ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าอยู่ในทะเล เค้าอัดน้ำทะเลลงไปครับ แต่เดี๋ยวนี้ไม่รู้เปลี่ยนไปยังนะ อันี้พ่อเล่าให้ฟัง ร่วม 15 ปีแล้ว สมัยก่อน พ่อเคยไปทำงาน บนแท่นขุดเจาะ จากคุณ : . ไม่สามารถใช้การได้ชั่วคราว . - [ 4 ก.ย. 49 02:10:46 A:124.120.3.97 X: TicketID:126422 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ระหว่างสูบก็เติมน้ำทะเลลงไปครับ จากคุณ : Devil (daemonview) - [ 4 ก.ย. 49 03:57:42 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ปกติ น้ำมันก็ขยายตัวแค่นั้นเองครับ คือความดันของแหล่งน้ำมันจะลดลง การที่น้ำมันไหลขึ้นมาบนพื้นผิวได้ เพราะมันมีความดันสูงกว่า เช่น ตอนก่อนผลิต ความดันในแหล่งน้ำมันเป็น 5000 psi พอผลิตขึ้นมา ความดันมันก็จะลดลงแล้วแต่ว่าผลิตขึ้นมาเท่าไหร่ ถ้าปล่อยให้ไหลตามปกติอัตราการไหลจะค่อยๆลดลงจนหลุดไหล แม้ว่าความดันในแหล่งผลิตยังสูงกว่า เพราะมันมีความสามารถในการไหลของน้ำมันในแหล่งน้ำมัน (วัตถุพรุน) เป็นแฟกเตอร์ด้วย เปรียบเทียบได้กับความเสียดทานที่ต้านการไหลของน้ำมัน อาจมีการอัดน้ำกลับเข้าไปในแหล่งน้ำมันเพื่อเพิ่มความดันในแหล่งน้ำมัน ทำให้ผลิตน้ำมันได้ต่อไปอีก แต่ก็ไม่สามารถนำน้ำมันขึ้นมาได้ทั้งหมด บางแห่ง เอาน้ำมันขึ้นมาได้สูงสุดแค่สิบเปอร์เซ็นต์เอง หลังจากนั้น อัตราการไหลจะไม่มากพอที่จะคุ้มค่าต่อการผลิต การอัดน้ำก็ต้องดูลักษณะของแหล่งน้ำมันด้วย เพราะถ้าอัดน้ำเข้าไปไม่ถูกตำแหน่ง มันจะไม่สามารถเพิ่มการผลิตได้ ถ้าแหล่งน้ำมันมีก๊าซธรรมชาติอยู่ด้วย อาจจะมีการอัดก๊าซเข้าไปเพื่อเพิ่มความดัน (แต่ก่อนที่ไม่มีการนำก๊าซธรรมชาติมาใช้ เค้าก็อัดก๊าซที่ได้กลับไปในแหล่งน้ำมันเพื่อให้เอาน้ำมันขึ้นมาได้มากขึ้น บางครั้งจะมีการอัดไอน้ำเข้าไปเพื่อเพิ่มอุณหภูมิของน้ำมันดิบ ทำให้มันหนืดน้อยลง ไหลได้ง่ายขึ้น เป็นต้น สรุป ไม่จำเป็นต้องมีอะไรเติมลงไปก็ผลิตได้ครับ แต่การอัดก๊าซหรือน้ำเข้าไปเพื่อให้สามารถดึงเอาน้ำมันขึ้นมาได้มากขึ้น ครับ อีกอย่าง อย่านึกว่าแหล่งน้ำมันเป็นเหมือนโพรงใหญ่ๆที่อยู่ใต้ดินนะ มันก็มีดินอัดแน่นเหมือนบริเวณทั่วๆไปนั่นแหละ เพียงแต่ว่าดินมีความพรุน (porous media) อยู่ ซึ่่งน้ำมันก็อยู่ในรูพรุนเหล่านั้น ดังนั้น ถึงเอาน้ำมันขึ้นมาหมด มันไม่ได้ทำให้เกิดโพรงใต้ดินนะครับ จากคุณ : ไทเกอร์ อู๊ด - [ 4 ก.ย. 49 08:13:47 A:141.158.200.117 X: TicketID:064569 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เข้าใจชัดแจ้งไปเลย ขอบคุณทุกท่านเป็นอย่างมากจริงๆ จากคุณ : คนบ้านนอก - [ 4 ก.ย. 49 10:10:58 A:69.3.58.221 X: TicketID:001531 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เข้ามาขอบคุณเช่นกันครับ.... จากคุณ : โจนาธาน ลิฟวิงสตัน - [ 4 ก.ย. 49 10:32:28 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ลดความดันลงขนาดนั้น ผมว่าดินมันก็ต้องยุบลงไปบ้างนะครับ จากคุณ : หน้าน่วม - [ 4 ก.ย. 49 22:23:45 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ^ ^ ดินยุบ ดินยุบ ธรณีสูบ ฮ่า... ตายยกันหมด จากคุณ : napatn - [ 5 ก.ย. 49 00:23:54 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ก็มีที่ดินยุบด้วยเช่นกันในหลายๆแห่ง แต่ไม่ได้ยุบเพราะเกิดโพรงขนาดใหญ่ใต้พื้นดิน แต่เกิดจากการดินเกิดการอัดตัวกันได้มากขึ้น เพราะของเหลวภายในรูพรุนของหินน้อยลง ตัวอย่างง่ายๆ ก็ สมุทรปราการนี่แหละ ที่ว่าสูบน้ำบาดาลมาใช้แล้วแผ่นดินทรุด เหมือนกันเลย เพียงแต่เปลี่ยนจากน้ำไปเป็นน้ำมัน แต่ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะทางธรณีวิทยาของชั้นหินบริเวณนั้นด้วย อาจจะเคยได้ยินข้อเสนอที่จะอัดน้ำกลับเข้าไปในแหล่งน้ำบาดาลที่สมุทรปราการ ก็เพื่อรักษาความดันให้มันสูงพอที่จะไม่เกิดการยุบตัวนั่นแหละ แต่คุ้มที่จะทำรึเปล่านี่ไม่รู้ จากคุณ : ไทเกอร์ อู๊ด - [ 5 ก.ย. 49 04:37:02 A:141.158.200.117 X: TicketID:064569 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขึ้นกับคำถามที่ผมเคยถามครับ (มี DNA ใน crude oil หรือไม่)  เพราะมันชี้ว่า น้ำมันดิบ เป็น fossil จริงๆหรือ  ถ้าไม่ใช่ ... reserve ยังเหลืออีกมาก และกลไก refill ก็ยังมี จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 5 ก.ย. 49 05:53:23 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ถึงแม้ว่า คห 9 จะเป็นจริง ก็คงไม่มีการ refill ได้เร็วขนาดที่ว่าผลิตได้โดยไม่ต้องหยุด ไม่งั้นป่านนี้ พวกหลุมผลิตที่ยกเลิกไปเพราะผลิตได้ไม่มากแล้วคงไม่มี การ refill ก็อาจใช้เวลาเป็นล้านปีได้เช่นกันนะ นอกจากว่าจะต้องขุดลงไปให้ถึงแหล่งกำเนิดจริงๆ (ถ้ามีจริง) จริงๆแล้วตอนนี้ที่เราขุดมาใช้กันเป็นแหล่งบนบกหรือใต้น้ำที่ยังไม่ลึกมาก คือบริเวณรอบๆทวีป แต่ที่ลึกลงไปอีกก็อาจจะมีอยู่อีกมาก แต่ปัญหาคือค่าใช้จ่ายและเทคโนโลยีที่จะใช้ในการผลิตจากแหล่งที่อยู่ลึกมากๆ ในมหาสมุทร จากคุณ : ไทเกอร์ อู๊ด - [ 6 ก.ย. 49 04:05:20 A:128.118.16.18 X: TicketID:064569 ]