ความคิดเห็นที่ 1 ผมว่าอาจจะเป็นอาการล้า.จากการซ้อมอย่างหนัก.ต้องอยู่แต่ในคอร์ทวันล่ะหลายๆชั่วโมง.การเดินทางไปประเทศ ต่างๆทุกอาทิตย์.ต้องอยู่ โรงแรมกับโค้ชแค่2คน...ต้อง ห่าง ครอบครัว  เพื่อน ฝูง...ความอิ่มตัวจากความสำเร็จ. ความเบื่อหน่าย  คงถามหาได้ง่ายๆ สำหรับนักเทนนิส ที่ ประสบความสำเร็จสูงๆแต่สำหรับคนที่ยังไม่รวยมากก็ต้องดิ้นรนเพื่อปากท้องต่อไป.. จากคุณ : รอสโซเนรี่ - [ 7 ก.ค. 48 13:28:43 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ความสมบูรณ์ของร่างกาย   พละกำลังสำคัญที่สุด  ธรรมชาติความแข็งแรงของเซลล์ร่างกายคนเรามีความเสื่อมถอยลดลง  เรื่อย ๆ ทุกปี ๆ แล้วแต่เฉพาะคนไม่เท่ากัน บางคนช้า บางคนเร็ว  เขาว่ากันว่าอายุ 20 ขึ้นไป ก็มีความเสื่อมถอยแล้ว  ประมาณว่าร่างกายคนเราจะเจริญเติบโตสูงสุดถึงอายุ 20  พอตั้งแต่ 21 ปี ขึ้นไป ก็จะเริ่มลดลง  ลดลงทุก ๆ ปี  แต่ที่ว่าทำไมบางคนอย่าง อกัสซี่ถึงยังแข็งแรงอยู่  ก็นอกจากเรื่องความฟิตความขยันออกกำลังกายหรื่อเรื่องการดูแลสุขภาพแล้ว  คิดว่าเขามีทักษะเฉพาะด้านสูง (เรื่องเทนนิส)  ถ้าลึก ๆ คงเป็นที่ยีนส์   (คุณปู่ของเราเสียเมื่ออายุได้  98  ปี  ที่แปลกคือฟันแท้ยังอยู่ครบ ) จากคุณ : มิวนิค - [ 7 ก.ค. 48 13:50:39 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ผมว่าเทนนิส เป็นกีฬาที่ใช้กำลังมากๆ  น่าจะทดถอยได้ไวกว่ากีฬาอื่น ๆ อีกอย่าง หากไม่ปรับปรุงแนวการเล่นให้หลากหลาย คู่ต่อสู้ศึกษาจุดอ่อน ค่อยๆทลายเอาได้กระมังครับ จากคุณ : ก้อง : ) - [ 7 ก.ค. 48 14:03:39 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คุณ มิวนิค คุณปู่อายุเกือบ100 ยีนส์นี้ มีในตัวคุณมิวนิคด้วยแน่นอนเลย แหะๆ ช่วยดูแทนผมด้วยนะครับ ลูกชายอกาสซี่ตีกับลูกพีท ใช่ครับ ว่ากันว่าร่างกายมันต่ำพีค แต่โดยรูปธรรม มันไม่เห็นภาพเอาเลย ผมเอง ตอน27(2ปีก่อน!)ก็รู้สึกว่าแข็งแรงกว่าตอน18อีก พวกเราเอง ผมเชื่อว่าก็รู้สึกกับตัวเองแบบที่ผมว่า นักกีฬาอื่นๆ ไม่ต้องกอร์ฟก็ได้ ฟุตบอล อเมริกันฟุตบอล มวย 30ต้น ก็ยังสบายๆเลย นักเทนนิสเอง 20ปลาย ผมก็เห็นเขาเล่น5เซ็ตสบายๆ วิ่งปร๋อ ที่เคยตีหนัก ก็เห็นหนักเหมือนเคย คือนึกหารูปธรรมมาอธิบายไม่ออก แต่สถิติ มันฟ้องออกมาว่าจะเป็นขาลงของเกือบจะทุกๆคน จากคุณ : side spin - [ 7 ก.ค. 48 17:25:45 A:210.213.46.60 X: TicketID:081616 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผมเล่นฟุตบอลตอนอยู่มหาวิทยาลัย เล่นทุกเย็น ไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย พอทำงานเปลี่ยนมาเล่นเทนนิส คิดว่าตัวเองยังหนุ่ม ลูกหยอดเจ็งๆกินผมไม่ลง จนมา 2-3 เดือนนี้ผมรู้สึกว่าช้าลง เอ็นข้อกระดูกที่นุ่มแน่น มันหายไป เจ็บข้อเท้าเอ็นเท้าบ่อย ต้องเลิกเล่นแบบหนุ่มๆมาเล่นแบบคนเริ่มจะสูงอายุ จริงๆผมอายุยังไม่มาก สมัยเรียนมหา,ลัย ค่อนข้างใช้ร่างกายมากไป มันก็เสื่อมเร็ว สายตาก็แย่ ในขณะที่รุ่นพี่เพิ่งจะมาเล่นกีฬาและเล่นถนอมๆกับยังดูฟิตกว่า มาดูกีฬาที่ไม่ใช้แรงเช่นสนุกเกอร์ เฮนดรี้ ต๋องเอง ก็พีคตอน 20 ต้นพอเกือบ 30 ก็เริ่มถอย อาจเป็นเพราะช่วง 20 ความพร้อมของร่างกาย สายตา ความมุ่งมั่น ทะเยอทะยาน มันส์อยากจะชนะ ขณะที่30 อาจผ่านแมทมามากร่างกายใช้ไปมาก หรือ เริ่มมีครอบครัว ความมุ่งมั่นลดลง บางคนที่แข่งเพราะชอบหรือยังพอหาเงินได้ นานๆอาจจะได้แชมปืถ้าจังหวะดีๆอย่างคอนเนอรื ถ้าจะให้ได้แชมป์ อาจต้องลดแมทแข่งลง แต่ถ้าเจอรุ่นใหม่ที่แกร่งจริงๆ อาจต้านไม่อยู่ อย่างที่คุณ Side spin ยกตัวอย่าง แซมพลาสแพ้ ฮิววิตต์ กับซาฟินในรอบชิง U. S. ซึ่งถือสองคนนี้ว่าแทบจะดีที่สุดในช่วงนั้น ถ้าแซมพลาสเองเจอสองคนนี้ตั้งแต่รอบแรก อาจตกรอบไปแล้ว อากัซซี่เอง ถ้าไม่หยุดไปพักนึง อาจจะเลิกเล่นไปแล้ว เบคเกอรืเองก็ไปเลิก30 ต้น รวยแล้วนี่ จะแบกสังขารเล่นต่อทำไม ส่วนมากนักกีฬาเขาจะรู้ตัวเองดี แต่เฉลี่ยก็ประมาณนี้ ขาลงคงหมายถึง สถิติจะแย่ลงเรื่อยๆอย่างที่คุณยกตัวอย่าง ให้แซมพลาสแข่งต่อ ต้องลดแมทอย่างที่เขาทำ แต่สถิติชนะจะลดลงบางแมทอาจเล่นได้เพอร์เฟค แข่งไปอาจได้แชมป์บางเข้าชิงบ้างอย่างเบคเกอร์ อีกอย่างคงไม่อยากให้ใครมาเรียกเสือเฒ่า เหมือนที่ผมสงสารอากัซซี่ตอนนี้ สถิติต่อนี้ไปจะแย่จนในที่สุดเจ้าตัวคงต้องออกมาประกาศเลิกเล่นเอง จากคุณ : E.S.A. - [ 7 ก.ค. 48 17:37:17 A:210.86.146.151 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 แล้วแต่สไตล์การเล่นด้วยครับ ผมว่าพวกเสริฟแอนด์สอลเลย์นี่จะได้รับผลกระทบมาเมื่ออายุมากขึ้น ถ้าไหล่ล้าเสริฟไม่สม่ำเสมอ ขึ้นเน็ทช้าไปครึ่งก้าวก็แย่แล้ว โอกาสโดนพาสซิ่งช็อตเพิ่มขึ้นอีกเยอะ ส่วนพวกท้ายคอร์ตแม้เสต็บจะช้าลงไปบ้างก็ ยังอาศัยความเหนียวและการวางลูกมาช่วยได้บ้าง อีกอย่าง ยิ่งแก่อาการบาดเจ็บก็ยิ่งสะสม ร่างกายมันล้าแล้ว ความกระหายชัยชนะก็ลดลง ตีเทนนิสอย่างเดียวทุกวัน วันละหลายๆ ชั่วโมง มันก็ต้องเบื่อต้องเอียนมั่ง เจอนักเทนนิสใหม่ๆ กระหายๆ ก็แพ้เอาง่ายๆ สองปีสุดท้ายของแซมพราส ที่เห็นชัดๆ ตามที่ผู้บรรยายหลายคนยืนยัน คือขึ้นเน็ทช้าไปครึ่งก้่าว ลูกเสริฟไม่สม่ำเสมอ รันนิ่งโฟร์แฮนด์ตกลงไป ส่วนอากัซซี่นั่นคงเป็นพันธ์พิเศษ แถมมีช่วงหยุดพักไปแต่งงาน หายไปปีกว่า จากคุณ : Lawเก้อ - [ 7 ก.ค. 48 17:48:31 ]

ความคิดเห็นที่ 7 หากจำได้ใน US open คราวสุดท้ายนั้น ตอนที่ Rusedski แพ้แซมพราสแล้วก็ออกมาปรามาสว่าไม่ใช่แซมพราสคนเดิมแล้ว ช้าไปสักครึ่งถึงหนึ่งก้าว คงไปได้ไม่ไกลหรอก แต่ตัวแซมพราสเองบอกว่า แม้ฟอร์มช่วงนั้นเขาไม่ค่อยดี แต่อย่าลืมว่าเขาเป็นใครและกำลังเล่นที่ไหน ซึ่งก็ทำได้สำเร็จ แต่ต้องบอกว่าแซมพราสได้ทุ่มเททั้งชีวิตให้กับเทนนิสจนสร้างสถิติต่างๆรอคนมาลบ การครองอันดับ 1 ถึง 6 ปีซ้อนนั้นเป็นเรื่องยากมากๆๆๆ พอถึงตรงนั้นทำได้แล้วก็เหนื่อยล้าและหมดแรงกระตุ้น ไม่รู้สึกท้าทายอีกต่อไปแล้ว ส่วนอากาสซีนั้นมีเบรกเป็นช่วงๆ จึงยังพอมีไฟอยู่ แต่ที่ยังอยู่ถึงตอนนี้เพราะเมียดีครับ จากคุณ : ส้มตำ - [ 7 ก.ค. 48 18:02:44 A:58.136.68.140 X: TicketID:007361 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ฮัด...ฮัดเช้ย ป๋าไซด์อายุยี่สิบเจ็ดเมื่อสองปีก่อน อะจ้าาา งั้นคงต้องจัดช่วงชก อิอิ เอาเป็นรุ่นแบบมวยดีมั้ยคะ แต่ใช้อายุและช่วงระยะเวลาของการเทิร์นโปรเป็นเกณฑ์  เป็นการเพิ่มความหนืดของขาลง ซาฟินหรือฮิววิตต์ตอนอายุเพิ่งจะยี่สิบขวบหรือกว่านิดหน่อย เอาชนะแซมพราสที่อยู่บนเวทีประลองมาสิบกว่าปีจนล้าเนี่ยะ ไม่รู้ว่ายุติธรรมหรือเปล่าเนอะ จากคุณ : aiwen^mei - [ 7 ก.ค. 48 21:25:15 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เราว่าผลจากจิตใจมีมากกว่าร่างกาย คิดถึงกับที่ต้องเดินทางทั้งปี นอนที่โรงแรมมากกว่าบ้าน คนใน locker room ก็ซ้ำๆ แข่งๆ เอ้าจบที่นี่ ไปต่อที่นั่นต่อ เป็นอย่างงี้ซัก 7-8 ปี (ยิ่งถ้าเริ่มมาจากจูเนียร์ยิ่งนานกว่านี้) ซ้ำไปมา มันคงจะเบื่อๆเอียนๆ ไม่ตื่นเต้นอีกแล้ว ก็เลยเล่นเนือยลง เดาเอานะคะ จากคุณ : - - แป๋วแหวว - - - [ 7 ก.ค. 48 21:44:02 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ในความเข้าใจ และรู้สึก ที่สำคัญที่สุดน่าจะเป็นปฏิกิริยา การตอบสนอง คล้าย ๆ Reflex (แต่ในทางการแพทย์ต้องถือว่าไม่ใช่) ปฏิกิริยานี้น่าจะช้าลงบ้างแม้เพียงส่วนเสี้ยว เมื่ออายุเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย 20 ปลาย (ซึ่งน่าจะดีที่สุดในวัยคะนอง) แต่การสั่งงานจากสมอง เริ่มจากสายตา มาสู่มือและเท้า อาจต้องการเวลามากกว่านั้นอีกนิดในการให้ งานสุดท้ายออกมาอย่างสมบูรณ์ ปฏิกิริยานี้น่าจะเห็นชัดที่สุดในกีฬา Formular 1 แต่เทนนิสก็ต้องการมากพอกัน ส่วนกีฬาที่ต้องการสภาพจิตใจสูงเป็นสำคัญ พละกำลัง และปฏิกิริยา เป็นส่วนรองไปบ้าง กลับจะทำให้นักกีฬาในวัย 20+ ถึง 30+ อาจดีมากขึ้นจนเด่นชัด เช่นกีฬากอล์ฟ แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 48 23:51:22 จากคุณ : มาโคโปโล - [ 7 ก.ค. 48 23:09:36 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เพิ่มอีกนิด สภาพจิตใจก็น่าจะเปลี่ยนแปลงไป จิตใจนี่น่าขฃจแยกเป็น 2 1.ความกลัว (fear) กลัวแพ้ แค่20 ปลาย ๆ ทำไมกลัวแพ้? อันนี้ต้องสังเกต ก่อนครับว่า ทำไมคน 50 กลัวตาย ทั้งที่บางคนสุขภาพดีมาก แต่เดี๋ยวกลัวเป็นโน่นเป็นนี่ อันนี้ก็เพราะเขาสังเกตเห็นคน บางคนใกล้ตัว หรือไกลตัวเริ่มป่วยเป็นโรค ทั้งที่เขาเหล่านั้นอาจมีสุขภาพแย่กว่าตัวเองก็ได้ ขณะที่ความจริงอายุเฉลี่ยคนเดี๋ยวนี้เกือบ 70 นู่น เทนนิสเช่นกัน พอในใจมีความรู้สึกว่า เพื่อนก็มาจอดกัน แถวอายุนี้แหละ เห็นตัวอย่างประปราย ตอนก้าวลงสนาม ถ้าหากเจอกับรุ่นราวคราวเดียวกัน ความกลัวก็ไม่เกิด แต่พอเจอเด็กรุ่นไหม่ นี่กลัวมาก่อนแล้วครับ กลัวแพ้ 2.ความกังวล (anxious) อันนี้ไม่เกี่ยวกับอายุและช่วงวัย อาจไม่มีผลว่าทำไมอายุ 20 ปลายถึงเริ่มตก แต่อาจมาใช้อธิบายว่าทำไม บางคนถึงแพ้คนอีกคนนึงอยู่ร่ำไปทั้ง ๆ ที่ ช่วงนี้ ๆ หรือช่วงนั้น ๆ น่าจะชนะได้ ถึงถ้ามีไม่มากนัก อาจไม่มีผลต่อ ผลการแข่งขัน แต่ก็เป็นจุดอ่อนให้คู่ต้อสู้หยิบฉวยได้ เดี๋ยวจะมีคนว่า แล้วความมั่นใจอยู่ตรงไหน ความมั่นใจก็จะตกอยู่กับคนที่ไม่มี 2 ภาวะนี้ ขณะที่ต้องแข่งขันกับคน ที่ตกอยู่ในภาวะไดภาวะหนึ่ง ในสอง จากคุณ : มาโคโปโล - [ 7 ก.ค. 48 23:47:52 ]

ความคิดเห็นที่ 12 แต่พี่บอลล้าแล้ว 20 กว่าเองน้า......... จากคุณ : HaTa...PanYa - [ 8 ก.ค. 48 16:15:44 ]

ความคิดเห็นที่ 13 วิเคราะห์กันได้เห็นภาพจริงๆครับ ผมเดิมมองภาพเป็นรูปธรรม ไม่ออก ตอนนี้เริ่มเห็นชัดขึ้นว่าเพราะอะไร สรุปจากของพวกเราทุกๆคนก็คือ มี2factorหลัก ซึ่งทั้ง2อันนั้น effect ที่เกิดขึ้น เล็กน้อยจนมองไม่เห็นด้วยตาปล่าว การใช้ตาปล่าวมานับการเห็นเป็นรูปธรรมจึงจะไม่เห็นรูปธรรมที่ว่านี้ 2factor ที่ว่า คือ physical และ mental physical เช่น ช้าไปเสี้ยววินาที หรือกระโดดได้ต่ำลง1มม. หรือความอึด(แหะๆ ควาย)น้อยลง1nanounit mental เช่น กระหายชัยชนะน้อยลง เกิดแผล(psychic trauma) หรือความกังวล(ใกล้เลิกเล่นแล้วต้องชนะ เดี๋ยวศพไม่สวย) ทั้งหมดนี้ ดูด้วยตาเปล่า จึงไม่เห็น ถ้าผมสรุปความเห็นของพวกเรานี้ไม่ผิด ตอนนี้ ผมว่าผมชักจะเห็นมันแล้ว แทงคิ้วทุกคนครับ จากคุณ : side spin - [ 9 ก.ค. 48 18:29:07 A:210.213.43.48 X: TicketID:081616 ]

ความคิดเห็นที่ 14 จะว่าไปแล้วจริงๆพอมองเห็นอยู่นะครับ เพียงแต่บางสิ่งบางอย่างถ้าเราเห็นบ่อยๆมักไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง อย่างเราอยู่กับพี่ น้อง เพื่อน เห็นหน้าคร่าตาดันอยู่บ่อยๆ สิ่งที่เปลี่ยนแปลงโดยใช้เวลา ค่อยๆเปลี่ยนทีละเล็กทีละน้อยจนเราไม่อาจสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลง เช่นความสูงรูปร่างหน้าตา ปฏิกิริยาซึ่งจริงๆแล้วสะสมจนมากขึ้น ในขณะคนที่นานๆจะเจอกันที่อาจจะดูออก เช่นแก่ไปเยอะ ท้วมไปหน่อย ลองหารูปตัวเองสักยี่สิบต้นมาดูซิครับเทียบกับตอนสามสิบหรือสี่สิบ ผมเองมองกระจกตัวเองทุกวันเข้าใจว่ายังหนุ่มหล่ออยู่ เห็นสาวๆ ยี่สิบกว่าๆนึกว่าเขาจะเรียกพี่ แต่ดันไม่เรียกน้าก็อา ที่หนักหน่อย เด็กๆจะเรียกลุง ต้องไปหัดร้องเพลง เรียกพี่ได้ไหม ถ้าฝีมือการเล่นกีฬา ถ้าฟอร์มไม่ตกมโหฬารอย่างภราดรก้ยากจะสังเกต อย่างอากัซซี่ที่กลับมาเล่นแล้ว ได้ออสเตรเลี่ยน โอเพ่นตอนนั้นกับ สิ่งที่สังเกตในปัจจุบันคือแรงตก รีเทิร์นเริ่มไม่ดี ถ้าแรงตกๆมากๆก็ไม่ตามลูกไม่ยอมพยายามรีเทิร์น แผ่ว ทั้งๆก่อนหน้านั้นเป็นคนที่ตีได้ถึงห้าเซ็ตกลับมาชนะได้สบาย จากคุณ : E.S.A - [ 10 ก.ค. 48 10:49:05 A:203.107.212.73 X: ]

ความคิดเห็นที่ 15 แหม คุณE.S.A ผมว่าผมกำลังเข้าใจมันอยู่แล้วเชียว คุณแกล้งผมหรือปล่าว เนี่ย? : ) อกาสซี่ ปัจจุบันนี้เขาถูกสังเกตุเห็นได้ชัดเจนในความถดถอย แต่นั่นเพราะเขา 35 แล้ว! เรากำลังว่าเรื่องของคนที่20ปลาย คน20ปลายคนอื่น(ส่วนใหญ่)ต่างหาก ที่ดูด้วยตาเปล่า ก็ไม่เห็นว่าจะตีแย่กว่าที่เคยเห็นตรงไหน (นอกจาก รูปแบบของสถิติ ที่มันฟ้อง) แต่ในกรณีของอกาสซี่ ช่วง20ปลาย ไม่แม้แต่ตาเปล่าที่เห็นว่าเขาก็ตีได้ดีเหมือนเดิม แต่สถิติของเขา ก็ดีไปกว่าเดิมด้วยซ้ำ การเห็นขาลงของอกาสซี่ ณ อายุ35 จึง นอกจากจะไม่เข้ากับFactที่นักเทนนิส20ปลายเป็นขาลง แต่เป็น motivation ให้คนอื่นเห็นว่า ทำไม ต้องเป็นขาลง ด้วยเลข2นำหน้า ด้วยซ้ำไป จากคุณ : side spin - [ 10 ก.ค. 48 13:04:45 A:210.213.44.154 X: TicketID:081616 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เป็นงั้นไปดันไปทำให้คุณ Side สับสนตีองประทานโทษที ผมเพียงยกตัวอย่างถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลง ถ้าจะเอาให้ชัดเจนแบบสำนวนทนาย ก็โมย่าครับเคยเป็นมือหนึ่งโลกตอนนี้อายุ20 ปลาย สถิติตอนนี้แย่ ความหนักหน่วงแม่นยำลดลงตกรอบแรกรอบสองบ่อยเอาให้ชัดเจนให้ไปสังเกตนำเทปเก่าๆมาดู(อย่างตั้งใจดู) ห้ามนะครับใช้ความรู้สึกอย่างเดียว ถ้าไม่ทำก็จะไม่เห็นก็จงงสับสนไปเรื่อยๆ เอาเทปเก่าแซมพลาสมาดูช้าไปครึ่งก้าวเป็นยังไงเสิร์ฟไม่คงเส้นคงวาเป้นยังไง ต้องดูทุกแมทของปีที่ดีที่สุดกับแย่ที่สุด นี่ผมถามจริงแกล้งทำไม่เข้าใจจริงๆหรือไม่ยอมถอย แฮะๆ ล้อเล่นนะครับ เอาเป็นว่าผมคงจบความเห็นเพียงแค่นี้ เพราะกลัวจะทำให้คุณสับสน อีกประการผมกลัวผมจะสับสนตามไปด้วย ขอบคุณสำหรับกระทู้ที่ผมคิดว่าตอบยากมากจริงๆ จากคุณ : E.S.A - [ 10 ก.ค. 48 17:46:44 A:203.107.207.96 X: ]

ความคิดเห็นที่ 17 ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณ คุณE.S.A (และพวกเราทุกคน) มีน้ำใจเข้ามาอธิบายในข้อสงสัยของผม ผมขอบคุณจริงๆนะครับ แต่ที่ผมขอบคุณมากกว่านั้นอีก คือการที่คุณ E.S.A สร้างมาตรฐานที่ดีให้เห็นในการถกหัวข้อในเน็ต ว่าแท้จริงแล้ว มัน enjoyable ได้ แหย่กันเล็กๆน้อยๆ หรือถามกันจริงๆจังๆ ก็ได้ทั้งนั้น ขอแต่ให้มี การได้เห็นความคิดเห็นของอีกฝ่าย แต่ยังไง ผมก็ยืนยันนะครับ ว่า ดูด้วยตาเปล่า บอกไม่ได้ว่าเป็นขาลงของนักเทนนิส(ในช่วงต้นๆ) ใครจะก้าวช้าไปครึ่งก้าวหรือไม่ ไม่มีทางรู้ เพราะลูกที่มานั้นอาจจะเร็วมาก จนการก้าวช้าไปนั้น ไม่ใช่เพราะเป็นขาลง แต่เป็นเพราะมันเป็นเครดิตของอีกคน ไม่มีทางใดหรอกที่จะแยกออกว่าสาเหตุคืออันไหน นอกจากเอาสถิติมานับ ซึ่งนั่นก็คือไม่สามารถบอกได้ด้วยตาเปล่า จากคุณ : side spin - [ 11 ก.ค. 48 10:30:49 A:210.213.43.61 X: TicketID:081616 ]

ความคิดเห็นที่ 18 27 เมื่อ 2 ปีก่อน?  ฮ้า ไม่อยากเชื่อ  ถ้าจริงพอๆกะเราเลยนะนั่น o_O  (ว่าแต่จริงเหรอคุณป๋า....) จากคุณ : แซวนอกเรื่องนะจ๊ะ (wantjam) - [ 12 ก.ค. 48 03:41:49 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เช่นนี้แล้ว โกวเนี้ย(น้อย) อย่างข้าพเจ้า ต้องขอเรียกท่านป๋าไซด์ไต้เฮียบว่า ไซด์สปินตี้ตี๋แล้วววว จากคุณ : ขอแซวลุงของหลานขาโก่ง (aiwen^mei) - [ 12 ก.ค. 48 09:25:12 ]

ความคิดเห็นที่ 20 จริงๆนะ คุณwantjam คุณaiwen^mei 27 เมื่อ2ปีก่อนจริงๆ อย่างน้อยก็เท่าที่ความจำมันบอก!! ส่วนว่า ความจำมันผิดเพี้ยนไปหรือไม่ อันนั้นด้วยความสัจจริง ผมเองก็ไม่รู้ เอ ต้องเช็คยังไงน้า ว่าเราหนุ่มอย่างที่ความจำเราบอก หรือว่า เราแก่จนหลงลืมอายุจริง? ไอ้ครั้นจะไปเช็คจากบัตรประจำตัวประชาชน ก็ไม่ได้ ไม่มีแล้ว ที่อำเภอเขาบอกว่าไม่ต้องทำอีกแล้ว!!!!! จากคุณ : side spin - [ 12 ก.ค. 48 16:03:57 A:210.213.42.145 X: TicketID:081616 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ก๊ากกกกกก   หยั่งงี้เรียกว่าป๋าน้อยไปแล้วค๊า ยังไงก็ขอบคุณทุกๆท่านนะคะที่ร่วมกันแชร์ความคิดเห็นให้เป็นวิทยาทานแก่ผู้ด้อยความรู้เช่นข้าพเจ้า  ขอบคุณค่ะ ^^ จากคุณ : wantjam - [ 12 ก.ค. 48 22:32:37 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ผมต้องกลับเข้าอีกครั้งเพื่อมาต่อว่าต่อขานคุณ side ที่ทำความเดือดร้อนให้ผมสองประการ ประการแรกคุณทำให้ส่วนบนสูงสุดของผมเป็นแผลคุณเล่นชมซะเกินไป ปกติไอ้ผมมันคนบ้ายออยู่แล้ว ต้องเอาอะไรมาผูกตัวติดไว้กับพื้นยังเอาไว้ไม่อยู ประการที่สองคุณเล่นยกให้ผมเป็นมาตรฐานไป ซึ่งผมรับไม่ได้ กับน้ำใจที่ดีงามที่มีให้ด้วยเหตุที่ว่า จริงแล้วผมเข้ามาห้องนี้บ่อยๆ ได้อ่านความเห็นของหลายๆท่านยอมรับว่าห้องนี้ สุภาพคุยกันได้น่ารักดี บางท่านตอบได้ดีมากๆ มากทั้งความรู้เหตุผลที่ดี อีกอย่าง ตรงกันข้ามผมกลับมองว่า การแสดงความเห็นที่เป็นตัวของตัวเองกลับน่าจะมีเสน่ห์ในตัวของมันเองด้วยกับบุคลิกที่หลากหลาย ผมค่อนข้างเบื่อกับการเสแสร้งแกล้งทำ จะโกรธจะโมโห มีอารมณ์ไม่ว่า ถ้าเตือนด้วยเหตุและผล ยอมรับความเห็นของส่วนรวมของคนอื่นกลับดูสวยงาม ด้วยเหตุนี้ผมมีอาจยอมรับได้เนื่องด้วยยังมีมารตฐานของท่านอื่นๆที่ดีกว่า อีกอย่างผมไม่อยากมาผูกตัวเองกับมาตรฐานที่คุณยกให้ และด้วยมีกำหนดมาตรฐานในแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางวันผมอาจอยากอาละวาดตีงวงฟาดงาแต่ต้องมาแบกมาตรฐานที่คุณยกให้ ........... หนักแย่ครับ ที่สำคัญวันหลังผมจะได้มาต่อว่าต่อขานคุณได้สบายใจ ขอบคุณสำหรับน้ำใจไมตรีที่ดีงามอีกครั้งครับ จากคุณ : E.S.A - [ 12 ก.ค. 48 22:39:36 A:203.107.207.95 X: ]