Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    10 อันดับอาหารขายดีที่อันตราย !!!{แตกประเด็นจาก X5012963}

    คนอเมริกันถูกบอมบ์ด้วยโฆษณาทางทีวีอย่างหนักทุกวัน  จนรู้สึกดีกับอาหารที่ทำลายสุขภาพ ถ้าท่านหลีกเลี่ยง ที่จะไม่บริโภคสินค้าจำพวกเนื้อ นม และเบเกอรี่ รวมถึงสินค้าบริโภคที่ผ่านกระบวนการผลิตแบบสำเร็จรูป ท่านจะมีสุขภาพดีขึ้นอีกมาก  ดังนั้นลองมาพิจารณาถึงส่วนประกอบที่มีอยู่ในอาหาร 10 อันดับยอดนิยมที่อันตรายต่อสุขภาพกันดูบ้าง

    1. แฮมเบอร์เกอร์

    จัดเป็นอาหารประเภทที่ “มีความเสี่ยงสูง” เพราะมีมาตรฐานด้านสุขภาพต่ำ จากการที่มีการทำกันมาขายเป็นอุตสาหกรรม   แฮมเบอร์เกอร์ ทำมาจากเนื้อส่วนที่เหลือที่แย่ที่สุดจากโรงฆ่าสัตว์ เนื้อส่วนใดที่ขายเป็นส่วนของมันไม่ได้แล้วจะกองอยู่ที่พื้น และนำมาบดทำเป็นแฮมเบอร์เกอร์

    เพราะว่าเบอร์เกอร์ทั้งหมดทำจากสัตว์ จึงสามารถขึ้นป้ายว่า เนื้อวัวแท้ (PURE BEEF)   เวลาที่สูญเสียไประหว่างรอกระบวนการนำเนื้อมาใช้ปรุง ทำให้มีแบคทีเรียเกิดขึ้นได้สูง ทำให้จำเป็นต้องมีการใช้สารเคมีมาช่วย เนื้อแดงที่กำลังจะเน่าเสีย จะเปลี่ยนเป็นเขียว จึงต้องใช้สารเคมีสีแดงย้อมทำให้เนื้อดูสด แฮมเบอร์เกอร์ส่วนใหญ่จะย้อมด้วยสารเคมีสีแดง ยกเว้นแต่จะทำด้วยกรรมวิธีอื่นๆ

    แฮมเบอร์ทั้งหมดจะใส่สารปรุงรส (MSG : MONOSODIUM GLUTAMATE) ทำให้ปวดศีรษะและเกิดอาการแพ้  MSG เป็นสารเคมีที่ห้องปฏิบัติการทดลองใช้ช่วยทำให้สัตว์อ้วนขึ้น และท้ายที่สุดก็ทำให้ท่านอ้วนขึ้นด้วย   อุตสาหกรรมปศุสัตว์ เป็นผู้ใช้ยาปฏิชีวนะมากที่สุดในโลกเพื่อใช้ทำลายแบคทีเรียที่เป็นอันตรายในเนื้อ นี่คือสาเหตุว่าทำไมคนอเมริกันถึงได้ดื้อยาปฏิชีวนะ   แฮมเบอร์เกอร์ทำให้เกิดโรค E-COLI ที่ต้องทำการรักษา มากกว่าโรคที่เกิดจากอาหารชนิดอื่น   แฮมเบอร์เกอร์เป็นอาหารยิ่งใหญ่รายการเดียวที่ทำให้เกิดความเสียหายและก่อความทุกข์ให้กับอาหารของอเมริกัน บริการอาหารได้นับพันล้านชุด  ค่าหมอและค่าโรงพยาบาลรักษานับพันล้านเหรียญ   ฮอร์โมนที่ใช้ฉีดวัวควาย ทำให้ท่านอ้วนขึ้น หากท่านบริโภคเนื้อเหล่านั้น   เบอร์เกอร์คิงซ้อนหลายชั้น ชุดพิเศษ จะให้พลังงาน 1,150 แคลลอรี่ และไขมันรวม 76 กรัม เป็นไขมันอิ่มตัว 33 กรัม  และเกลือโซเดียมอีก 1,530 ม.ก. ซึ่งเบอร์เกอร์ส่วนใหญ่จะมีเกลือโซเดียมอยู่ 1,090 ม.ก. (เท่ากับ 45% ของปริมาณที่กำหนดให้ใช้ในแต่ละวัน) ทำให้ร่างกายขาดน้ำได้   เครื่องปรุงรสของเบอร์เกอร์ พริก กะหล่ำปลี มะเขือเทศ ล้วนใช้สารก่อมะเร็งจากเกลือเคมีกำมะถัน เพื่อควบคุมความสดของผัก

    2. ฮอทด็อก

    จัดเป็นอาหารประเภทที่ “มีความเสี่ยงสูง”  เพราะมีมาตรฐานด้านสุขอนามัยต่ำ จากการทำกันมาขายเป็นอุตสาหกรรม   เวลาที่สูญเสียไปในระหว่างรอกระบวนการนำเนื้อมาใช้ปรุง ทำให้มีแบคทีเรียเกิดขึ้นได้สูง ทำให้จำเป็นต้องมีการใช้สารเคมีมาช่วยกำจัด   ฮอทด็อกทำมาจากเนื้อส่วนที่เหลือที่แย่ที่สุดจากโรงฆ่าสัตว์ รวมทั้งกีบ กระดูก จมูก สันจมูก เล็บ และส่วนอื่นๆ ของมัน เพราะว่าฮอทด็อกทั้งหมดทำมาจากสัตว์ จึงสามารถขึ้นป้ายว่า  เนื้อวัวแท้  (PURE BEEF) หรือทำจากไก่งวงแท้ 100%   ฮอทด็อกทั้งหมดจะใส่สารปรุงรส (MSG : MONOSODIUM GLUTAMATE) ทำให้ปวดศีรษะและเกิดอาการแพ้  MSG เป็นสารเคมีที่ห้องปฏิบัติการทดลองใช้ช่วยทำให้สัตว์อ้วนขึ้น และท้ายที่สุดก็ทำให้ท่านอ้วนขึ้นด้วย   ฮอทด็อกจะใส่สารไนเตรท ซึ่งเชื่อกันว่า เป็นสารที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งในกระเพาะอาหาร มะเร็งในเม็ดเลือด เนื้องอกในสมอง และมะเร็งในกระเพาะปัสสาวะ    สารเติมช่วยทำให้เนื้อยืดตัว และช่วยเติมไส้กรอกให้เต็ม อาจเป็นจำพวกธัญญาหาร  อาจเป็นนมผงพร่องมันเนย ถั่วเหลือง หรือสารอย่างอื่นก็ได้ ทำให้เพิ่มจำนวนคาร์โบไฮเดรต และกระบวนการในการผลิต    ถุงหลอดที่ใช้บรรจุฮอทด็อกทำจากคอลลาเจลสังเคราะห์ ที่เป็นสารก่อให้เกิดมะเร็งได้สูง   มีไขมันที่เป็นสารประกอบไม่เปิดเผยอยู่ประมาณ 40%     เมื่อนำไปปิ้งย่างมันจะทำให้สารพิษร้ายแรงที่ชื่อว่า อะคริลิไมต์ (ACRYLIMIDES)  ออกมา ซึ่งรู้จักกันดีว่า เป็นสารก่อมะเร็งและทำลายปราสาท

    3. เฟร้นซ์ฟราย มันฝรั่งทอด

    เป็นอาหารที่มี “ความเป็นพิษสูง” การทอดเฟร้นซ์ฟราย จะทอดกันที่อุณหภูมิสูง ทำให้สารเคมี อะคริลิไมต์  (ACRYLIMIDES)  ออกมา ซึ่งรู้จักกันดีว่าเป็นสารก่อมะเร็ง และทำลายปราสาท      น้ำมันที่ใช้ในการทอดมันฝรั่งในแต่ละครั้ง จะเกิดออกซิไดซ์ และใช้ทอดกันหลายรอบนานหลายสัปดาห์   มันฝรั่งมีดรรชนี กลีซิมิค (GLYCEMIC) อยู่สูงมาก นั่นหมายถึง มันเปลี่ยนให้กลายเป็นน้ำตาลภายในร่างกายได้เร็วมาก การรับประทานมันฝรั่งปิ้งหนึ่งหัว (หรือเฟร้นซ์ฟรายในปริมาณเทียบเท่ากัน) จะมีปริมาณน้ำตาลเท่ากับรับประทานเค้กช็อคโกเล็ตชิ้นโตๆทีเดียว

    4. ออริโอคุ๊กกี้

    คุ๊กกี้ที่ขายดีอันดับหนึ่งของประเทศสหรัฐอเมริกา (ขนาด 6 ชิ้น     ขนาดในการบริโภคต่อครั้ง) ที่เด่นชัดมาก็คือ สัดส่วนของน้ำตาลมีอยู่สูงถึง 23 กรัมเลยทีเดียว ให้พลังงาน 370 แคลลอรี่ เทียบได้เท่ากับการรับประทานเนื้ออกของไก่ 2 ชิ้น แต่แทบจะไม่มีสารประกอบของอาหารที่ให้พลังงานอยู่เลย   คุ๊กกี้ 6  ชิ้นจะมีไขมันอยู่ 12 กรัม ไขมันอิ่มตัว 2.5 กรัม คุ๊กกี้ แค่ 6 ชิ้น มีจำนวนคาร์โบไฮเดรตอยู่มากกว่า 50% ของที่แนะนำให้บริโภคต่อวันเสียอีก ออริโอคุ๊กกี้ จะเพิ่มความกระหายน้ำตาลให้ท่านได้มากยิ่งขึ้นภายใน 3 ชั่วโมงเท่านั้น   กลิ่นรสธรรมชาติที่ระบุไว้นั้น เป็นสารเคมีจากทางโรงงานที่ทำให้ออริโอมีรสชาติยังกับคุกกี้ช็อคโกเล็ต จากกระบวนการผลิตชั้นสูง ที่ทำให้ออริโอคุ๊กกี้ได้กลิ่นรสที่ไม่ได้เป็นมาจากธรรมชาติเหล่านั้นที่ไม่มีอะไรเลย นอกจากสารเคมีที่ก่อเกิดโรคมะเร็ง   บริษัท นาบิสโก ได้ปฏิเสธที่จะเปิดเผยจำนวนไขมันที่แปรเปลี่ยนว่า มีอยู่เป็นจำนวนเท่าไหร่ เพียงแต่บอกว่ามีอยู่ในปริมาณที่ยอมรับได้สำหรับอาหารในประเภทนี้   น้ำตาลปริมาณสูงทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่นและเกิดริ้วรอยได้เร็วยิ่งขึ้น

    5. พิซซ่า

    พิซซ่าในเชิงทางการค้าจะประกอบไปด้วย อาหารที่มาจากการตัดแต่งทางพันธุกรรม 5 ชนิด 1. เนยแท้ (CHEESE) เพียง 10% เท่านั้น ที่ไม่ควรจะเรียกว่าเนยแท้ได้เลย   2. แป้งที่ผ่านการปรุงแต่งให้ขาว ที่ได้ทำการฟอกสี ทำให้วิตามินและเกลือแร่ออกไปแล้ว แต่ได้ทำการเติมเกลือแร่สังเคราะห์ตามจำนวนโมเลกุลที่มันเคยมีอยู่เข้าไปใหม่   3. ซอสมะเขือเทศ ทำด้วยสารที่คล้ายมะเขือเทศ ที่สร้างยาฆ่าแมลงของมันขึ้นมาได้เองในร่างกายของท่าน   4. แป้งสาลีที่นำมาใช้เป็นแป้งชนิดที่มีการตัดแต่งทางพันธุกรรม   5. มีน้ำมันฝ้ายประกอบอยู่ด้วย ฝ้ายไม่ได้จัดเป็นพืชจำพวกอาหาร มันผ่านการสเปรย์ด้วยยาฆ่าแมลงที่ชาวไร่ใช้ในฝ้าย เมล็ดจะเป็นตัวดูดเอาสารพิษต่างๆไว้ได้มากที่สุด กระทรวงเกษตร และกระทรวงสาธารณสุขต่างก็ไม่ให้ความร่วมมือซึ่งกันและกัน ที่จะรับรองว่ามันปลอดภัยต่อการบริโภคได้หรือไม่ มันไม่ได้ช่วยทำให้สุขภาพดีขึ้น แต่มันเป็นน้ำมันไฮโดรจีเนต และมีอันตรายต่อสุขภาพของท่านเป็นอย่างยิ่ง   ผิวหน้าแป้งพิซซ่าที่อบปิ้งในอุณหภูมิสูง อาจจะมีสารเคมีอะคริลิไมต์ (ACRYLIMIDES) เกิดขึ้น ซึ่งรู้จักกันดีว่า เป็นสารก่อมะเร็งและทำลายปราสาทได้   การเพิ่มหน้าพิซซ่า เพ็พเปอโรนี หรือเพิ่มหน้าไส้กรอกทำให้มีความเสี่ยงสูงจากไนเตรทสารกันบูดและสารเคมีอื่นๆ รวมทั้งไขมันอิ่มตัว ที่มีการเติมเข้าไปจากโรงงาน

    จากคุณ : นาซ่าโพส - [ 2 ม.ค. 50 19:24:02 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom