PANTIP.COM : S3360311 เฮย์เซล 29 พฤษภาคม 2528 โศกนาฏกรรมที่ไม่มีวันลืม... [ฟุตบอล]

เฮย์เซล 29 พฤษภาคม 2528 โศกนาฏกรรมที่ไม่มีวันลืม...

http://www.liverpoolthailand.com/read.php?sid=45

เวลาบ่าย 3 โมง 6 นาที ในวันที่ 15 เมษายนของทุกปี แฟนลิเวอร์พูลหลายพันคนทั่วโลกพร้อมใจกันหยุดกิจวัตรประจำวันของตนเพื่อยืนสงบนิ่งและไว้อาลัยให้กับแฟนบอล 96 คนที่เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมที่สนามฮิลส์โบโร่ในปี 2532 .......
เฮย์เซล 29 พฤษภาคม 2528 โศกนาฏกรรมที่ไม่มีวันลืม

เวลาบ่าย 3 โมง 6 นาที ในวันที่ 15 เมษายนของทุกปี แฟนลิเวอร์พูลหลายพันคนทั่วโลกพร้อมใจกันหยุดกิจวัตรประจำวันของตนเพื่อยืนสงบนิ่งและไว้อาลัยให้กับแฟนบอล 96 คนที่เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมที่สนามฮิลส์โบโร่ในปี 2532

นับเป็นวันแห่งความโศกเศร้าสำหรับแฟนบอลลิเวอร์พูลจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตาม แฟนบอลทั้งหลายไม่ได้ร่วมกันยืนสงบนิ่งเพื่อไว้อาลัยให้กับแฟนบอลที่ไม่มีวันเดินกลับออกมาจากสนามฟุตบอลเพียงวันนี้วันเดียวเท่านั้น

หากวันที่15 เมษายน คืนวันแห่งความเศร้าโศกที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรลิเวอร์พูลแล้ว วันที่ 29 พฤษภาคมก็นับว่าเป็นวันแห่งความอื้อฉาวที่สุด วันนี้เมื่อ 18ปีที่แล้ว แฟนบอล 39 คนต้องสังเวยชีวิตหลังจากที่กำแพงถล่มลงมาทับ ณ สนามเฮย์เซลในประเทศเบลเยี่ยม แทนที่จะกลายเป็นวันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร กลับกลายเป็นฝันร้าย แทนที่เราจะได้เดินทางกลับจากกรุงบรัซเซลพร้อมกับแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพสมัยที่ 5 สาวกลิเวอร์พูลกลับต้องเดินทางสู่ประเทศอังกฤษพร้อมภาพการสังเวยชีวิตของแฟนบอลชาวอิตาเลียน 38 คนและแฟนบอลชาวเบลเยี่ยมอีก 1 ชีวิต

ลิเวอร์พูลไม่เห็นด้วยเรื่องสนามที่จะใช้จัดการแข่งขันฟุตบอลรอบชิงชนะเลิศนัดนี้ ก่อนที่กลุ่มแฟนบอลที่แสดงความเป็นมิตรอยู่ภายนอกเริ่มก่อความวุ่นวายภายในสนาม นอกจากข้อเท็จจริงที่ว่าอัฒจันทร์เริ่มจะพังตัวลงมาแล้วนั้น ลิเวอร์พูลยังกังวลเป็นอย่างมากเรื่องที่นั่งที่จัดไว้สำหรับแฟนบอลชาวเบลเยี่ยมที่เข้ามาชมเกมแต่ไม่ได้เชียร์ทีมใด ลิเวอร์พูลแย้งว่า แฟนบอลลิเวอร์พูลและยูเวนตุสเท่านั้นที่ควรจะได้สิทธิ์ซื้อตั๋วเข้าชมการแข่งขัน การแบ่งที่นั่นสำหรับแฟนบอลที่ไม่ได้เชียร์ทีมใดเลยนั้น เปิดโอกาสให้แฟนบอลชาวเบลเยี่ยมนำตั๋วผีออกมาขาย ซึ่งจะทำให้ที่นั่งนั้นมั่วฝ่ายกัน ซึ่งภายหลังได้รับการตรวจสอบแล้วว่าที่นั่งสำหรับแฟนบอลที่เป็นกลางนั้นเต็มไปด้วยแฟนบอลชาวอิตาเลียนทั้งหมด

หนึ่งชั่วโมงก่อนจะเริ่มเกม ความดุเดือดในสนามก็เริ่มสร้างปัญหาขึ้น แฟนบอลทั้งสองฝ่ายตะโกนยั่วโมโหกันไปมาผ่านรั้วลวดที่กั้นอยู่อย่างไม่แข็งแรงนัก หลังจากที่แฟนบอลฝั่งลิเวอร์พูลโดนปาสิ่งของกระหน่ำใส่ แฟนลิเวอร์พูลบางส่วนก็เข้าโจมตีแฟนบอลชาวอิตาเลียน เมื่อความวุ่นวายในสนามควบคุมไม่อยู่แล้ว แฟนยูเวนตุสก็รีบหนีไปทางกำแพงซึ่งได้พังทลายลงมาทับร่างของพวกเขา แฟนบอล 39 รายเสียชีวิตอยู่ตรงนั้นเอง

คืนวันนั้น ยูเวนตุสคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยนคัพด้วยการคว้าชัยชนะ 1-0 แต่การแข่งขันในนัดนั้น กลับไม่มีใครอยากจดจำ

เคนนี่ ดัลกลิช ผู้เล่นยอดเยี่ยมตลอดกาลของลิเวอร์พูลเองก็เช่นกัน เขาไม่มีวันลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเบลเยี่ยมคืนนั้น

“ผมไม่สามารถโยนความผิดให้แฟนลิเวอร์พูลได้ เมื่อฝ่ายตรงข้ามปาสิ่งของเข้าทำร้ายคุณ เป็นเรื่องยากที่คุณจะอยู่เฉยๆได้” ดัลกลิชรำลึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “ข้อเท็จจริงจะบอกกับเราเองว่า ผู้เสียชีวิตดังกล่าวไม่ได้มาจากการกระทำของแฟนบอลลิเวอร์พูล หากปีที่แล้วคุณโดนใครปาก้อนหินเข้าใส่ คุณก็คงไม่ปล่อยให้เขาทำอย่างนั้นกับคุณอีกครั้งหรอก ปัญหาครั้งนี้เกิดขึ้นจากจุดนี้แหละ”

ดัลกลิชยอมรับว่า นักเตะลิเวอร์พูลเองไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในสนามแข่งขัน จนกระทั่งเช้าวันต่อมา

“เราเห็นแฟนบอลอิตาเลียนร้องไห้และรุมเข้าทุบรถบัสของเราตอนที่เราเดินทางออกจากโรงแรม” ดัลกลิชเล่าต่อ “ตอนที่เราออกจากบรัซเซลนั้น แฟนบอลอิตาเลียนโกรธแค้นมาก ผมเข้าใจดี เพราะเพื่อนของเขาอีก 39 ชีวิตต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับ ตำรวจจำนวนมากต้องเข้ามาคุ้มกันเรา ผมจำภาพแฟนบอลคนหนึ่งซึ่งเงยหน้ามาทางหน้าต่างตรงที่ผมนั่งอยู่ได้ เขาร้องไห้และส่งเสียงตะโกน คุณย่อมสงสารไม่ว่าใครก็ตามที่ต้องสูญเสียใครสักคนไปในเหตุการณ์แบบนั้น”

“คุณเข้าไปดูการแข่งขัน คุณคงไม่คาดว่าจะต้องเจอกับเหตุการณ์อย่างนั้นหรอก ใช่ไหม ฟุตบอลไม่ได้สำคัญถึงขนาดต้องแลกด้วยชีวิตหรอก ฟุตบอลไม่ได้มีค่ามากมายขนาดนั้นถึงขนาดทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เหลืออยู่ไร้ค่าลงไป แฟนยูเวนตุสไม่น่าปาก้อนหิน แฟนลิเวอร์พูลก็ไม่น่าโต้ตอบรุนแรงแบบนั้น แฟนบอลทั้ง 2 ฝ่ายก็คงไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น หากพวกเขารู้ว่าจะเกิดผลร้ายอะไรตามมา ผมแน่ใจว่า คงไม่มีแฟนบอลอิตาเลียนคนใดปาก้อนหินและแฟนลิเวอร์พูลเองก็คงไม่โต้ตอบกลับไปเช่นกัน ตอนนี้ต่างฝ่ายต่างก็คงเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมแน่ใจ

ปีเตอร์ โรบินสัน รองประธานฝ่ายบริหารของสโมสรในขณะนั้นได้ออกมาเตือนก่อนแล้ว่า อาจมีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นได้หากเกมนี้จัดขึ้นที่สนามเฮย์เซล โชคร้าย ที่คำพูดของเขาเป็นความจริง “เป็นเรื่องที่น่าหวาดผวาเหลือเกิน” โรบินสันกล่าว

29 พฤษภาคมเป็นวันที่จะอยู่ในความทรงจำของแฟนบอลลิเวอร์พูลและยูเวนตุส ขอเวลาเพียง 1 นาทีรำลึกถึงผู้ที่จากไปจากเหตุการณ์ที่เฮย์เซล และร่วมกันภาวนาว่า เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก

แปลโดย : dana_aphrodite
แปลจาก HEYSEL MAY 29th 1985 : A DAY NEVER TO BE FORGOTTEN
ที่มาhttp://www.liverpoolfc.tv/lfc_story/heysel/

จากคุณ : 17gerrard - [ 18 มี.ค. 48 21:31:36 ]

ความคิดเห็นที่ 28

IAN RUSH...THE SERIES Chapter XII: หลั่งน้ำตาที่บรัสเซล

วันพุธที่ 29 พฤษภาคม ปี 1985 เป็นวันแห่งความทรงจำอันร้ายกาจที่สุดในชีวิตของเขา เอียนรัช อย่างที่เรียกได้ว่าตราตรึงมิลืมเลือนเป็นที่แน่นอนตราบใดที่ยังคงมีชีวิตอยู่ในฐานะมนุษย์คนนึงในโลกใบนี้
เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเหตุการณ์ร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่เอียรัชเริ่มเล่นฟุตบอลมาเลยก็ว่าได้ วันนี้มารฟ้าพญาหงส์ขอรำลึกเหตุการณ์ครั้งนั้น โดยผ่านตัวเอียรัช ผู้ซึ่งเป็นถือได้ว่าเป็นพยานคนสำคัญให้กับเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งนี้

ที่เบลเยี่ยม กรุงบรัสเซลส์ตอนหัวค่ำ ที่ท้องฟ้าดูเหมือนว่าจะธรรมดาไม่ได้บอกลางสังหรณ์ใดๆมาให้รับรู้เลยว่าจะมีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น

อาทิตย์นึงก่อนหน้าที่เหตุการณ์ครั้งนี้จะเกิดขึ้น เอียรัชได้รับบาดเจ็บในการแข่งบอลลีคกับทีมคู่รักคู่แค้น เอเวอร์ตั้น เอียนรัชบาดเจ็บที่แขน จากอาการบาดเจ็ดที่แขนครั้งนี้ ทำให้รัชต้องงดซ้อมไปโดยปริยายจนเหลือเพียงแค่ 1 วันก่อนเดินทางไป บรัสเซลส์เพื่อแข่งขันรอบชิงชนะเลิศยูโรเปี้ยนคัพ ทีมหงส์แดงนัดซ้อมใหญ่กัน ซึ่งจะเรียกว่าเป็นคราวเคราะห์หรือเป็นสัญญานเตือนอะไรซักอย่างหรือไม่นั้น ตัวรัชเองไม่มั่นใจ แต่ที่รู้คือ แขนค่อยยังชั่วขึ้นแล้ว ขณะที่กำลังลงซ้อมเบาๆ ก็เอาผ้ามาทำเป็นห่วงคล้องคอไว้ โจ แฟแกนตั้งใจจะให้รัชเล่นในนัดนี้ จู่ๆเคนนี่ดัลกลิช ก็เตะบอลมาเข้าทางแขนข้างที่เจ็บของรัชอย่างแรง เล่นเอากระดูกข้อมือแตก เขาคงไม่ได้ตั้งใจหรอก แต่คนมันซวยช่วยไม่ได้ แต่หากว่าฟุตบอลนัดนี้ไม่ใช่รอบชิงยูโรเปี่ยนคัพ รัชคงจะนอนอยู่บ้านรักษาตัว แต่นี่มันเป็นนัดสำคัญซึ่งต่อให้ขาหัก หัวแตก หรือพิการก็ต้องลงเล่นเป็น 11 ตัวแรกให้จงได้

ช่วงนี้ทางทีมหงส์แดงมีข่าวลือหนาหูว่า โจแฟแก่นจะวางมือจากทีม หลีกทางให้คนอื่นมาทำต่อ เล่นเอาลูกทีมใจหายไปนิดหน่อย แต่ก็ไม่แปลกแตกต่างมากมายอะไรนัก ก็อย่างที่บอกนั่นแหล่ะ ที่แอนฟิลด์ไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทุกสิ่งทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม ระบบต่างๆก็คงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งคนที่เป็นตัวเต็งจ๋าอันว่าด้วยการจะมาทำทีมต่อคือ เคนนี่ ดัลกลิชนั่นเอง

กลับมาพูดถึง บรัสเซลส์อีกครั้งก่อนจะข้ามหัวข้อไปผิดประเด็นไป ขบวนรถโดยสารของหงส์แดงมุ่งสู่เฮย์เซล สเตเดี่ยม ท่ามกลางฝูงแฟนบอล สีขาวและแดง เพราะนัดนั้นเป็นรอบชิงชนะเลิศยูโรเปี้ยนคัพ ระหว่างหงส์แดงและม้าลายยูเวนตุส แต่สิ่งที่น่าแปลกใจอย่างมากมายคือ ทำไมเจ้าภาพคิดอะไรอยู่ถึงได้จัดให้แฟนบอลเดอะค๊อปนั่งอยู่ฝั่งเดียวกับ แฟนบอลอิตาเลี่ยน แบบนี้มันส่อไปในทางว่า อาจจะมีเรื่องมีราวกันเกิดขึ้นได้

ก่อนการแข่งขันคู่เอกระหว่างหงส์แดงปะทะม้าลายนั้น ทางเจ้าภาพได้จัดให้มีคู่เด็กอายุ 11 ปีของเบลเยี่ยม เตะเปิดสนามกันก่อน เรียกเสียงฮาได้พอควร เหล่านักเตะหงส์แดงก็ยืนดูฝีไม้ลายมือของเด็กเหล่านั้นก่อนจะเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวกัน เด็กๆสนุกสนานกันมาก และน่าจะเป็นสิ่งที่เด็กควรจะมีภาพความทรงจำอันดีเลิศไปอีกนาน กับการได้ลงเตะต่อหน้าแฟนบอลระดับยูโรเปี้ยน ถ้าไม่เกิดเหตุการสยองขวัญขึ้นเสียก่อน หลังจากแข่งบอลคู่แรกเสร็จ เด็กๆเหล่านี้ก็จะไปยืนเรียงรายอยู่หน้าอัฒจันทร์ทำหน้าที่เก็บบอล ซึ่งกลายเป็นโศกนาฎกรรมที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นเลยจริงกๆ

เจ้าภาพได้จัดเตรียมห้องไว้ให้นักเตะหงส์แดงเปลี่ยนเสื้อผ้าซึ่งร้อนนรกมากมาย จนลูกทีมบางคนต้องเปิดหน้าต่างไปรับลมจากภายนอก ซึ่งจากช่องหน้าต่างนี่เองที่ทำให้นักเตะหงส์แดงได้เห็นเหตุการณ์ต่างๆอย่างชัดเจน ความน่ากลัวปรากฎขึ้นจนได้ เมื่ออัฒจันทร์ด้านหนึ่งพังลงมา ทับเด็กเก็บบอลอายุ 11 ที่มารฟ้าได้กล่าวไว้เบื้องต้น เสียชีวิตทันที 1 คน พร้อมเสียงตะโกนด่าทอของกองเชียร์ทั้งสองฝ่าย เอียนรัชยอมรับว่าตัวเองตกใจมากๆกับเหตุการณ์ที่เห็นอยู่นั้น ไม่เพียงแต่ พ่อ แฟน และพี่ชายของรัช ก็ต่างมาดูในสนามด้วย อาจจะได้รับบาดเจ็บ แต่ เมื่อภาพคนเป็นร้อยเป็นพันร่วงลงมาจากอัฒจันทร์ที่พังลงมา รัชตื่นตระหนกมา รีบวิ่งออกไปดูเหตุการณ์ข้างนอก เหล่าผู้ชมเคราะห์ร้ายที่นั่งอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ ต่างร่วงทับกันเป็นจำนวนมาก เลือดสดๆ พร่างพรู เจิ่งนอง บางคนนอนแน่นิ่ง เหตุการณ์ครั้งนี้ บานปลายจนถึงขั้นมีคนตายอย่างแน่นอน

เหตุการณ์กำลังดำเนินไปอย่างเลวร้ายมากๆ เล่นเอานักเตะหลายๆคนถึงกลับหนีไปทำใจในห้องพักอีกรอบ รวมไปถึงตัวรัชเอง ที่ภาพผู้เคราะห์ร้ายทั้งหลายฝังเข้าไปอยู่ในทุกห้วงของสมอง เล่นเอาหมดความรู้สึกอยากเล่นบอลไปเลยในนัดนี้ เจ้าหน้าที่พยาบาลต่างๆของสนามเริ่มลำเลียงผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บออกไปส่งโรงพยาบาล เสียงคร่ำครวญดังปะปนกันไปหมดจนรัชได้ยินเสียงนั้นตลอดเวลา เหตุการณ์มันดูเลวร้ายมากจนหน้าต่างที่เราเปิดอยู่ในห้อง ต้องมีใครบางคนปิดมันลงเพื่อให้เราไม่เป็นลมกันไปก่อน ลูกทีมหงส์แดงทุกคนนั่งเงียบกันหมดในห้องแต่งตัวกว่าชั่วโมง ไม่มีใครพูดอะไร ไม่มีใครขยับหรือกระทำการใดๆ รัชมั่นใจว่า วันนั้น หากสามารถยกเลิกการแข่งขันได้ นักเตะหงส์แดงทุกคนคงพร้อมใจกันโหวตให้ล้มเลิกซะ แต่ ด้วยคำสั่งของยูฟ่าให้ลงสนามทำการแข่งขันให้เสร็จสิ้น เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจจะนำไปสู่ความรุนแรงมากขึ้นของแฟนบอล นักเตะทุกคนจึงต้องจำใจเดินลงสนามไป แต่ในแบบฉบับที่เรียกได้ว่า ซากศพเลยก็ว่าได้ ทุกคนเดินแบบไร้วิญญาน

วันนั้นหงส์แดงแพ้ ยูเวนตุส สูญเสียตำแหน่งแชมป์ไป ในถ้วยใบใหญ่ที่สุดของยุโรปใบนี้ ด้วยลูกโทษของพลาตีนี่ จริงแล้ว รัชคิดว่าลูกนั้นไม่สมควรเป็นจุดโทษเลยด้วยซ้ำ เพราะเป็นการฟาวล์ที่เกิดขึ้นนอกเขต แต่ก็ไม่มีใครในทีมเข้าไปประท้วงกรรมการ เนื่องด้วยเหตุผลที่ว่า การแพ้หรือชนะในวันนี้ไม่มีความหมายใดๆสำหรับหงส์แดงอีกแล้ว ในเมื่อต้องมาเจอสภาพสถานการณ์ที่มีคนตายมากมายขนาดนี้ขึ้น

รัชได้มีโอกาสดูวีดีโอการแข่งขันนัดนี้ภายหลัง เขาไม่เข้าใจเลยว่า ทาร์เดลลี่ ของยูเวนตุสต้องดึงเสื้อรัชจนขาดวิ่นไม่พอยังอัดศอกเข้าที่หน้ารัชอย่างจงใจ (ดูจากภาพแล้วรัชมั่นใจว่าจงใจแน่ๆ) ทำไมนักเตะยูเว่ถึงต้องเล่นแบบนี้ในสถานการณ์แบบนี้ด้วย มันจะยิ่งทำให้เรื่องลุกลากใหญ่โตจากที่มันย่ำแย่ขนาดนี้แล้วไม่ใช่เหรอ? จริงๆแล้วรัชมีความเห็นว่า นักฟุตบอลทั้ง 22 คนในสนามน่าจะเล่นกันแบบขาวสะอาดเพื่อป้องกันไม่ให้กองเชียร์ทั้งสองมีปฎิกิริยาต่อกันกว่านี้

เหตุการณ์สุดแสนอัปยศที่กรุงบรัสเซลครั้งนี้ ตัวรัชเองไม่อยากจะโทษแฟนหงส์เลย ว่าเป็นต้นเหตุอย่างที่สื่อต้องการจะเขียนข่าวโจมตี แต่ รัชขอประนามพวกชนชั้นปลอมแปลงเข้ามาในชุดหงส์ แบร์รี่ เดวิสผู้บรรยายเกมระหว่างหงส์แดงและม้าลายของบีบีซี ได้ทรรศนะเกี่ยวกับเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า ฟุตบอลนัดนี้ไม่ใช่ ฟุตบอลเถื่อนไร้จรรยาบรรณ หากแต่ เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเพียงเพราะมีอันธพาลในสนามฟุตบอล ใครจะคาดคิดว่า สามีที่ลาภรรยามาดูฟุตบอลยูโรเปี่ยนคัพเกมสุดแสนศักดิ์สิทธิ์ ลูกที่ลาพ่อแม่มาดูหงส์แดงปะทะม้าลาย จะต้องมาพบจุดจบในสนามฟุตบอล ทุกครั้งที่รัชนึกถึงเหตุการณ์ร้ายครั้งนี้ เขาจะรู้สึกเซ็งโลกมาก เขาเป็นแค่คนธรรมดาที่มีฟุตบอลเป็นอาชีพ มันคุ้มกันแค่ไหน กับการที่คนเราเข้ามาดู เขาเล่นแล้วจะต้องจากครอบครัวอันเป็นที่รักไปตลอดกาล รัชเคยคิดด้วยว่า หงส์แดงหน้าจะตกรอบไปก่อนหน้านี้แล้วตอนแข่งกับพานาติไนกอสเสียยังจะดีกว่า หากสามารถทำให้เหตุการณ์ครั้งนี้ ไม่เป็นอย่างที่มันเป็นอยู่

และนี่คือรอบชิงครั้งสุดท้ายที่หงส์แดงได้มีโอกาสสัมผัสในถ้วยใบนี้ ใบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุโรป ถ้วยยูโรเปี้ยนคัพ หรือ UCL ในปัจจุบันนี้ หลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้ หงส์แดง ถูกแบนจากทุกๆถ้วยในยุโรปเป็นเวลาถึง 5 ปี จบความยิ่งใหญ่ของเรดแมชชีนผู้เขย่าบัลลังก์ยูโรเปี้ยนไว้แต่หนหลัง

จากคุณ : ต้นตาล พ.ล. - [ 19 มี.ค. 48 02:12:11 ]