PANTIP.COM : X4357954 รวบรวมงานวิจัยอาวุธของทอ.ไทย: มาดูกันว่าเงินภาษีเราเอาไปทำอะไรบ้าง [วิศวกรรมและเทคโนโลยี]

ความคิดเห็นที่ 1

โครงการวิจัยและพัฒนา บ.เป้าบิน

บ.แบบนี้ก้คือบ.วิทยุบังคับที่จะเป็เป้าล่อให้จรวดนำวิถีต่าง ๆ ส่องกันครับ ไม่ได้ Lock กันเล่น ๆ แต่ยิงกันจริง ๆ ก็ได้ ถือเป้นเครื่องช่วยฝึกอย่างหนึ่ง

ความเป็นมา
การป้องกันภัยทางอากาศในยุคปัจจุบันและอนาคต นับวัน บ.ข้าศึกที่เข้ามาโจมตีจะมีความเร็วสูงมากขึ้น และระยะทางในการปล่อยอาวุธก็จะไกลจากเป้าหมายมากขึ้น ทำให้ ทอ.ต้องเตรียมพร้อมเพื่อรับกับสถานการณ์รบที่เปลี่ยนไป โดยการฝึก จนท.ผู้ปฏิบัติงานในการใช้อาวุธนำวิถีต่อสู้อากาศยาน ให้มีความชำนาญในการใช้อาวุธดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลในการทำลาย บ.ข้าศึก ซึ่งการฝึกฝนให้เกิดความชำนาญขึ้นได้นั้น จะต้องมีการฝึกซ้อมการยิงด้วยอาวุธจริงต่อเป้าหมายทางอากาศจริง ซึ่งก็คือ บ.เป้าบินที่มีความเร็วและพิสัยบินที่เหมาะสม แต่ขณะนี้หน่วยปฏิบัติยังขาดอุปกรณ์สำคัญดังกล่าว นั่นคือ บ.เป้าบิน ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนไม่เพียงพอต่อการใช้งาน และมีราคาสูงมาก นอกจากนี้ บ.เป้าบินที่ ทอ.มีใช้อยู่ ก็ไม่สามารถนำมาใช้ในการฝึกผู้ควบคุมการบินให้มีความชำนาญในการควบคุมการบินเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งไม่สามารถฝึกผู้ควบคุมการบินเพิ่มเติมจากที่มีอยู่เพียงคนเดียวได้ เนื่องจากมี บ.เป้าบินจำนวนน้อย และมีราคาสูงมากนั่นเอง เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๐ บ.เป้าบินของ ทอ. ซึ่งเป็นแบบ SNIPE MK IV ที่มีทั้งหมดอยู่ในสภาพชำรุด ไม่สามารถนำมาใช้งานได้และรอการดำเนินการจำหน่าย เนื่องจากชุดบังคับการบินทั้งเครื่องรับและเครื่องส่งวิทยุไม่สามารถใช้งานได้ ศวอ.ทอ.จึงได้ร่วมกับ จนท.ส.ทอ.บนอ. ทำการซ่อมปรับปรุงชุดเครื่องรับและเครื่องส่งวิทยุ รวมทั้งชุด SERVO MOTOR จนทำให้ในปี ๔๑ บ.เป้าบินสามารถใช้งานได้ จำนวน ๔ เครื่อง และได้นำไปใช้งานในภารกิจการยิงทดสอบและประเมินค่าสมรรถนะจรวด ADATS ซึ่งในช่วงระหว่างการฝึกซ้อมการควบคุมการบิน เมื่อ ๑๗-๑๘ มี.ค.๔๒ บ.เป้าบินได้เกิดอุบัติเหตุตกลงในทะเล จำนวน ๒ เครื่อง ความเสียหายอยู่ในขั้นต้องจำหน่ายทั้งสองเครื่อง และจากการยิงทดสอบและประเมินค่าสมรรถนะจรวด ADATS เมื่อ ๒๓ มี.ค.๔๒ บ.เป้าบินได้ถูกยิงตกอีก ๑ เครื่อง ทำให้สถานะภาพของ บ.เป้าบินที่ใช้งานได้เหลือเพียง ๑ เครื่อง เท่านั้น ต่อมา บ.เป้าบินเครื่องที่ถูกจรวด ADATS ยิงตก ศวอ.ทอ. ชอ.บนอ. และกรม ตอ.อย.บยอ.ได้ร่วมกันซ่อมให้ใช้งานได้ นอกจากนี้ ชอ.บนอ.ยังมีลำตัว บ.เป้าบินที่สร้างเองอีก ๒ ลำ ซึ่ง ศวอ.ทอ.ได้รับงบประมาณในการจัดหาอะไหล่ต่าง ๆ รวมทั้งงบประมาณในการสร้างชุดบังคับการบิน ทำให้มี บ.เป้าบินที่ใช้งานได้รวมทั้งหมด ๔ เครื่อง สำหรับใช้ในภารกิจการฝึกยิงจรวดต่อสู้อากาศยาน ปี ๔๓
หลังจากภารกิจการฝึกยิงจรวด RBS-70 เมื่อ มี.ค.๔๓ ทำให้ยังคงเหลือ บ.เป้าบินที่ใช้งานได้ดีจำนวน ๒ เครื่อง ซึ่งไม่เพียงพอต่อการใช้งานทั้งทางด้านการฝึกซ้อมการควบคุมการบิน ฝึกผู้ควบคุมการบินเพิ่มเติม รวมทั้งการใช้เป็นเป้าให้กับจรวดนำวิถี ADATS และ RBS-70 ในภารกิจการฝึกยิงจรวด ต่อสู้อากาศยาน ในปี ๔๔ และปี ๔๕ จากเหตุผลดังกล่าวมาแล้ว ผบ.ทอ.จึงได้อนุมัติให้ ศวอ.ทอ.ดำเนินการสร้าง บ.เป้าบิน จำนวน ๔ เครื่อง ใช้งบประมาณปลายปี ๔๓ ศวอ.ทอ. ชอ.บนอ. และกรม ตอ.อย.บยอ.ได้ร่วมกันเร่งดำเนินการสร้าง บ.เป้าบิน เพื่อใช้ในสำหรับฝึกผู้ควบคุมการบินของ บ.เป้าบินเพิ่มเติม และใช้ในภารกิจการฝึกยิงจรวดต่อสู้อากาศยานประจำปี ๔๔ ซึ่งภารกิจดังกล่าวเมื่อ มี.ค.๔๔ บ.เป้าบินได้ถูกจรวด RBS-70 ยิงตกอีก ๑ เครื่อง ความเสียหายอยู่ในขั้นต้องจำหน่าย และในปี ๔๔ ศวอ.ทอ.ได้รับงบประมาณให้สร้าง บ.เป้าบินอีกจำนวน ๔ เครื่อง เพื่อใช้สำหรับเป็นเป้าให้กับจรวดนำวิถี ADATS และ RBS-70 ในภารกิจการฝึกยิงจรวดต่อสู้อากาศยานประจำปี ๔๕
การดำเนินงานที่ผ่านมา
หน่วยงานที่ร่วมกันสร้าง บ.เป้าบินมี ๓ หน่วย ได้แก่ ศวอ.ทอ. ชอ.บนอ.และ กรม ตอ.อย.บยอ. โดย ชอ.บนอ.เป็นผู้สร้างลำตัว ศวอ.ทอ.เป็นผู้ออกแบบสร้างระบบบังคับการบิน จัดหาเครื่องยนต์ และชุด SERVO MOTOR พร้อมทั้งพัฒนาอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ส่วน กรม ตอ.อย.บยอ. เป็นผู้ประกอบชิ้นส่วนทั้งหมดเข้าด้วยกัน และทดสอบภาคอากาศศวอ.ทอ.ได้ออกแบบและพัฒนาระบบบังคับการบิน โดยใช้ชิพคอมพิวเตอร ์ควบคุมการทำงานของระบบ รวมทั้งออกแบบแผ่นวงจรที่ใช้สำหรับ ควบคุมการทำงานของระบบให้มีขนาดเล็ก ปรับปรุงแก้ไขชุดอุปกรณ์ประกอบต่าง ๆ เช่นหัวต่อ (CONNECTORS) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความทนทานต่อการสั่นสะเทือน และใช้ชุดวิทยุ UHF RADIO MODEM ทำหน้าที่รับส่งสัญญาณควบคุมท่าทางการบินของ บ.เป้าบิน ศวอ.ทอ. ได้ดำเนินการจัดหาเครื่องยนต์แบบใหม่ (แบบ ROTARY) และได้ทำการดัดแปลงระบบ เพื่อรองรับเครื่องยนต์ดังกล่าว สร้างถังเชื้อเพลิง จ้างทำร่มหน่วงความเร็ว ปรับปรุงแท่นปล่อย (LAUNCHER)บ.เป้าบิน และจัดหายาง BUNGEE สำหรับดึงรางเลื่อนดีด บ.เป้าบิน ส่วนลำตัว บ.เป้าบิน ซึ่ง ชอ.บนอ. เป็นผู้ดำเนินการสร้างนั้น ขณะนี้ได้ทำการสร้างเสร็จแล้ว ๘ ลำจากจำนวนทั้งหมด ๑๒ ลำ (อะไหล่ ๔ ลำ)สำหรับการออกแบบสร้างระบบบังคับการบินได้ดำเนินการเสร็จแล้ว

จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ 11 พ.ค. 49 01:41:20 ]

ความคิดเห็นที่ 8

ต่อไปเป้นเรื่องของการทำฝนหลวงครับ โดยวิจัยกระสุนสารเคมีซิลเวอร์ไอโอไดด์สนับสนุนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำนวน ๒,๐๐๐ นัด
=======================
การวิจัยและพัฒนาตามโครงการนี้แบ่งเป็น ๔ ขั้นตอนคือ การวิเคราะห์ส่วนประกอบ ของกระสุน การรวบรวมข้อมูลราคา ส่วนประกอบ ของกระสุน การสร้างต้นแบบทดสอบ การกำหนดกรรมวิธีผลิต และคำนวณ ค่าใช้จ่ายในการผลิต ผลการวิจัยและพัฒนา พบว่ากระสุนสารเคมีซิลเวอร์ไอโอไดด์ ที่กระทรวงเกษตร และสหกรณ์จัดซื้อ จากต่างประเทศ เป็นกระสุนที่บรรจุแท่งพล ุหรือ Flare ซึ่งเมื่อยิงออกมาจะเผาไหม้ทำให้เกิดอนุภาคของสารเคมีซิลเวอร์ไอโอไดด์ทำหน้าที่เป็น นิวเคลียสให้ละอองน้ำ ในเมฆเย็นจับตัวเป็น ผลึกน้ำแข็ง ซึ่งได้วิเคราะห์ส่วนประกอบ ของกระสุนแล้วพบว่า กระสุนที่จัดซื้อจาก ต่างประเทศมีส่วนประกอบ ๖ ส่วน คือปลอกกระสุน ซึ่งเป็นปลอกกระสุนอลูมิเนียม ชนวนท้ายเป็นชนิดชนวนไฟฟ้าจุดด้วยไฟฟ้ากระแสตรงแรงดัน ๒๘ โวลท์ ดินส่ง เป็นดินดำซึ่งจะเผาไหม้เกิด ก๊าซร้อนไปผลักแท่ง Flare ออกจากปลอกกระสุน หมอนรองรูปวงแหวน เป็นสักหลาดรูป วงแหวนสำหรับป้องกัน ไม่ให้แท่ง Flare ได้รับความเสียหาย จากการสั่นสะเทือน ฝาปิดกระสุน เป็นแผ่นกระดาษแข็งผนึก ด้วยกาวซิลิโคน และแท่ง Flare ซึ่งมีหน้าที่เผาไหม้ ทำให้เกิดอนุภาค ของสารเคมีซิลเวอร์ไอโอไดด์ ประกอบด้วย ส่วนผสมของสารเคมี Silver Lodate, Magnesium, Aluminium, Sodium-Chloride, Silver Chloride และกาวอิพ็อกซี ส่วนผสมนี้อัดไว้ ในปลอกซึ่งเป็นผ้าเคลือบพลาสติก ชนิด Phenolic และด้านท้าย ของแท่ง Flare เป็นส่วนผสม สารเคมีที่ติดไฟได้ง่าย จากการรวบรวมข้อมูล ด้านราคาของส่วนประกอบกระสุน พบว่า ปลอกกระสุนมีขนาด ใกล้เคียงกับ Aluminium Case ที่ใช้ในการผลิต Cartridge, Signal Mk 4 ของลูกระเบิดฝึก ขนาด ๒๕ ปอนด์ สามารถดัดแปลง Aluminium Case ดังกล่าว มาใช้เป็นปลอกกระสุน ของกระสุนสารเคมีซิลเวอร์ไอโอไดด์ได้ ชนวนท้ายอาจจัดหาได้จาก ต่างประเทศ แต่มีราคาสูง ไม่คุ้มค่า สามารถดัดแปลงใช้ชนวนท้าย Electric Primer M53 A3 B1 ที่ใช้ในการผลิตกระสุนปืนใหญ่อากาศ ขนาด ๒๐ มิลลิเมตร โดยดัดแปลงระบบจ่ายไฟต่ำ เพียงพอที่จะจุดด้วยไฟฟ้า กระแสตรงแรงดัน ๒๘ โวลท์ มาใช้งาน ส่วนแท่ง Flare ผลิตได้จากสารเคมี ซึ่งจัดหาจากผู้ขายในประเทศ ได้ทุกรายการ เว้นแต่ Silver Lodate ซึ่งหากจะจัดหาต้องสั่งนำเข้าในราคาสูง แต่สามารถเตรียมขึ้นได้เอง จากสารเคมี Silver Nitrate และ Potassium Lodate ที่จัดหาได้จากผู้ขายในประเทศในราคา ไม่สูงมาก ปลอกหุ้ม Flare ชนิดผ้าเคลือบพลาสติก Phenolic มีอุปสรรคในการจัดหาจากต่างประเทศ แต่สามารถสร้างปลอกหุ้ม Flare จากวัสดุผ้าเคลือบอิพ็อกซีได้ ส่วนผสมสารเคมีติดไฟง่ายด้านท้ายแท่ง Flare สามารถใช้ส่วนผสม BariumPeroxide ผสม Magnesium และ Saphalt การทดสอบความทนทาน ในการใช้งานของกระสุน คณะนักวิจัยได้นำกระสุน จำนวน ๑๒ นัดมาทดสอบ จำลองสภาพการใช้งาน (Environmental Test) ประกอบด้วย การจำลองการกระแทก การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ ความชื้น ความดันอากาศ และการสั่นสะเทือน ที่เกิดจากการติดตั้งกระสุนนอก ลำตัวอากาศยาน ในหนึ่งเที่ยวบิน แล้วนำกระสุนมายิงทดสอบ ที่อุณหภูมิต่ำวัดความเร็วต้น กับระยะเวลาเผาไหม้ ผลการทดสอบพบว่า ต้นแบบกระสุนที่ผ่านการทดสอบทั้ง ๑๒ นัด มีสมรรถนะเทียบเท่ากระสุนของต่างประเทศ แสดงว่ามีความทนทาน ต่อการใช้งาน จึงได้ผลิตกระสุนอีก จำนวน ๒๐๐ นัด เพื่อค้นหาปัญหาข้อขัดข้อง ในการผลิตกระสุนจำนวนมาก ในลักษณะสายการผลิต และเพื่อทดสอบ ความเชื่อถือได้ (Reliability) ของกระสุน ผลการยิงทดสอบ ภาคพื้นในครั้งแรกพบว่า แท่ง Flare ของกระสุนจุดตัวใน ปริมาณที่ยังไม่น่าพอใจ อันเป็นปัญหาที่เกิดจาก เกณฑ์มาตรฐาน ในการผลิตแท่ง Flare เมื่อทำการ แก้ไขและทดสอบอีกครั้งพบว่า กระสุนทำงานได้โดยมี ความไว้วางใจได้ในระดับที่น่าพอใจ ผลการวิจัย แสดงให้เห็นว่า ศวอ.ทอ. สามารถผลิตกระสุน ที่มีคุณสมบัติและสมรรถนะเทียบเท่า กระสุนที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดซื้อ จากต่างประเทศ โดยมีราคาต่ำกว่า กระสุนที่จัดซื้อ จึงมีความคุ้มค่าในการ จะดำเนินการผลิตต่อไป ในปัจจุบัน ศวอ.ทอ.ได้ผลิต กระสุนสารเคมีซิลเวอร์ไอโอไดด์เสร็จแล้ว จำนวน ๒,๐๐๐ นัด และพร้อมที่จะส่งมอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำไปใช้งานต่อไป

=================

ทั้งนี้ ทอ.ยังได้ดัดแปลง Alphajet ให้สามารถติดแผงกระสุนซิลเวอร์ได้ด้วย รายละเอียดตาม link ครับ

http://www.komchadluek.net/column/military/2006/02/19.php

จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ 11 พ.ค. 49 02:08:34 ]