ความคิดเห็นที่ 1 เขาขี่ม้ารบนี่นา และเคลื่อนที่ได้เร็วมาก ทำให้เตรียมตัว ตั้งรับได้ไม่ทัน จากคุณ : Practical x 2 - [ 17 ธ.ค. 49 16:36:43 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าเอาเรื่องตัวต่อตัว มือเปล่านะ กล้ามเนื้อ อาจจะสู้ไม่ได้ แต่เวลาฆ่ากัน เขา จับบิด ตรงข้อต่อ อย่างจับบิดกระดูกก้านคอ บิดไหล่  (คนประเทศนี้เก่งเรื่องมวยปล้ำ เพราะเกิดมาจำความได้ก็ ฝึกเลย) แค่นี้ก็ตายด้วยมือเปล่าไม่ยาก แล้ว ถ้าเอาเรื่องอาวุธ สมัยนั้น ฝรั่งอาจจะมีปืนไฟ แต่ อาวุธ ของมองโกล นั้นเป็น ธนู หัวพิเศษ ชุบด้วย้ำเกลือ ขึงแข็งกว่า ธนูทั่วไป และ สามารถ เจาะเกราะได้  เกราะ ยุโรป หนาๆเจอ  ธนูเจาะเกราะ ก็ตายอยู่ดี กว่า ฝรั่ง จะบรรจุปืนไฟเสร็จ โดน ธนู ฟิ้วมาตายก่อน ธนูยิงง่ายและเร็วกว่าใช้ปืน มากๆ ชาวมองโกล ในสมัยนั้น  ยิงธนู เร็ว และ แม่นมาก  ความเร็ว เขาว่ากันว่า เร็วเกือบเท่าลูกปืนสมัยนี้ทีเดียว ส่วน การทรงตัวบนหลังม้า สามารถ เกาะ รอบตัวม้า หรือ ลงไป เกาะท้องม้า หรือ เกาะตูดม้า แล้วหันมายิงธนู ใส่ศัตรูได้ แม่นด้วย... ทหารมองโกล ชอบ บุก ตอนฤดู หนาวครับ หิมะตกหนักๆ ไม่ค่อยกลัวแถมชอบอีก แต่ ทหาร ที่อื่น กลัวฤดูหนาว ขนาด นักรบยุโรป ยังพักรบช่วงฤดูหนาวเลย (กองทัพ นาซี เก่งๆไปบุกฤดูหนาวของรัสเซีย ก็แพ้ยิบเยินกลับมา) แต่ ทหารมองโกลไม่ถูก กับการร ต่อสู้ ในที่ป่าดิบชื้น อย่างเขตอเมซอน  ทัพมองโกล ไม่ชนะ ในการต่อสู้ แถบพม่า เขมร ลาว ในสมัยนั้นอย่างเด็ดขาด เพราะ ชอบหนาว แต่เกลียด ร้อนแบบชื้นๆ  ถ้าสู้ในที่ราบหละ ตาย กองทัพเจงกิสข่านหมด สิ่งหนึ่งที่ เจงกิสข่านและทัพมองโกล ชอบใช้ คือ ชอบใช้ ชีวิตคนเมืองที่ตัวเอง ยึดได้ เอามาเป็นทัพหน้า ไม่ว่าจะลูกเล็กเด็กแดง คนแก่ ผู้หญิง เอามาไว้เป็นแนวหน้าหมด กองทัพอื่น เวลามาเจอ ญาติตัวเอง เชื้อชาติเดียวกัน นำหน้าก็ไม่กล้า ต่อสู้กลัวจะไปทำร้าย พวกเดียวกัน พ่อแม่พี่น้อง ญาติกัน  ใจไม่สู้ ก็ เตรียมตัวแพ้ได้เลย มีเรื่องราว การต่อสู้ วางแผนการรบ ของ มองโกล อีกเยอะ ซึ่ง ถ้า มองโกล ไม่มีปัญหา เรื่อง การสู้รบแย่งอำนาจกันภายใน  พื้นที่ ทางแผ่นดินยุโรป ทั้งหมด น่าจะตกเป็นของ มองโกล ได้ไม่ยาก กองทัพมองโกลตอนนั้นบุกยึดตี ทำลาย ถึง ออสเตรีย (จากประเทศมองโกลมาเลยนะ)และเตรียมข้ามไป เยอรมัน แล้ว แต่ ถูกเรียกทัพกลับเสียก่อน ขณะที่ เคียฟ และ มอสโก ก็ ตกเป็นของ มองโกล เกือบสองร้อยปีด้วยเช่นกัน (เลยเป็นตำนานของสตรีชาวรัสเซียที่ วางยา นักรบมองโกล จนเป็น หมัน ขันที ด้วยยางไม้ ชนิดหนึ่ง นักรบมองโกล จึงเริ่มเสื่อมถอย เรื่อยมา) จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า - [ 17 ธ.ค. 49 16:48:27 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ต้องข่มพวกเอเชียไว้ตลอดกระมัง จากคุณ : silverspider - [ 17 ธ.ค. 49 17:01:02 ]

ความคิดเห็นที่ 4 มองโกลรบชนะเพราะเป็นนักยุทธการอ่ะ เจงกีสข่าน และกุบไลข่าน เป็นผู้มีปรีชาสามารถทางการต่อสู้แล้วยังเป็นนักวางแผนเก่งทางด้านบัญชาการรบ จนหนังสือญี่ปุ่นยังเอาไปอ้างว่าข่านสืบเชื้อสายมาจากตระกูลนักรบชั้นสูงของญี่ปุ่น แผนการรบของมองโกลคร่าวๆนอกจากจะนำเชลย ทั้งเด็ก ผู้หญิง คนแก่ และชายนักรบของเผ่าอื่นที่แพ้ มาเป็นแนวรับด้านหน้า (เรียกว่าโล่มนุษย์)แล้ว ยังมีแผนการรบแปลกๆ ตัวอย่างเช่น การส่งม้าเร็วแนวหน้า ไปปะทะข้าศึกจำนวนหนึ่งสักพักก็ยอมถอย แล้ววิ่งหนีกลับมาให้ข้าศึกตามมา ข้าศึกชะล่าใจ นึกว่าได้ทีก็ฮึกเหิมไล่ต้อนตามไป กลายเป็นเสียรูปขบวนรบ พวกทหารมองโกลก็ล่อข้าศึกเข้ามาตรงที่ตั้งทัพเป็นแนวรับไว้ โดยมีพลธนูเป็นกำลังหลักโจมตีสวนพวกที่ถูกล่อให้ยกทัพมา สุดท้ายก็พ่ายมองโกลไป บอกได้เลยว่าการสงครามมันไม่ใช่แค่เรื่องกายภาพของนักรบ แต่อยู่ที่สมองของแม่ทัพด้วย ถ้ามีเวลาอีกสักหน่อยแถวบ้านเราก็เป็นของมองโกลมันหมดแหละ มองโกลยกทัพตีลงมาทางตะวันตกถึงพม่า ทางตะวันออกยึดเวียดนามได้หมดถึงตอนใต้ แต่ทัพมองโกลไม่ถนัดขึ้นป่าเขาเท่าไหร่เลยถอยกลับไปก่อน แค่นี้เขมรล้านช้างล้านนาสุโขทัยก็กลัวขี้หดแล้ว(ตอนนั้นอโยธยายังไม่ดัง) พ่อเมืองแถวบ้านเราเลยตั้งกลุ่มพันธมิตรแถบนี้ขึ้นให้เป็นปึกแผ่นแล้วส่งทูตบรรณาการไปบ่อยๆต่อรองไม่ให้เขามาตีเท่านั้นเอง จากคุณ : น้ำผึ้งรสสตอเบอรี่อ่ะ - [ 17 ธ.ค. 49 17:38:39 A:61.19.228.46 X:61.19.228.46 TicketID:131764 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าในสนามรบเอาเชลยมาอยู่ด้านหน้าแพ้แน่แน่ เกะกะ  พวกนี้ส่วนมากอยู่ในกองเสบียง แต่การบุกทำลายกำแพงเมืองไม่แน่ เอาเชลยเป็นโล่ได้ แต่ต้องระวังสวนกลับ เชลยเกะกะพาลแพ้เอา ที่ชนะเพราะ 1.การให้สัญญาโดยธงระหว่างกันดี ถอยบุกพร้อมกัน ถ้ามีเชลยเกะกะทำไม่ได้ 2. เสื้อเกราะดี น้ำหนักเบา คล่องตัวกว่าอัศวินเกราะเหล็กของยุโรปมาก 3.ฝีมือธนูดีกว่ามาก 4.มีดินปืนใช้ขณะที่ยุโรปยังไม่มี ธนูไฟ 5.มีการใช้แนวที่ห้าสำรวจศัตรู มีการปล่อยข่าวลวง แบบพวกในสามจังหวัด  6.แม่ทัพไม่จำเป็นต้องอยู่แนวหน้ากล้าตาย แต่อยู่ในชัยภูมิที่สามารถให้สัญานธงได้ 7.แม่ทัพไม่ต้องตายในการแต่ละครั้ง ทำให้มีประสบการณ์ ความสามรถแม่ทัพดีกว่า ที่ต้องรบหน้าหนาวเพื่อให้น้ำแข็งเกาะแม่น้ำ ทำให้กองทหารม้าเคลื่อนย้ายสะดวก ใช้สำหรับรบในรัสเซียและยุโรป  แต่ในตะวันออกกลางจะใช้วิธีรบกลางคืน จากคุณ : สมพร 123 - [ 17 ธ.ค. 49 18:00:46 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ห้องนี้อับดุลตัวจริง ขนาดประวัติศาสตร์อ้ายหนุ่มพลังม้ายังตอบเสียจนเชียวชาญอิอิ  เขียนดีคะ<ขอชมคะ จากคุณ : ป้ามหาภัย - [ 17 ธ.ค. 49 18:04:35 ]

ความคิดเห็นที่ 7 งืมๆ ชอบกระทู้แนวนี้มากคับ ให้ความรู้เยอะดี ความจริงเรื่องกลยุทธ์การรบเนี่ยมีมากมายคับ การได้เรียนรู้มันเนี่ยผมว่าสนุกดีนะคับ อย่างเรื่อง Troy เนี่ยผมชอบกลยุทธ์ของทัพกรีกตอนยกพลขึ้นบกมากคับ ส่งพระเอกขึ้นไปก่อน หุหุ ยังไง้มันก็ไม่ตาย จากคุณ : S.nualrod - [ 17 ธ.ค. 49 18:30:48 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คห.ที่5เข้าใจผิดแล้วล่ะ ไม่ได้เอาเชลยเป็นทัพหน้า แต่เป็น แนวรับด้านหน้า ไม่ได้ให้ไปรบ แต่ไปเป็นโล่มนุษย์ อย่าลืมว่ามองโกลมีกองพลทหารม้า และกองพลธนูที่มีชื่อเสียงมาก การใช้เชลยเป้นโลวางก็ทำให้ศัตรูชะงัก พลธนูก็โจมตีได้สะดวก ทัพหน้าคือพวกทหารม้าเคลื่อนที่เร็ว ที่ใช้ได้ทั้งจู่โจมและใช้ล่อศัตรูตามแผน มีกองทัพที่ไหนเอาเชลยมาฝึกเป็นทัพหน้า ไม่มีหรอก เหอๆ เชลยมันจะรบเป็นที่ไหน จะรุ้สัญญาณอะไร แต่การเอาเชลยมาเป็นโล่ถ้าอยู่ในแผนก็ไม่ใช่เรื่องเกะกะ ต้อนๆออกมายืนโง่ไว้ พลม้าเร็ววิ่งล่อ แหวกทางแยกซ้ายขวา พลธนูสวน ศัตรูเละ แล้วกองหนุนก็ต้อนกลับตามสัญญาณ แหลกเท่านั้น นอกจากเชลยแล้วทหารศัตรูเมืองที่พ่ายก็เอามาใช้ได้ พวกทหารฝ่อ พวกนี้บังคับเอามาตั้งรับได้ แต่ตำราสงครามเขารู้ทั้งนั้นมันแตกพ่ายหนีได้ทุกเมื่อทั้งทหารฝ่อ ทั้งเชลย เขาไม่ได้คาดหวังจะเอามาช่วยรบอยู่แล้ว แต่การหาหมากมาใส่แผนไม่ทิ้งหมากเล็กหมากน้อยนั่นแหละยอดขุนพลอ่ะ ไปหาตำราสงครามแบบโบราณดูให้ดีให้เยอะๆ จากคุณ : น้ำผึ้งรสบลูเบอรี่อ่ะ - [ 17 ธ.ค. 49 18:51:15 A:61.19.228.46 X:61.19.228.46 TicketID:131764 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คิดว่าชาวมองโกล ร่างกายสุดยอดกว่า มองโกลอยด์เผ่าอื่นนะ เพราะต้องล่าสัตว์ มานาน นักมวยมองโกล โดนญี่ปุ่นจับไปปั้นจนเก่งงวโคตรก็มี จัดว่า ยีนแข๊งแรงกว่าคนจีน ญี่ปุ่น แถม เจงกีสข่าน สติปัญญาเยี่ยม จริงจัง บุคลิกยอดผู้นำ ขนาดไม่รู้หนังสือ ยังเข้าใจพิชัยสงครามซุนวู ทำสงครามตั้งแต่ยังหนุ่มเพื่อรวบรวมผู้คน กองทัพมองโกลเป็นนักรบม้า ที่เก่งที่สุดใน ปวศ โลก ม้าแข๊งแรง คนขี่เป็นหนึ่งเดียวกับม้า ใช้ธนูคอมโพสิท ยิงได้รุนแรง โภชนาการ อาหารมองโกล กินเนื้อสัตว์ นม เป็นหลัก ทำให้กล้ามเนื้อแข๊งแรง ใหญ่โตบึกบึนกว่าชาวซ่งมาก ชาวซ่ง กินข้าวกับผัก เนื้อไม่ค่อยได้กิน ร่างกายย่อมแข๊งแรงสู้ไม่ได้ กิจกรรมยามว่างของมองโกล กีฬาบนหลังม้า ยิงธนู เล่นมวยปล้ำ กิจกรรมยามว่างของชาวซ่ง เล่นโกะ หมากรุก เขียนพู่กัน ขนาดแม่ทัพ ยังต้องรู้หนังสือมาก คัดจากคนฉลาด ต่างกับมองโกลที่มีแต่การละเล่นฝึกทักษะร่างกาย ดาบมองโกล เล่มใหญ่ เกราะ ทหารมองโกล ที่เหลือมาถึงตอนนี้ก็ใหญ่โต คือชาวงมองโกล ล่ำบึ้ก คล่องแคล่ว ว่องไว แถมยัง ซึมซับเอาเทคโนโลยี ของแต่ละดินแดนที่ตัวเองบุกยึดได้มาใช้ ทั้งดาบโค้ง แบบเอเชียกลาง ดาบมาดัสกัส ตัวอักษรดัดแปลงจากเอเชียกลาง เครื่องจักรสงครามของซ่ง ดินปืนของซ่ง เรือใบแบบซ่ง พิชัยยุทธซุนวู ยุคของมองโกลปกครองจงหยวน เป็นยุคแรกที่มีเครื่องยิงระเบิดใช้ คือใช้เครื่องonagerเหวี่ยงลูกระเบิด ทำลายทั้งคน ทั้งสิ่งก่อสร้าง กองทัพมองโกล ชนะที่ใด กวาดต้อนช่างฝีมือ นักปราชญ์ นักรบ มาใช้งาน ให้ความเคารพ เสรีภาพในการนับถือทุกศาสนา (นโยบายคล้ายไอกันตอนนี้นะ ซื้อตัวคนเก่งทั่วโลก) ยิ่งรบชนะหลายเมือง ยิ่งแข๊งแกร่งขึ้น กองทัพรุ่นหลังๆ ผสมทั้งแขก คนจีน มองโกล ... ถ้ากุบไลข่านไม่ตายก่อน ทัพมองโกลต้องยกทัพกลับ ยุโรปอาจไม่เหลือ โลกสมัยโบราณ เมืองใหญ่ที่เจริญ มักจะพ่ายกองทัพคนเถื่อนบนหลังม้า ทั้งโรมันก็เป็นงี้ เทคโนโลยียุคโบราณ ดีแค่ไหนก็สู้ความดิบเพื่อนของสัณชาติญาณไม่ได้ แก้ไขเมื่อ 17 ธ.ค. 49 19:05:57 จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน - [ 17 ธ.ค. 49 19:02:34 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คห.1 ครับผมว่าเรื่องปืนไฟเนี่ยน มองโกลจะมีก่อนฝรั่งนะครับ จากคุณ : Pigusto - [ 17 ธ.ค. 49 19:07:47 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ฝรั่งยุคนั้นยังไม่มีปืนไฟนะ พวกออตโตมัน เริ่มใช้ปืนไฟก็ หลังจักรวรรดิมองโกลหน่อยๆ เทคนิกการทำดินปืน ระบาดเข้าสู้โลกตะวันตกก็ยุคมองโกล นี่แหล่ะ สมัยมองโกลอโยธยายังไม่เกิดเลย ไทยเรายังมีแต่กษัตริย์ ในตำนานอยู่ ได้ดูสารคดี เกี่ยวกับนครวัดถึงเรื่องราวที่บันทึกโดยพ่อค้าชาวจีน ว่า นั้นไทยเราก็เก่งใช่ย่อย ไปรบชนะขอมที่ยิ่งใหญ่กว่ามาก กวาดต้อนผู้คนมาจนนครวัดร้าง ทั้งที่ขอมเจริญกว่าเรามาก แก้ไขเมื่อ 17 ธ.ค. 49 19:13:33 จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน - [ 17 ธ.ค. 49 19:08:04 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เคลื่อนทัพเร็วด้วยครับ จากโปแลนด์ถึงมองโกลใช้เวลาแค่3วัน จากคุณ : andyslam - [ 17 ธ.ค. 49 19:28:37 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เสลารบเค้าใช้สมองสัง่กล้ามเนื้ออีกทีครับ ถ้าใครสมองดีกว่าก็ชนะ อิอิ จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ 17 ธ.ค. 49 19:39:13 ]

ความคิดเห็นที่ 14 คนมองโกลทางเหนือตัวใหญ่ไม่แพ้ ฝรั่งนะ อีกอย่างคนเมืองหนาว จะฉลาดกว่าเมืองร้อน เพราะความเย็นไม่ทำลายเซลล์สมอง จากคุณ : บลูเรย์ - [ 17 ธ.ค. 49 21:08:27 ]

ความคิดเห็นที่ 15 การทำสงคราม ไม่ได้เอาชนะกันด้วยสมรรถภาพทางกำลังอย่างเดียวนี่ครับ จากคุณ : ช่างไฟ - [ 17 ธ.ค. 49 21:26:08 ]

ความคิดเห็นที่ 16 โม้รึเปล่าครับ โปแลน ไป มองโกล 3 วัน ผมไม่ใช่คนแบบพอได้ยินว่า ว่ายน้ำไม่ใช้ขา แล้วเชื่อนะครับ จากคุณ : lets_kick_off - [ 17 ธ.ค. 49 21:51:15 ]

ความคิดเห็นที่ 17 มองโกลรบชนะแล้วล้างเมืองครับ ไม่ได้ดีเด่อะไรนักหนาหรอก กวาดต้อนเฉพาะคนที่ใช้ได้เท่านั้นแหละ นี่นับสมัยเจงกิสข่านนะ พอได้รับอิทธิพลของจีนโน่นถึงเริ่มดีขึ้นมาหน่อย แต่ก็ไปพ่ายสายลมเทพเจ้าถึงสองครั้งสองครา เรื่องเดินทัพสามวันอาจจะเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าส่งข่าวนี่เป็นไปได้ครับ เพราะพี่แกตั้งสถานีสือสารไว้ตลอดทาง พลส่งสารก็ควบม้าเต็มที่เลยพอม้าใกล้หมดแรงก็ถึงจุดเปลี่ยนม้าพอดี จากคุณ : Nexus - [ 17 ธ.ค. 49 22:13:44 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อ่าวไม่ได้เก่งเพราะกินนมเปรี้ยวเหรออ จากคุณ : BlackBook - [ 17 ธ.ค. 49 22:47:59 ]

ความคิดเห็นที่ 19 รบกันมันคนละเรื่องกับต่อยกัน วิ่งแข่งโอลิมปิคนะคร้าบบบ ถ้าเอาแค่ปัจจัยว่าร่างกายแข็งแรง ป่านนี้ กอริล่า ช้างม้าวัวควาย ครองโลกไปแล้ว จากคุณ : Sial - [ 17 ธ.ค. 49 23:50:19 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คนใต้ชำนาญเรือ คนเหนือชำนาญม้า สรุปว่ามงโกลเก่งยังไงก็พ่ายให้ทะเล แต่มงโกลชอบเล่นมวยปล้ำ ดังนั้นขนาดตัวคงใหญ่กว่าชาวฮั่นแยะ พวกนี้ขอบจัดแข่งขี่ม้าในฤดูหนาวตั้งแต่เป็นวัยรุ่น สามารถควบขี่ม้ากลางอุณหภูมิติดลบ20-30 องศา ได้เป็นชั่วโมง จนบางทีมือจับเชือกเป็นแผลเหวอะหวะ ความอึดมากทีเดียว จากคุณ : x - [ 17 ธ.ค. 49 23:58:48 A:210.246.64.251 X: TicketID:052378 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ได้ความรู้เรื่องมองโกลเยอะดีครับ เป็นตำนานของชนชาติเอเชียเลย จากคุณ : eddman - [ 18 ธ.ค. 49 00:27:16 A:58.8.195.203 X: TicketID:134366 ]

ความคิดเห็นที่ 22 น่าจะจับมาเจอกับ อเล็กซานเดอร์ นะ......อยากรู้ใครชนะ จากคุณ : น้ำปลาเดือนห้า - [ 18 ธ.ค. 49 01:09:51 ]

ความคิดเห็นที่ 23 มองโกลรบชนะเพราะใช้สมองครับ เป็นต้นแบบการรบในปัจจุบันเลยทีเดียว (แน่นอนในสายตาฝรั่งไม่ยอมรับเรื่องตรงนี้) และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ มองโกลรบชนะเพราะการสื่อสารครับ ในยุคนั้นการส่งข่าวสารอาจต้องใช้เวลา 2-3 วันถึงเป็นอาทิตย์ แต่มองโกลไปรบที่ไหนก็จัดตั้งสถานีข่าวที่นั่น จึงใช้เวลาแจ้งข่าวสารแค่ วันเดียว จากคุณ : Roh_Z - [ 18 ธ.ค. 49 01:12:45 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ตำนานชาวมองโกล mongolism (มอง'กะลิสซึม) n. ภาวะที่มีลักษณะใบหน้าคล้ายพวกมองโกลคือมีกะโหลกศีรษะกว้างและแบนตาหยีและระดับสติปัญญาต่ำ., S. Mongolianism,Mongolian idiocy,Down's syndrome http://dict.longdo.com/?search=mongol&service= จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน - [ 18 ธ.ค. 49 03:12:38 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เรื่องเคลื่อนทัพจากมองโกลเลียถึงโปแลนด์ในสามวันนั้นผมว่าน่าจะเข้าใจผิด แต่หากส่งข่าวจากแนวหน้าที่โปแลนด์ถึงมองโกเลียภายในสามวันแล้วละก็เป็นเรื่องจริง กองทัพมองโกลล้ำหน้าเรื่องการข่าวสงครามกว่าชนชาติอื่นในสมัยนั้นมากครับ มีการตั้งสถานนีสื่อสารตลอดทางจากทุกสารทิศถึงนครต้าตู เมืองหลวงของอาณาจักรมองโกล (สมัยที่ยังไม่ย้ายมาที่ปักกิ่ง) ภายในเวลาสามวันไม่ใช่เรื่องแปลก ทุกสถานีจะมีม้าที่แข็งแรงรอไว้ มีคนส่งข่าวเตรียมพร้อม มีกฏหมายกำหนดให้ทุกคนไม่ว่าจะสามัญชนหรือคนระดับรัชทายาทต้องหยุดให้ผู้ส่งข่าว มีบทลงโทษถึงตายครับสำหรับผู้ฝ่าฝืนกฏหมายข้อนี้ จะไม่ให้ข่าวมาถึงเร็วได้อย่างไร ส่วนเรื่องการใช้เชลยเป็นโล่มนุษย์นั้น เขาให้เฉลยนำหน้าตอนตีเมือง ไม่ได้ให้อาวุธ แต่ให้ไปรับลูกธนู ก้อนหิน แทนทหารมองโกล ในระบบของมองโกลตอนนั้น เขาไม่ให้ความสำคัญกับเชลยศึก ทุกคนที่รบแพ้ก็คือทาส ไม่ใช่คน อยู่ที่ว่าจะให้ตายอย่างไรเท่านั้น กองทัพมองโกลเป็นกองทัพม้า รบเร็ว เลิกเร็ว สู้ไม่ได้ก็ถอยก่อน ใช้ยุทธวิธีล่อข้าศึกเข้าดงซุ่มแล้วรุมจัดการเป็นกลุ่มๆไป ทหารมองโกลหนึ่งคนจะมีม้าอย่างน้อยสิบตัว หมายถึงว่าหากมีทหารมองโกลสองแสนนายก็จะมีม้าอย่างต่ำสองล้านตัว ด้วยวิธีนี้กองทัพม้ามองโกลจึงไม่ล้า เพราะเปลี่ยนม้าอยู่เรื่อยๆ ยุทธวิธีอีกอย่างของกองทัพมองโกลคือ หากเมืองไหนต่อต้านจะใช้วิธีฆ่าล้างเมือง แล้วปล่อยข่าวความโหดร้ายให้กระจายไป เพื่อข่มขวัญคู่ต่อสู้ ด้วยวิธีนี้กองทัพมองโกลจึงไม่จำเป็นต้องตีทุกเมืองที่ผ่าน เพราะบางเมืองก็ยอมแพ้เพราะกลัวมองโกลฆ่่าล้างเมือง (ยุทธวิธีเหมือนที่ผู้ก่อการร้ายภาคใต้ใช้อยู่) แม่ทัพมองโกลไม่ใช่รบแบบดื้อๆป่าเถื่อนอย่างที่เข้าใจ แต่เป็นแม่ทัพชำนาญศึก มากยุทธวิธี ยิ่งตัวเจงกิสข่านแล้วละก็ครบเครื่องเรื่องการรบ พอมาถึงกุบไลข่านนอกจากจะเก่งเรื่องรบแล้วยังได้รับการศึกษามาอย่างดีด้วย การสืบทอดอำนาจของมองโกลสมัยก่อนจนถึงกุบไลข่าน ไม่ใช้วิธีส่งทอดให้บุตรคนโต แต่ใช้วิธีแก่งแย่งอำนาจกันเองในหมู่เครือญาติ ใครมีกำลังมากกว่าคนนั้นก็ได้เป็นข่าน ข้อเสียของวิธีนี้คือ บางครั้งทำให้อาณาจักรมองโกลต้องหยุดชะงักเพราะการแย่งอำนาจ แต่ข้อดีคือผู้นำที่ได้คือผู้ที่เข้มแข็งที่สุดในเวลานั้นเท่านั้น ทำให้กองทัพมองโกลเข้มแข็งอยู่เสมอ (ซ้อมรบกันบ่อยไม่ว่าจะศัตรูต่างชาติหรือพวกมองโกลด้วยกันเอง) อีกนโยบายหนึ่งของมองโกลคือ ขอให้มีความสามารถไม่ว่าจะมาจากชนชั้นไหนก็สามารถมีตำแหน่งใหญ่โตในอาณาจักรมองโกลได้ (ยกเว้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรีซื่งสงวนให้คนมองโกลเท่านั้น แต่ตำแหน่งนี้ตั้งไว้เป็นกิติมศักติ์เท่่านั้น ไม่ได้ทำงานจริงๆ) ตอนที่กุบไลข่านพิชิตอาณาจักรซ่งใต้ได้แล้วก็มีแนวโน้มจะบุกลงใต้เหมือนกัน ตอนนั้นหากผมจำไม่ผิดก็ตรงกับรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหง ในขณะที่ได้ข่าวทรงติดสงครามกับมลายูอยู่ จึงต้องใช้ยุทธวิธีส่งบรรณาการไปอ่อนน้อมต่อมองโกล เป็นที่มาของธรรมเนียมส่งบรรณาการไปให้จีน มายกเลิกเอาสมัยรัชกาลที่ห้าแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ มองโกลหลังสมัยกุบไลข่านก็เริ่มจุดเสื่อมของมองโกล เนื่องจากมองโกลเริ่มการสืบทอดอำนาจโดยสันติ จักรพรรดิมองโกลยุคหลังไม่ต้องออกรบเอง อีกส่วนหนึ่งคือจากนโยบายการทำสงครามที่ยาวนานเกือบสี่ชั่วอายุคน อาณาจักรมองโกลเริ่มอ่อนล้าทางเศรษฐกิจ คนมองโกลเลียเก่งเรื่องสงครามแต่ไม่ค่อยรู้เรื่องการค้าขาย จึงต้องใช้กำลังทหารที่เข้มแข็งไปกดหัวพวกชาวฮั่นให้ทำมาค้าขายจ่ายภาษีเลี้ยงกองทัพ เงินที่ได้จึงไหลไปกองทัพหมด แต่ตัวอาณาจักรเริ่มเสื่อมถอยลง (คล้ายรัฐบาลทหารไทยตอนนี้ สงสัยเลียนแบบกุบไลข่าน) แต่ขนาดอาณาจักรถังแตกอย่างนั้นยังกดหัวคนจีนได้เกือบร้อยปี เชื้อสายมองโกลที่เรื่องอำนาจรุ่นสุดท้ายคือ ราชวงศ์โมกุลที่ปกครองอินเดีย ราชวงศ์โมกุลคือเชื้อสายมองโกลตอนที่ไปตีดินแดนแถบอัฟกันนิสถานไว้ แล้วก็เปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลาม รุ่นหลังๆตั้งราชวงศ์โมกุลขึ้นแล้วนำทัพเข้ามาตีอินเดีย แต่ที่รู้จักกันดีกว่าความสามารถในการรบของพวกโมกุลคือ ทัชมาฮาล จากคุณ : BoydKansasCity - [ 18 ธ.ค. 49 03:45:51 ]

ความคิดเห็นที่ 26 แล้วมองโกลไปเอาม้ามาจากไหนเยอะแยะครับ จากคุณ : เชื่อผมเหอะ แล้วดีเอง - [ 18 ธ.ค. 49 06:44:59 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ^ ^ ยึดจากศัตรู เพาะเลี้ยงเองด้วย อณาจักรเดิมมองโกล เมืองคาราคอลัม สุดยอดนักรบ ในพงศาวดาร ของ มองโกล มี...สามคน 1. จีเป ชีเป หรือ ชือเป แล้วแต่จะเรียก แม่ทัพมีตำแหน่ง ถึงขั้น เขอข่าน(มีตำแหน่งทางการทหาร ต่ำกว่า เจงกิสข่านเท่านั้น ) ถ้าดู เรื่องมังกรหยก กิมย้ง จะเขียนให้เป็น อาจารย์ สอนก๋วยเจ๋ง ยิงธนูด้วย  เป็นแม่ทัพมองโกล ที่นำกองทัพหน้า บุกตี ทะลวง เมือง ตั้งแต่ มองโกลเลีย จนถึง แถบตุรกี แต่ ป่วยตายซะก่อน  เป็นนักรบของเจงกิสข่านที่ไม่รุ้จักความพ่ายแพ้ในการศึก 2. สุโบไต มาจากชนเผ่าเลี้ยงสัตว์แถบไซบีเรีย(ว่ากันว่ามีเชื้อ ฝรั่งรัสเซีย) อีกหนึ่ง จอมทัพ เขอข่าน เทียบเท่า ชีเป (ตอนแรกมีตำแหน่งทัพ รองจากชีเป แต่ว่า พอชีเป ตายไป ตัวเองก็ดำรงตำแหน่งแทน) เป็น นักรบที่มีทั้ง ฝีมือด้านการรบ และ มันสมอง เข้าชั้นสุดยอด เป็นคนนำกองทัพ บุกตี ถึง ออสเตรียและ จัดการ ชนะ กองทัพ พันธมิตรของ ยุโรป (นำโดย พวก ดยุค lord จาก ยุโรปตะวันออก) ทั้งที่ กองกำลังน้อยกว่ามาก ลูกชายสุโบไตก็ดำรงตำแหน่งต่อจากพ่อ และทำผลงานในสนามรบได้ไม่ต่างจากพ่อ .. ในสามคนนี้ ผม ยกย่องคนนี้มากที่สุด 3. เฮลูกู  เป็น พี่ชายของกุบไลข่าน คนนี้มีส่วนในการ ช่วย มังกุข่าน(พี่ชายคนโตสุดของกุปไลข่าน) ยึดอำนาจทางการทหาร ของกองทัพมองโกลจากอีกตระกูล รวมทั้งเป็นพันธมิตร ที่แข็งแกร่งที่สุดของ กุบไลข่าน ถ้าใครชอบ เรื่องราว การต่อสู้ การรบ ชนะ เกือบครึ่งโลก ของมองโกล  หาอ่านหนังสือ ของ คุณ บรรยง บุณฤทธิ์ สำนักพิมพ์สรางสรรบุค ได้ครับ ผมอ่านแล้ว สนุกได้ความรู้มากเหมือนกัน  (เจงกิสข่าน และ กุบไลข่าน) แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 49 09:47:06 จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า - [ 18 ธ.ค. 49 09:38:27 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ชอบความเห็นที่ 19 จากคุณ : the symbol of solitude - [ 18 ธ.ค. 49 10:56:11 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ลองไปเล่น medieval 2 totalwar ดูจะมองออกครับ ทหารม้าธนูมองโกลนี่จะกวนมาก + เคลื่อนที่เร็ว ป่วน ระดมธนูยิงเข้ามา พอจะเข้าประทะก็ถอยหนี อัศวันยุโรปสมัยก่อนนิยมถือ lance ยาวๆ พวกนี้ก็ไม่ประทะด้วย ควบม้าหนี แถมยังหันหลังมายิงธนูใส่ได้ด้วย ผมว่าต้องจับ alexander มาถึงจะสู้กับมองโกลได้สูสีเพราะสมัย alexander จะเน้น phalanx ธนูยิงไม่ได้ผล ถ้าไม่นับเรื่องดินปืนนะ จากคุณ : Spirit of Darkness - [ 18 ธ.ค. 49 11:05:03 ]

ความคิดเห็นที่ 30 มองโกลมีการข่าวสารที่ยอดเยี่ยม มีนกพิราบสื่อสาร และมีโอ่งน้ำฝังดินไว้เป็นจุดๆ สำหรับคนส่งข่าวได้ดับกระหาย มีม้าเร็วและเชี่ยวชาญการขี่ม้ามาก การตกจากหลังม้าถือเป็นเรื่องน่าอายอย่างมากสำหรับนักรบมองโกล     รวมทั้งเรื่องเสบียงนั้น มองโกลมีนมม้าซึ่งใช้ทำอาหารได้หลายอย่างและม้าติดไปกับตัวตลอดเวลาก็เหมือนกับมีอาหารติดตัว  แต่มองโกลเป็นกองทัพที่ปล้นสะดม ข่มขืน และฆ่าประเทศที่ตัวเองรุกราน จากคุณ : Gamoff - [ 18 ธ.ค. 49 11:54:29 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ถ้าอยากอ่านเรื่อง Genkhis Khan รบกับพระเจ้า Alexander ให้หาเรื่อง Time Eyes มาอ่านครับ เป็นนวนิยายเรื่องล่าสุดของ Arthur C.Clarke ครับ ได้เห็นทหารหอกยาวปะทะกับทหารม้าธนูแน่ึีครับ ผมไม่ขอ Spoil ผลลัพท์ก็แล้วกัน แต่อ่านแล้วสนุก เป็นนวนิยายเล่มแรกของ Series นี้ครับ เล่มสองยังไม่ออกเลย จากคุณ : Nexus - [ 18 ธ.ค. 49 13:10:24 ]

ความคิดเห็นที่ 32 Time Line ค้าบบบ ในหนังสือสนุกกว่าเยอะ ในหนังตัดฉากมันๆ ไปเยอะมาก จากคุณ : NaCl - [ 18 ธ.ค. 49 13:32:46 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เห็นด้วยกับ 29 วิ่งหนีแล้วล่อ โดยการยิงธนู ใส่แก่ทหารที่ตามมา ทหารม้า ยิงธนูเก่งมากครับ ยิงเก่งและเร็วกว่า ชนชาติอื่นเลยได้เปรียบ แถมเวลาบุก ก็บุกแบบกองโจร และก็พักที่ไหนในโลกก็ได้ เพราะค่ายทหารก็คือบ้าน จากคุณ : พระจันทร์สีฟ้า - [ 18 ธ.ค. 49 16:00:09 ]

ความคิดเห็นที่ 34 Time Line มันแค่ทหารสมัย Medival มาสู้กันครับ ต้อง Time Eyes อิอิ เอาเจงกิสข่านมาปะทะกับอเล็กซ์ซานเดอร์ แต่ Time Line ก็สนุกดี ไม่ได้ดูหนังเลยไม่รู้ว่าตัดไปเยอะหรือเปล่า จากคุณ : Nexus - [ 18 ธ.ค. 49 21:07:07 ]

ความคิดเห็นที่ 35 Time Line สนุกครับ ในหนังอะ แต่ไม่ได้อ่านนิยายนะ สงสัยไมไม่เข้าโรง จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน - [ 18 ธ.ค. 49 21:59:52 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 19 ธ.ค. 49 17:57:12 ]

ความคิดเห็นที่ 37 มองโกลเป็นลูกครึ่งเอเชียยุโรปไม่ใช่เหรอครับ ตัวก็ใหญ่ไปด้วย ยุทธวิธีการรบของมองโกลเป็นสิ่งสำคัญครับ ใช้ทหารม้า และทหารราบแบบ 3-1 โดยจัดทัพรูปเกือกม้าเป็นหัวใจ ใช้ธนูและทหารม้าเป็นสำคัญ ปกติมองโกลจะเคลื่อนที่เป็นหน้ากระดานและช้ามากๆ วันนึงๆไม่ถึง 10 กิโล แต่เมื่อยามศึกจะจัดกระบวนทัพใหม่และเคลื่อนได้ได้เร็วที่สุดในโลก ที่สำคัญ มองโกลมีวิทยาการทางการทหารล้ำสมัยที่สุดในโลกสมัยนั้นด้วย ทั้งระเบิดควัน หรือยุทโธปกรณ์ต่างๆ(สะกดมั่ว) สมัยนั้น ปืนยังไม่มีครับ แต่เครื่องยิงหินต่างๆนี่มองโกลคืออันดับ 1 ของโลกแบบไม่มีใครเทียบเทียม อย่างในปัจจุบันก็คงเทียบได้กับอเมริกาหรือจีนในด้านมหาอำนาจทางอาวุธ ทหารมองโกลจะรุกและรับอย่างโหดเหี้ยมด้วยสมอง เมื่อเสียเปรียบจะทำทีเป็นล่าถอยและใช้ระเบิดควันอำพราง เมื่อข้าศึกตกหลุมก็จะเข้าตีล้อมกรอบฆ่าฟันทหารทุกคน ไม่ให้เหลือแม้แต่คนเดียว แถมยังมีการไซโคที่ได้ผลอย่างยิ่งยวด ทั้งการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์หากผู้ใดไม่สวามิภักดิ์ ควักหัวใจสดๆออกมากินหลังจากได้รับชัยชนะเป็นการเรียกพลังความฮึกเหิม และใช้เชลยที่มีประโยชน์มาพัฒนาชาติตน และเป็นกำลังทหารในการทำศึกกับชาติอื่นๆด้วย โปแลนด์ที่ยิ่งใหญ่ ฮังการีที่เข้มแข็ง อาณาจักรตะวันออกกลาง ถูกมองโกลที่แต่เดิมเป็นเพียงชนเผ่าเร่ร่อนบดขยี้เสียแหลกลาญ แม้แต่จีนที่มองโกลมองว่ายิ่งใหญ่มากจนมองโกลเทียบไม่ติดฝุ่นก็ยังถูกตีรวบประเทศโดยมองโกลมาแล้ว ด้วยปืนใหญ่และดินปืนที่มองโกลพัฒนาและใช้เป็นชาติแรกของโลกก่อนที่ปืนใหญ่จะไปถึงยุโรปใน 400ปีถัดมา ดินปืนถูกคิดค้นโดยจีน และปืนใหญ่ถูกคิดค้นโดยช่างชาวอาหรับที่มองโกลมีใช้งานในกองทัพ ถูกนำมาใช้กับจีนเป็นชาติแรก ในยุคหลังเจงกิสข่านกว่า ร้อยๆปี ทหารเพียงแค่ 2 หมื่น บดขยี้ทัพเรือนแสนพินาศ ชาวอาหรับนับล้านคนถูกสังหารล้างเผ่าพันธุ์ ณ ดินแดนมาตุภูมิของตนเอง ชาวยุโรปที่หาญกล้าถูกกองทัพรูปเกือกม้าย่ำยีฆ่าฟันแทบสิ้นชาติ เหลือแค่กรุงโรมเท่านั้นที่มิได้ถูกเจงกิสข่าน มหาจักรพรรดิพระองค์เดียวที่เกือบพิชิตดินแดนอารยธรรมไว้ได้ทั้งโลก เพราะตอนนั้นกำลังเดินทางจะไปตี แต่ดันมีปัญหาภายในซะก่อน จึงต้องกลับไปสะสาง ซึ่งหากไม่มีปัญหาซะก่อน โรมก็คงไม่เหลือเช่นกัน เพราะโรมในสมัยนั้น ถึงจะแข็งแกร่งที่สุดในยุโรป แต่ก็ไม่ได้เทียบเท่าในสมัยของ อเล็กซานเดอร์มหาราช แต่มองโกลก็ไม่ได้กำชัยชนะทุกครั้งไป เท่าที่ผมจำได้ก็มีครั้งนึง เมื่อกองทัพเรือสำเภามองโกลที่เพิ่งยึดจีนได้สำเร็จกว่า 7000 ลำ บรรทุกทหารผสมที่ยิ่งใหญ่ของมองโกลกว่าแสนคนบุกไปที่เกาะญี่ปุ่น กลับถูกโคตรพายุ "กามิกาเซ่" ซัดโถมกระหน่ำจนหายจมไปกับมหาสมุทรซะเกือบหมด เวรกรรม -*-" จากคุณ : EastCoast - [ 19 ธ.ค. 49 18:12:29 ]

ความคิดเห็นที่ 38 "กามิกาเซ่" นี่เรือเต่าเกาหลีไม่ใช่เหรอครับ รู้สึกว่าทัพมามองโกล ปะทะกับทัพอริหร่านแล้วเอาชนะไม่ได้ไม่ใช่เหรอครับ จากคุณ : XXX - [ 19 ธ.ค. 49 22:17:58 A:202.57.179.79 X: TicketID:104524 ]

ความคิดเห็นที่ 39 โรม ตอนนั้นบทบาทไม่มีแล้วครับสมัยมองโกล เหลืออีกเพียบที่ยังไม่โดนถล่ม เรื่องโรมันโดนบุก จนล่มสลายนี่ สมัยก่อนมองโกลหลายร้อยปี มีชนเผ่าตระกูลเดียวกับมองโกล คือพวกฮัน ชนเผ่ายอดนักรบบนหลังม้า ถล่มยุโรปตะวันออกซะราบ โรมันเกือบล่ม ต่อมาผสมกับชาวยุโรปไปเป็นบรรพบุรุษของพวกฮังการี มองโกเลีย เป็น มองโกลลอยด์แท้ๆนะ วิทยาการล้ำสมัยสุดยอดของมองโกล ได้จากเผ่าที่ตัวเองยึดมาทั้งนั้น ทั้งต้าซ้อง กิมก๊ก พวกเปอร์เซีย เคยอ่านดูอีกว่า คนตะวันออกกลาง8% มีเชื่อสายมองโกลอยู่ในDNA มาจากสมัยมองโกลบุกยึด ข่มขืนชาวบ้าน จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน - [ 19 ธ.ค. 49 22:38:34 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เข้ามาดู จากคุณ : PiGsPy - [ 20 ธ.ค. 49 23:12:25 ]