ความคิดเห็นที่ 1 เขาก็ต้องยิงพลุขึ้นมาให้เห็นคล้ายกับจะบอกว่า ฉันอยู่นี่ไงล่ะ บางทีเราก็ตกลงกันว่าถ้าเขาย่อง เข้ามายิงเรือที่เราคุ้มกันได้ก็ให้ยิงพลุเป็นสัญญาณขึ้นมา เพื่อเราจะได้รู้ว่าเราแพ้แล้ว ผมเคย ไปนั่งในเรือดำน้ำในระหว่างการฝึกปราบเรือดำน้ำพนักงานโซนาร์ของเรือดำน้ำเปิดเครื่อง ให้ ผมดูจอภาพที่แสดงเสียงใบจักรของเรือผิวน้ำที่วิ่งไปวิ่งมากันขวักไขว่อยู่ข้างบนแล้วก็ หัวเราะ ชอบใจที่เขาหลบรอดไปได้ทุกครั้ง เพราะฉะนั้นผมขอกราบเรียนให้ท่านที่ชอบแสดงว่าท่านรู้ เรื่องของเรือดำน้ำดีกว่าทหารเรือว่า ศักยภาพของเรือดำน้ำนั้นมันมหาศาลนัก หาไม่แล้วกอง ทัพเรือต่างๆ คงไม่ดิ้นรนขวนขวายหามาหรอกครับ และก็ขอฝากเกร็ดความรู้นี้ไว้ให้กับทหาร เรือฝ่ายบุ๋นรวมทั้งฝ่ายบู๊ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องของเรือดำน้ำได้เก็บเอาไว้เล่าหรืออธิบายให้ คนนอกที่ไม่ทราบความสำคัญของเรือดำน้ำให้เข้าใจได้ถูกต้องด้วย ทั้งนี้เพราะเพื่อน ผมคน หนึ่งซึ่งเป็นพลเรือนเคยบอกกับผมว่าเขาเคยถามทหารเรือคนหนึ่งว่ากองทัพเรือจะจัดหาเรือ ดำน้ำมาทำไมทหารเรือคนนั้นก็ตอบไม่ได้ เขาก็เลยสรุปว่าขนาดทหารเรือด้วยกันยังไม่รู้เลย ว่าจะหาเรือดำน้ำมาทำไมแล้วประชาชนทั่วไปรวมทั้งผู้ที่มีอำนาจคนละเล็กละน้อยแต่สามารถ ขัดขากองทัพเรือได้นั้น เขาจะเข้าใจและยอมรับได้อย่างไร ผมก็เลยอธิบายเขาไป อันทหาร เรือนั้นมีทั้งฝ่ายบู๊และฝ่ายบุ๋น ถ้าคุณไปถามทหารเรือฝ่ายบุ๋น เช่นไปถามเจ้าหน้าที่การเงินเข้า บางท่านก็คงจะไม่สามารถตอบคุณได้ และแม้ว่าจะเป็นฝ่ายบู๊ก็ตาม ถ้าไม่ตรงสายงานเขา แล้ว เขาก็อาจจะตอบไม่ได้เช่นกัน เขาก็เลยบอกว่าแล้วทำไมกองทัพเรือไม่ตีฆ้องร้องเป่าให ้ ทหารเรือทุกคนรวมทั้งชาวประชาได้เข้าใจถึงความสำคัญของเรือดำน้ำเล่า เขาจะได้ช่วยกัน สนับสนุน ผมก็บอกว่า เราได้ทำแล้ว และเราได้ทำจนหนังสือพิมพ ์แทบทุกฉบับสนับสนุน เรา แต่ท่านผู้มีอำนาจในขณะนั้นท่านเป็นพลเรือนที่ไม่ยอมเข้าใจ (หรือทำเป็นไม่เข้าใจ) แล้วท่าน ก็ทำเป็นโกรธทหารเรือหาว่าจะเอาสื่อไปบังคับท่าน ท่านก็เลยเก็บเรื่อง ขึ้นหิ้งไปเลย และหลัง จากนั้นไม่นานก็เกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจ ทหารเรือก็เลยรับประทาน แห้วแทนเรือดำน้ำมาจน บัดนี้ เป็นที่น่าเสียดายนะครับที่เราเกิดมามีผู้นำที่เป็นห่วงตัวเอง กลัวว่าจะเสียเหลี่ยม แต่ไม่ กลัวผลเสียที่จะเกิดขึ้นกับเรื่องของยุทธศาสตร์ชาติและยุทธศาสตร์ทหาร บางท่านอาจจะติงว่า จะไปว่าท่านก็ไม่ถูก เพราะท่านเป็นพลเรือนย่อมไม่เข้าใจถึงเรื่องต่างๆ เหล่านี้ถ้าอย่างนั้นผม ก็อยากจะย้อนถามว่า แล้วท่านมีพวกแม่ทัพนายกองไว้ทำอะไร พวกนี้เขาเรียนมา เขาทำงาน มา ในเรื่องของกิจการทางทหารโดยตรง ถ้าท่านไม่เชื่อเขา ท่านจะไปเชื่อใคร ผมเคยกินข้าว กับรัฐมนตรีท่านหนึ่ง พอท่านรู้ว่าผมเป็นทหารเรือ ท่านก็ยิ้มแย้มแจ่มใสให้ผมดีทีเดียวพร้อม กับพูดว่าทหารเรือกับพรรคเรานี่ซี้กันมานานแล้วนะ ผมก็เลยโพล่งออกไปว่า แต่ตอนนี้ไม่ใช่ แล้วครับ ท่านทำท่าตกใจแล้วถามว่า ทำไมล่ะ ผมก็บอกว่า ก็ท่านไม่ให้เรือดำน้ำผม ท่านก็ อ้อมแอ้มบอกว่า ความจริงเราให้เรือใหญ่ๆ ท่านไปหลายลำแล้วนะ ผมก็เลยย้อนให้ว่าเรือพวก นั้น พรรคท่านไม่ได้ให้นะครับ น้าชาติ (พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัน) ต่างหากที่เป็นคนให้ (ท่าน พลเอก ชาติชาย ท่านเป็นนายทหารบก แต่ท่านเข้าใจดีว่า แต่ละเหล่าทัพย่อมมีลักษณะเฉพาะ และความต้องการเฉพาะอย่างของตนเอง ท่านได้บอกกับผู้บัญชาการทหารเรือในขณะนั้นคือ คุณครู พลเรือเอก ประพัฒน์ กฤษณจันทร์ ว่า กองทัพเรือเห็นว่าอะไรสำคัญก็บอกมาจะจัดให้) ท่านรัฐมนตรีท่านนั้นก็อึ้งไป แต่ท่านก็ยังพูดแก้ขวยว่า แหม! ถ้าคุณขอเรือให้มันเล็กๆ หน่อย เราก็คงจะเห็นด้วย ผม (มันปากเสีย) ก็เลยยันท่านกลับไปอีกว่าระหว่างท่านกับผม ใครจะรู้ เรื่องเกี่ยวกับทหารเรือดีกว่ากันล่ะครับ? ท่านก็ยิ้มแห้งๆ ตอบว่า คุณก็ต้องรู้ดีกว่าแน่ ผมได้ที ก็เลยรุกไปว่า ก็ผมบอกว่าจะเอาเรือดำน้ำ ทำไมท่านไม่เชื่อผมล่ะครับ ทำไมจะให้ผมไปเอา เรือกระจอกงอกง่อย เอามาทำอะไรเล่าครับ เท่านั้นก็วงแตก ท่านไม่พูดกับผมอีกเลย เรื่องนี้ ผม อยากจะย้ำกับท่านที่ไม่ได้เป็นทหารนะครับว่า ท่านต้องเชื่อเรา เราร่ำเรียนมาเรามีประสบ การณ์ คนของเราพลีชีพไปแล้วไม่น้อยการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ของเหล่าทัพต่างๆ นั้นไม่ใช่ เป็นความอยากได้ของเล่นใหม่ๆ ดังที่บางท่านประชดประชันเรานะครับ เราต้องการอาวุธที่จะ สามารถเอาชนะข้าศึกได้ถ้าอาวุธไม่ดีมันก็แพ้กันตั้งแต่ในมุ้งแล้วละครับเราจะรบกับประเทศ จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ 3 พ.ค. 49 14:16:54 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าเครื่องบินของเรามีสมรรถนะสู้เครื่องบินของเขาไม่ได้ ส่งเครื่องบินของเราไปก็เท่ากับการ ส่งนักบินไปตายเท่านั้นเองถ้าทหารราบของเราไม่มีกล้องที่สามารถมองเห็นได้ในความมืดพอ ตกค่ำเราเคลื่อนตัวเข้าหาข้าศึกก็จะกลายเป็นเป้าให้เขาเลือกยิงเอาตามใจชอบ และถึงแม้ ว่า เราอยู่ในที่ตั้งถ้าเรามองไม่เห็นว่าข้าศึกกำลังเข้ามาทางไหนเราก็ตายอีกเช่นกันด้านทหารเรือ ก็เช่นกันในเรื่องของเรือรบนั้นเสด็จเตี่ยเคยสอนเอาไว้ว่า ไอ้เรือที่หนีก็ไม่ได้ไล่ก็ไม่ทันอย่าได้ หามาเลย เพราะอะไรครับ เพราะพอเจอเรือที่มีปืนที่ยิงได้ไกลกว่า เรา จะหนี ก็หนีไม่พ้น ต้อง เป็นเหยื่อเขาไป พอไปเจอเรือที่มีปืนเล็กกว่า มันน่าจะได้กินหมู แต่พอจะเข้าไปยิงมัน ก็วิ่งหนี ตูดชี้ไปแล้ว เราไล่ไม่ทันไม่มีประโยชน์อีก        ปัจจุบันนี้มีผู้ตั้งตนเป็น ศาสดาทางด้านกิจการทหารกันอยู่พอสมควร และเมื่อเขียนบท ความมากๆ เข้า หรือลอกบทความฝรั่งมาตีพิมพ์มากๆ เข้า ประชาชนทั่วไปก็ชักจะเริ่มเชื่อถือ แต่พวกนี้จะไม่เคยออกสนาม ไม่เคยไปเดินใจสั่นว่า เที่ยวนี้จะถูกกับระเบิดหรือถูกลอบยิงกัน แน่ พวกนี้จะมีลักษณะเหมือนๆ กับพวกทหารที่ฝรั่งเขาเรียกว่า ARMCHAIR GENERAL ซึ่งหมายถึงท่านนายพลที่นั่งอยู่แต่บนเก้าอี้นวมมีเท้าแขนในห้องแอร์เท่านั้น ไม่ใช่นายพล ที่ กรำอยู่ในสนามรบ ทางทหารเรามีสูตรอยู่อันหนึ่งว่า ต้องเชื่อคนที่อยู่ในสนาม ดังนั้นขอความ กรุณาท่านที่นั่งโซฟาและอยู่ในห้องแอร์ทั้งหลาย อย่าได้ออกมาตั้งคำถามเอากับเราเลยว่า กอง ทัพเรือจะเอาเรือดำน้ำไปรบกับใคร ผมตอบท่านผ่านสื่อไม่ได้ดอกครับ หรือจะตอบท่านเป็น การส่วนตัวก็ไม่ได้เพราะเดี๋ยวท่านไปอ้างว่า จากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ เราจะหาเรือดำน้ำมา รบกับประเทศ ก. แบบนี้ก็พัง ดีไม่ดีท่านก็เล่นงานเราอีกว่า เรามีความสัมพันธ์อันดีกับประเทศ ก. แล้วมันเรื่องอะไรที่จะไปหาอาวุธมาเอาไว้โจมตีเขา มีอะไรก็พูดกันซิ สมัยนี้มันต้องใช้การ เจรจาทางการทูต ซึ่งคนที่พูดแบบนี้คงจะไม่ทราบว่าการเจรจาทางการทูตนั้นมันต้องมีกระ บอกปืนหนุนหลังอยู่ การพูดมันจึงจะมีน้ำหนัก และผมอยากจะถามว่า ถ้าประเทศ ก. ยิงเรือ ประมงเราจมไป ๒ ลำ คนตายไปหลายคน โดยกล่าวหาว่าเราลักลอบจับปลาแถมยิง เรือรบของ เขาด้วย เราจะทำยังไงครับ เจรจาใช่ไหมครับ เจรจากันแล้วเจรจากันอีก ยังไม่ได้ข้อตกลง เรือประมงเราก็ถูกยิงไปอีก๒ ลำ เพราะเขาบอกว่า เขามีกติกาของเขา ถ้าเราผิดกติกาเขา ก็ ต้องดำเนินการตามกติกาคือยิงก่อนพูดทีหลัง (Hit first, talk later) แต่ถ้าเรามีกระบอกปืน หนุนหลังอยู่ และเป็นปืนที่มีอานุภาพเพียงพอ (ไม่ใช่ปืนแก๊ป) เราก็จะสามารถประกาศได้ตั้ง แต่ต้นว่า ถ้าใครยิงเรือประมงเราจะต้องได้รับการตอบโต้อย่างทันที หรือถ้าเรายังรักสันติ ไม่ ประกาศออกไปเพราะดูจะเป็นการวางอำนาจและท้าทายไปหน่อย แต่เมื่อเรือประมงเราถูกยิง เราก็จะสามารถขอเปิดการเจรจาและสามารถพูดเสียงกร้าวได้เลยว่า ต่อไปถ้ามีเหตุการณ์ แบบนี้อีก เราจะตอบโต้ทันที ซึ่งประเทศ ก. คงจะต้องคิดหนัก แต่ถ้าเรามีแต่ปืนแก๊ป เขาก็จะ หัวเราะ และบอกว่า คนของผมต้องทำตามกติกาที่ทางราชการกำหนด ดังนั้นท่านต้องบอกคน ของท่านอย่าได้ทำผิดกติกาของเรา แล้วเราจะไปทำอะไรได้ เพราะเรามีแต่ปืนแก๊ป นี่แหละ ครับที่ผมอยากจะเรียนย้ำว่าเราไม่สามารถบอกกับท่านได้ว่า กองทัพเรือจะหาเรือดำน้ำเอาไว ้ เพื่อรบกับประเทศไหน ผมอยากขอให้ท่านลองไปศึกษาหรือสืบดูเถอะครับว่าประเทศต่างๆ ที่ ี่เขาจัดหาเรือดำน้ำมาเขาบอกหรือเปล่าว่าเขาจะเอาไปรบกับใคร แต่ถ้าท่านเป็นรัฐมนตรีกลา โหมหรือเป็นนายกรัฐมนตรี ผมก็จะกระซิบบอกท่านได้ว่าผมกะว่าจะต้องรบกับใคร และจะรบ กับเขาอย่างไร ผมหวังว่าท่านทั้งหลายที่อยู่ในวิสัยที่จะสนับสนุนให้กองทัพเรือมีเรือดำน้ำได้ คงจะเข้าใจและให้การสนับสนุนตามโอกาสอันควรนะครับ ผมปีนี้ก็ย่างเข้า ๗๒ แล้ว ปี ๒๕๖๓ ไม่ทราบว่าผมจะยังอยู่ดูโลก ดูกองทัพเรืออยู่อีกได้หรือเปล่า แต่ถ้าผมยังอยู่ผมคงต้องร้องไห ้ ถ้ากองทัพเรือไทยต้องจ้างมาเลเซียต่อเรือดำน้ำและฝึกคนประจำเรือให้ด้วยเพื่อเป็นการถ่าย ทอดเทคโนโลยีให้แก่กองทัพเรือไทย       สุดท้ายผมขอฝากเรื่องนี้ไว้ให้กับรุ่นน้อง ลูกศิษย์ หลานศิษย์ ทั้งหลาย รวมทั้งประชาชน ทั่วไปและท่านผู้มีอำนาจในบ้านในเมืองขอได้โปรดพิจารณาและดำเนินการตามที่เห็นสมควร ต่อไปด้วยเถิดครับ   และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคงจะไม่ทำให้ทหารแก่ๆ อย่างผมต้องน้ำตาตกนะ จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ 3 พ.ค. 49 14:17:13 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ได้ยินว่าอ่าวไทย ลึกแค่ 20 เมตรเองไม่ใช่เหรอ จากคุณ : ผู้เฒ่าสายลม - [ 3 พ.ค. 49 14:48:51 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ง่า อ่าวเราไม่ลึกงับ เราเลยไม่จำเป้นต้องมี ก้ได้ ข้าสึกมา เราก็เห็นหมดแล้ว แค่ส่งฮอไป แต่ก็อยากให้มีนะ... จากคุณ : นายโอ้นโต้น - [ 3 พ.ค. 49 15:01:35 ]

ความคิดเห็นที่ 5 มิเสียใจเลย ที่ได้มีโอกาสมาอ่านบทความของท่านฯลุง sky man ด้วยความเคารพครับ ผมเห็นด้วยครับเรื่องเรือดำน้ำครับ อยากให้มีบ้างครับ จากคุณ : jk_noom - [ 3 พ.ค. 49 15:11:22 ]

ความคิดเห็นที่ 6 มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกครับ แค่ส่งฮ. หย่อน Sonobouy มิได้หมายความว่าจะต้องเจอนะครับ มันยากกว่านั้นเยอะครับ การมีเรือดำน้ำได้เปรียบมากกว่าไม่มีเยอะ ในสงครามโลกมีเรือทั้งของพันธมิตรกับฝ่ายอักษะใช้อ่าวไทยเราเป็นสนามประลองยุทธกันก็มากครับ ในช่วงสงครามเย็นเราก็จับสัญญาณซึ่งเชื่อว่าจะเป็นเรือดำน้ำของฝ่ายข้าศึก (คอมมิวนิสต์) ได้เป็นระยะ ๆ เราก็พยายามตามสัญญาณเหล่านั้นไปแต่สุดท้ายก็เงียบหายไป การตอบโต้กับเรือดำน้ำได้ดีที่สุดก็คือใช้เรือดำน้ำด้วยกันเอง แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 49 15:16:20 จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ 3 พ.ค. 49 15:11:32 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คงจะมีหลังเวียดนาม และคิดว่าเวียดนามจะเป็นประเทศพัฒนาก่อนเรา ส่วนเรายังเป็นประเทศด้อยพัฒนาอยู่ ไม่มีคำว่าประเทศกำลังพัฒนาชื่อนี้เราตั้งเรียกกันเอง คงจะเป็นเพื่อปลอบใจตัวเองมั้ง(อาจารบอก) ถ้าอยากให้ประเทศเราพัฒนาซะทีก้อเอานักการเมืองที่มันเลวๆออกไปให้หมดโดยเฉพาะพวกเหลี่ยมๆกลมๆห้อยๆ จากคุณ : แฮม - [ 3 พ.ค. 49 15:16:19 A:124.121.19.35 X: TicketID:119520 ]

ความคิดเห็นที่ 8 20 เมตรจริงอะ แล้วที่เค้าไปขุด ก๊าซ กันลึกกี่เมตรอะ หมายถึงความถึงก้นทะเลนะครับ จากคุณ : . (ซิมเปิ้ลแมน) - [ 3 พ.ค. 49 15:17:12 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมเคยนั่งเรือเก็บข้อมูลสมุทรศาสตร์ รอบอ่าวไทย นั่งดูโซนาร์วัดความลึกไปด้วย ความลึกโดยเฉลี่ยอยู่ราวๆ 12 - 18 เมตร (แต่ตามสถิติที่วัดความลึก มากที่สุดของอ่าวไทยบันทึกไว้ที่ 80 เมตรครับ) แล้วเรือดำน้ำนี่ความสูงเท่าไหร่อ่ะ ถึงจะเอามาดำเล่นในอ่าวไทยได้? จากคุณ : Devil (daemonview) - [ 3 พ.ค. 49 15:18:36 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เรือดำน้ำ เครื่องบิน ขับไล่พิสัยใกล ระบบ สนับสนุน อิเล็กทรอนิกส์ ยุคใหม่ แล้วอะไร อีกล่ะ กองทัพไทย ยังขาดอีกเยอะ จากคุณ : NukeSkywalker - [ 3 พ.ค. 49 15:19:59 ]

ความคิดเห็นที่ 11 Nuke ดีกว่า จากคุณ : IRQ5 - [ 3 พ.ค. 49 15:26:06 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ออกเรือมาเสื่อผืนหมอนใบ สู่อ่าวไทยดินแดนสยาม... จากคุณ : กลับมาแล้วคนดี - [ 3 พ.ค. 49 15:42:02 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอผู้นำดีๆ ดีกว่าครับ จากคุณ : beer2nd - [ 3 พ.ค. 49 15:50:24 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เพื่อทำให้กระทู้นี้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ผมขอโพสข้อเขียนเรื่อง "ยุทธศาสตร์การใช้เรือดำน้ำ ความเปลี่ยนแปลงในช่วงทศวรรษสุดท้ายก่อนปี ๒๐๐๐" โดย พลเรือโท ทำนุ เนตรโรจน์ ซึ่งผมได้ก๊อปมาจากคุณ OA แห่ง Wing21 เพื่อทำให้กระทู้นี้สมบูรณ์มากขึ้นครับ ========================= ความเปลี่ยนแปลงของกองกำลังเรือดำน้ำของบางประเทศที่น่าศึกษา สิงคโปร์:       เป็นประเทศที่ต้องพึงอาหาร, น้ำ และพลังงานจาภายนอกประเทศ รายได้มาจากอุตสาหกรรม High Tech เป็นส่วนใหญ่ กล่าวโดยรวมคือจาก      ๑. อุตสาหกรรม      ๒. อุตสาหกรรมเพิ่มมูลค่าและขายฝีมือ (เช่น กลั่นน้ำมัน และต่อเรือ / ซ่อมเรือ)      ๓. ซื้อ / ขาย / บริการทางการเงิน      ๔. ธุรกิจตัวแทนการค้า      ๕. บริการท่าเรือ      ๖. อื่น ๆ เช่น การบิน การท่องเที่ยว เป็นต้น ภัยคุกคาม       ภัยภายในมีน้อย แต่ภัยภายนอกจากเพื่อนบ้านน่ากลัวมาก สิงคโปร์จึงปรับเข้าหาการเป็น “ทหารทั้งประเทศ” เข่นเดียวกับอิสราเอล มีกองทัพบกที่ใหญ่เกินตัวและมีกองทัพอากาศที่ใหญ่มากเช่นเดียวกัน แต่แม้จะต้องพึ่งทะเลมาก ภัยจากมหาอำนาจทางทะเลก็มีน้อย กองทัพเรือจิ๋วจึงใช้งบประมาณน้อย อย่างไรก็ดีเร็วๆนี้เองโดยไม่มีวี่แววมาก่อน สิงคโปร์ตั้งกองเรือดำน้ำเต็มรูปแบบโดยฉับพลันภายในปีเดียว เป็นกองเรือดำน้ำเดินทะเล จัดหามาจากเรือดำน้ำมือสองของ Sweden ๔ ลำ ในขณะที่ไทยรำมวยมาตั้งแต่ผู้เขียนเป็นประธานนักเรียนโรงเรียนเสนาธิการ รุ่น ๓๑ (ปรารภกับ พลเรือโท เกตุ สันติเวชกุล รองเสนาธิการทหารเรือ ครูโรงเรียนเสนาธิการทหารเรือ) และต่อมาออกเป็นบทความใน นาวิกศาสตร์ เพื่อกำหนดโครงสร้าง เมื่อ ๓ ทศวรรษมาแล้ว ต่อมา พลเรือเอก ประเจตน์ ศิริเดช ซึ่งเคยจดบันทึกการประชุมของคณะกรรมการจัดหาเรือดำน้ำตั้งแต่เมื่อท่านเป็นนาวาเอก แต่จนเป็น พลเรือเอก และเป็นผู้บัญชาการทหารเรือ อยู่ถึง ๓ ปี กิจการก็สามารถ เข้าใกล้ได้แค่ให้บริษัทเสนอ Proposal นับว่ายังรำมวยอยู่ ซึ่งถ้าจะให้เดา ก็คือสิงคโปร์ ทุ่มเงินก้อนนี้ก็เพื่อจะใช้เป็นหมัดเด็ดที่จะป้องกันการคุกคามทางทะเลทั้งเหนือน้ำและใต้น้ำจากจีน ซึ่งพยายามอย่างหนักที่จะเข้ามาควบคุมช่องมะละกาและทะเลอันดามัน (ทหารเรือ ไทยก็รู้แต่ไม่รู้ว่าจะอธิบายแก่ “ ปัญญาชน” อย่างไร) ถ้าถามเขาทั้งสองฝ่าย (จีนและสิงคโปร์) ก็คงมีคำอธิบายที่สละสลวยและคลุมเครือ อินโดนีเซีย:          เป็นประเทศหมู่เกาะ ภัยคุกคามต่อความเป็นรัฐ คือ การแตกแยกภายในอันเนื่องมาจากเชื้อชาติและภูมิศาสตร์ซึ่งกระจายอยู่ทั่วไป (บทความนี้เขียนขึ้นก่อนเกิดกรณีติมอร์ตะวันออกเกือบปี - กองบรรณาธิการ) กองทัพบกที่เป็นหนึ่งเดียวจึงสำคัญมาก เสรีประชาธิปไตยอาจนับ เป็นสิ่งฟุ่มเฟือย กองทัพอากาศก็เป็นสิ่งฟุ่มเฟือยด้วย ส่วนกองทัพเรือที่เป็นหนึ่งเดียวนับเป็นตัวเชื่อมความกระจัดกระจายและเป็นหมัดเด็ด สำหรับความพยายามที่จะปลีกตัวออกเป็นรัฐอิสระ กองทัพเรือจึงกอปรไปด้วยเรือผิวน้ำเดินสมุทรราคาถูก (เกือบทั้งหมดเป็นเรือมือสอง) กองเรือดำน้ำเมื่อ ๓๐ ปีมาแล้ว เคยมีจำนวนมากโดยจัดหามาจากโซเวียต และคงจะมีไว้ ป้องกันการแทรกแซงข่มขู่ (จากมหาอำนาจทางทะเลที่เป็นชาติตะวันตก) ซึ่งงานนี้กองกำลัง เรือดำน้ำจะทำได้ดีที่สุดด้วยราคาต่ำที่สุดและเสี่ยงต่อการถูกขยี้ อย่างฉับพลันน้อยที่สุด มาบัดนี้ กองเรือดำน้ำที่ทันสมัยมีไว้เพียงเพื่อการสืบต่อการเตรียมกำลังรบชนิดนี้ เช่นเดียวกับเรือผิวน้ำใหม่จำนวนน้อย (มีเรือฟริเกตใหม่เพียง ๓ ลำ และเครื่องบินประจัญบานที่ทันสมัยจำนวน น้อยนิด ในขณะที่มีเรือฟริเกตมือสองถึง ๑๓ ลำ จัดหาจากตะวันตก และเรือคอร์เวตมือสองอีก ๑๖ ลำ จัดหาจากรัสเซีย)           กองกำลังเรือดำน้ำของอินโดนีเซียเปลี่ยนรูปแบบจากเรือดำน้ำเดินสมุทรมือสองจำนวนมาก เพื่อป้องกันการคุกคามจากมหาอำนาจทางทะเล มาเป็นกองเรือดำน้ำใหม่เอี่ยมเพียง ๒ ลำ เพื่อสืบทอดการเตรียมกำลังประเภทนี้ ดัง นี้ เมื่อ ๓๐ ปีที่แล้ว ปัจจุบัน เรือดำน้ำ ชั้น W จากโซเวียต ปี ค.ศ. ๑๙๕๘ – ๖๐ (มือสองปรับปรุง) 10 ลำ เรือดำน้ำ TYPE 1300 สั่งต่อจากเยอรมัน (ปี ค.ศ. ๑๙๘๐) ๒ ลำ          น่าอิจฉากองทัพอินโดนีเซีย ที่มีนายพลเรือจากสายเรือดำน้ำ ในขณะที่กองทัพไทย เคยส่งเสริมให้กองทัพเรือไทยได้มีกองกำลังชนิดนี้เพื่อเป็นกำลังขัดขวางต่อมหาอำนาจทาง ทะเลมิให้มาลอยนวลกดดันประเทศเราโดยเปิดเผยได้ ก่อนชาติใดๆในระดับเดียวกัน มาบัดนี้แม้เหล่าทัพอื่นจะมิได้ขัดขวาง แต่กองกำลังเรือดำน้ำกลับมาสูญพันธุ์ไปเสียแล้ว ยังไม่ยอมฟื้นทั้งๆที่กองกองทัพเรือไทยได้พยายามมาโดยต่อเนื่องนับเป็นทศวรรษแล้ว จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ 3 พ.ค. 49 15:52:24 ]

ความคิดเห็นที่ 15 มาเลเซีย:          มี NAVY ใหม่เหมือนสองประเทศที่กล่าวแล้ว ไม่เคยมีเรือดำน้ำ ต้องการจะมีและเปิด เผยรู้กันทั่วโลกแล้ว แต่ยังไม่พร้อมที่จะมี เป็นชาติสมาชิกของสนธิสัญญาป้องกันร่วมกัน ที่เรียกกันว่า FIVE POWER (สิงคโปร์, มาเลเซีย, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และสหราชอาณาจักร) ฉะนั้นอันตรายภายนอกจากเพื่อนบ้านจึงไม่สู้จะสำคัญ         มาเลเซียตั้งใจจะมีกำลังทางอากาศให้เหนือไทย และก็มีปัจจัย (ทรัพย์และความเข้าใจ) มากพอจึงกำลังดำเนินการอยู่อย่างขะมักเขม้น (จัดหา F-18 และ MIG 29) แต่ในขณะเดียวกันก็แสดงความพยายามที่จะเป็น Sea Power สูงสุดในย่านนี้ให้จงได้ เพราะเป็นประเทศอกแตกซึ่งทะเลขวางอยู่ ทั้งศูนย์รวมของประเทศก็ตั้งอยู่บนเส้นทางเดินเรือสำคัญของโลกคือช่องมะละกา ความตั้งใจของมาเลเซียแสดงออกโดยเปิดเผย และในเวลาเดียวกันบุคคลในระดับนโยบายของประเทศก็ขานรับ เห็นได้จากมีการจัดตั้งองค์กรทางความคิด (THINK TANK) เน้นเฉพาะสมุททานุภาพโดยตรงในอุปถัมภ์ของรัฐมานานแล้ว (MIMA) มาเลเซียร่ำๆจะจัดตั้งกองเรือดำน้ำมาหลายปีแล้ว (หลังจากไทยและก่อนสิงคโปร์เป็นเวลานานเช่นกัน) ซึ่งเงินก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา ปัญหาน่าจะอยู่ที่การพัฒนาบุคลากร เพราะการขยายกองกำลังผิวน้ำให้เต็มตามโครงสร้างก็ยังทำได้ยาก การพัฒนาอากาศนาวีก็มีปัญหา อย่างไรก็ตามมาเลเซียคงมีกองกำลังเรือดำน้ำ ก่อนการรื้อฟื้นของไทยค่อนข้างจะแน่นอน ขอย้ายประเด็นสัก ๗-๘ บรรทัดตรงนี้ครับ ปัญญาชนชาวไทยหลายหมู่เหล่ามองเห็นสิ่งซึ่งทหารเป็น และชาติอื่นๆเขาก็เห็นเหล่านี้ว่าเป็นเพียงการสนองตัณหา ผู้เขียนเป็นว่าอคติของท่านเหล่านี้น่าจะเป็นปัญหา เสียเองโดยที่มันบดบังปัญญาซึ่งปกติน่าจะมากพอที่จะเข้าใจสภาวะที่แท้จริงของสังคมโลกมนุษย์ได้ ซึ่งการศึกษาติดตามประวัติศาสตร์มาเรื่อยๆน่าจะพอจะเห็นได้โดยไม่ต้องมีปัญญาเป็นเลิศแต่อย่างใด ท่านปัญญาชนที่มีใจเป็นธรรมลองค้นข้อมูลจากเอกสารนานาชาติที่เผยแพร่ให้คนทุกชาติทุกหมู่เหล่าและทุกระดับสามารถเข้าใจได้ และวิเคราะห์เปรียบเทียบดู ท่านจะได้เห็นเองว่าแม้ในช่วงที่ทหารมีอำนาจทางการเมืองสมบูรณ์ ไทยใช้งบประมาณทางทหารน้อยมาก หากเปรียบเทียบกับชาติอื่นๆที่อยู่ในสภาวะแวดล้อมที่มีภัยรอบตัวและพยายามไม่เป็นลูกน้องใคร ฟิลิปปินส์:          ฟิลิปปินส์และกัมพูชาไม่เคยมีและไม่คิดจะมีกองกำลังเรือดำน้ำ ทั้งนี้เพราะฟิลิปปินส์มีสหรัฐฯเป็นผู้คุ้มครองอยู่ แต่เมื่อเริ่มจะมีปัญหากับจีนเรื่องบางส่วนของหมู่เกาะสแปรตลีที่ฟิลิปปินส์อ้างสิทธิ์ โดยหมู่เกาะนี้เห็นได้ชัดอยู่บนไหล่ทวีปของแผ่นดินของฟิลิปปินส์ แต่จีนอ้างว่าเคยผ่านมายังหมู่เกาะนี้ตั้งนานมาแล้ว ในอดีตเมื่อจีนเดินเรือมาถึงหมู่เกาะสแปรตลี ก็ได้เริ่มทำการสำรวจหมู่เกาะนี้ ฉะนั้นด้วยเหตุผลทั้งหมดที่กล่าวมา (รวมทั้งที่อื่นๆในหมู่เกาะสแปรตลี ที่ชาติอื่นๆอ้างสิทธิ์) หมู่เกาะสแปรตลีจึงควรเป็นของจีน กัมพูชา:          ยังไม่แข็งแรง ไทยก็มิได้คุกคาม เวียดนามแม้เคยถึงใช้อาวุธต่อกัน คือคราวที่เวียดนามโจมตีและยึดเกาะหวาย (Poulo Wai) ตอนนี้แม้จะมีการอ้างสิทธิ์ในทะเลซ้อนทับกันก็น่าจะเจรจากันได้ เพราะน่าจะไม่มีใครตั้งตัวเป็นนักเลง พม่า:         ใช้เงินตราต่างประเทศ (ที่มีอยู่น้อย) และได้รับความช่วยเหลือมหาศาล (มหาศาล คือ มากกว่าที่สหรัฐฯ เคยช่วยไทยในอดีต ในช่วงเวลาใดๆหลายๆพันเปอร์เซ็นต์) จากจีนจำนวน เป็นสัดส่วนมหาศาลหากเปรียบกับผลิตผลมวลรวม หากการขายแก๊สให้ไทยราบรื่นได้เงินต่าง ประเทศมาก และเสร็จงานปราบปรามชนกลุ่มน้อย คงจะได้เห็นขนาดของกองทัพพม่า (ซึ่งปัจจุบันกองทัพบกพม่าโตกว่ากองทัพบกไทย ๑ เท่าตัวพอดีอยู่แล้ว) ไม่ทราบว่าปัญญาชน เคยตรวจสอบดูบ้างหรือเปล่า กองกำลังเรือดำน้ำพม่าจะต้องคิดมีแน่นอน ผู้เขียนไม่สงสัยเลย และจะไม่เชื่อเลยถ้าจะมีการปฏิเสธปัญหาอยู่ที่เงินและเวลาเท่านั้น เวียดนาม:          ไม่เคยมีกองเรือดำน้ำและกำลังเสริมสร้างกองทัพเรืออย่างจำกัด ยังทำตนเหมาะสมอย่างคนจน และยังอ้างสิทธิ์เหนือหมู่เกาะปาราเซลและบางส่วนของหมู่เกาะสแปรตลี แต่หมู่เกาะปาราเซลทั้งหมู่ กองกำลังทหารถูกบดขยี้ และบัดนี้มีฐานทัพรวมทั้งสนามบินบนหมู่เกาะนั้นแล้ว แต่เวียดนามปิดปากเงียบโดยไม่ยอมถอนการอ้างสิทธิ์          บัดนี้ปีนี้เองเวียดนาม กลับลำซื้อเรือดำน้ำมือสองลำเล็กๆจากเกาหลีเหนือ ๒ ลำ ซึ่งจะพร้อมใช้ก่อนปี ค.ศ.๒๐๐๐ และแม้เรือดำน้ำทั้งสองลำนี้จะมีขีดความสามารถต่ำมาก แต่ก็จะเป็นเหมือนเม็ดกรวดเล็กๆในรองเท้าของจีน เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ตามบทความที่ผู้เขียนเคยเขียน ลงนาวิกศาสตร์ไว้เมื่อ ๒๐ ปีที่แล้ว จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ 3 พ.ค. 49 15:52:59 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เรือดำน้ำเป็นอาวุธด้านรุกไม่จำเป็นต้องอยู่ในอ่าวไทย ตอนปฎิบัติการไปอยู่ที่ไหนก็ได้ เพราะไม่ได้เป็นอาวุธในการตั้งรับ ถ้ามี อีกฝ่ายต้องคิดว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน ข้างๆตัวหรือเปล่า ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องกังวล จากคุณ : คนไทยคนหนึ่ง - [ 3 พ.ค. 49 15:54:37 A:58.9.192.84 X: TicketID:070304 ]

ความคิดเห็นที่ 17 สวีเดนก็เป็นอ่าวไม่ใช่เหรอ ทะเลปิดกว่าเราอีก ยังมีตั้ง 12 ลำ จากคุณ : ไอ้อ้วนและเด็กน้อย (Fat Man & Little Boy) - [ 3 พ.ค. 49 15:58:27 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ถึงอ่าวไทยจะตื้นดำลงไปก็มองเห็นแบบที่ว่ากัน เรือดำน้ำก็ไม่จำเป้นต้องเข้ามาในอ่าวไทยโดยเฉพาะเรือของฝ่ายตรงข้าม ถ้าเราไม่มีเรือดำน้ำเอาไว้ขู่เค้าให้กังวลบ้าง เวลามีปัญหากันแค่เค้าดำมาป้วนเปี้ยนแถวๆทางออกทะเลจีนใต้คอยจมเรือสินค้าโดยเฉพาะเรือน้ำมันที่จะเข้ามาส่งน้ำมันให้เรา แค่นี้เราก็เสร็จแล้ว จากคุณ : ลาบราดอร์สีดำ - [ 3 พ.ค. 49 16:04:04 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ..เคยได้ยินข้อมูลทั้ง 2 ด้านนี้มาเหมือนกัน.. แต่ก็สนับสนุนให้มีครับ เรือชั้น Amur น่าสนใจ มีหลายขนาด ราคาไม่แพง เลือกที่เหมาะสมกับเรา ประเทศไทย คนไทย ก็แบบนี้แหล่ะครับ.. ต้องเดินหน้าต่อไป.. เอาใจช่วย จากคุณ : นายแพรว - [ 3 พ.ค. 49 16:22:58 ]

ความคิดเห็นที่ 20 สวีเดนเขาทำขายด้วยนี่นาจะมีเอาไว้โปรโมทก็น่าจะได้ จากคุณ : ของSAABมั้ง (SNRI) - [ 3 พ.ค. 49 16:26:02 ]

ความคิดเห็นที่ 21 U-212 เรือดำน้ำรุ่นใหม่จากเมืองเบียร์ ลำแรกเพิ่งขึ้นระวางประจำการในปีที่แล้วนี่เอง เรือมีระบบคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัยสุด ๆ เรือมีท่อยิงตอร์ปิโดส์ 6 ท่อยิง ใช้ตอร์ปิโด DM2A4 heavyweight torpedo ติดระบบสงครามอิเล็กทรอนิก 1800U ระบบต่อต้านตอร์ปิโด TAU 2000 ซึ่งจะปล่อยเป้าลวงออกมาเมื่อถูกเรือดำน้ำด้วยกันโจมตี โดยระบบ AIP ของเรือลำนี้ใช้ PEM (polymer electrolyte membrane) fuel cells 9 เซลล์ แต่ละอันให้กำลังไฟ 30 - 50 kW เมื่อต้องการความเร็ว เรือจะใช้เครื่องยนต์ดีเซลล์ MTU 16 V- 396 เรือสามารถวิ่งได้เร็วบนผิวน้ำ 12 Knots และใต้น้ำที่ 20 Knot ใช้ลูกเรือ 27 คน ระวางขัยน้ำบนผิวน้ำ 1,524 ตัน ขณะดำ 1,830 ตัน แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 49 16:30:51 จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ 3 พ.ค. 49 16:30:19 ]

ความคิดเห็นที่ 22 A-19 Gotland เรือดำน้ำจากสวีเดนลำนี้พี่น้องของมันเกือบได้แจ้งเกิดในทร.ไทยเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว แต่มาวันนี้เธอกลับมาใหม่ด้วยมาดไฉไลกว่าเดิม เรือมีระบบความคุมการรบ 9SCS Mark 3 ใช้ตอร์ปิโด Type-613 จาก Bofors Underwater Systems ยิงจากท่อยิง 533 mm 4 ท่อ ซึ่งใช้สำหรับต่อต้านเรือผิวน้ำโดยการนำวิถีด้วยเส้นลวด (คือมีเส้นลวดยาว ๆ จากเรือต่อกับตอร์ปิโดใช้ส่งข้อมูล ทำให้การยิงแม่นยำเพราะใช้คนบังคับ) มีดินระเบิด 240 กิโลกรัม วิ่งด้วยความเร็ว 42 Knots ในรัศมี 20 กิโลเมตร ส่วนอีกขนาดหนึ่งคือ Type-43 จาก Saab Bofors Underwater Systems ยิงจากท่อยิง 400 mm. 2 ท่อ ใช้ต่อต้านเรือดำน้ำ นำวิถีด้วยเส้นลวด 2 ท่อยิงสามารถยิงได้ 4 ลูกด้วยกัน เรือใช้เครื่องยนดีเซลล์ MTU และใช้ระบบ AIP ที่ชื่อว่า Kockums V4-275R Stirling 2 ระบบ แต่ละระบบให้พลังงาน 75 kW สามารถดำน้ำได้ต่อเนื่อง 2 อาทิตย์ที่ความเร็ว 5 Knots เรือมีระวางขับน้ำบนผิวน้ำ 1,240 ตัน ใต้น้ำ 1,490 ตัน ทำความเร็วบนผิวน้ำได้ 11 Knots ความเร็วดำได้ 20 Knots จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ 3 พ.ค. 49 16:31:41 ]

ความคิดเห็นที่ 23 Amur 1650 เรือดำน้ำจากรัสเซียลำนี้ขึ้นระวางประจำการในราว ๆ ปี 2000 โดยเรือลำนี้พัฒนามาจากเรือชั้น Kilo ตัวเรือสร้างจากเหล็กกล้า AB-2 ทำให้สามารถดำได้สูงสุด 250 เมตร ความเร็วใต้น้ำสูงสุด 21 Knots ระวางขับน้ำ 1,765 ตัน กำลังพลประจำเรือ 30 คน ปฏิบัติการได้ต่อเนื่องนาน 45 วัน ดำได้ต่อเนื่องนาน 15 วัน สามารถบรรทุกอาวุธได้ 18 ลูก โดยสามารถผสมกันได้ระหว่าง ตอร์ปิโด SET-80, จรวดต่อต้านเรือ SS-N-15 และ SS-N-16, ทุ่นระเบิด, และที่เด็ดที่สุดคืออาวุธนำวิธียิงในแนวตั้ง Klub-S การทำงานคล้าย ๆ Tomahawk ของอเมริกา สามารถโจมตีเป้าหมายเรือที่อยู่บนผิวน้ำได้ จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ 3 พ.ค. 49 16:32:33 ]

ความคิดเห็นที่ 24 Control Room [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ 3 พ.ค. 49 16:33:03 ]

ความคิดเห็นที่ 25 Kulb-S จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ 3 พ.ค. 49 16:33:34 ]

ความคิดเห็นที่ 26 มูลค่าทั้งโครงการซักเท่าไหร่ครับ ซื้อเรือดำน้ำโจมตีสามลำ พร้อมอะไหล่ซ่อมบำรุงตามปกติ ค่าก่อสร้างและเครื่องมือสนับสนุนการซ่อมระดับโรงงาน รวมทั้งค่าฝึกกำลังพลทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง ถ้าไม่แพงมาก ก็ไม่น่าลังเลมาตั้งสามสิบปี จากคุณ : jaycee - [ 3 พ.ค. 49 16:33:53 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ลำนึงราคาพอ ๆ กับเรือจักรีลำนึงล่ะครับ บันทึก 9 รายละเอียดความต้องการเรือดำน้ำของ ทร. 9.1 ประเภท : เรือดำน้ำขับเคลื่อนพลังธรรมดา 9.2 โครงการ : 2 ลำ, ระยะเวลาโครงการ : 2555 - 2560 9.3 ขีดความสามารถที่ต้องการ 9.3.1 โจมตีเรือผิวน้ำ 9.3.2 ปราบเรือดำน้ำ 9.3.3 วางทุ่นระเบิด 9.3.4 ลำเลียงหน่วยปฏิบัติการพิเศษ 9.4 คุณลักษณะทั่วไปที่สำคัญ 9.4.1 ระวางขับน้ำใต้น้ำ 1,000 - 2,500 ตัน 9.4.2 รัศมีปฏิบัติการไม่ต่ำกว่า 2,500 ไมล์ 9.4.3 ปฏิบัติการในทะเลได้ต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 15 วัน 9.4.4 ระบบขับเคลื่อนเป็นแบบดีเซลไฟฟ้า พร้อมระบบ AIP (Air Independance Propulsion) 9.4.5 มีเครื่องมือเดินเรือทั้งผิวน้ำและใต้น้ำที่สมบูรณ์ 9.4.6 ระบบสื่อสารเป็นแบบรวมการ ประกอบด้วย ระบบสื่อสารภายใน สื่อสารภายนอก ทั้งเหนือน้ำและใต้น้ำและระบบ GMDSS 9.4.7 อุปกรณ์ตรวจจับ ประกอบด้วย ระบบโซนาร์แบบ PASSIVE และ/หรือ ACTIVE SONAR , ระบบ ELECTRONIC WARFARE , กล้อง Periscope 2 กล้อง ได้แก่ Attack และ Search โดยมีอุปกรณ์กล้อง IR/TV/กล้องถ่ายภาพนิ่ง/เรดาร์ติดตั้งร่วมด้วย 9.4.8 ระบบอาวุธ ประกอบด้วย ตอร์ปิโด จำนวน 6 - 8 ท่อ พร้อมคลังและขีดความสามารถบรรจุ ระบบ countermeasure และระบบลวงตอร์ปิโด/โซนาร์ 9.4.9 มีสายการผลิตอะไหล่สนับสนุนการซ่อมบำรุงให้ใช้งานได้อย่างน้อย 30 ปี แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 49 16:37:40 จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ 3 พ.ค. 49 16:36:43 ]

ความคิดเห็นที่ 28 หลงมาจากห้องการ์ตูนครับ อ่านแล้วคิดว่าน่าสนใจมาก กับ การมีเรือดำน้ำของไทย ยิ่งอ่านการ์ตูนเรื่องนี้ยิ่งรู้เลยว่าเรือดำน้ำมันสำคัญแค่ไหน จากคุณ : bigcy - [ 3 พ.ค. 49 17:12:11 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ผมก็ไม่เข้าใจ เหมือนกัน พูดถึงเรือดำน้ำ ทีไร ต้องพูดว่า อ่าวไทยลึกแค่ นั้น แค่นี้ เอง ไม่ใช่เหรอ ทำยังกะ เรามีทะเล แค่อ่าวไทย จากคุณ : คนขายของ (ยังมีหวัง) - [ 3 พ.ค. 49 17:21:04 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เอามาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวก็ยังดี... จากคุณ : นายไผ่ - [ 3 พ.ค. 49 17:49:20 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เรือดำน้ำเป็นอาวุธเชิงยุทธศาสตร์ ครับ มีไว้ก็จะมีคนเกรงใจ  (มากกว่านี้) ถ้าเขามีเราไม่มี เสียงเราก็ค่อย พูดอะไรไปเค้าจะเสียดังกว่า กลบเราหมด จากคุณ : BlackSabre - [ 3 พ.ค. 49 19:25:24 ]

ความคิดเห็นที่ 32 จะกินแกลบกันทั้งประเทศอยู่แล้ว ยังจะเอาเรือดำน้ำอีก ผมถามตรงๆนะ เรือจักรีนฤเบศร์น่ะ ใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง  ใช้งานได้คุ้มค่ารึเปล่า เครื่องบินประจำเรือ เหลือบินได้กี่ลำ แล้วเดือนๆนึง จอดอยู่ที่ท่าเรือจุกเสม็ดกี่วัน ถ้าประเทศเราร่ำรวย หรือมีศึกเหนือเสือใต้ประชิดติดพัน ก็ควรซื้อมาจอดดูเล่นสัก 20 ลำน่ะครับ จากคุณ : ช่างไฟ - [ 3 พ.ค. 49 19:36:52 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ที่แน่ๆ ถ้ามีการชงเรื่องนี้ให้เป็นจริงเป็นจัง รับรอง ฝ่ายค้าน ตาลุกวาวแน่ (พร้อมกับเลียปากแพร่บๆ) " ใด้โชว์พาว แน่ ตู...อิอิอิ" จากคุณ : เสือห้าว - [ 3 พ.ค. 49 19:56:57 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เอ่อ แค่ขุดคลองไทยได้ก็เพิ่มความมั่นคงได้ระดับหนึ่งแล้ว จากคุณ : PondKung - [ 3 พ.ค. 49 20:03:52 ]

ความคิดเห็นที่ 35 #32 สมัยพายุเกย์เข้าไทย เราไม่มีเรือลำไหนมีศักยภาพพอที่จะฝ่าพายุไปช่วยเหลือพลเรือนเลยนะครับ เรือจักรีฯก็มีโครงการหลังจากพายุครั้งนั้นโดยมีภารกิจหลัก คือกองบัญชาการกลางน้ำเพื่อการช่วยเหลือผู้ประสบภัยครับ ของยังงี้ ยามจำเป็นถึงจะได้ใช้ ยามสงบก็บ่นกันว่าซื้อมาทำไม มีไว้เกินดีกว่ายามจำเป็นไม่มีให้ใช้แล้วเราจะมาบ่นเสียใจทีหลังก็ไม่ทันซะแล้ว จากคุณ : ....4จุด - [ 3 พ.ค. 49 20:09:16 ]

ความคิดเห็นที่ 36 แก้ไขเมื่อ 16 พ.ค. 49 06:33:06 จากคุณ : dualspiner - [ 3 พ.ค. 49 20:40:04 ]

ความคิดเห็นที่ 37 #32 คนส่วนใหญ่ก็พูดกันแบบนี้แหละครับ มี 2 ปรัชญาคือ ซื้ออาวุธมาก ๆ แต่ประเทศจน หรือซื้อน้อย ๆ แต่ประเทศรวย ทั้งสองข้อมีข้อเสียมหาศาลในตัวมันเอง สิ่งที่เราต้องทำคือหาจุดลงตัวทั้งในแง่ความมั่นคง เศรษญกิจ การค้า การเมือง ผมไม่สนับสนุนความคิดสุดโต่งไปทางด้านใดด้านหนึ่ง แต่ต้องหาทางสายกลางให้ได้ ตัวอย่าง บ้านเราไม่มีสงครามหรอก......จู่ ๆ พม่ายึดเนินฟลอเรนส์ ซื้อไปทำไมอาวุธ.......จู่ ๆ กะเหรี่ยงยึดสถานฑูต+รพ.ศูนย์ราชบุรี รอบบ้านไม่มีใครคิดทำร้ายเรา.......จู่ ๆ มีเผาสถานฑูตไทยในกัมพูชา ปัญหาทั้งหมดนี้มันถูกแก้ด้วยกำลังทหาร ผมไม่ได้สนับสนุนการมีแบบบ้าเลือดแบบมาเลเซียหรือสิงคโปร์ แต่เรามีเท่าที่จำเป็น เท่าที่เราคิดว่าเราจะรับมือได้ อาวุธซื้อมาแน่นอน มันไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ไม่ได้ทำให้คนหายจนลง ไม่ได้ทำให้ขายสินค้าได้มากขึ้น แต่มันคือ "การซื้อความมั่นคงของประเทศ" ซึ่งอาวุธ "แม้ถูกใช้ในถานการณ์จริงเพียงครั้งเดียวก็คุ้มค่าแล้ว" ไม่เฉพาะเราจะมองแค่เราป้องกันตัวเอง ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนิเซีย 4 ประเทศนี้คือกระดูกสันหลังของความมั่นคงในภูมิภาค ในช่องแคบมะละกาที่มหาอำนาจกำลังเข้ามามีบทบาท ความมั่นคงของเราก็คือความมั่นคงในภูมิภาคด้วย "แม้หวังตั้งสงบ จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ" ผมยังเชื่อว่าพระราชดำรัสนี้ยังใช้ได้อยู่ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 49 21:19:52 จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ 3 พ.ค. 49 21:17:29 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ข้อมูลผมไม่มาก ไม่กล้าฟันธง... จากคุณ : tHeNuT - [ 3 พ.ค. 49 21:25:53 ]

ความคิดเห็นที่ 39 อา...คุณช่างไฟ เรื่องความคุ้มค่านี่มองจากอะไร ถ้ามองว่าซื้อมาตั้งหลายพันล้านไม่เห็นได้เอาไปฆ่าใครเลยนี่ไม่คุ้ม อันนี้คิดผิดแล้วครับ ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาเรือในราชนาวีไทยทุกลำช่วยชีวิตคนมากกว่าฆ่าคน เราจะบอกว่าเป็นความไม่คุ้มค่าหรือครับ จักรีนฤเบศน์แท้จริงก็คือเรือกู้ภัยชั้นเยี่ยม 9 ปีที่ผ่านมาก็ได้พิสูตรมาหลายครั้งแล้ว เพียงแต่สัตวบกอย่างคนไทยมองเห็นกันรึเปล่าเท่านั้นเอง เรือกู้ภัยลำนี้เมื่อติดอาวุธอย่างเครื่องบินโจมตีขึ้นลงทางดิ่งเข้าไป ก็สามารถทำหน้าทีเทียบเคียงเรือบรรทุกเครื่องบินได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งถือเป็นผลพลอยได้ที่น่าสนใจ ปกติทหารเรือทั่วโลกมีอยู่ 2 บทบาท คือเป็นทหาร กับเป็นตำรวจ ระบบอาวุธในกองทัพเรือจึงมักมีการใช้งานอย่างสม่ำเสมอ ในยามปกติก็ทำหน้าที่ตำรวจไป รักษากฎหมาย รักษาสิ่งแวดล้อม ช่วยเหลือประชาชน ในยามสงครามก็เป็นทหารเต็มตัว ถ้ายังมองว่าไม่คุ้มค่าก็ไม่รู้จะว่าไง ดูง่ายๆ ช่วงซึนามิ เทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทอย่างมากก็คือเรือรบ ไม่ใช่ของไทยเท่านั้น แต่เกือบทุกประเทศมีการใช้เรือรบและเครื่องบินของกองทัพเรือในเหตุการนั้นอย่างเต็มที่ แม้แต่อเมริกาหรือญี่ปุ่นที่ไม่เกี่ยวข้องด้วยก็ยังส่งเรือรบของตัวเองเข้ามาช่วยเหลือประเทศแถบนี้ด้วย แค่นี้ก็ยืนยันได้แล้วครับว่าเทคโนโลยีทั้ง 2 อย่างนี้มีคุณลักษณะพิเศษในการทำภารกิจกู้ภัย ที่เทคโนโลยีอื่นไม่สามารถเทียบเคียงได้ เป็นเรื่องที่แปลกนะครับ กองทัพเรือมีบทบาทต่อประเทศและประชาชนมากขนาดนี้ แต่คนไทยกลับไม่ค่อยรู้จักกองทัพเรือ และเห็นความสำคัญของกองทัพเรือน้อยกว่าเหล่าทัพอื่นเสมอ ผมเองนั้นไม่ใช่นักการทหาร ผมจะขออธิบายความสำคัญของกำลังทางเรือตามความเข้าใจของผม(ผิดถูกผู้รู้ช่วยชี้แนะด้วยครับ)การมีกองทัพเรือที่เข้มแข็งก็เหมือนทีมฟุตบอลที่มีกองกลางที่ดี ตามธรรมดาที่คนที่ดูบอลไม่เป็น ก็จะไม่เห็นความสำคัญของกองกลาง เหมือนคนที่ไม่รู้เรื่องการทหาร ก็จะไม่เข้าใจความสำคัญของกองทัพเรือเช่นกัน ผมยังตัดสินใจไม่ใด้เลยว่า เราควรมีเรือดำน้ำได้รึยัง ก็เห็นด้วยว่าช่วงนี้ประเทศเรายังจนอยู่ ฟองสบู่จะแตกอีกเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แต่ความสำคัญของเรือดำน้ำก็มีมากจริงๆ หลายอย่างที่เรืออื่นและเครื่องบินทำไม่ใด้ เช่นการหาข่าว ขนส่งหน่วยรบพิเศษ ซึ่งภารกิจพวกนี้ไม่ได้ทำเฉพาะในยามสงครามครับ เรือดำน้ำจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรขาดสำหรับกองทัพเรือ และได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่แน่นอน แต่เอาไปทำอะไรบ้างพูดมากไปก็ไม่ดีครับ จากคุณ : ไอ้อ้วนและเด็กน้อย (Fat Man & Little Boy) - [ 3 พ.ค. 49 21:53:10 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เมืองไทยมีกองเรือดำน้ำเรียบร้อยแล้ว แต่เรือดำน้ำมีมัจฉานุอยู่ลำเดียว ซึ่งก็ไปนอนอยู่ใต้น้ำตั้งนานแล้วไม่เห็นใครเอาขึ้นมาเลย จากคุณ : @==ไข่ดำ==@ - [ 3 พ.ค. 49 22:07:57 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ซื้อลำนี้ได้มั้ยครับ จากคุณ : Detonator_Pao_ - [ 3 พ.ค. 49 22:26:01 ]

ความคิดเห็นที่ 42 อีกมุม ... ผมว่าถ้ามีไอ้นี่จริงๆ เรื่องน้ำตื้นไร้ปัญหาไปเลย ดูในหนังสือ แอตลาสต์ ดูเหมือนอ่าวไทยถ้าออกไปไกลๆหน่อยจะมีน้ำลึกอยู่ในระดับ ไม่เกิน 200 เมตร นี่ครับ จากคุณ : Detonator_Pao_ - [ 3 พ.ค. 49 22:27:57 ]

ความคิดเห็นที่ 43 จะกินแกลบกันทั้งประเทศอยู่แล้ว ยังจะส่งคนอย่างช่างไฟไปเรียนป.เอกถึง อังกฤษทำไม๊ เรียนจบแล้วก็มานั่งหาว เล่นเนตทั้งวัน ปีนึงได้ใช้ความรู้ที่ไปเรียนมากี่ชม.ล่ะ คุ้มค่าเงินภาษีที่ส่งไปเรียนหรือปล่าว จากคุณ : ลาบราดอร์สีดำ - [ 3 พ.ค. 49 22:52:44 ]

ความคิดเห็นที่ 44 น่าน โดนซะ......แต่พออ่านบทความผมก็ว่าเขาเคลียดีนะ......แล้วยิ่งมาอ่านความเห็นของท่าน ๆ ทั้งหลาย...มันตรงกับบทความมากเลยอ่ะ......คือเชี่ยวชาญการรบกว่าทหารทั้งนั้น.......เมืองไทยถึงเป็นอย่างนี้ไง......เคยมีคนพูดว่า คนไทยเนี่ยะเก่งทุกเรื่อง รู้ทุกเรื่อง ยกเว้นอย่างเดียวคือ งานในหน้าที่ความรับผิดชอบของตัว จากคุณ : ohh_no - [ 3 พ.ค. 49 23:26:25 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เห็นด้วยที่จะมี.....สำหรับความมั่นคงทางทะเลของเรา ......สำหรับบางคห....ไม่มีใครรอให้ฝนตกก่อนแล้วถึงซื้อตุ่มน้ำหรอกนะ...แต่เสียดายความรู้และบุคคลากรที่ขาดช่วงไปหลังปลดระวางกองเรือดำน้ำไป ....... จากคุณ : iaht (iaht) - [ 4 พ.ค. 49 02:01:04 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ประทานโทษครับ ถ้าจะซื้อเรือบรรทุกเครื่องบิน มาเพื่อใช้ในภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยเท่านั้น ผมว่า เป็นความคิดที่โง่เง่ามาก เป็นการใช้งานผิดประเภท และลงทุนสูงเกินความจำเป็น คนเงินเดือนหมื่นสอง แต่อยากจะขี่รถเบนซ์ ผมว่ามันเกินฐานะ เกินความจำเป็น จะทำอะไร ก็ให้คิดถึงเงินในกระเป๋า และความจำเป็นในการใช้งานด้วยครับ การใช้จ่ายเกินตัว มันจะทำให้ตัวเองลำบากนานกว่าจะตั้งตัวได้ คุณลาบราดอร์สีดำครับ ผมต้องทำงานชดใช้ทุนครับ ไม่ได้ไปฟรีๆ และผมทำงานคุ้มค่าเงินแน่นอน คุณไม่ได้รู้รายละเอียด กรุณาอย่าสะเออะสอดรู้เลยครับ จะเสียหมาเอาเปล่าๆ แล้วก็กรุณาใช้เหตุผลแบบสุภาพชนหน่อย  การถกเถียงทางความคิดเป็นสิ่งดี ใช้เหตุผลมาว่ากัน ผิดถูกก็ว่ากันไปตามนั้น อย่าเอาแต่คะนองปาก และก็อย่าลำเลิกชาวบ้าน ผมไม่มีอะไรติดค้างคุณ อย่ามาแสดงอำนาจบาตรใหญ่ จากคุณ : ช่างไฟ - [ 4 พ.ค. 49 08:38:49 ]

ความคิดเห็นที่ 47 -"- สงสัยติดเชื้อ.. จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 4 พ.ค. 49 09:21:24 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เอ่อ...เอาไว้ก่อนก็ได้ครับ อย่าเพิ่งซื้อจนกว่าผลประโยชน์ในอ่าวไทยทำให้เราต้องเหยียบทีนเพื่อนบ้าน (หรือเราโดนเพื่อนบ้านเหยียบทีน?) แล้วค่อยซื้อ ค่อยฝึกก็ได้ จากคุณ : กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้เสียแล้ว (dragunov) - [ 4 พ.ค. 49 09:36:06 ]

ความคิดเห็นที่ 49 สมมมตินะครับ สมมติ ตอนนี้เพื่อบ้านอันแสนดี มันชอบแอบลาดตะเวณเข้ามาในบ้านเรา เป็นประจำ แล้วก็โดนจับได้ด้วยซิ มันจะเข้ามาทำห่าอะไรครับ แล้วท่ามันมีเรือดำน้ำแสน hi tech หลบหลีกเรดาร์ได้ มันเข้ามาขับเรือเล่น แถวบ้านเรา เราจะทำอย่างไรครับ คุณช่างไฟ ในฐานะที่คุณเป็นคนของรัฐบาล คุณจะเสนอทางแก้ให้หลวงได้อย่างไรบ้างครับ จากคุณ : ซิมเปิ้ลแมน - [ 4 พ.ค. 49 10:14:44 ]

ความคิดเห็นที่ 50 555 ทะเลาะกันเองซะแล้ว นี่แหละไทยแท้ จากคุณ : " นายต๋อง " - [ 4 พ.ค. 49 10:30:25 ]

ความคิดเห็นที่ 51 แล้วผมตอบไม่สุภาพชนตรงไหน คำหยาบก็ไม่มี ก็ใช้ ลอจิกเดียวกะคุณน่านแหละ ถ้าคุณบอก ซื้อ 911 มาไม่คุ้มประโยชน์ มีแต่จอดเทียบท่าทั้งปี ผมก็ถามว่าความรู้ป.เอกของคุณ เอามาประโยชน์อะไรให้ประเทศชาติได้มั่ง เรียนแค่ป.ตรีก็พอไม่ใช่เรอะ ไม่ต้องเปลืองเงินส่งไปเรียนถึงอังกฤษหรอก เรื่องความมั่นคงของชาติ มันก็ต้องลงทุนครับ นี่เค้าก็ไม่ได้โหมซื้อทีเดียวทุกอย่าง เป้นแผนดำเนินงานระยะยาวที่คิดว่าจะต้องมีอะไรบ้าง แล้วถึงของมันไม่ได้ใช้ทุกวัน มันก็ดีกว่าที่พอจะใช้แล้วไม่มี เรือจักรีฯภารกิจหลักก็ไม่ได้แค่เป็นเรือกู้ภัย แต่มันเป็นผลพลอยได้ที่เรือสามารถทำได้ในยามสงบ แล้วคุณคิดว่ารอบๆบ้านเรานี่มัน สนิทสนมกลมเกลียวกันดีนักเหรอ มันก็จ้องจะหาเรื่องกันตลอดนั่นแหละทั้งด้านตะวันตก ตะวันออก ทั้งทางใต้ อย่าให้เผลอแล้วกัน อย่างที่บอก ตอนนี้มาเลย์มันก็ซื้อเรือดำน้ำไปแล้ว แต่ยังไม่ได้รับมา ถ้าได้มาเมื่อไหร่อาจจะกร่างกว่านี้ก็ได้ ถ้ามีปัญหากันมันส่งเรือดำน้ำมาปิดทางออกอ่าวไทยเรา คอยจมเรือน้ำมันที่จะมาส่งให้เรา แค่สามสี่วันก็เดี้ยงทั้งประเทศแล้ว ถ้ามันรู้ว่าเราก็มีเรือดำน้ำเหมือนกัน มันก็ยังต้องเกรงๆบ้างว่าเรือเราจะไปอยู่ตรงไหน ที่จะเป็นภัยกับมันได้บ้าง รวมถึงเรือจักรีฯที่คุณค่อนขอดเค้าว่าทำอะไรได้บ้างนั่นแหละ จะได้เป็นฐานส่ง ฮ.ปราบเรือดำน้ำ เอาไว้จัดการอีกทาง จากคุณ : ลาบราดอร์สีดำ - [ 4 พ.ค. 49 10:35:18 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ขอโทษคุณช่างไฟที่ทำให้ระคายเคืองอารมณ์ครับ ถ้าอ่านความเห็นผมให้ดี ไม่ใด้มีเจตนาชวนทะเลาะนะครับ ผมเห็นว่าคุณช่างไฟเป็นสีสันของหว้ากอ และผมเป็นคนใหม่ก็อยากตีซี้ด้วย กระทู้แรกในหว้ากอขอผมคือ"กระเทยมีลูกได้บอ"คุณช่างไฟก็ให้เกียรติตอบเป็นคนแรก ผมยังจำได้ดีครับ ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบวิทยาศาสตร์ ยังมีอีกหลายเรื่องที่อยากจะขอคำชี้แนะจากคุณช่างไฟครับ อีกสิ่งหนึ่งที่ผมสนใจคือด้านการทหาร ผมเป็นพลเรือนที่ค่อนข้างรักทหารโดยเฉพาะทหารเรือ ผมแค่อยากแก้ความไม่เข้าใจตรงนี้เท่านั้นเอง ไม่ได้มีเจตนาชวนทะเลาะจริงๆ อ่านดูก็ไม่เห็นมีอะไรหยาบคายนี่ครับ แค่เป็นการทำความเข้าใจเท่านั้น เอาเรือบรรทุกเครื่องบินมากู้ภัยเป็นความคิดที่โง่เง่ามาก อันนี้ผมขอทำความเข้าใจนะครับ จักรีนฤเบศน์ไม่ใช่เรือบรรทุกเครื่องบินครับ เป็นเรือที่ต่อในมาตรฐานพลเรือน ราคาก็ต่างกันเยอะครับ เรือบรรทุกเครื่องบินจริงๆนั้นราคามากกว่า 100,000 ล้าน แต่จักรีนฤเบศน์ราคาแค่ 7,000 ล้านต่างกันเยอะครับ ถูกกว่าเครื่องบินการบินไทยอีกมั้งไม่แน่ใจ ถูกกว่าเรือสำราญที่มีไว้ให้พวกไฮโซขึ้นไปเล่นไพ่กันด้วยซ้ำ แต่นี่มีไว้ช่วยชีวิตคนนะครับ เป็นฐานบินลอยน้ำ เป็นโรงพยาบาลกลางทะเล ใช่ป้องกันประเทศได้อีกด้วย กรุณาอย่าใช้คำว่าโง่เลยครับ การที่ผมเปรียบเทียบคนไทยเป็นสัตว์บกนั้น ไม่มีเจตนาหยาบคายครับ แต่ผมหมายถึงว่า คนไทยเราทั้งโดยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมแล้วเราไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับทะเลเท่าไหร่นัก เราจึงไม่เห็นความสำคัญของทะเล และไม่เข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในทะเล เปรียบเหมือนสัตว์บกที่ไม่รู้เรื่องในน้ำ ขณะที่พวกเรากำลังนั่งเล่นเนตในห้องแอร์อยู่นี่ ทั้งทหารเรือ ตำรวจน้ำ เจ้าท่า ประมง ศุลกากร หน่วยงานทางทะเลทั้งหลาย ต้องจากลูกเมียนับเดือนออกไปกรำแดดกรำฝน ดูแลความสงบสุขของพี่น้องเราที่ทำมาหากินกับทะเลอยู่ตลอด อันนี้สัตว์บกอย่างคนกรุงไม่ค่อยรู้กันนะครับ และหน่วยงานไหนครับที่มีความพร้อมที่สุด ก็กองทัพเรือใช่มั้ยครับ เรือขนาดใหญ่ทนทะเลได้ดีกว่า ระยะปฏิบัติการณ์ไกลกว่า อยู่ในพื้นที่ได้นาน(ไม่ต้องกลับเข้ามาเติมน้ำมันบ่อยๆ) เรือมีความเร็วสูง มีฮ.ประจำเรือเพื่อต่อระยะปฏิบัติการณ์ เรือมีสิ่งอำนวยความสะดวก มีแพทย์พร้อมอุปกรณ์ มีช่างเทคนิค หรือแม้แต่พ่อครัว ถ้าไม่มีเรือเหล่านี้จะเกิดอะไรขึ้น ผมดูแล้วก็ยังไม่เห็นว่ากองทัพเรือโง่ตรงไหนเลยนะครับ ต่อเรือมาแต่ละลำก็ถูกแสนถูก ผมว่าเรือรบหลักของเราเกือบทุกลำราคาถูกกว่าเรือของพวกยามฝั่งบางประเทศอีกมั้ง เรือบางลำก็ใช้งานยาวนานจนเป็นสถิติโลก อย่างเรือหลวงแม่กลองที่รับใช้ชาติยาวนานเกือบ 60 ปี รู้จักอะป่าว ผ่านไปแถวปากน้ำลองแวะเข้าไปเที่ยวป้อมพระจุลฯดูนะครับ มีอะไรให้ชมหลายอย่าง แล้วไปเยี่ยมเธอด้วย เรือหลวงแม่กลอง เธออยู่ที่นั่นครับ ติดอยู่อย่างเดียว คนไทยส่วนใหญ่โดยเฉพาะปัญญาชนมักมีทัศนคติลบต่อกิจการทหาร มองว่าเป็นเรื่องของคนบาป การลงทุนทางทหารเป็นการลงทุนที่ไร้สาระและเป็นปาณาติบาต จึงปิดใจและไม่ยอมรับเหตุผล การถกเถียงด้วยเหตุผลในประเด็นเหล่านี้จึงไม่ค่อยเกิดขึ้นในสังคมไทย และมักพบแต่พวกสุดโต่งทั้งสองข้างอยู่เต็มเมือง การมีกำลังทหารของประเทศเสรีอย่างเรานั้น ไม่ได้มีไว้รบครับแต่มีไว้เพื่อป้องปรามไม่ให้เกิดการรบ เปรียบเหมือนถ้าเรามีร้านทอง เราก็ต้องมียามใช่มั้ยครับ แต่ถ้าคิดแบบนักธุรกิจก็อาจบอกว่า"พวกยามไม่เห็นได้ทำอะไรเลยเลิกมันซะดีกว่า" ก็อาจจะคิดได้ แต่ความจริงการมียามมันทำให้โจรต้องคิดหนักขึ้น เพราะความเสี่ยงสูงขึ้น ต้องวางแผนมากขึ้น ลงทุนมากขึ้น ใช้ความระมัดระวังมากขึ้น ในที่สุดเมื่อโจทย์ยากเกินไป มันก็ต้องเลิกคิดไปเอง เพราะไม่คุ้มที่จะเสี่ยง ถามครับว่ายามทำงานคุ้มเงินเดือนรึยังครับ ในการมีกำลังทหารนั้นก็ไม่จำเป็นต้องมีมาก แต่มีให้สอดคล้องกับภัยคุกคาม(ที่อาจจะเกิดขึ้น) เรืออย่างจักรีนฤเบศร์หรือเรือดำน้ำนั้นจัดว่าเป็นอาวุธทางยุทธศาสตร์ ที่ไม่จำเป็นต้องมีมาก แต่ใช้เพื่อการป้องปรามได้เป็นอย่างดี ลองนึกถึงการตามหาเรือพวกนี้กลางทะเลซิครับมันยากขนาดไหน ชาติที่คิดจะเป็นศัตรูกับเรา เค้าต้องใช้ทรัพยากรเท่าไหร่ในการหาเรือเรา อาวุธ น้ำมัน กำลังพล ที่จะนำไปใช้รุกรานเรา ต้องถูกนำมาใช้ในการตามหาและเฝ้าระวังเรือพวกนี้แค่ไม่กี่ลำ เพราะไอ้แค่ไม่กี่ลำเนี่ยะมันสร้างความเสียหายใหญ่หลวงให้เค้าได้ แค่นี้เราเปลี่ยนศัตรูมาเป็นมิตรได้รึยังครับ ผมไม่ได้สนับสนุนการสร้างกองทัพแบบบ้าเลือดนะครับ ผมยังไม่ได้ตัดสินใจด้วยซ้ำ ว่าเราพร้อมจะมีเรือดำน้ำแล้วรึยัง แต่ผมไม่สบายใจกับคำว่า"โง่เง่า"ของคุณช่างไฟนะครับ ให้ตายซิ! ผมไม่คิดว่าคุณช่างไฟจะอารมณ์บูดขนาดนี้เลยนะเนี่ยะ ในกระทู้นี้เราคุยกันธรรมดาตามประสาคนที่ชอบอาวุธด้วยกัน ยังไม่มีนโยบายจากกองทัพเรือที่จะซื้อเรือดำน้ำด้วยซ้ำ แต่คำว่า"โง่เง่า"ของคุณช่างไฟมันลามปามไปถึงกองทัพเรือเค้าได้ยังไง ผมรู้จักทหารเรือหลายคนที่มองว่าประเทศไทยยังไม่พร้อมสำหรับเรือดำน้ำ ก็เหมือนพวกเราในกระทู้นี้หลายคนก็มีความเห็นต่างกัน แต่ส่วนใหญ่ก็ชอบอาวุธเหมือนกัน ลึกๆแล้วก็คงอยากให้มีเหมือนกัน ผมก็อยากให้มีเพราะมันเป็นความชอบของผม ผมไม่อยากขับเบนซ์ ไม่ไส่เสื้อแบรนด์เนม เพราะผมไม่ได้สนใจเรื่องเหล่านี้ แต่ผมเป็นคนชอบเรือ ชอบเครื่องบิน ก็เป็นความสุขเล็กๆของผมที่อยากเห็นเมืองไทยมีของพวกนี้ ซึ่งหลายคนที่นี่ก็คงเป็นเหมือนกัน แต่ควรจะมีหรือพร้อมจะมีหรือไม่ มันก็อีกเรื่องนึง แต่สำหรับในกระทู้นี้ก็เป็นพื้นที่ให้พวกเราได้เข้ามาพูดคุย เพ้อฝันบ้าๆบอๆ ตามประสาคนชอบเรื่องเดียวกัน ขอความกรุณาคุณช่างไฟอย่ามาชี้ถูกชี้ผิดเลยครับ เป็นความเห็นของปัจเจกบุคคลล้วน ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับกองทัพเรือ ถ้าคุณช่างไฟจะให้ความกรุณา ถอนคำพูดคำว่า"โง่เง่า"และกล่าวคำขอโทษต่อบุตรแห่งอาภากรทั้งหลาย ก็จะเป็นการสร้างบรรยากาศดีๆกลับคืนสู่บอร์ดนี้ดั่งเดิม ขอบคุณล่วงหน้าครับ จากคุณ : ไอ้อ้วนและเด็กน้อย (Fat Man & Little Boy) - [ 4 พ.ค. 49 11:55:53 ]

ความคิดเห็นที่ 53 อย่าพึ่งทะเลาะกันมากมายเลยครับ เรือดำน้ำในตอนนี้ยังเป็นแค่ความฝัน แต่เห็นว่าสมควรที่จะมีนะครับ เพราะการที่เราหยุดพัฒนาทางการทหารไปเนี่ย และประเทศรอบข้างเรากำลังก้าวหน้าขึ้นไป อีกหน่อยคงเทียบเท่าเราได้ ความเกรงใจจะไม่มีให้กันแล้วครับ ประเภทที่ว่า"เมิงด้อยกว่ากรู ทำไมกรูต้องเกรงใจเมิง" เรือจักรีนฤเบศร์น่ะครับ ผมว่ากองทัพเรือคงไม่ได้หวังที่จะเอามารบหรอกครับ มีหวังจะเอามาใช้ในภารกิจทั่วๆไป เช่นภารกิจกู้ภัย ซึ่งเรือลำนี้ก็ได้ทำหน้าที่กู้ภัยมาเยอะมากแล้วครับ และในยามสงคราม ถ้าเอาเครื่องบินประเภทขึ้นลงแนวดิ่ง และฮ.ปราบเรือดำน้ำ  ไปไว้ก็สามารถป้องกันประเทศได้ในระดับนึง ผมว่ามันคุ้มกว่าที่จะซื้อเรือแต่ละประเภทอีกครับ อนาคตข้างหน้าเอาแน่เอานอนไม่ได้หรอกครับแม้เราจะบอกว่าประเทศเราสงบสุขน่ะครับ สงครามเกิดได้ทุกเมื่อครับแม้เราไม่ได้เป็นตัวก่อมันขึ้นมา จากคุณ : jubchay - [ 4 พ.ค. 49 13:31:45 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ประทานโทษครับ คุณ Fat Man & Little Boy คุณคงอ่านไม่ได้ศัพท์แล้วจับไปกระเดียดอีกคนนึงแล้ว ลองย้อนกลับไปอ่านที่ผมเขียนใหม่นะครับ ผมไม่ได้เอ่ยถึงกองทัพเรือสักหน่อย ผมเขียนว่า "ถ้าจะซื้อเรือบรรทุกเครื่องบิน มาเพื่อใช้ในภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยเท่านั้น ผมว่า เป็นความคิดที่โง่เง่ามาก เป็นการใช้งานผิดประเภท และลงทุนสูงเกินความจำเป็น" ลองอ่านดีๆ อ่านให้ละเอียดๆ อย่าเอาอคติมาเบียดบัง นะครับ ผมกล่าวว่า ใครก็ตามที่คิดว่าการซื้อเรือบรรทุกเครื่องบิน หรือเฮลิคอปเตอร์ขนาดใหญ่ เพียงเพื่อใช้ในภารกิจกู้ภัยเท่านั้น เป็นเรื่องที่ตื้นเขินเอามากๆ เพราะผมคิดว่า ถ้าต้องการใช้ประโยชน์แค่นั้นล่ะก้อ ไม่ต้องทำดาดฟ้าใหญ่โต ให้เฮลิคอปเตอร์ หรือซีแฮริเออร์ลงได้หรอกครับ  เปลืองเงินเปล่าๆ ทำแต่โครงเรือมาเปล่าๆก็พอ ใช้งานได้เท่ากันเป๊ะ ภารกิจในการป้องกันประเทศของทหารเป็นสิ่งจำเป็นครับ และ ทุกคนเข้าใจดีว่ามีความสำคัญ คงไม่มีใครบอกว่า ให้ยุบกองทัพทิ้งไป แต่ในฐานะที่ประเทศเราก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร กระเป๋าก็กำลังจะฉีกอยู่ในไม่ช้านี้แล้ว การจะใช้จ่ายอะไร มันต้องคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดโดยลงทุนน้อยที่สุด คนเงินเดือนหมื่นสอง จะกระแดะนั่งรถเบนซ์คันละ 3 ล้าน  มันก็กระไรอยู่ครับ โตโยต้าก็พอถมถืด ช้างขี้ไม่จำเป็นต้องขี้ตามช้าง ภูมิภาคเอเชียเป็นภูมิภาคที่หน้าใหญ่ใจโต ฉิบหายไม่ว่า ขอให้ได้ทัดหน้าเทียมตาเพื่อนฝูง อย่างไรก็แล้วแต่ ถ้าตัดสินใจจะซื้อเรือดำน้ำ ก่อนจะซื้อ ผมขอเสนอให้โละนายพลกองทัพออกครึ่งนึง แล้วเอาเงินเดือนที่ประหยัดได้ ไปเพิ่มเบี้ยเลี้ยงสวัสดิการให้พลทหารที่เสี่ยงตายอยู่ริมชายแดนเพิ่มขึ้น 3 เท่า แล้วค่อยมาพูดกันเรื่องเรือดำน้ำ จากคุณ : ช่างไฟ - [ 4 พ.ค. 49 14:01:18 ]

ความคิดเห็นที่ 55 อ่อ..คุณ ลาบราดอร์สีดำ ครับ กระทู้นี้เขาอภิปรายกันเรื่องเรือดำน้ำครับ หาใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจตัวบุคคลไม่ และที่สำคัญ ตัวผมเองไม่ใช่รัฐมนตรี ไม่ใช่ สส. และไม่มีความสำคัญถึงขนาดต้องยกมาอภิปรายเป็นการส่วนตัวหรอกครับ กรุณาพูดให้ตรงญัตติหน่อย เอาแต่ประเด็นเนื้อๆหน่อย น้ำจิ้มไม่ต้อง คุณจะเลียลูกกะเป๋งนาย ก็เอาเลยครับ เต็มที่เลย จะเลียทวนน้ำตามน้ำ ก็ตามสะดวก แต่ไม่จำเป็นต้องออกแรงถึงขนาดมาโจมตีคนอื่น  เพื่อสร้างความดีความชอบให้นายเห็นหรอกครับ จากคุณ : ช่างไฟ - [ 4 พ.ค. 49 14:09:44 ]

ความคิดเห็นที่ 56 อืม....คุณช่างไฟก็ประณีประนอมหน่อยก็ดีนะครับ ไม่จำเป็นที่จะต้อง ใช้ถ้อยคำรุนแรงในการตอบโต้เลยนี่หน่า..... แค่บอกว่า การที่เอาเรือรบมากู้ภัยเป็นเรื่องเกินความจำเป็นก็น่าจะเข้าใจกันได้แล้วสำหรับผู้อ่าน การจะใช้ภาษาที่แสดงอารมณ์ออกมาอย่างคำว่า โง่เง่า งี่เง่า ปัญญาอ่อน ไร้สมอง ฯลฯ มันเหมาะจะเอาไปใช้ในห้องราชดำเนินมากว่านะครับ จากคุณ : น้ำปลาเดือนห้า - [ 4 พ.ค. 49 15:16:57 ]

ความคิดเห็นที่ 57 นั่นสิ ผมก็ว่าคุณก็ไม่ได้มีความสำคัญขนาดที่ผมจะต้องไปโจมตีเพื่อดิสเครดิตนี่ แล้วนายผมเค้าไม่ได้เล่นเนต รวมถึงไม่ด้รู้จักคุณด้วย ถ้าผมจะมาโจมตีคุรหรือไปดักตีหัวก็คงไม่ได้ปรธดยชนืหรอกมั๊ง ยังไงๆปีนึงเงินเดือนขึ้นไม่เกิน 5 เปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว โบนัสก็จิ๊บๆจ้อยๆ ไม่ได้มีการันตี 3 เดือนหรอก กระทู้เรื่องเรือดำน้ำ ผมก็ว่าผมก็ตอบเรื่องเรือดำน้ำนะ แต่จากคห. 32 ของคุณ ถ้าคุณคิดว่าการต่อเรือจักรีฯ มาแล้วใช้งานไม่คุ้มไม่รู้จะต่อมาทำไมนั้น ผมก็คิดเหมือนกันว่าการให้ทุนส่งคนไปเรียนป.เอก แต่กลับมาแล้วยังไม่เห็นประเทศได้ผลประโยชน์เป็นรูปธรรม มันก็ไม่คุ้มเหมือนกัน ถ้าเอาเรื่องเบ๊นซ์กับโตโยต้ามาเปรียบเทียบผมว่ามันก้ไม่ถูกนัก เพราะเบนซ์กับโตโยต้ามันใช้งานลักษณะเดียวกัน อะนไหนก็ใช้ได้หมือนกัน ใช้ของแพงมันเป็นเรื่องของหน้าตา แต่เรื่องเรือดำน้ำมันไม่ใช่ถ้าจะเทียบว่า เรือดำน้ำ1 ลำราคาเท่ากับเรือเร็วโจมตี 20ลำ เอาเรือเร็วไป 10 ลำละกันประหยัดไปครึ่งนึง แบบนี้มันคงไมใช่เพราะ ภารกิจมันต่างกันเอามาแทนกันไมได้ ในเมื่อประเทศอื่นเค้ามีอาวุธที่อาจเป็นภัยคุกคามกับเราได้ เราก็ต้องจัดหาอาวุธที่สามารถรับมือได้มาไว้ด้วยครับ มันเป็นเรื่องของ "สมดุลทางการทหาร" ไม่ใช่เรื่องหน้าตาเอาไว้อวดกันว่าเอ็งมีไอ้นั่นข้าก็ต้องมีไอ้นี่บ้าง ถ้ากำลังมันต่างกันมากๆ ก็จจะมีเหตุการณ์แบบคูเวต ที่แค่วันเดียวก็กลายเป็นจังหวัดที่ 19 ของอิรักไปซะแล้วเกิดขึ้นก็ได้ จากคุณ : ลาบราดอร์สีดำ - [ 4 พ.ค. 49 15:30:05 ]

ความคิดเห็นที่ 58 กระทู้นี้มันส์ดีจริง ๆ น่าจะเป็นกระทู้แนะนำได้นะนี่ หุหุหุ จากคุณ : Issara - [ 4 พ.ค. 49 15:46:30 A:203.113.51.68 X:203.113.16.241 TicketID:115055 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ^^" จากคุณ : RealWorld - [ 4 พ.ค. 49 16:04:17 ]

ความคิดเห็นที่ 60 นั่นนะซิคุณน้ำปลาเดือนห้า ผมก็พยายามประดิษฐ์คำให้เพราะที่สุดแล้วนะ อ่านสี่ห้ารอบก็ยังหาความกร้าวร้าวไม่เจอ คิดว่ายังไงพี่แกคงยอมญาติดีกับเราแน่ ที่ไหนได้เล่นกรูซะแล้ว นี่เป็นเครื่องยืนยันว่าสันติวิธีใช้ไม่ได้กับบางคนจริงๆ อุตส่าห์หนีมาจากThaiengineer มาเจอหว้ากอเห็นพูดคุยสนุกสนาม ได้ความรู้ด้วย เลยอยากตีซี้ ฉิบหายพวกวิศวกรนี่มัน.......(ขอไม่เขียนคำนี้ครับคุณน้ำปลาเดือนห้าขอไว้)เหมือนกันหมดจริง(ยกเว้นกรู) OK ครับผมมองคนผิดไปเอง เลิกเล่นแล้วครับ จบข่าว จากคุณ : FM LB (Fat Man & Little Boy) - [ 4 พ.ค. 49 17:12:21 ]

ความคิดเห็นที่ 61 โอ้วโน่ว.. แฟนกะกิ๊กตีกัน ญ ว่านจะทำไงดี -"- อย่าตีกันเลยนะคะ ว่านรักทุกคนนนนนนนน จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 4 พ.ค. 49 17:21:10 ]

ความคิดเห็นที่ 62 อ่าวไทย จุดที่ลึกที่สุด ประมาณ 90 เมตร ครับ แต่ด้านอันดามัน.. 300 เมตรก็มี เอาง่ายๆ หน้าอ่าวพัทยา เลยออกไปประมาณกลุ่มเกาะไกล (เกาะไผ่ เกาะลิ้น เกาะมารวิชัย) แถวนั้นนั่น 30 กว่าเมตรแล้วครับ ผมดำน้ำแถวนั้นอยู่บ่อยๆ รอบๆ เกาะสมุย เกาะเต่า ก็เกิน 30 เมตรกันทั้งนั้น รอบเกาะสิมิลัน ออกไปไม่เกิน 200 เมตร ก็ลึกกว่า 30 เมตรแล้ว บริเวณที่ตั้งแท่นขุดเจาะน้ำมัน กลางอ่าวไทย ส่วนใหญ่ 50 - 60 เมตร ทั้งนั้น คนที่บอกว่าอ่าวไทยตื้น ไปหาแผนที่เดินเรือมาดูซะเถอะนะครับ... แล้วบอกว่าน้ำใส มองไปก็เห็น.. ประทานโทษ.. เรือทาสีดำ ลงไปลึกสัก 10 เมตร ก็มองจากผิวน้ำไม่เห็นแล้วครับ.. ผมเห็นว่าประเทศไทยควรมีเรือดำน้ำ แต่การจัดหาควรค่อยเป็นค่อยไป... แต่ใจนึง ก็อยากให้มีรวดเดียว 4 ลำไปเลย.. ประจำอ่าวไทย 2 อันดามัน 2 เรือดำน้ำ สามารถปฏิบัติการได้โดยไม่เกี่ยงสภาพอากาศ เพราะอยู่ข้างใต้ ไม่ต้องผจญคลื่น แถมยังโผล่ขึ้นมาได้โดยที่เรือผิวน้ำไม่รู้ตัว ยังไงๆ... ก็เห็นด้วยว่าควรมี... จากคุณ : Wobbegong - [ 4 พ.ค. 49 17:47:25 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ต้องให้สมป๊อบมาย้ายทู้ไปราชดำเนินดีก่า........ จากคุณ : เด็กน้อยขี่ม้าก้านกล้วย - [ 4 พ.ค. 49 18:24:01 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ผมว่าเรือดำน้ำ ก็เหมือนถุงยางอนามัย Better have one when you don't need than don't have any when you need. ไปล่ะ..  กลัวไฟดูด ฮี่ๆๆๆ แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 49 19:07:30 จากคุณ : ฟ (aston27) - [ 4 พ.ค. 49 18:32:22 ]

ความคิดเห็นที่ 65 บทเรียนที่เกิดจากการเตรียมการช้าไปเนี่ย น่าจะเห็นได้ในสงครามมหาเอเซียบูรพา แล้วนะครับ ผมไม่ได้เกิดในสมัยนั้นหรอก แต่ได้อ่านผ่านๆมา เห็นว่าประเทศเราพึ่งจะมาสั่งซื้ออาวุธและเครื่องบินจากสหรัฐ ตอนที่มีแนวโน้มว่าจะเกิดสงคราม สุดท้ายเป็นไงครับ ไม่ได้อะไรซักอย่างเพราะว่าญี่ปุ่นดันลากเราไปเป็นศัตรูกับพันธมิตรซะนี่ จากคุณ : jubchay - [ 4 พ.ค. 49 19:11:45 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ประทานโทษครับ คุณลาบราดอร์สีดำ คุณกล่าวว่า ผมไม่ได้สลักสำคัญอะไร แต่คุณกลับกล่าวถึงชื่อผมในความเห็นที่  43 ในเชิงเสียดสี ทั้งๆที่ผมกำลังอภิปรายในญัตติเรือดำน้ำอยู่แท้ๆ คุณคิดว่ามันแฟร์รึป่าวล่ะครับ ถ้าเป็นในรัฐสภา เขามีกฏข้อบังคับเลยว่า คุณจะอภิปรายสนับสนุนหรือคัดค้านอะไรก็ว่าไป แต่ให้พูดกับประธานเท่านั้น  ให้พูดในประเด็นเท่านั้น ห้ามพูดพาดพิงคนอื่น และถ้ากล่าวพาดพิงใคร บุคคลที่ถูกพาดพิงนั้น ก็มีสิทธิจะยกมือขอตอบโต้ในฐานะถูกพาดพิงได้ ดังนั้น ผมจึงขอใช้สิทธิ์ในการถูกพาดพิงเพื่อตอบโต้คุณครับ ทั้งๆที่ผมตั้งใจแค่มาอภิปรายเรื่องเรือดำน้ำเฉยๆ ผมเคารพทุกๆความเห็น และยินดีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับทุกๆคน ความคิดเห็นของผมจะถูกหรือผิด ผมไม่ติดใจแต่อย่างไร แต่ผมก็ไม่เข้าใจว่า คุณจะพูดถึงเรื่องเฉพาะตัวของผมทำไม มันเกี่ยวข้องกับเรื่องเรือดำน้ำอย่างไร ผมได้กล่าวพาดพิงคุณตั้งแต่เมื่อไร ทำไมคุณถึงต้องมาพาดพิงผมก่อน ผมต้องการคำอธิบาย จากคุณ : ช่างไฟ - [ 4 พ.ค. 49 20:01:20 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ส่วนคุณ Fat Man & Little Boy คุณจะคิดยังไงก็ตามใจครับ มันเป็นเรื่องของคุณ ผมไม่อาจก้าวล่วงการตัดสินใจของคุณได้ แต่ผมขอยืนยันว่า ผมไม่ได้บอกว่าคุณกร้าวร้าว หรืออะไรแต่อย่างใดนะครับ กรุณาอย่าร้อนตัว ผมกล่าวแค่ว่า คุณฟังไม่ได้ศัพท์แล้วจับไปกระเดียด เท่านั้นเองครับ เพราะคุณตีขลุมว่า ผมพูดว่า "กองทัพเรือโง่" (ในคคหที่ 52) ซึ่งผมขอยืนยันว่า ผมไม่ได้พูดคำนั้น หรือเจตนาหมายถึงแบบนั้นแต่อย่างใด  ผมจึงได้ชี้แจงมาเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง แต่คุณกลับคิดว่า ผมต้องการชวนทะเลาะกับคุณ ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ผมยินดีถกเถียงในเชิงวิชาการครับ ผิดถูกอย่างไรก็ว่ากันไป เป็นเรื่องที่แต่ละบุคคลจะเลือกเชื่อในสิ่งที่ตัวเองเชื่อ สิ่งที่ผมพูด อาจจะถูก หรืออาจจะผิดก็ได้ ผมแค่มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นครับ แต่ไม่ได้จะมาชี้ผิดชี้ถูก กรุณาเข้าใจเสียใหม่ด้วยครับ อ้อ..ผมก็ขอสงวนสิทธิ์ในการปกป้องตัวเองในกรณีถูกพาดพิงถึงด้วยนะครับ นี่ผมว่ากันตามกติกาสากลเลยนะครับ กรุณาเข้าใจตามนี้ด้วย จากคุณ : ช่างไฟ - [ 4 พ.ค. 49 20:19:23 ]

ความคิดเห็นที่ 68 แต่ละประเทศส่วนใหญ่เขาจะมีอาวุธกันครับ แต่ไม่ได้ใช้กันจริง ๆ หรอกครับคุณช่างไฟ มีไว้คนอื่นไม่กล้าไงครับ เช่นถ้าเรามีปืนพก แต่ข้างบ้านเรามันมี M16 ล่ะ ยังไงเราก้อไม่ได้ใช้จริงๆ หรอก แค่คิดก็รู้แล้ว จากคุณ : ponggoa - [ 4 พ.ค. 49 23:06:01 ]

ความคิดเห็นที่ 69 เรื่องเรือดำน้ำ มีความจำเป็นหรือไม่ที่ ไทยต้องมี มันมองได้สองด้านครับ ถ้ามองเรื่องราคาอย่างที่คุณช่างไฟบอก ก้อถูกครับ มีเงินน้อยจะใช้ของแพงมันก้อเป็นไปไม่ได้ เปรียบได้กับ ไม่มีเงินซื้อปืน ซื้อมีดแทนก้อได้ แต่ของบางอย่าง ใช้แทนกันไม่ได้ เช่น หากจะสู้กับเครื่องบิน ย่อมใช้มีดไม่ได้ ต้องซื้อปืน แม้ว่าปืนจะแพงกว่า ก้อจำเป็น เรื่องความมั่นคง บอกความคุ้นค่าได้ยากครับ ลองดู งป.ของกห.ประเทศต่างๆ มีมูลค่าสูงทั้งนั้นครับ ที่บ้านของเกือนทุกท่าน คงจะมีปืน ถามว่าเคยใช้จริงกี่ครั้ง ที่บ้านผมมี แต่ไม่เคยใช้ยิงจริงเลย มีเคยขู่ขโมยในระยะไกลครั้งเดียว แต่... ทำไมเราไม่ขายปืนไปเสียถ้าไม่ได้ใช้ เหตุผลที่เราไม่ขายมัน เพราะเราเห็นว่าได้ใช้เมื่อเราต้องการก้อเกินพอ ถูกไหมครับ ย้อนกลับมาเรื่องเรือบรรทุก ฮ.ต่อครับ (บรรทุก ฮ.นะครับ ไม่ใช่ บ.) เราซื้อเพราะด้านความมั่นคงครับ เรื่องกู้ภัยเป็นเหตุรอง เเละเราก้อพยายามให้ เรือสามารถปฏิบัติกิจได้หลายอย่าง (เอนกประสงค์)มากที่สุด ทร.ตระหนักครับว่าเป็นเรือที่มีราคาแพง ดังนั้นพยายามใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่าที่สุด ลองคิดว่าการช่วยชีวิตคน เงินเท่าไรถึงจะคุ้มค่าครับ เช่นเดียวกัน หากอธิปไตยของไทย ต้องใช้เงินเท่าไรจึงคุ้มค่า ลองคิดดูนะครับ กลับมาสู่ เรือดำน้ำ อย่างที่บอกครับ ของบางอย่างใช้แทนกันไม่ได้ หรือไม่ได้ดี ทร.ไทยมีเรือปราบเรือดำน้ำ หลายลำ อากาศยานปราบเรือดำน้ำ(บ.และฮ.)หลายลำ แต่ทางยุทธศาสตร์ เรือดำน้ำ ๑ ลำ ต้องใช้เรือปราบเรือดำน้ำ อย่างน้อย ๔ ลำ ดังนั้น ถ้าฝ่ายตรงข้ามมี เรือดำน้ำ ๓ ลำ เรือก้อต้องมี เรือปราบเรือดำน้ำ ๑๒ ลำ หากเคบเล่นเกมส์พวก RED ALEART คงนึกภาพออกว่า ถ้ามองไม่เห็นเรือดำน้ำก้อ ทำอะไรมันไม่ได้ แต่การปราบเรือดำน้ำ เป็ศาสตร์ที่แต่ละประเทศก้อปกปิด หากเราไม่เคยเจอเรือดำน้ำจริง จะรู้ได้งัยว่าจะปราบอย่างไร หากดูหนังเกี่ยวกับเรือดำน้ำ จะเห็นได้ว่า จะมีลูกเรือที่ฟังเสียงแล้วบอกได้ว่า เรือ หรือปลาวาฬ เรื่องเช่นนี้ต้องฝึกครับ ฝึกมากๆด้วย ดังนั้นการที่เรามีเรือดำน้ำ จะทำให้จะทำให้เราปราบเรือดำน้ำได้ดีขึ้น เช่นเดียวกัน เมื่อเรามีเรือดำน้ำ ฝ่ายตรงข้ามก้อต้องมีเรือปราบ ด.มากขึ้นเช่นกัน นอกจากนั้นถ้าอ่านบทความด้านบน เรือดำน้ำทำงานได้หลายอย่างนะครับ มันไม่ได้แพงอย่างเดียว สุดท้าย การมีเรือดำน้ำ เป็นเรื่องการป้องปรามและสร้างสมดุลกำลัง (Balance of Power) ลองค้นดูในกูเกิ้ลเอานะครับ มันยาวและเข้าใจยาก เปรียบได้กับ คู่แข่งมีสินค้าตัวใหม่ เราก้อต้องออกสินค้าตัวใหม่ด้วย ทำนองนั้น อืม เกือบลืม อ่าวไทยไม่ตื้นครับ ห่างฝั่ง ๓๐ กม.ลึกเกิน ๓๐ เมตร ซึ่งเพียงพอต่อการทำงานของเรือดำน้ำครับ และไทยมีทะเลสองด้านนะครับ ด้านอันดามัน ลึกมากๆๆ เรือดำน้ำชอบเลยครับ และเรือดำน้ำใช้ในเชิงรุกได้พอๆกับเชิงรับ อย่าคิดถึงทะเลไทยอย่างเดียวครับ ทะเลชาติอื่นด้วยครับลึกไหม? ขอบคุณครับ จากคุณ : ทหารเรือ๘๙ - [ 4 พ.ค. 49 23:50:12 A:61.19.59.208 X: ]

ความคิดเห็นที่ 70 สันติ...สันติ ครับพี่ช่างไฟ คือผมมันติดนิสัยกวี เลยเล่นสำนวนมากไปหน่อย ลืมไปว่าเขียนให้เครื่องคิดเลขอ่าน(อุ่ย..ขอโทษครับ) หรือไม่สำนวนผมคงห่วยจริงๆ พี่เลยไม่ซาบซึ่งในมิตรภาพที่ผมสื่อผ่านตัวอักษร ก็คงต้องเลิกฝันเป็นนักเขียนซะแล้วครับชาตินี้ ปกติผมไม่เคยทะเลาะกับใครในบอร์ดแบบต่อเนื่องมาก่อน เพราะผมเป็นคนขอโทษคนเก่ง และรู้สึกว่ามันเสียเวลา แค่เราหยุดซะเรื่องมันก็จบ แต่คราวนี้งงเหมือนกัน ไม่คิดว่ามันมาถึงขั้นนี้ได้ (เราพูดก็คิดว่าหวานจับใจ ไหงช่างไฟถึงหูไม่สมานฉันท์แปลความเข้ารกเข้าพง) ที่จริงก็กะเลิกแล้วละครับ แต่ก็ขอชี้แจงหน่อยแล้วกัน เพราะยังไงก็คงต้องพึ่งพาหว้ากอต่อไป 1.ผมไม่ได้ตีขลุมว่าพี่พูดว่ากองทัพเรือโง่ ผมบอกว่าผมไม่สบายใจกับคำว่า"โง่เง่า"ที่พี่ใช้ มันค่อนข้างจะล่อแหลมต่อความรู้สึกคนทำงาน ไม่เกี่ยวกับฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด คำว่าโง่เง่าจะเชื่อมโยงถึงกองทัพเรือหรือไม่ผมไม่รู้เจตนาพี่ แต่คนฟังสามารถตีความไปได้ จึงเป็นหน้าที่ของพี่ที่ต้องระมัดระวัง ไม่ใช่ความผิดของผมหรือใครที่เป็นคนตีความ คนเราก่อนพูด เราเป็นนายคำพูด พูดไปแล้ว คำพูดเป็นนายเรา สำหรับผู้มีวัยวุฒิควรสนใจว่าตนพูดอะไรไว้ ไม่ใช้มาโวยวายกับคำพูดผมเพราะ ผมเป็นคนฟังมีสิทธิ์ตีความและวิจารณ์ การวิจารณ์คือการชี้ทางสว่างให้และพี่ควรจะขอบคุณผม ไม่มีผู้กำกับหนังคนไหนที่ไปทะเลาะกับนักวิจารณ์มันแสดงถึงการไร้วุฒิภาวะ  อย่างแรง 2.ผมไม่ได้คิดว่าพี่จะมาชวนผมทะเลาะ แต่ผมรู้สึกว่าฟิตแบคของพี่ที่กลับมาในความเห็นที่ 46 นั้นแรง (ขัดกับความเชื่อเดิมว่าพี่ช่างไฟเป็นคนอารมณ์ดี เป็นสีสันให้หว้ากอ) ผมจึงตกใจและเริ่มต้นด้วยการชี้แจงว่าความเห็นที่ 39 ของผมนั้นไม่มีเจตนาให้มีการวิวาทะในกระทู้นี้(แถมคำขอโทษให้ด้วยนะ เห็นป่าวววว) 3.ผมไม่คิดว่าพี่จะมองว่าผมกร้าวร้าว และไม่คิดว่าจะมีใครมองว่าความเห็นที่ 39 และ 52 ของผมนั้นกร้าวร้าว เพราะคงไม่มีใครที่รู้ภาษาไทยดีจะไปคิดว่าไอ้คนเขียนนี้มันกำลังด่าใครอยู่ แต่ตกใจอีกแล้ว ที่เราระมัดระวังสำนวนถึงขนาดนี้ ฟิตแบคของพี่ก็ยังกลับมาแรงอยู่เหมือนเดิมในความเห็นที่ 54 4.ด้วยความความเคารพ จนบัดนี้ผมยังนึกไม่ออกเลยว่าจะมาทะเลาะกันทำไม โดยเฉพาะ"พี่จะมาหงุดหงิดกับผมทำไม" ด้วยความสัตย์จริง ความเห็นของผมทั้ง 39,52และความเห็นนี้ มีเจตนาแท้จริงคือ ต้องการสมานฉันท์และทำความเข้าใจเท่านั้นเอง ความเห็นของผมทั้ง 39,52 ก่อนจะพิมพ์ลงไปผมจะพูดในใจ พูดด้วยสำเนียงสุภาพนุ่มนวลที่สุด  จินตนาการว่ากำลังชี้แจงกับรัฐมนตรียังไงยังงั้น ก็ไม่คิดเลยว่าเมื่อผ่านไปถึงพี่ช่างไฟสำเนียงมันจะเปลี่ยนไปขนาดนั้น รบกวนพี่ช่างไฟช่วยอ่านใหม่ และปรับสำเนียงให้ถูกต้องด้วย(อ่านออกเสียงนุ่มนวลให้เหมือนกำลังชี้แจงนายกอะ ทำเป็นป่าววว) ขอบคุณครับ 5.ความเห็นผมถ้าอ่านดีดี ก็ไม่น่าครีเอทเรื่องมาทะเลาะกันได้(แต่พี่ทำได้) อยากให้อ่านสนุกๆ เอาเป็นว่าเล่าให้ฟังบ้าง บ่นให้ฟังบ้าง แนะนำบ้าง นอกประเด็นบ้าง โม้บ้าง อย่าเพิ่งไปคิดว่ากำลังโดนด่าอยู่  บางอย่างผมไม่ได้พูดกับพี่ด้วยซ้ำ ก็แค่พูดคุยแลกเปลี่ยนทั่วไปเท่านั้นจริง 6.เรื่องความ ถูก แพง คุ้ม ไม่คุ้ม ในการลงทุนทางทหารนั้น ผมได้พูดไปมากแล้ว แต่พี่จะตัดสินอย่างไรนั้นเป็นสิทธิ์ของพี่ เพราะความถูก แพง คุ้ม ไม่คุ้มในทางการทหารคงตัดสินได้ยากมากและคงไม่มีทางเป็นเอกฉันท์ไปได้ แต่อย่างไงก็ควรสมานฉันท์กันไว้(แต่พี่ก็ไม่สนใจจะญาติดีกับใครนี่ครับ) 7. เรื่องเรือรบกับการกู้ภัย คงเป็นเรื่องที่ต้องควบคู่กันไป เพราะเค้าเป็นอย่างงี้กันทั่วโลก สมัยโบราณในทะเลก็มีแต่ทหารเรือเท่านั้นที่เป็นเจ้าภาพในทุกเรื่อง แต่ในยุคใหม่มีการกำเนิดหน่วยงานใหม่ๆขึ้นมา เช่น ตำรวจน้ำ หน่วยยามฝั่ง มาแบ่งภาระทางพลเรือนออกไป ทหารเรือสมัยใหม่จึงเน้นที่การป้องกันประเทศเป็นหลัก แต่อย่างไรก็ดี ก็ยังต้องมีบทบาททางกิจการพลเรือนอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะการกู้ภัยนั้นเรือรบมีคุณลักษณะที่ได้เปรียบดั่งทีผมอธิบายในความเห็นที่ 39 ย่อหน้าที่ 6 และความเห็นที่ 52 ย่อหน้าที่ 5(ในกรณีนี้ผมไม่เข้าใจว่าประเด็นของพี่คืออะไร) 8.ก็ยังไม่รู้ว่าพี่เม้งแตกเรื่องอะไร โดยเฉพาะตั้งแต่ความเห็นที่ 46 ที่เริ่มดุเดือด จะว่าหงุดหงิดกับความเห็นที่ 43 ของคุณ ลาบราดอร์สีดำ ผมว่าก็แค่หยิกนิดเกาหน่อย ไม่เห็นถึงกับต้องเตะก้านคอให้เสียบรรยากาศ ความเห็นที่ 56 ของคุณน้ำปลาเดือนห้าที่เป็นคนกลางก็น่าจะพอยืนยันได้นะครับว่าใครกันแน่เล่นแรง 9.ถกกันเรื่องวิชาการก็ดีอะครับ แต่ด้วยความเคารพ ก็เห็นมีแต่พี่อะครับที่ไม่ค่อยมีวิชาการ เปิดมาทีก็เดินหน้าด่าไม่นับ สับไม่เลี้ยง ถีบเพื่อนร่วมชาติไปเป็นศัตรู   เสร็จแล้วบอก ป้องกันตัวโว้ย........ซะงั้น 10.ผมได้ขอให้พี่อย่าชี้ถูกชี้ผิด ถ้าพี่ไม่เข้าใจขอเรียนตามนี้ครับ .....ผมว่าพี่คิดมากไปหน่อยอะคับ ......จริงจังไปหน่อยอะคับ ......สุดโต่งไปเยอะอะคับ .........อสมานฉันท์สุดสุดอะคับ........โครงการเรือดำน้ำยังไม่เกิดแล้วพี่ไปหงุดหงิดใครอะคับ .........พวกเราชอบเรือดำน้ำนั่งคุยกันอยู่ดีดีเพราะไม่มีปํญญาไปซื้อเองพี่มาฮึ่มมมมอะไรอะคับ .........ไปฮึ่มมมมที่เวปทร.ดิคับ คนซื้ออยู่นั่นอะคับ ..........อย่าเครียดกับชีวิตขนาดนั้นเลยอะคับ ...........นี่มันหว้ากออะคับไม่ใช่สภา ........ขี้ไม่ออกรึไงอะคับ ร่ายมา 10 ข้อ จะเม้งแตกอีกมั้ยอะคับ ผมก็ไม่คาดหวังอะไรแล้วอะครับ ทำไงพี่ก็ไม่สมานฉันท์ เสร็จแล้วขอตัวครับ คราวนี้ไปจริง เลิกแล้วครับพี่น้องงงงง แก้ไขเมื่อ 05 พ.ค. 49 16:52:14 แก้ไขเมื่อ 05 พ.ค. 49 06:35:22 แก้ไขเมื่อ 05 พ.ค. 49 01:49:13 จากคุณ : FM LB (Fat Man & Little Boy) - [ วันฉัตรมงคล 00:38:18 ]

ความคิดเห็นที่ 71 หะเบสสมอพลันออกสันดอนไปลัดไปเกาะสีชังจนกระทั่งกระโจมไฟเที่ยวหาข้าศึกมิได้นึกกลับมาในถึงตายตายไปตายให้แก่ชาติของเราพวกเราจงดูรู้เจ็บแล้วต้องจำลับดาบไว้พลางช้างบนยอดกาฟพ์จะนำสยามเป็นชาคิของเราธงทุกเสาชักขึ้นทุกลำถึงเรือจะจมในน้ำธงไม่ต่ำลงมาเกิดมาเป็นไทยใจร่วมันและดีรักเหมือนพี่เหมือนน้องช่วยกันป้องปฐพีสยามเป็นชาติของเราอย่าให้เขามาย่ำมายีถึงตายตายให้ดีตายในหน้าที่ของเรา พวกเราทุกลำจำเช่นดอกประดู่วันใหนวันดีบานคลี่พร้อมอยู่วันใหนร่วงโรยดอกโปรยตกพรูทหารเรือเราจงดูตายเป็นหมู่เพื่อชาติไทย         ยุทธศาสตร์ในการป้องปรามเพื่อการระงับสงครามไม่ให้เกิดจำเป็นต้องมีกำลังที่แข็งแกร่งกว่า จากคุณ : the old navy (draken) - [ วันฉัตรมงคล 00:46:54 ]

ความคิดเห็นที่ 72 555555 คุณไม่ได้ตีขลุมหรอกครับ แต่คุณพูดและเขียนออกมาอย่างโจ่งแจ้งเลยครับ  (ตามรูปข้างล่าง) ซึ่งมันเป็นคำพูดของคุณ ที่คุณตีความไปเอง ซึ่งผมขอยืนยันว่า ผมไม่ได้กล่าวเช่นนั้นแต่อย่างใด ผมจึงจำเป็นต้องใช้สิทธิ์ที่ถูกพาดพิงในการชี้แจงข้อเท็จจริงครับ ปล. ผมยังยืนยันว่า ถ้าจะซื้อเรือ 911 มาเพื่อใช้ในภารกิจกู้ภัย หรือซื้อฝูงบิน F16 มาเพื่อใช้จัดงานวันเด็ก เท่านั้น ผมคิดว่าเป็นความคิดที่โง่เง่ามากๆ   แต่ถ้าบอกว่าซื้อมาเพื่อป้องกันอธิปไตยของประเทศ มันก็พอฟังได้อยู่ ผมไปขึ้นเรือ 911 มาสองครั้งแล้ว ขึ้นแบบ VIP ด้วย มีหัวหน้าทหารเวร พาชมทั้งลำเรือ ฟังบรรยายสรุป แล้วผมนึกเสียดายแทนกองทัพเรือครับ มีรถเบนซ์ในโรงรถ แต่ไม่มีเงินเติมน้ำมัน วันๆจอดอยู่แต่ในโรงรถทั้งปีทั้งชาติ  เขี้ยวเล็บก็..อย่าให้พูดเลย ผมไม่ได้ตำหนิกองทัพเรือนะครับ เพราะสภาพเหตุการณ์ หรือ สถานการณ์ทางเศรษฐกิจมันไม่มีใครคาดเดาได้ ไม่มีใครคิดว่ามันจะเป็นแบบนี้ หรือต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ หรือจะมีใครอยากอยู่ในสภาพนี้ อุตส่าห์กัดฟันซื้อรถเบนซ์มา พอได้มาแล้ว ปรากฏว่าตกงาน ไม่มีเงินเติมน้ำมัน ผมจึงแค่แสดงความคิดเห็นว่า ต่อไปถ้าเราจะซื้อของแพงๆ ก็ควรต้องคิดให้รอบคอบถ้วนถี่ จะซื้อของมาบาทนึง แต่ใช้งานแค่สลึงเดียว มันก็ออกจะตื้นเขินไปหน่อย อ่อ.. อาวุธที่จะปราบเรือดำน้ำในบริเวณอ่าวไทยได้คือ อวนเรือตังเก ครับ วิ่งกันให้ควั่กทั้งวันทั้งคืน นอกจากนี้พนักงานโซนาร์เรือดำน้ำจะต้องหูหนวกตายเป็นแน่   จากคุณ : ช่างไฟ - [ วันฉัตรมงคล 09:00:36 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ลืมรูป [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : ช่างไฟ - [ วันฉัตรมงคล 09:01:18 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ผมว่านะ ทร.ต้องจัดสาธิตการปราบเรือดำน้ำ ให้ ครม. ดู พร้อมทั้งล้อบบี้ ทบ./ทอ. อย่าให้มีโครงการยักษ์ ในช่วง 5 ปีต่อไป ถ้ามัวแต่เสนอโครงการไปเฉยๆ ยังไงก็ไม่ผ่าน หรือถ้ามีงบที่จัดให้กลาโหม ก็อาจโดน ทบ.แย่งไปก่อน ทุกวันนี้ก็ 50:25:25 อยู่แล้วมั้ง จากคุณ : jaycee - [ วันฉัตรมงคล 11:33:17 ]

ความคิดเห็นที่ 75 คุณช่างไฟครับ 911 เราไม่ได้ซื้อมาจอดเพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยว F-16 ไม่ได้ซื้อมาใช้บินโชว์วันเด็กครับ ปัญหาก็คือ คุณอาจจะไม่รู้ว่าเรือ 911 ฝึกอะไรบ้าง F-16 เคยไปทำอะไรบ้าง ซึ่งภารกิจบางอย่างที่เค้าทำกันทุกวันน่ะเปิดเผยกันไม่ได้ครับ "เพราะมันเป็นความลับทางทหาร" ก็อย่างที่พูดครับ 911 ซื้อมานั้นภารกิจกู้ภัยคือผลพลอยได้ แต่ภารกิจหลักคือเป็นเรือธงและส่งกำลังบำรุง เป็นฐานบินลอยน้ำสำหรับเฮลิคอมเตอร์ปราบเรือดำน้ำและเครื่องบิน การปราบเรือดำน้ำของไทยนั้นมีอาวุธหลากหลาย เรือฟริเกตต่าง ๆ Seahawk เรือทุ่นระเบิด พวกนี้ใช้สำหรับการปราบเรือดำน้ำทั้งนั้น ไม่ได้ใช้เรือตังเกแต่อย่างใด ผมทราบว่าคุณแซวเล่น แต่ผมก็ไม่ค่อยชอบในคำแซวของคุณนะครับ F-16 คือเครื่องบินที่ทำหน้าที่ป้องกันภัยทางอากาศ การนำมาโชว์ในวันเด็กก็เพื่อที่จะกระตุ้นให้เด็กไทยรักการบินและเป็นการประชาสัมพันธ์กองทัพไปในตัวด้วย มีภารกิจจริง ๆ หลายอย่าง ผมก็พูดอะไรมากไม่ได้ แต่เรือ รบ และเครื่องบินเราถูกใช้คุ้มค่าแน่นอน จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ วันฉัตรมงคล 19:22:15 ]

ความคิดเห็นที่ 76 เรือดำน้ำสามารถ นำหน่วยปฎิบัติการพิเศษ เข้าปฎิบัติการ หลังแนวข้าศึกได้ โดยไม่ถูกตรวจจับ ภาระกิจที่โดดเด่น ของเรือดำน้ำคือซ่อนพราง ทำให้อีกฝ่ายพะวักพะวนใจ จากคุณ : คนไทยคนหนึ่ง - [ วันฉัตรมงคล 19:28:44 A:58.9.196.164 X: TicketID:070304 ]

ความคิดเห็นที่ 77 อย่าทะเลาะกันครับ ยังไงผมก็ว่าการสร้างสมดุลย์ทางการทหารก็เป็นเรื่องจำเป็นนะครับ ถ้าไม่สมดุลย์ก็เหมือนเด็กขี้ก้างชวนให้คนแข็งแรงกว่ามาแกล้งแหละครับ เราต้องกันไม่ให้เกิด ดีกว่าเกิดแล้วโร่ไปฟ้องพี่กัน เขาจะจริงใจช่วยแค่ไหนก็ไม่ทราบ เพราะอาจจะมีบุญคุณระหว่างชนชาติ 10 ชั่วโคตรได้นะครับ จากคุณ : bigcy - [ วันฉัตรมงคล 19:38:18 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ถึงแม้ประเทศเราไม่ได้รุกรานใคร แต่ถึงเวลาจริงๆมันจำเป็นต้องมีไว้ครับ ไม่ใช่จะมาสั่งซื้อกันภายหลัง เราจะหวังให้พี่ใหญ่อย่างไอ้กันมาช่วยเราน่ะ ไม่ได้หรอกครับ เขาจะอยากช่วยเราแค่ไหนก็ไม่รู้ แม้เขาจะมาช่วยแต่แต่ถ้าเราไม่มีอาวุธอะไรพอจะต้านทานศัตรูได้ มันไม่สายไปแล้วหรอครับ แต่อย่าพึ่งทะเลาะกันเลยครับ ใช่ว่าจะซื้อกันเร็วๆนี้ = รักพ่อ อย่าทะเลาะกัน = จากคุณ : jubchay - [ วันฉัตรมงคล 20:29:46 ]

ความคิดเห็นที่ 79 อือผมเห็นด้วยกับคุณช่างไฟนะ เรื่องความจำเป็น จริงอยู่มันจำเป็น แล้วถ้ามีเรือดำน้ำมันก็ดี  ดีมากด้วย เพียงแต่ผมคิดว่า opportunity cost ของการได้เรือดำน้ำมามันสูงเกินไป ในขณะที่คนค่อนประเทศยังด้อยการศึกษา เพราะมีไม่เงินจะเรียน หรือไม่มีที่จะเรียน จากคุณ : Parky - [ 6 พ.ค. 49 00:10:20 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ผมอ่านๆ จนจบเหมือนกัน   คุณช่างไฟเขาก็แรงแบบเปิดเผยอย่างนี้อยู่แล้วเป็นปกติของเขา ผมอยากให้ประเทศไทยมีเรือดำน้ำนะ  แต่ผมไปอ่าน คห.คุณช่างไฟก็เข้าใจนะ  ตอนนี้มีไม่ได้แน่นอน   ผมคิดว่ามันจำเป็นมากแต่เราไม่มีเงินซื้อซะมากกว่า จากคุณ : Sacrifice - [ 6 พ.ค. 49 21:20:25 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ที่ผมเขียนไปใน#35 อาจไม่ชัดเจนจนทำให้เถียงกันว่าซื้อ 911 มาทำไมอันนี้ยอมรับว่า เขียนไม่ดี/เขียนผิด ที่ผมตั้งใจบอกคือภารกิจในยามสงบครับ บ้านเราไม่มีหน่วย Coast guard ก็เลยต้องพึ่งพา ทร. เป็นหลักและก็ทำได้ดีจากเหตุภัยพิบัติหลายๆอย่างที่ผ่านมา  แต่เป้าหมายหลักของ 911 ในเชิงยุทธวิธีแล้วคือเป็นฐานบัญชาการกลางน้ำอย่างที่หลายๆคนบอก ซึ่งผมก็๋คิดว่าโดยรวมแล้วก็คุ้ม คุณช่างไฟอาจจะเห็นแึค่ตอนมันจอดที่จุกเสม็ดแต่ไม่ได้เห็นตอนมันปฎิบัติการเลยไม่เข้่าใจว่ามันมีประโยชน์ยังไง กลับมาเรือดำน้ำดีกว่าถ้าเปรียบเรื่องความจำเป็น เรือดำน้ำถือว่าจำเป็นอยู่แล้ว ทุกชาติที่ติดทะลและมีเพื่อนบ้านที่อาจเป็นภัยคุกคามต่างขวนขวายให้ได้มาทั้งนั้น เพราะมันมีประโยชน์มหาศาล มันอาจจะแพงเมื่อคิดในยามสงบ แต่มันถือว่าคุ้มค่ามากในยามจำเป็น เอาไปเปรียบกับรถเบนซ์ไม่ได้หรอกครับ เพราะ ถ้าเราไม่มีเงินพอซื้อเบนซ์เราก็ซื้อรถญี่ปุ่นไปใช้แทนได้ แต่เรือดำน้ำไม่มีอะไรแทนที่ได้ เหมือนกับคุณต้องเดินทางไปเชียงใหมด้วยธุระจำเป็น่ แต่คุณเงินไม่พอที่ะจะซื้อตั๋วหรือไม่มีพอที่จะเติมน้ำมัน คุณจะเดินไปไหมล่ะ? หรือจะหาเงินซื้อตั๋วให้ได้? #79 ถ้าคิดแบบนั้นแล้วเราจะให้ทุนไปเรียนนอกสูงๆทำไมล่ะครับ เิอาเงินทุนนั้นมาให้เ็ด็กยากจนเรียนชั้นธรรมดาไม่ดีกว่าเหรอ? ของบางอย่างมันก็ต้่องพัฒนาไปพร้อมๆกันไม่ใช่มัวแต่รอครับ แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 49 21:55:14 จากคุณ : ....4จุด - [ 6 พ.ค. 49 21:53:19 ]

ความคิดเห็นที่ 82 หวังว่าคุณช่างไฟคงไม่ได้ซื้อประกันภัยรถยนต์ของรถคุณนะครับเพราะคาดว่ามันคงไม่ได้ชน และหากว่ามีประกันชั้นหนึ่งหวังว่าคงจะรีบใช้เพราะจะได้คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป (ขอให้ใช้เยอะๆ จนเต็มวงเงิน ขอแบบซ่อมทั้งคันนะครับ จะได้เห็นว่ามันคุ้ม) แต่ความมั่นคงนั้นถ้าไม่มีแล้ว คนที่ด้อยการศึกษาก็จะหมดโอกาสไปอย่างแน่นอน ก็ลองเลือกเอาระหว่างความมั่นคงกับการศึกษาในตอนนี้ มีความมั่นคงแล้วค่อยศึกษา หรือศึกษาไปแล้วเสียความมั่นคง จากคุณ : kmkm - [ 7 พ.ค. 49 10:23:45 A:158.108.76.121 X: ]

ความคิดเห็นที่ 83 อ๋อ อย่าลืมว่าความมั่นคงเมื่อสูญเสียแล้วมันซ่อมยากกว่าการซ่อมรถนะครับ อยากให้คนที่คุณช่างไฟรู้จักเป็นหนึ่งในผู้ประสบภัยดู แล้วคุณจะพบว่าแม้ชีวิตเดียวที่ช่วยได้ ก็เกินคุ้มแล้วครับ จากคุณ : kmkm - [ 7 พ.ค. 49 10:28:21 A:158.108.76.121 X: ]

ความคิดเห็นที่ 84 ควรมีครับ จากคุณ : Crimson parasol - [ วันวิสาขบูชา 18:58:24 ]