ความคิดเห็นที่ 1 แม่เหล็กไฟฟ้าเป็นคลื่นชนิดหนึ่ง ที่ช่วยให้เราสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ จากคุณ : Ultrapouy - [ 20 ก.ค. 49 16:23:12 A:125.24.97.199 X: ]

ความคิดเห็นที่ 2 การตรวจหัวใจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า MRI หรือ Magnetic resonance imaging เป็นนวัตกรรมใหม่ของการตรวจวินิจฉัยโรคหัวใจ การทำงานของเครื่องมือนี้อาศัยหลักการการทำปฏิกิริยาของสนามแม่เหล็ก (Magnetic filed) และคลื่นวิทยุ (Radiofrequency pulse) กับอนุภาคโปรตอนในเนื้อเยื่อของร่างกาย และทำให้เกิดภาพที่สามารถมองเห็นความแตกต่างของเนื้อเยื่อแต่ละชนิดของอวัยวะต่าง ๆ อย่างชัดเจน ทำให้ง่ายต่อการวินิจฉัย จากหลักการการทำงานของเครื่องมือนี้เอง ผู้ป่วยที่ได้รับการตรวจวินิจฉัยโดยใช้เครื่องมือนี้จะปราศจากความเสี่ยงจากรังสีเอ็กซ์เรย์โดยสิ้นเชิง แพทย์ผู้รักษาโรคหัวใจสามารถใช้เครื่องมือนี้ในการตรวจวินิจฉัยโรคของหลอดเลือดแดงใหญ่ (aorta), หลอดเลือดแดงขนาดกลาง (เช่น carotid artery), หลอดเลือดที่มาเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ (coronary artery), โรคของหลอดเลือดดำในปอด (pulmonary vessels), โรคของเยื่อหุ้มหัวใจ, โรคของกล้ามเนื้อหัวใจ, โรคของลิ้นหัวใจ รวมถึงพยาธิสภาพของหัวใจอันเนื่องจากโรคของอวัยวะอื่น ๆ เช่น พยาธิสภาพของกล้ามเนื้อหัวใจอันเนื่องมาจากโรคโลหิตวิทยา (Sideroplastic myocardial disease) และการแพร่กระจายของเชลล์มะเร็งจากอวัยวะอื่นเข้าสู่หัวใจ เป็นต้น ผู้ป่วยทุกคนสามารถได้รับการตรวจวินิจฉัยโดยเครื่อง MRI ได้เมื่อมีข้อบ่งชี้ ยกเว้นผู้ป่วยที่มีข้อห้ามดังต่อไปนี้ คือ ผู้ป่วยที่ได้รับการฝังเครื่องกระตุ้น ( Pacemaker ) หรือเครื่องกระตุกหัวใจ ( AICD ) หรือได้รับการฝังอุปกรณ์ที่ทำด้วยโลหะอยู่ในร่างกาย หญิงตั้งครรภ์โดยมีอายุครรภ์น้อยกว่า 12 สัปดาห์ และหญิงให้นมบุตร รวมทั้งผู้ป่วยที่อยู่ในขั้นวิกฤต การตรวจวินิจฉัยด้วยเครื่อง MRI จะใช้เวลาประมาณ 30 – 90 นาที ขึ้นอยู่กับชนิดของโรค โดยก่อนการตรวจวินิจฉัย ผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องดอาหารและน้ำแต่อย่างใด **...!!!^_^!!!...** จากคุณ : pu_techno#25 - [ 20 ก.ค. 49 16:24:31 A:202.28.21.4 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 ช่วยในการติดต่อสื่อสารผ่านแหล่งหนึ่งไปยังอีกแหล่งหนึ่ง จากคุณ : ta_Liw - [ 20 ก.ค. 49 16:25:25 A:125.24.97.199 X: ]

ความคิดเห็นที่ 4 การพกโทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋ากางเกงจะมีโทษ สามารถทำให้เป็นหมันได้ ควรจะใส่กระเป๋าอย่างอื่นแทน จากคุณ : Giftzy_Girly Berry - [ 20 ก.ค. 49 16:37:02 A:125.24.91.136 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าเราเข้าปั๊มเติมน้ำมันไม่ควรคุยโทรศัพท์มือถือ เพราะอาจจะทำให้เกิดการระเบิดได้ จากคุณ : Giftza_Girly Berry - [ 20 ก.ค. 49 16:43:27 A:125.24.91.136 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 แม่เหล็กไฟฟ้ามีทั้งคุณประโยชน์ดังที่ว่านั่นเหละครับ ผมจะขอพูดในเรื่องโทษ เท่าที่ผมทราบมานั้น การที่เราพกโทรศัพท์มือถือไว้ที่เข็มขัดบ่อยๆก็เสี่ยงต่อการเป็นหมันได้ การรับโทรศัพท์ในขณะที่ฝนฟ้าคะนองก็เสี่ยงต่อการที่ถูกฟ้าผ่าได้ การพกโทรศัพทืมือถือไว้ที่กระเป๋าเสื้อก็เสี่ยงต่อการที่จะเป็นโรคหัวใจได้ ยังมีโทษอีกหลายประการขอให้เพื่อนช่วยกันโพสนะครับ จากคุณ : <มหา> - [ 20 ก.ค. 49 16:49:49 A:202.28.21.4 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 ส่วนตัวผมเองก็คิดว่าแม่เหล็กไฟฟ้ามีประโยชน์อย่างมากต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ในยุคปัจจุบันนะครับ โดยรอบตัวเราแล้วแม่เหล็กไฟฟ้าล้วนเป็นส่วนประกอบของอุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์เกือบทุกชนิด ไฟฟ้าที่เราใช้กันอยู่ก็อาศัยหลักการเหนี่ยวนำของไฟฟ้าล้วนเป็นหลักการทางทฤษฎีแม่เหล็กไฟฟ้าทั้งสิ้น แม่เหล็กไฟฟ้าแบ่งออกเป็น2ประเภท คือแม่เหล็กไฟฟ้าธรรมชาติ และแม่เหล็กไฟฟ้าที่มนุษย์สร้างขึ้น แม่เหล็กธรรมชาติ(แม่เหล็กโลก Pole) โลกมีสนามแม่เหล็ก ซึ่งแสดงสมบัติเหมือนมีแท่งแม่เหล็กขนาดใหญ่ที่ใจกลางของโลก วางตัวประมาณแนวเหนือใต้ ขั้วเหนือของเข็มทิศจะชี้ไปยังทิศเหนือของแม่เหล็ก และขั้วใต้ชี้ไปยังทิศใต้แม่ของเหล็กการวางตัวของแม่เหล็กจะระบุได้ว่าแม่เหล็กโลกวางตัวในทิศทางใด แม่เหล็กที่มนุษย์สร้างขึ้น การทำแม่เหล็กถาวรทำการนำเอาขดลวดมาพันรอบเหล็กกล้า ประกอบด้วยสาร นิเกิล โคบอลต์ เมื่อทำเป็นแม่เหล็กแล้วจะสูญเสียอำนาจแม่เหล็กได้ยาก ประโยชน์ของแม่เหล็กไฟฟ้าที่มนุษย์สร้างขึ้นมีมากมายเป็นส่วนประกอบของมอเตอร์ซึ่งมีพลังงานกลสามารถเป็นแรงขับเคลื่อน หรือใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆได้มากมาย มอเตอร์นับว่าเป็นส่วนประกอบอย่างหนึ่งที่สำคัญมากในอุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์ จึงกล่าวได้ว่าอุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์ส่วนใหญ่ทำงานโดยใช้หลักการแม่เหล็กไฟฟ้าทั้งสิ้น แม่เหล็กไฟฟ้าไม่มีเฉพาะในมอเตอร์เท่านั้นแต่แม่เหล็กไฟฟ้าเป็นส่วนประกอบของ กระดิ่งไฟฟ้า ซึ่งทำงานร่วมกับความถี่ของไฟฟ้าโดยมีตัวแปลงสัญญาณขั้วของแม่เหล็กไฟฟ้าให้สลับกระดิ่งจึงสามารถแกว่งไปมาเพื่อเคาะให้เกิดเสียงได้ หลักการนี้ถูกค้นพบมาตั้งแต่สมัยโทรเลขแล้ว สมัยนั้นการส่งโทรเลขไม่ได้เป็นตัวอักษรอย่างทุกวันนี้ ต้องมีรหัสเพื่อแปลอักษรอีกที ดังนั้นการเคาะหนึ่งครั้งจึงเป็นการส่งสัญญาณแม่เหล็กไฟฟ้าไปยังเครื่องรับอีกเครื่องหนึ่งเพื่อจะได้รหัสเสียงหรือรหัสภาพก็แล้วแต่แล้วนำไปแปลอักษรอีกทีประโยชน์ของแม่เหล็กไฟฟ้ายังมีอีกมากมาย ในโรงงานอุตสาหกรรมก็มีการใช้แม่เหล็กไฟฟ้าในการยกอุปกรณ์ที่เป็นโลหะ หรือเก้บกวาดอุปกรณ์ที่เป็นโลหะด้วย จากคุณ : หมอฮิล - [ 20 ก.ค. 49 16:57:16 A:203.155.14.4 X: ]

ความคิดเห็นที่ 8 // ใบเหลืองถ้าเรามีความเข้าใจพื้นฐานทางฟิสิกส์ของแม่เหล็กไฟฟ้าเพียงเล็กน้อย เราสามารถสร้างมอเตอร์ ฮาร์ดดิสก์ และลำโพงเองได้อย่างง่ายดาย //ใบเหลือง จากคุณ : Nanny_Girly Berry - [ 20 ก.ค. 49 17:05:16 A:125.24.91.136 X: ]

ความคิดเห็นที่ 9 การแผ่รังสีอัลตาไวโอเล็ตเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่เกิดขึ้นดังตัวอย่างเช่น เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่านแก๊สที่เป็นไอออน ระหว่างขั้วไฟฟ้าทั้งสอง นอกจากนั้นยังปล่อยออกมาจากดวงอาทิตย์แต่มีปริมาณเล็กน้อยที่มาถึงผิวโลก รังสีนี้ปริมาณเล็กน้อยมีความสำคัญต่อชีวิต แต่ถ้ามีมากจะเป็นอันตรายต่อชีวิต จากคุณ : Bell_Girly Berry - [ 20 ก.ค. 49 17:11:55 A:125.24.91.136 X: ]

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าเรามีความเข้าใจพื้นฐานทางฟิสิกส์ของแม่เหล็กไฟฟ้าเพียงเล็กน้อย เราสามารถสร้างมอเตอร์ ฮาร์ดดิสก์ และลำโพงเองได้อย่างง่ายดาย .... จากคุณ : Nanny_Girly Berry - [ 20 ก.ค. 49 17:13:54 A:125.24.91.136 X: ]

ความคิดเห็นที่ 11 คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เกิดจากการรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic disturbance) โดยการทำให้สนามไฟฟ้าหรือสนามแม่เหล็กมีการเปลี่ยนแปลง เมื่อสนามไฟฟ้ามีการเปลี่ยนแปลงจะเหนี่ยวนำให้เกิดสนามแม่เหล็ก หรือถ้าสนามแม่เหล็กมีการเปลี่ยนแปลงก็จะเหนี่ยวนำให้เกิดสนามไฟฟ้า และเป็นคลื่นตามขวาง คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าคือ แสง ไมโครเวฟ รังสีเอกซ์ และคลื่นวิทยุ ทั้งหมดเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า โดยมีคุณสมบัติพื้นฐานเหมือนกับคลื่นน้ำ เราแบ่งชนิดของคลื่น จากความยาวคลื่น เช่น ไมโครเวฟ มีความยาวคลื่นอยู่ค่าหนึ่ง คลื่นวิทยุก็มีความยาวคลื่นอีกค่าหนึ่ง นอกจากนี้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ายังมีคุณสมบัติดังนี้ค่ะ สมบัติของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า 1. ไม่ต้องใช้ตัวกลางในการเคลื่อนที่ 2. อัตราเร็วของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าทุกชนิดในสุญญากาศเท่ากับ 3x108m/s ซึ่งเท่ากับ อัตราเร็วของแสง 3. เป็นคลื่นตามขวาง 4. ถ่ายเทพลังงานจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง 5. ถูกปล่อยออกมาและถูกดูดกลืนได้โดยสสาร 6. ไม่มีประจุไฟฟ้า 7. คลื่นสามารถแทรกสอด สะท้อน หักเห และเลี้ยวเบนได้ จากคุณ : กระดาษทราย - [ 20 ก.ค. 49 17:15:48 A:125.24.91.199 X: ]

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้ามี MRI มันต้องมี fMRI (functional magnetic resonance imaging) ด้วยสิครับ ฮี่ๆ วงการประสาทวิทยาศาสตร์กำลังนิยมเลย จากคุณ : Due_n - [ 20 ก.ค. 49 17:26:54 ]

ความคิดเห็นที่ 13 แม่เหล็กไฟฟ้ามีทั้งคุณและโทษ เราต้องใช้มันให้เกิดประโยชน์มากที่สุด และป้องกันอันตรายจากมันให้ได้ด้วย ทางที่ดีควรศึกษา วิธีป้องกันอันตรายจากมันด้วยค่ะ จากคุณ : phitclub - [ 20 ก.ค. 49 17:29:15 A:61.7.139.120 X: ]

ความคิดเห็นที่ 14 ของที่มีประโยชน์มักจะแฝงพิษภัยให้กับเราเสมอไม่มากก็น้อย แต่น้อยคนนักที่จะคิดถึงภัยแฝงตรงนี้เพราะผู้คนให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายมากกว่า..คอมพิวเตอร์ มือถือ ทีวี และไมโครเวฟ เป็นอุปกรณ์เครื่องใช้ที่มีอยู่ในทุก ครัวเรือน ผลทางการแพทย์ระบุว่า คลื่นแม่เหล็กอาจก่อให้เกิดมะเร็ง เนื้องอกในสมอง อัลไซเมอร์ โรคพาร์กินสัน โรคติดเชื้อ เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ กระดูกพรุน เป็นต้น ผู้ที่นั่งหน้าจอโทรทัศน์ หรือจอคอมพิวเตอร์จำต้องมีมาตรการป้องกัน คือควรต้องมีการใช้แผ่นกรองรังสี ที่ส่งออกมาจากหน้าจอ ในต่างประเทศพบว่ามีคนที่อยู่หน้าคอมพ์ ทำงานถึงกับช็อกมาแล้ว โดยมีสาเหตุมาจากคลื่น แม่เหล็กไฟฟ้าแผ่รังสีออกมาหรือทำให้บางคนประสาทตาเสีย มีอาการปวดศีรษะปวดตา อาเจียน หากได้รับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ามากๆ ร่างกายจะเกิดสภาวะเลือดข้นขึ้นทำให้เลือดในร่างกายหมุนเวียน ได้ยาก ของเสียผ่านออกมาได้ลำบาก ..ฉะนั้นจะใช้ประโยชน์อะไรก้เอาแต่พอควรไม่เช่นนั้นประโยชน์จะกลายเป็นโทษเอาซะง่ายๆ จากคุณ : cannabii - [ 20 ก.ค. 49 17:39:08 A:61.19.231.4 X: TicketID:123693 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณทุกความเห็นครับ เสียอย่างเดียวถ้ามีภาพประกอบด้วยจะน่าสนใจนะครับ จากคุณ : rujroadk - [ 20 ก.ค. 49 17:42:02 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับ สารเคมี กรรมวิธีการผลิต จากหลักการ electrolysis หลักการเดียวกับการแยกน้ำด้วยไฟฟ้า ใช้ไฟฟ้า 80 ka ในระหว่าง cell ที่ทำงานอยู่นี้มีสนามแม่เหล็กมากมาย สามารถดูด ประแจให้ยืนอยู่ได้ ถ้าทำงานนานเป็นหลายปี คลื่นแม่เหล็กนี้จะทำลาย หรือมีผลกระทบต่อร่างกาย โดยคลื่นแม่เหล็กจะมีผลทำให้เป็นโรคมะเร็งได้ในระยะยาวค่ะ ซึ่งควรจะหาทางป้องกัน เช่น ใส่เสื้อคลุมที่มีตัวป้องกันคลื่นแม่เหล็ก เป็นต้น และควรพบแพทย์เพื่อทำการตรวจสุขภาพทุกปีค่ะ จากคุณ : fernny_techno - [ 20 ก.ค. 49 17:42:16 A:10.0.2.1 X:61.7.162.180 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เราได้ทราบถึงประโยชน์และโทษของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าแล้วและเราควรจะรู้ถึงประวัติการเกิดแม่เหล็กไฟฟ้ากันบ้างพอสังเขปค่ะ แม่เหล็กไฟฟ้าใช้ไฟจากแบตเตอรี่ เป็นแหล่งจ่ายกระแสไฟฟ้า ให้หาแบตเตอรี่ หรือ ถ่านไฟฉายจะเห็นขั้วไฟฟ้า 2 ขั้ว คือขั้วบวก + และขั้วลบ - โดยปกติอิเล็กตรอนซึ่งเป็นประจุลบจะเคลื่อนที่จากขั้วลบไปที่ขั้วบวกของแบต ถ้าเราต่อสายไฟให้ครบวงจร โดยถ้าต่อสายไฟจากขั้วบวกไปที่ขั้วลบโดยตรง มีปรากฎการณ์เกิดขึ้นดังต่อไปนี้ 1.อิเล็กตรอนไหลจากขั้วลบไปที่ขั้วบวกอย่างรวดเร็ว 2.พลังงานภายในแบตจะหมดอย่างรวดเร็ว ดังนั้นไม่ควรต่อสายไฟตรง ให้ใช้สวิทซ์ หรือ ต่อตัวต้านทานหรือภาระให้กับแบตด้วย ภาระที่ว่าคือ มอเตอร์ หลอดไฟ และวิทยุเป็นต้น 3.สนามแม่เหล็กจะเกิดขึ้นรอบสายไฟเมื่อมีกระแสไฟฟ้าไหล สนามแม่เหล็กที่เกิดขี้นนี้จะนำเราไปสู่การสร้างแม่เหล็กไฟฟ้า จากคุณ : ข้าวปั้น - [ 20 ก.ค. 49 18:14:14 A:202.28.21.4 X: ]

ความคิดเห็นที่ 18 สเปกตรัม (Spectrum) ของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจะประกอบด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความถี่และความยาวคลื่นแตกต่างกัน ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ คลื่นแสงทีตามองเห็น อัลตราไวโอเลต อินฟราเรด คลื่นวิทยุ โทรทัศน์ ไมโครเวฟ รังสีเอกซ์ รังสีแกมมา เป็นต้น ดังนั้นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า จึงมีประโยชน์มากในการสื่อสารและโทรคมนาคม และทางการแพทย์ จากคุณ : น้ำใจ - [ 20 ก.ค. 49 18:31:05 A:202.28.21.4 X: ]

ความคิดเห็นที่ 19 แม่เหล็กไฟฟ้าทำให้เราได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น เช่น ใช้โทรศัพท์ติดต่อสื่อสารกันโดยที่ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง แต่ก็ควรใช้เท่าที่จำเป็นไม่ควรใช้โทรศัพท์มากเกินไปเพราะมีอันตรายมากเช่นกัน จากคุณ : tipffy_techno - [ 20 ก.ค. 49 18:58:57 A:10.0.2.1 X:61.7.162.188 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าช่วยส่งสัญญาณคลื่นได้ดี จากคุณ : Pinky_k - [ 20 ก.ค. 49 21:08:28 A:125.24.91.136 X: ]

ความคิดเห็นที่ 21 เวลาฟ้าร้องฟ้าแลบ ห้ามโทรศัพท์ค่ะ จากคุณ : อเมทิสต์ - [ 20 ก.ค. 49 22:08:30 A:125.24.88.10 X: ]

ความคิดเห็นที่ 22 คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ามีประโยชน์ต่อเรามากมาย สามารถล่งคลื่นต่างได้ เช่นคลื่นโทรศัพท์ ทำให้เราได้รับความสะดวกสบาย จากคุณ : songyot - [ 20 ก.ค. 49 22:13:51 A:61.7.162.188 X: ]

ความคิดเห็นที่ 23 ไฟฟ้าและสภาวะแม่เหล็กมีความเกี่ยวพันกันอย่างใกล้ชิด ในศตวรรษที่ 19มีการค้นพบอันยิ่งใหญ่เกี่ยวกับ เรื่องนี้ 2 ประการ ประการแรก ขดลวดที่นำกระแสไฟฟ้ากระทำตัวเป็นเสมือนแม่เหล็กได้ ประการหลัง การเปลี่ยนแปลงภาวะแม่เหล็กทำให้มีกระแสไฟฟ้าไหลได้จึงทำให้มีข้อสรุปว่าการเปลี่ยนแปลงกระแส ไฟฟ้า ในขดลวดเส้นหนึ่งทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าไหลในขดลวดอีกเส้นหนึ่งได้ การค้นพบดังกล่าวนี้มีประโยชน์อย่างยิ่ง ต่อชีวิตประจำวันของคนเราเพราะทำให้เราสร้างเครื่องกำเหนิดไฟฟ้าซึ่งเปลี่ยนพลังงานในเชื้อเพลิงเช่นจากถ่านหิน หรือน้ำมันให้ไปเป็นกำลังไฟฟ้าได้อย่างเหลือเฟือทั้งนี้เพียงแต่นำขดลวดที่มีกระแสไฟฟ้าไหลไปพันรอบขดลวด เส้นอื่น เท่ากับเป็นการเพิ่มกระแสไฟฟ้าให้มีกำลังมากขึ้นกว่าเดิมได้จากกำลังเพียงเล็กน้อยก็จะได้กระแสไฟฟ้ามาใช้ทำงานได้ แล้วสิ่งประดิษฐ์อิเล็กทรอนิคส์อาศัยประโยชน์ จากความสัมพันธ์ อันใกล้ชิดระหว่างสภาวะแม่เหล็กและไฟฟ้าในการ สร้างเสียงดนตรี ภาพ หรือแม้กระทั้งคลื่นวิทยุ จากคุณ : One_Way - [ 20 ก.ค. 49 22:27:32 A:125.24.88.10 X: ]

ความคิดเห็นที่ 24 เมื่อ พ.ศ. 2431 นักฟิสิกส์ชาวเยอรมันเชื้อสายยิวผู้หนึ่งชื่อ ไฮน์ริช เฮิรตซ์ ได้ค้นพบคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าระหว่างขั้วไฟฟ้าสองขั้วที่เกิดจากการสปาร์ก และรับสัญญาณที่สปาร์กนี้ได้ในระยะไกลหลายเมตร การค้นพบครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ครั้งสำคัญที่สุดครั้งหนึ่ง เพราะต่อมาได้มีการนำคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่เฮิรตซ์ค้นพบ (ซึ่งในสมัยนั้นเรียกว่า คลื่นเฮิรตซ์ (Hertzian waves) มาประยุกต์ใช้ในการสื่อสาร โดยใน พ.ศ. 2441 มาร์โคนี นักประดิษฐ์ชาวอิตาเลียน สามารถสร้างระบบส่งและรับโทรเลขโดยใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าได้เป็นผลสำเร็จ ถัดมาอีก 3 ปี คือใน พ.ศ. 2444 มาร์โคนี ประสบความสำเร็จครั้งใหญ่เมื่อสามารถส่งคลื่นเฮิรตซ์ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก จากประเทศอังกฤษไปยังนิวฟาวน์แลนด์ ประเทศคานาดา ความสำเร็จของมาร์โคนีเป็นการเปิดโฉมหน้าใหม่ของการติดต่อสื่อสารระยะไกลโดยใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นครั้งแรก มีผลทำให้การสื่อสารเป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็ว ต่อมาเมื่อมีการผสมสัญญาณเสียง สัญญาณภาพเข้ากับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าได้ก็ทำให้เกิดวิทยุกระจายเสียง และวิทยุโทรทัศน์ ตามลำดับ พัฒนาการอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีด้านอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ทำให้เครื่องมือและอุปกรณ์การสื่อสารต่าง ๆ มีประสิทธิภาพสูง ทำให้การติดต่อสื่อสารเป็นไปอย่างรวดเร็ว และกว้างขวางครอบคลุมไปทั่วโลก เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ เทคโนโลยีข่าวสารข้อมูลระหว่างกัน ทำให้เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จึงอาจกล่าวได้ว่าคลื่นวิทยุมีส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว จากคุณ : สายน้ำไม่มีวันไหลย้อนกลับ - [ 20 ก.ค. 49 22:41:05 A:125.24.92.79 X: ]

ความคิดเห็นที่ 25 รู้ป่ะ!! รถไฟพลังงานแม่เหล็กมีชื่อเรียกเป็นทางการว่า รถไฟแมกเลฟ ( Maglev trains ) ด้วยอำนาจการผลักดันของแม่เหล็กทำให้รถไฟทั้งคันลอยอยู่เหนือรางเล็กน้อย จึงไม่มีแรงเสียดทาน วิ่งได้เร็วเทียบได้กับจรวด ไม่เหมือนกับรถไฟแบบเก่าที่ใช้ล้อเหล็กกลิ้งอยู่บนราง จริงๆนะ จากคุณ : Kae_techno - [ 20 ก.ค. 49 22:43:13 A:125.24.91.136 X: ]

ความคิดเห็นที่ 26 คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ามีความยาวคลื่น และความถี่ต่อเนื่องกันเป็นช่วงกว้าง กล่าวคือ ความถี่ตั้งแต่ 1 เฮิรตซ์ ถึงประมาณ 1025 เฮิรตซ์ ความยาวคลื่นตั้งแต่ 108 เมตร ถึง 10-17เมตร โดยมีความสัมพันธ์กันตามสูตร์ c=f เมื่อกระจายคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่ต่างๆ ออกไป เราเรียกคลื่นทุกค่าความถี่รวมกันว่า "สเปกตรัมของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า" (electromagnetic spectrum) ย่านต่างๆ ของสเปกตัมของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า มีชื่อเรียกเฉพาะแต่ละย่าน เช่น แสง,คลื่นความร้อน, คลื่นวิทยุ, รังสีเอกซ์ เป็นต้น จากคุณ : Melbourne - [ 20 ก.ค. 49 22:45:45 A:125.24.92.79 X: ]

ความคิดเห็นที่ 27 การทำให้แม่เหล็กหมดอำนาจในการเป็นแม่เหล็ก ทำได้โดยการให้ความร้อน ทุบ ตี หรือวางไว้ในที่ๆสนามแม่เหล็กกลับไปกลับมาอย่างรวดเร็ว จากคุณ : papiyong - [ 20 ก.ค. 49 22:50:13 A:192.168.2.112 X:203.150.99.221, 203.151.141.194 ]

ความคิดเห็นที่ 28 คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เกิดจากการรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic disturbance) โดยการทำให้สนามไฟฟ้าหรือสนามแม่เหล็กมีการเปลี่ยนแปลง เมื่อสนามไฟฟ้ามีการเปลี่ยนแปลงจะเหนี่ยวนำให้เกิดสนามแม่เหล็ก หรือถ้าสนามแม่เหล็กมีการเปลี่ยนแปลงก็จะเหนี่ยวนำให้เกิดสนามไฟฟ้า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นคลื่นตามขวาง ประกอบด้วยสนามไฟฟ้าและสนามแม่เหล็กที่มีการสั่นในแนวตั้งฉากกัน และอยู่บนระนาบตั้งฉากกับทิศการเคลื่อนที่ของคลื่น คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นคลื่นที่เคลื่อนที่โดยไม่อาศัยตัวกลาง จึงสามารถ เคลื่อนที่ในสุญญากาศได้ จากคุณ : เด็กน้อย - [ 20 ก.ค. 49 22:52:29 A:125.24.92.79 X: ]

ความคิดเห็นที่ 29 เราจะกล่าวถึงโทรศัพท์ในยุคแรกๆ ซึ่งโทรศัพท์นับเป็นเครื่องมือสื่อสารที่สำคัญอย่างหนึ่งสำหรับมนุษย์มานานนับศตวรรษแล้ว พัฒนาการของโทรศัพท์อาศัยเทคนิคทั้งทางไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ แต่เดิมโทรศัพท์จัดเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าเท่านั้น เพราะไม่ได้ประกอบด้วยชิ้นส่วนที่ยอมให้ไฟฟ้าควบคุมไฟฟ้าด้วยกัน เมื่อเราหมุนหมายเลขโทรศัพท์ จานกลม ๆจะหมุนและไปม้วนขุดสปริง ซึ่งจะไปบังคับส่วนสัมผัสเคลื่อนที่ได้ให้ส่งสัญญาณตัวเลขนั้นแก่ชุมสายและเมื่อมีโทรศัพท์เรียกเข้ามา เราก็จะได้ยินสัญญาณเสียงจากค้อนเคาะกระดิ่ง 2 อัน ซึ่งการเคลื่อนไหวของค้อนนี้เกิดจากการควบคุมของแม่เหล็กไฟฟ้า จากนั้นเสียงพูดจะขยายดังขึ้น ด้วยไมโครโฟนที่อยู่ในหูโทรศัพท์ โทรศัพท์แบบนี้ยังไม่มีหน่วยความจำใด ๆแต่ก็ถือเป็นต้นแบบของโทรศัพท์ที่คิดค้นขึ้นในศตวรรษที่ 19 ก่อนที่จะพัฒนามาเป็น อิเล็กทรอนิกส์และมีใช้งานกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน จากคุณ : PINK GIRL - [ 20 ก.ค. 49 23:30:17 A:10.0.2.1 X:61.7.162.187 ]

ความคิดเห็นที่ 30 สวัสดีครับ..จากกระทู้ด้านบนก็โพสด์กันซะหมดอแล้วจนคนข้างหลังไม่รู้จะโพสด์อะไรแล้ว เอาเป็นว่าส่วนมากแล้วเราใช้ประโยชน์จากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเครื่องใช้ไฟฟ้าก็อ่านฉลากให้ครบถ้วนเข้าใจก่อนใช้งานทุกครั้งละกัน ด้วยความเป็นห่วง... จากคุณ : -kyo-- - [ 20 ก.ค. 49 23:45:56 A:125.24.88.10 X: ]

ความคิดเห็นที่ 31 รู้ไหมว่า???... เมื่อเราคิดหรือทำอะไร จะทำให้เกิดการกระตุ้นสารเคมีที่มีภาวะแบบ "แม่เหล็กไฟฟ้า" การกระตุ้นดังกล่าวจะส่งผ่านไปยังจุดเชื่อมต่อของเซลล์ใดเซลล์หนึ่ง และส่งสารข้ามไปยังจุดเชื่อมต่อของเซลล์ข้างเคียงที่ใช้ปากจูจุ๊บรับข่าวสารไป จากคุณ : อุตร้าแมนตัวจิ๋ว - [ 20 ก.ค. 49 23:49:56 A:203.156.61.24 X: ]

ความคิดเห็นที่ 32 เห็นด้วยคะ ว่าแม่เหล็กไฟฟ้ามีทั้งคุณทั้งโทษ ดังนั้นเราควรที่จะศึกษาถึงประโยชน์และโทษของแม่เหล็กไฟฟ้าเพื่อการปรับใช้ในชีวิตประจำวันอย่างถูกต้อง... - X-rays: รังสีเอ็กซ์ เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่สามารถทำให้แก๊สเกิดเป็นไอออนทำให้สารบาง - Electromagnetic waves คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นคลื่นตามขวาง ประกอบด้วยการสั่นของสนามไฟ ฟ้าและสนามแม่เหล็กมีช่วงความถี่ กว้างสามารถเคลื่อนที่ผ่านตัวกลาง ทุกชนิดรวมถึงสุญญากาศ เมื่อถูกดูดกลืนจะมีผลให้อุณหภูมิสูงขึ้น คลื่นวิทยุและรังสีเอ็กซ์ ถูกปล่อยออกไปเมื่ออิเล็กตรอน อิสระถูกเร่ง หรือถูกหน่วงเช่น ผลจรากการถูกชน คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าชนิดอื่นๆ ทั้งหมด เกิดเมื่อโมเลกุลเปลี่ยนระดับพลังงาน และเกิดขึ้นในลักษณะของพัลส์ เรียกว่า โฟตอน ซึ่งไม่ใช่ลำพลังงานที่ต่อเนื่องสำหรับความยาวคลื่นและความถี่ของ คลื่นชนิดต่างๆ ชนิดเรืองแสง และทำให้เกิดปฏิกิริยาเคมีบนฟิล์มถ่ายรูป รังสีเอ็กซ์ผลิต จากหลอดรังสีเอ็กซ์ และนำไปใช้ประโยชน์หลายอย่าง จากคุณ : ปลาทอง>_< - [ 21 ก.ค. 49 00:06:38 A:192.168.2.3 X:203.150.96.133, 203.151.141.195 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ห้ามเปิดทีวีขณะฟ้าร้อง จากคุณ : - NP - - [ 21 ก.ค. 49 00:15:37 A:125.24.88.10 X: ]

ความคิดเห็นที่ 34 เอ๋ IP มันซ้ำกัน จากคุณ : benzzuza - [ 21 ก.ค. 49 00:31:40 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เมื่อปล่อยกระแสไฟฟ้าเข้าไปในขดลวดจะทำให้ขดลวดสามารถแสดงอำนาจความเป็นแม่เหล็กเกิดขึ้นได้ และอำนาจแม่เหล็กจะหมดไปเมื่อหยุดปล่อยกระแสไฟฟ้า จากคุณ : Casanova - [ 21 ก.ค. 49 03:28:17 A:203.209.44.25 X: ]

ความคิดเห็นที่ 36 แม่เหล็กไฟฟ้านั้นมีประโยชน์มากมายเกี่ยวกับการใช้ชีวิตประจำวันของมนุษย์เราทุกวันนี้มากเพราะว่าแม่เหล็กไฟฟ้านั้นได้นำมาเป็นส่วนประกอบในอุปกรณ์ต่างๆมากมายเช่น วิทยุ โทรทัศน์ โทรศัพท์ ไมโครโฟน มอเตอร์ไฟฟ้า เครื่องดูดฝุ่น ตู้เย็น ตู้แช่แข็ง เครื่องซักผ้า รีเลย์ต่างๆ ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้เราจำเป็นที่จะต้องใช้ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว จากคุณ : >.<Pangya - [ 21 ก.ค. 49 11:51:56 A:203.155.14.4 X: ]

ความคิดเห็นที่ 37 นานาสาระวันนี้ขอนำเสนออุปกรณ์เกี่ยวกับการใช้หลักการแม่เหล็กไฟฟ้าค่ะ คือ รีเลย์ รีเลย์ (Relay) คือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ทำหน้าที่ ตัด-ต่อวงจร คล้ายกับสวิตซ์ โดยใช้หลักการหน้าสัมผัส และการที่จะให้มันทำงานก็ต้องจ่ายไฟให้มันตามที่กำหนด เพราะเมื่อจ่ายไฟให้กับตัวรีเลย์ มันจะทำให้หน้าสัมผัสติดกัน กลายเป็นวงจรปิด และตรงข้ามทันทีที่ไม่ได้จ่ายไฟให้มัน มันก็จะกลายเป็นวงจรเปิด ไฟที่เราใช้ป้อนให้กับตัวรีเลย์ก็จะเป็นไฟที่มาจาก เพาเวอร์ฯ ของเครื่องเรา ดังนั้นทันทีที่เปิดเครื่อง ก็จะทำให้รีเลย์ทำงาน ประเภทของรีเลย์ เป็นอุปกรณ์ทำหน้าที่เป็นสวิตช์มีหลักการทำงานคล้ายกับ ขดลวดแม่เหล็กไฟฟ้าหรือโซลินอยด์ (solenoid) รีเลย์ใช้ในการควบคุมวงจร ไฟฟ้าได้อย่างหลากหลาย รีเลย์เป็นสวิตช์ควบคุมที่ทำงานด้วยไฟฟ้า แบ่งออกตามลักษณะการใช้งานได้เป็น 2 ประเภทคือ รีเลย์กำลัง (Power relay) หรือมักเรียกกันว่าคอนแทกเตอร์ (Contactor or Magneticcontactor)ใช้ในการควบคุมไฟฟ้ากำลัง มีขนาดใหญ่กว่ารีเลย์ธรรมดา รีเลย์ควบคุม (Control Relay) มีขนาดเล็กกำลังไฟฟ้าต่ำ ใช้ในวงจรควบคุมทั่วไปที่มีกำลังไฟฟ้าไม่มากนัก หรือเพื่อการควบคุมรีเลย์หรือคอนแทกเตอร์ขนาดใหญ่ รีเลย์ควบคุม บางทีเรียกกันง่าย ๆ ว่า "รีเลย์" จากคุณ : photo - [ 21 ก.ค. 49 12:07:43 A:203.155.14.4 X: ]

ความคิดเห็นที่ 38 แม่เหล็กไฟฟ้ามีทั้งคุณและโทษ ถ้าใช้ให้ถูกวิธีก็จะไม่เกิดโทษกับเรา จากคุณ : guly - [ 21 ก.ค. 49 12:12:16 A:61.19.231.4 X: ]

ความคิดเห็นที่ 39 รู้ใหมคะว่าภายในแม่เหล็กประกอบด้วยสารอะไรบ้าง? Ferromagnetic : สารแม่เหล็ก หมายถึง วัตถุที่เป็นแม่เหล็กอย่างแรง(ทำให้เป็นแม่เหล็กได้ง่าย) ได้แก่ เหล็ก นิเกิล โคบอลต์ และ สารประกอบของโลหะเหล่านี้ แบ่งเป็นสารแม่เหล็กถาวร และสารแม่เหล็กชั่วคราว แม่เหล็กผสมทำด้วยสารแม่เหล็กหลายชนิดดังกล่าว ทำให้เป็นของแข็งด้วยความร้อนและความกดดัน สามารถทำให้เป็นแม่เหล็กถาวรมากขึ้น หรือเป็นสารแม่เหล็กชั่วคราวมากขึ้น โดยการเปลี่ยนส่วนผสมเป็นของสารที่ใช้ Hard: สารแม่เหล็กถาวร เป็นสารแม่เหล็กที่ไม่เสียอำนาจแม่เหล็กง่ายหลังจากถูกทำให้เป็นแม่เหล็กถาวรแล้ว เช่น เหล็กกล้า แม่เหล็กที่ทำด้วยสารเหล่านี้เรียกว่า แม่เหล็กถาวร Soft : สารแม่เหล็กชั่วคราว เป็นสารแม่เหล็กที่ไม่สามารถรักษาอำนาจแม่เหล็กได้นานหลังจากถูกทำให้เป็นแม่เหล็กแล้ว เช่น เหล็กธรรมดา แม่เหล็กที่ทำด้วยสารแม่เหล็กประเภทนี้เรียกว่า แม่เหล็กชั่วคราว สภาพแม่เหล็กที่หลงเหลือในสารแม่เหล็กชั่วคราวเรียกว่า แม่เหล็กตกค้างสารแม่เหล็กชั่วคราวใช้ทำเป็น แกนของแม่เหล็กไฟฟ้า. จากคุณ : ข้าวสวย - [ 21 ก.ค. 49 12:40:49 A:202.28.21.4 X: ]

ความคิดเห็นที่ 40 เห็นด้วยครับว่า แม่เหล็กไฟฟ้ามีทั้งคุณประโยชน์และโทษเหมือนกัน เช่น หูฟังต่างๆๆ ประโยชน์ของมันคือเราได้ยินเสียงได้สร้างความบันเทิงเวลาเราฟัง แต่โทษของมันคือถ้าเราฟังดังเกินก็เป็นอันตรายต่อเยื่อแก้วหูได้ และถ้าฟังนานมากเกินไปเป็นระยะเวลานานอาจทำให้หูหนวกเลยได้ จากคุณ : ว่าน(หางจรเข้) - [ 21 ก.ค. 49 13:36:27 A:203.188.47.220 X: ]

ความคิดเห็นที่ 41 รู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ - - จากคุณ : ม่อน (bodin) - [ 21 ก.ค. 49 17:38:30 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เห็นด้วยค่ะ เพราะเทคโนโลยีส่วนใหญ่จะใช้แม่เหล็กไฟฟ้าหรือสนามแม่เหล็กในการผลิตอุปกรณ์ เช่น แบตเตอร์รี่ ถ่านไฟฉาย และปัจจุบันเป็นยุคของเทคโนโลยีด้วยค่ะ จากคุณ : omeos - [ 21 ก.ค. 49 19:03:52 A:203.155.14.4 X: ]

ความคิดเห็นที่ 43 หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่เราเห็นๆ กันอยู่ ก็ใช้หลักการของแม่เหล็กไฟฟ้านะคะ จากคุณ : Omeos - [ 21 ก.ค. 49 19:17:32 A:125.24.91.136 X: ]