ความคิดเห็นที่ 1 แล้วทำไมไม่ขาย 200 กิกไปเลยละครับ  ไปลดเหลือ 40 กิก แล้วขายราคา 40 กิกทำไมอะ  - -a ผมว่าตลาดมันไม่เหมือน cpu น่ะครับ  ที่ lock ตัวคูณ มาขาย แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 49 22:40:46 จากคุณ : กรุณาเก็บให้พ้นมือเด็ก - [ 13 มิ.ย. 49 22:39:30 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เค้าบอกว่า เพื่อคนที่มีกำลังซื้อน้อยได้ใช้ใน ความจุที่ต้องการ และ เป็นการเพิ่มมูลค่าให้ harddish ที่ ความจุสูงๆ มันมีราคาหน่ะครับ จากคุณ : จขกท - [ 13 มิ.ย. 49 22:45:52 A:58.9.186.152 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 เอ่อ น่าคิดแฮะ จากคุณ : arcane - [ 13 มิ.ย. 49 22:50:12 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ผมเคยเจอกระทู้นานแล้ว มีคนสอนวิธีปลดล็อค แต่ว่าต้องใช้ฝีมือทางช่างมากพอสมควร แล้วพื้นที่ที่ได้เพิ่มขึ้นมาก็ไม่รับรองความปลอดภัยของข้อมูล คือข้อมูลมันอาจเจ๊งได้ จากคุณ : Autster - [ 13 มิ.ย. 49 22:54:58 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เป็นเรื่องจริงครับ สมมุติว่าทำออกมาขาย 40, 80, 120, 160 GB เค้าก็ผลิตที่ 160GB ทุกตัว เพราะมันประหยัดต้นทุนได้มากกว่า ส่วนที่ว่าทำไมไม่ขาย 160 GB ไปเลย เป็นเรื่องของการตลาด และ QC ด้วยครับ  เพราะไม่ใช่ว่าผลิตออกมาล็อตใหญ่แล้ว มันจะไม่มีส่วนที่เสียเลย ฮาร์ดดิสก์ขนาด 40GB เค้าก็เทสเฉพาะพื้นที่ส่วนนั้นว่าผ่าน QC ได้ แล้วจึงส่งขาย จากคุณ : Some-One - [ 13 มิ.ย. 49 23:08:51 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ข้อความ 3 ถูกต้องเลยครับ น่าคิดมาก ผมเลยอยากให้ผู้ที่รู้ หรือไปดูงานมา ช่วยมาเล่าต่อกันฟังในส่วนที่คนอื่นๆ นึกไม่ถึงด้วยหน่ะครับ ไม่รู้ว่าอุปกรณ์ต่างๆใน คอมพิวเตอร์มีอะไร ที่ซ่อนเร้นอีกมั้ยครับ จากคุณ : จขกท - [ 13 มิ.ย. 49 23:11:01 A:58.9.186.152 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 #5 เป็นอย่างนี่เองหรือครับ  เพิ่งรู้จิงๆนะเนี่ย นึกว่ามีแต่ cpu จากคุณ : กรุณาเก็บให้พ้นมือเด็ก - [ 13 มิ.ย. 49 23:12:49 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ตัวที่ควมจุสูงกว่า ตัว plate แผ่นกลม ๆ จะมีจำนวนมากกว่า ไม่ใช่เหรอครับ   แต่ก็น่าคิดนะ เพราะ cost 40-160 ไม่น่าต่างกันมาก จากคุณ : MR@TONG - [ 13 มิ.ย. 49 23:15:33 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เข้าข่ายกักตุนสินค้าเพื่อเอาเปรียบผู้บริโภคได้ไหมเนี้ย จากคุณ : ChienChien - [ 13 มิ.ย. 49 23:25:56 ]

ความคิดเห็นที่ 10 น่าจะหมายถึงรุ่นที่มีจำนวน plate เท่ากันนะ ผมเชื่อ ถ้าเป็นผมๆก็ทำ plate ที่มีความจุเท่ากันหมด จากคุณ : หน้าน่วม - [ 13 มิ.ย. 49 23:27:15 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ...ความจุก็เท่ากันหมดนั่นแหละ แต่ตอน test มันจะตัดออกมาเป็นเกรด เช่น A B C ว่าจะผ่านออกมาที่ความจุไหน เกรด A อาจจะเป็น 200 GB เกรด B ได้ 80 GB เกรด C ได้ 60 GB การดึงพื้นที่ที่ทดสอบไม่ผ่านมาใช้ ความปลอดภัยของข้อมูลก็ลดลง จึงนิยมมาใช้เก็บข้อมูลชั่วคราว เช่น  temp file เป็นต้น การทำก็ใช้ Norton Gost หรือ Partition Magic อะไรนี่แหละ ในหนังสือ PC Today เคยลงไว้ เป็นบทความที่หากันมาก จากคุณ : " นายต๋อง " - [ 13 มิ.ย. 49 23:34:01 ]

ความคิดเห็นที่ 12 จำนวนแผ่นเพลท หัวอ่าน  เท่ากันไหมครับ? จากคุณ : ยัยปุย - [ 13 มิ.ย. 49 23:34:24 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เท่าที่อ่านก็คือว่า จำนวน plate กับ หัวอ่านเท่ากัน แต่พื้นที่ที่รับรองบน plate ไม่เท่ากัน ทำให้ความจุต่างกัน เป็นวิธีคิดที่สุดยอดครับ ผมเคยได้ยินอาจารย์เล่าให้ฟังว่า ตัวต้านทานก็ใช้วิธีเดียวกันก็คือตัวคาร์บอนที่ใช้เป็นตัวต้านทานเค้าใช้เครื่องตัดเครื่องเดียว แต่ว่ามันก็มี error ของเครื่องอยู่ เค้าก็จะเอามาวัดว่าตัวไหนที่เพียนน้อยไม่เกิน 1 % ก็โยนไปกับพวก 1 % ตัวไหนที่เพียนมากกว่า 1 % แต่ไม่เกิน 2 % ก็โยนไปกับพวกที่ไม่เกิน 2% แล้วก็ 5% 10 % 20% ตามลำดับ ดังนั้นตัวต้านทานจึงมีระบุไว้ว่า ค่า 220 โอม +- 1 % ค่า 220 โอม +- 2 % ค่า 220 โอม +- 5 % ค่า 220 โอม +- 10 % ค่า 220 โอม +- 20 % แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 49 23:47:38 จากคุณ : debud - [ 13 มิ.ย. 49 23:45:20 ]

ความคิดเห็นที่ 14 # 13 พึ่งรู้เหมือนกันนะเนี่ย จากคุณ : จขกท - [ 13 มิ.ย. 49 23:54:54 A:58.9.186.152 X: ]

ความคิดเห็นที่ 15 HD สมมติว่าความจุรวม 200 GB เขาต้องนำไปตรวจสอบคุณภาพและพื้นที่ส่วนที่ใช้งานได้ แล้วจึงเซตพื้นที่ส่วนที่ใช้งานได้ให้ระบบสามารถมองเห็น (จะเป็น 40 60 80...ก็แล้วแต่) ส่วนเรื่องที่จะทำให้ระบบมองเห็นพื้นที่ต้องห้าม แล้ว HD ก็จะมีความจุเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 2 เท่าสามารถทำได้แน่นอนโดยใช้โปรแกรม Norton Ghost แล้วก็สลับสาย IDE (ขั้นตอนยุ่งยาก จะลืมหมดแล้ว) พื้นที่ความจุส่วนที่เพิ่มขึ้นเป็นส่วนที่ไม่ได้รับรองคุณภาพและข้อมูลไม่เสถียร สิ่งที่บันทึกลงไปจะหายไปตอนไหนก็ไม่อาจรับประกันได้ สรุปแล้วมันสิ่งที่ทำให้ Modifier ตื่นตาตื่นใจไปพักหนึ่ง แต่ก็เท่านั้นแหละ ขนาด HD ที่ QC มาเป็นอย่างดียังโดนเคลมครั้งแล้วครั้งเล่าได้ วิธีดังกล่าวมันก็ไม่มีประโยชน์หรอก ซื้อของแท้ที่เหมาะสมกับเงินและก็การใช้งานดีที่สุด ป.ล. ผมยังใช้ Quantum Fireball 20 GB อยู่เลย ใช้มา 6 ปีแล้ว เสียงดังดีชะมัด จากคุณ : Conan-dum - [ 13 มิ.ย. 49 23:57:02 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เหมือนกล้องเลยแฮะ.. ปีสองปีก่อน มีการแฮกกล้องแคนอน รุ่นราคาสามหมื่น (300D) เพื่อให้ทำงานได้เทียบเท่ารุ่นใหญ่กว่า (10D) ที่ตัวละหกหมื่น เพราะแอบรู้กันมาว่า ทั้งสองรุ่น มันใช้ซีซีดี (ชิปตัวรับภาพ) ตัวเดียวกันเป๊ะ แต่รุ่นเล็ก ถูกกั๊กประสิทธิภาพบางอย่างเอาไว้ ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ-ผลิต ซึ่งพอแฮกระบบมันได้แล้ว ก็เลยใช้งานได้ดี ใกล้เคียง หรืออาจเท่ากันกับรุ่นใหญ่เลย (รายละเอียดกว่านี้ ต้องรอคุณอะธีลาสแล้วล่ะ) จากคุณ : Piggie MM - [ 14 มิ.ย. 49 00:00:35 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ใน VGA ก็เหมือนกัน รุ่นสูง ๆ มันมี pipeline 16 ท่อ รุ่นตัวรองความเร็วต่ำกว่า มี pipeline 8 ท่อ ความจริงก็คือตัวเดียวกันแต่ pipeline บางท่อไม่ผ่านการทดสอบ เลยโดนอุดเหลือ 8 ท่อ แล้วก็มาขายในราคาต่ำกว่า (ก็ยังสูงอยู่ดี สำหรับผม) ในที่สุดพวก M odifier ก็ได้คิดค้นวิธีระเบิดท่อขึ้นมาจนได้ เอากับมันสิ Overclock CPU RAM VGA จนไหม้ยังไงมันก็ยังไม่เข็ด จากคุณ : Conan-dum - [ 14 มิ.ย. 49 00:08:36 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เหมือนรถด้วยอ่ะเปล่าครับ เห็นช่องคอนโซลหน้ารถก็ผลิตพิมพ์รุ่นtop ออกมาใครซื้อรุ่นอื่นเค้าก็ปิดไว้ไม่ให้ใช้ให้จินตนาการเอาเองว่ามันจะติดอะไรหว่า??? จากคุณ : จขกท - [ 14 มิ.ย. 49 00:10:20 A:58.9.186.152 X: ]

ความคิดเห็นที่ 19 พวกที่ ลดความจุลงจากความจุสูงสุดที่ทำได้ เค้าเรียกว่า altenate format(ลดขนาด)/depop(ลดจำนวน head ที่ใช้ได้) ครับ พวกนี้ test ไม่ผ่่านืที่ spec แบบครบๆ ทุกหัวอ่านเลยต้อง ลดจำนวนหัวอ่านที่ firmwareมองเห็นลง ขนาดก็เลยลดลงตาม แต่จริงๆแล้ว physical head ก็ยังอยู่ครบ แต่ตัว software มองไม่เห็นเท่านั้นเอง หากเราไปปลดล็อคมัน ก็ใช้ได้ แต่มันอาจจะเจ๊งเร็วเท่านั้นแหละ เพราะว่าขนาด test ในขั้นตอนการผลิตยังไม่ผ่านเลย คุณคิดว่าอยากจะเสี่ยงใช้งั้นหรือ? ส่วนจำนวนหัวอ่าน กับ platter ขึ้นกับ product และเทคโนโลยีครับ เทคโนโลยีเก่า จะได้ 80GB per platter คือ 1แผ่น media 2 หัวอ่าน บนล่าง ถ้าใช้ได้ด้านเดียวก็เป็น 40GB ถ้าใช้สองด้่านแต่ทำ altenate format ก็ 60GB ส่วน 120GB ก็ 2 platter 3 heads 160GB ก็ 2 platters 4 heads 200GBก็ 3 platters 5 heads 250GB ก็ 3 platters 6 heads ตามลำดับครับ ถ้าซื้อพวกที่เป็นเศษๆ เช่น 200GB 120GB พวกนี้สามารถปลดล็อคได้(แก้ firmware) แต่ความเสี่ยงก็สูงมากเช่นกัน ปัญหาของพวก multi platters คือvibration และpower consumption ครับ เพราะมีหลายแผ่น เวลาหมุนก็เกิดแรงสั่นสะัเทือนมาก คุม head ลำบาก และกินไฟสูงเพราะต้องการ spindle motor แรงพอที่จะขับจานได้ แต่เทคโนโลยีใหม่ที่ใช้การเก็บข้อมูลแบบ perpendicular (เรียงแม่เหล็กแนวตั้ง) ทำให้ความจุเพิ่มเป็นสองเท่าตัว คือสูงสุดที่ 160GB per platters (แต่ทำขายจริงส่วนใหญ่ 100 -120GB per platters เพราะเรื่องของคุณภาพและเทคโนโลยีหัวอ่านPMRที่กำลังพัฒนาให้ต้นทุนถูกลง) อ้อจะบอกให้ พวกรุ่นที่บอกว่ามี buffer 8MB อะ จริงๆแล้วเดี๋ยวนี้พวกรุ่นธรรมดา มันก็ให้ buffer มา8MB เหมือนกัน เพราะใช้PCB รุ่นเดียวกันเพื่อประโยชน์ในเรื่องของการ stock และการเปลี่ยนของ แต่มาโฆษณาว่า 2MB(ส่วนเกินถือว่าแถมไม่ผิดกฎหมายครับ) แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 49 00:13:11 จากคุณ : ....4จุด - [ 14 มิ.ย. 49 00:11:02 ]

ความคิดเห็นที่ 20 จากทุกความเห็นโดยเฉพาะที่เกี่ยวกับ อุปกรณ์ electronicพอที่จะสรุปได้ไหมครับว่า ของที่มีขายในราคาชั้นประหยัด นั้นส่วนใหญ่เป็นพวกไม่ผ่าน QC แบบ high quarity จากคุณ : จขกท - [ 14 มิ.ย. 49 00:14:54 A:58.9.186.152 X: ]

ความคิดเห็นที่ 21 เคย อ่าน กัน ไหม อ่ะ จากคุณ : ผ่านมาเจอ (Aonly) - [ 14 มิ.ย. 49 00:18:20 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ไม่จิง อย่างแรงครับ จากคุณ : NightWolf - [ 14 มิ.ย. 49 00:19:43 ]

ความคิดเห็นที่ 23 แล้วที่แถมติดมาสองลูกนี่ใช้ทำอะไรได้บ้างครับตอนนั้น หนูอยากรู้ จากคุณ : พาลท้อแท้ - [ 14 มิ.ย. 49 00:22:43 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ภาพ คคห 21. นี่ K. สมภx เป็นคนเขียนหรือเปล่าครับ ? จากคุณ : Dont Be Serious - [ 14 มิ.ย. 49 00:23:11 ]

ความคิดเห็นที่ 25 อ่ะ อ่าน กัน ได้ ไหมครับ เล็ก ไปหน่อย [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : ผ่านมาเจอ (Aonly) - [ 14 มิ.ย. 49 00:24:20 ]

ความคิดเห็นที่ 26 คนเขียนชื่อ  สิงห์สนามซ้อม ครับ อยู่ในหนังสือ PCT จากคุณ : ผ่านมาเจอ (Aonly) - [ 14 มิ.ย. 49 00:25:22 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เคยทำแล้ว  ส่วนที่เขากันเอาไว้ มันมี bad ลองสังเกตุ sn ของซีเกตดูครับ ทั้ง 2 ตัวขนาด 40 gb ลองเปิดพื้นที่โดย ghost STXXXXXXXXXXXX14  จะได้ขนาดเพิ่มมาอีก 10gb STXXXXXXXXXXXX16  จะได้ขนาดเพิ่มมาอีก 30gb ทั้ง 2 ตัวใช้ f/w ตัวเดียวกัน   Sn จะบอกถึง physical ของขนาดที่ผลิต ส่วน f/w จะเป็นัวกำหนดขนาดที่ขาย แล้วแต่ว่าจะเริ่มมี bad ที่ขนาดเท่าไร จากคุณ : ZXZX - [ 14 มิ.ย. 49 07:37:57 ]

ความคิดเห็นที่ 28 น่าสนใจคับ จากคุณ : น้ำปลาเดือนห้า - [ 14 มิ.ย. 49 08:26:24 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ผมเช้าใจว่า มันอาจจะจริงที่เขาผลิตออกมา lot เดียวกัน แต่... ด้วยคุณภาพการผลิตที่ยังไม่เป๊ะๆ ทำให้ทุกๆตัว มันไม่ได้ความจุเท่ากันเป๊ะนี่ครับ เขาจึงต้องเอามาเข้าเครื่องทดสอบ (โดยอาจจะสุ่มตัวอย่าง) และเมื่อทดสอบแล้วว่ามันดีทั้ง 200 GB เขาก็แปะป้ายว่า 200 GB แต่บางตัวที่ทดสอบ 200GB แล้วไม่ผ่าน เขาก็เอามาทดสอบที่  150GB ซึ่งถ้าผ่านก็แปะป้าย 150GB ถ้ายังไม่ผ่านอีก ก็ทดสอบที่ 120GB แบบนี้ไปเรื่อยๆครับ ซึ่งก็เช่นเดียวกับการผลิต CPU ที่ speed ต่างๆ ซึ่งมันก็ออกมาจากแผ่นเวเฟอร์เดียวกัน เพียงแต่เขาเอาไปทดสอบแล้วว่า วิ่งที่ความเร็วเท่านี้ๆแล้วจะผ่านรึป่าว ถ้าผ่านก็แปะป้ายสปีดนั้นๆ รึถ้าไม่ผ่าน ก็ทดสอบซ้ำที่ความถี่ต่ำลง ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ เนื่องจากว่า มันเป็น CPU ที่ผลิตมาล็อตเดียวกัน คุณสมบัติ ควรจะ คล้ายๆกัน ดังนั้น จึงมีคนหัวใส ลองทำ over-clock ดู ซึ่งบางตัวมันจะทำได้ บางตัวเร่ง clock ไปแล้ว จะแฮงค์บ่อย ทำงานไม่เสถียร ตาดีได้ ตาร้ายเสีย จากคุณ : ช่างไฟ - [ 14 มิ.ย. 49 08:43:55 ]

ความคิดเห็นที่ 30 อืม...แบบนี้นี่เอง จากคุณ : NBA - [ 14 มิ.ย. 49 09:39:10 A:unknown X:203.188.27.86 TicketID:107130 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ผมก็มี Quantum Fireball 20 GB  เสียเมื่อวานนี้เอง 5 ปี จากคุณ : ชูชก - [ 14 มิ.ย. 49 10:46:24 ]

ความคิดเห็นที่ 32 อืม...ได้ความรู้ขึ้นอีกเยอะเลยครับ ขอบคุณครับ                   จากคุณ : DRB - [ 14 มิ.ย. 49 11:07:30 ]

ความคิดเห็นที่ 33 จ๊าก... เพิ่งรู้นะเนี่ย จากคุณ : Ottopong - [ 14 มิ.ย. 49 11:10:25 ]

ความคิดเห็นที่ 34 จากประสบการณ์การทำงานกับซีเกท ( ฝ่ายประกอบ ) ขอบอกว่าทุกตัวต้องผ่านขั้นตอนการตรวจสอบค่ะ ตรวจกันตั้งแต่แผ่นดิสก์ยังไม่ได้ประกอบ จนกระทั่งประกอบเสร็จใช้งานได้จริงนี่...ตรวจหลายครั้งมากๆ อ้อ.....ไม่มีการสุ่มตรวจค่ะ... มาเพิ่มเติม.... แผ่นดิสก์แต่ละรุ่นจะระบุมาค่ะว่าความจุเท่าไหร่ๆ และไม่สามารถใช้แทนกันได้ ( สมมติว่าอีกรุ่นหนึ่งหมดสายการผลิตไม่สามารถทำงานได้ ) แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 49 11:30:32 จากคุณ : สาวแก่บ้านนอก - [ 14 มิ.ย. 49 11:25:17 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ที่คุณเข้าใจมันก็ถูกครับ แต่มีเพิ่มเติม 1ที่บอกว่าผลิตความจุเดียวกันหมดนั้น เป็นส่วนของ จานดิสข้างในครับ ไม่ใช้ฮาร์ดดิสทั้งอันทั้งลูก ฮาร์ดดิสที่ปิดจะต้องใช้จานดิสเดียวครับ 2และมันไม่ตายตัวด้วยครับส่วนใหญ่จะแบบคนที่21 เป็นคู่ๆครับ เช่น จาน1แบบใช้กับ 2ความจุ เช่น จาน 80 G จะใช้กับ 40 Gโดยปิดสะ40 3ไม่มีใครผลิตเสร็จเป็นลูกๆแล้วค่อยมาปิดที่หลังหรอกครับ เช่นถ้า 200 G ใช้ 2 ดิส แล้วผลิตออกมาเป็น200ทุกตัว แล้วจึงค่อยมาปิดอีกดิสนึง ให้เหลือ 100G แบบนี้เค้าไม่ทำครับ 4 แต่เดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่จะใช้ จานดิสแผ่นเดียวกันหมดแล้ว ใช้ดิสแผ่นเดียวแล้วปิดครับ - - 5 ที่ผมเกลียดมากอย่างนึงคือ มันกั๊กเทคโนโลยี่เพื่อรอตลาดครับ คือ hitachi หรือ ibm มันผลิต ความเร็ว600MB/sec ได้เมื่อ 4 ปีก่อน ทำมาได้ตั้งนานแล้ว แต่ไม่ยอมผลิตขาย ตอนนี้มีแค่300ปลอมๆ(ไม่ได้เอ่ยถึงความจุนะครับ) จากคุณ : อาจารย์แมว - [ 14 มิ.ย. 49 11:48:08 A:203.114.126.200 X: TicketID:077427 ]

ความคิดเห็นที่ 36 #16 ที่เค้าแฮก 300D กันนั่น เป็นแค่ในส่วนของ firmware ที่ทำให้ custom function คล้ายกับของ 10D ได้ แต่ก็ไม่ทั้งหมด แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 49 12:27:25 จากคุณ : ม้าหงอย - [ 14 มิ.ย. 49 12:23:21 ]

ความคิดเห็นที่ 37 สมมุติว่าโรงงานทำ Hard Disk มีหัวอ่าน 2 หัว ใช้ disk 1 แผ่น ความจุ 100GB - เกิด test ไม่ผ่าน 1 หัว หรือ แผ่น disk ไม่ดี 1 ด้าน แล้วจะเอามาหลอกขายเป็น 50GB เหรอครับ แบบว่าขนาดความจุ จะขึ้นอยู่กับจำนวนของหัวอ่านกับแผ่น disk ครับ เช่น 1หัว ความจุ 50GB , 2หัว ก็ 100GB , 3หัว ก็ 150GB , 4หัว ก็ 200GB อะไรทำนองนี้ แต่การที่ ประกอบหัวมา 2 หัว ความจุ 100GB แล้ว test ไม่ผ่าน 1 หัว ทำให้ความจุลดลงเหลือ 50GB แล้วมาขายเป็นของเกรด B,C ก็ทำได้นะครับ แต่คุณกล้าใช้เปล่า แบบว่าแถมของเสียมาให้ด้วย ซึ่งเราก็ไม่รู้ด้วยว่าหัวไหนดีหัวไหนเสีย..อิอิ .. เสร็จแล้วอาจจะมีพวกหัวใส มาเปิดใช้งานหัวนั้นซึ่ง test ไม่ผ่านตามมาตราฐาน ถ้าใช้งานได้จะใช้ได้ไม่ดีครับ เช่น อายุการใช้งานสั้น , บางที่เปิด file ได้ บางทีเปิดไม่ได้ หรืออาจจะเปิดการใช้งานที่หัวนั้นได้ แต่ใช้งานไม่ได้เลย ก็เป็นไปได้ครับ ว่าแต่เจ้าของกระทู้โชคดีครับ ที่ได้ดู เพราะตอนนี้ไม่มี Hard Disk ของ IBM แล้ว จากคุณ : มะขามป้อม.. - [ 14 มิ.ย. 49 14:43:26 ]

ความคิดเห็นที่ 38 #11,21 ผมมีไฟล์ PDF อยู่ครับ ใครสนใจก็หลังไมค์มาได้ครับ จากคุณ : rithirong - [ 14 มิ.ย. 49 16:09:39 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เ่อ่อ บอกได้อีกอย่างนึงครับ Hard disk drive ที่ขายในตลาดค้าปลีก คือ hard disk เกรดต่ำสุดที่โรงงานผลิตได้ (คือเทสไม่ผ่านก็ไปทำ rework ด้วยการ change part บ้าง altenate format บ้าง depop บ้่าง แล้วมาเทสใหม่อีกทีจนผ่าน ซึ่งส่วนสำคัญในการแยกเกรด อยู่ที่กระบวนการ test ซึ่งเป็นส่วนที่ใช้เวลานาที่สุด HD 80GB ใช้เวลาประกอบใน clean roomและ เขียนสัญญาณ Servo ไม่เกิน2ชั่วโมง แต่กระบวนการ test ข้างนอกนั้นกินเวลาประมาณ10กว่าชั่วโมง ซึ่งจะมีการ test ตังแต่ โหลด firmware ลงไปใน PCB แล้วทำการ optimize หัวอ่าน ว่าจ่ายพลังงานระดับไหนถึงอ่าน/เขียนได้เหมาะสม เสร็จแล้วก็จะทำการ scan defect ทั้งหมดทุกๆ sector ของ disk แล้วทำการ map ไว้ว่าส่วนไหนใช้ได้ ส่วนไหนใช้ไม่ได้ ส่วนไหนไว้สำรอง เสร็จแล้วทั้งหมด จะทำการ low level format เพื่อเตรียมพื้นที่ในการใช้งานจริง แล้วทำการทดสอบ การ เขียน/อ่าน แบบสุ่ม (Write/Read compare) ทั้งที่temp ปกติ(25C) และ hot temp(50C) โดยจะมีการวัดค่า error ขณะการอ่าน ทั้งที่ correct ได้และ correct ไม่ได้ เมื่อทำการ test ทุกอย่างเสร็จ ก็จะนำค่าต่างๆที่วัดระหว่างการ test มาเทียบ กับ spec เพื่อที่จะตัดสินว่า ผ่านเกรดนี้ๆหรือไม่ หากไม่ผ่านเกรดสูงสุด ก็อาจจะ down grade ลงมาเกรดล่างๆ ที่ spec แย่กว่า แต่ถ้าหากไม่ผ่านทั้งหมด ก็ต้องส่งกลับไปซ่อมแซมในกระบวนการผลิต แล้วส่งกลับมา test ใหม่ครับ ราคาของ HD เกรดสูงสุดนั้นแพงกว่าเกรดต่ำสุดเกือบ 2เท่า(ราคาต่อ lot นะ lot นึงมีพันตัว) แต่ spec ก็สูงสุดเช่นกัน โดยจะมีลูกค้าคือพวก OEM ทั้งหลายเช่น บริษัทผลิต PC brand ชื่อดัง(ที่แพงๆน่ะ) ส่วนของที่ขายในตลาดค้าปลีก เป็นเกรดต่ำสุดครับ ไม่มีเจ้าไหนเอาเกรดดีมาขายปลีกหรอก และไม่มีทางที่ของดีจะหลุดมา เพราะราคาส่งมันต่างกันมากๆ นอกจากไปแกะมาจาก PC brand ดังๆ ใบ้ให้ว่า มีสองยี่ห้อที่ require spec HD สูงสุด คือ DELL /SONY ส่วนเจ้าอื่นสั่งของ spec รองลงมาครับ ฉะนั้น ต่อให้คุณประกอบคอมจากพันทิพย์ดีแค่ไหน โอกาสที่มันจะเจ๊ง ยังไงก็สูงกว่า brand ดัง เพราะเขาใช้ของคุณภาพดีกว่าที่ขายในตลาดครับ (อุปกรณ์ electronic ต่างๆด้วยมีหลายเกรด เข้าใช้พวกค่า DPPM กับ Reliability ในการประเมินความน่าจะเป็นของคุณภาพสินค้าในlot นั้นๆ) จากคุณ : ....4จุด - [ 14 มิ.ย. 49 17:04:38 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบคุณ # 39 มากนะครับที่ใบ้ให้พวกเรารู้ว่า สองยี่ห้อนั้นคือ DELL /SONY อิอิ แซวเล่นครับ ขอบคุณจริงๆสำหรับข้อมูลดีๆครับ จากคุณ : จขกท - [ 14 มิ.ย. 49 19:00:30 A:58.9.186.152 X: ]

ความคิดเห็นที่ 41 ผมไม่ค่อยมีความรู้เชิงเทคนิค แต่ในเชิงธุรกิจแล้ว เป็นไปได้มากๆที่ผู้หลิตจะทำแบบนั้นครับ และอย่าได้สงสัย ว่าทำไมเค้าไม่ขายเป็นขนาดความจุเยอะๆไปเลยล่ะ ?? คำตอบคือ .. แล้วเค้าจะทำอย่างนั้นให้โง่ทำไมครับ สมมติว่าผลิต ณ จุดคุ้มทุนได้ 200G เค้าก็เอามาตอนขายเป็น 40 80 120 160 200 โดยราคาของตัว 40G ก็อาจจะบวกกำไรน้อยๆ ไล่ไปจน 200 ที่บวกกำไรมากที่สุด แต่ถ้าขายรุ่นเดียว บวกกำไรรุ่นเดียว มันก็ไม่คุ้มสิครับ ในเมื่อขายหลายๆรุ่นได้ ทำไมจะไม่ทำล่ะ?? จากคุณ : iNFeRNaL - [ 14 มิ.ย. 49 19:08:52 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณทุกท่านสำหรับความรู้ครับ นี่ถ้าอาจารย์ที่ใบ้หวยใบ้กันตรงๆเหมือนคุณ4จุด เราคงได้รวยกันยกใหญ่ จากคุณ : หนุ่มใจละลาย - [ 14 มิ.ย. 49 19:57:33 A:58.64.123.227 X: TicketID:120041 ]

ความคิดเห็นที่ 43 price discrimination 3 rd degree ครับ ดูรูป ประกอบ จะเห็นได้ ว่า HDD ที่ผ่านการทดสอบ จะมีจำนวนไม่เท่ากัน เช้น HDD ที่ความจุ 300 GB แน่นอน คุณซื้อไป ได้ เท่านี้ ชัวร์ มี ผ่านการทดสอบแค่ไม่กี่ตัว ในขณะที่ ความจุไม่สูง ราคาจะถูก เนื่อง จาก มีปริมาณมาก แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 49 20:22:04 จากคุณ : moojiw - [ 14 มิ.ย. 49 20:19:50 ]

ความคิดเห็นที่ 44 คห. 43 สุดยอดมากครับ เข้าใจทะลุปรุโปร่งเลย นี่แหละการค้า อุอุอุ จากคุณ : ชื่อผมอยู่ในวงเล็บ (ROOTAMAN) - [ 14 มิ.ย. 49 21:24:59 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เอ...ผมมี 450 เม็ก อ่ะครับ  ทำเป็น 250 กิ๊ก  ได้ป่ะ.... .. ใช่เลย  ผมว่าต้องซ่อน 200กว่ากิ๊ก ไว้แน่เลย แล้วมาขายแค่ 450 เม็ก  อ่ะ อ่ะ....เรารู้ทันแล้ว.... จากคุณ : HiPex - [ 14 มิ.ย. 49 21:34:56 ]

ความคิดเห็นที่ 46 แฮ่ๆ #40/42 ที่ใส่คำว่าใบ้ คือตอนแรกกะจะไม่ใส่ชื่อ customer น่ะครับ แต่คิดๆดูแล้ว สองเจ้านี้ซื้่อของ top tier ก็คงไม่ถือว่าเป็นการทำให้เสียหายอะไร น่าจะเป็นผลดีต่อชื่อมากกว่าซะอีก แต่จริงๆต้นทุนของ HD ความจุสูง มีเรื่องของเวลาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยครัีบ เพราะการ test นั้นนานกว่ามากๆ  80GB ประมาณ 10ชั่วโมง แต่ 250-320GB ประมาณ 30กว่าชั่วโมงเลยทีเดียว ฉะนั้น cost มันสูงกว่าจากกระบวนการผลิตมากกว่า ต้นทุนจากส่วนประกอบ(ซึ่งก็มีผลถ้า ต้องdepop head ลงเพื่อขายที่ความจุต่ำกว่าปกติ) แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 49 21:46:47 จากคุณ : ....4จุด - [ 14 มิ.ย. 49 21:43:49 ]

ความคิดเห็นที่ 47 น่าสงสัย คุณ4จุด ทำงานเกี่ยวกับ HDD แน่เลย อิอิ จากคุณ : นัยตาสองชั้น - [ 15 มิ.ย. 49 00:34:09 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เพื่อนเคยทำอยู่คิวซี เขาบอกว่าอยากได้ฮาร์ดดิสก์ตัวใหม่ก็หาตัวเก่ามาแลก  ของเก่าเขาก็ปั๊มรีเจ็คออกไป เอาของใหม่กลับบ้าน  เพราะสายงานเขาแค่นับชิ้นเข้าออก จากคุณ : rdo - [ 16 มิ.ย. 49 02:36:05 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ไม่ใช่เสมอไปว่า HDD ขนาด 160GB มาจากการ downgrade ของ HDD 200GB เพราะบางครั้ง order HDD 160GB มีมากกว่า 200GB ณ ช่วงระยะเวลาหนึ่งทำให้ HDD ขนาด 160GB ที่ downgrade มาจาก 200GB มีไม่มาพอ ฉะนั้นต้องผลิต HDD ด้วย material ของ HDD 160GB จริงๆ ไม่ใช่ 200GB เพราะต้นทุนต่างกันค่ะ ของ 200GB แพงกว่า แต่ที่มีการ downgrade จาก 200GB --> 160GB ในขบวนการ test นี่ บางครั้งมันคุ้มกว่าการที่จะต้อง เอา HDD มา rework เปลี่ยน part ซึ่งนอกจากจะทำให้ HDD บอบช้ำจากการเคลื่อนย้ายบ่อยๆ แล้วค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยน part และค่าแรง และ process time อีก เพราะมันเหมือนเริ่มการผลิตใหม่เลยนะ ซึ่งค่าใช้จ่ายสูงกว่าการที่ downgrade ณ ขบวนการ test เลย แต่ที่ผู้ผลิตจ่ายแพงคือ ค่าวัตถุดิบที่แพงกว่า เอ่อ ปกติ ไม่ค่อยมีการ downgrade จาก 200GB --> 160GB นะคะ มันไม่ค่อยคุ้มคะ และก็สินค้าที่ขายตามท้องตลาดก็ไม่ได้มาจากงาน rework นะ บางทีก็ดีพอๆกะ OEM หล่ะค่ะ แต่ที่ทราบมาก็ยี่ห้อที่คุณ ....4จุด ว่ามาหล่ะค่ะ ดีมากค่ะ จากคุณ : Chinanart (Chinanart) - [ 16 มิ.ย. 49 07:54:46 ]

ความคิดเห็นที่ 50 #49 มีงานขายปลีก standard ของยี่ห้อไหนที่คุณภาพเทียบเท่า OEM ได้หรือครับ นอกจาก drop ship? อันนี้ไม่น่านับ เพราะนานๆทีจะเจอ เพราะเท่าที่เห็น spec ของแต่ละเจ้าแล้ว อ่า Error rate มหาศาล TA ห่วยสุดเลย ยังงงว่าที่ใช้อยู็กับคอมตัวเองเนี่ย รอดได้ยังไง ยิ่งเวลาทำ Distribution graph จะเห็นชัด แต่จะว่าไปมันก็แค่ความน่าจะเป็นล่ะนะ ขนาด drive tier 1 ที่กำหนดDPPM ไม่เกิน 76 ก็ยังเจ๊งได้เลย จากคุณ : ....4จุด - [ 16 มิ.ย. 49 20:21:44 ]

ความคิดเห็นที่ 51 คุณ 4 จุดครับ ช่วยอธิบายทีครับ ผมเคยได้ ฮาร์ดดิส สมัยยังยี่ฮ้อ ibm เปน สกัสซี่IBM18G/10000 ได้มาหลายตัวครับ แต่รุ่นมันเป็น ชีต้า ครับ ผลิตโดย ซีเกต งงมากเลยครับ ลดแคชด้วยครับ บางตัว 2 m บางตัว 3m แถมมีส่วนที่ต้องเปิดระบบด้วยเครื่องเฉพาะ งงไปเลย -แต่ถ้าใช้งานธรรมดาก็ใช้งานได้ -ปกติ น่าจะเกียดกันนะครับ 2ยี่ห้อนี้ - -ปล. ฮาร์ดดิส ibm รุ่น ชีต้า มันไม่น่าจะมีในโลกนะครับ จากคุณ : อาจารย์แมว - [ 17 มิ.ย. 49 00:03:09 A:203.188.2.85 X: TicketID:077427 ]

ความคิดเห็นที่ 52 IBM/Fujitsu ผลิตเองด้วยแล้วก็จ้าง บ.อื่นๆทำ OEM ให้ตัวเองครับ ทั้ง Seagate /WD ฯลฯ ฉะนั้นจึงไม่แปลกถ้าจะเจอ HD ยี่ห้ออื่นปนมาในเครื่อง Brand อีกยี่ห้อโดยมี sticker ปิดทับ แต่ spec ไม่ว่าจะยี่ห้อไหนก็ต้องผ่านขั้นต่ำที่ทางลูกค้าสั่งไว้แหละครับ เลยไม่ต่างกันสักเท่าไร อ้อ SCSCI เป็นลิขสิทธิ์ของ Seagate เพราะเป็นผู้คิดค้น เจ้าอื่นๆเลยแทบไม่ได้ทำขายเองเลยครับ จากคุณ : ....4จุด - [ 17 มิ.ย. 49 17:12:59 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ....4จุด อยู่ WD รึ 555555555 ถ้าใช่ ก้ออยู่ใกล้ๆ กันนั่นละ คำตอบ ทุกอย่าง พี่ ....4จุด  อธิบายไปหมดแล้ว เป็น จริง ตามนั้น ทุกประการ อ้อ อีกอย่าง IBM มันขายให้ โตชิบ้า ไปแล้ว นี่นา จากคุณ : ชะยาสะ - [ 19 มิ.ย. 49 07:53:37 ]

ความคิดเห็นที่ 54 #53 IBM แผนก HDD ขายให้ Hitachi ครับตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็น Hitachi Global Storage Technology แล้ว จากคุณ : ....4จุด - [ 20 มิ.ย. 49 20:30:31 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ในความเห้นที่ 11, 15, 21 ที่พูดถึงวิธีใช้ Norton Ghost เพิ่มความจุ HD เป็นสองเท่า ที่จริงแล้ว มันไม่ได้ใช้ประโยชน์จากเนื้อที่ของ HD ที่ซ่อนไว้เลย ขอเตือนว่า **อย่าทำเป็นอันขาดครับ** มันไม่ได้ทำให้พื้นที่ที่ถูกซ่อนไว้ กลับคืนมาหรอกครับ ที่จริงแล้วมันสร้าง partition แทรกไว้ในส่วนที่มีข้อมูลอยู่แล้วต่างหาก ถ้าเราสร้าง partition ใหม่ในพื้นที่ที่ว่า การเขียนข้อมูลลงไปใน drive ใหม่นั้น ข้อมูลใหม่น่ะไม่เจ๊งหรอกครับ แต่มันจะเขียนทับข้อมูลที่มีอยู่ใน partition อื่นๆ ทำให้ไฟล์เสีย หรือ partition เสีย ถ้าโชคดีก็อาจจะยังกู้ข้อมูลได้บ้าง ถ้าใครไม่เชื่อ จะลองทำ ก็ขอให้ลองกับ HD ที่ยังไม่มีข้อมูลนะครับ จากคุณ : ikkyu - [ 21 มิ.ย. 49 17:24:55 ]

ความคิดเห็นที่ 56 หุ หุ หุ ... ผมก็เคยอยู่บอสัดผลิตหัวอ่าน ที่ WD ไปซื้อมาเมื่อ 3 ปีที่แล้วอ่ะ ^_^ ไม่รู้ตอนนี้เทคโนโลยีไปถึงใหนแล้ว ของพวกนี้ไปเร็วมากครับ สมัยผมอยู่ในวงการนี่ หัวอ่านขนาด 80GB/Platter เพิ่งเป็น mass production นะ จากคุณ : Jookie (Jookie) - [ 24 มิ.ย. 49 18:32:53 ]