ความคิดเห็นที่ 10
เหตุการณ์นี้เกิด เมื่อปี 2546 ครับ
ฝนตกอาจ อดมอง ดาวอังคาร ด้วยตาเปล่า
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 27 สิงหาคม 2546 14:07 น.
ดาวอังคาร ใกล้โลก ปรากฎการณ์ทางดาราศาสตร์ที่หลายๆ คนกำลังจับตาอยู่ กำลังจะเกิดขึ้นแล้วในค่ำคืนนี้ กระทรวงวิทย์ - ท้องฟ้าจำลองเตรียมตั้งกล้องดูดาวให้ประชาชนที่สนใจมาดูดวงอังคารที่จะโคจรเข้าใกล้โลกที่สุดในรอบ 60,000 ปี แต่อาจพลาดหวังหากฝนเทลงมาเสียก่อน ท้องฟ้าจำลองและกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เตรียมติดตั้งกล้องดูดาวขนาดมาตรฐานเพื่อรองรับประชาชนที่จะมาดูดวงอังคารในค่ำคืนนี้ ซึ่งเป็นการโคจรของดวงดาวอังคารที่เข้ามาใกล้โลกที่สุดคือ 55 ล้านกิโลเมตร ในรอบ 60,000 ปี ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามดูปรากฎการณ์ดาวอังคารใกล้โลกได้อย่างชัดเจนในคืนวันนี้ 27 สิงหาคม ตั้งแต่เวลา 20.00 น. จนถึงรุ่งเช้าก่อนดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ อย่างไรก็ตาม ที่บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ด้านหน้าอาคารสำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ถนนโยธีก็มีการติดตั้งกล้องโทรทรรศน์จำนวน 3 ตัว พร้อมจอโปรเจ็คเตอร์เพื่อถ่ายทอดสดให้ประชาชนที่สนใจเข้ามาร่วมกิจกรรม โดยวานนี้ (26 ส.ค.) ได้ตั้งกล้องดูไปแล้วในช่วงหัวค่ำ แต่เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักทำให้มองไม่เห็นดาวอังคาร ทั้งนี้ จะสามารถติดตามปรากฎการณ์ดาวอังคารโคจรใกล้โลกได้ไปจนถึงสิ้นเดือนกันยายนนี้ แต่ความสว่างจะค่อยๆลดลง เนื่องจากดาวอังคารจะมีความสว่างสุกใสเป็นสีส้มแดง และมีขนาดดวงใหญ่ที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=4683400704263 ตั้งกล้องดู ดาวอังคารใกล้โลก 27 สิงหานี้
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 26 สิงหาคม 2546 13:39 น. ภาพจากเว็บไซต์ Darasart.com
กระทรวงวิทย์ฯ จับมือสมาคมดาราศาสตร์ไทย ชวนดูปรากฏการณ์ในรอบ 60,000 ปีที่ดาวอังคารโคจรใกล้โลกมากที่สุดวันที่ 27 สิงหาคมนี้ ซึ่งจะเกิดอีกครั้งในอีก 280ปีข้างหน้า อย่างไรก็ตามจะตั้งกล้องให้ประชาชนชมในวันที่ ๒๖สิงหาคม ที่หน้ากระทรวงวิทย์ฯ แต่หวั่นฟ้าฝนไม่เป็นใจเป็นอุปสรรคในการดู แต่หลังวันที่ 27 สิงหาคมแล้วยังสามารถชมได้อีกถึงสิ้นปี ดร.ศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช รองปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) พร้อมด้วย น.ส.ประพีร์ วิราพร นายกสมาคมดาราศาสตร์ไทย นายพรชัย อมรศรีจิรทร และนายวิษณุ เอื้อชูเกียรติ กรรมการบริหารสมาคมดาราศาสตร์ไทย ร่วมกันแถลงปรากฏการณ์ดาวอังคารใกล้โลกในรอบ 60,000 ปีขึ้น โดย ดร.ศักดิ์สิทธิ์ กล่าวว่า เนื่องจากในวันที่ 27 สิงหาคม จะเกิดปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่สำคัญอีกครั้งหนึ่ง โดยดาวอังคารโคจรใกล้โลกมากที่สุดในรอบ 60,000 ปีซึ่งจะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ตั้งแต่เวลา 20.00 น.ของวันที่ 27 สิงหาคมจนถึงรุ่งเช้าก่อนดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ โดยปรากฏการณ์ครั้งนี้นับว่ามีความสำคัญอย่างมากคนทั่วโลกต่างให้ความสนใจ เนื่องจากดาวอังคารจะมีความสว่างสุกใสเป็นสีส้มแดง และมีขนาดดวงใหญ่ที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน ดังนั้น วท.จึงร่วมกับสมาคมดาราศาสตร์ไทย เตรียมตั้งกล้องโทรทัศน์จำนวน 3 ตัวที่บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 พร้อมทั้งตั้งจอโปรเจ็กเตอร์เพื่อถ่ายทอดสดให้ประชาชนที่สนใจเข้ามาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ได้ตั้งแต่เวลา 20.00 -22.00 น. ของวันนี้ (26 สิงหาคม) เตรียมตั้งกล้องดูได้ น.ส.ประพีร์ กล่าวว่า ในการเกิดปรากฎการณ์ครั้งนี้ จะไม่มีผลต่อการเกิดฝนตกน้ำท่วมหรือการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติอื่นๆ ที่กำลังเกิดอยู่ทั่วโลก และไม่อยากให้นำไปเชื่อมโยงกับศาสตร์แขนงอื่นๆ การที่ดาวอังคารโคจรใกล้โลกมากถึง 55.8 ล้านกิโลเมตรครั้งนี้ เป็นโอกาสดีที่เยาวชน ประชาชนจะได้ศึกษาหาความรู้ เพราะกว่าจะเกิดอีกครั้งประมาณ 280 ปี หรือ พ.ศ. 2830 แต่ยังไม่เข้าใกล้โลก อย่างไรก็ตามการชมปรากฏการณ์ครั้งนี้ อาจจะมีอุปสรรคในเรื่องฝนและพายุดีเปรสชั่น ทำให้ฟ้าไม่ใสเท่าที่ควร หากดีเปรสชั่นผ่านไปก็คงสดใส แต่ไม่ได้หมายความว่าพ้นจากวันที่ 27 สิงหาคมแล้ว จะไม่เห็นดาวอังคาร ถ้าฟ้าใสเมื่อใดก็มีดาวอังคารได้ โดยสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ถ้าฟ้าใสเมื่อใดจะเห็นดาวอังคารอยู่ที่ฟ้าตะวันออกเฉียงใต้ ดวงสว่างมากและถ้านอนดึกอยู่กลางฟ้าพอดี ถ้าตอนเช้ามืดก็อยู่ทางฟ้าตะวันตกเฉียงใต้สามารถดูได้อีกหลายวันจนเกือบสิ้นปี ในทั่วประเทศและทั่วโลก น.ส.ประพีร์ กล่าว นายวิษณุ กล่าวว่า จากการศึกษาข้อมูลดาวอังคารยังพบว่ามีการตั้งชื่อสถานที่ที่เป็นภาษาไทยอยู่นอกโลกจำนวนหนึ่งจากทั้งหมด 8,000 ชื่อโดยการตั้งชื่อดังกล่าวนั้น สหพันธ์ดาราศาสตร์สากลได้หยิบเอาชื่อจากประเทศต่าง ๆ หรือวัฒนธรรม ชื่อบุคคล สถานที่ ตำนานต่างในโลกโดยเฉลี่ยให้แต่ละประเทศตามส่วนของทวีปและประเทศที่มีในโลก รวมทั้งจากประเทศไทย สำหรับบนดาวอังคารปรากฎมีหลุมอุกาบาตขนาดเล็กรวม 7 แห่งที่ปรากฏอยู่ ดังนี้ Kantang อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 55 กิโลเมตร ซึ่งนับว่าใหญ่ที่สุดในบรรดาหลุมอุกาบาตชื่อไทยบนดาวอังคาร รองลงมาคือ หลุม Thom อำเภอนาทม จังหวัดนครพนม ขนาด 24 กิโลเมตร Yala จังหวัดยะลา ขนาด 19.8 กิโลเมตร Chatturat อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ ขนาด 8.2 กิโลเมตร Phon อำเภอพล จังหวัดขอนแก่น ขนาด 3.7 กิโลเมตร Tak จังหวัดตาก ขนาด 5.1 กิโลเมตร และ Nan จังหวัดน่าน 1.9 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังมีอีก 1 หุบเขา คือ Dao Vallis หรือ หุบเขาดาว ซึ่งเป็นร่องกว้างที่แสดงว่ามีเคยมีน้ำไหลบนดาวอังคารเมื่อในอดีตอีกด้วย นายพรชัย กล่าวถึงเทคนิคการบันทึกภาพดาวอังคาร ว่า การถ่ายภาพดาวอังคารอย่างง่าย ๆ คือใช้กล้องถ่ายภาพที่สามารถเปิดรับแสงได้นานประมาณ 3-4 วินาที เช่นกล้องประเภทดิจิตอล หรือกล้องถ่ายแบบสะท้อนภาพเลนส์เดี่ยวก็ได้ แต่หากต้องการให้ภาพดาวมีรายละเอียด และมีขนาดใหญ่จำเป็นต้องใช้กล้องดูดาวกำลังขยายปานกลางถึงสูงเข้าช่วย โดยต่อกล้องดูดาวที่ใส่เลนส์ตาเข้ากับกล้องดิจิตอลได้โดยตรง ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมมากในการถ่ายภาพดาวทั้งในประเทศและต่างประเทศซึ่งทางสมาคมดาราศาสตร์ เตรียมอำนวยความสะดวกให้กับสื่อมวลชน และประชาชนที่สนใจจะบันทึกภาพประวัติศาสตร์ครั้งนี้เอาไว้ด้วย โดยจะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 20.00 น.เป็นต้นไปที่บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 4 ด้านหน้ากระทรวงวิทยาศาสตร์ ถนนโยธี http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?newsID=4618158394694
จากคุณ :
Max2000
- [
11 ส.ค. 49 01:06:49
]
|
|
|