ความคิดเห็นที่ 1 หรอคนหัวงูข้างล่างมาตอบครับ จากคุณ : สามขีด ||| - [ 28 ก.ย. 49 21:45:38 ]

ความคิดเห็นที่ 2             ^             |             | - -"  ----- แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 49 21:59:54 จากคุณ : redistuO - [ 28 ก.ย. 49 21:58:31 ]

ความคิดเห็นที่ 3 แล้วงูเขียวหางไหม้เนี่ย ดุยังไงว่าไม่ใช่งูเขียวธรรมดา เพราะหางมันไม่ยักกะดำ ส่วนงูอื่น ๆ ก้เรียกชื่อตามที่ให้มานั่นแหละถูกแล้ว แต่เรามักจำผิดอยู่เรื่อยเลย แมวเซากับกะปะอะ หน้าตามันคล้าย ๆ กัน จากคุณ : noriko saki - [ 28 ก.ย. 49 22:13:50 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ไช่ หมอ แมว เอ็มไทย ป่าวครับเนี่ย จากคุณ : ชะยาสะ - [ 28 ก.ย. 49 22:19:57 ]

ความคิดเห็นที่ 5 งูบนหัวใครหลุดมาอ๊ะป่าว อิอิ จากคุณ : ผุ๋งผิ๋ง - [ 28 ก.ย. 49 23:03:14 ]

ความคิดเห็นที่ 6 . เรียกตามที่ว่ามา  แต่งูเขียวหางไหม้เรียกรวมๆ ไม่ได้เน้นว่าท้องเหลือง-เขียว . แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 49 23:22:53 จากคุณ : เต้าหู้หิมะ - [ 28 ก.ย. 49 23:18:12 ]

ความคิดเห็นที่ 7 . เพิ่มเติม งูเห่าสีดำแถวบ้าน(หัวหิน)  เรียกเห่าหม้อ ขอถามต่ออีกนิด  พิษของงูเห่า กับของงูจงอางในปริมาณที่เท่ากัน  ของใครรุนแรงกว่ากัน ? . จากคุณ : เต้าหู้หิมะ - [ 28 ก.ย. 49 23:22:13 ]

ความคิดเห็นที่ 8 บ้านผมเรียกงูจงอางว่า "งูบ้องหลา" จากคุณ : Atomos'Bao - [ 29 ก.ย. 49 00:03:51 ]

ความคิดเห็นที่ 9 "งูเห่าละว้า" ท่าทางจะเห่าจริงๆล่ะว้า จากคุณ : ธัมมนันทิ - [ 29 ก.ย. 49 00:08:59 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ตอบ คคห.ที่ 7 ถ้าตามที่คุณว่า  พิษงูเห่ารุนแรงกว่า ผมถามจากไอ้ที่อยู่บนหัวนะครับ (อะ  อันนี้ล้อเล่น) จากคุณ : aquillie - [ 29 ก.ย. 49 00:14:12 ]

ความคิดเห็นที่ 11 งูเห่า ในประเทศไทยปัจจุบันมี 3 ชนิด คือ 1.งูเห่าไทย(Naja kaouthia) เป็นงูเห่าที่มีความผันแปรของสี ลาย และดอกจัน มากจนมีชื่อเรียกหลายชื่อแม้ในถิ่นเดียวกัน เช่น เห่าหม้อ เห่านา เห่าดอกจัน เห่าอานม้า เห่าชบา เห่าลายตอก เห่าดง(ชื่อนี้ใช้เรียกงูหลายชนิดอีกต่างหาก) อีกทั้งยังมีประชากรที่เป็นกลุ่มเฉพาะที่เรียกว่าเห่าสุพรรณฯอีกด้วย ซึ่งการผลิตเซรุ่มงูเห่า จะใช้พิษจากงูเห่าชนิดนี้ชนิดเดียว แล้วใช้รักษาผู้ป่วยที่ถูกงูเห่ากัดได้ทั้ง 3 ชนิด 2.งูเห่าพ่นพิษสยาม(Naja siamensis) ชื่อก็บอกแล้วว่างูเห่าชนิดนี้สามารถพ่นพิษได้ แต่ความรุนแรงของพิษจากการพ่นใส่จะน้อยกว่าโดนกัด งูเห่าชนิดนี้ก็มีความผันแปรที่ชัดเจนจนมีชื่อเรียกแบ่งย่อยเป็น 3 พวก คือ งูเห่าพ่นพิษสีน้ำตาล หรือเห่าอิสานพ่นพิษ หรือเห่าปลวก(แต่พบในภาคตะวันตก และเหนือด้วย) งูเห่าด่างพ่นพิษ หรือเห่าขี้เรื้อน(พบภาคกลางและตะวันตก) งูเห่าดำพ่นพิษ(พบตะวันตกพาดไปตะวันออก) 3.งูเห่าพ่นพิษสีทอง(Naja sumatranus) พบเฉพาะภาคใต้ตอนกลางลงไป ที่จริงมี 2 กลุ่ม แต่ที่พบในไทยเจอเฉพาะที่เป็นสีเหลืองทองตัดด้วยน้ำตาล นิสัยดุกว่างูเห่าอื่นๆในไทย อาจมีอีกชื่อว่าเห่าปลวก เห่าดอกส้าน จากคุณ : knotsnake (knotsnake) - [ 29 ก.ย. 49 11:27:06 ]

ความคิดเห็นที่ 12 งูจงอาง(Ophiophagus hannah) เป็นงูพิษที่มีขนาดใหญ่ที่สุด พิษรุนแรงน้อยกว่างูเห่าในห้องปฏบัติการ แต่ในความเป็นจริงงูจะปล่อยพิษในปริมาณที่มากกว่างูเห่าหลายเท่า อีกทั้งมักถูกกัดในป่าที่ห่างไกลสถานพยาบาล ดังนั้นผู้ป่วยจึงมีโอกาสเสียชีวิตมากกว่างูเห่า เป็นงูที่ไม่กลัวคนแต่ก็ดุนักจึงมีโอกาสน้อยที่มันจะจู่โจมคนก่อน ตามข่าวที่ปรากฎบ่อยๆนั้นมักเกิดจากคนพยายามทำร้ายก่อน หรืออุบัติเหตุโดยไม่ตั้งใจทำร้าย(แต่งูมันแยกแยะไม่ออกว่าเราตั้งใจหรือไม่) ชื่อเรียกก็ไม่หลากหลายนัก ก็มี บ้อง(บอง)หลา เห่าดง ซึ่งเป็นชื่อเรียกทางภาคใต้ทั้ง 2 ชื่อ  ภาคอื่นๆก็เห็นเรียกจงอางเหมือนกันหมด จากคุณ : knotsnake - [ 29 ก.ย. 49 11:32:54 ]

ความคิดเห็นที่ 13 งูแมวเซา(Daboia russelii siamensis) ก็ไม่มีชื่อเพิ่มเติมจากข้างบน งูกะปะ(Calloselasma rhodostoma) เป็นงูที่พบทุกภาค ยกเว้นภาคกลางที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง  ส่วนใหญ่ก็ใช้ชื่อกะปะ มีทางเหนือเรียกงูตึง แต่ด้วยมีความผันแปรของสีตามวัยและถิ่น ก็เลยมีชื่อแตกออกไป โดยมีคำว่า (กะ)ปะ ติดตัวเสมอ เช่น ปะบุก ปะไฟ เป็นต้น นอกจากนี้ คำว่า (กะ)ปะ ยังอาจหมายถึงงูชนิดอื่นๆที่มีสี/ลายคล้ายงูกะปะ เช่น ปะคอแดง คือ งูลายสาบคอแดง ปะ..(จำไม่ได้) ก็กลายเป็นงูลายสอ  ปะค่าง ก็เป็นงูหางแฮ่มใต้(Trimeresurus venustus) หรืองูเขียวหางไหม้ท้องเขียวใต้(Trimeresurus fucatus)(เป็นงูกลุ่มเขียวหางไหม้) ซึ่งต้องอาศัยการสอบสวนถึงลักษณะพื้นที่ที่ถูกกัด และดูอาการประกอบ เพราะบางที(ส่วนมาก)จะบอกแค่งู(กะ)ปะ กัด ก็อ่างกรณีที่ จขกท.ยกเร่องงูเห่าขึ้นมาน่ะ จากคุณ : knotsnake - [ 29 ก.ย. 49 11:41:32 ]

ความคิดเห็นที่ 14 งูสามเหลี่ยม(Bungarus fasciatus) ทางใต้จะเรียกว่าปล้องทองด้วย ซึ่งจะเรียกพ้องกับงูปล้องทอง(Boiga dendrophila)แท้ ที่เป็นงูพิษอ่อนไม่อันตราย(นัก)อีกต่างหาก ตลอดจนงูปล้องฉนวนลาว(Lycodon laoensis)ซึ่งเป็นงูไม่มีพิษ และสามารถพบได้ในพื้นที่เดียวกันด้วย งูทับสมิงคลา(Bungarus candidus) หรือปล้องเงิน ก็เป็นงูพิษกลุ่มงูสามเหลี่ยมที่พิษรุนแรงกว่าซะอีก ปัจจุบันมีเซรุ่มเฉพาะแล้ว แต่คนก็มักสับสนกับงูปล้องฉนวนบ้าน(Lycodon subcinctus) ปล้องฉนวนกินงู(Lycodon ophiophagus) ปล้องฉนวนตับจาก(Dryocalamus dravisonii) ปล้องฉนวนเขาสูง(Dinodon septentrionalis) ฯลฯ ซึ่งเป็นงูไม่มีพิษ จากคุณ : knotsnake - [ 29 ก.ย. 49 11:49:10 ]

ความคิดเห็นที่ 15 งูเขียวหางไหม้(Trimeresurus spp.) ประกอบด้วยงูหลายชนิดทั้งมีสีเขียวหรือไม่เขียวก็ได้ บางชนิดตัวสีเขียวแต่หางไม่แดงก็มี ก็ดูลักษณะโดยรวมคือ หัวกว้างกว่าคอมาก มักดูเป็นรูปสามเหลี่ยม(ไม่ใช่หน้าสี่เหลี่ยม อิ อิ) ลำตัวมักไม่เรียวยาวมาก หางก็ไม่ค่อยยาวนัก  แต่ชนิดหลักๆที่ถูกกัดกันมักเป็นสีมาตรฐาน คือ สีเขียวหางแดง(หรือน้ำตาล) แม้จะมีงูไม่อันตรายบางชนิดที่สีเขียวหางแดง แต่ลำตัวจะเรียวยาวมาก หรือหัวไม่กว้างกว่าคอมากนัก ในภาคกลางก็พบหางไหม้ท้องเหลือง(Trimeresurus albolabris ซึ่งพบทุกภาค) กับหางไหม้ตาโต(Trimeresurua macrops พบทุกภาค เว้นภาคใต้) ในภาคใต้ก็จะมีงูพังกา(Trimeresurus purpureomaculatus)ซึ่งไม่มีสีเขียว ตัวลายๆน้ำตาล พบบริเวณป่าชายเลนและพื้นที่ต่อเนื่องทางฝั่งทะเลอันดามัน เขียวหางไหม้ท้องเขียวใต้(Trimeresurus fucatus (T.popeiorum ทางใต้เดิม)) ภาคเหนือก็เพิ่มเขียวหางไหม้ท้องเขียว(Trimeresurus popeiorum) อีกสักชนิด ส่วนชนิดอื่นๆไม่ค่อยสร้างปัญหานัก เพราะมีจำนวนน้อยในธรรมชาติ และ/หรือพิษไม่รุนแรงนัก  ปัจจุบันเซรุ่มที่ผลิตจะได้จากงูเขียวหางไหม้ท้องเหลือง ซึ่งสามารถใช้ได้ผลดีในการรักษาผู้ที่ถูกเขียวหางไหม้ชนิดอื่นๆกัดได้เกือบทุกชนิด กลุ่มงูเขียวหางไหม้ อาจมีชื่อเรียกอื่นๆว่า งูหางแฮ่ม งูเขียวหางตาย ตลอดจนชื่อที่เอ่ยมาแล้วข้างบน จากคุณ : knotsnake - [ 29 ก.ย. 49 12:01:07 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ดังนั้นต้องเป็นการบ้านของผู้ที่มีหน้าที่รักษา หรือสอบสวนโรคที่ต้องรวบรวมรูปงูพิษเหล่านี้ ตลอดจนงูที่มีลักษณะคล้ายกับงูพิษ และงูที่มีชื่อพ้องกับงูพิษเหล่านี้ไว้ให้มากที่สุด และครอบคลุมลักษณะที่ผันแปรด้วย แล้วสอบสวนโดยใช้ภาพประกอบ โดยให้ชี้รูป ส่วนชื่อที่ชาวบ้านบอกก็ฟังหูไว้หู นอกจากมีซากงูมายืนยันและมั่นใจว่าไม่ผิดตัว อีดทั้งดูอาการที่แสดงออกประกอบ  แน่นอน..ต้องทำการบ้านอย่างหนัก เพราะหากผู้รักษาใช้การดูอาการจนทรุดจนแน่ใจก่อนรักษา ก็อาจสายเกินไปสำหรับผู้ป่วย  เท่าที่ผมรู้จักหมอ ส่วนใหญ่จะไม่เข้าใจเรื่องเหล่านี้ ในขณะเดียวกันก็ไม่ยอมรับฟังผู้ที่รู้ อาจจะติดศักดิ์ศรีหรือเปล่าก็ไม่ทราบ ก็ฝากผู้ที่ต้องเป็นที่พึ่งของคนที่เสี่ยงต่อความตายจากงูด้วยแล้วกันครับ ปล.หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม ติดต่อเป็นการส่วนตัวได้ครับ จากคุณ : knotsnake - [ 29 ก.ย. 49 12:08:05 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เอ...ใช่หมอแมว จากเวบเอมไทยเปล่าค่ะ จากคุณ : SFG - [ 29 ก.ย. 49 12:51:11 ]

ความคิดเห็นที่ 18 พูดถึงเรื่องเซรุ่ม... การให้เซรุ่มนับมีความเสี่ยงต่อการเกิดภูมิแพ้อยู่พอสมควร... ดังนั้นแพทย์จึงมักให้สังเกตอาการก่อนระยะหนึ่ง จะยังไม่แนะนำให้ฉีดง่ายๆ หรือถ้าเป็นงูพิษต่อเลือดกัด ก็มักจะเจาะเลือดเพื่อดูค่าความผิดปกติของเลือดก่อน ว่ามากน้อยแค่ไหน จากคุณ : Ophiophagus - [ 29 ก.ย. 49 22:38:25 A:unknown X:202.129.52.204, 202.129.52.204 TicketID:036045 ]

ความคิดเห็นที่ 19 แล้วถ้าเกิดว่าฉีดเซรุ่มผิดชนิดกับงูที่กัดเรา จะเกิดอะไรขึ้นเหรอคะ รุนแรงมากมั๊ย จากคุณ : safety_sake - [ 30 ก.ย. 49 09:58:16 ]

ความคิดเห็นที่ 20 แล้วมีใครตอบเจ้าของกระทู้อ๊ะยังอ่ะ??? ชาวบ้านนี่เค้าก็ชาวบ้านจริงๆ เนอะ คิดอะไรแบบบ้านๆ จากคุณ : อิฐมอญ - [ 30 ก.ย. 49 16:38:14 ]

ความคิดเห็นที่ 21 แล้วถ้าเกิดว่าฉีดเซรุ่มผิดชนิดกับงูที่กัดเรา จะเกิดอะไรขึ้นเหรอคะ รุนแรงมากมั๊ย ................................................... ที่แน่ๆคือ ไม่เกิดประโยชน์ทางการรักษาแน่นอน... ส่วนจะเกิดผลกระทบอื่นหรือไม่?รุนแรงแค่ไหนนั้น? ก็ขึ้นกับระบบอิมมูน(ภูมิคุ้มกัน)ของผู้นั้นเป็นสำคัญ ถ้าเป็นพวกคนปกติทั่วไปก็อาจไม่เกิดอะไรขึ้น แต่ถ้าเป็นพวกคน"ขี้แพ้"(Hypersensitive)ก็อาจเกิดภาวะภูมิแพ้รุนแรงได้ ไม่ว่าจะฉีดเซรุ่ม"ถูกชนิด"หรือ"ผิดชนิด"ก็ตาม จากคุณ : Ophiophagus - [ 30 ก.ย. 49 22:16:39 A:unknown X:202.129.52.204, 202.129.52.204 TicketID:036045 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อีกปัญหาคือ บางครั้งเอางูมาด้วยเห็นตัวงูชัดๆว่าเป็นงูเขียวหางไหม้ กรณีใช้เซรุ่มแก้พิษงูเขียวหางไหม้ ถ้าญาติเห็นญาติจะไม่ยอมให้ฉีดโดยให้เหตุผลว่าโดนงูเห่ากัด ไม่ได้โดนงูเขียวกัด (ถึงจะอธิบายว่างูเห่าบอนเป็นภาษาถิ่น เท่าที่เจอมามากกว่าครึ่งจะไม่เชื่อหมอ และต้องการให้ใช้เซรุ่มงูเห่ามารักษา) ....................................................... เราไม่จำเป็นต้องพูดความจริง กับคนที่ไม่ยอมรับความจริงครับ เราก็บอกเขาไปว่า นี่คือเซรุ่มงูเห่าบอน เท่านั้นเอง...พวกชาวบ้านที่เชื่อฝังหัวแบบนั้น คงไม่หัวหมอขนาดมาขอดูฉลากขวดเซรุ่มหรอก จากคุณ : Ophiophagus - [ 30 ก.ย. 49 22:20:16 A:unknown X:202.129.52.204, 202.129.52.204 TicketID:036045 ]

ความคิดเห็นที่ 23 โห นักวิชาการมาจัดการเองเลย จากคุณ : KapampaBlue - [ 1 ต.ค. 49 02:28:16 ]

ความคิดเห็นที่ 24 การแก้ปัญหากรณีชาวบ้านอ้างชื่องูแบบนั้น คุณกินงูก็บอกแนวทางแก้ไขแล้วครับ ที่มีปัญหามากๆมักเป็นภาคใต้ครับ เพราะงูแต่ละอย่าง ไม่ใช้ว่า กะปะ ก็ เห่า เกือบทั้งนั้น บางถิ่นก็มีจงอาง(บองหลา)หลายๆอย่างด้วย แต่แท้จริงไม่ใช่งูจงอาง แล้วมักเป็นงูไม่มีพิษอีกต่างหาก ถึงได้บอกไว้ไงว่าคนรักษาต้องทำการบ้านที่มักละเลยให้มากๆ จากคุณ : knotsnake (knotsnake) - [ 2 ต.ค. 49 10:53:52 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เพิ่มเติม ปัญหาเกี่ยวกับพิษงูเห่าที่สำคัญมากๆ ที่สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับแพทย์มากที่สุด...ไม่ใช่ผลเชิง Systemic หรืออาการหยุดหายใจหรอก เพราะอาการที่ว่านั้นสังเกตได้ไม่ยาก...แต่เป็นผลเชิง Local หรืออาการแผลบวมแผลเปื่อยนี่แหละ เพราะมันเป็นอาการที่ไม่สามารถสังเกตได้ในทันที แต่ใช้เวลานานกว่าจะเห็น จากคุณ : Ophiophagus - [ 2 ต.ค. 49 17:14:17 A:unknown X:202.129.52.204, 202.129.52.204 TicketID:036045 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เรียกชื่อเหมือนในเวบแหละ เพราะเรียนมา คิคิ ค.ห. 3 งูกะปะกับแมวเซา ดูลายโลด งูแมวเซา ลายจะเป็นวงรีๆ งูกะปะ ลายเป็นรูปนาฬิกาทราย คล้ายงูคอปเปอร์เฮด แต่..คอปเปอร์เฮดสีสวยอ่า... งูอะไรก็สวยทั้งนั้นเรย หึหึ ตาแป๋วแหวว คิคิ ^_^ ป.ล. ชอบชื่อ ophiophagus จัง คิคิ กินงูหรอ 555 จากคุณ : โซดา (นางฟ้าจอมซน) - [ 2 ต.ค. 49 17:48:13 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ปัญหาอย่างหนึ่งของการให้จำลาย คือ คนจำสามารถจำได้ดี แต่อาจจำสลับจนสับสนครับ ก็เหมือนกรณีงูเหลือมงูหลามนั่นแหละ ลายต่างกัน แต่จำสลับกัน จากคุณ : knotsnake (knotsnake) - [ 4 ต.ค. 49 14:04:38 ]

ความคิดเห็นที่ 28 อ้าว เหลือมกับหลาม ทำไมจำสลับล่ะ ???? เหลือมมีศรดำที่กลางหัว หลามมีศรขาวที่กลางหัว คือ ปกติถ้าจะตำลาย ต้องจำเปรียบเทียบเป็นคู่ๆ ที่มันคล้ายๆ กันอ่ะค่ะ แล้ว นี่ก็เป็นพื้นฐานการจำแนกชนิดตามหลัก taxonomy เลยนะคะ ^_^ จากคุณ : โซดา (นางฟ้าจอมซน) - [ 5 ต.ค. 49 14:04:01 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ลายงูเหลือม จะต่าง กับหลายของงูหลามค่ะ ลายที่ตัวน่ะค่ะ จากคุณ : น้องเกิ้ลรักสัตว์เลี้ยง - [ วันเกิด PANTIP.COM 22:10:08 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ใช่ครับ แต่ชาวบ้านโดยทั่วไปจริงๆ เขาจะสับสนเอง ไม่เชื่อลองดูตามข่าว นสพ. สิครับ เวลาได้งูเหลือมก็มักบอกว่าเป็นงูหลาม อ้อ..ไม่มีชาวบ้านคนไหนแยกความแตกต่างลายของงูคู่นี้ไม่ออกหรอกครับ แต่พอระยะเวลาผ่านไปเขาจะงงว่าไอ่ลายเส้นศรมันเหลือมหรือหลามกันแน่หว่า เท่านั้นเอง ผมยกกรณีที่เจอทั่วไปนะครับ ไม่ได้ยึดตัวผมหรือคุณเป็นบรรทัดฐาน เรามีความรู้ตรงนี้แล้วจำได้ก็เลยไม่สับสน แต่ยังมีอีกหลายคนที่แม้จะมีความรู้แต่จำไม่ได้ก็เลยสับสน แล้วทริกการจำของแต่ละคนก็มีต่างกัน ตลอดจนเรื่องที่จำได้ก็ต่างกันเช่นกัน จากคุณ : knotsnake - [ 10 ต.ค. 49 15:08:46 ]

ความคิดเห็นที่ 31 งูเหลือม งูหลาม ให้ดูที่ลาย กะดูศรที่หัว แจริงๆ ดูสีได้ไหม ผมว่างูเหลือมมันเหลืองทองๆ งูหลามมันเหลืองซีดๆนะ เอหรือว่าเวลามันตัวใหญ่ๆ สีจะซีดคล้ายๆ จากคุณ : VET53 - [ 26 ต.ค. 49 11:22:49 ]