CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    (มติชน) ชำแหละปัญหาโอ-เน็ต/เอ-เน็ต อจ.รามฯแนะรื้อ "แอดมิสชั่นส์"

    วันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2549 ปีที่ 29 ฉบับที่ 10262

    หมายเหตุ - จากกรณีเกิดปัญหาความวุ่นวายในการประกาศผลสอบแบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐานหรือ O-NET และแบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นสูง หรือ A-NET เพื่อนำไปสมัครเข้าเรียนในระดับอุดมศึกษาตามระบบแอดมิสชั่นส์ (Admissions) โดย รศ.ดร.สุรศักดิ์ อมรรัตนศักดิ์ อาจารย์ประจำคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้เขียนบทความที่ชี้ให้เห็นถึงปัญหาและข้อบกพร่องของระบบการสอบดังกล่าว พร้อมกับเสนอแนะให้มีการทบทวนหรือปฏิรูประบบแอดมิสชั่นส์กันใหม่

    น่าเห็นใจผู้ปกครองและเด็กๆ ที่กำลังรอผล Entrance ในปีนี้ที่ต้องทนเครียดกันไปอีกไม่รู้นานเท่าไร ทั้งนี้ เนื่องจากความไม่เอาไหนของสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ที่ได้สร้างผลงานชิ้นโบว์แดงด้วยการทำให้ สทศ.เป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศภายในเวลาอันรวดเร็ว สทศ.ได้ทำลายความเชื่อมั่นของระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยลงได้อย่างสิ้นเชิง

    ก่อนที่จะมี สทศ.การสอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยได้รับการยอมรับและเป็นที่เชื่อถือของบุคคลทั่วไปว่าเป็นระบบที่มีความยุติธรรม และไม่เคยสร้างปัญหาแต่ประการใด

    แต่หลังจากที่มี สทศ.เกิดขึ้นได้มีการมอบหมายให้ สทศ.เป็นผู้ดำเนินการสอบและประกาศผลสอบ O-NET และ A-NET สทศ.ได้สร้างวีรกรรมให้เป็นที่ประจักษ์ด้วยการประกาศผลคะแนนที่สับสันวุ่นวายจนต้องขอเวลาเคลียร์ปัญหาเพื่อประกาศผลใหม่ถึงสามรอบ การประกาศผลรอบสองได้สร้างความสับสนหนักขึ้นไปอีก คนที่เคยมีคะแนนในการประกาศผลครั้งแรก ครั้งนี้กลับได้ศูนย์หรือขาดสอบ และคนที่เคยได้คะแนน T สูงกว่าเพื่อนในการประกาศผลครั้งแรกกลับได้คะแนนดิบน้อยกว่าเพื่อนในการประกาศผลรอบสอง (ซึ่งในทางวิชาการเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้)

    สทศ.ไม่เคยยอมรับเลยว่าเป็นความผิดพลาดของ สทศ.แต่กลับพยายามโยนความผิดไปให้คนอื่น โดยอ้างว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นผลเนื่องมาจากเด็กระบายรหัสประจำตัวผิด (ซึ่งคงจะมีส่วนจริงอยู่บ้าง) ทั้งนี้ เพราะในการสอบแต่ละครั้งจะมีเด็กจำนวนหนึ่งระบายรหัสประจำตัวผิด แต่ที่ผ่านมาแม้จะมีเด็กระบายรหัสประจำตัวผิดก็ไม่เคยมีปัญหาทำนองนี้

    ส่วนการที่ ผอ.สทศ.และเลขาธิการ สกอ.ออกมาพูดว่า Admissions เป็นเรื่องใหม่ ฉะนั้นจึงต้องมีปัญหาบ้างเป็นธรรมดา นับว่าเป็นการแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้น ทั้งนี้ เพราะ Admissions ที่พูดถึงนั้นยังไม่ได้เริ่มต้นกระบวนการเลย

    Admissions จะเริ่มจริงๆ ก็ต่อเมื่อเด็กได้ไปสมัครที่ สกอ.แล้วดังนั้นจะมาอ้างว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะปีนี้ใช้ระบบ Admissions ซึ่งเป็นของใหม่จึงฟังไม่ขึ้น

    ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เป็นความผิดพลาดที่เกิดจากขั้นตอนการประกาศผลสอบ ซึ่งยังไม่เกี่ยวข้องกับกระบวนการของ Admissions เลยแม้แต่น้อย

    สทศ.ควรจะต้องออกมายอมรับความจริงได้แล้วว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องมาจากความไม่เอาไหน และความไม่พร้อมของ สทศ.เสียมากกว่า การออกมาชี้แจงปัญหาคาใจเรื่องคะแนน T ของเด็กๆ ในรายการ ถึงลูกถึงคน ก็ไม่ช่วยให้เด็กเกิดความเข้าใจ ทั้งนี้ เพราะคนชี้แจงเองก็ไม่เข้าใจเรื่องคะแนน T ดีพอ จึงเป็นการชี้แจงแบบมั่วๆ

    ความผิดพลาดในเรื่องนี้ควรจะต้องมีผู้รับผิดชอบ ความรับผิดชอบที่ว่าคงไม่ใช่แค่การออกมาขอโทษของรัฐมนตรีจาตุรนต์ (ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ) เท่านั้น หรือคิดจะปล่อยเรื่องนี้ให้ผ่านไปโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหมือนกับกรณีการแปรรูป กฟผ.

    อย่างไรก็ตาม ในที่สุด สทศ.ได้ตัดสินใจแก้ปัญหาคาใจเด็กๆ และผู้ปกครองเพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาด้วยการตรวจข้อสอบใหม่หมดแต่จะตรวจเฉพาะข้อสอบปรนัยเท่านั้น ส่วนข้อสอบอัตนัยจะไม่ตรวจใหม่เพราะรู้ว่าถ้าตรวจใหม่จะทำให้เกิดความสับสนหนักขึ้นไปอีก เพราะถึงจะตรวจให้ดีอย่างไรก็ไม่มีทางที่คะแนนจะออกมาเหมือนเดิม

    การนำข้อสอบอัตนัยมาใช้ในการคัดเลือกคนเข้ามหาวิทยาลัยนั้นเป็นสิ่งที่ผู้เขียนไม่เห็นด้วย เพราะข้อสอบอัตนัยมีจุดอ่อนที่ไม่สามารถแก้ไขได้ นั่นก็คือ เรื่องความไม่ยุติธรรมในการให้คะแนน การตรวจข้อสอบอัตนัยแต่ละครั้งคะแนนจะไม่เท่ากัน ยิ่งมีผู้ตรวจหลายคนยิ่งแย่ใหญ่ เพราะเกณฑ์การตรวจให้คะแนนของแต่ละคนไม่เหมือนกัน คะแนนใครจะสูงหรือต่ำจึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับความรู้ความสามารถของนักเรียนเพียงอย่างเดียว แต่จะขึ้นอยู่กับดวงด้วย นั่นคือถ้าใครดวงดีกระดาษคำตอบไปตกอยู่กับอาจารย์ที่ใจดีก็จะได้คะแนนสูง แต่ถ้าใครดวงไม่ดีกระดาษคำตอบไปตกอยู่กับอาจารย์หิน ก็จะได้คะแนนต่ำ

    ในการสอบแข่งขันเพื่อคัดเลือกคนเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย ความยุติธรรม เป็นสิ่งที่ควรจะต้องมีให้กับผู้สอบทุกคนมิใช่หรือ ดังนั้น เมื่อเป็นที่ทราบกันว่าข้อสอบอัตนัยขาดความยุติธรรมในการให้คะแนน จึงไม่ควรนำข้อสอบอัตนัยมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการคัดเลือก

    ถ้าใครสามารถยืนยันได้ว่าสามารถตรวจข้อสอบอัตนัยให้มีความยุติธรรม ผู้เขียนขอท้าให้ลองสุ่มกระดาษคำตอบของเด็กที่เข้าสอบในครั้งนี้มาสัก 500 คน แล้วลองมาตรวจใหม่ดูซิว่าคะแนนจะเหมือนเดิมหรือไม่ เกี่ยวกับเรื่องนี้ผู้เขียนเคยทดลองให้ครูในโรงเรียนต่างๆ ตรวจให้คะแนนคำตอบของเด็กคนหนึ่ง ปรากฏว่าคำตอบของเด็กคนนั้นได้คะแนนตั้งแต่ 0 ถึง 10 ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นคนตรวจ คะแนนอย่างนี้ยังจะมีความหมายสามารถนำไปใช้เป็นส่วนหนึ่งในการคัดเลือกได้อีกหรือ

    ส่วนที่คุณจาตุรนต์ออกมาพูดว่าระบบการคัดเลือกคนเข้ามหาวิทยาลัยโดยใช้ข้อสอบปรนัย เพียงอย่างเดียวได้สร้างความเสียหายต่อระบบการศึกษาอย่างมาก อยากทราบว่าเสียหายอย่างไร และมีหลักฐานอะไรมายืนยันได้ไหมว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นเพราะข้อสอบเป็นแบบปรนัย คุณจาตุรนต์เคยคิดบ้างไหมว่า การให้คะแนนที่เชื่อถือไม่ได้ของข้อสอบอัตนัย จะไม่สร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นอีก

    ผู้เขียนมิได้ปฏิเสธการนำข้อสอบอัตนัยมาใช้ในการประเมินผลการเรียน ทั้งนี้เพราะหากครูต้องการวัดความสามารถในการเรียน หรือความสามารถในการคิดวิเคราะห์บางอย่าง ก็คงจะหลีกเลี่ยงข้อสอบอัตนัยไม่ได้ ผู้เขียนเห็นว่าข้อสอบอัตนัยยังมีความจำเป็นต้องนำมาใช้ แต่มิใช่เป็นการสอบคัดเลือก ควรนำมาใช้ในการประเมินผลการเรียนรายวิชามากกว่า

    ความบกพร่องในการประกาศคะแนนผลการสอบของ สทศ.ในครั้งนี้มิใช่ความบกพร่องทางเทคนิคแต่อย่างใด ส่วนจะเป็นความบกพร่องโดยสุจริต ตามที่คนในรัฐบาลนี้ชอบอ้างหรือไม่ ผู้เขียนไม่อาจทราบได้

    ระบบ Admissions ที่นำมาใช้ในการคัดเลือกครั้งนี้เป็นระบบที่ผู้เขียนไม่เคยเห็นด้วยและได้คัดค้านเรื่องนี้มาโดยตลอด ผู้เขียนเห็นว่า Entrance แบบดั้งเดิมเป็นระบบที่ดีและมีความยุติธรรมมากที่สุด

    ส่วน Entrance ระบบใหม่ (ที่มีการนำ GPA และ PR มาใช้) รวมทั้งระบบ Admissions ที่จะนำมาใช้ในปีนี้เป็นระบบที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าดีกว่า Entrance ระบบเก่าโดยเฉพาะในเรื่องของความยุติธรรม

    จริงๆ แล้ว Admissions กับ Entrance ระบบใหม่แทบจะไม่มีอะไรแตกต่างกันเลย ยังมีการนำคะแนนผลการสอบกับผลการเรียนมาใช้เป็นองค์ประกอบสำคัญในการคัดเลือก เพียงแต่เรียกการสอบใหม่ว่า O-NET และ A-NET และเพิ่ม GPA จากเดิม 10% เป็น 30% ในขณะที่ปัญหาเรื่องมาตรฐานในเรื่องการให้เกรดของแต่ละโรงเรียนยังไม่ได้รับการแก้ไข

    การนำ GPA มาใช้สูงถึง 30% นั้นจึงสร้างความไม่ยุติธรรมให้มากขึ้นไปอีก จริงๆ เรื่องนี้อดีตประธาน ทปอ. (ดร.ประเสริฐ ชิตพงศ์) ได้เคยชี้แจงเรื่องนี้ต่อกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎรว่าหากจะนำ GPA มาใช้ 30% จะต้องมีการปรับเกรดของแต่ละโรงเรียนโดยหาตัวมาถ่วงน้ำหนักก่อน จะไม่นำ GPA มาใช้ตรงๆ ถ้าจำไม่ผิดในการชี้แจงครั้งนั้น ดร.ภาวิช (ทองโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.)) ก็อยู่ร่วมด้วย แต่ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใด สกอ.จึงเอา GPA มาใช้โดยไม่มีการถ่วงน้ำหนัก

    Admissions จึงยังไม่ใช่ระบบการคัดเลือกที่ดีที่สุด มีข้อโต้แย้งและผู้ไม่เห็นด้วยจำนวนมาก แต่ สกอ.ก็ดึงดันที่จะใช้ Admissions ในปีนี้ให้ได้ทั้งๆ ที่ยังไม่มีข้อยุติ และยังไม่มีความพร้อม

    เมื่อเป็นเช่นนี้มหาวิทยาลัยหลายแห่งจึงไม่ยอมรับ Admissions มหาวิทยาลัยดังกล่าวจึงเลี่ยงไปรับตรงมากขึ้น ดังเช่นที่คณะแพทยศาสตร์ของหลายมหาวิทยาลัยทำอยู่ในเวลานี้

    สิ่งนี้ได้สร้างความยุ่งยากให้กับเด็กมากขึ้น เพราะนอกจากต้องเตรียมตัวเรียนในห้องเรียน (รวมทั้งต้องกวดวิชา ทุกวิชา) เพื่อให้ได้ GPA สูงๆ แล้วยังต้องกวดวิชาเพื่อสอบ O-NET และ A-NET และยังต้องวุ่นวายไปสอบตรงของแต่ละมหาวิทยาลัยซึ่งนับวันจะมีเพิ่มมากขึ้นอีก

    ดังนั้นที่มีการพูดกันว่า Admissions จะช่วยลดปัญหาการกวดวิชาลงจึงไม่เป็นความจริง แต่กลับจะเพิ่มการกวดวิชาให้มากขึ้น คือต้องกวดกันทุกวิชาเพื่อให้ได้ GPA สูงๆ และยังต้องกวดวิชาหลายแห่ง ต้องกวดวิชากับสถาบันกวดวิชาของเอกชนเพื่อจะทำคะแนน O-NET และ A-NET ให้สูงๆ ต้องกวดกับครูในโรงเรียนเพื่อที่เกรดวิชานั้นๆ จะได้ดี

    ถึงเวลาต้องมาทบทวน/ปฏิรูประบบ Admissions กันอีกครั้ง โดยเฉพาะการเพิ่มน้ำหนัก GPA เป็น 40% ในปีหน้าและ 50% ในปีต่อไปในขณะที่ GPA ของแต่ละโรงเรียนยังมีมาตรฐานแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน อย่าปล่อยให้ปัญหาเกิดขึ้นก่อนแล้วจึงค่อยมาตีความดังเช่นศาลรัฐธรรมนูญเลยรีบแก้กันเสียตอนนี้ (พร้อมๆ กับการแก้รัฐธรรมนูญ) ดีกว่ามาตามแก้ปัญหากันเหมือนเช่นทุกวันนี้เลย

    จากคุณ : k.y.u.club - [ วันเถลิงศก (15) 14:15:19 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป