ความคิดเห็นที่ 1 เริ่มจาก... ALFREDO DI STEFANO ว/ด/ป เกิด July 4, 1926 in Buenos Aires อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน ไอ้ศรแดง นักเตะคนนี้....ในยุคนึงมีสื่อเมืองนอกเคยบอกไว้สั้นๆว่า "เก่งกว่าเปเล่" เกิดมาดังตั้งแต่อาร์เจนติน่า...ข้ามเรือมาโคลัมเบีย แล้วมาประสบความสำเร็จสูงสุดยอดสโมสรของโลก  รีล มาดริด.... โทรฟี่เกียรติยศ...นับกันเองนะครับ..... World Club Cup, Copa America, 3 Argentine Championships   2 European Footballer of the Year,  5 Pichichi Awards, 2 Latin Cups   5 European Champions' Cups, Cup Winner's Cup 9 Spanish Championships, Spanish Cup จากคุณ : กิมเฮง - [ 23 ส.ค. 48 20:19:47 ]

ความคิดเห็นที่ 2 คนต่อมาไม่ใช่อื่นไกลคู่หูคนข้างบนในทีมราชันชุดขาว.... Ferenc Puskas ว/ด/ป เกิด April 2 1927 in Budapest เฟเร้นซ์ ปุสกัส อยู่ในทีมฮังการีชุดที่เกรียงไกรสุดยอดในปี 1954 ที่เซียนทุกสำนักชี้ขาดล่วงหน้าว่านี่คือ "ว่าที่แชมป์โลกทีมต่อไป" สุดท้ายพ่ายพลิกในนัดชิงที่ปุสกัสความฟิตไม่ถึง..... และก็เป็นพ่อครัวคนนี้เองที่ร่วมกันกับ ดิ สเตฟาโน่ หัวหน้าเชฟร้านอาหารไทยในมาดริด...ซอยพริกขี้หนู หอมแดง บีบมะนาว เหยาะน้ำปลาดี ยำใหญ่ ไอน์ทรัค แฟร้งเฟิร์ต ไป 7-3 ประตู ในนัดชิงยูโรเปี้ยน คัพ 1960 ปุสกัสซัด 4 ส่วนพ่อ ดิ อัดอีก 3 หล่อไม๊ครับ... แก้ไขเมื่อ 23 ส.ค. 48 23:02:51 จากคุณ : กิมเฮง - [ 23 ส.ค. 48 20:22:40 ]

ความคิดเห็นที่ 3 รูปนี้ถ่ายคู่กับหัวหน้าเชฟครับ (นักบอลสมัยก่อนนี่ ดูอายุเยอะ แล้วก็ดูหุ่นเหมือนไม่ฟิตนะครับ....) จากคุณ : กิมเฮง - [ 23 ส.ค. 48 20:24:25 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ราชาคนต่อไป... เสือดำแห่งโมซัมบิค จากคุณ : กิมเฮง - [ 23 ส.ค. 48 20:25:44 ]

ความคิดเห็นที่ 5 Eusebio da Silva Ferreira ว/ด/ป เกิด January 25, 1942 in Mozambique ยูเซบิโอ ทีมชาติโปรตุเกสชุดบอลโลก 1966 ในทัวร์นาเม้นท์ดับสนิทของบราซิลและเปเล่ (เปเล่ถูกสอยจนเดี้ยงทุกนัดที่ลงสนาม) ปีที่ เกาหลีเหนือช็อคโลกด้วยการคว่ำอิตาลีในรอบแรก 1-0 (ทีมจากเอเซียทีมแรกครับ ที่ผ่านเข้ารอบ 2) ที่สำคัญด่านต่อไปของยักษ์แคระแห่งเอเซียไม่ใช่ใครที่ไหน.....ทีมฝอยทองนี่เอง ยูเซบิโอและเพื่อนร่วมทีมพร้อมใจกันแหงนคอมองสกอร์บอร์ดในสนาม Goodison Park โดยมิได้นัดหมาย.. แล้วพบข้อความว่า...... Portugal 0:3 Korea DPR PAK Seung Zin (PRK) 1', LI Dong Woon (PRK) 22', YANG Sung Kook (PRK) 25' หลังจากขยี้ตาแล้วหยิกแขนตัวเองอีกครั้งจนแน่ใจว่าพนักงานใส่สกอร์ไม่ได้ใส่ชื่อทีมสลับกันแน่ เสือดำแห่งโมซัมบิค ก็พาพรรคร่วมกันเปลี่ยนแปลงสกอร์บอร์ด.... ด้วยแฮททริคที่ไม่มีใครมายิงคั่น........ Portugal 5:3 Korea DPR PAK Seung Zin (PRK) 1', LI Dong Woon (PRK) 22', YANG Sung Kook (PRK) 25', EUSEBIO (POR) 27', EUSEBIO (POR) 43', penalty, EUSEBIO (POR) 56', EUSEBIO (POR) 59', penalty, AUGUSTO Jose (POR) 80' แต่ความร้อนแรงของ ยูเซบิโอ ก็ถูกหยุดยั้งจากถังดับเพลิงของขุนพลเจ้าบ้าน... ด้วยการยัดเยียดให้โปรตุเกสไปชิงที่ 3 ในทัวร์นาเม้นท์ดด้วยสกอร์ 1-2 รางวัลปลอบใจกลับบ้าน ตำแหน่งที่ 3 เหนือ รัสเซีย 2-1 และดาวซัลโว 9 ประตู............. *ไม่ใช่แฮททริคสิครับ 4 ประตูรวด...แหะๆ  ต้องโทษที่เป็นกระทู้ reto ครับ... แก้ไขเมื่อ 23 ส.ค. 48 21:02:55 จากคุณ : กิมเฮง - [ 23 ส.ค. 48 20:58:50 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่มี ไรอัน กิ๊กส์ กับ ก็องโต้ ผมเคืองเลยนะ อิอิ จากคุณ : The Red - [ 23 ส.ค. 48 21:00:59 ]

ความคิดเห็นที่ 7 จอร์จ เบสต์ + โยฮัน คล็อฟฟ์ ด้วย 555 จากคุณ : The Red - [ 23 ส.ค. 48 21:02:06 ]

ความคิดเห็นที่ 8 55 กำลังพิจารณาอยู่ครับ...ว่าจะรวมกลุ่มที่ไม่ได้เล่นบอลโลกด้วยไม๊ครับ..... แต่ถ้ามีเพื่อนๆ ต้องการเสริมข้อมูลด้วยล่ะก็... จะยินดีเป็นอย่างมากเลยครับ..... อีกสักพักจะมาต่อครับ... แล้วก็ถึงคิว  นักเตะเทวดา จากคุณ : กิมเฮง - [ 23 ส.ค. 48 21:05:56 ]

ความคิดเห็นที่ 9 นักเตะเทวดานี่ในความคิดผมนี่เก่งกว่าเปเล่หรือมาราโดน่าอีกอ่ะคับ   คือประมาณว่าเค้าสุดยอดทั้งทีมเวิร์คและความสามารถเฉพาะตัว ขาดแค่ถ้วยแชมป์โลกเท่านั้น จากคุณ : SheVa_Bs - [ 23 ส.ค. 48 21:07:45 ]

ความคิดเห็นที่ 10 นักเตะเทวดา เป็นอะไรกับ คนเล็กหมัดเทวดา เป่าหนอ ...ป่อย จากคุณ : ข้าวโพดต้มหวาน - [ 23 ส.ค. 48 21:09:53 ]

ความคิดเห็นที่ 11 มาราโดน่าเก่งที่สุดครับ แทบจะเอาคนอื่นไปยืนให้ครบคนก็พอ จากคุณ : บักเขียบ - [ 23 ส.ค. 48 21:20:02 A:61.91.229.74 X: TicketID:097247 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เชฟเชนโก เคยได้ สคูเดตโต้ ถือว่า ไร้บัลลังค์ด้วยไหมครับ เพราะกีองโต้ กับกิ๊กส์ ก็เคย ได้ พรีเมียร์ กับเอฟเอ รวมถึง ucl นะ จากคุณ : เชษฐภัทร - [ 23 ส.ค. 48 21:49:42 ]

ความคิดเห็นที่ 13 คุณ เชษฐภัทร และเพื่อนๆ ท่านอื่นครับ... พอดีกระทู้นี้ผมคัดมาเฉพาะยอดนักเตะที่ผ่านฟุตบอลโลก..แล้วบัลลังก์ในที่นี้ก็คือ แชมป์บอลโลก...ถ้าผมทำให้สับสนก็ขออภัยครับ... ถ้ามีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมช่วยๆกันนะครับ.... จากคุณ : กิมเฮง - [ 23 ส.ค. 48 21:58:39 ]

ความคิดเห็นที่ 14 นักเตะเทวดา Johan Cruijff หรือบางทีสะกดว่า Cruyff ว/ด/ป เกิด April 25, 1947 in Amsterdam โยฮัน ครัฟฟ์ หรือ โยฮัน คร้อยฟ์ หรือ โยฮัน ไครฟฟ์ หรือโยฮัน คล้อย (ถ้าเป็นนักเตะสตรีในวัย 40 up) (ขอเรียก ครัฟฟ์ แล้วกันนะครับ) เป็นนักเตะอาแจ๊กซ์ (ไอ้แอ่ก) ช่วงปี 1964-73 ...... ก่อนพาเพื่อนร่วมทีมแบกถ้วยแชมป์ลีกดัตช์ 6 สมัย ดัตช์คัพ 4 สมัย และยูโรเปี้ยนคัพ 3 สมัย (เมื่อยมือแย่เลยนะครับ) ....ย้ายไปเล่นให้บาร์เซโลนาในสเปนและพาทีมเป็นแชมป์ลา ลีกาสเปนและสแปนิชอย่างละ 1 สมัย จากนั้นยังย้ายไปกินฟาสต์ฟู้ดกับทีม ลอสแอนเจลีส อัซเทค ในอเมริกาพักหนึ่ง... ก่อนรีเทิร์นมาเล่นให้อาแจ๊กซ์อีกรอบจนแขวนสตั๊ดและย้ายเอวไปเป็นผู้จัดการทีมชั้นแนวหน้าในสเปนของแคว้นแคตาโลเนีย (Catalonia)... หลังจากโดนปลดจากผู้จัดการทีมบาร์ซ่าก็ยังไม่ได้คุมทีมไหนอีก ในระดับชาติเคยพาทีมฮอลแลนด์เข้าชิงชนะเลิศในฟุตบอลโลก 1974 ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาของท่านนายพลไรนุส มิเชล แต่พ่ายเยอรมันตะวันตกในนัดชิง....ที่รองแชมป์ถูกจดจำได้เท่ากับแชมป์ สถิติ 33 ประตูใน 48 นัด ได้รับเลือกเป็นนักเตะยอดเยี่ยมยุโรปในปี 1971, 1973, และ 1974 ฟุตบอลโลกปี 1978 นัดกับเบคเคนบาวเออร์ เบี้ยวคิวโชว์ตัวเฉยเลย... (พ่อเอวอ่อน อรชรอ้อนแอ้นคนนี้ประวัติค่อนข้างยาว และรายละเอียดก็เยอะ...แม่ยกคนไหน..โดยเฉพาะคุณแมลงสาบ อยากเพิ่มเติมก็ตามสะดวกเลยครับ..) ปล. แฟนผียังพอจำได้ไม๊ครับว่า.....ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของยอดนักเตะคนนี้เคยเป็นสมาชิก Red Devil อยู่พักนึงด้วย แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 48 17:33:41 แก้ไขเมื่อ 23 ส.ค. 48 22:32:18 จากคุณ : กิมเฮง - [ 23 ส.ค. 48 22:03:46 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ตามมาอ่านครับ กระทู้ดี ๆ จากคุณ : อามากิง (ton021) - [ 23 ส.ค. 48 22:06:10 ]

ความคิดเห็นที่ 16 หลักฐานที่ผมขอเรียกเค้าว่า พ่อไชยา มิตรชัย ขวัญใจแม่ยก (วันก่อนเพิ่งหัดทำตัว bold ได้ ร้อนวิชาไปหน่อยครับ..55) จากคุณ : กิมเฮง - [ 23 ส.ค. 48 22:06:16 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขั้วที่ต่างกัน...กับเกียรติยศในฟุตบอลโลก จากคุณ : กิมเฮง - [ 23 ส.ค. 48 22:09:39 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ท่านนายพลทรงเครื่องครับ.. จากคุณ : กิมเฮง - [ 23 ส.ค. 48 22:10:37 ]

ความคิดเห็นที่ 19 โห...ขอบคุณมากความรู้ล้วนๆครับ...ขอบคุณมาก จากคุณ : Muyan - [ 23 ส.ค. 48 22:17:07 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ผมชอบกระทู้นี้มากเลยครับ คลาสสิกดี ^^ จากคุณ : เชษฐภัทร - [ 23 ส.ค. 48 22:17:46 ]

ความคิดเห็นที่ 21 น่าไปเล่นบัลเลต์มากกว่า.....เห็นด้วยไม๊ครับ.... จากคุณ : กิมเฮง - [ 23 ส.ค. 48 22:19:28 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อย่าลืม เมเม็ตโชล ของผมด้วยน่ะครับ 555 จากคุณ : ::Sholl:: - [ 23 ส.ค. 48 22:22:42 ]

ความคิดเห็นที่ 23 แล้วก็ได้เวลาของ Cruijff's Shadow (อันนี้ผมตั้งเองครับ) มีใครรู้จักบ้างครับ....... Robert Pieter RENSENBRINK จากคุณ : กิมเฮง - [ 23 ส.ค. 48 22:38:48 ]

ความคิดเห็นที่ 24 น้ำจิ้มครับ... ไม่ได้โคลนนิ่งมานะครับ..เดี๋ยวจะว่าเฮงทึกทักตั้งฉายาเอาเอง *ประวัติเค้าน้อยมากจริงๆครับ รูปนี้ผมพบในเวบของประเทศรัสเซียครับ!!!!!! แก้ไขเมื่อ 23 ส.ค. 48 22:51:54 จากคุณ : กิมเฮง - [ 23 ส.ค. 48 22:42:10 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ตอนแรกผมก็นึกว่าที่ฮอลแลนด์ได้เข้าชิงเพราะครัฟฟ์เก่ง พอปี 78 ครัฟฟ์ ไม่ไป ฮอลแลนด์ ดันได้เข้าชิง แถมเล่นมันส์กว่าเดิม ได้ลุ้นกว่าเดิมซะอีก สรุป ไรนุส มิเชล โคตรเก่ง ครัฟฟ์ แค่ตัวประกอบ ปล.  พวก  เรนเซนบริงส์ เร็บ นีสเก้นส์ นี่โคตรบอลนะขอรับ ลำพัง ครัฟฟ์ คนเดียว ทีมไม่ได้เข้าชิงหรอก จากคุณ : Rutanna - [ 23 ส.ค. 48 22:46:17 ]

ความคิดเห็นที่ 26 มิเชล พลาตินี่จะติดมั้ยครับพี่ ป๋าเอียน รัช ของผมเก่งพอมั้ยครับ  แต่ไม่เคยไปเล่นบอลโลกซักกะที เหมือนกับ ไรอัน กิ๊กส์ ไหนจะเคนนี่ ดัลกลิชอีก จากคุณ : ยุง บิน ชุม - [ 23 ส.ค. 48 22:46:33 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ก็อย่างที่บอกล่ะครับพ่อร็อบบี้คนนี้ก็คือตัวแทนของครัฟฟ์ ในปี 78 (ประวัติเค้าน้อยมากครับ) ฮอลแลนด์ในปี 78 ประสิทธิภาพไม่ได้ต่างกับปี 74 เท่าไหร่ (อันนี้ยืนยันด้วยการติดตามบอลโลกถ่ายสดครั้งแรกผ่านทางจอทีวีของผมครับ) น่าเสียดายที่จัดที่อาร์เจนติน่า..ในยุคเผด็จการทางทหาร (ที่มีพ่อค้า แม่ค้า ตลาดสด สมัยนั้นนินทาลับหลังหลายเรื่องทีเดียว) ไม่งั้นขุนพลนมเปรี้ยวอาจขึ้นบัญชีแชมป์โลกไปแล้ว... วลีที่พบบ่อยๆ ในกระทู้ผม.. เพื่อนๆ มีข้อมูลมากกว่าผมช่วยเสริมได้เลยครับ.... จากคุณ : กิมเฮง - [ 23 ส.ค. 48 22:49:01 ]

ความคิดเห็นที่ 28 คงไม่ว่ากันที่ผมเสนอข้อมูลที่ย้อนเกร็ดประวัติฟุตบอลของโลกประเภทนี้เพราะส่วนตัวผมชอบอ่านเรื่องพวกนี้มากๆ... จากซ็อคเกอร์รายสัปดาห์ ในวัยที่ผมติดตามฟุตบอลอย่างบ้าคลั่ง....(ผมสามารถจัด 11 ตัวแรก แทนโค้ชของแมนยู เยอรมนีตะวันตก และทีมชาติไทยได้เลยครับ) ถ้าเบื่อก็บอกนะครับ...ด้วยเหตุว่า ข้อมูลฟุตบอลในปัจจุบัน ผมเป็นรองน้องๆในห้องศุภประมาณ "9โล10ขีดครับ" 555 เอิ๊ก... จากคุณ : กิมเฮง - [ 23 ส.ค. 48 22:58:42 ]

ความคิดเห็นที่ 29 Franco Baresi เกิดวันที่ 08.05.1960 ติดทีมชาติ 81 นัด ยิง 1 ประตู ฟรังโก้ บาเรซี่ กองหลังระดับตำนาน  ลิเบอโร่ที่คว้าแชมป์กับเอซี มิลาน แต่ได้แค่ที่3 สำหรับฟุตบอลโลกบนแผ่นดินเกิดของตัวเอง ฟรังโก้ เล่นให้กับเอซีมิลานมาโดยตลอดชีวิตการค้าแข้ง แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 48 01:27:23 แก้ไขเมื่อ 23 ส.ค. 48 23:02:35 จากคุณ : ยุง บิน ชุม - [ 23 ส.ค. 48 23:00:36 ]

ความคิดเห็นที่ 30 มีรูปบาเรซี่ตอนเอาเสื้อไว้ในกางเกงมั๊ย จากคุณ : Rutanna - [ 23 ส.ค. 48 23:04:33 ]

ความคิดเห็นที่ 31 และคนนี้ ศูนย์หน้าพรายกระซิบ มาร์โก ฟาน บาสเทน ยุคนั้นยังอ่านว่าแวน บาสเท่นอยู่เลย จากคุณ : ยุง บิน ชุม - [ 23 ส.ค. 48 23:04:58 ]

ความคิดเห็นที่ 32 รวมทั้งเหล่าอัศวินสีส้ม ฟลายอิ้งดัตช์แมน  แชมป์ยูโร ปี88 ทั้งรุด กุลลิท , แฟรค์ง ไรจ์การ์ด , แจน วูเตอร์ , โรนัลด์ คูมัน  ต่างไร้บัลลังก์แชมป์โลกทั้งสิ้น   ผมตั้งข้อสังเกตว่า แชมป์ยูโร มันเป็นอาถรรพ์ครับ  ใครได้ไปนี่ ไปแข่งบอลโลก ไม่ได้ดีเลยซักทีม ปี2000 ฝรั่งเศส ตกรอบแรกบอลโลกปี 2002 อย่างหมดรูป ปี1996 เยอรมัน ไปแข่งบอลโลกก็ตกรอบแบบถูกด่าหาว่าเป็นทีมคนแก่ (ใช่มั้งถ้าจำไม่ผิด) ปี1992 เดนมาร์ก บอลโลกปี1994 รู้สึกว่าจะไม่ผ่านรอบคัดเลือก ปี1988 ฮอลแลด์ ไปแข่งบอลโลกปี 1990 ก็ตกรอบสองอย่างน่าเสียดาย ปี1984 ฝรั่งเศส บอลโลกปี86 ดีหน่อยที่ได้ที่3 แต่ก็ไม่ถึงแชมป์อยู่ดี ไฟล์รูปภาพ จากคุณ : ยุง บิน ชุม - [ 23 ส.ค. 48 23:14:08 ]

ความคิดเห็นที่ 33 รูปบาเรซี่ ตอนเอาเสื้อเหน็บชายไว้ใต้กางเกง จากคุณ : ยุง บิน ชุม - [ 23 ส.ค. 48 23:18:17 ]

ความคิดเห็นที่ 34 และคนนี้  โรแบร์โต้ บักโจ้  (สงสัยเป็นคนอีสาน  ชื่อขึ้นต้นด้วยบัก  ยิ่งตอกย้ำความเป็นลูกอีสานด้วยการมาฝังตะกรุดที่ประเทศไทย ถ้าจำไม่ผิด เป็นตะกรุดหลวงพ่อคูณ  แต่ผมไม่แน่ใจนะครับ) พาทีมได้อันดับ3 ฟุตบอลโลกปี1990 แล้วไปยิงจุดโทษข้ามคานในนัดชิงชนะเลิศปี1994 กับบราซิล ชวดแชมป์ไปอย่างน่าเสียดาย จากคุณ : ยุง บิน ชุม - [ 23 ส.ค. 48 23:24:30 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ได้น้องยุง มาเสริมก็ค่อนข้างสมบูรณ์เลยทีเดียว... คงยังต้องค้าง..พลาตินี่  ซิโก้ ฯลฯ ไว้ก่อน... นักเตะระดับตำนานแบบนี้ ข้อมูลน้อย โดนค่อนแคะตายเลยครับ... จากคุณ : กิมเฮง - [ 23 ส.ค. 48 23:28:40 ]

ความคิดเห็นที่ 36 จากคุณ : Rutanna - [ 23 ส.ค. 48 23:32:21 ]

ความคิดเห็นที่ 37 คนนี้ครับ "ปลาหมึกยักษ์ดำ" เลฟ ยาชิน เกิด 22.10.1929 เสียชีวิต 20.03.1990 ติดทีมชาติรัสเซีย 78 นัด ยาชินจะใส่ชุดดำลงเป็นปราการด่านสุดท้ายให้กับทีมเสมอจนเป็นสัญลักษณ์ประจำต ัว และด้วยการเซฟที่เหนียวหนึบ บวกกับการที่เขามีช่วงแขนที่ยาวเหมือนหนวดปลาหมึก เขาจึงถูกตั้งฉายาว่า "ปลาหมึกยักษ์ดำ" ข้อมูลจากwww.bangkokbiznews.com ครับ ผมก็คล้ายๆพี่กิมเฮงเลยครับ  เดี๋ยวนี้ิติดตามดูฟุตบอลไม่มากเหมือนเมื่อก่อน  ข้อมูลในหัวก็มีแต่ยุคปี 90 ประมาณนั้น เกินลงไปจากนั้น ก็จำมาจากรายการทีวีทั้งนั้นแหละครับ แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 48 01:45:42 จากคุณ : ยุง บิน ชุม - [ 23 ส.ค. 48 23:34:48 ]

ความคิดเห็นที่ 38 Michel Francois PLATINI  เกิดวันที่ 1955.06.21 ติดทีมชาติ 72 ครั้ง ยิงไป 41 ประตู สโมสรที่เล่น AS Nancy (1972-79) St. Etienne (1979-82) Juventus (1982-87) จากนั้นรับบทเป็นโค้ชทีมชาติฝรั่งเศส ตั้งแต่ปี1988-92 ได้รับรางวัล European Player of the Year (Ballond'Or) 3ปีซ้อน ในปี1983 , 84 และ85 เป็น President of the FLOC for 1998 France World Cup ติดทีมชาติไปแข่งฟุตบอลโลก 4 ครั้ง ในปี 1978 ที่ Argentina ปี 1982 ที่Spain ได้อันดับ4  ปี1986 ที่ Mexico World Cup ได้อันดับ3 ในปี 1984 พาทีมชาติฝรั่งเศส คว้าแชมป์ European Championship ข้อมูลจาก rdfc.com.ne.kr/coaches/platini.htm เดี๋ยวรอข้อมูลเต็มๆจากพี่กิมเฮงนะครับ แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 48 00:46:28 จากคุณ : ยุง บิน ชุม - [ 23 ส.ค. 48 23:43:30 ]

ความคิดเห็นที่ 39 คนนี้อาจจะไม่ดังเท่าไหร่นะครับ หลายๆคนในห้องนี้อาจไม่รู้จัก  แต่นี่คืออดีตศูนย์หน้าตัวทำประตูของทีม รีล มาดริด  ภาพที่ติดตาคือ ยิงประตูได้แล้วต้องตีลังกา  ไม่รู้ว่า ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมืองจำมาจากฮูโก้ หรือเปล่า ฮูโก้ ซานเชซ เกิด 11 กรกฎาคม 1958 Clubs: Unam Mexico (1975/1979), San Diego Sockers (1979), Unam Mexico (1979/1980), San Diego Sockers (1980/1980), Unam Mexico (1980/1981), Atlético Madrid (1981/1985), Real Madrid (1985/1992), América Mexico (1992/1993), Rayo Vallecano (1993/1994), Atlante Mexico (1994/1995), Linz (1995/1996), Dallas Burn (1996), Atlético Celayo (1996/1997). ติดทีมชาติ 75 นัด ทำไป 46 ประตู จากคุณ : ยุง บิน ชุม - [ 23 ส.ค. 48 23:50:45 ]

ความคิดเห็นที่ 40 รูปRENSENBRINK ที่พอมีเก็บไว้อะครับ จากคุณ : papos - [ 24 ส.ค. 48 00:01:42 ]

ความคิดเห็นที่ 41 .................. แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 48 00:05:19 จากคุณ : papos - [ 24 ส.ค. 48 00:03:42 ]

ความคิดเห็นที่ 42 คนนี้ครับ Michael LAUDRUP มีน้องชายที่เล่นเก่งไม่แพ้กันเลยคือ ไบรอัน เลาดรูป ไมเคิล เกิดวันที่ 15.06.1964 ที่ Copenhagen ติดทีมชาติ 104 นัด 37 ประตู สโมสร Brondby IF (1983) Lazio (1983-85) Juventus (1985-89) Barcelona (1989-94) Real Madrid (1994-96) Vissel Kobe (1996-97) Ajax Amsterdam (1997-98) FC Copenhagen (1998) จากคุณ : ยุง บิน ชุม - [ 24 ส.ค. 48 00:03:55 ]

ความคิดเห็นที่ 43 .......... จากคุณ : papos - [ 24 ส.ค. 48 00:06:10 ]

ความคิดเห็นที่ 44 Rudi Dil GULLIT เจ้าของฉายา งูเก็งก็อง เกิดวันที่ 01.09.1962 ติดทีมชาติ 66 นัด 17 ประตู เล่นให้กับสโมสร Haarlem (1979-82) Feyenoord Rotterdam (1982-85) PSV Eindhoven (1985-87) AC Milan (1987-93) Sampdoria (1993-94) AC Milan (1994-95) Chelsea (1995-98) จากนั้นรับบทเป็นผู้จัดการทีมเชลซี ต่อด้วยนิวคาสเซิล  เป็นต้นตำรับของเซ็กซี่ฟุตบอลที่นิวคาสเซิล (นักฟุตบอลโนบรากันหมด) ได้รับรางวัล European Player of the Year (Ballond'Or)ในปี1987 คว้าแชมป์ยูโรปี88 ร่วมกับพลพรรครักเอย เอ๊ย อัศวินสีส้ม แต่ตกรอบสองฟุตบอลโลกในอีก 2 ปีถัดมา ด้วยอาการบาดเจ็บรุมเร้า ต้องผ่าตัดหัวเข่า ลุ้นอยู่นานกว่าจะได้เล่นฟุตบอลโลกปี1990 แต่ก็เค้นฟอร์มสุดยอดที่เคยพาทีมได้แชมป์ยูโรไม่สำเร็จ สุดท้ายแพ้ทีมคู่แค้น เยอรมัน ตกรอบ2ไปอย่างน่าเสียดาย กุลลิท เคยมาเยือนเมืองไทยพร้อมกับทีม PSV Eindhoven ด้วย จำได้ว่านัดนั้น กุลลิทเลี้ยงมาตามปีกก่อนจะหลอกกองหลัง(คิดว่าเป็นนที)ซะหลังหัก ก่อนจะปั่นไซด์โค้งเข้าประตูไป นอกจากจะเป็นนักฟุตบอลแล้ว รุด กุลลิท หรือฮุลลิท (มีบางคนเรียก เล็บ Kooหลุด)ยังเป็นนักร้องนักดนตรีอีกด้วย ถ้าจำไม่ผิดจะเป็นแนวเร็กเก้ ข้อมูลจาก http://rdfc.com.ne.kr/ www.beijen.net/frank/cvs/gullit-r.htm แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 48 00:21:32 จากคุณ : ยุง บิน ชุม - [ 24 ส.ค. 48 00:18:56 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เดี๋ยวแฟนๆทีมชาติอังกฤษจะน้อยใจครับ คนนี้มิสเตอร์ไนซ์กาย Gary Lineker เกิดวันที่ 30 พฤศจิกายน 1960 ติดทีมชาติ80 นัด 48 ประตู ตำแหน่งดาวซัลโวฟุตบอลโลก ปี1986 เป็นประกัน ด้วยประตูรวม 6 ลูก เริ่มจากการยิงแฮ็ททริกเอาชนะ โปแลนด์ไป 3-0 หลังจากที่ 2 นัดแรกเก็บได้เพียงแค่แต้มเดียว จากนั้นแกรี่ยิงได้อีก 2 ลูกในนัดที่ถล่มปารากวัย3-0ในรอบสอง ก่อนที่จะมายิงลูกที่6 ในรอบ8ทีมสุดท้าย แต่ก็ต้องตกรอบอย่างน่าเสียดายจากลูกแฮนด์ออฟก็อด ของมาราโดน่า ในปี1990ที่อิตาลี ลินิเกอร์ก็ต้องผิดหวังจากการได้เพียงอันดับที่4 โดยแพ้อิตาลีในรอบชิงที่3 และแพ้การดวลจุดโทษกับแชมป์โลกในปีนั้นคือเยอรมัน ตะวันแดง เอ๊ย ตะวันตก ในรอบรองชนะเลิศ ปีนั้น ลินิเกอร์ ยิงไปทั้งหมด 4 ประตู เป็นเจ้าของสถิติ ยิงประตูสูงสุดตลอดกาล เป็นอันดับสองของทีมชาติอังกฤษ จำนวน48 ประตู ส่วนอันดับหนึ่งเป็นของ เซอร์บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ทำไว้ที่49ประตู เป็นนักเตะสุภาพบุรุษคนหนึ่ง ตลอดชีวิตการค้าแข้งไม่เคยได้รับใบเหลืองเลยแม้แต่ใบเดียว (ไม่รู้ได้ใบแดงด้วยเปล่า แต่ที่จำได้ไม่เคยมีนี่นะ) เริ่มต้นชีวิตการค้าแข้งกับทีมเลสเตอร์ ซิตี้ ก่อนจะย้ายมาอยู่กับเอฟเวอร์ตัน ก่อนจะย้ายไปค้าแข่งกับทีม"เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า แล้วย้ายกลับมาเล่นให้"ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ก่อนจะย้ายไปค้าแข้งในเจ ลีก กับทีมนาโกย่า แกรมปัสเอท ในประเทศญี่ปุ่น นอกจากจะเป็นMR.Nice Guy ในสนามแล้ว ในชีวิตจริงลินิเกอร์ยังเป็นคนใจบุญอีกด้วย ลูกคนแรกของแกรี่ ป่วยเป็นโรคลูคิเมียร์ แกรี่จึงตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือเด็ๆที่ป่วยเป็นโรคนี้ ข้อมูลช่วงแรกผมแปลมาจาก http://www.planetworldcup.com ส่วนช่วงหลังเขียนจากความทรงจำครับ ผิดๆถูกๆ ขออภัย แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 48 00:45:33 จากคุณ : ยุง บิน ชุม - [ 24 ส.ค. 48 00:36:54 ]

ความคิดเห็นที่ 46 คนนี้ไม่ใช่ราชันครับ ไม่ไร้บัลลังก์ด้วย  แต่ไร้ลมหายใจไปแล้ว อันเดรส เอสโคบาร์  ทีมชาติโคลัมเบีย จากการทำเข้าประตูตัวเองในนัดที่โคลัมเบีย แพ้สหรัฐไป 2-1 เป็นผลให้เค้าถึงกับต้องเสียชีวิต จากแฟนบอลผู้คลั่งฟุตบอลเกินกว่าเหตุ ขอไว้อาลัยต่อการจากไปของเอสโคบาร์ด้วยครับ เขาได้ทำหน้าที่ของเขาอย่างเต็มที่แล้ว เล่นกีฬา ต้องรู้จักสปิริต จากคุณ : ยุง บิน ชุม - [ 24 ส.ค. 48 00:57:20 ]

ความคิดเห็นที่ 47 Roger Milla ทีมชาติแคเมอรูน สิงโตแห่งยาอุนเด้ แต่ผมชอบเรียกทีมนกแก้วมากกว่า เกิดวันที่ 20.05.1952 ติดทีมชาติ 63 นัด ยิง 29 ประตู (1973 - 1994). เล่นให้กับสโมสร Eclair Douala (1965/1970), Léopards Douala (1970/1974), Tonnerre Yaoundé (1974/1977), Valenciennes (1977/1979), AS Monaco (1979/1980), SC Bastia (1980/1984), AS Saint-Etienne (1984/1986), Montpellier HSC (1986/1989), Saint Pierre de la Réunion (1989/1990). เป็นจ้าของสถิติอายุมากที่สุดที่ยิงประตูได้ในศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย เค้ามีอายุ 42 ปี  ในการลงเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ปี1994 ยิง 4ประตูในฟุตบอลโลกปี1990 พาแคเมอรูนเป็นทีมแรกจากทวีปแอฟริกาที่เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ  ขณะนั้นเค้าอายุ 38ปี ใครที่เคยดูมิญ่าเล่น คงจำลีลาการเต้นส่ายสะโพกตรงมุมธงกันได้นะครับ จากคุณ : ยุง บิน ชุม - [ 24 ส.ค. 48 01:08:12 ]

ความคิดเห็นที่ 48 หาข้อมูลมาให้ครับ Pieter Robert Rensenbrink Rob RENSENBRINK เกิด 03.07.1947 ที่ Amsterdam. ติดทีมชาติ 46 นัด ยิง 14ประตู สโมสร: DWS Amsterdam (1965/1969), FC Bruges (1969/1971), RSC Anderlecht (1971/1980) Portland Timbers (1980/1981), Toulouse FC (1981/1982). ได้แชมป์ คัพ วินเนอร์ส คัพ กับ ทีม Anderlecht ในปี 1976 และ 1978 ได้รองแชมป์ปี1977 ได้รางวัล Ballon d'or อันดับ2 ปี 1976 อันดับ3 ปี 1978).เข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 2ครั้ง ในปี 1974 และ 1978 ได้ที่2 ทั้งสองครั้ง ข้อมูลจาก www.answers.com/topic/rob-rensenbrink จากคุณ : ยุง บิน ชุม - [ 24 ส.ค. 48 01:22:39 ]

ความคิดเห็นที่ 49 คนนี้ นานหน่อยนะครับ Juste Fontaine เกิดวันที่ 1808.1933 ติดทีมชาติฝรั่งเศส 21นัด ยิง 30ประตู เจ้าของสถิติ ดาวซัลโวฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ในปี1958 เขายิงไป 13 ประตู  ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเลยทีเดียว เขาเลิกเล่นฟุตบอลเมื่ออายุเพียงแค่ 27ปี เท่านั้น เนื่องจาก ขาหักถึง 2 ครั้ง จากคุณ : ยุง บิน ชุม - [ 24 ส.ค. 48 01:38:21 ]

ความคิดเห็นที่ 50 คนนี้มันส์สุด René Higuita José René Higuita Zapata เกิด 28.08.1966 เล่นให้กับสโมสร Atlético Nacional de Medellín (1987-1991) Real Valladolid (1992-1993) Atlético Nacional de Medellín (1994-1996) Club Veracruz del México (1997-1998) Deportivo Independiente Medellín (1999) Junior de Barranquilla Deportivo Pereira (2002) แมงป่องผยองเดช โกล์ทีมชาติโคลัมเบียคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ ทั้งการออกไปเล่นนอกกรอบเขตโทษ ราวกับเป็นตัวลิเบอโร่ รวมทั้งการสร้างชื่อจากการป้องกันประตูด้วยท่า scorpion kick การออกไปเล่นนอกกรอบเขตโทษ คนดูอาจสนุก แต่แฟนๆทีมนั้นอาจบอกว่า มันเสี่ยงโดยไม่จำเป็น ในฟุตบอลโลก ปี1990 โคลัมเบีย พบแคเมอรูน โรเจอร์ มิญ่า แย่งลูกจากฮิกิต้าแล้วไปยิงประตู ถีบโคลัมเบียตกรอบสองอย่างน่าสมน้ำหน้า แต่สะใจคนดู จากคุณ : ยุง บิน ชุม - [ 24 ส.ค. 48 02:03:20 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ยอดเยี่ยมครับ.... กระทู้หน้าขอ ประวัติและความเป็นมาของสนามของสโมสรต่าง ๆ บ้างนะครับ เช่น จูเซปเป้ เมซซ่า กับ ซานซิโร่ หรือ ซานติอาโก้ เบอร์นาเบว หรือ แอน ฟิลด์ มีที่มายังไง เป็นต้น... ชอบกระทู้แบบนี้มาก ๆ ครับ ตามอ่านทุกที จากคุณ : ช - [ 24 ส.ค. 48 02:04:02 ]

ความคิดเห็นที่ 52 นึกไม่ออกแล้วครับ รอพี่กิมเฮง มาต่อดีกว่า ขอโซคราเตสด้วยนะครับ จากคุณ : ยุง บิน ชุม - [ 24 ส.ค. 48 02:40:24 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ทู้นี้แจ่มอีกแล้ว  คุณกิมเฮง  ขอคารวะเลย  บุ๊คมาร์คไว้หมด  ทู้โปสตอร์ฟุตบอลโลกว่าเด็ดแล้ว   ขอแทรกนิดนุง  คุณยุงอย่าโกรธนะคะ  เคยเรียนภาษาอิตาเลียนที่จุฬา (วิชาให้คนนอกเรียนภาคค่ำ) อาจารย์เป็นคนอิตาเลียน  เธอบอกนามสกุลของโรแบร์โต้  ต้องอ่านว่า "บั้ดโจ่" ค่ะ  แต่เธอลากเสียงแบบบ้าดโจ่  เธอบอกไม่ใช่บักโจ้  หรือบั๊กจิโอ้  เรายกมือถามเรย  บอกอาจารย์ว่าชอบนักฟุตบอลอิตาเลียนคนนี้มาก  เธอบอกเธอก็ชอบ  แฮ่ๆๆ  คล้ายแวน บาสเท่น ที่เป็นฟาน บาสเทน  โทษทีนะคะ  ไปล่ะ จากคุณ : la liga fan - [ 24 ส.ค. 48 03:09:15 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ไม่มีรุมมินิเก้เหรอ.. จากคุณ : lอั่งอั๊งl - [ 24 ส.ค. 48 07:18:28 ]

ความคิดเห็นที่ 55 เอ่อ...ขอนักเตะเยอรมันด้วยจิ จากคุณ : risuku - [ 24 ส.ค. 48 07:46:30 ]

ความคิดเห็นที่ 56 #45 ลินิเกอร์รู้สึกจะเคยโดนใบเหลืองไป 1 ใบครับ จากกรมการที่บ้าอำนาจมั้งถ้าจำไม่ผิดนะครับ ส่วนการเล่นทีมชาตินัดสุดท้ายของเค้า เป็นนัดที่แพ้ทีมชาติสวีเดนเจ้าภาพยูโร92 ซึ่งเค้าถูกเปลี่ยนตัวออกโดย เกรแฮม เทย์เลอร์ แล้วแกรี่ ได้เขี้ยงปลอกแขนกัปตันต่อหน้าหัวผักกาดเลย หลังจากนั้นก็เลิกเล่นทีมชาติทั้งๆที่มีโอกาสทำสถิติยิงประตูสูงสุดตลอดกาลได้สบายๆ จากคุณ : The Red - [ 24 ส.ค. 48 08:06:08 ]

ความคิดเห็นที่ 57 รูป Scorpion kick ของฮิกิต้าฮะ พี่แกสุดยอดจริงๆ นัดนี้เจออังกฤษ  ส่วนคนที่ยิงลูกนี้มา รู้มั้ยใครเอ่ย ไฟล์รูปภาพ จากคุณ : papos - [ 24 ส.ค. 48 09:32:16 ]

ความคิดเห็นที่ 58 อะใหญ่ไปเอาใหม่ จากคุณ : papos - [ 24 ส.ค. 48 09:37:00 ]

ความคิดเห็นที่ 59 คนยิง ใช่เจมี่ เร้ดแน็ปป์มั้ยครับ ลินิเกอร์ ผมก็คลับคล้ายคัลบคลาว่าเคยได้ใบเหลืองเหมือนกันแต่ไม่แน่ใจ   ขอบคุณ คุณla liga fan ครับ ผมไม่โกรธหรอกครับ แหม เรื่องแค่นี้ ผมก็เรียกตามสตาร์ซอคเกอร์อะแหละ ตอนแรกก็เรียกบักจิโอ้ ต่อมาเป็นบักโจ้  ตอนหลังๆมี บาจโจ้อีกต่างหาก เรื่องภาษา  ขนาดภาษาอังกฤษเอง ถ้าไม่ได้ยินเจ้าของภาษาเรียกชื่อ บางทีก็อ่านผิดเหมือนกัน จากคุณ : ยุง บิน ชุม - [ 24 ส.ค. 48 09:43:58 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ช่วยนึกชื่อแล้วกัน เหมือนคุณ Red แหละ Giggs กับ Cantona ของผมไปไหนอ่ะ.....ไม่ยอมนะ รวมทั้งแผงมิดฟิลด์ตราไก่ ยุคนโปเลียนด้วย ฌองส์ ติกาน่า,  แอลง จิแรส, หลุยซ์ เฟอร์นานเดส.... แล้วก็แบ๊คจอมบุกคนนั้น.......ชื่อ...มานูเอล อโมโรส มั๊งงง บอกตรงๆ  ตอนช่วงนั้น  ผมเชียร์ตราไก่สุดใจเลย..... คนอื่นๆ ก็ ซิโก้, โซคราเตส ปล. แคเมอรูน  ชุด โรเจอร์ มิลญ่า.....สมเด็จพระเทพฯ ทรงเป็นกองเชียร์กิตติมศักดิ์ด้วย จำได้ว่าพระองค์เคยประทานสัมภาษณ์ว่าทรงเชียร์ทีมแคเมอรูน......ทรงโปรดสีชุดแข่ง จากคุณ : super_giggs - [ 24 ส.ค. 48 10:35:43 ]

ความคิดเห็นที่ 61 พวกข้างบนยังมีบัลลังก์นั่งนะครับ ถึงจะเล็กหน่อยแต่ก็มีกันคนละตัวสองตัว ถ้าแบบไร้บัลลังก์อย่างสิ้นเชิงเลยนี่ ต้อง แมทธิว เลอ ทิสสิเยร์ ครับ รายนี้ไม่เคยได้เหรียญรางวัลอะไรกับเค้าเลย (แถมเจ้าตัวก็ไม่ได้ยี่หระอะไรด้วยซ้ำไป) ทั้งๆ ที่ระดับฝีเท้านี่ถือว่าเยี่ยมมากคนนึงเลยละ ถ้าเพิ่มความทุ่มเทและก็ aggressive อีกหน่อย ผมว่าอาจเป็นตำนานของทีมชาติอังกฤษอีกคนนึงไปแล้ว จากคุณ : (แมลงสาบ) - [ 24 ส.ค. 48 10:49:46 ]

ความคิดเห็นที่ 62 โห...เพื่อนๆมาคุยกันเพียบ...อบอุ่นดีครับ แฟนๆสารพัดทีมเลยนะครับนี่ แล้วว่างๆจะมาต่อครับ... สังเกตุได้ว่าในส่วนที่นำเสนอนี่ เป็นราชาที่ไร้บัลลังก์อย่างแท้จริงครับ..... อย่าง กุลลิท และพวกนี่ยังมีแชมป์ยูโร ปลอบใจ พลาตินี่ก็เช่นกัน รุมเมนิกเก้ก็อีกคน แต่อย่างครัฟฟ์ ปุสกัส ยูเซบิโอ เรนเซนบริงค์ บิ๊กเนมขนาดนี้ไม่มีอะไรห้อยท้ายเกียรติประวัตินะครับ ยกเว้นระดับสโมสร..... ปล. พี่เตี้ยของผมรอดไปหวุดหวิดในปี 1986.. ไม่งั้นประวัติแกอาจต้องตั้งถึง 5 กระทู้...5555. *เข้ามาขอบคุณพระเอกเกาหลี "ยุง บิน ชุม" ด้วยครับที่ช่วยนำเสนอให้นักฟุตบอลรายอื่นๆให้ผมด้วย ไม่งั้นแย่เลยครับ หาข้อมูลไม่ทันจริงๆ..... จาก พระเอกแผ่นดินใหญ่ ฉี่ เฉี่ยว หัว แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 48 12:43:44 จากคุณ : กิมเฮง - [ 24 ส.ค. 48 12:22:28 ]

ความคิดเห็นที่ 63 แล้วกาเบลียล บาติสตูต้าล่ะครับ พอจะได้ซักคนมั้ย จากคุณ : Mary's Garden - [ 24 ส.ค. 48 14:04:30 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ลุงกิมครับ บาร์เซโลน่าอยู่ในแคล้น คาตาลัญ ครับ บาสก์นั่นพวก บิลเบา ครับผม จากคุณ : Ace striker - [ 24 ส.ค. 48 17:16:33 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ขอบคุณครับ ได้ความรู้+สาระ และความบันเทิง นิดๆจริงๆ สำหรับกระทู้ นี้ ... จากคุณ : Eied - [ 24 ส.ค. 48 17:22:35 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ขอบคุณ คุณ Ace striker อย่างแรงครับ.... บอลสเปนนี่ยอมรับว่าข้อมูลไม่แน่น.. สับสนบ่อยๆกับกลุ่มต้องการปกครองตัวเองของสเปน งั้นขออนุญาตแก้ไขให้ถูกต้องเลยนะครับ...... แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 48 17:36:16 จากคุณ : กิมเฮง - [ 24 ส.ค. 48 17:30:52 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ละ Zico (Brazil) ล่ะครับ จากคุณ : RockCafe - [ 24 ส.ค. 48 18:07:23 ]

ความคิดเห็นที่ 68 แดน มาริโน่ จากคุณ : nu. - [ 24 ส.ค. 48 18:52:10 ]

ความคิดเห็นที่ 69 สุดยอดครับ (^ ^ ~ พูดถึงเลอ ทิสซิเอร์ น่าเสียดายครับ จากคุณ : Icke - [ 24 ส.ค. 48 19:17:29 ]

ความคิดเห็นที่ 70 มาต่อกันครับ.... ไข้รับทานเล็กน้อย............ อีกอย่างกระทู้หยุดอยู่ที่เลข 69 ทำให้ผมตัดสินใจต้องรีเทิร์นกลับมาครับ 555 แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 48 21:03:48 จากคุณ : กิมเฮง - [ 24 ส.ค. 48 21:01:42 ]

ความคิดเห็นที่ 71 เมื่อโลกนี้ไม่ได้มีเปเล่เพียงคนเดียว....... Artur Antunes Coimbra จากคุณ : กิมเฮง - [ 24 ส.ค. 48 21:05:26 ]

ความคิดเห็นที่ 72 มี Hristo Stoitchkov ของทีม บัลแกเรีย ฟุตบอลโลกปี 94 ไหมครับ รวมถึง Carlos Valderama ของโคลัมเบีย แล้วก็ Jorge Campos ของ เม็กซิโกด้วย แหะแหะ จากคุณ : เชษฐภัทร - [ 24 ส.ค. 48 21:08:52 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ราชันต่างสีกับเปเล่ต้นแบบท่านนี้เกิดใน ริโอ เมื่อปี 1953 เป็นน้องนุชคนสุดท้องของพี่ชายอีก 4 คน.....ในครอบครัวนักฟุตบอล (แน่ล่ะครับเกิดในบราซิลคงไม่เล่นกาบัดดี้เป็นแน่แท้) ปรากฏตัวให้สาวๆกรี๊ดกันครั้งแรกแถวบางขุนพรหม...เอ้ยไม่ใช่...กับฟลามิงโก้ในปี 73..ต่างหากครับ....... และเซิ้งแข้งกับอุรุกวัยประเดิมแมทช์แรกในทีมชาติเมื่อปี 76 พ่อเปเล่ขาวระเบิดประตูคู่แข่งให้กับต้นสังกัดมากกว่า 100 ประตู !!! ใน 2 ฤดูกาลแรกเท่านั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่จะคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำปีของอเมริกาใต้ในปี 77 (และได้มาประดับตู้โชว์อีก 2 ครั้งในปี 81 และ 82) จากคุณ : กิมเฮง - [ 24 ส.ค. 48 21:11:51 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ปี 1978 ไม่ประสบความสำเร็จกับทีมชาติ...   เปเล่ขาวประสบปัญหากับอาการบาดเจ็บเล็กๆน้อยๆ บวกกับไม่ค่อยจะชอบใจนัก กับแทคติคตั้งรับของโค้ชทีมชาติบอลโลกครั้งนั้น เคลาดิโอ คูตินโญ่ (Claudio Coutinho) (แน่ละครับนักเตะแซมบ้าในสมัยนั้นผู้ซึ่งทรนงกับเกมบุกย่อมไม่ชอบใจแน่) (อีกด้านนึงก็เจอฤทธิ์เจ้าภาพทำให้ต้องกลับบ้านด้วยผลต่างประตูได้เสียน้อยกว่าฟ้าขาวเท่านั้นเอง) หุ่นแบบนี้ครับ ที่ส่วนตัวผมว่าสมบูรณ์แบบสำหรับกองกลางตัวรุกโดยแท้.......... แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 48 21:51:45 จากคุณ : กิมเฮง - [ 24 ส.ค. 48 21:13:11 ]

ความคิดเห็นที่ 75 อ้าว!!! คุณเชษฐภัทร ซุ่มอยู่ ตกใจแทบแย่...สวัสดีครับ จากคุณ : กิมเฮง - [ 24 ส.ค. 48 21:14:24 ]

ความคิดเห็นที่ 76 1982 แบทแมนรีเทิร์นส์ครับ.....กับเกมบุกอันฉกาจฉกรรจ์อีกครั้งของขุนพลแซมบ้าผู้ซึ่งยอมหกล้มดีกว่าที่จะถอยหลัง แต่ก็ไปได้แค่รอบ 16 ทีมสุดท้าย...ด้วยความช้ำใจที่เปาโล รอซซี่ มอบให้ด้วยแฮททริกที่เหลือเชื่อของกองหน้าหุ่นเด็กดมกาว ...รอซซี่เพิ่งพ้นโทษกลับมาจากข้อหาล้มบอลกับทีมเปรูจา (ถ้าผมจำผิดช่วยแก้ให้ด้วยนะครับ)...กลับมาติดทีมชาติอีกครั้งในบอลโลกครั้งนี้ อ้อ! เกร็ดอีกนิดครับ ทัวร์นาเม้นท์นี้เป็นทัวร์นาเม้นท์แจ้งดับของเสื้อเตี้ยครับ หลังจากฟิวส์ขาดกระโดดถีบเข้าที่หน้าท้อง นักเตะแซมบ้าคนหนึ่งจนโดนไล่ออกและต้องตกรอบกลับบ้านไป ซึ่งก่อนหน้ามีแฟนทั่วโลกรอชมฝีเท้าเจ้าเตี้ยคนนี้ หลังจากปี 1978 หลุยส์ เซซ่าร์ เมนอตติ ไม่เอาเค้าร่วมทีมด้วยเหตุผลว่าอายุน้อยไป.... จากคุณ : กิมเฮง - [ 24 ส.ค. 48 21:32:04 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ถึงปี 1986 ซิโก้ก็โรยไปเยอะครับ ไม่ได้เป็นตัวหลักของทีมเหมือนเดิม...เป็นตัวสำรองที่ได้ลงสนามอยู่ 3 นัด 1 ในนัดนั้นที่ผมดูถ่ายทอดสดอยู่ด้วยก็อภิมหาแมทช์อลังการครบเครื่องทุกความรู้สึกที่เราๆท่านๆทราบกันน่ะครับ ควอเตอร์ไฟนัล ที่ปะทะกับนโปเลียนลูกหนัง เป็นบุญตาของผมโดยแท้ทีเดียว...... เกมกำลังดุเดือด เสมอกันอยู่ 1-1 ผมจำไม่ได้ว่าบราซิลได้จุดโทษจากเหตุใด...แต่ที่จำได้แม่นก็คือ ซิโก้ เพิ่งลงไปได้แค่ไม่ถึงนาทีหรือไม่กี่นาทีเองครับ ก่อนทีมได้ลูกโทษ...ผู้บรรยายวันนั้น...น่าจะเป็นคุณโย่ง ยังทักว่า วอร์มไม่น่าจะพอ...แล้วก็เป็นยังว่า ซัดลูกโทษพลาดจริงๆ แต่ในเวลาก็ไม่ถึงกับแพ้ครับ...เสมอกันไป 1-1 ครับ ก่อนที่จะพ่ายจุดโทษให้นักเตะตราไก่.... ซึ่งต่อมาฝรั่งเศสก็โดนเยอรมันตอกย้ำครั้งที่ 2 ติดกัน..ยัดเยียดความแพ้ให้ในรอบรองชนะเลิศ ซิโก้เคยมาค้าแข้งช่วงสั้นๆกับ อูดิเนเซ่ในอิตาลีพักนึง แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าใดครับ... แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 48 21:42:34 จากคุณ : กิมเฮง - [ 24 ส.ค. 48 21:39:08 ]

ความคิดเห็นที่ 78 แมทช์อันระทึกใจ.... จากคุณ : กิมเฮง - [ 24 ส.ค. 48 21:44:49 ]

ความคิดเห็นที่ 79 นาทีสังหาร.... พลาด จากคุณ : กิมเฮง - [ 24 ส.ค. 48 21:46:28 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ข้อมูลส่วนหนึ่งจาก http://www.planetworldcup.com เพื่อความสมบูรณ์และถูกต้องครับ... กระทู้ Retro แบบนี้ผมจะพยายามจะไปหาข้อมูลมาฝากกันอีกนะครับ.... สำหรับราชันท่านอื่นๆ ที่ยังไม่ตรงกับความตั้งใจในกระทู้นี้โดยตรง ผมขอเป็นโอกาสหน้า อาจจะเป็น ยูโร กับ ฟุตบอลโลกในอดีตนะครับ ขอบคุณทุกท่านมากๆ ที่แวะเข้ามา......แล้วช่วยเพิ่มหรือตักเตือนในข้อมูลที่ผิดพลาดครับ แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 48 22:30:23 แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 48 21:54:56 จากคุณ : กิมเฮง - [ 24 ส.ค. 48 21:49:31 ]

ความคิดเห็นที่ 81 แฟนอินทรีเหล็ก และสุดหล่อฮันซี่ มุลเลอร์... แนะนำที่นี่ครับ http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S3689625/S3689625.html จากคุณ : กิมเฮง - [ 24 ส.ค. 48 22:12:20 ]

ความคิดเห็นที่ 82 โหวตให้ครับ ได้ความรู้เยอะเลย... แต่ว่า Dan Marino นี่ผิดกีฬาแล้วมั๊งครับ ... แต่พูดถึงราชาไร้บรรลังค์ผมก็นึกถึงเค้าคนแรกเหมือนกันนะครับ สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าเค้าคือใคร เค้าคือเจ้าของสถิติขว้างทัชดาวน์และระยะจากการขว้างมากที่สุดใน NFL ครับ แต่ไม่เคยได้แชมป์ super bowl เลยซักครั้ง จากคุณ : unknower - [ 24 ส.ค. 48 22:18:08 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ขอบคุณคุณ unknower นะครับ ไม่งั้นผมก็บื้ออยู่นาน ว่าใครคือ Dan Marino นึกว่าเป็น San Marino สมันน้อยแ่ห่งยุโรป ซะอีก จากคุณ : ยุง บิน ชุม - [ 24 ส.ค. 48 22:33:50 ]

ความคิดเห็นที่ 84 #76 จำได้ว่าตอนนั้น รอสซี่โดนตัดสินจำคุก และเข้าไปนอนในคุกมาแล้วด้วยครับ แต่สมาคมฟุตบอลอิตาลีวิ่งเต้นสุดฤทธิ์ให้ได้ประกันตัวหรือจะเรียกว่าอะไรก็ไม่รู้ เพื่อให้รอสซี่ออกมาช่วยชาติก่อน ระหว่างวิ่งเต้นนี่ถึงกับเตรียมความพร้อมด้วยการแยกรอสซี่ออกจากนักโทษทั่วไป เพื่อมาซ้อมฟุตบอลคนเดียว โดยไม่ต้องไปทำกิจกรรมร่วมกับนักโทษคนอื่นๆ พอวิ่งเต้นสำเร็จ ก็ปรากฎว่าวีซ่าของรอสซี่ไม่ผ่าน (ก็แน่ละ เล่นมีประวัติอาชญากรที่เพิ่งลงนามสั่งพิพากษาไปไม่ถึงสองอาทิตย์นี่นา) ก็ต้องวิ่งเต้นกันอีกรอบ จนต้องบินตามไปสเปนทีหลัง แต่การวิ่งเต้นทั้งหลาย (สังเกตุว่าที่อิตาลีก็มี นึกว่ามีแต่เมืองไทย ) ก็ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า ... รอสซี่ยิงประตูตลอดทัวร์นาเมนท์ 6 ประตู พาทีมชาติอิตาลีคว้าแชมป์เวิลด์คัพคราวนั้นได้เป็นผลสำเร็จ พ่วงด้วยตำแหน่งดาวซัลโวได้รองเท้าทองคำไปนอนกอดอีกข้าง พอกลับมาอิตาลี ก็มีการวิ่งเต้นกันอีกรอบ จนรอสซี่ได้อภัยโทษไม่ต้องติดคุกต่อแล้ว แถมภายหลังยังมีการลบทะเบียนประวัติอาชญากรออกอีกด้วย อันนี้มาจากความทรงจำที่เคยอ่านผ่านๆ มาจากแหล่งข่าวต่างๆ จำผิดจำถูกบ้างก็ขออภัยนะครับ เพราะไม่ได้ตั้งใจจะจำมากนัก เนื่องจากไม่ได้เป็นแฟนบอลอิตาลี ... ก็ตอนนั้นผมเชียร์รุมเมนิกเก้กับลิทบาร์สกี้นี่ครับ อุอุ จากคุณ : (แมลงสาบ) - [ 25 ส.ค. 48 10:26:00 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ตอนติดคุกเป็นคดีจากทีม วิเซนซ่า รึเวเนเซียเนี่ยหละครับ จำได้แค่ว่าทีมชื่อนำหน้าด้วยตัว V ทุกวันนี้ รอสซี่ก็ยังเป็น เหมือนเทพเจ้าของทีมนั้นครับ เหมือนที่นาโปลีมีมาราโดน่า จากคุณ : Ace striker - [ 25 ส.ค. 48 23:22:23 ]