ต้องขออภัยที่ตั้งกระทู้ย้อนยุคไปหน่อย เพราะตอนบูมๆ ขี้เกียจเขียนน่ะครับ
ขอพูดถึงทีมหงส์แดงสักหน่อยกับแชมป์ยุโรปถ้วยใหญ่
คงไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่า หงส์จะลงเอยกับแชมป์นี้ แม้จะเป็นแฟนหงส์ตัวยงก็เหอะ
ไม่ใช่ดูถูกหงส์นะครับ คนที่เป็นแฟนตัวจริงก็คงทราบศักยภาพทีมของตนดีว่า มีน้ำยาพอหรือไม่
จริงๆ น่าจะตกเหวไปตั้งแต่ตอนเล่นกับโอลิมเปียกอสแล้ว แต่หงส์ก็ชนะไปได้อย่างเหลือเชื่อ ๓ ต่อ ๑ ซึ่งเป็นสกอร์ที่ต้องลุ้นจนนาทีสุดท้าย
พระเจ้ากำหนดเส้นทางไว้อย่างนั้น กำหนดให้สตีเว่น เจอราร์ดมาช่วยชีวิตทีมนี้ไว้ในช่วงวิกฤติเสมอๆ กลายเป็นฮีโร่ในดวงใจของชาวหงส์ทั้งโลก
หงส์ผ่านมาทุกรอบแบบคนดูยังตะลึง โดยเฉพาะแฟนทีมใหญ่ๆ ทั้งหลายว่า มีดีอะไรกันฟะ ทำไมสะกดให้คู่แข่งยิงไม่ได้ แต่หงส์ยิงได้ ทั้งๆ ที่เป็นรองทุกขุมทุกขด
กองหน้าของยุโรปที่ว่าแน่ๆ แต่พอมาเจอทีมหงส์ที่เล่นตั้งรับที่ไม่น่าจะเรียกว่า เหนียวแน่นกว่าทีมอื่นๆ เท่าไรหรอก แต่กลับยิงไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอัน โดนปัด โดนเขี่ย โดนเคลียร์ออกไปได้อย่างหวุดหวิดหลายครั้ง
ในขณะที่บอลบุกของหงส์แดงก็ไม่ได้มีพิษสงอะไรเลย ผมยังสาธยายรูปแบบเป็นบอล "โช้งเช้ง" ด้วยซ้ำ เพราะไม่ได้เล่นบอลต่อกันเท้าสู่เท้าอย่างแม่นยำแล้วโจมตีแบบบุกทะลวง แต่ชิ่งกันไปมารอบนอกแล้วโยนแบบสะเปะสะปะ
แต่ก็ไม่มีใครเอาชนะฟอร์มอย่างนี้ของหงส์แดงได้เลย
มาถึงรอบชิงชนะเลิศ..
โพลล์ทุกสำนักไม่มีใครให้หงส์เป็นต่อ เพราะแม้จะสร้างผลงานเข้ามาอย่างไรคนก็ยังไม่ให้ความเชื่อถือ ถึงแม้มิลานปลายๆ ฤดูออกอาการแผ่วๆ เป็นฟอร์มที่หลุดมากที่สุดของฤดูกาลแล้วทั้งในลีกของตัวเอง และบอลถ้วย
แต่ก็ยังได้รับการคาดหมายว่า "ชนะชัวร์" เรียกได้ว่า ราคา ๒ ต่อ ๑ ยังหาคนรองยาก
พอเกมการแข่งขันดำเนินไปในครึ่งแรก..
แม้จะถูกยิงนำไปก่อน ๑/๐......๒/๐ ก็ตาม
ก็ยังไม่เห็นว่าหงส์จะเล่นเกมผิดไปจากที่เคยเล่นในแมทซ์ก่อนๆ ไม่ได้บุกมากขึ้น ไม่ได้บุกน่ากลัว และเกมรับก็ไม่ได้รับประกันความเหนียวแน่นป้องกันการเสียประตูเพิ่มขึ้นได้แต่อย่างใด
คนดูทีมอื่นๆ นั่งหัวเราะ..ยกเว้นแฟนหงส์
บางคนเย้ยเยาะว่า ทีมอย่างนี้หลุดมาชิงได้อย่างไร ที่ผ่านมามันฟลุคทั้งนั้น และนี่คือ สภาพความเป็นจริงของทีมหงส์แล้ว
ถ้าไม่ใช่แฟนลิเวอร์พูลตัวจริง และไม่ใช่แฟนของเอซี มิลานตัวจริง แต่เป็นแฟนบอลธรรมดาๆ ที่มาดูเพราะเป็นแมทซ์ใหญ่ ต้องพากันเข้านอนแล้วครับ เพราะดึกจนเกือบรุ่งแล้ว เอาเวลาไปนอนดีกว่า อย่างน้อยยังได้หลับสักสองชั่วโมง ดีกว่าดูเกม "หมูวิ่งชนปังตอ"
แม้แต่ผมเองที่ดูอยู่ก็ยังคิดชื่อกระทู้ในใจว่า "ลาก่อนซินเดอเรลล่า ตื่นจากฝันได้แล้ว" (ฮา) กะว่าตอนเช้ามาจะพิมพ์สั้นๆ พอได้ใจความว่า "ลุ้นไม่ขึ้น" (ใจผมเชียร์หงส์อยู่)
ที่ไหนได้..
พญาหงส์เปลี่ยนเกมบุกใหม่ ดันเจอราร์ดที่เล่นตั้งรับในครึ่งแรกมาบัญชาการเกมรุก ให้ฮามันน์ลงมายืนตั้งรับแทน
ส่วนคีเวลล์ที่เจ็บไป ได้สมิเชอร์เล่นแทน ซึ่งผมว่า ตรงนี้ฟ้ากำหนด เพราะสมิเซอร์ยิงลูกระยะกลางได้ดี ในขณะที่คีเวลล์ทำไม่ได้ และเล่นตกลงไปเยอะ อยู่ในทีมมีแต่ฉุดเกมรุกมากกว่า
ขณะที่มิลานเอง แน่นอนว่า นำถึงสามลูกอย่างนี้ ต้องแพ็กตรงกลางไว้ให้แน่น และเล่นเกมรอสวนกลับก็น่าจะพอเพียงแล้ว
ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า เกิดอะไรขึ้นกับเกมรับของมิลาน โดยเฉพาะการประกบตัวเปิดและตัวเข้าทำของลิเวอร์พูล แน่นอนว่า ลิเวอร์พูลต้องเพิ่มตัวทำประตูให้มากขึ้นโดยดันผู้เล่นในแดนกลางมาเติมอย่างแน่นอน
รู้ทั้งรู้ยังไม่ตามประกบให้ดีๆ ปล่อยให้เขาขึ้นแย่งโหม่งจนเข้าประตูไปจนได้
จะใครซะอีกล่ะครับ เจอราร์ดอีกแล้ว คนๆ นี้เหมือนพระเจ้ากำหนดให้มารับบทฮีโร่ในยามคับขันของหงส์นั่นเอง
และประตูที่สำคัญที่สุดก็คือประตูแรกนี่แหละครับ เพราะมีส่วนทำให้มิลานลนลาน เพราะไม่รู้ว่า จากนี้ไปจะเล่นรับให้เหนียวแน่นดี หรือ เติมรุกเพื่อกดดันประตูเพิ่ม
ก็เพราะมันยังตุงอยู่ในกระเป๋าอีกสองลูกนี่แหละครับ ทำให้เล่นได้หลายแผน
และระหว่างลนลานกันอยู่กับการปรับขบวนนี่เอง สมิเซอร์ก็กดไปอีกเม็ด เป็นลูกยิงระยะไกลที่ป้องกันได้ยากเพราะมีผู้เล่นบังทางของลูกเอาไว้หลายคนและก็ยิงยากด้วย แต่สมิเซอร์ก็ทำได้
แตกสิครับ ทำนบมิลานเจอไปสองดอกในเวลาห่างกันไม่กี่นาที เป็นใครก็ต้องฝ่อครับ
กอปรกับกองเชียร์หงส์ในสนามคำรามกันลั่นราวกันเล่นในแอนฟิลด์
เพลง "คุณไม่ได้เดินคนเดียวหรอก" ถ้าร้องกันกระหึ่มทั้งฮัฒจรรย์ มันสะกดผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามอยู่หมัดมาหลายต่อหลายครั้งแล้วนะครับ เพราะไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนหงส์หรือไม่ก็ตาม คุณต้องรู้จักเพลงนี้และร้องได้บ้างแม้จะไม่เต็มเพลง เชื่อว่า นักเตะมิลานเองก็รู้จักเพลงนี้ดีเช่นกัน
มิลานกลับมาแก้เกมรับด้วยการไล่จี้ทุกฝีก้าวและไม่ยอมประกบห่างเหมือนเดิมแล้ว
และนี่แหละที่ทำให้ต้องมาเสียประตูที่สาม!!
เจอราร์ดอีกแล้ว เป้นผู้ที่หลุดไปและถูกทำฟาวล์ในเขต
พระเจ้ากำหนดให้เขาเป็นวีรบุรุษที่แฟนหงส์แดงจะไม่มีวันลืม (เช่นเดียวกับแฟนมิลาน)
ขนาดเจ้าโซ่ยิงไม่เข้าแล้ว ลูกยังหลุดให้ตามเข้าไปซ้ำได้อีก อย่างนี้ไม่โทษดวงก็ไม่รู้จะโทษใครแล้วครับ
มาถึงช่วงต่อเวลา..
หงส์กลับมาเล่นสไตล์เดิมอีกครั้ง คือ ตั้งรับให้เหนียวแน่น แล้วสวนด้วยลุกยาว ซึ่งก็เป็นสไตล์ที่ไม่น่ากลัวเหมือนที่ผ่านๆ มานั่นแหละ
มิลานน่าจะได้ประตูและชนะไปในเกมนี้แล้ว ถ้าบังเอิญลูกที่ผ่านมือดูเด็คไปแล้วจะไม่ไปติดผู้เล่นคนอื่นๆ ที่ยืนอยู่บนเส้นพอดี อะไรมันจะยิงยากยิงเย็นอย่างนี้ ทั้งๆ ที่ครึ่งเวลาแรก ง่ายยังกะปอกกล้วย จิ้มไปตรงไหนโบ๋ตรงนั้น
แล้วลูกยิงจ่อๆ ถึงสองครั้งจากเชพเชนโก้ในระยะ ๕ หลาและสองหลา ..มันไม่เข้าได้ไง.. ผมคนดูก็ยังงงๆ อย่าว่าแต่เชพเชนโก้ที่งงเป็นไก่ตาแตก ดูเด็คเองลุกขึ้นมาก็คงงง.ๆ เหมือนกันแหละว่า เอ..เมื่อกี้ ผมใช้ส่วนไหนเซพไปเนี่ย..
ถ้าโดนลูกนั้นไป แทบปิดประตูชนะของหงส์แล้วเพราะต่อเวลามาจนใกล้เสียงนกหวีดเต็มที
...........
หมดเวลา เสมอกันต้องตัดสินด้วยจุดโทษ
ก็อีกนั่นแหละ จนถึงเวลานี้มิลานก็ดูจะเป็นต่อนิ๊ดๆ แต่ในใจของแฟนหงส์รวมทั้งแฟนทีมอื่นๆ เราคิดกันในใจแล้วว่า วันนี้หงส์น่าจะชนะ เพราะถ้ามิลานมีโอกาสมหาศาลบานเบอะอย่างนี้แล้ว ยังต้องมาตัดสินด้วยการยิงลูกโทษ ก็น่าจะไม่ชนะ (เหมือนเอฟเอคัพที่แมนยู บด อาร์เซนอลแต่มาแพ้ลูกโทษนั่นแหละ พวกเราคนดูมีประสบการณ์มาหมาดๆ )
และก็จนได้ พอมิลานคนแรกยิงไม่เข้า ใจของผู้เล่นมิลานที่จะยิงในลำดับต่อๆ ไปก็จะไปเต้นอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว
โดยเฉพาะลูกยิงที่ดูเด็คปัดได้ลูกแรก เห็นจากภาพช้าได้ว่า ดูเด็คขยับตัวออกมายืนเหนือเส้นก่อนที่ผู้เล่นจะสับไกแท้ๆ แต่กรรมการไม่เห็น
ผมว่า ท่าเต้นของดูเด็คมันคงทำให้กรรมการตาลายไปเหมือนกันไม่ใช่เฉพาะนักเตะมิลานหรอกครับ
พระเจ้ากำหนดบทบาทมาอย่างนี้ ใครก็ปฏิเสธไม่ได้ ยิงนำ ๓-๐ ยังมาแพ้จนได้
ที่ผมทราบมา พอจบครึ่งแรก แลดโบร์กตั้งราคาให้มิลานเป็นต่อถึง ๑๐๐ ต่อ ๑ ยังหาคนรองยาก
คนที่กล้าลองก็มีแต่พระเจ้าเท่านั้นแหละ!!
งานนี้พระเจ้าคงรวยเละ อิ อิ อิ
จากคุณ :
เบอร์สิบเอ็ด
- [
2 มิ.ย. 48 12:14:12
A:58.10.155.196 X: TicketID:018238
]