจาก jkd เพราะเขามักเอ่ยอ้างชื่อ บรู๊ซ ลี เขาสาธิตการแก้และกันเตะด้วยการยกแข้งบัง การเตะพับในและการกระชากแขนคู่ชกมาตีเข่า ใช้ครับ วิชาการต่อสู้สายพันธ์อื่นก็ใช้อาวุธในร่างกายเหล่านี้เหมือนกัน แต่ไม่ใช่ด้วยลีลานี้ เขาไม่ได้เอ่ยถึงท่าเหล่านี้ว่ามาจากมวยไทยเลย ผมว่า เพราะเขาเรียนมาจากครูฝรั่งที่อาจเรียนมาจากบรู๊ซ ลี หรือจากครูมวยไทย เมื่อวิชาผ่านมาถึงเขา เขาก็ไม่ประหนักว่านั่นคือมวยไทยเพราะเขาเรียนมาจากคนอื่นที่สอนมวยพันธ์ผสมให้เขา จากคุณ : ขลุ่ย - [ 12 มี.ค. 48 00:07:02 A:198.81.26.73 X: ]

ความคิดเห็นที่ 52 ช่วยโหวตให้เป็นกระทู้แนะนำละกันนะครับผม อยากให้คนอื่นๆได้อ่านกันบ้าง อ่านแล้วสุขภาพจิตดีกว่าอันอื่นๆนะ ^_^ ได้ความรู้ดี จากคุณ : PGP - [ 12 มี.ค. 48 01:27:57 ]

ความคิดเห็นที่ 53 อยากโหวตให้ครับ แต่ไม่ได้เป็นสมาชิกเลยทำไม่ได้ ฝากคนเป็นสมาชิโหวตให้ทีครับ รออ่านอยู่เสมอครับ สำหรับกระทู้ที่เป็นประโยชน์อย่างนี้ จากคุณ : คมแฝก - [ 12 มี.ค. 48 12:14:21 A:203.209.99.47 X: ]

ความคิดเห็นที่ 54 ครูมวยส่วนมากในอมเริกาจะสอนกันแบบที่เขาชกในเมืองไทย แต่อยู่ๆไปนานเข้า ก็สอนมวยป้อนรายการ และต้องให้นักมวยซ้อมเพื่อสนองตามกฎกติกาที่จะใช้กันในรัฐแคลิฟอร์เนีย นั่นคือ เมื่อจับส่วนใคส่วนหนึ่งของคู่ต่อสู้แล้วห้ามออกอาวุธ พอจะนึกภาพออกนะครับ แบบมวยสากลน่ะ นี่คือการ "ทําหมัน" มวยไทยอีกวิธีหนึ่ง นั่นคือการจํากัดการใช้อาวุธมวยไทยฉะนั้น พอคนหนึ่งเตะ อีกคนต้องดึงตัวหนี หรือบังอาวุธแล้วถึงโต้ เท่านั้น แล้วที่ค่ายก็ซ้อมกันไปแบบนั้น วิธีล๊อก การจับบิด-หักหรือจับแล้วโต้ แทบจะไม่ มาระยะหลังจึงยอมให้จับคอตีเข่า แต่ห้ามตีเข่าเข้าหน้า แล้วเราก็พยายามขยายผลขึ้นเรื่อยๆ เพราะเมื่อยอมให้จับคอตีเข่า ก็น่าจะยอมให้จับส่วนอื่น และออกอาวุธชนิดอื่นๆได้ ตอนนี้ ทางทบวงกีฬาก็ค่อยเข้าใจมากขึ้น แต่เรื่องจับปิด จับทุ่มนั้นยังห้าม เพราะเขายังเข้าไม่ถึง นี่ยังดีนะครับ เพราะสมัยก่อนนั้น เขาตรากฎด้วยการใช้มวยสากลเป็นบรรทัดฐาน เช่น คนที่ถูกอาวุธคู่ต่อสู้ล้มลงจะถูกนับแปด จึงมีอยู่บ่อยๆช่วงนั้นที่นักมวยคนหนึ่งขยับจะเตะแล้วถูกคู่ชกถึบล้มลง กรรมการปราดเขานับทันที จําได้ตัวอย่างหนึ่งเพราะผมอยู่ในเหตุการณ์ และต้องช่วยกันระงับศึกระหว่างครูมวย-กรรมการ-คนดู มีการด่ากันระงม เพื่อนๆที่เป็นโปรโมเตอร์พลอยเสียคนไปด้วย เพราะแฟนมวยด่ากราดไปถึงเขา เมื่อเขาไปประท้วงกรรมการอาวุโส ก็โดนกรรมการฉะกลับมาเสียอีกเพราะตามกฎมันระบุไว้แล้วว่า คนที่โดนอาวุธคู่ต่อสู้ต้องโดนนับ "ไอ้ เอี้ย ku เลิกจัดแล้วโว๊ย" ส่วนเพื่อนครูมวยที่ลูกศิษย์โดนนับก็ยั๊วะจัด " มวยkuเป็นมวยเตะkuซ้อมมาให้แก้ทางคู่ชก แล้วมาโดนถึบล้มยกละสองที สองยกซ้อน แล้วจะเอาส้นteenที่ไหนไปชนะวะ......เฮ้ย ยู เก็ต เอ๊าท์ ออฟ เธอะ ริง ไม่ต้องชกต่อ เตะแทบตาย ห่ โดนถึบทีเดียว เสียสองแต้ม" เพื่อนทั้งด่า ทั้งบ่น และออกคําสั่งให้ลูกศิษย์ ลงจากเวทีในประโยคเดียวกัน คือตามกติกานั้น ถ้าถูกนับครั้งแรกจะเสียสองคะแนน ถ้าถูกนับอีกในยกเดียวกัน ก็จะเสียครั้งละหนึ่งคะแนน อย่างลูกศิษย์เพื่อนที่ถูกนับยกละสองครั้งก็เสียยกละสามคะแนน แล้วดันไปเสียเอายกสาม-ยกสี่ เสียด้วย ถ้าไม่มีปาฏิหาร ก็ไม่มาทางชนะ อยากเล่าถึงบรรยากาศรอบๆงานและคนดูมวยสักนิดครับ รายการมวยทั่วๆไป คนที่มาดูก็จะเป็นคนหนุ่มสาวและรูปร่างก็ดีเป็นส่วนมากเพราะเขาจะออกกําลังกายกัน แม้บางคน เลยวัยหนุ่มวัยสาวแล้วก็ยังรักษารูปร่างได้สาวยงามดี พวกผู้ชายก็มักแต่งตัวโชว์ กล้ามสวยงาม ผู้หญิงก็จะแต่งตัวด้วยชุดและสีสันที่เตะตา อวดรูปโฉม คอผ่าลึก กางเกงรัดก้น อย่างที่เพื่อนคนหนึ่งเคยกระซิบบอกโดยไม่ละสายตาว่า "นมเป็นนม ตูดเป็นตูด" และทั้งหญิงและชายหลายๆคนก็จะเปิดอวดรอยสักตามร่างกายด้วย อย่างผู้หญิงที่ กําลังยืนเข้าคิวเพื่อรอซื้อเบียร์อยู่นั่นน่ะ ใส่ชุดหนังสีดํา เสื้อเข้ารูปชายลอยให้เห็นหน้าท้องราบเรียบมีรอยสักรูปงูเลื้อยขึ้นมาจากขอบกางเกงถึงสะดือ คนช่างจินตนาการอย่างพวกคุณก็คงสงสัยเหมือนผมว่า แล้วหางงูเนี่ยมันอยู่ตรงไหน จากคุณ : ขลุ่ย - [ 13 มี.ค. 48 00:15:03 A:64.12.116.71 X: ]

ความคิดเห็นที่ 55 มีให้อ่านอย่างต่อเนื่องจริงๆ  ขอบคุณครับ จากคุณ : masked v - [ 15 มี.ค. 48 19:51:28 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ถ้ามีโอกาสพาผมไปชมบรรยากาศการแข่งขันก็คงจะดีนะครับ อ่านแล้วช่างต่างกับประเทศไทยเหลือเกิน ^_^ โหวตกระทู้ต่อครับ จากคุณ : PGP - [ 15 มี.ค. 48 23:33:00 A:61.91.112.29 X: ]

ความคิดเห็นที่ 57 กระทู้นี้ ประเทืองปัญญา สุดๆ เลยครับ  ขอบคุณทุกท่าน ที่แบ่งปันความรู้ จากคุณ : Gatty - [ 16 มี.ค. 48 18:13:47 ]

ความคิดเห็นที่ 58 สุดยอดครับพี่ขลุ่ย รู้สึกผมจะดูคู่มวยหลายๆคู่ที่พี่เล่ามาหลายคู่เลยครับ เป็นคลิ๊ปสั้นๆ ตอนนี้ผมกำลังหาเวปนั้นอยู่มันจำไม่ได้แล้ว จำได้จะเอามาลิ้งค์ให้ทุกคนโหลดครับ จากคุณ : j - [ 16 มี.ค. 48 22:21:48 A:202.28.76.133 X: ]

ความคิดเห็นที่ 59 เจอแล้วๆๆจากเวป http://www.mikemiles.com/ เพียบไปหมดแต่คลิ๊ปจะสั้นนะครับ Benny Urquidez (USA) vs. Narongnoi Kiatbandit (Thailand) http://www.mikemiles.com/video/urquideznarongnoi.mpg Dave Johnston (USA) vs. Looklongtan (Thailand) http://www.mikemiles.com/video/johnstonlooklongtan.mpg จากคุณ : j - [ 16 มี.ค. 48 22:41:45 A:202.28.76.133 X: ]

ความคิดเห็นที่ 60 Benny Urquidez (USA) vs. Prayoud Sittiboonlert (Thailand http://www.mikemiles.com/video/urquidezsittiboonlert.mpg Peter Cunningham (Canada) vs. Kaosot (Thailand) http://www.mikemiles.com/video/cunninghammuangsurin.mpg Peter Cunningham (Canada) vs. Prasert Kittikasem (Thailand) http://www.mikemiles.com/video/cunninghamkittikasem.mpg Peter Cunningham (Canada) vs. Sakad Petchyindee 1 (Thailand) http://www.mikemiles.com/video/cunninghamsakad1.mpg Peter Cunningham (Canada) vs. Sakad Petchyindee 2 (Thailand) http://www.mikemiles.com/video/cunninghamsakad2.mpg Rick Roufus (USA) vs. Cheungpuek Kiatsongrit (Thailand) http://www.mikemiles.com/video/roufuskiatsongrit.mpg แถมท้ายด้วย สามารถ เจอกับ ดีเซลน้อย Samart Payakaroon (Thailand) vs. Dieselnoi (Thailand) http://www.mikemiles.com/video/samartdieselnoi.mpg มีอีกหลายคู่มากๆไปที่ http://www.mikemiles.com นะครับ เสียดายน่าจะมีแบบเต็มครบทุกยกไปเลย คุณขลุ่ยและพี่คนอื่นๆช่วยมาเล่าต่อด้วยครับ จากคุณ : j - [ 16 มี.ค. 48 22:57:10 A:202.28.76.133 X: ]

ความคิดเห็นที่ 61 ไมค์ มายส์ เห็นเพื่อนที่เคยไปสัมนาบอกว่าเป็นคนอัธยาศรัยดี ชอบมวยไทยและให้ความเคารพครูของเขามาก เคยมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เราหลายๆคนออกมาท้วงความไม่ถูกต้องที่ คนๆหนึ่งได้ นําเสนออกไปสู่สังคมโลก โดยเฉพาะเรื่องการเป็นศิษย์คนสุดท้าย และคงเป็นคนโปรดของท่านอาจารย์ เขตร์ ศรียาภัย แต่เมื่อได้ดู วีดีโอเทปที่คุณป้าศรีธรลูกสาวท่านอาจารย์ พูดว่าคนๆนี้ไม่เคยเรียนกับคุณพ่อของท่านเลย (แถมฝากด่าไปอีกด้วย) ก็มีหลายๆคนรวมทั้งผมที่ อีเมล์ถึง ไมค์มายส์เพื่อให้แก้ข้อมูลในเวบไซด์เขา แต่เขาตอบกลับมาโต้และปฎิเสธข้อมูลจากคนนอกอย่างเราๆ เพราะเขาให้ความเคารพครูของเขา ผมเองเมื่อได้อีเมล์เขาแล้วไม่โกรธเขา แต่กลับนึกชมจิตใจเขา การรู้จักเคารพครูบาอายารย์ คือคุณสมบัติหนึ่งของลูกผู้ชายนะ ผมว่า เขามีคลังมวยเก่าๆดีมากเลยครับ เบนนี่ อคีเดซ เคยแพ้ ประยุทธ์ สิทธิบุญเลิศ นักมวยไทยที่ญี่ปุ่น โดยยกแรกทําดี พอยกสองประยุทธ์ ซึ่งดูมีแต่เตะและเข่าใน แลกกับหมัดของเบนนี่เริ่มจับทางได้ เล่นแรงๆขึ้น เบนนี่ชักแหยง ยกสามเลยไม่ออกมาจากมุม แต่เมื่อกลับอเมริกา เขาประกาศว่า นั่นเป็นการชกโชว์ ไม่มีการแพ้ชนะ ฝรั่งเขามีอยู่ประโยคคือ The duck that lays the golden eggs คือเปรียบคนที่ทําเงิน เหมือนเป็ดในเทพนิยายที่ออกไข่ออกมาเป็นทองคํา เบนนี่เป็นตัวเงินตัวทอง (อย่าคิดมากครับ) ของคณะพรรค มีค่าตัวสูง มีงานแสดง งานโฆษณาสินค้ามากมาย ขืน "แพ้" รายได้คงลดลงมากมาย แม้การชกครั้สุดท้ายกับนักมวยญี่ปุ่น โดนยําใหญ่ตลอดทุกยก แต่กรรมการยังจับให้ชนะ คนดูโห่ทั้งสนาม แต่ที่เจ็บจนสํานึก คือการชกกับ นรงค์น้อยนันแหละครับ จากคุณ : ขลุ่ย - [ 17 มี.ค. 48 00:21:39 A:198.81.26.73 X: ]

ความคิดเห็นที่ 62 ไม่ได้อ่านสาระประโยชน์จากวงการมวยจากที่นี่มานานนึกถึงบรรยากาศเก่าๆ ที่พวกเรายังเอื่ออาทรต่อกันทั้งผู้คุยและผู้ถาม ทั้งผู้รู้เล่าสู้ผู้ไม่รู้ อยากได้ความรู้สึกดีดีอย่างนี้กับมาอีกครับ จากคุณ : คนอ่าน - [ 17 มี.ค. 48 23:39:46 A:61.90.87.52 X: ]

ความคิดเห็นที่ 63 ได้มีโอกาสกลับเมืองไทยเมื่อสอง-สามเดือนมาแล้ว และได้เข้าไปดูมวยที่ลุมพินีด้วย เห็นมีคั่นเวลาด้วยการแสดงสาธิตมวยไทยอนุรักษณ์ หรือ "มวยโบราณ" ซึ่งนับว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี คนต่างชาติที่เข้ามาดู จะได้รู้ว่า มวยไทยมีรากลึกมากไปกว่าที่เห็นบนเวที อย่างน้อยก็เพื่อให้เห็นว่า เราไม่ได้ลอกเขา แต่เขาลอกเรา ดู Tito Ortiz ชกกับ chuck Liddel ทําให้คิดถึงข้อเขียนเก่าๆหรือที่เคยได้ยินมาเกี่ยวกับมวยไทย ที่ว่าการแข่งขันอนุญาตให้ใช้ ทุ่ม-ทับ-จับหัก ด้วย แกล้งคิดเล่นๆว่า เอ๊ะ นี่มันมวยไทยอย่างที่พ่อเคยเล่าให้ฟังนี่ เมื่อมีกฎผูกมัดมวยไทยมากขึ้นๆ ครูมวยที่สอนนักมวยป้อนตลาดการพนัน ก็ต้องสอนเอาใจตลาด ครูมวยรุ่นต่อๆไปก็ยิ่งจะมีความรู้น้อยลงๆทุกที ยังจําความรู้สึกตัวเองได้ และเขียนไปคัดค้านเมื่อทราบว่า ทางสนามมวยห้ามลูก ไถนา ด้วยเหตุผลว่า มันอันตรายเกินไป ทั้งๆที่มีครูมวยคนอื่นออกมาโต้ว่า ลูกไถนานั้นแก้ได้ไม่ยาก พ่อเคยบอกว่า ในมวยไทย ไม่มีอาวุธอะไรที่จะเป็น "ที่สุด" อาวุธทุกลูกเมื่อมีลูกทําก็มีลูกแก้ หลายสิบปีให้หลังได้ยินครูบอกว่า ทุกลูกถ้าโดนจังๆน๊อกเขาได้ ก็เป็นไม้ตาย แค่ถ้าไม่โดนเขาก็ไม่ใช่ไม้ตาย คนในวงการมวยทั้งโปรโมเต้อร์ ทั้งที่เมืองไทย และอเมริกา ครูมวยหลายๆคน ก็ออกมาวิจารณ์ และชี้ความด้อยภูมิ และความขี้ขลาดของฝรั่งที่ มาห้ามมวยไทยใช้ศอก และห้ามตีเข่าเข้าหน้า ทําให้จํากัดอาวุธมวยไทแต่เรากลับไม่ดูตัวเองว่า เราก็ทําอย่างนั้นเหมือนกัน คนฝึก mixed martial arts ทุกคน ต้องฝึกมวยไทยร่วมไปด้วย เพราะมวยไทยเป็นหนึ่งในวิชาการต่อสู้ที่แกร่งของโลก ค่ายมวยไทยมักมีฝรั่ง มาฝึกมวยไทยเพื่อชกในรายการ แบบ ufs หรือ k-1เสมอ พวกเพื่อนครูมวยหลายคนก็มี Muay Thai tour to Thailand กันเป็นประจํา แต่ละกรุ๊ป ก็ไม่ตํากว่าสิบคนขึ้นไป พวกเขาจะไปชม พระบรมหาราชวัง วัดพระแก้ว ไปอยุธยา ไปตลาดนํา ไปดูมวยที่สนามลุมพินี หือไม่ก็ ราชดําเนิน ไปซ้อมมวยที่ค่ายมวยไทย สอง-สาม วัน และบางคนอาจขอให้จัดชก ซึ่งส่วนมาก็ เป็นการชกตามต่างจังหวัด ที่เขาไปซ้อมอยู่ - นี่ไง ความภาคภูมิใจที่ว่า I have trained and fought in Thailand และพวกเขาจะไม่ลืมซื้อหรือสั่งตัดกางเกงมวยที่ปักชื่อเขา กางเกงมวยที่เป็นโลโก้ เครื่องดื่มบํารุงกําลัง โก้เป็นบ้าเวลาใส่ซ้อมอยู่ในยิมที่อเมริกา จากคุณ : ขลุ่ย - [ 18 มี.ค. 48 23:55:12 A:198.81.26.73 X: ]

ความคิดเห็นที่ 64 และการแสดงศิลปแม่ไม้มวยไทยก็กลายเป็นการโชว์"ขโมยซีน"ประจำวันไปแล้วสังเกตุได้จากเสียงโห่ร้องของบรรดาชาวต่างชาติภายหลังจากการแสดงจบ ทว่ากลัยแฟนมวยชาวไทยเองกลับรู้สึกอยากให้การแสดงขั้นคู่เอกแบบนี้จบเร็วๆ เพราะจะได้รีบเล่นคู่เอกต่อไป นับเป้นเรื่องน่าเศร้าของมวยไทยในปัจจุบันที่ถูกบรรดาเซียนชี้นำและปั่นผลแพ้ชนะจนสถานภาพของมวยไทย ไม่ต่างอะไรไปจากเกมส์การพนัน กลายเป้นเรื่องให้คนนอกวงการเขาดูถูกบ่อยๆว่ามวยไทย โลวคลาส แถมเป็นพวกนักเลงมีอิทธิพลอีก จากคุณ : รู้ดี - [ 19 มี.ค. 48 01:14:56 A:61.90.45.31 X: ]

ความคิดเห็นที่ 65 หวังว่าสักวันมวยไทยจะแก้กฎกติกาให้เป็นเหมือนเดิมอีกครั้งเพื่อเพิ่มเขี้ยวเล็บให้แก่เรานักสู้ในสังเวียน ไว้ต่อกรกับวิชาศิลปะการต่อสู้อื่นๆ ก้าวไกลเองชก K-1 ก็เคยไปยินข่าวว่าจะลงแข่งในกฏแบบ Mix-matial Art ซึ่งไม่ห้ามการทุ่มล้ม หักล๊อค หากไม่เคยได้ฝึกการต่อสู้แบบนี้ เพราะกติกามวยไทยบังคับแล้วคงยากที่จะสู้ได้นะครับ จากคุณ : PGP - [ 19 มี.ค. 48 03:48:58 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ทำไมทางการไม่ผลักดันมวยไทยเราให้มากกว่านี้นะ ดูอย่าง ญี่ปุ่น หรือ เกาหลี ซิครับ เขาผลักดันจนเป็นที่รู้จักไปทั่ว เฮอ! จากคุณ : พยัคฆ์สมุทร - [ 21 มี.ค. 48 16:57:48 A:61.90.42.135 X: ]

ความคิดเห็นที่ 67 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปดูมวยรายการสมัครเล่นเล็กๆที่จัด ณ ค่ายมวยเพื่อน งานนี้มีการโชว์กระบี่กระบอง และมวยโบราณด้วย การโชว์พิเศษนี้จะเป้นการ "อุ่นเครื่อง" เพื่อไปโชว์ในงานจริง วันอาทิตย์ที่สาม ที่ฮอลลิวูด ทางการจะปิดถนนฮอลลิวูดให้สาม-สี่ บล๊อก เพื่อให้จัดงาน Thai New Year Festival และให้ทางกลุ่มครูมวยจัดรายการไปโชว์ มีมวยโบราณแสดงโดย อดีตนักมวย ฝาแฝด สุริยัน-สุริยา ซึ่งปัจจุบันสอนมวยอยู่แถว ซาน เบอร์นาดีโน (โคตรไกล) คู่นี้ แสดงได้ดีพอสมควร แต่จะให้ถามว่าถูกต้องเป๊ะไหม ก็ต้องตอบว่า ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ได้กลิ่นอายมวยไทยโบราณแน่นอน ตั้งแต่การไหว้ครูที่สวยงามไปจนกระทั่ง หนุมานเหยียบลงกา ซึ่งเป็นท่าโชว์สุดท้าย ที่ผมอยากจะมาคุยวันนี้ ก็การโชว์ฟันดาบครับ เป็นเด็กฝรั่งทั้งคู่ อายุไม่เกิน สิบสาม-สิบสี่ ครูเขาก็ฝรั่ง-ซึ่งเรียนมาจากครูฝรั่งอีกคน-ซึ่งเรียนมาจากครูฝรั่งอีกคน-ซึ่งเรียนมาจากสํานักพุทไธสวรรค์ เขาสุภาพนอบน้อม และออกตัวว่า ถ้ามีอะไรดีๆกว่าที่เขาสอนให้ลูกศิษย์แสดง ก็ขอให้แนะนําด้วย ถ้าเทียบกับนักดาบจริงๆที่แสดงกันตามร้านอาหารขายนักท่องเที่ยวในกรุงเทพ ก็คงยังห่างกันไกล แต่ผมกลับดูเด็กคู่นี้แสดงแล้วแน่นจุกในลําคอ ด้วยความตื้นตันและลิ่งโลดว่า แม้เขาจะยังทําได้ไม่ดีนัก แต่เขาทําได้ อีกทั้งยังภูมิใจที่เห็น มรดกของเรา ได้รับความสนใจจากต่างชาติ ด้วยสายตาของคนดูเป็นจะเห็นว่า การฝึกฝนซําซาก จนคล่องตัวทําให้การแสดงแม้ฝีมือจะยังอ่อนด้อยอยู่ แต่ กลับกลมกลืนดูไม่ขัดตา เมื่อฟันดาบคู่แล้วเขาสู่กันด้วยไม้พลองยาว ผมกําลังจะไปเอาไม้สั้นที่เคยเล่นอยู่และเก็บไว้ที่ค่ายมวยเพื่อนเมื่อหลายปีก่อน ไปให้เด็กคู่นี้ โดยอยากให้เด็กผู้หญิงซึ่งตัวเล็กกว่า หัดไม้สั้นไว้สู้กับไม่ยาว ครับ เราก็ทํากันไปโดยไม่มีค่าจ้างหรือผลประโยชน์ส่วนตัว เราทุกคนที่นี่ทําด้วยใจรัก จากคุณ : ขลุ่ย - [ 22 มี.ค. 48 23:47:12 A:64.12.116.71 X: ]

ความคิดเห็นที่ 68 กระทู้กำลังจะตกไปแล้ว อยากได้เรื่องราวของพี่ขลุ่ยที่พิมพ์มายาวเหยียดไว้ทั้งหมดจัง อยากขอเก็บเป็นสกู๊ปเรื่องประวัติของคิ๊กบ๊อกซิ่ง ได้ไหมครับ ผมจะทำลงเวปผมไว้ ให้คนที่ยังไม่เคยอ่าน หรือกระทู้นี้อาจตกไปแล้วได้อ่านได้ ไม่ทราบคุณพี่ขลุ่ยจะอนุญาติไหมครับ แล้วถ้าไปงานThai New Year Festival ที่จะจัดมา ช่วยมาเล่าต่อด้วยนะครับ กระทู้ใหม่ก็ได้ http://www.geocities.com/thailandfight จากคุณ : j - [ 23 มี.ค. 48 12:47:46 A:203.152.8.20 X: ]

ความคิดเห็นที่ 69 ยินดีครับ และรู้สึกเป็นเกียรติเสียด้วยซํา ถ้าเรื่องที่ผมเล่าจะสามารถเป็นประโยชน์ หรือให้ความบันเทิงกับคนอื่นต่อๆไปได้ แต่ต้องออกตัวก่อนนะครับว่า ผมเขียนจากความทรงจําและประสบการณ์ที่ตัวเองเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นๆ ซึ่งไม่ใช่วิชาการอะไร และตัวสะกดของผมก็มีผิดๆให้น่าอับอาย จากคุณ : ขลุ่ย - [ 24 มี.ค. 48 00:28:19 A:198.81.26.39 X: ]

ความคิดเห็นที่ 70 อืมถ้าได้มาอ่านเมื่อสมัย 2-3 ปีก่อนคงจะได้เยอะกว่านี้นะครับ กระทู้เก่าๆก่อนที่จะโดนลบไปมีเรื่องเหล่านี้เยอะมากๆเลย ตัวผมเองมีเก็บไว้อยู่ครับ ถ้าอยากได้ก็ส่งให้ได้นะครับ จากคุณ : PGP - [ 25 มี.ค. 48 17:12:34 A:210.213.10.193 X: ]

ความคิดเห็นที่ 71 ว่าแต่เวปคุณ pgp ชื่อเวปอะไรนะครับผมจะทำลิ้งค์จากเวปผมไปหาด้วย ส่งมาเมลผมได้เลยครับ thailandfight@yahoo.com ขอบคุณครับ (สุดยอดเลย2-3ปีแล้วยังเก็บไว้) จากคุณ : j - [ 25 มี.ค. 48 18:47:29 A:203.152.17.118 X: ]

ความคิดเห็นที่ 72 ผมเองไม่มีเวปหรอกนะครับ แต่ก็ฝากเวปนี้ไว้ละกันนะครับ www.muaychaiya.com ครับ ส่วนเรื่องกระทู้ก็เป็นเพราะกระทู้เหล่านั้นแหละครับ ทำให้ผมได้มาพบเจอกับมวยไชยาในปัจจุบันครับ เสียดายเก็บไว้ได้ไม่หมดครับ สมัยก่อนคุยกันสนุกมากครับ เดียวผมส่งไปให้ชมละกันนะครับ พอดีตอนนี้เล่นนอกบ้านนะครับ ก็ลองอ่านแล้วนำมาเรียบเรียงดูครับอาจจะได้หลายบทความรับ ^_^ จากคุณ : PGP - [ 25 มี.ค. 48 19:24:45 A:210.213.10.193 X: ]

ความคิดเห็นที่ 73 คิดว่าอยากจะนำเอากระทู้เก่าขึ้นมาโพสแล้วเก็บไว้อีกรอบจะดีมั้ยครับเนี่ย เผื่อไว้ว่าเครื่องเกืดมีปัญหาแล้วมันหายไปก็เสียดายพอสมควรเหมือนกันครับ แต่จะมีใครว่าผมมั้ยเนี่ย เอาของเก่ามา Remake เนี่ย จากคุณ : PGP - [ 25 มี.ค. 48 23:22:18 A:61.90.106.66 X: ]

ความคิดเห็นที่ 74 ผมก็เหมือนกันครับ มารู้จักมวยไชยาก็จากกระทู้ซื่อๆที่เข้ามาถามเรื่องหลังสวน พันธ์ยุทธภูมิ นั่นแหละ จนตัวเองได้มีโอกาสกลับเมืองไทยและฝึกมวยไชยาจริงๆ หลายๆอย่างที่เคยแคลงใจ หรือหาคําตอบไม่ได้ ก็มากระจ่างตอนนั้นเองจากการได้รู้จักมวยไทยเต็มรูปแบบสายไชยา ส่วนเรื่องต่างๆที่เราเคยคุยกันไว้ตอนนั้น ก็น่าสนใจทั้งนั้นนะผมว่า จากคุณ : ขลุ่ย - [ 25 มี.ค. 48 23:29:12 A:207.200.116.68 X: ]

ความคิดเห็นที่ 75 โอ้พี่ขลุ่ยมาพอดีเลยครับ เมื่อตอนนั้นผมเองยังเป็นแค่คนนั่งฟังอยู่ข้างๆครับ ก็ได้พวกพี่ๆนี่แหละคุยให้ได้ความรู้ครับ อยากจะนำพวกเค้ากลับมาคุยด้วยกันจังเลยนะครับผม ยังไงเดียวผมลองนำกระทู้เก่าสักอันนึงมาลงใหม่ครบทั้งฉบับเลยดีมั้ยครับ ถ้าไม่มีใครว่าอะไรจะได้ค่อยๆเอามาลง เพราะแต่ก่อนก็คุยกันยาวเหมือนกันนะเนี่ย จากคุณ : PGP - [ 25 มี.ค. 48 23:37:50 A:61.90.16.49 X: ]

ความคิดเห็นที่ 76 ผมรักมวยไทยมากๆ อยากเรียนมั่งครับ แต่ผมเข่าไม่ดี วิ่งหรืองอเข่าแบบเร็วๆจะขากระตุก เสียดายจัง จากคุณ : ่j - [ 26 มี.ค. 48 18:59:04 A:202.28.76.239 X: ]

ความคิดเห็นที่ 77 ลองมาซ้อมดูก่อนก็ได้ครับ มวยไทยจริงๆก็ไม่ได้จำเป็นต้องแรงมากขนาดนั้นถ้าไม่ได้ฝึกเพื่อไปแข่งขันนะครับ ครูนิลปักษี ครูมวยไชยาท่านขาพิการข้างนึงยังฝึกได้เลยนะครับ จากคุณ : PGP - [ 27 มี.ค. 48 09:28:37 A:61.90.106.7 X: ]