PANTIP.COM : X4311538 วิธีเอาพลังงานตอนเบรคมาใช้ตอนออกตัว โดยไม่ต้องเพิ่มอุปกรณ์ใดๆเลย{แตกประเด็นจาก X4307940} [วิทยาศาสตร์]

ความคิดเห็นที่ 1

สถานีต้องสูงเท่าไร question
ก็ดูว่ารถคันนี้ต้องการความเร็วเท่าไร อาจารย์แมวบอกว่า อาจเร็วพอๆกับจักรยานคันนึงเท่านั้น ถ้าปั่นถึง 40 ก.ม.ต่อชั่วโมง ผมว่าน่าสนใจ เพราะไม่ต้องติดไฟแดง ถึงเร็วกว่ารถยนต์ในกรุงเทพแน่นอน ความสูงสถานีอาจเท่ากับตึกหนึ่งชั้นเท่านั้น อันนี้ผมประมาณน่ะ ในขณะที่ขึ้นรถไฟฟ้าต้องขึ้นถึงสองชั้น(แฮกๆ)

ท่านแน่ใจไหม ว่ามันจะมีแรงส่งขึ้นสถานีเพียงพอ question
พอแน่นอน เพราะตอนมันลงจากสถานีที่แล้ว วิ่งลงด้วยความเร่ง a เป็นบวก มันสามารถทำความเร็วปลายได้ 40 ก.ม. ต่อชั่วโมง วิ่งด้วยความเร็วคงที่มาขึ้นอีกสถานีหนึ่งด้วยความเร็วต้น 40 ก.ม. ต่อชั่วโมง ความเร่ง a เป็นลบ จึงจอดสนิทบนสถานีพอดี และมวลรถทั้งคันรวมมวลผู้โดยสารระหว่างสถานี เท่าเดิมเสมอตราบใดที่ไม่มีผู้โดยสารคิดสั้นกระโดดน้ำระหว่างทาง แต่ยังไงเสียคงไม่มีอะไรเป๊ะขนาดนั้นหลอก แต่โดยทฤษฏีพื้นฐานชี้มาอย่างงี้แล้ว การทำให้เป๊ะคงต้องมีหลักการอื่นประกอบด้วย ซึ่งหลักการนั้นคงไม่ใช้พลังงานอะไรมาก

เมื่อรถขึ้นสถานีแล้ว เมื่อจะออกตัวไปหาส่วนที่รางไหลลง จะใช้พลังงานอะไร เพราะกังหันรถขณะอยู่บนสถานี้ไม่ได้จุ่มน้ำ question
อันนี้ผมว่าคงต้องคิดกันต่อไปน่ะ แต่คิดว่าคงไม่ยากเพราะมันก็เป็นเพียงระยะสั้นๆ ซึ่งหากยืนยันจะใช้พลังงานบริสุทธิอยู่เสมอ ก็สามารถทำกังหันประจำสถานี ส่งกำลังขึ้นมาก็ได้

ประเด็นเรื่องกำลังของกังหันปั่นน้ำที่กำลังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ จะแรงพอให้รถเคลื่อนที่ไหม question
เมื่อตอนนี้ไม่ต้องการความเร่งแล้ว เพราะมันไหลลง ก็ไม่ต้องการเกียร์ต่างๆ สิ่งที่อยากเอาชนะตอนนี้จึงเหลือเพียง “แรงเสียดทาน” เท่านั้นเอง สิ่งที่วิ่งไปด้วยล้อโดยไม่มีระบบเครื่องยนต์ ไม่มีมอเตอร์ แรงเสียดทานย่อมน้อยกว่าการมีสิ่งเหล่านั้นข้างใน จึงอาจจะเอาความรู้สึกตอนเข็นรถยนต์คันหนึ่งมาตัดสินไม่ได้ ดังนั้นเราอาจจะออกแรงดันรถคันนี้เมื่อมีผู้โดยสาร ให้ขยับได้ด้วยคนเดียว ในขณะที่เราไม่สามารถออกแรงต้านกังหันน้ำนี้ได้

ช่วงหยุดขาขึ้น หรือช่วงออกตัวขาลง ส่งผลอย่างไรต่อผู้โดยสารหรือไม่ question
การทำอย่างงี้มีข้อดีที่คาดไม่ถึงอย่าง คือ เวลาเบรคขาขึ้น ผู้โดยสารจะไม่รู้สึกถูกดึงไปข้างหน้า เวลาเร่งขาลง ผู้โดยสารจะไม่รู้สึกถูกดึงไปข้างหลัง รถคันนี้อาจจะออกตัวด้วยความเร่งเท่ารถไฟฟ้า แต่คุณจะไม่เซแน่นอน มีเพียงความรู้สึกไปตรงถึงจุดหักของทางบ้าง คือจุดที่รางจะเปลี่ยนจากตรงเป็นเฉียงขึ้น และเป็นเฉียงลง ซึ่งจุดนั้นผมคิดว่ารางน่าจะเป็นเส้นโค้ง ไม่ใช่เส้นหักอย่างในรูป

ได้เตรียมพร้อมกับปัญหาเฉพาะหน้าอย่างไร question
มันยังไม่เกิดขึ้นนี่น่ะ เลยไม่รู้ว่าจะมีอะไร ในรถคงต้องมีพลังงานสำรอง แต่อาจจะหนัก หรืออาจจะมีต้องรถรางฉุกเฉินคันนึง วิ่งด้วยพลังงานพื้นฐานเช่นไฟฟ้าหรือน้ำมัน ออกไปช่วยเหลือหรือลากจูงได้ในยามฉุกเฉิน

ท่านคิดว่าวิธีนี้ใช้กับยานพาหนะอย่างอื่นได้ไหม question
ยานพาหนะอื่นกับยานพาหนะที่มีสถานีจอด ที่มีขอบเขตว่าปลอดภัยแน่นอน ก็น่าจะได้ เช่นรถไฟ กระทั่งรถไฟฟ้า คุณสังเกตุไหม ตอนอยู่บนสถานีแล้วมองไปยังสถานีอื่น จะเห็นว่ารางเมื่อมาถึงสถานีจะมีการยกสูงขึ้นเล็กน้อยโดยมองเทียบระยะทางที่ผ่านมา เขาจงใจจะคิดอะไรอย่างงี้หรือไม่ ซึ่งผมคิดว่ามีส่วน เพราะคงไม่มีเหตุผลอื่นใดที่เขาจะทำอย่างงั้น แต่ทำเพียงเล็กน้อยคงเพื่อไม่ให้น่าเกลียดมาก

ท่านจะสานต่อโปรเจกต์นี้ต่อไปอย่างไร question
ผมคงไม่มีทุนมากพอที่จะทำขึ้นมาได้น่ะ จึงอาจจะส่งเข้าประกวดสิ่งประดิษฐ์ในปีหน้า อาจจะที่สภาวิจัยฯก็ได้ ยังมีเวลาขัดเกลา ปรับปรุง สร้างสรรค์สิ่งนี้อีกนาน แต่ไม่ได้หมายความว่าระหว่างนี้ผมจะไม่ทำอย่างอื่นด้วยน่ะ สำหรับแนวคิดเรื่องรางยกระดับที่สถานี ก็จะเสนอรวมไปด้วยแน่นอน เพราะผมเห็นว่าเป็นแนวคิดพื้นฐานที่ดีที่สุด เหมาะสมที่สุด และง่ายที่สุด

ท่านคิดว่าการทำอย่างงี้เหมือนฉุดให้โลกล้าหลังลงไปหรือไม่ question
อึมม … ไม่หละ ไม่มีอะไรล้าหลังหลอก ผมว่าระดับศีลธรรมต่างหากเป็นตัวชี้ว่าล้าหลังหรือไม่ ตอนนี้โจทย์ของเราก็คือ กำลังมองหาพลังงานฟรีในธรรมชาติ เพื่อลดการพึ่งพาน้ำมันและถ่านหิน มองลงไปหาฟิสิกส์พื้นฐานดูกันอีกครั้ง และการประหยัดทรัพย์ยากรธรรมชาตินี้เอง ที่จะช่วยยืดอายุโลกของเราและคนบนโลกเอาไว้

ยังมีข้อดีใดๆอีกเพิ่มเติมจากการทำอย่างงี้ไหมครับ question
ที่ใต้สถานีสามารถทำท่าเรือได้ เพราะถ้ารางเรียบคลองมาสม่ำเสมอจะปิดโอกาศการสัญจรทางน้ำที่ยังคงมีใช้กันอยู่ แต่คงไม่ถึงกับปิดสนิท เพราะที่จริงรางในส่วนนั้นสามารถทำเหมือนจุดที่ทางรถยนต์และรางรถไฟตัดกันได้ สามารถใช้ข้ามไปขึ้นเรือได้เมื่อไม่มีรถรางมา
แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 49 00:49:56

จากคุณ : สมภพ เจ้าเก่า - [ 25 เม.ย. 49 00:39:15 ]