ความคิดเห็นที่ 1 คิดว่า ... เป็นใครในสถานการณ์ของ Staff ก็คงทำอย่างที่ทำอยู่อ่ะคะ มองในแง่ดี อย่างน้อยน้องเค้าก็ได้เหรียญมาให้คุณพ่อ(ตามความตั้งใจ) และมันก็คืออนาคตของน้องเค้าด้วย จากคุณ : โคอาล่าน้อย - [ 30 พ.ย. 48 13:09:04 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เห็นด้วยครับ ถ้าเป็นผม ผมก็คงจะทำอย่างเดียวกันครับ จากคุณ : ปีศาจแดง (ดำ).. แห่งเมืองมิลาน - [ 30 พ.ย. 48 13:12:09 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ด้วยความหวังดี ไม่มีไรผิดหรอก เจ้าตัวเค้าก็ไม่โวยวายอาราย จากคุณ : ... - [ 30 พ.ย. 48 13:15:14 A:61.91.131.176 X: TicketID:089498 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่น่าเอามาตั้งเป็นกระทู้ให้โหวตได้เลยนะครับเรื่องแบบนี้ ความจริงน่าจะคิดได้ด้วยตัวเองถ้าเกิดเหตุการณ์ที่น่าเศร้าแบบนี้...ทาง staff เขาทำดีแล้วผมยังไม่มีเหตุผลตรงไหนที่ไม่เห็นด้วยที่ไม่บอกเลย ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ จากคุณ : หอยทะเล การกีฬา (วีแกน) - [ 30 พ.ย. 48 13:15:54 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าผมเป็นนักกีฬาผมคงอยากให้เค้าปิดเหมือนกัน รู้ไปตอนนั้นก็มีแต่แย่ ไม่มีไรดีขึ้นมา หากมาบอกกันก่อน แล้วผมพลาดไม่มีสมาธิ เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะนึง หากกลับมาคิด ผมคงโกรธที่ไม่ยอมปิดเอาแน่ ๆ จากคุณ : สโลวโมชั่น - [ 30 พ.ย. 48 13:16:53 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าผมเป็นคนในทีมงานก้คงจะต้องปิดข่าว เพราะถ้าเป็นงั้นจริงทีมงานต้องได้มีการพูดคุยกับทางครอบครัวที่เมืองไทยแล้ว ผมว่าคงเป็นทางครอบครัวเองที่อยากให้ปิดข่าวเพื่อให้น้องปุ้ย ได้ทำตามความหวังของตนเองและของพ่อเค้าให้สำเร็จ จากคุณ : คนติดตาม - [ 30 พ.ย. 48 13:23:28 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เห็นด้วยครับ ถ้าไม่ปิด น้องเค้าก็คงหมดกำลังใจแข่งขัน เหรียญทองก็ไม่ได้ พ่อเสียไปแล้วยังไงก็ไม่มีทางฟื้นขึ้นมาได้แล้วล่ะ แล้วน้องเค้าก็จะไม่ได้อะไรเลย แบบนี้ดีแล้ว อย่างน้อยน้องเค้าก็ได้เหรียญทองมา จากคุณ : Mr.Submarine - [ 30 พ.ย. 48 13:36:40 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าผมเป็นพ่อเค้า ผมเคยเป็นนักกีฬามาก่อน แล้วรู้ตัวว่าตัวเองต้องตายวันลูกแข่ง คงไม่บอกลูกหรอกครับ เพราะคนเป็นพ่อ คงจะมีความสุขที่เห็นลูกประสบผลสำเร็จ และเป็นสิ่งที่ตัวเองก็ตั้งใจอยากให้ลูกเป็นด้วย สู่สุขคติ... ลูกของคุณเป็นไม้ที่หล่นไม่ไกลต้นจริงๆ และเป็นอภิชาติบุตร และเป็นเด็กที่กตัญญููโดยแท้จริง แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 48 13:52:34 จากคุณ : ThaiDelphi - [ 30 พ.ย. 48 13:50:56 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมไม่เห็นด้วย ด้วยเหตุผลที่ว่า 1. น่าจะบอกเธอว่าอะไรเกิดขึ้นกับชีวิตเธอ แล้วให้เธอเป็นคนตัดสิน ไม่ใช่ตัดสินแทนเธอ เธอจะเลือกทางเดินไหนก็แล้วแต่เธอ 2. เธอจะทำตามฝันหรือเปล่านั่นคือสิทธิของเธอ 3. โอกาสรับใช้ชาติมีอีกมาก สำหรับอายุเท่าเธอ แต่โอกาสได้รดน้ำศพพ่อ มีแค่หนเดียวในชีวิต จากคุณ : เจ็ดภูติ - [ 30 พ.ย. 48 13:55:28 A:203.113.40.9 X: TicketID:105645 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สถานการณ์ แบบนี้ เราคนนอก ไม่อาจบอกได้ว่า ถูกหรือผิด เพียงเพราะ เหตุผลเรา สิ่งแวดล้อมเรา โดยส่วนตัว ผมเชื่อว่า Coach เอง หรือ คนทั่วไป น่าจะมองถึงอนาคต ปุ้ย ว่า ควรลงแข่งต่อจนจบ แต่คงไม่มีใครกล้าบังอาจตัดสินใจโดยไม่มีการฟังเสียง ญาติสนิทที่อยู่รับหน้าเรืองเมืองไทย แล้ว แจ้งข่าวไปให้ทาง คณะผู้ดูแลนักกีฬา อีกทั้งทีมที่ไป ก็มีทั้ง แพทย์และผมเชื่อว่า มีนักจิตวิทยา ไปด้วย เพื่อ แก้ปัญหาหากมีสถานการณ์ เกิดขึ้น ดังนั้น หาก ครอบครัวน้องเค้า ค่อนข้างจะยึดถือประเพณีปฏิบัติ คงแจ้งเจ้าตัวเพื่อขออนุญาตลากลับ ซึ่ง ทางคณะผุ้ดูแล คงอึดอัดที่จะขอ เหนี่ยวรั้งใดๆได้ เพียงเพราะ อ้างคำว่า ชาติ เหนือ บุพการี .... ดังนั้น สถานการณ์จริงนั้น ไม่มีใครทราบนอกจากเจ้าตัว ที่ต้อง สัมภาษณ์เองหลังกลับมา อย่างไรก็ตาม หาก จะลองสมมติว่า ทางบ้างเค้าเปิดไฟเขียวให้ ทาง Coach เสนอความเห็นว่าจะเอาอย่างไรดี ส่วนตัว ผมต้องตอบคำถามแรกว่า น้องเค้ามีโอกาส ชนะเพียงใด หรือ ว่ามาเพื่อ ประสบการณ์ หาก หวัง เหรียญ ...แค่หวัง หรือ แค่เอื้อม.... ผมมองว่า น้องอยู่ในสถานการณ์ แค่ เอื้อม .... ควรได้ 1 ใน 3 เหรียญ ก็กลับมามองฐานะ พ่อเป็นนักกีฬา แนวหน้า .... ใจคนธรรมดา อาจคิดอย่างแต่ นักกีฬาจะมีความมุ่งมั่นและหวังที่จะเห็ฯความสำเร็จของตนหรือ ของคนของตน สูง สุขของคนตาย อาจจะเป็นสิ่งที่น่า ใส่ใจ ครับ ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัว ท้ายที่สุดก็ขอแสดงความเสียใจในความสูญเสีย  และ อยากขอให้น้องเค้า ถือโอกาสนี้ ที่ตนเองสำเร็จทั้งที่ต้องฝ่าปัญหายาบ้า ในครอบครัว ร้องขอให้ นายกฯ ไม่ลืมสัญญาว่าจะกำจัดมันให้สิ้นซาก .... นานแล้วนะ ยังมากระทบถึงเราได้อีก... อีกทั้ง ร้องต่อสังคมให้ ใส่ใจ ในเรื่องนี้ อย่าให้ คนที่มุ่งทำดี ต้องสู้ศึกหลายหน้าอย่างนี้ ศักยภาพจะไปไกลกว่านี้เพื่อชาติ จะไปได้อย่างไร.... แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 48 14:08:59 จากคุณ : polar bear sushi (The Polar Bear) - [ 30 พ.ย. 48 14:01:49 ]

ความคิดเห็นที่ 11 มองต่างมุมครับ ถ้ามองในมุมพ่อแม่ ถ้าผมมีลูก แล้วผมรู้ตัวว่าจะต้องตาย ผมจะบอกญาติพี่น้องว่าให้ปิดข่าว เพื่อให้เขาประสบความสำเร็จในชีวิตก่อน ซึ่งจะนำความรุ่งเรืองมาสู่ตัวเขา ส่วนตัวผมซึ่งไม่อยู่ในโลกนี้แล้วนั้นคงไม่มีความหมายอะไรมากมาย มีแต่จะทำให้เขากังวลมากกว่า แล้วค่อยให้เขามาเคารพศพผมทีหลังก็ได้ จากคุณ : emacthailand (emacthailand) - [ 30 พ.ย. 48 14:05:46 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เห็นด้วยกับสิ่งที่คณะผู้จัดการทีมทำให้กับน้องนักกีฬาคนนี้เห็นว่าทุกอย่างยังไม่สายเกินไปสามารถมาเคารพศพคุณพ่อทัน การที่น้องลงทุนซ้อมมาตลอดปีก็ไม่เสียหาย หากบอกไปเชื่อว่าชีวิตที่สูญเสียก็ไม่มีทางกลับคืน การลงทุนฝึกซ้อมก็คุ้มค่าที่มุ่งหวังไว้ ดูข่าวเมื่อคืนยอมรับว่าน้ำตาไหลพรากอย่างไม่รู้ตัว ขอให้คนรอบข้างสนับสนุนและช่วยดูแลน้องคนนี้ต่อไป จากคุณ : แฟนคนเดิม - [ 30 พ.ย. 48 14:30:37 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ไม่เห็นมีใครแสดงความคิดเห็น ในฐานะของลูกที่เป็นนักกีฬา ที่ไม่มีแม้แต่โอกาส ที่จะได้พูดลาพ่อเป็นครั้งสุดท้าย พูดกันนัก พูดกันในฐานะ คนที่ไม่ได้เสียอะไรเลย ไม่เสียพ่อ ไม่เสียแรง ไม่เสียใจ คิดแต่เวลา งบประมาณประเทศ การทุ่มเทของทีมงาน กลัวจะไม่ได้เหรียญทอง พวกเราได้เหรียญทอง(ของน้อง)มา  มองแต่มุมที่อยากให้มันเป็นเรื่องสบายใจทั้งนั้น ถามใจคุณสิครับ ถ้าคุณเป็นลูก คุณจะมองเหรียญทองอันนั้นอย่างไรในอนาคต มันคงจะตอกย้ำความคิดถึงพ่อ ที่จากไปโดยไม่ได้กล่าวร่ำลา ตลอดชีวิต ผมไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจแทนน้อง ด้วยการเลือกเอาโอกาสให้ได้เหรียญทองมากกว่าที่จะให้โอกาสน้องเขาเลือกเองว่าจะกลับไปหาพ่อไหม ผมว่าใจร้ายอย่างมาก จากคุณ : Niceink - [ 30 พ.ย. 48 15:03:25 ]

ความคิดเห็นที่ 14 #13 ถ้าคุณพ่อเค้าล้มป่วยกระทันหัน ใกล้เสียชีวิต แล้วทีมงานไม่ยอมบอก ทำให้อดมาดูใจ ก็คงต้องเป็นอย่างที่คุณว่าอ่ะครับ แต่กรณีนี้ท่านเค้าเสียด้วยเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดว่าจะเกิดขึ้นนะครับ กลับมาก็ได้แค่รดน้ำศพอยู่ดี ผมเชื่อว่าคุณปุ้ย ต้องมองเหรียญทองนี้ด้วยความภูมิใจแน่ๆ เพราะมันไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้พ่อต้องตาย แต่เป็นสิ่งที่จะทำให้คุณพ่อของเธอมีความสุขแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ชื่นชมครับ จากคุณ : Redder ครับ - [ 30 พ.ย. 48 15:24:30 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เห็นด้วยครับและผมก็เชื่อว่าคุณพ่อของน้องเขาคงเฝ้าดูด้วยความภาคภูมิใจครับซึ่งแม้ว่าน้องเขาจะได้เหรียญหรือไม่ได้ก็ตามผมเชื่ออย่างนั้นครับ จากคุณ : เลือดสีน้ำเงิน - [ 30 พ.ย. 48 16:27:43 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ลองไปบอกก่อนซิ พ่อน้องปุ้ย จะได้มาเอาคนพูดไปอยู่ด้วย จากคุณ : AntiSlow - [ 30 พ.ย. 48 16:44:40 ]

ความคิดเห็นที่ 17 #13 ผมเป็นคนนึงที่ไม่เคยให้ความสำคัญอะไรกับภาครัฐ, งบประมาณ หรือจะพูดให้ง่ายๆ ชัดๆ ตรงๆ เลยก็คือ ผมไม่ได้คลั่งชาติมากถึงขนาดที่ว่าจะต้องยอมสูญเสียทุกอย่างเพียงเพื่อให้ได้มาซึ่งเกียรติยศ, ชื่อเสียง หรือหน้าตาที่ได้มาในนามของทีม "ชาติ" เลยครับ แล้วในประเด็นของเรื่องนี้ น้องเค้าไม่มีช้อยส์ให้เลือกด้วยซ้ำไปว่า จะมีโอกาสกลับไปดูแล หรือดูใจคุณพ่อเค้า เพราะต่อให้ทางสต๊าฟโค้ชบอกข่าวนี้ทันที น้องเค้าก็แค่ได้กลับมาร่วมพิธีศพมากขึ้นอีก 2-3 วันเท่านั้นเอง ฟังดูเหมือนว่ามันจะมีค่ามาก แต่มันจะมากอะไรไปกว่าศพของคุณพ่อที่ค่อยๆ เสื่อมสภาพไปตามเวลา มาช้าไปอีก 3-4 วันแล้วเสียอะไรมากขึ้นอีกหรือครับ?? แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 48 17:32:42 จากคุณ : Grand Gunner - [ 30 พ.ย. 48 17:11:07 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เห็นด้วยกับ #14, #17 พ่อเค้าเสียไปแล้วครับ อย่างมากก็มารดน้ำศพได้มากวันขึ้นเท่านั้น ได้เหรียญทองเสร็จก็กลับมางานศพทันอยู่ดีครับ อย่างมากก็ยืดงานรดน้ำศพออกไปอีกหลายๆวัน ยังไงก็กลับมาทันงานศพแน่ๆไม่ต้องกลัว จะรดน้ำศพซักเดือนนึงก็ทำได้ครับ  แต่ถ้าพ่อเข้าโรงพยาบาล แต่ยังไม่เสีย กรณีนี้ควรบอกน้องเค้าอย่างยิ่งครับ เพื่อที่จะได้กลับมาทันดูใจพ่อก่อนสิ้นลมหายใจ มันคนละกรณีกันครับ จากคุณ : Mr.Submarine - [ 30 พ.ย. 48 17:21:55 ]

ความคิดเห็นที่ 19 สรุปคือได้เหรียญ นี่เพื่อตัวน้องเค้าเองนะครับ ทำไมจะไม่เห็นด้วย จากคุณ : X-Sy - [ 30 พ.ย. 48 17:30:36 ]

ความคิดเห็นที่ 20 น่ารังเกลียด ที่สุดคือ จขกท........เพื่ออะไร..?????? ฟะ... จากคุณ : ความรัก ไม่มีในโรค - [ 30 พ.ย. 48 20:22:27 ]

ความคิดเห็นที่ 21 พูดยากนะ จริง ๆ ก็เคยมีกรณีคล้าย ๆ กัน เกิดขึ้นกับ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย ซึ่งครั้งนั้น ต๋อง ใช้เหตุการณ์นี้สร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวเองจนทำให้ปีนั้น ต๋อง มีผลงานดีที่สุดในชีวิตเขาเลย. จากคุณ : LittleTiger - [ 30 พ.ย. 48 21:16:30 ]

ความคิดเห็นที่ 22 รดน้ำศพไม่สำคัญหรอกอะ สำคัญตอนที่ท่านมีชีวิตอยุ่คุณ ทำอะไรให้ท่านดีใจ ภูมิใจหรือยัง ถ้ายังก็รีบทำชะ ทางทีมงานทำถูกต้องแล้วคร้าบ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นของธรรมดา ทุกสรรพสิ่งมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ถ้าเธอมารดน้ำศพ ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นอะนะ จากคุณ : วิทจังกึม - [ 30 พ.ย. 48 23:29:38 A:192.168.0.246 X:61.91.166.64 TicketID:079889 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ไม่ขอพูดว่า ถูก หรือ ผิด เพราะมันไม่มีถูกผิดในกรณีนี้ แต่จะแสดงความคิดเห็นว่า เหมาะสมครับ จากคุณ : ืำืnemoatlantis (NemoAtlantis) - [ 1 ธ.ค. 48 00:10:42 ]

ความคิดเห็นที่ 24 นึกถึงกรณีต๋องเหมือนกันค่ะ อันนั้นพ่อเค้าโดนยิงใช่รึเปล่า จำไม่ได้ แต่เกมแรกหลังจากเกิดเรื่อง(ไม่รู้ถึงวันรึเปล่า) ต๋องทำ Maximum Break ได้ ถ้าจำไม่ผิดคนยืนตบมือให้ทั้งห้องเลย แต่ไม่แน่ใจว่าทางบ้านต๋องปิดข่าวรึเปล่า ที่รู้ๆ ตอนหลังต๋องให้สัมภาษณ์ว่า ทำตามที่พ่อสอน "เสียอะไรก็เสียได้ แต่อย่าเสียกำลังใจ" น้ำตาไหลเลยล่ะค่ะ แล้วก็จำคำนี้ได้มาตลอด แก้ไขเมื่อ 01 ธ.ค. 48 06:48:26 จากคุณ : NAJ - [ 1 ธ.ค. 48 06:35:18 ]

ความคิดเห็นที่ 25 สตาฟโค้ช ปรึกษา กับแม่ น้องปุ้ยแล้วครับ เป็น กลุ่มคนที่ใกล้ชิด มีสิทธิและรับผิดชอบในการตัดสินใจ ครั้งนี้แล้วด้วย เหมาะสมครับ จากคุณ : . - [ 1 ธ.ค. 48 16:34:24 A:58.8.107.113 X: TicketID:066940 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ครั้งต๋องแข่งแมทช์นั้น ต๋องรู้แล้วครับ ว่าคุณพ่อโดนยิงเสียชีวิต แข่งทั้งที่รู้ แต่ก็ยังสามารถตบไม้เดียวหมดโต๊ะ ไม่เสียกำลังใจครับ ขอแสดงความเสียใจกับน้องปุ้ยครับ ขอให้เข้มแข็งสมกับเป็นนักสู้คนเก่งของป๊านะครับ จากคุณ : karawara - [ 2 ธ.ค. 48 12:12:41 ]