ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าไม่ใช่แล้วจะเป็นใครละ ก็ยังไม่เคยโดนผ่าสมองซะหน่อยใครจะมาเปลี่ยนให้เรา สิ่งที่คิดว่าเปลี่ยนนั้นน่าจะเป็นความคิด ประสบการณ์ การเรียนรู้   สิ่งต่างๆที่เราได้รับมา  แล้วเราเองนั่นแหละที่ ทำให้ตัวเองเปลี่ยนไป จากคุณ : หัตถ์ - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 19:14:19 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เคยเรียน  ฟิสิโอหรืออนาโตมี่ จำไม่ได้แล้วอาจารย์บอกว่าในทางสรีระ  เราไม่ใช่คนเดิมในทางกายภาพเพราะอวัยวะ แม้แต่กระดูก  เปลี่ยนไปไม่ใช่ของเดิมเมื่อครบเจ็ดปี  แต่ความทรงจำยังมี  เพราะมีการถ่ายความทรงจะ  ก็ไม่รู้ว่าจริงไมก็ลองมาคุยกันดู จากคุณ : ~+~TATIANA~+~ - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 19:24:21 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่ต้องมองถึงสมองหรอครับ มองไม่เห็น มองที่ร่างกายภายนอกก็พอ เช่นมือ เท้า แขน ขา ฯลฯ มันเป็นอวัยวะเดิมหรือเปล่าล่ะ ผมว่ามันอันเกิมแหละ แต่มันแปลเปลี่ยนไป ตามการเจิรญเติบโต หรือการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย จากคุณ : ksk - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 19:47:20 ]

ความคิดเห็นที่ 4 น่าจะเป็นคนเดิมนะคะ เพราะว่าเซลล์สมองนี่ ถ้าตายไปแล้วไม่สามารถสร้างใหม่เองได้ มีแต่การเจริญเติบโตเท่านั้น เพราะฉะนั้น เราคิดว่ามันก็เป็นสมองอันเดิมนั่นแหละ จากคุณ : มิ้นล่ะ (mint_la) - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 20:27:07 ]

ความคิดเห็นที่ 5 คือไม่มีการแบ่งเซลล์หรือ พัฒนาขึ้นแล้วครับ(มั้งนะไม่แน่ใจ) แต่สามารถเพิ่มรอยหยักในสมองได้ โดยการอ่าน คิด วิเคราะห์ จากคุณ : หนุมานถวายแหวน - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 20:36:01 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สันตติ ปิดบังอนิจจัง  ผนังเซล ออร์กาเนล ฯลฯ ทุกๆองค์ประกอบของเซลล์ทุกอย่าง โมเลกุลทุกโมเลกุล อยู่ในสภาวะ dynamic equilibrium    แม้องค์ประกอบ โครงสร้าง ความสัมพันธ์กับออร์กาเนลรอบข้าง จะเหมือนเดิม แต่อะตอมต่างๆ จะมีการแลกเปลี่ยนกับอะตอมใหม่อยู่เสมอ  ทุกๆอะตอม ล้วนเป็นเช่นนั้น  สัพเพธฺมมา อนัตตาติ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 20:51:14 ]

ความคิดเห็นที่ 7 มันจะเป็นอันเดิมไปได้ยังไง  เซลมีการเสื่อมและซ่อมเเซมตัวเองอยู่เสมอ  ไม่งั้นเราจะรับสารอาหารไปทำไม  ก็แค่รับกลูโคสเพิ่มพลังไม่พอเรอะ  เซลมีการซ่อมตัวเอง  และไม่ใช่ของเดิมตลอดชีวิตแน่นอน     ไม่เชื่อไปค้นตำราได้เลย จากคุณ : ~+~TATIANA~+~ - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 22:39:41 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เคยได้ยินว่า จิตมีเกิดมีดับตลอดเวลา เหมือนภาพที่นำมาต่อๆกัน จนเป็นภาพยนตร์เคลื่อนไหวได้ ภาพเมื่อต้นเรื่อง ก็เป็นคนละภาพกับตอนกลางเรื่อง และ ปลายเรื่อง จากคุณ : Anonym - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 22:50:28 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่ใช่อันเดิมหรอก จากคุณ : แกะแหนม - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 23:15:34 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อืม หากว่าไม่ใช่อันเดิมตามที่พูด งั้นโอกาศที่จะเป็นแบบที่ผมพูด ก็มีทางเป็นไปได้ หากวิญญาณไม่มีจริง (ในที่นี้หมายถึงเจ้าของจิตที่เกิดจากวงจรสมอง หรือตัวตนจริงของเรา) งั้นเราในตอนนี้ อาจจะไม่ใช่เราเมื่อ 5 ขวบก็ได้ เพียงแค่เรามีความทรงจำของเมื่อ 5 ขวบ และที่ผ่านมาเท่านั้นเอง อีก 10-20 ปี ตัวตนเราในตอนนี้อาจจะหายไป แล้วกลายเป็นสิ่งอื่นที่มาเป็นเจ้าของ จิตใจและสมองเราแทน เหมือนกับมีร่างโคลนที่โอนถ่ายข้อมูลสมองเราไป ไม่ว่าใครก็ต้องบอกว่าเป็นเรา แต่เขาไม่ใช่เรา เป็นคนอื่นที่ได้ความทรงจำและความคิดทุกสิ่งทุกอย่างเช่นเดียวกับเรา แต่หากไม่ใช่แบบนั้น หมายถึงว่าเราเป็นเราจากตอน 5 ขวบ จนถึง ปัจจุบัน ก็อาจจะเดาๆเอาว่า วิญญาณมีจริง (ตัวตนจริงของเราที่เป็นเจ้าของจิตและสมอง) จากคุณ : (-_-") - [ วันเนา (14) 00:34:11 ]

ความคิดเห็นที่ 11 แต่ที่ผมทราบมาว่า เซลสมอง เป็น 1 ใน 2 เซล ที่ไม่มีการเพิ่มขึ้น หรือเสื่อมสลาย ในร่างกาย (อีกอันคือ เซลไขมัน) แต่หากว่าการซ่อมแซมเซลมีจริง เซลสมองนั้น จะใช่ โมเลกุลเดิม ทั้งหมดหรือไม่ หากไม่ใช่แล้ว เราในตอนนี้ก็ไม่ใช่เราเมื่ออดีตน่ะสิครับ จากคุณ : (-_-") - [ วันเนา (14) 00:45:32 ]

ความคิดเห็นที่ 12 แล้วนิยามคำว่าเราคืออะไรล่ะ     ถ้าหมายความว่าสสารชุดเดิมตั้งแต่เกิดจนตายเราก็ไม่ใช่เราแน่ เซลล์ไขมันตอนเด็กเพิ่มจำนวนได้  แต่ตอนโตไม่เพิ่มจำนวน  แต่ขยายขนาดได้       เซลสมองตอนนี้กับตอนเด็กน่ะไม่ใช่อันเดียวกันอยู่แล้ว  แต่มันค่อยเปลี่ยนในเซลไปทีล่ะน้อย  ไม่ได้เปลี่ยนทีเดียวทั้งเซล  มันจึงยังคงหน้าที่เดิม  และมีความจำสะสมมา จากคุณ : ~+~TATIANA~+~ - [ วันเนา (14) 02:38:58 ]

ความคิดเห็นที่ 13 มันแล้วแต่คุณจะนิยามคำว่า อันเดิม ไว้ว่าอย่างไร ถ้าคุณจะนับในระดับเซลล์ โดยมองในระดับ micro มันก็คงไม่ใช่อันเดิมๆหรอกครับ แต่ถ้าคุณนับในระดับ macro คุณก็ต้องบอกว่ามันเป็น "อันเดิม" นะครับ จากคุณ : ช่างไฟ - [ วันเนา (14) 09:19:10 ]

ความคิดเห็นที่ 14 นิยามคำว่าเราก็พูดไปแล้วล่ะครับที่ข้างบน แต่มันคงเข้าใจยาก ผมก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงแล้วครับ คือคำว่าเรา จะมีแต่เราเท่านั้นที่เข้าใจอ่ะครับ เอาไงดี สมมุติว่า มีการโคลนนิ่งคุณขึ้นมา 9 คน โดยที่ copy คุณมาอย่างสมบูรณ์แบบ แล้วเอาคุณทุกคน มายื่นกันเป็นกลุ่ม คุณที่ยืนอยู่ในกลุ่มนั้น ก็จะเข้าใจเองครับว่าคำว่า "เรา"  มันหมายความว่ายังไง ต้องจินตนาการให้ออกว่าเรายืนอยู่ในกลุ่มนั้น ไม่ใช่จินตนาการว่าเรามองเข้าไปที่กลุ่มนั่น เพราะมันจะไม่มีอะไรแตกต่างเลย และจะไม่เข้าใจซะทีว่า คำว่า เรา มันคืออะไร คิดเล่นๆครับอย่าซีเรียส ผมแค่สงสัยว่า หากสมองของผมในตอนนี้ และสมองของผมเมื่อ 5 ขวบ มันเป็นอันเดียวกันแค่ภายนอก แต่หากในระดับ nano แล้วสมองของผมไม่ใช่อันเดิมโดยสิ้นเชิงจากของเดิม เป็นของใหม่แต่ได้โครงสร้างเดิมมาแล้วล่ะก็ มันก็ไม่น่าจะต่างอะไรกับการที่เราโดนเปลี่ยนสมองจากตอน 5 ขวบ แล้วมาถึงตอนนี้โดยสิ้นเชิง เพราะมันไม่ต่างอะไรกับสมองอันใหม่เลย เหมือนกับว่า จู่ๆวันนึงคุณโดนลักพาตัวไปอ่ะครับ แล้วทีนี้โดนโคลนนิ่ง และ copy ข้อมูลในสมองมาอย่างสมบูรณ์แบบ 100% จากนั้นก็ผ่าตัดเปลี่ยนเอาสมองโคลนนิ่งมา แล้วมาใส่ในหัวของคุณแทน ทีนี้ผมอยากถามว่า คำว่าเรา ในตอนนี้จะมีอยู่จริงไหมครับ เพราะคนอื่นเขาก็จะต้องบอกว่าคุณยังเป็นคุณคนเดิมทุกอย่าง แต่ว่าคุณจริงๆล่ะ คุณได้ตายไปแล้วนะครับ หมดการรับรู้ทุกอย่าง เพราะสมองโดนทำรายไปแล้ว หากว่าสมองเราในระดับ nano ไม่ใช่ของเดิมเมื่อตอนอายุ 5 ขวบแล้วล่ะก็ เราในตอนนี้ก็ไม่ต่างกรณีที่พูดข้างบนหรอกครับ เรา 5 ขวบได้ตายไปแล้ว และที่ไม่แน่มากกว่านั้นก็คือว่า เราในวันนี้ใช้เราเมื่อวานหรือเปล่าครับ และเราในพรุ่งนี้จะใช่เราในวันนี้หรือเปล่าก็ไม่อาจจะรู้ได้เลย แต่หากสามารถพิสูจน์ได้ว่า เราในตอนนี้ก็คือเราเมื่อ 5 ขวบจริง และเราในอนาคตอีก 30 ปีก็จะเป็นเราอยู่ตลอดไป ตราบเท่าที่เราจะตายไป งั้นวิญญาณ ก็อาจจะมีจริงก็ได้ครับ นิยามของคำว่าวิญญาณก็คือ ตัวตนที่แท้จริงของเราน่ะครับ ที่อาศัยอยู่ใน จิตใจความรู้สึกของเรา ซึ่งเป็นเจ้าของจิตที่เกิดจากวงจรสมองน่ะครับ จินตนาการถึงเรื่อง โคลนนิ่งที่ อาโนนแสดงน่ะครับ มองผิวเผินเหมือนกับว่า ค้นพบทางที่จะทำให้มนุษย์เป็นอมตะได้ โดยการที่ทำสำรองไว้เมื่อตายจะได้สร้างกลับคืนมา แต่สิ่งที่สร้างขึ้นมา ถึงจะเหมือนเรา 100% แต่มันก็ไม่ใช่เรานะครับ ตัวตนเราจริงๆได้ตายไปแล้ว สิ่งที่ยังอยู่ก็คือ เราที่เป็นคนอื่น พูดแบบนี้พอจะฟังขึ้นไหมอ่ะครับ แก้ไขเมื่อ 14 เม.ย. 49 10:09:08 จากคุณ : (-_-") - [ วันเนา (14) 10:08:24 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อธิบายคุณได้ยากจัง    แต่ต่างสิ  สมอง โคลนนิ่งแค่ถูกโคลน เร่งเวลาให้โต  และถ่ายความจำมาโดยที่ไม่ได้ร่วมในเหตการณ์จริง   แต่สมองจริงที่ค่อยเปลื่ยนจากห้าขวบมาจนบัดนี้ได้ร่วมในเหตการณ์จริงแล้วค่อยๆเปลี่ยน เหมือนเพชรจริงที่ค่อยๆอัดเเรงดันและความร้อนจนมาเป็นเพชร  กับเพชรเทียมที่เร่งเวลาการอัดน่ะ     ถึงคุณสมบัติจะเกือบเหมือนกับเปี๊ยบแต่คนก็ไม่ยอมนับ  เพชรอัดก็แค่กะรัตละพัน  แต่ของจริงหลักแสน จากคุณ : ~+~TATIANA~+~ - [ วันเนา (14) 14:21:57 ]

ความคิดเห็นที่ 16 งั้นวิญญาณ ก็อาจจะมีจริงก็ได้ครับ นิยามของคำว่าวิญญาณก็คือ ตัวตนที่แท้จริงของเราน่ะครับ ที่อาศัยอยู่ใน จิตใจความรู้สึกของเรา ซึ่งเป็นเจ้าของจิตที่เกิดจากวงจรสมองน่ะครับ  อันนี้ที่คุณอนุมานไม่จริง สมมุตง่าย ถ้าสมองเราเป็นฮาร์ดดิสแบบซ่อมแซมทีละชิ้นย่อยๆได้  เสียนิดหน่อยก็ซ่อมไปเรื่อยๆ  จนมันไม่ใช่สสารอันเดิมอีกต่อไป  แต่คุณก็ถ่ายโอนความจำ หรือข้อมูลมาเรื่อยๆจนครบ    มันยังทำงานได้    คุณจะมาสรุปว่ามันมีวิญญานหรือตัวตนที่แท้จริงยังไง จากคุณ : ~+~TATIANA~+~ - [ วันเนา (14) 14:28:11 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เทียบง่ายว่าสมองเป็นวัตถุโบราณ  คุณซ่อมไปเรื่อยๆ  และเป็นเจ้าของมัน  ซ่อมจนมันไม่เหลือสสารเดิม แต่  สภาพเหมือนเดิม  เพราะคุณเป็นศิลปินผู้สร้าง  วันดีคืนดีมีคนมาก๊อบได้เหมือนเด๊ะ  ทั้งรอยตำหนิ   แล้วมาเครมว่าเหมือนกันเด๊ะ  ตัองเท่ากันสิแทนกันได้   จะเอามาให้คุณ หรือขายพิพิธภัณฑ์ในนามศิลปะของคุณ    คุณจะยอมไม  มันก็แค่ของกีอบเหมือนแค่ไหนก็ไม่ใช่อันเดิม  ที่เป็นอันจริง   แม้ว่าอันจริงจะบูรณะจนไม่เหลือ  วัตถุเดิมแล้ว จากคุณ : ~+~TATIANA~+~ - [ วันเนา (14) 14:38:22 ]

ความคิดเห็นที่ 18 วิญญาณอาจจะเป็นในรูปของ รหัส ทางพันธุกรรม เป็นตัวสั่งให้เราทำคำสั่งพื้นฐานได้ครับ เป็นสิ่งที่เรารับมาจากบรรพบุรุษ เช่น เวลากินต้องอ้าปาก เวลาขยับต้องเกร็งกล้ามเนื้อ ถ้าเราไม่มีรหัสพวกนี้เราอาจจะไม่สามารถเริ่มต้นชีวิตได้ เป็นสิ่งที่ได้มาจากรุ่นสู่รุ่นและอาจเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราจึงมีความผูกพันธุ์เป็นพิเศษกับสายเลือดเดียวกัน สำหรับเจ้าของกระทู้ ขึ้นอยู่กับว่าเวลาเป็นสิ่งที่ต่อเนื่องหรือไม่ต่อเนื่อง(ซึ่งยังไม่มีใครทราบ) ถ้าเวลาเป็นแบบไม่ต่อเนื่อง นั่นก็แสดงว่าทุกๆเวลาจะมีการก๊อปปี้ทุกสิ่งทุกอย่างไว้และตัวคุณตอนนี้ก็คือคุณที่ถูกโคลนมาจากตัวคุณในอดีตตลอดเวลา แต่ถ้าเวลาเป็นสิ่งที่ต่อเนื่องคุณในอดีตก็คือคุณในตอนนี้ คิดไปก็เท่านั้นครับคิดได้ก็ไม่มีประโยชน์ คิดไม่ออกเดี๋ยวจะฟุ้งซ่านครับ จากคุณ : sweetoil - [ วันเนา (14) 14:51:38 ]

ความคิดเห็นที่ 19 มีใครเข้าใจผมไหมเนี่ย จากคุณ : (-_-") - [ วันเนา (14) 14:59:08 ]

ความคิดเห็นที่ 20 (- -")   อืม....ม   เราเป็นเราแน่ๆ ล่ะ  ตั้งแต่ fertilized เป็น zygote ไปจนตายน่ะแหละ  เพราะ gene ไม่ได้เปลี่ยนไปนี่นา จากคุณ : เส้นหมี่น้ำใส - [ วันเนา (14) 16:13:50 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ถ้ามองกว้างๆ น่ะใช่ แต่ถ้ามองลึกลงไป..ไม่ใช่หรอกครับ จากคุณ : Due_n - [ วันเนา (14) 17:45:20 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ตอบ #19  มาลงความเห็นว่าเข้าใจ  1 เสียง มี 2 จักรวาลจิตวิญญาณ(Clan) คือ จักรวาล ครุฑ-นาค นารายณ์ทรงสุบรรณ และ จักรวาลช้าง ศิวะไม่สังกร ที่ยังตามกินมิติจิตวิญญาณมนุษย์(คน)ในประเทศไทย 2 จักรวาลนี้มีขนาดเล็กลงแล้ว คงกินได้อีกไม่มาก แต่ต้องระวังจักรวาลขนาดใหญ่ ที่ตามกิน 2 จักรวาลนี้ เพราะอาจจะกินเกินต่อเนื่อง ปัญหาอาจไม่ยุติได้อย่างรวดเร็ว ยังมี อนันตะจักรวาลที่พ่ายแพ้ไป ในครั้งที่แล้ว อาจจะใช้สิทธิ ตีครั้งที่ 2 ใน 1-2 ปีนี้ (พวกอสูรพิภพ และมหาอสุรกายภูมิ) การสนทนาเรื่องพวกนี้ใน Internet จะถูก Spy จากจักรวาลอื่น Tracking ได้ง่าย ต้องเตรียมพร้อมด้วย... เรื่องสมอง เป็นความลับของเจ้าที่จักรวาลมนุษย์ จากคุณ : Surasak Yutitumnon (WhiteSpirit) - [ วันเนา (14) 23:57:24 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ลองไปถามห้องศาสนาดูสิ จากคุณ : Anonym - [ วันเถลิงศก (15) 00:15:32 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ต้องจำกัดนิยามของคำว่า "อันเดิม"ก่อนนะครับ อันเดิมทางกายภาค หรือทางสรีระละครับ? เราจำกัดไม่ได้หรอก จากคุณ : arata_arty - [ วันเถลิงศก (15) 00:51:38 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ======================= ความคิดเห็นที่ 15   อธิบายคุณได้ยากจัง    แต่ต่างสิ  สมอง โคลนนิ่งแค่ถูกโคลน เร่งเวลาให้โต  และถ่ายความจำมาโดยที่ไม่ได้ร่วมในเหตการณ์จริง   แต่สมองจริงที่ค่อยเปลื่ยนจากห้าขวบมาจนบัดนี้ได้ร่วมในเหตการณ์จริงแล้วค่อยๆเปลี่ยน เหมือนเพชรจริงที่ค่อยๆอัดเเรงดันและความร้อนจนมาเป็นเพชร  กับเพชรเทียมที่เร่งเวลาการอัดน่ะ     ถึงคุณสมบัติจะเกือบเหมือนกับเปี๊ยบแต่คนก็ไม่ยอมนับ  เพชรอัดก็แค่กะรัตละพัน  แต่ของจริงหลักแสน จากคุณ : ~+~TATIANA~+~  - [ วันเนา (14) 14:21:57 ] ======================= กรณีโคลนนิ่ง ต้องบอกว่าโครงสร้างเหมือนกันทุกประการครับ แต่ไม่ใช่อันเดียวกัน และเมื่อปัจจุบันเป็นเหตุ แล้ว ผลจะไม่เหมือนกัน เพราะมันไม่ใช่อันเดียวกัน( คือ อยู่ใน space-time ที่แตกต่างกัน , ในที่นี้คือ อยู่ในมิติทิศทาง ที่ไม่เท่ากัน , ซึ่งเป็นเหตุ ที่ส่งให้ผลต่อไป ย่อมไม่เหมือนกันด้วย ) ดังนั้นในเรื่องมนุษย์จริง และตัวโคลนที่ถูกถ่ายความทรงจำ คุณค่าความเป็นคนไม่แตกต่างกันครับ แต่การสะสมเหตุปัจจัยนับจากที่เกิดมาทั้งคู่ต่อไปนั้น ย่อมไม่เหมือนกันแน่นอน ด้วยเหตุผลที่ผมอธิบายไปข้างต้น ( ไม่มองที่อัตตา หรืออารมณ์ของผู้สังเกตการณ์เป็นสำคัญ เพราะจะทำให้ไม่สามารถรับรู้ตามสิ่งที่เป็นอยู่จริงได้ ) ในกรณีของเพชร คุณค่าของเพชรแท้และเพชรเทียม สมมุติว่า เพชรเทียมนั้นสามารถลอกแบบได้เหมือนเพชรแท้ทุกประการ ( รูปร่าง คุณสมบัติทางกายภาพและเคมีฯทุกอย่าง ) ถ้าไม่ใช่เพราะความทรงจำของผู้ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับมันแล้ว ก็ต้องบอกว่ามันไม่ต่างกันครับ คุณค่าของมันไม่ต่างกันเลย , ดังนั้นคุณค่าของมันจึงอยู่ในความทรงจำของคน ไม่ใช่คุณค่าโดยธรรมชาติในตัวมันเอง ( ถ้าผมแอบจับมันสลับที่เก็บกัน โดยไม่มีใครอื่นรู้เห็นอีกเลย , พอเจ้าของตัวจริง และคนอื่นๆที่จะนำมันไปใช้ หรือซื้อขาย จิตใจเขาก็ยังเชื่อจริงๆอยู่มันมันมีคุณค่ามหาศาล ในขณะที่เพชรเทียม ที่ถูกเก็บอยู่อีกที่ มีค่าด้อยกว่า {แม้ว่าจริงๆ ผมจะจับมันสลับที่กันเรียบร้อยแล้วก็ตาม แต่คุณค่าในความทรงจำของคนที่มีอยู่ ก็ยังคงเดิมต่อไป}  ) ไม่ทราบว่าจะอ่านเข้าใจหรือไม่ เพราะรายละเอียดมันวกวนเอาเรื่อง....... ดังนั้น เรื่องของคุณค่าทรัพย์หรือวัตถุสสารใดๆที่คนกำหนดขึ้น มันไม่ใช่สภาวะทางธรรมชาติ ที่จะนำไปใช้เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ต่อไปน่ะครับ ;) ของที่เหมือนกันทางโครงสร้างและคุณสมบัติทุกประการ อาจจะมีมากกว่า 1 ชิ้น( ตัว , อัน ) ก็ได้ มันไม่ต่างกัน แต่ไม่ใช่อันเดียวกัน เพราะอยู่ใน space-time ที่แตกต่างกัน( และเป็นผลให้อนาคตของมันแตกต่างกันนับแต่นั้น ) แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 49 16:21:12 จากคุณ : Detonator_Pao_ - [ วันเถลิงศก (15) 16:09:35 ]

ความคิดเห็นที่ 26 Detonator_Pao_ ต่างกันค่ะระหว่างเพชรแท้กับเพชรเทียม ต่อให้เพชรเเท้สองเม็ด  size เดียวกันก็ยังต่างกันเลย  ความใสต่างกันตำหนิต่างกัน   ไม่มีเพชรเเท้ใดๆในโลกเหมือนกันหรอกค่ะ  ต่อให้คุณสมบัติฟังดูเผินๆเหมือนกัน แต่เมือส่องดูแล้วก็ต่างกัน   เพชรกะรัตละ  ไม่ถึงแสนก็มี  กะรัตละล้านก็มี     อันนี้คือทางกายภาพของมันนะคะ   แล้วคุณค่าทางใจก็ไม่เหมือนกัน   เเหวนหมั้นของเราก็ต้องไม่เหมือนแหวนหมั้นคนอื่น จากคุณ : ~+~TATIANA~+~ - [ วันเถลิงศก (15) 21:24:06 ]

ความคิดเห็นที่ 27 จะว่าไปของที่เหมือนกันในธรรมชาติจริงก็คงมีแต่อะตอมมั้ง  เพราะของที่เหมือนกันจริงก็ไม่เหมือนกันลองยกตัวอย่างมาสิ  รถที่ทำจากโรงงานแต่ละคันพอมาแยกจริงก็ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว จากคุณ : ~+~TATIANA~+~ - [ วันเถลิงศก (15) 21:26:47 ]

ความคิดเห็นที่ 28 อ่า ในความคิดของเรานะ จากเท่าที่ดูคคห.ต่างต่างมาแล้ว นี่เรากำลังเถียงกันเรื่องไรอยู่เหรอ ลองมาแต่งนิยายกันไหม แบบใช้จินตนาการ ที่มันน่าจะเป็นไปได้นะ -บางครั้งที่เราหลับ จิตเราจะหลุดออกจากตัว และมีจิตอื่นเข้ามาสู่ร่างกายเราแทน และรับเอาความทรงจำของเราไปทั้งหมด จนมันคิดว่า มันน่ะแหละคือเรา ส่วนเราก็ล่องลอยไป พอเข้าร่างคนอื่นก็คิดว่าเราน่ะแหละเป็นคนนั้น -เคยอ่านการ์ตูนเรื่องอะไรไม่รู้ ที่มีคนไปเที่ยวป่าแล้วก็โดนปลิงเกาะ ดูดเลือด แล้วก็สลบไปพอฟื้นขึ้นมาอีกที ก็มีมัมมี่กองอยู่ เค้าก็เลยทิ้งศพมัมมี่ไปแล้วก็นั่งรถกลับบ้าน แต่หลังจากนั้น ร่างกายก็เริ่มเปลี่ยนไปเรื่อยเรื่อย จนกลับไปเป็นปลิง เรื่องนี้อธิบายว่า ปลิงตัวนั้นมันดูดเลือด เนื้อเยื่อ สมอง ความทรงจำทุกอย่าง แล้วกลายร่างเป็นเหยื่อ แล้วก็จำไม่ได้ว่าตัวเองคือปลิง น่ากัวป่าว อิอิ นอกเรื่องนิดนะคะ พูดถึงว่าถ้าสิบปีก่อน เราอยู่บ้านเก่า พอมาตอนนี้ย้ายบ้าน แต่พอกลับไปบ้านเก่า เราจะรู้สึก ถึงสมัยก่อน ตอนที่อยู่บ้าน เรื่องของอารมณ์และความรู้สึกเนี่ย เราว่าถ้าเราเป็นคนใหม่ เราก็ไม่น่าจะรู้สึกนะ ไม่รู้ว่าเข้าใจป่าวนะคะ แบบว่าถ้าไม่อยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงจริง จะเรียกว่า อ่านความทรงจำมา ความรู้สึกมันจะไม่เหมือนจริง เท่ากับเจอเองน่ะ จากคุณ : มิ้นล่ะ (mint_la) - [ 16 เม.ย. 49 01:20:34 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ความคิดเห็นที่ 26   Detonator_Pao_ ต่างกันค่ะระหว่างเพชรแท้กับเพชรเทียม ต่อให้เพชรเเท้สองเม็ด  size เดียวกันก็ยังต่างกันเลย  ความใสต่างกันตำหนิต่างกัน   ไม่มีเพชรเเท้ใดๆในโลกเหมือนกันหรอกค่ะ  ต่อให้คุณสมบัติฟังดูเผินๆเหมือนกัน แต่เมือส่องดูแล้วก็ต่างกัน   เพชรกะรัตละ  ไม่ถึงแสนก็มี  กะรัตละล้านก็มี     อันนี้คือทางกายภาพของมันนะคะ   แล้วคุณค่าทางใจก็ไม่เหมือนกัน   เเหวนหมั้นของเราก็ต้องไม่เหมือนแหวนหมั้นคนอื่น จากคุณ : ~+~TATIANA~+~  - [ วันเถลิงศก (15) 21:24:06 ] ======================= อ่านดีๆน่ะครับ รีพลายผมบอกว่า "สมมุติ" ;) ไม่ได้บอกว่าปัจจุบันเราทำเพชรเทียมให้เหมือนเพชรแท้ได้ 100% เพราะในการจะทำอย่างนั้นได้ คงต้องรอยุคที่มนุษย์ควบคุมนาโนเทคโนโลยีได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้วเท่านั้น ( ถึงตอนนั้น จะของให้เหมือนกันในระดับองค์ประกอบของโมเลกุล คงไม่ใช่เรื่องยากแล้ว ) และในยุคนั้น จึงจะพิสูจน์สมมุติฐานที่ผมเล่าไปได้ล่ะครับ ( พิสูจน์ในโลกความเป็นจริง นอกเหนือไปจากการรู้โดยการคิดตรึกตรอง ) แต่การสมมุตินี้ เพื่อให้เห็นมุมมองที่แปลกออกไปครับ โดยยังอยู่บนพื้นฐานความเป็นไปได้ โดยไม่ขัดกับกฏฟิสิกส์ใดๆในจักรวาลนี้ อะไรก็สมมุติขึ้นเป็นกรณีศึกษาได้ทั้งนั้น ส่วนอันที่ขีดเส้นใต้นั้น ก็ถูกแล้วนี่ครับ ในรีพลายผมก็บอกเหมือนที่คุณบอก ลองอ่านดูดีๆน่ะ :) คุณค่าของสิ่งใดๆ เกิดขึ้นอยู่บนตัวตนของจิต ตัวตนนั้นตั้งอยู่บนความทรงจำ , ดังนั้น คุณค่าของสิ่งใดๆ จึงตั้งอยู่บนความทรงจำ ไม่งั้นจะมีสำนวน ไก่ได้พลอย วานรได้แก้ว หรือครับ ถ้าสิ่งพวกนี้ มีคุณค่าเป็นพิเศษต่อทุกๆสิ่งในธรรมชาติ โดยไม่ต้องอาศัยความทรงจำในจิตใจ แล้ว ไก่ที่ได้พลอย คงดีใจจนเนื้อเต้น ถ้าไม่มีความทรงจำ แล้ว ตัวตนก็ไม่มี => ตัวตนไม่มี แล้ว การตระหนักรู้ก็ไม่มี => การตระหนักรู้ไม่มี การรู้ถึงคุณค่าของสิ่งใดๆ ก็ไม่มี จากคุณ : Detonator_Pao_ - [ 16 เม.ย. 49 20:45:38 ]