CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    **ชนะเพราะหัวใจเป็นหนึ่งเดียวทั่วโลก** (วิเคราะห์เกมลิเวอร์พูล - เชลซี)

    นับเป็นสิบปีที่ผ่านมา..
    แฟนบอลลิเวอร์พูลทั่วโลกต้องเดินตัวลีบๆ เวลาชนะในแม็ทซ์สำคัญๆ ตอนแรกๆ ก็ชูมือตะโกนดังๆ พักหลังๆ แค่ชูมือแต่ไม่กล้าตะโกนดังๆ จนแฟนบอลทีมอื่นคิดว่า แค่ยกมือทักทาย ..สวัสดี สบายดีมั้ย..เมื่อคืนทีมชนะ..

    เหตุเพราะไม่ค่อยจะเชื่อมั่นว่า ทีมของตัวเองจะก้าวต่อไปในนัดหน้าอย่างไร แม้ชนะในนัดนี้แต่นัดหน้าก็ไม่มีความมั่นใจว่าจะทำได้อีก

    นั่นคือ.. ภาพของทีมลิเวอร์พูลและแฟนบอลเก่าแก่ที่เหนียวแน่น ไม่มีอะไรแน่นอน..ไม่มีอะไรคงเส้นคงวา ไม่ว่าจะเป็นถ้วยไหน สภาพเดียวกันตลอด

    แต่เมื่อคืนนี้..
    นักเตะลิเวอร์พูลได้สร้างสิ่งมหัศจรรย์ที่แฟนบอลทีมอื่นๆ ไม่คาดคิดมาก่อน นั่นคือ *เข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลสโมสรยุโรป ด้วยการเอาชนะทีมเต็งหนึ่งที่ไร้เทียมทานอย่างเชลซี*

    มาดูกันนะครับว่า พวกเขาทำได้อย่างไร..

    ประการแรก..
    นักเตะทั้งหมดของลิเวอร์พูลเมื่อคืนนี้ รวมพลังกันเป็นหนึ่งเดียว
    ไม่ใช่ไม่เคยเป็นมาก่อนนะครับ ทีมนี้เป็นทีมเดียวที่ผมซูฮกในเรื่องของหัวใจของนักเตะในฤดูกาลนี้ ย้ำว่า เฉพาะในฤดูกาลนี้เท่านั้นนะครับ ฤดูกาลก่อนๆ ทำท่าจะรวมใจ รวมพลัง แต่นักเตะบางคนไม่รวมด้วย เล่นเหมือนกลัวเจ็บ เล่นเหมือนพอใจผลงานแค่สอบผ่าน
    น่าดีใจที่นักเตะเหล่านั้นออกจากทีมไปขณะที่ทีมได้กุนซือคนใหม่ที่มีสปิริตดีที่สุดคนหนึ่ง คือ ราฟา เบนิเตซ

    ใครที่ดูผลงานของทีมนี้มาตลอดซีซั่นนี้ต้องยอมรับกับผมตรงนี้ว่า..
    นักเตะแต่ละคนของลิเวอร์พูล ไม่มีคนไหนเลยที่ไม่เคยเล่นอย่างเลวร้ายในฤดูกาลนี้ แต่ละคนมีแผลในหัวใจจากความไม่เอาไหนในบางนัดมาแล้วแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น ดูเด็ค..ตราโอเล่..ฮูเปีย..บารอส..คีเวลล์..การ์เซีย..นูเยซ..บีสคาน..ฮามันน์ แม้แต่จอมทัพอย่าง สตีเฟ่น เจอราร์ด ก็เล่นไม่เอาอ่าวด้วยในบางนัด

    นั่นทำให้ผลงานในถ้วยอื่นๆ ของพวกเขาไม่โดดเด่น แต่ถ้าดูแต่ละแม็ทซ์ ดูแต่ละข้อผิดพลาดของแต่ละคนแล้ว คุณอาจมองออกว่า ที่เป็นเช่นนั้น เพราะพวกเขาตั้งใจจนเกินพอดี อยากเล่นดี อยากชนะมากเกินไป

    นี่ผมยังไม่ได้พูดถึงราฟาเองนะครับ เขาเองก็เป็นส่วนหนึ่งของผู้ที่ตั้งใจมากเกินไปจนทำให้ทีมแกว่งในบางครั้งด้วย

    แต่นัดในแชมเปี้ยนลีกนี้ พวกเขาที่มีหัวใจเต็มร้อยอยู่แล้วไม่เคยทำเรื่องผิดพลาดอย่างมหันต์ให้เห็น ตั้งแต่ต้นเกมจนสิ้นสุดเสียงนกหวีด ผมยังไม่เห็นนักเตะของหงส์คนไหนเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานของเขาเลยสักคน
    เมื่อทุกคนเล่นได้เต็มมาตรฐานของเขาและมีหัวใจที่รวมพลังกันเช่นนี้ เขาก็ไม่สมควรจะต้องเป็นผู้แพ้

    ถ้าจะว่าไปแล้ว ผมก็อยากจะบอกว่า..
    ทีมลิเวอร์พูลทีมนี้..เฉพาะฤดูกาลนี้.. "เป็นทีมที่มีเกมรุกไม่เร้าใจที่สุดในบรรดาทีมใหญ่ๆ ในยุโรป แต่กลับเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดทีมหนึ่งในถนนสายยุโรป"

    นั่นคือ ผมไม่เคยประทับใจเกมรุกของพวกเขาเลยครับ แต่ประทับใจในผลงานของหัวใจที่พวกเขาสร้างขึ้น
    ..............................
    ประการที่สอง..
    แผนการเล่นที่เข้าทางลิเวอร์พูลมากกว่าเชลซี

    ถ้าพูดถึงเกมที่แล้ว พวกเขาก้เล่นแบบนี้แหละ คือ แพ็คกลางและหลังแน่นแล้วปล่อยหน้าลอย ผลคือ ต่างฝ่ายต่างยิงประตูไม่ได้
    มาเกมนี้ ลิเวอร์พูลเล่นเกมบุกแบบเต็มรูปแบบเพียงแค่ ๕ นาทีแรกเท่านั้นเอง
    เป็นห้านาทีแรกที่สนุกที่สุด เมื่อมิลาน บารอสมีซัพพอร์ตด้านหลังเขาสองตัวตลอดเวลาที่ลิเวอร์พูลลำเลียงบุก
    ซึ่งก็เป็นหนทางที่นำไปสู่การได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วนั่นเอง
    ถ้าเจอราร์ดไม่ดันขึ้นไปเล่นริมเส้นสูงเช่นนั้น ตรงกลาง(ผมไม่แน่ใจบิสคานหรือริซเซ่)ไม่เติมขึ้นมารับบอลแล้วชิ่งโด่งเข้าไปในเขตโทษให้บารอสชาร์จ และการ์เซียไม่วิ่งป้วนเปี้ยอยู่แถวหน้าประตู

    ลิเวอร์พูลอาจไม่ได้ขึ้นนำ
    ทั้งหลายทั้งปวงนี้มาจากการเติมขึ้นมาเล่นเกมรุกเต็มรูปแบบของกลางและหน้าเท่าที่มีอยู่ในสนาม
    แต่หลังจากนั้น.. ก็ถอยลงมาแพ็คกันตรงกลางและหลังแน่นตลอดทั้งเกม

    นี่แหละครับ ความสำคัญของการวางแผนการเล่น เมื่อคุณเล่นเกมรุกต้องรุกกันเต็มที่ ไม่ต้องพะวงเรื่องเสียประตู แต่เมื่อคุณได้ประตูที่ต้องการแล้ว เป็นหน้าที่ของฝ่ายตรงข้ามที่ต้องทุ่มเทขึ้นมาเอาคืน หน้าที่ของทีมรุกจบแล้ว นี่คือ แผนของลิเวอร์พูลในเกมนี้ เพราะการยิงเพิ่มเป็น ๒-๐ ยากมากๆ แต่การเสมอ ๑-๑ จะเกิดขึ้นได้ง่ายกว่า ดังนั้น..เมื่อต้องการแค่ลูกเดียวทั้งแม็ทซ์ จะไปเอาสองลูกทำไมในเมื่อมันยากกว่าน่ะ

    ทางด้านเชลซีวันนี้..
    ผมว่ามูรินโย่ไม่ได้นำการเสมอในเกมแรกมาปรับแผนการเล่นเกมรุกเลย รู้ทั้งรู้ว่า ลิเวอร์พูลนำแล้วต้องเล่นแพ็คกลางและหลัง ดังนั้น หน้าที่ของเขา คือ หาตัวฉีกผู้เล่นของลิเวอร์พูลไม่ให้กระจุกแน่นอยู่ตรงกลาง
    ผมไม่รู้ว่า เทียโก้ก็ดี เจเรมี่ก็ดี ทั้งฤดูกาลนี้พวกเขาทำหน้าที่อย่างที่ต้องการตรงนี้ได้หรือเปล่า? แต่ที่ผมรู้คือ ดัฟฟ์ กับร็อบเบนทำได้และทำให้เห็นมาแล้ว

    นั่นคือ..มูรินโย่จัดผู้เล่น ๑๑ คนแรกไม่ได้ผิดอะไรหรอก แต่เมื่อถูกยิงนำและเขาต้องการแค่ประตูเดียวก็จะพาทีมเข้ารอบชิง เขาต้องเปลี่ยนแผนและผู้เล่นแนวรุกในทันที

    สิ่งที่รบกวนใจมูรินโย่ให้ไม่กล้าเปลี่ยนแปลงทีม คือ "นี่มันเพิ่ง ๕ นาทีเท่านั้นเอง" ยังเร็วเกินไปที่เขาจะเปลี่ยนผู้เล่นทีเดียวสองคนเป็นอย่างน้อย
    แต่เมื่อเวลาผ่านไปจนหมดครึ่งแรกแล้ว เขาไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ อีก การเข้ามาของร็อบเบนช้าเกินไป อย่าลืมว่า เขาเป้นผู้เล่นที่พักไปนาน และได้ลงเล่นน้อย ต้องการการวอร์มอัพพอสมควร ไม่ใช่เปิดปุ๊บติดปั๊บเหมือนช่วงต้นฤดู

    อีกกรณีหนึ่งที่ผมไม่เห็นด้วยกับมูรินโย่ คือ การใส่เคซมันลงไปแทนโจ โคล
    ผมว่าโคล เป็นผู้เล่นคนหนึ่งที่ฉีกแนวรับของลิเวอร์พูลให้ถ่างออกได้ดี และยังมีความสามารถในการพาลูกไปยิงเองได้ด้วย ในขณะที่เคซมันเป็นสไตล์เดียวกับดร็อกบาที่รอฉวยจังหวะที่หน้าประตู ไม่ใช่ผู้เล่นปีกอาชีพ ไม่ใช่ตัวทำทางหรือเปิดให้เพื่อนยิง
    ผมเชื่อว่า ถ้าปีกทั้งสองข้างของเชลซีทำหน้าที่ได้ดี คือ ในวันนี้จับร็อบเบนเล่นซ้าย และโคลเล่นขวา ตรงกลางปล่อยให้เป็นหน้าที่ของดร็อกบา ซ้อนด้วยกุดจอนเซ่น และปิดท้ายด้วยแลมพาร์ท น่าจะเพียงพอที่จะสร้างความหนักใจอย่างมากได้แล้ว

    เคซมันเป็นผู้เล่นที่ดี แต่บางทีก็ไม่ใช่ในโอกาสที่ชี้เป็นชี้ตายนะครับ

    ครึ่งหลังมูรินโย่ปรับเกมเหมือนกัน จะเห็นได้ว่า เขาทิ้งแผงหลังไว้แค่สอง-หรืออ่างมากสามคน แล้วดันกาล่าส์ขึ้นไปเล่นปีกเต็มที่ แต่เกมรุกก็ยังไม่คืบนัก เพราะนักเตะตรงกลางเก็บบอลไว้กับตัวนานเกินไป เมื่อจ่ายก็โดนตัดไปก่อน หรือไม่ก็จ่ายไม่ถึงเท้าของกองหน้า ในขณะที่ปีกขวายังบอดอยู่เช่นเดิม
    เชลซีมีตัวรุกเต็มพื้นที่ไปหมด แต่พวกเขาไม่มีตัวมารับบอลต่อแบบสั้นๆ ดันพาไปกองกันที่หน้ากรอบหมด ทำให้ต้องชิ่งบอลยาวเกินไป ตรงนี้พวกหงส์จึงตัดได้เกือบหมด
    บอลเชลซีฤดูกาลนี้ อันตรายที่ปีกทั้งสองฝั่ง และการต่อบอลแทงทะลุนะครับ รวมถึงลุกยิงแถวสอง ถ้าไม่ได้สิ่งเหล่านี้ก็ไม่ประสบความสำเร็จหรอก
    .................................

    ประการที่สาม..
    โชค

    วันนี้พระเจ้าอยู่ข้างลิเวอร์พูลจริงๆ ถ้ากรรมการสามคนนี้เป็นของพรีเมียร์ชิพ การตัดสินอาจไม่ใช่ "ให้ประตู" กับลิเวอร์พูล ก็เห็นๆ กันอยู่ ลูกที่รอย แคโรลล์ไปควักออกมาจากในประตูเป็นหลา เขายังมองไม่เห็นเลย

    ลูกที่ได้นี้ ดูจากภาพช้าจริงๆ แล้ว ผมว่า ห้าสิบ/ห้าสิบนะ
    ผมไม่เชื่อว่า ผู้กำกับเส้นเห็นว่าลูกเข้าไปแล้วทั้งใบ แต่เขาเห็นขาของกาล่าส์ข้างหนึ่งตวัดจากในเส้นแน่ๆ

    แต่อย่างไรก็ตาม ผมเห็นด้วยว่า ปีเตอร์ เช็กทำฟาวล์บารอสจริง และลิเวอร์พูลต้องได้ลูกโทษที่จุด
    แต่นั่น..ก็ไม่ได้หมายความว่า ลิเวอร์พูลจะยิงเข้าแน่นอนนะครับ

    ประการสุดท้าย..
    แฟนบอลของเดอะค็อปทั่วโลกนี่แหละ

    ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า พวกเขามีหัวใจที่แข็งแกร่งมาก น่าจะมากกว่าทุกทีมด้วยซ้ำ การรวมพลังของพวกเขามิใช่แต่เฉพาะในแอนฟิลด์ แต่เป็นทุกแห่งทั่วโลก กดดันให้ นักเตะต้องเล่นดีที่สุด ฝ่ายตรงข้ามต้องแหยงที่สุด

    เสียงเชียร์ที่ไม่เคยลดระดับลงเลยตั้งแต่วินาทีแรกจนวินาทีสุดท้าย คือ ความยิ่งใหญ่ที่ยากจะหาใครเทียบแฟนบอลทีมนี้ได้ครับ และเสียงเหล่านี้กดดันผู้เล่นเชลซีมากกว่าอย่างแน่นอนที่สุด!!

    ......................................
    ผู้เล่นยอดเยี่ยมของแม็ทซ์นี้..

    ลิเวอร์พูล..
    จะมีใครว่าอะไรไหมครับถ้าผมจะบอกว่า ผมชอบตราโอเล่มาก และมากขึ้นทุกทีในเกมยุโรปนัดหลังๆ เขาพิสูจน์ตัวเองได้อีกครั้ง ทั้งๆ ที่ผมคิดว่า "เขาน่าจะตายไปแล้ว"

    ดูเด็ค..เกมนี้คุณเซฟได้ยอดเยี่ยมมาก โดยเฉพาะลูกฟรีคิกของแลมพาร์ท ทั้งๆ ที่ถูกบังมิด

    ริซเซ่..กัลลาเกอร์..ฮามันน์..บารอส..การ์เซีย..บีสคาน..ฟินแนน..ฮูเปีย..แม้แต่คีเวลล์ และนูเยซในช่วงท้าย ก็เป็นคนที่เก็บบอลได้ดีมาก

    ทางฝั่งเชลซี..
    ผมยกย่องหัวใจของจอห์น เทอรี่ และการทุ่มเทของกาล่าส์ครับ

    จากคุณ : เบอร์สิบเอ็ด - [ 4 พ.ค. 48 11:41:38 A:61.91.143.12 X: TicketID:018238 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป