"มวยไทย"ในความคุ้นเคยของผู้คนในสังคมแห่งยุคปัจจุบัน ไม่มีอะไรมากเกินไปกว่ากิจกรรมของคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเข้าไปชุมนุมกันเพื่อเล่นพนันได้-เสีย โดยตัดสินเงินในกระเป๋ากัน จากผลแพ้-ชนะของเด็กหนุ่มเปลือยร่างช่วงบน สวมกางเกงขาสั้นโคร่งเคร่ง สีแดงคน-น้ำเงินคน..ขึ้นไปเตะต่อยย้อกแย้ก แล้วกอดรัดฟัดเหวี่ยง เอาเข่าเหน็บสีข้างกันเปาะแปะบนเวที ท่ามกลางการต่อรองราคาและพยายามสร้างสถานการณ์ เพื่อความได้เปรียบของ"นักเล่น"ที่ต่างเชียร์มวยอยู่คนละฝั่ง บางครั้งก็มีการโห่ฮา..ตะโกนด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย ขว้างปาสิ่งของเมื่อไม่พอใจในการชกของนักมวย หรือผลการตัดสินของกรรมการ และหนักจนถึงขั้นในกลุ่มคนดูเองก็มีการชกต่อยตะลุมบอน เมื่อเคลี่ยร์เรื่องสะตุ้งสตางค์ไม่ลงตัว....
.....กิจกรรมเหล่านี้ล่ะหรือ...ที่ถูกเอ่ยอ้างด้วยถ้อยคำสวยหรูว่าป็น "ศิลปะการต่อสู้อันยิ่งใหญ่ประจำชาติ" อันสมควรถูกหวงแหนอนุรักษ์ไว้ เป็นสมบัติของลูกหลานสืบไปในภายหน้า?!?
ช่วยไม่ได้เลย..ที่คนรุ่นใหม่ผู้เติบโตมากับเทคโนโลยี่และความฉาบฉวย จะมองมวยไทย(ในแบบที่เขาเห็น)เป็นสิ่งที่ไม่ชวนให้พิสมัย อย่าว่าแต่จะหยิบยกขึ้นมาเป็นรสนิยมความชอบส่วนตัวเลย กระทั่งที่เห็นอยู่ในโทรทัศน์หรือสื่อสิ่งพิมพ์ตรงหน้า ยังคร้านที่จะให้ความสนใจ!
.....ตรงกันข้ามกับลีลาที่โลดแล่นอยู่ในสนามอันเปี่ยมสีสันของเหล่านักฟุตบอลอาชีพในต่างแดน กลับสามารถดึงดูดพวกเขาให้หลงไหลคลั่งไคล้กันเป็นวรรคเป็นเวร
.....ทั้งๆที่"มวยไทย"ก็ถูกนับเนื่องส่วนหนึ่งอยู่ในหมวดหมู่ของ"กีฬา"เช่นกัน และดูเหมือนจะผูกพันใกล้ชิดกับคนไทยมาแต่ปางบรรพ์ด้วยซ้ำ แต่เหตุไฉน? กุลบุตร-กุลธิดาไทย กลับเมินหน้าหนี...
.....กระทั่งมีข้อเท็จจริงอันน่าเจ็บปวด ที่ว่าพ่อ-แม่สมัยใหม่ซึ่งอยากให้บุตรหลานฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ไว้ป้องกันตัว กลับยอมเสียเงินแพงๆ ส่งแก้วตาดวงใจไปเข้าคอร์สเรียน เทควันโด้,ยูโด,คาราเต้ สวนทางกับความภาคภูมิใจที่เคยรับรู้มาแต่เล็กแต่น้อยว่า มวยไทยคือการต่อสู้มือเปล่าอันดับ 1 ของโลกโดยสิ้นเชิง!.....
ภาค ๑ - สุดยอดศิลปะการต่อสู้มือเปล่า จากสนามรบ สู่ วิถีชุมชน
คงไม่มีใครสามารถขุดลึกลงไปถึงจุดกำเนิดที่ชัดเจนของ"มวยไทย"ได้ว่า ที่มาและการคลี่คลายสู่ปัจจุบันอย่างไร? เพียงแต่สันนิษฐานว่าเป็นมรดกจากการรบพุ่งทำสงครามระหว่างแว่นแคว้นในแหลมสุวรรณภูมิ ตั้งแต่ยุคบรรพชนเมื่อต้องต่อสู้เอาชีวิตรอด แม้ไร้อาวุธก็จำต้องใช้อวัยวุธในร่างกายเข้าห้ำหั่น พลอยให้เกิดการสืบทอดและอบรมสั่งสอนการต่อสู้ด้วยมือเปล่าขึ้นมาในกองทัพเป็นเบื้องต้น ผสมผสานกับวิชาอาวุธสั้นเช่น กระบี่-กระบอง-โล่-เขน สอดคล้องเป็นหนึ่งเดียว
.....หากเราจะกล่าวอ้างว่า"มวยไทย"ถือกำเนิดขึ้นมาเป็นของชนชาวไทยเราโดยเฉพาะ ก็คงเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อนไป เนื่องจากหลายประเทศในภูมิภาคที่ใกล้เคียงเช่น พม่า-ลาว-เขมร ต่างก็มีรูปแบบการต่อสู้มือเปล่าที่อนุมานได้ว่าร่วมรากเหง้ามากับมวยไทยเช่นกัน เพียงแต่แตกต่างในรายละเอียดปลีกย่อยที่ต่างฝ่ายต่างแยกไปสร้าง พัฒนาการทางเทคนิคเพิ่มเติมในชนชาติของตน ซึ่งดูเหมือนว่าชนเผ่าชาวไทยเรานี่แหละจะมีผลงานเด่นล้ำที่สุด จนการต่อสู้มือเปล่าแขนงนี้ กลมกลืนอยู่กับวิถีชีวิตและถูกเรียกขานเต็มปากเต็มคำว่า"มวยไทย"อย่างไม่ขัดเขิน
.....อันที่จริง ความรู้สึก"ความเป็นชาติ"ไม่ใช่สิ่งชัดเจนนักในยุคก่อนการมาเยือนของจักรวรรดินิยมตะวันตกที่หอบหิ้วเอาลัทธิ"ชาตินิยม"เข้ามาเผยแพร่ในสมัยรัชกาลที่ 4 โดยก่อนหน้านั้น ชาวไทยยึดถือท้องถิ่นของตนเองเป็นหลักสำคัญ การเรียนรู้สืบทอดวัฒนธรรมก็วนเวียนอยู่ในละแวกนั้น คำว่า"มวยไทย"จึงเป็นคำเรียกที่น่าจะเกิดขึ้นภายหลัง โดยดั้งเดิมศิลปะการต่อสู้มือเปล่าชนิดนี้ ถูกเรียกว่า"มวย"ซึ่งเป็นคำสันสกฤตแปลว่า"การผูก"
.....การเติบโตของ"มวย"ที่แพร่ขยายจากกองทัพสู่วิถีชุมชน น่าจะมาจากภารกิจที่ต้องมีการระดมไพร่พลเพื่อทำศึก ทำให้ชายไทยที่อยู่ในขอบขัณฑสีมา ต้องถูกเกณฑ์จากบ้านเกิดมาเป็นทหารในกองทัพอย่างน้อยชั่วระยะหนึ่ง สิ่งที่เขาได้เรียนรู้ระหว่างนั้นคือ"ศาสตร์แห่งการต่อสู้"ทั้งมีอาวุธและมือเปล่า บางคนมีฝีมือเรียนรู้ได้เจนจบก็อาจได้เป็นขุนศึกมีอำนาจวาสนาสืบไป แต่กับบางคนที่อาจไม่มีความสุขกับชีวิตทหาร เมื่อมีโอกาสได้คืนถิ่นฐานบ้านเกิด ก็กลับมาหาเลี้ยงชีพตามวิถีดั้งเดิม แต่อย่างน้อยวิชาการต่อสู้ที่มีติดตัวก็จะถูกถ่ายทอดสู่เด็กหนุ่มละแวกบ้านสืบไป ซึ่งในจำนวนนั้นอาจมีบางคนรับการถ่ายทอดจนเก่งฉกาจ กระทั่งมีโอกาสรับใช้กองทัพบ้าง ก็ฉายแววโดดเด่นเกินคนรุ่นเดียวกัน จนได้รับตำแหน่งสำคัญเหมือนดังเช่น พระยาพิชัยดาบหัก หรือ นายทองดี ฟันขาว ยอดมวยพื้นบ้านแห่งภาคกลางตอนบน ที่อาศัยวิชามวยไทยไต่เต้าขึ้นสู่ฐานะทหารเอกคู่บัลลังค์ของพระเจ้าตากสินมหารราช
.....วิวัฒนาการของมวยไทยจึงเติบโตในลักษณะเอื้อแก่กัน ระหว่างกองทัพสู่บ้านและพื้นบ้านสู่กองทัพ ฉะนั้นการกล่าวว่ามวยไทยคือองค์ประกอบสำคัญประการหนึ่ง ที่อยู่เคียงคู่การก่อร่างสร้างชาติไทยมาตลอด...ก็คงไม่ผิดจากความจริงนัก.
แก้ไขเมื่อ 23 ส.ค. 48 17:41:45
แก้ไขเมื่อ 23 ส.ค. 48 17:40:34
แก้ไขเมื่อ 23 ส.ค. 48 15:47:49
จากคุณ :
ยำขาหมูทอดกรอบ
- [
23 ส.ค. 48 15:20:16
]