ความคิดเห็นที่ 1 ขอตอบเท่าที่ตอบได้ครับ NS Pro 1) ไม่มีข้อมูลพอ ต้องขอผ่านครับ 2) ต่างกันเล็กน้อย ในเรื่องของ Flex และ Speed True Temper 1) โดยทั่วไปจะต่างกันเฉพาะช่างปลายก้าน(Tip) ยกเว้นบางรุ่นเช่น DG จะต่างกันที่ Step Pattern ด้วย โดย DG-Parallel จะเท่ากับ 1-3/4" และ DG Taper จะเท่ากับ 1-7/8" แต่ส่วนใหญ่ Step Patten จะเท่ากัน โดยทั่วไปทั้ง Speed และ Flex จะใกล้หรือเท่ากัน 2) DG-L จะเป็น Mid Kick (110g) แต่ DG-SL จะเป็น High Kick (90g) แถม DG-SL ยังทำ Balance มาให้เปลี่ยนแทน DG โดยที่ความยาวเท่ากันจะได้ SW เท่ากัน 3) NS Pro จะออกนุ่มและ Flex จะอ่อนกว่า โดย NS Pro 950 S จะมี CPM เท่ากับ DGR300 DG-SL จะออกแน่นมากกว่าและอัดได้มากกว่า ลูกจะพุ่งต่ำขณะที่ NS Pro จะออกโด่ง แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 48 19:31:25 แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 48 19:30:45 จากคุณ : Stillwater - [ 23 ก.ค. 48 19:30:16 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ผมเคยลองx18 ที่เป็นก้าน ns กับ TT มันต่างกันคือ ก้าน ns จะเบากว่าเวลาจะโดนลูกมันจะหยุ่นๆไงบอกไม่ถูกแต่ถ้าเป็น tt จะหนักกว่า เวลาโดนลูกมันจะเต็มๆกว่าครับ จากคุณ : เสือย้อย - [ 24 ก.ค. 48 07:56:06 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เคยตอบไปแล้วมันหายไปไหนนะ ???? เอาใหม่ครับ NS Pro. 1. สำหรับ NS Pro หรือ Nippon Steel Shaft นั้น รหัส GH - คือก้านสำหรับชุดเหล็ก ทุกๆก้านจะมีน้ำหนักเท่าๆกัน รหัส FW - คือก้านสำหรับ Fairway Wood   รหัส GH WF - คือก้านสำหรับชุดเหล็ก แบบน้ำหนักแปรผัน (Weigh Flow) คือก้านสำหรับเหล็กยาวจะมีน้ำหนักเบาที่สุด ไล่ไปหาน้ำหนักมากที่สุดในเหล็กสั้น เพื่อประโยชน์ในการทำให้เมื่อเอาไปประกอบกับชุดเหล็กใดใดแล้ว จะทำให้สวิงเวทไล่กันไปโดยในเหล็กยาวจะสวิงเวทน้อย ไล่ไปหาเหล็กสั้นที่จะมีสวิงเวทมาก รหัส DR - คือก้านสำหรับ Driver ครับ 2. การเลือกน้ำหนักก้าน ผมว่าน่าจะคำนวณย้อนกลับจากน้ำหนักใบเหล็ก ให้สัมพันธ์กับ สวิงเวทที่ต้องการ เพื่อให้ได้ความยาวมาตรฐานครับ หากใบน้ำหนักน้อย ก็ต้องเลือกก้านที่มีน้ำหนักมาก เพื่อเป็นการชดเชยกัน ซึ่งจะทำให้ไม่เห็นความแตกต่างมากนักในเรื่องของ Total Weight ๖มีบ้าง แต่ไม่มาก) เพราะหากใบน้ำหนักน้อย แล้วจะเลือกก้านที่เบาด้วย จะทำให้สวิงเวทน้อยตาม เวลาประกอบไม้ ช้างก็จะต้องเพิ่มน้ำหนักที่ใบอยู่ดีล่ะครับ จากที่เคยลองตี (950-850, 750 ยังไม่เคยลอง) ก็เบาดีครับ สบายๆ แต่เนื่องจากน้ำหนักที่เบา เลยทำให้ต้องตีเนิบๆครับ หากตีแรงมากๆมันมักจะควบคุมไม่ค่อยจะได้ ทั้งนี้ ตัวใครตัวมันครับ การลองตีคือคำตอบครับ True Temper 1. Parallel กับ Taper จะต่างกันเฉพาะช่วงปลายก้านเท่านั้นนะครับ แค่ประมาณ 2-3 นิ้วจาก Tip ครับ ไม่ได้ต่างกันตลอดก้าน ก้านแทบทุกยี่ห้อจะมีทั้ง 2 แบบครับ โดยรวมๆแล้ว Tip ทั้ง 2 ชนิดนี้ไม่แตกต่างกันในแง่การใช้งานครับ ขึ้นอยู่กับ Hosel ของใบเหล็ก ว่าเป็นแบบไหนก็ใช้ Tip แบบนั้นครับ 2. DG Light จะเป็นก้าน Mid Kick Point แต่ DG SL จะเป็นก้าน Low kick point ทำให้ก้าน DG L จะให้วิถีบอลที่โด่งกว่า SL ครับ นอกนั้นเหมือนพี่ Stillwater 3. DG L ให้วิถีลูกใกล้เคียง NS Pro แต่ใน Flex เดียวกัน DG L จะแข็งกว่าเล็กน้อย ส่วน DG SL จะให้วิถีลูกพุ่งต่ำกว่าอันอื่นๆครับ ทั้งนี้ต้องเปรียบเทียบกับก้านเดิมด้วยครับ หากเดา คาดว่า คงเป็น DG หากต้องการวิถีเดิม ก็ SL หากต้องการโด่งขึ้น อ่อนลงนิดนึงก็ NS Pro หากต้องการโด่งขึ้น แข็งใกล้เคียงเดิม ก็ DG L ครับ จากคุณ : DG เท่านั้นที่ผมต้องการ (Sergio Garfield) - [ 25 ก.ค. 48 09:03:32 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อึม ความรู้ล้วนๆ กระทู้นี้ แอบอ่าน อิอิ จากคุณ : กล้าชามู - [ 25 ก.ค. 48 10:42:35 ]

ความคิดเห็นที่ 5 มาอ่านด้วยคน แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 48 15:04:07 จากคุณ : Rifle เท่านั้นที่ผมต้องการ (Ping Guy) - [ 25 ก.ค. 48 15:02:13 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สงสัยอายุกอล์ฟจะมากขึ้น ตอนนี้เลยต้องหันมาใช้ NS Pro แล้วอ่ะ... จากคุณ : NS เท่านั้นที่ผมต้องการ (ผมชื่อต้น) - [ 25 ก.ค. 48 15:17:32 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณมากๆครับ สำหรับข้อมูลและคำแนะนำดีๆ ประทับใจมากเลยครับ จากคุณ : jamster - [ 27 ก.ค. 48 10:39:40 A:203.118.109.190 X: TicketID:083379 ]

ความคิดเห็นที่ 8 "1. Parallel กับ Taper จะต่างกันเฉพาะช่วงปลายก้านเท่านั้นนะครับ แค่ประมาณ 2-3 นิ้วจาก Tip ครับ ไม่ได้ต่างกันตลอดก้าน ก้านแทบทุกยี่ห้อจะมีทั้ง 2 แบบครับ โดยรวมๆแล้ว Tip ทั้ง 2 ชนิดนี้ไม่แตกต่างกันในแง่การใช้งานครับ ขึ้นอยู่กับ Hosel ของใบเหล็ก ว่าเป็นแบบไหนก็ใช้ Tip แบบนั้นครับ" ขอแก้ไขคุณ ฌซอจิโอหน่อยนะครับ TT Parallel กับ Taper ต่างกันค่อนข้างมากนะครับดังนี้ 1 Step Pattern แตกต่างกันครับ 2 น้ำหนักในเซ็ทก็แตกต่างกันครับ คือถ้าเป็น Parallel ก้านจะทำมายาวขนาดเดียว น้ำหนักเดียวกัน เวลาใส่เหล็กเบอร์ต่างๆ ใช้การ ตัดปลาย แต่ละเหล็กตัดห่างกัน ครึ่งนิ้วโดยประมาณ และสามารถตัดมากตัดน้อยเพื่อเปลี่ยน Flex ได้ตามใจชอบ แต่ Taper ตัดปลายไม่ได้เพราะจะทำให้ขนาดของปลายก้านเปลี่ยนไป ดังนั้นก้าน Taper จะทำมาให้มีความยาวแตกต่างกันไล่ตามเบอร์เหล็ก และใช้การตัดโคนก้านเพื่อทำความยาว ก้าน Taper สามารถไล่เปลี่ยน Flex ได้นิดหน่อย ด้วยการเลื่อนเบอร์เหล็ก และ Taper จะขายเป็น set เท่านั้น 3 น้ำหนักของก้านใน Set ของ Taper จะเท่ากันทุกก้าน คือก้าน ของ PW ที่ยาว 36.5 นิ้ว จะมีน้ำหนักของก้านเท่ากับก้านของเหล็กสามที่ 40 นิ้ว แต่ก้าน Parallel เมื่อนำมาตัดแล้ว ก้านของเหล็กสั้น จะเบากว่าก้านของเหล็กยาว ซึ่งทำให้ การทำ swing weight และ Balance point ในชุดเหล็กให้ออกมาพอดีได้ยาก จริงๆ แล้ว เหล็กก้านยาวควรเบากว่าของเหล็กสั้นด้วยซ้ำไป 4 การเล่นระหว่าง Taper กับ Parallel นั้นค่อนข้างแตกต่างครับ เริ่มจากเรื่องปัญหาของน้ำหนักก้านของ Parallelเอง ความรู้สึกในการตี (อันนี้ต้องการผู้ที่เล่นมานานซักหน่อย และเป็นผู้เล่นที่ไวต่อความรู้สึก) แล้วจะพบว่า ก้าน Taper นั้นให้สิ่งที่ดีกว่าครับ เหล็ก OEM ชื่อดังๆ เช่น Titleist Ping Callaway Mizuno ฯลฯ ถ้าเป็นก้านเหล็กจะเป็น Taper แทบทั้งสิ้น แต่เมื่อมีการนำมาเปลี่ยนก้าน (หรือนำมาประกอบกันเองในเมืองไทย นอกการควบคุมของเจ้าของ brand) มีหลายร้านมักง่าย นำ Parallel มาใส่ด้วยการคว้านรูที่หัวเหล็ก เพราะคิดว่าใส่แล้วก็เหมือนกัน แค่ก่อนก็แล้วกันนะครับ เมื่อยพิมพ์ครับ จากคุณ : ลุง - [ 3 ส.ค. 48 09:37:28 A:192.168.11.161 X:202.28.84.48 TicketID:076491 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณคุณลุงที่ช่วยเพิ่มเติมครับ หากเป็นผมพิมพ์เองคงใช้เวลาโขอยู่ จากคุณ : Sergio Garfield - [ 4 ส.ค. 48 10:31:42 ]