เรื่องนี้ เจ้าคุณตาของผมได้ฟังจากคุณพ่อของคุณตาอีกทีว่า........
เรื่องที่มาของการมีกฏให้ นร.ชาย ทุกคนที่มีอายุ 6 - 18 ปี ตัดผมสั้นเกรียน(สมัยนี้อนุโลมให้ ม.ปลายไว้รองทรงสูงได้เป็นบาง ร.ร.) ก็เพราะ....
สมัยก่อน(ในยุคเริ่มมี ร.ร. ประมาณ ปลายสมัย ร.5) การเรียนหนังสือของประชาชน จะนิยมส่งบุตรหลานไปเรียนที่วัด ซึ่งทรงผมยอดนิยม ก็ไม่พ้น ทรง แกะ จุก โกน สำหรับเด็กเล็ก ส่วนเด็กโตก็จะเป็นทรง ดอกพุ่ม หรือ ทรงมหาดไทย ตามแบบทหาร แล้วระเบียบการศึกษายังไม่มีการร่างเป็นชิ้นเป็นอันนัก จนกระทั่ง มายุคสมัยปฏิรูปการศึกษา(ช่วง ร.7) และเป็นช่วงที่ต่อคาบเกี่ยวกับช่วงสงครามโลกนั้น
ประเทศไทย ได้มีการส่งคนในกระทรวงธรรมการไปศึกษาวิชาความรู้และวิธีปฏิบัติจากต่างประเทศ เช่น อังกฤษ ญี่ปุ่น อเมริกา ฝรั่งเศส ดังจะเห็นได้จากว่า การนำทรงผม และ เครื่องแต่งกายเด็กนักเรียนสมัยนี้ (เสื้อเชิ้ตขาวแขนสั้น กางเกงขาสั้นเท่าหัวเข่า สวมรองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าหนังดำ) ได้นำแบบอย่างมาจาก ประเทศ ญี่ปุ่น
ซึ่งประเทศญี่ปุ่น ในสมัยนั้นปกครองด้วยระบอบทหารเพราะอยู่ในช่วงกำลังขยายอำนาจ ดังนั้น ผู้นำประเทศญี่ปุ่น จึงได้กำหนดระเบียบของทหาร นำไปใช้กับเด็กผู้ชายใน ร.ร. เพื่อ จะได้มีความเคยชินกับระเบียบกฏเกณฑ์ พอเวลาโตที่จะเป็นทหาร ก็จะได้ไม่รู้สึกขัด และเป็นการฝึกให้เด็กอยู่ในระเบียบวินัย และปลูกฝังความคิดให้ทุกคนเชื่อว่า ทุกคนเท่าเทียมกัน และ ตายได้เพื่อชาติ
ดังนั้น ทางไทยเราก็ได้นำเอากฏระเบียบของการศึกษาและการแต่งกายมาจากญี่ปุ่นสมัยเรืองอำนาจและขยายอาณานิคม เพราะการกำหนดมิให้มี เสรีภาพ เป็นเรื่องจำเป็นมาก สำหรับญี่ปุ่นในขณะนั้น
แต่ในปัจจุบันนี้ โลกเปลี่ยนไปเยอะขึ้น คำว่าเสรภาพ เป็นสิ่งที่ประเทศที่พัฒนาแล้วจะต้องให้ความสำคัญมาก เพราะเสรีภาพจำเป็นกับประชาชนทุกคน ไม่เว้น เด็ก หรือ ผู้ใหญ่ ทุกคนมีเสรีภาพเท่าเทียมกัน ดังนั้น เรื่องทรงผมเป็นเรื่องส่วนบุคคล การที่จะให้มาตัดผมเหมือนทหารนั้นเป็นเรื่องที่หลายๆประเทศยอมไม่ได้เพราะจำกัดเสรีภาพมากเกินไป
แต่ยกเว้นประเทศบางประเทศที่ผู้ใหญ่บางคนไม่สามารถคิดได้ถึงจุดเหล่านี้ นำเอาค่านิยมที่เคยได้รับมาจาก ระบบทหาร นำมาตัดสินว่าความต่างๆเอาเอง โดยมิได้ฟังคนอื่นหรือคนรุ่นใหม่ที่ แย้งออกมาเลย
จากคุณ :
น้ำปลาเดือนห้า
- [
26 เม.ย. 49 23:44:22
]