PANTIP.COM : X4698225 ขอเปิดประเด็น ว่า คนหรือเทคโนโลยี อันไหนที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนองค์กรยุคใหม่ (อะไรที่ทำให้องค์กรเกิดประสิทธิภาพสูงสุด) []

ความคิดเห็นที่ 8

คุณช่างไฟครับ ลองดูข่าวบ้างนะครับ Ford เพิ่งเปลี่ยน CEO เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่วน GM น้ันเปลี่ยนไม่รู้กี่คนแล้วครับ เพราะมันไม่ทำกำไร

คุณช่างไฟต้องไปดูประวัติของ Apple ครับ เป็นตัวอย่างที่ชัดสุดครับ Apple รุ่นก่อต้ังมี Steve Jobs กับเพื่อนคู่หูอีกคนหนึ่ง ผมจำไม่ได้แล้วครับว่าชื่ออะไรผมจำไม่ได้ครับ ใครมีข้อมูลช่วยนำมาบอกด้วยครับ ตอนเริ่มต้น Steve Jobs กับเพื่อนลงทุนทำบอร์ดคอมพิวเตอร์กันที่ใต้ถุนบ้านเพื่อน ร่วมลงขันกันคนละไม่กี่พันเหรียญ ทำคอมพิวเตอร์ MacIntosh ตัวแรกสำเร็จ แล้ว Apple ก็เริ่มจากจุดน้ันครับ จนมาถึงจุดที่ Apple เริ่มเป็นบริษัทขนาดใหญ่แล้ว ถ้าผมจำไม่ผิดคือออก OS7 ออกมาแล้ว บริษัทเริ่มมีเดินมาถึงทางแยกคือจะทำให้มันโหลแต่ขายได้มากๆอย่าง PC หรือจะทำให้แปลกแตกต่างอย่างที่ Steve Jobs เริ่มทำมาแต่แรก สุดท้ายบอร์ดบริหารก็ตัดสินใจไล่ Steve Jobs ออกจากบริษัทที่ตนเองสร้างมาและเป็นหนึ่งในผู้บริหาร

Steve Jobs ต้องออกมาจาก Apple พร้อมเงินจำนวนหนึ่ง (เป็นเงินปันผลหุ้นที่โดนบังคับให้ออกมา) Jobs ก็มาเริ่มต้นใหม่กับบริษัททำอนิเมชั่นที่สมัยน้ันไม่มีใครเชื่อว่ามันจะทำสำเร็จที่ชื่อ Pixar ตัว Jobs น้ันเป็นท้ังผู้บริหาร ผู้พัฒนา Sales ในคนเดียวกัน ทำ Pixar อยู่พักหนึ่งจนเกือบจะล้มละลาย ในที่สุด Pixar ก็มาประสบความสำเร็จกับหนังเรื่อง Toy Story

กลับมาที่ Apple ขณะที่ไม่มี Steve Jobs บ้าง Apple ตอนน้ันเริ่มเป็น Billion Dollar Company แล้ว ดังน้ันจึงมีเงินเหลือเฟือที่จะจ้างผู้บริหารฝีมือดีมาคุมท้ังการผลิต การตลาด และการประชาสัมพันธ์ แต่ปรากฏว่ายอดขายของ Apple กลับไม่กระเตื้องขึ้นดังเงินที่ลงทุนไป สถานการณ์บริษัทเริ่มย่ำแย่ลงเรื่อยๆ เพราะขาดการพัฒนาด้าน Innovation และ Design คือผู้บริหารของ Apple ตอนน้ันคิดอย่างคุณช่างไฟคิดตอนนี้เลยครับ

เมื่อสถานการณ์ของ Apple เริ่มย่ำแย่ลง ผู้บริหาร Apple กลุ่มเดียวกับที่ไล่ Steve Jobs ออกต้องกลับไปจ้าง Steve Jobs มาเป็นที่ปรึกษาบริษัท ซึ่งตอนน้ัน Pixar เริ่มประสบความสำเร็จแล้ว ผมจำได้ว่ามีบทสัมภาษณ์ Jobs ตอนที่เขากลับมาเป็นที่ปรึกษาว่่า สิ่งที่เขามองว่าเหตุที่ทำให้ Apple ถอยหลังลง เพราะคนในบริษัทขาดจิตวิญญาณในการทำงาน ไม่มีการสร้าง Innovation ใหม่ๆ สุดท้ายทาง Apple จึงเสนอให้ Steve Jobs กลับมาบริหารในตำแหน่ง CEO Jobs ยอมรับตำแหน่งโดยมีเงื่อนไขว่าเขาจะรับเงินเดือนปีละ 1 ดอลลาร์ ช่วงที่เขารับตำแหน่ง แต่หากเขาทำให้ Apple กลับมาได้เขาขอกลับมาถือหุ้นใน Apple

หลังการกลับมาของ Steve Jobs สิ่งที่เขาทำคือไล่คนที่ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ ไม่มีิจิตวิญญาณในการสร้าง Innovation ออก (หลายคนเป็นคนที่คุณช่างไฟคิดว่าเป็นมืออาชีพที่จ้างมาด้วยเงินนั่นแหละครับ) แล้ว Jobs ก็สร้างทีมงานใหม่เกือบหมด บางส่วนดึงมาจาก Pixar แล้ว Jobs ก็กำหนดทิศทางบริษัทไปในแนวทางใหม่ คือเน้น Innovation and Design เริ่มจาการออก ibook มาเขย่าตลาดคอมพิวเตอร์ (ibook รุ่นแรกๆ ที่รูปร่างแบบมนๆ มีหลากสีแสบสัน มีตราลูกแอปเปิ้ลโดนกัดอยู่ต้านหลัง เห็นได้ในหนัง Hollywood ยุคก่อนปี 2000) ตามด้วยการพัฒนา OSX ที่มีพื้นฐานมาจาก Unix ซึ่ง Jobs เริ่มพัฒนามาเพื่อใช้กับ Simulation ของ Pixar

แต่สิ่งที่ Apple กลับมาอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้งคือ i-pod อันนี้ตอนแรก Jobs ไปเสนอความคิดกับ Sony ขอความร่วมมือ Sony ผลิต Hardware ให้ แต่ปรากฏว่า Sony ปฏิเสธเพราะเห็นว่ามันไม่น่าจะประสบความสำเร็จ Jobs เลยต้องไปหา Partner อื่น แต่เมื่อ i-pod ออกมาตลาด กลับกลายเป็นว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง จนทำให้ Walkman ของ Sony สูญพันธ์ุไปเลย

ด้วยความสำเร็จของ i-pod ทำให้ Apple กลับมายิ่งใหญ่อีกคร้ังหนึ่ง ล่าสุด Apple เพิ่งออก Macbook ออกมาทำตลาดแย่งชิงจาก PC เป็นคอมพิวเตอร์ที่ Run ได้ท้ัง Mac และ PC ในเครื่องเดียวกัน

หลังจากความสำเร็จของ Apple ในช่วงเพียงไม่ถึง 10 ปีที่ Jobs กลับมาทำให้วงการธุรกิจตื่นตะลึงในความสำเร็จของ Apple เมื่อมองกลับไปที่องค์กรของ Apple ขุมพลังส่วนใหญ่ของ Apple กลับเป็นคนรุ่นหนุ่มท้ังน้ัน ทุกคนมาจากพนักงานระดับล่างช่วงที่ Jobs กลับมาชุบชีวิตบริษัทท้ังสิ้น ตัว Jobs เองก็เคยพูดว่า เขาไม่ชอบจ้างมืออาชีพมาบริหาร เพราะคนเหล่าน้ันขาดจิตวิญญาณของ Apple จิตวิญญาณของ Innovation and Design

หากคุณช่างไฟศึกษาดีๆ จะรู้ได้เลยว่า Apple ไม่ได้ประสบความสำเร็จเพราะเงินอย่างที่คุณช่างไฟเข้าใจหรอกครับ เขาประสบความสำเร็จเพราะคนและแนวคิดต่างหากครับ ความคิดอย่างที่คุณช่างไฟเข้าใจอาจยังเหลืออยู่ที่ประเทศไทย แต่กำลังจะตายจากไปจากธุรกิจอเมริกาครับ บริษัทอย่่าง HP, GM , Ford, GE หรือแม้กระทั่ง Walt-Disney ขณะนี้ก็ยังไม่หลุดจากวังวนที่คุณช่างไฟเข้าใจว่าเอาเงินจ้างคนมาบริหารก็ได้แล้ว บริษัทเหล่านี้กำลังจะตายครับคุณช่างไฟ
แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 49 15:44:12

จากคุณ : BoydKansasCity - [ 10 ก.ย. 49 15:38:13 ]

ความคิดเห็นที่ 16

ตอบคุณ Just My Opinion

GM กับ Ford นั้นมีปัญหาอย่างมากเรื่องคนครับ ไม่ใช่เขาไม่มีความรู้ แต่เขาไม่มีจิตวิญญาณของบริษัทต่างหากละครับ ผมน้ันได้เกี่ยวพันกับบุคคลในท้ังสองบริษัท จากสองตาเห็นในท้ังสองบริษัทน้ันการบริหากใช้แบบผู้บริหารและวิศวกรเป็นคนของบริษัท ส่วนพวกแรงงานน้ันเป็นของสหภาพ พวกสหภาพน้ันเขาก็เหมือนบริษัทนายหน้า มีหน้าที่เทรนคนงาน ต่อรองค่าตัว สวัสติการ ต่างๆ มันเป็นระบบแบบเก่าของอเมริกา เนื่องจากสหภาพก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นส่วนของบริษัท ดังน้ันเขาก็ต้ังหน้าต้ังตาต่อรองค่าตัวจากฝ่ายบริหาร รู้หรือไม่ครับว่าสหภาพนี้มีอำนาจมากถึงข้ันมีนักการเมืองสนับสนุนเลยนะครับ บางที่ออกกฏหมายคุ้มครองพวกสหภาพ บริษัทไหนไปต้ังบริเวณน้ันหากไม่ใช้สหภาพ ไปต้ังไม่ได้ก็มีครับ

ด้วยปัญหาอย่างนี้รู้ไหมครับ ว่าแรงงานของสหภาพนั้นหากท้ังสองบริษัทจะให้ออกจากงาน ท้ังสองบริษัทต้องจ่ายเงินเลี้ยงดูแรงงานคนน้ันเป็นเวลาสองปีนะครับ และ GM นั้นติดหนี้สหภาพแรงงานหลายพันล้านเหรียญดอลลาร์ จนจะเจ๊งเอาครับ เพราะมีเงินก็ต้องมาจ่ายสหภาพหมด ส่วน Ford นั้นใช้วิธีพอมีเงินก็เอาไปลงทุนนอกประเทศหมด ไปที่ไหนก็จะมีข้อต่อรองกับประเทศน้ันว่าไม่เอาระบบสหภาพ แล้วพยายามไม่ให้มีเงินเหลือในประเทศมากนัก เดี๋ยวสหภาพแรงงานจะมาเอาไปหมด แล้วค่อยๆ ปิดโรงงานที่ขาดทุนในอเมริกาที่เป็นสหภาพลง

ส่วนพวกญี่ปุ่นกับเกาหลีนั้นไม่ได้บริหารกันแบบนี้ เขามีข้อแม้ว่าหากเป็นสหภาพน้ันเขาไม่ต้ังโรงงาน ต้วยเงินลงทุนมหาศาล ก็มีเมืองที่อยากได้โรงงานเหล่านี้มาต้ัง เมืองน้ันก็ออกกฏหมายที่ไม่จำเป็นต้องจ้างสหภาพแรงงานมาทำงานได้ ส่วนใหญ่เป็นเมืองบ้านนอก อย่าง Toyota, Honda และ Haundai ไปต้ังซะกลางทุ่งข้าวโพดเลยครับ แต่มหึมา อย่างกับเมือง มีถนน และรถไฟเข้าถึงเสร็จสรรพ พอไม่มีสหภาพแรงงาน คนงานบริษัทเหล่าน้ันทำงานดีกว่าพวกสหภาพเยอะมากเลยครับ ความใส่ใจดีกว่า มีความเป็นเจ้าของในตัวงาน มีความภูมิใจในบริษัท ผลผลิตคุณภาพก็เลยดีกว่าครับ ผมไม่ได้โม้ ไปดูที่ Car Customer Report ของอเมริกาได้ครับ ว่าเวลาเขา Rating คุณภาพรถน้ันของใครเป็นอันดับ Top

อีกอย่างจากประสบการณ์ที่ผมสัมผัส ผมไป Maintenance เครื่องจักรที่เป็นของบริษัทผมในโรงงานที่เป็นสหภาพ แค่จะแตะเครื่องยังไม่ได้เลยนะครับ ต้องขออนุญาติจากสหภาพ และต้องมีคนของสหภาพมาอยู่ด้วยตลอดเวลาที่ทำงาน ผมเคยไปรอแค่จะเปลี่ยนสวิทช์ตัวเดียวที่แค่ 5 นาที ก็เสร็จแล้ว แต่ใช้เวลา 2 ชั่วโมงครับกว่าสหภาพอนุญาติให้แตะต้องเครื่อง แล้วมันไม่เจ๊งอย่างไรไหวครับ 5 นาทีบริษัท Ford หรือ GM จ่ายค่าจ้างให้สหภาพ 3 เหรียญ แต่ใช้เวลา 2 ชั่วโมง บริษัทต้องจ่าย 80 เหรียญ ขณะที่ได้งานเท่ากัน

ส่วนเรื่อง JIT, TQM, Six Sigma นั้นไม่ได้เป็นเฉพาะแนวคิดด้านการผลิตอย่างเดียวหรอกครับ หลักการของมันคือเปลี่ยนแนวคิดของคนในองค์กรครับ ผมยกตัวอย่างเรื่อง Six Sigma คนส่วนใหญ่คิดว่าคือการนำสถิติมาใช้ควบคุมการผลิต แต่จริงๆแล้วสถิติมันเป็นแค่เครื่องมือหนึ่งใน Six Sigma เท่านั้นครับ จุดประสงค์แท้จริงของ Six Sigma น้ันอยู่ที่ระบบความคิดการทำงานของคน มีอยู่ส่วนหนึ่งของ Six Sigma ที่กล่าวถึงการใช้สถิติมาวิเคราะห์ เพื่อดึงความเชื่อและความจริงออกจากกัน แล้วให้วิเคราะห์หาความจริงจากตัวเลขครับ ใช้ได้ท้ังในองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการผลิตหรือไม่เกี่ยวข้องกับการผลิตก็ได้ครับ

ส่วนที่ทุกที่ใช้กันน้ันถูกต้องครับ แต่จะใช้ได้มีประสิทธิภาพแค่ไหนไม่ได้อยู่ที่เงินแล้วครับ อยู่ที่คนมากกว่าครับ GM กับ Ford ก็ใช้ครับ แต่สู้ Toyota ไม่ได้เลยครับ

จากคุณ : BoydKansasCity - [ 11 ก.ย. 49 01:43:56 ]