ความคิดเห็นที่ 4
ความฝัน คือ การรับรู้อารมณ์ของจิตในมโนทวาร (ทวารทางใจ) ที่อ่อนตัวลงเหลือแค่ประมาณ ๔ หรือ ๕ ชวนะ เท่านั้น...
(อารมณ์ หมายถึงสิ่งที่ถูกรู้โดยจิต เช่น จิตเห็นรถสีแดง รถสีแดงคืออารมณ์ของจิตทางจักษุทวาร(ทวารทางตา ))
โดยปกติธรรมดาของคนเรา จิตจะออกมารับอารมณ์ด้วยวิถีจิต ที่เรียกว่ากามวิถี ซึ่งมี ๑๗ ขณะจิต ในจำนวนนี้ จะมีการรับอารมณ์ ๗ ขณะ (หรือชวนะ ๗ ดวง คือ ขณะจิตที่ ๙ ไปถึงขณะจิตที่ ๑๕)
ประมาณว่า ในการกระพริบตาครั้งหนึ่ง จะมีจิตเกิดๆดับๆประมาณแสนโกฏิดวง(ล้านล้านดวง) ดังนั้นการกระพริบตาครั้งหนึ่งจะมีวิถีจิตประมาณ ๖ หมื่นล้านวิถี( ล้านล้าน หารด้วย ๑๗)
ในขณะคนเราหลับ ถ้าหลับสนิท จิตจะไม่ขึ้นสู่วิถี คือเป็นภวังคจิตเกิดๆดับๆติดต่อไปตลอด(ด้วยความเร็วเท่าเดิม คือ ล้านล้านดวงใน ๑ กระพริบตา)
ถ้าคนใดหลับไม่สนิท จะเกิดจิตออกมารับอารมณ์ภายในจิตนั้นเอง ที่เรียกว่า การฝัน คล้ายๆที่เรานั่งนึกครุ่นคิดจินตนาการด้วยความเพลินลืมตัวในบางครั้งจนไม่สนใจเรื่องรอบข้าง แต่ในการฝันจะเบลอกว่ามากๆ เพราะไม่มีสติแบบคนตื่นปกติ
วิถีจิตขณะฝัน เรียกว่า สุบินวิถี กำลังจิตจะอ่อนมากๆ มีชวนะไม่ครบ ๗ ทำนองเดียวกับคนใกล้ตายหรือคนสลบ(วิถีจิตของคนใกล้ตาย เรียกว่า มรณสันนวิถี มีภาพต่างๆเกิดในจิตคล้ายๆคนฝันเกิดมาเองอัตโนมัต ตามกรรมที่คนนั้นเคยทำไว้ ภาพพวกนี้จะชักนำไปปฏิสนธิหรือไปเกิดในภพชาติใหม่ ถ้าเป็นภาพไม่ดีจะไปเกิดในทุคติหรืออบายภูมิ เช่น นรก สัตว์เดรัจฉาน, ถ้าเป็นภาพดีๆ จะไปเกิดในสุคติภูมิ เช่น เป็น มนุษย์ หรือ เทวดา)
ประเภทของความฝันมี ๔ อย่างคือ..
๑. จิตอาวรณ์ คือ จิตคนนั้นเองขณะกำลังหลับ เมื่อตื่นขึ้นมานิดๆก็ไปนึกปรุงแต่งเอาจากสัญญาหรือความจำต่างๆที่เคยมีมาก่อน
๒. เทพสังหรณ์ คือ เกิดจากการบันดาลของเทวดาหรือผีหรือผู้ที่อยู่ในภพภูมิอื่นๆมาบันดาลให้เห็น ที่ชาวบ้านเรียกว่า ฝันผีบอก
๓. กรรมบันดาล คือ ความฝันที่บอกเหตุการณ์ล่วงหน้าว่า ผลกรรมของคนนั้นกำลังจะส่งผลออกมา บางทีฝันเห็นตรงๆ บางทีฝันเห็นเป็นภาพเปรียบเทียบต้องมาตีความอีกชั้นหนึ่ง
๔. ธาตุกำเริบ คือ ความฝันที่เกิดจากการบอกเหตุจากภายในร่างกาย ที่เกิดผิดปกติหรือมีโรคภัยไข้เจ็บต่างๆขึ้นมา
........ข้างบนเป็นความรู้จากหลักพระอภิธรรมของศาสนาพุทธ จะเชื่อหรือไม่ พึงพิจารณาเลือกเฟ้นเอาเอง....
จากคุณ :
ถังแตก (Clarke)
- [
18 เม.ย. 49 09:32:25
]
|
|
|